คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 14 : ของขวัญวัน...อะไร?
Chapter15
บนเตียงว่างเปล่า…
ผมพลิกตัวอย่างเกียจคร้านบนที่นอน ห้องนอนสีเทาแสนสงบมีเพียงผมกับเสียงครางงึมๆของเครื่องฟอกอากาศ พื้นที่ข้างตัวเป็นเพียงอากาศชื้น แต่ผ้าปูเตียงยังคงอุ่นๆอยู่
ท่าทางเจ้าตัวเล็กของผมคงจะวนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละ
“เฮ้ เลห์นินเจอร์ ตื่นแล้วเหรอ…”…เรียกซะเต็มยศเลยทีเดียว ผมเกาคอเดินไปหาดราม่าที่กำลังอ่านหนังสือจิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์บนโต๊ะ นั่งเบลอๆอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา
กาแฟอะไรเนี่ย หอมมากเลย
“ตื่นแล้วเหรอฮะ นึกว่าไม่ปลุกจะไม่ตื่นซะอีก”เจ้าตัวเล็กยกแก้วมีหูสีขาวใบโปรดของผม เอามันมากระแทกวางบนโต๊ะตรงหน้า กาแฟดีแคฟร้อนจัดข้างในจึงหกออกมาเลอะเต็มโต๊ะ บางส่วนก็กระเด็นโดนแขนจนผมถึงกับสะดุ้งไม่เป็นท่า
“ไอ้หยา…เมื่อคืนมีอะไรกันรึเปล่าเนี่ย”ดราม่าขมวดคิ้วมองลอดแว่นทรงวินเทจสลับระหว่างผมกับเจ้าฮาโล เหมือนสุนัขตำรวจที่ได้กลิ่นเรื่องประหลาดๆจากรอบบริเวณเกิดเหตุ
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ…”
ว่าแล้วฮาโลก็เดินหน้าแดงกลับไปทำอาหารเช้าต่อ กระแทกตะหลิวกับกระทะปึงปังตลอดจนผมกับดราม่าหันมามองหน้ากัน เจ้ายักษ์เนิร์ดยังคงพยายามถามย้ำด้วยสายตาว่า เมื่อคืนไม่มีเรื่องอะไรแน่เหรอ…กระทะทะลุแล้วมั้งน่ะ
“บอกว่าไม่มีก็ไม่มีไงเล่า”
ผมมองภาพวาดบนผนังห้อง ภาพจิ๊กซอว์9000ชิ้นที่ผมต่อสำเร็จเป็นครั้งแรกตอนอายุสิบสี่ปี ตอนที่ผมเริ่มใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่อังกฤษ มันเป็นภาพของทหารเรือกำลังคอยลาดตะเวนอยู่เหนือท้องน้ำสีหม่น เหนือหัวพวกเขาเป็นท้องฟ้าที่มีการรบพุ่งของสงครามหนึ่งในยุคนโปเลียน จิ๊กซอว์ชุดนี้เป็นของขวัญที่คุณอาส่งมาให้เป็นของขวัญวันเกิด และก็รู้สึกจะเป็นของขวัญชิ้นเดียวสำหรับปีนั้นด้วย
ท้องน้ำทะเลมืดมิด บางครั้ง…
มันก็ทำให้ผมนึกถึงแววตาหม่นหมองของใครบางคน
“บอสฮะ บอสใจลอยอยู่เหรอ”
ผมยังไม่ละสายตาจากจิ๊กซอว์ความยาวสองเมตรคูณเมตรครึ่ง “ผมตั้งใจเหม่อตะหากเล่า…มีอะไรรึเปล่าแอล”
“คิดถึงคุณฮาโลอยู่รึเปล่าครับ …อ้าวไม่ตอบ แสดงว่าผมเดาถูกน่ะสิ”
ผมหันไปค้อนลี่เสวียน นี่เขามาเป็นพยาธิอยู่ในท้องผมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
“ผมแค่จะบอกว่า ผมหาที่พักให้คุณดราม่าได้แล้วนะ เค้าฝากมาถามว่า เมื่อคืนคุณกับคุณฮาโลมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ฝากย้ำด้วยว่า …จริงจังนะ”
เปล่า ไม่มีอะไรซักหน่อย
“แล้วบอสหน้าแดงทำไมอ่ะ…”ตาสีดำคมกริบจ้องกลับมาที่ผมคล้ายจะจับผิด “…อ้า นึกออกแล้วล่ะ เซอร์ไพรส์วันเกิดที่บอสตั้งใจจะทำให้คุณฮาโลแล้วก็…อื้ม ล้มเหลวไม่เป็นท่าสินะ ไปแก้ตัวมายังไงบอกผมได้มั้ยฮะบอส”
เซอร์ไพรส์งั้นเหรอ อ่า…ห่างไกลอยู่โขเลย
“นายเข้าใจผิดแล้วล่ะแอล จริงๆแล้วน่ะนะ…”
ว่าแล้วผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้หมด เลขามากความสามารถตั้งใจฟังราวกับเป็นเรื่องสำคัญของตัวเอง ยิ่งผมเล่า หน้าผมก็ยิ่งดูห่อเหี่ยวลงเรื่อยๆ ในขณะที่เขายิ้มเหมือนผู้มีชัย ทำไมล่ะ เยาะเย้ยผมรึไง
“เดี๋ยวมือโปรอย่างผมจัดการให้เอง บอสไปลากตัวคุณฮาโลมาให้ได้แล้วกัน เอาล่ะ ผมอนุญาตให้เลิกงานก่อนเวลา…หลังจากเซ็นเอกสารเรื่องรูเล็ตต์เสร็จแล้วน่ะนะ”
นี่ผมตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ฮาโลหรือแอลคิดจะเซอร์ไพรส์ให้ผมตกใจตายล่ะเนี่ย
ทีแรก ผมตั้งใจว่าผมจะจัดงานวันเกิดให้ฮาโลที่บ้านใหญ่ หรือว่าบ้านของตระกูลน่ะแหละ อยู่ในเขตคนรวย เงียบสงบ วิวสวย มองเห็นทะเล เป็นที่ๆเราเติบโตด้วยกันมาตอนเด็ก ผมคิดว่าถ้าผมพาเขาไปที่นั่น จัดงานเล็กๆเงียบๆกันสองคน มันก็คงจะดีไม่น้อย
แต่ทุกอย่างมันก็ตาลปัตรเพราะยัยตัวแสบจีเซล
ไม่สิ …. มันเป็นเพราะผมต่างหาก
ผมรู้ว่าเธอต้องพาแพททริคไปเดินเล่นที่ถนนดวงดาวเป็นประจำ ผมก็เลยจะขอกุญแจบ้านใหญ่จากเธอ แล้วก็ขับรถพาฮาโลไปที่นั่น แกล้งทำเป็นลืมวันเกิด แล้วก็ค่อยเซอร์ไพรส์เขา
ผมคือคนที่ควรถูกตำหนิที่สุดสินะ…
ใบหน้าซีดเซียวเปื้อนน้ำตาที่ช้อนมองผมอย่างลำบากใจในวันนั้น…
ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเจ็บ ผมรู้ตัวดี…แล้วผมก็ไม่สามารถปกป้องเขาได้ คงเป็นเพราะผมมันอัตรายเกินไป งานที่ผมทำมันนำพาเรื่องร้ายๆสู่คนรอบตัวได้ตลอด แต่ในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง ผมก็ยังอยากทำอะไรดีๆให้เขาบ้างแม้จะไม่รู้ว่าต้องทำยังไง อยากทำให้เขายิ้ม อยากทำให้เขาเป็นฮาโลผู้สดใสเหมือนที่เขาเคยเป็น
“ฮาโล คืนนี้ไปไหว้บรรพชนกัน”
เมื่อเปิดห้องเข้าไป ก็พบคนตัวเล็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่กับดราม่า ทั้งสองคนสนิทสนมกันมากจนผมชักไม่แน่ในว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของบ้าน แล้วใครกันแน่ที่เป็นสามี
เจ้าของตาสีน้ำทะเลเอียงคอมองอย่างแปลกใจ “นี่ก็เย็นมากแล้วนะฮะ”
“อยากไปข้างนอกสักหน่อยมั้ยล่ะ ไม่แน่ว่าพี่ใหญ่อาจจะกลับมาแล้ว”
คราวนี้เขากระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ เหมือนจะลืมไปว่าตัวเองเอ็นข้อเท้าบาดเจ็บอยู่ เขาก็เลยเซไปทางด้านขวา ดีที่ผมรับไว้ได้ทัน มือเล็กคว้าตัวผมเอาไว้ตามสัญชาติญาณของคนล้ม ภาพที่ออกมาก็คงเหมือนกับเรากอดกันอยู่
“ระวังหน่อยซี่…”ผมก้มลงกระซิบเสียงเบา คนตัวเล็กหลุบตาลง ใบหูบางเป็นสีแดงจัด
ดราม่ามองที่เราสองคน ยิ้มซื่อๆ เขาเก็บหนังสือใส่กระเป๋า ลุกขึ้นจากโซฟาทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง คล้ายกับไม่อยากรบกวนผมกับฮาโล
“จะไปแล้วเหรอครับ กลับดีๆนะ”
“อืม เห็นแอลบอกว่าหาที่พักให้ได้แล้ว มีปัญหาอะไรยังไงก็บอกได้นะ ไว้เจอกันใหม่ล่ะ”
เจ้ายักษ์เอ๋อดราม่าทำหน้าแปลกๆ แต่แล้วก็โบกมือลาพวกผม
“ไว้มาใหม่วันหลังนะ จะเอาหนังสือทำอาหารมาฝากฮาโลด้วยคราวหน้าน่ะ…”เขาไม่ลืมยิ้มกว้างให้กับฮาโลก่อนปิดประตู “เห็นยุงกัดที่หลังคอฮาโลด้วย เลห์เอายาทาให้น้องหน่อยนะ”
คนในอ้อมกอดผมทำหน้าแดง ตบตีเป็นการใหญ่
ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราหึหึอยู่ในใจ
อยู่ในฮ่องกง มีรถสักคันจะว่าสบายก็เรื่องหนึ่ง แต่ปวดหัวหาที่จอดมันก็เป็นเรื่องใหญ่กว่า
“เพิ่งรู้นะว่ามีรถขับกับเขาด้วย”
ผมส่ายหน้า นี่รถของป๊าต่างหากเล่า เจ้าเบนซ์สีดำสุดหรูสองประตูคลาสแกรนด์ทัวร์เรอร์ ราคาเกือบสองแสนเหรียญนี่คงต้องทำงานอีกสองสามปีเลยแหละ กว่าจะซื้อไหว
“บ้านรวยนะเรา”ฮาโลเอามือลูบตัวรถ ดวงตาสีเขียวสวยมองอย่างรู้สึกตื่นเต้น
“คิดว่าบ้านพี่จนรึไง พ่อพี่พอมีเงินอยู่บ้างแหละน่า ถึงจะไม่เยอะเท่าพี่ใหญ่ก็เถอะ ขึ้นรถเร็ว…”
เด็กหนุ่มเปิดประตูกัลวิงสุดอลังอย่างคล่องแคล่ว เมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสารแอร์เย็นฉ่ำก็บ่นนิดๆหน่อยๆ “ยังสู้เมย์บัคที่อิตาลีไม่ได้ … แต่ข้างในกว้างดีนะ ผมชอบ”
“คุณยายแก่เหนียงยานปานนั้นยังจะขี่เมย์บัค?”
ฮาโลยิ้มเยาะ เป็นรอยยิ้มบริสุทธิ์ที่ดูน่ารักกว่าทุกที “คิดว่าเอาไว้ให้ใครขับล่ะ ขาไปพี่ขับ ขากลับผมขอขับนะ อยากรู้ว่าจะเร็วขนาดไหน”
ด่านแรกของการเซอร์ไพรส์เป็นไปอย่างราบรื่น แอลบอกว่า แค่ผมพาฮาโลมาถึงบ้านในสภาพอารมณ์ดี เขารับรองว่างานเซอร์ไพรส์สำเร็จ100% แน่นอน ตอนนี้ผมเชื่อว่าเจ้าเด็กสุดแสบที่นั่งอยู่บนเบาะหนังถัดจากผมคงอารมณ์ดีเกินร้อยเพราะเจ้าเบนซ์ SLS AMG ที่ผมเอามาอวด เด็กผู้ชายคนไหนไม่ชอบรถสวยๆก็ให้มันรู้ไปสิ
น่าเสียดาย รถมันแรงไปหน่อย ผมเลยมีเวลานั่งฟังฮาโลฮัมเพลงเบาๆแค่ไม่กี่นาที พอเลี้ยวรถเข้าบ้านใหญ่ เราก็เห็นพี่ใหญ่ยืนรออยู่ที่ประตูบ้าน กระตุกยิ้มมุมปากให้พวกเราทั้งคู่
“พี่จ๋า กอดหน่อยสิ”เขารีบวิ่งกะเผลกๆไปหาพี่ฮาซันที่อ้าแขนอุ้มน้องชายขึ้นมากอด เฮียตบไหล่ผมเบาๆ สั่งให้คนใช้เอารถไปเก็บให้
“พี่ชาย ฮาโลคิดถึงจังเลย”
ฮาโลแปลงร่างเป็นลูกแมวขี้อ้อนทันทีที่ได้เจอพี่ชายผู้แก่กว่ากันถึงสิบปี บางครั้งเฮียก็ทำตัวเหมือนเป็นพ่อให้กับฮาโล มากกว่าจะเป็นพี่ชายที่หวงน้องยิ่งกว่าอะไร เด็กแสบออดอ้อนพี่ใหญ่อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะทำตาลุกวาว วิ่งมาหาผมที่นั่งพักเหนื่อยอยู่บนโซฟา
“พี่บอกให้ไปที่หาด เร็วๆด้วย”
ไม่พูดเปล่า ฮาโลดึงตัวผม พาเดินออกไปทางด้านหลังบ้าน ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดหมายของพวกเราคือแสงไฟสว่างที่ชายหาดหลังบ้านนั่นเอง
ตอนที่พวกเราเด็กๆ ชายหาดหลังบ้านเป็นที่โปรดของผมกับฮาโล เราชอบเล่นทรายกันจนเนื้อตัวสกปรก ก่อปราสาททรายสีสวย ไม่ก็ไล่เก็บเปลือกหอยสวยๆที่ถูกซัดมาเกยหาด ปล่อยให้ลมเย็นๆพัดหน้า พอเหนื่อยก็หลับอยู่ใต้ต้นสนทะเล
ผมมองหน้าฮาโล เขาดูย้อนกลับไปเหมือนอย่างที่ผมอยากให้เป็น
ใบหน้าสวยประดับรอยยิ้มกว้าง ตาสีเขียวน้ำทะเลเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข
ใต้ต้นสนโบราณ มีเต้นท์ชั่วคราวตั้งอยู่ แอลกำลังเตรียมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ที่โต๊ะ พี่ใหญ่ช่วยย่างบาร์บีคิว ส่วนเจ้าเมซ เพื่อนสนิทที่สุดของผมกำลังทดสอบเปียโนไฟฟ้าที่ตั้งอยู่กลางงาน
“เฮ้ย ไอ้เลห์…ไม่ได้เจอกันโคตรนานเลยนะเฟร้ย”
ผมกระโดดกอดเมซ หมอนี่ไม่ใช่คนในบ้านแต่ก็โตมาในบ้านหลังนี้เหมือนกัน ไม่ได้เป็นพี่น้องแต่ก็เป็นยิ่งกว่าพี่น้องซะอีก ได้ข่าวว่าหมอนี่ไปงานแต่งผมด้วย(และก็เอาสาวๆไปด้วย) แต่น่าเสียดายที่ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอหมอนี่เลยเพราะงานยุ่งบวกกับอะไรหลายๆอย่าง
“ฉันเตรียมเพลงมาเล่นเพียบเลย อ้อ เริ่มด้วยเพลงนี้สินะ”
คุณชายผู้อัจฉริยะทางด้านดนตรีจรดนิ้วลงบนแป้นคีย์ ค่อยๆบรรเลงเพลงหวานๆเข้ากับบรรยากาศเงียบสงบของท้องทะเลและหาดทรายสวย จากนั้นจึงเข้าสู่เพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทำนองพิเศษที่เหมือนจะแต่งมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ เป็นทำนองที่ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ฟังดูสนุกๆ ทำให้งานดูสดใส
เจ้าของงานวันเกิดย้อนหลังยิ้มกว้าง
“ไหนบอกจะพามาไหว้บรรพบุรุษไง พี่ชายโกหก…”
ถ้าไม่โกหกแล้วจะได้เซอร์ไพรส์มั้ยล่ะ
“ยังมีอีกนะ”
ผมจูงมือฮาโล เดินไปตามชายหาด ห่างจากเต้นท์มาราวๆห้าสิบเมตร บริเวณนี้ค่อนข้างมืด แต่ไม่มากพอเป็นอันตรายกับเราสองคน
มองท้องฟ้าสิ ผมกระซิบข้างหูฮาโล
ปุ…ปัง…ปัง..
ท้องฟ้ามืดสนิทประดับด้วยแสงงดงามจากพลุสีสันละลานตา มันแตกกระจายเป็นดอกไม้นับสิบๆดอกท่ามกลางฟ้าไร้ดาว ก่อนจะโปรยลงมาคล้ายกับฝนดาวตก พลุฉลองวันเกิดถูกจุดอย่างต่อเนื่องราวสิบกว่านาที เปลี่ยนให้เหนือท้องทะเลเงียบกลายเป็นกระจกเงาสะท้อนแสงสีงดงาม
ใครบางคนโอบกอดผมจากด้านหลัง
มือเล็กๆกุมมือของผมไว้เบาๆ
“พลุสวยจังเลย”
กลุ่มผมนุ่มนิ่มวางลงบนลาดไหล่ผม เสียงของเขาดังอยู่ข้างหู ค่อยๆซึมลึกเข้าสู่ส่วนลึกสุดในใจของผม
“ขอบคุณนะฮะ พี่ชายคนดี…”
ผมกับพี่ใหญ่นั่งจิบเครื่องดื่มที่แอลชง มีฮาโลนั่งมองอยู่ไม่วางตา
“ฮาโลอยากกินบ้าง นะ…นะ พี่ใหญ่นะ”เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่ยังไม่พ้นวัยดื่มเหล้าได้กอดแขนเฮียฮาซันแล้วเขย่าไปมา ตาสีเขียวมองอย่างอ้อนวอน
“สิบแปดก่อนแล้วค่อยมาพูดเรื่องเหล้า…แอล ขอแบบเดิมอีกแก้ว”
ถึงพี่ใหญ่จะดุอย่างไร น้องชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเขาก็ยังไม่ย่อท้อ ทั้งกอด ทั้งอ้อน งัดมาสารพัด จนเมื่อพี่ใหญ่กรึ่มๆเพราะแอลกอฮอล์ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปซะมากแล้ว มาดดุๆของคุณชายใหญ่ตระกูลหลิน จึงกลายเป็นมาดอบอุ่นแบบป๊ะป๋าแทน
“ฮาโล เหล้าไม่ดีต่อสุขภาพนะ …โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้ หอบหืด พักผ่อนไม่เพียงพอ”
ผมแทบพ่นแจ็คแดเนียลออกทางจมูก นั่นไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงของฮาโลแล้วครับเฮีย
“ก็ฮาโลจะกิน เอามาเลยแก้วนึง”
แอลทำหน้าเจื่อนๆ เขย่าแก้วเชคในมือไปมาโดยทำเป็นไม่สนใจฮาโล
“ไม่ได้!”
“ไม่รู้ล่ะ”
เจ้าเด็กแสบคว้าแก้วที่เพิ่งเต็มปรี่ด้วยคอกเทลสูตรพิเศษ เขาไม่ลังเลรีบเทมันลงคอ จนวอดก้าฤทธิ์แรงเข้าไปแทนที่อยู่ในกระเพราะของคนตัวเล็ก
“ฮาโล คายออกมานะ”
ผมกับเพื่อนเมซมองหน้ากัน เฮียครับ …ฮาโลอายุสิบเจ็ดเพิ่งดื่มเหล้าเข้าไป ไม่ใช่อมตุ๊กตาพลาสติกเข้าคอ จะได้คายออกมาได้
พอเฮียฮาซันของพวกเราทำท่าจะอุ้มฮาโลขึ้นมาเขย่าๆเหมือนช่วยชีวิตคนจมน้ำ นั่นหมายถึงว่าผมกับเจ้าเมซต้องแยกพี่ใหญ่ที่กำลังเมาออกจากน้องชายของเขาที่เริ่มจะเมาแล้วเช่นกัน
“คุณฮาซัน ผมว่าคุณยังไม่เมาเท่าไหร่เลยนะ”แอลประชดเสียงนิ่ง ลากคอคุณชายใหญ่กลับไปที่บ้าน ส่วนผม พยายามลากเจ้าตัวเล็กให้ออกห่างจากเครื่องดื่มฤทธิ์แรง
“ขออีกแก้ว นี่แค่โคล่า”
เขายกแก้วร็อคขึ้นจรดปาก เทของเหลวข้างในลงคอตามไปอีก เจ้าเมซหัวเราะหึหึ โบกมือไล่เป็นเชิงให้ผมรีบๆลากฮาโลกลับขึ้นบ้านเป็นการด่วน
“ได้ข่าวว่านั่นมัน … แจ็คแอนด์โค้กนี่”
ผมส่ายหน้า
“โค้กน่ะแก้วก่อนหน้า อันนี้เพียวๆเลย”
เมื่อหันกลับไปมองเจ้าตัวเล็กอีกที เขาก็ฟุบลงมาบนตัวผมซะแล้ว
“พี่ชาย … ขึ้นเตียงกันเถอะ”
งานท่วมหัว นั่งทำเคสด้วยใจร่มๆ
เขียนไปเขียนมา พิมพ์ไปพิมพ์มา
เอ๊ะ R นี่ย่อมาจาก Resistanceนี่หว่า
เอิ่ม ท่าทางเราจะติดเชื่อดื้อยาเข้าแล้วล่ะ
ถ้าไม่ตายเพราะงานทับ ก็เพราะติดเชื้อในปอดนั่นแล
เอวังด้วยประการไร้สาระฉะนี้
เมื่อเด็กน้อยหน้าสวยเมาในอ้อมกอด แถมชวนขึ้นเตียง
>>>>> คุณจะทำอย่างไร
a เผด็จศึก
b โยนทิ้งไว้แถวนั้น
หรือไม่มีข้อใดถูก !!!!!!
ความคิดเห็น