ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Recruit]รับสมัครตัวละครนิยายScifi-แนวโรงเรียน

    ลำดับตอนที่ #11 : [Teaser]1st oneshot : Unveiled

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 57



    เป็นวันช็อทที่จัดว่ายาว
    สัญญานะว่า
    จะไม่เปลี่ยนจาก "เหยื่อผู้โชคร้าย"เป็นสมควรแล้วหรืออะไรที่แรงกว่านั้น


    Unveiled

     

     

    “ถ้าเธอยังคิดจะกำจัดเขา บางทีเราอาจจะต้องแตกกัน”ฉันพูดกับเธออย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่เรายืนประจัญหน้ากันผ่านกระจกห้องน้ำหญิง ดวงตามาดร้ายที่กรีดอายไลน์เนอร์คมกริบสะท้อนมองฉันคล้ายจะกรีดลึกลงไปข้างในตัวตนที่ดำมืดพอๆกัน ฉันมองเธอผ่านเลนส์สีฟ้าใสที่ชอบใส่เป็นประจำ บันทึกสีหน้าและท่าทางของเธอไว้อย่างละเอียดยิบราวกับสมองของตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์

    “ฉันเคยคิดว่าเรามีจุดหมายเดียวกัน”สุดท้ายเธอก็เลี่ยงการสบสายตากับฉัน ก้มหน้าลงใช้สายน้ำเย็นสาดลงบนใบหน้าของตนเอง “ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้วใช่มั้ย”

    “ไม่” ถ้าฉันบอกว่าไม่ มันย่อมหมายความว่าไม่จริงๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฎิเสธคนอื่นโดยต้องปฎิเสธความต้องการของตนเองไปพร้อมๆกัน การทำแบบนั้นมันไร้สาระสิ้นดี “ จุดหมายของฉันคือการยุติเกมฆาตกรให้เร็วที่สุด ฉันไม่เหมือนเธอ”

    “อะไรคือไม่เหมือน”เธอเงยหน้าขึ้นจากอ่างล้างหน้า เปลี่ยนเป็นยืนหันหลังพิงเคานท์เตอร์ ถ้าไม่ใช่เพราะเลี่ยงการเผชิญหน้าก็คงแค่เมื่อยล่ะมั้ง

                “เธออาจจะลากใครมาเป็นฆาตกรก็ได้ ขณะที่ฉันต้องการรู้ความจริง”

    หทัยภัทรแค่นเสียงหึในลำคอ “ความจริงของเธอกับฉันไม่เหมือนกัน ขอเตือนให้เดินออกจากฉันไปตั้งแต่วินาทีนี้หากเธอไม่อยากมือเปื้อนเลือด”

    “ขอเตือนให้เธอหยุดสิ่งที่กำลังจะทำซะ”ฉันพูดแทรกอย่างรวดเร็ว “เพราะฉันไม่รู้ว่าจะทนเห็นเธอเดินไปบนทางสายนี้ได้นานอีกสักเท่าไหร่”

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหมดความอดทนเมื่อไหร่

    “อย่าบีบให้ต้องฉันต้องพูดมันออกมา”

     

     

    ย้อนกลับไปวันที่เรายังมีจุดประสงค์ร่วมกัน เธอเป็นคนโน้มน้าวเก่ง ขณะที่ฉันก็เชื่อคนง่าย ไม่ได้เรียกว่าจิตใจดี อาจจะเหมือนเชื่องด้วยซ้ำไป

    หทัยภัทรบอกให้ฉันสั่งโกโก้ปั่นสองแก้ว เมื่อเธอกับแมทธิวมาถึง ธุระสำคัญจะถูกเจรจา

    เธอบอกว่าเธอต้องการตัวเขา การเป็นคนที่เก่งเหนือคนอื่นในภาคทำให้เขาเป็นหมากที่เหมาะสมแก่การดึงเข้ามาเป็นพวก ฉันสนใจในตัวเขามาสักพัก ไม่ใช่เพราะรูปร่างที่เตะตาสาวๆทั่วไป แต่เพราะบุคลิกที่อยู่เหนือโลก เขานับเป็นบุคคลที่ใครๆก็ต้องการ ไม่ว่าจะต้องการเพื่อจุดประสงค์ใด

    “ไม่หวานนะคะ เสร็จแล้วคิดเงินที่เพื่อนค่ะ เดี๋ยวเธอก็มา” ฉันสั่งพนักงานคาเฟ่ด้วยเสียงเบาบวกกับท่าทีขวยเขินเล็กน้อย การเข้าหาผู้ชายด้วยเทคนิคเล็กๆไม่ใช่เรื่องไร้สาระ มันใช้ได้ผลดีเลยทีเดียว เมื่อฉันเห็นว่าบาริสต้าหนุ่มอมยิ้มพร้อมหน้าแดง ฉันจึงโปรยยิ้มบางๆให้เขา หันหลังเดินกลับมานั่งอยู่มุมหนึ่งที่ทำให้เห็นความเป็นไปของโต๊ะข้างกระจกทุกอย่าง

    ฉันเฝ้ามองหทัยภัทรและแมทธิวคุยกัน ได้ยินทุกประโยค ทุกคำพูด ทุกเสียงหายใจ

    “… นายก็รู้ว่าใครทำให้จีนี่ฆ่าตัวตาย”

    ประเด็นที่ทำให้เธออยากลุกขึ้นมาสร้างฆาตกรคือการที่เธอเข้าใจว่าเพื่อนร่วมชั้นปีคนหนึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนสนิทของเธอฆ่าตัวตาย เธอไม่ลังเลเลยที่จะอธิบายถึงสมมติฐานของตน ซึ่งแมทธิวดูจะเป็นฝ่ายเทศน์เธอเสียมากกว่ายอมรับฟังความคิดเห็นนั้นของเธอ เขาไม่ใส่จุดประสงค์ของเธอเลยเสียด้วยซ้ำ นั่นคงทำให้เธอเสียศูนย์ไม่เบา

    แต่ที่หนักกว่านั้นคือตัวการที่หทัยภัทรแค้นนักหนาเดินเข้ามาในคาเฟ่อย่างประจวบเหมาะพอดี ลัสเตียนมาพร้อมกับรุ่นพี่ปีสามที่ฉันเหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี พี่กันต์เป็นหัวหน้าฝ่ายระเบียบวินัยที่คงจะถูกยัดเยียดตำแหน่งให้ เสื้อที่หลุดลุ่ยออกนอกกางเกง กับประโยคปลอบโยนน้องปีหนึ่งเวลาโดนตำหนิเรื่องทรงผมทำให้เขาดูไม่เข้ากับปลอกแขนสีแดงบนไหล่ซ้าย ทั้งคู่ไม่สังเกตเห็นฉัน และเลือกที่นั่งติดกันกับอีกคู่ที่กำลังเข้าสู่บทสนทนาเชิงปรัชญา

    แมทธิวเดินจากไปโดยทิ้งความผิดหวังไว้ที่โต๊ะ ฉันเห็นหทัยภัทรกำหมัดของเธอแน่น

                จากนั่นแก้วโกโก้ปั่นถูกเทลงบนผมสีดำเข้มของลัสเตียน

                “น้องใหม่”รุ่นพี่ปีสามได้แต่ร้องเรียกชื่อเธอ เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ฉันเห็นมือของลัสเตียนรั้งพี่กันต์ไว้แน่น เขายอมให้หทัยภัทร รินของเหลวปริมาตรเศษสามในสี่แก้วรดเสื้อเชิ้ตและสูท

                ฉันไม่รู้ว่าทำไม เขายิ้มด้วยซ้ำ ยิ้มของเขาเป็นยิ้มที่น่ารำคาญในสายตาฉันเสมอมา พอๆกับตัวตนของเขา คนที่เหยียดยิ้มเหมือนคนอื่นเป็นแมลงตัวเล็กๆใต้พื้นรองเท้าไม่ใช่คนที่น่าคบเท่าไหร่หรอกใช่มั้ย ภายนอกของเขาเหมือนผู้ชายอ่อนโยน ที่พยายามห่อหุ้มเปลือกแข็งของตัวเองด้วยพฤติกรรมดูถูกคนทั้งโลก นั่นหมายความว่าภายในของเขาคงอ่อนแอไม่เบา ฉันไม่เคยรู้สึกว่าเขาน่ากลัว

                แต่เขาทำให้คนที่ต่อกรด้วยอกแตกตายได้เพียงแค่ยิ้มเดียว

                ดวงตากลมโตไม่เหลือบมองหทัยภัทรแม้แต่เศษตา “จะพอได้รึยัง”

    เพื่อนสาวของฉันปาแก้วกระดาษลงพื้น ฉันเดาว่ามือที่กำหมัดแน่นคงอยากจะสั่งสอนอะไรสักอย่างลงบนใบหน้ากลมนั่น อาจจะตบหรือชก

    ลัสเตียนรั้งมือหนึ่งของเธอไว้ได้ทัน เขาใช้มือที่แข็งแรงกว่าจิกทึ้งผมสีดำของเธอไว้ในอุ้งมือ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดานสีขาวสะอาดของคาเฟ่

    ไม่มีใครวุ่นวาย อาจจะแค่เหลือบมอง แต่ไม่มีใครเลยที่กล้าสอดมือเข้ามายุ่งกับสองคนนี้ แม้แต่ผู้จัดการร้านที่กำลังชงกาแฟอยู่ตรงเคานท์เตอร์ หรือแม้แต่รุ่นพี่กันต์ เขาสงบนิ่งอย่างที่ฉันคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

    “ไอ้ฆาตกร”

    ลัสเตียนเพิ่มแรงจิกลงบนผมของเธอ ข้อมือที่เกร็งจนขาวของเขาทำให้เจ้าของผมเจ็บจนแทบน้ำตาร่วงเลยทีเดียว

    “อย่าซัดทอดความผิดของเพื่อนเธอให้คนอื่น”

    “จีนี่ไม่ผิด แกต่างหากที่ฆ่าเขา”

    ริมฝีปากอิ่มของลัสเตียนหัวเราะร่วน “เหรอ ฉันไม่ได้จับเพื่อนเธอแขวนกับระเบียงซะหน่อย”

    จริงของเขา

    “แต่สิ่งที่แกพูดทำให้จีนี่เครียด แกก็รู้ว่าเธอซึมเศร้าอยู่”

    เขากลอกตามองไปทั่ว ไม่ต้องสังเกตให้ละเอียดก็รู้ว่าลัสเตียนไม่แคร์เธอพอๆกับที่แมทธิวไม่ใส่ใจเธอนั่นแหละ ฉันเวทนาเพื่อนสาวของฉันอยู่ในใจเงียบๆ

    “ถ้าไม่ใช่อาจารย์ก็อย่าริมาสอนฉัน ฉันมีสมอง แยกแยะได้และคิดเองเป็น”

    ว่าแล้วเขาก็เหวี่ยงร่างของเธอลงกับพื้น ก่อนจะเดินข้ามตัวเธอไป

    “อ้อ” ก่อนจะตรงไปที่ห้องน้ำ เขาเขี่ยสูทเลอะคราบสีน้ำตาลออกจากไหล่ ให้มันทิ้งตัวลงบนหทัยภัทร “ฉันรู้ดีว่าจิตซึมเศร้าคือะไร ไม่แน่ว่าตอนนี้จีนี่อาจจะขอบคุณฉันอยู่ก็ได้นะ ที่ฉันไม่คอยเอาแต่เฟคใส่เหมือนอย่างที่เธอกำลังทำอยู่”

    ฉันพนันได้เลยว่าตอนนี้หัวใจของเพื่อนฉันยับเยินยิ่งกว่าสารรูปของเธอในตอนนี้เสียอีก




    จบแค่นี้ก่อน ถ้าลงตอนต่อไม่ต้องเขียนนิยายแล้ว
    ดราม่าเกิ๊น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×