คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
Moscow State University; 17:00 PM
หลังห้องพักหมายเลข 303 อาจารย์ร่างท้วมกำลังเก็บเอกสารใส่กระเป๋าหนังจระเข้ใบเก่า ไม่สิ…อาจจะต้องเรียกอากัปกิริยานั้นว่ายัด เสียน่าจะเหมาะกว่า ชายผู้มีผมสีขาวและหนวดเคราสีเดียวกันถอดเสื้อกาวน์แขวนไว้บนพนักเก้าอี้ ขณะที่อีกมือหนึ่งตรวจดูความเรียบร้อยภายในกระเป๋า เมื่อทุกอย่างพร้อม เขาจึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องพักของตน จุดหมายก็คือสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด
อากาศในกรุงมอสโก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จัดได้ว่าหนาว โดยเฉพาะกับชายชาวอเมริกันผู้จากบ้านมานานกว่าสามสิบปี เขาเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาชีวโมเลกุล คณะชีววิทยา งานประจำวันของเขาไม่มีอะไรมากกว่าการสอนวิชาชีววิทยาพื้นฐานให้กับเด็กนักศึกษาหน้าใหม่ที่มักจะลงเรียนและดร็อปหนีกว่าปีละ 30% ไม่ใช่เพราะเนื้อหาของวิชาที่ยากเย็นแสนเข็น ทว่ามาจากสำเนียงบ้านเกิดที่ต่อให้ผ่านมาสักกี่ฤดูหนาว ลิ้นของเขาก็ยังไม่ชินกับภาษารัสเซียสักที
ถ้าเพียงแต่เขาจะมีโอกาสได้กลับอเมริกา
“ด็อกเตอร์มัลคอมน์ ด็อกเตอร์ครับ… ” ขณะกำลังจะก้าวเท้าลงบันไดสถานี เสื้อโค้ตตัวหนาถูกฉุดไว้ด้วยมือปริศนาคู่หนึ่ง เมื่อเขาเอี้ยวหน้ามองจึงพบกับนักศึกษาหนุ่มร่างผอมสูงเจ้าของดวงตาสีฟ้าแจ่ม ยืนหอบหายใจอยู่เบื้องหลัง แก้มของเขาแดงเรื่อคงไม่ใช่เพราะหิมะกัด แต่คงเพราะวิ่งตามมาตั้งแต่อยู่ในเขตของมหาวิยาลัย “ระ … รายงานการวิจัย …เรื่อง วงแหวน อโรมาติกครับ”
ผู้เป็นอาจารย์รับปึกกระดาษสีเหลืองไว้ก่อนจะรีบเร่งเดินลงสู่ชานชาลาอย่างรวดเร็ว เหมือนจะได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อของตนอีกครั้ง แต่เขาไม่มีเวลาใส่ใจกับนักศึกษาที่ส่งรายงานช้า แค่รับไว้ก็นับว่าใจดีมากเกินพอเสียแล้ว เมื่อหาที่นั่งเหมาะๆได้ ด็อกเตอร์จึงสอดปึกกระดาษลงในช่องด้านหน้าสุดของกระเป๋า และหันไปสนใจกับเอกสารเก่าเก็บที่ยับยู่ยี่เล็กน้อยเพราะความรีบร้อนของตน
ด้านหน้าของทุกชุดเอกสารมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ และตัวเลขขนาดใหญ่ระบุวันเดือนปีไว้ด้วยหมึกสีแดง ดูโดดเด่นแม้เวลาจะล่วงเลยมากกว่า18ปีนับตั้งแต่เขาเป็นผู้ประทับตราลงบนเอกสารลับเฉพาะเหล่านี้ เมื่อพลิกหน้ากระดาษแต่ละหน้า เรื่องราวในอดีตอันแสนเลวร้ายจะย้อนกลับมา ทำให้เขาต้องสั่นศีรษะเร็วๆเพื่อหวังจะให้ความทรงจำบ้าบอหลุดออกจากสมอง
ภาพของเด็กแต่ละคนยังไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา รูปถ่ายของเด็กน้อยวัยแบเบาะที่มุมซ้ายของกระดาษช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจนอดไม่ได้ที่จะลูบลงบนใบหน้ากลม กรอบด้านล่างมีชื่อและวันเดือนปีเกิดของเด็กคนนี้ ระบุว่านี่คืออเล็คซานเดอร์ การทดลองหมายเลข 233
ถ้าเด็กคนนี้ยังอยู่ ป่านนี้คงจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วกระมัง
อาจารย์คิดกับตัวเองอย่างรู้สึกโหวงวูบในใจ เมื่อเขาพลิกกระดาษอีกหลายหน้าถัดไปจึงพบกับทารกอีกคน เขามีใบหน้าละม้ายคล้ายกับเด็กคนแรก และคล้ายกันกับเด็กคนอื่นๆในรายงาน เว้นเสียแต่รอยยิ้มน่าเอ็นดู กับดวงตาสีฟ้าสดใสราวกับท้องฟ้าในฤดูร้อน
นิ้วมือที่ปรากฏบาดแผลจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์พับเอกสารเก่ากรอบเป็นสองท่อน เอกสารส่งเสียงกรอบแกรบเหมือนใบไม้ที่ถูกขยำ แต่ถึงแม้มันจะฉีก ขาด เสียหายอย่างไรก็ไม่สำคัญ งานที่ถูกละเลยมานานแสนนาน ซ้ำยังเป็นงานวิจัยที่สังเวยเด็กไปนับร้อยคน สมควรแล้วที่เขาจะนำไปทำลายทิ้ง
อีกนานพอควรกว่ารถไฟจะไปยังจุดหมาย และเนื่องจากไม่อาจข่มตาหลับลงได้ เขาจึงหยิบรายงานวิชาเคมีมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา
เดี๋ยวก่อนนะ … เขาเป็นอาจารย์สอนวิชาชีววิทยาไม่ใช่หรือ แล้ววงแหวนอโรมาติกนี่เกี่ยวข้องกับวิชาพื้นฐานของเขาตรงไหนมิทราบ เมื่อพลิกหน้ากระดาษภาษาอังกฤษสองสามหน้าแรก เขาก็พบว่ามันเป็นต้นฉบับของรายงานวิจัยเก่า
… ที่เขาเป็นผู้เขียนขึ้นมาเอง
เนื้อหาก็ไม่ต่างจากที่เขาเคยร่างขึ้นในหัวเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้เข้าสอนในมหาวิทยาลัย เมื่อครั้งที่เขาเคยทำการทดลองให้กับองค์กรลับ…
ผมรู้นะว่าคุณเป็นใคร
ปากกาสีแดงเข้มเขียนข้อความภาษาอังกฤษทับตารางแสดงผลวิจัยของสารกลุ่มตัวอย่าง ลายมือที่เป็นระเบียบ บรรจง ช่างแตกต่างกับสีสันของหมึก รวมทั้งข้อความที่คล้ายจะหยั่งเชิง และคล้ายกับว่ากำลังท้าทายเขาอยู่ในที
ทำไมเด็กคนนั้นถึงมีรายงานฉบับนี้ จริงอยู่ที่จะปริ้นท์จากกูเกิ้ลก็ได้ แต่ดูจากเนื้อกระดาษแล้ว นี่คงจะเป็นรายงานที่พิมพ์เมื่อสิบแปดปีก่อนไม่ผิดแน่ แล้วทำไมเด็กคนนั้นถึงต้องทำแบบนี้ เขาเป็นนักศึกษาวิชาชีวะที่ดร็อปไปเมื่อเทอมก่อนหรือ หรือแท้จริงแล้วเขาสืบรู้เรื่องอะไรมา
เขาฉีกกระดาษสีเหลืองเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ของผู้คนบนรถไฟ
แคว่ก…!
ทุกการกระทำของเขา สีหน้า และท่าทางหวาดระแวงยามเหยียบย่ำลงบนเศษกระดาษ ได้ถูกบันทึกผ่านม่านตาสีฟ้าสดใสของเด็กหนุ่มนักศึกษา ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน
ความคิดเห็น