ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Cuz' This is Love [Yunjae][Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] ::Recognize You:: -YoonhoJaejoong- [00.5] - you are wrong -

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 56



    Author: ::recognize you::

    Author: nam-ji

    Pairing: Yoonho-Jaejoong/Changmin-Yuchun

    Genre: AU, Melodrama,mpreg

    Rate: PG-13

     

    [00.5]

    you are wrong

     

     

    เป็นเวลาสองสัปดาห์แล้วหลังจากครั้งสุดท้ายที่เขาโทรหาแจจุงเพื่อถามถึงความเป็นไปของเจ้าตัวหลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากทางนั้นอีก

    ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีข้อความ หรือแม้แต่ข้าวกล่องที่ร่างบางๆนั่นชอบทำแล้วเอาไปให้เขาถึงบริษัทแม้ทุกครั้งเขาจะจงใจติดประชุมอยู่จนแจจุงต้องฝากไว้กับเลขาแล้วกลับออกไปแบบไม่ได้เจอหน้าเขาก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการเงียบหายไปเฉยๆแบบนี้ของแจจุงทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจจนเกินทน จนในที่สุดความกระวนกระวายใจก็ชนะและนำให้วันนี้เขามาที่นี่ คอนโดที่แจจุงอาศัยอยู่

    ไฟหน้าห้องสว่างวาบด้วยระบบเซนเซอร์อย่างที่มีอยู่ทุกห้องในที่พักสุดหรูแห่งนี้ตอนที่ยุนโฮเดินมาหยุดยืนหน้าห้องหมายเลข9095ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นกดออด รอเพียงไม่นานก็ปรากฏร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเปิดประตูออกมา แจจุงนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะทำหน้าประหลาดใจ

    “คุณเองหรอ”และไม่รอให้เขาได้ตอบคำถาม”เข้ามาก่อนสิ”

    ร่างสูงในชุดสูทสุดหรูสีดำคอลเลกชั่นใหม่ของห้องเสื้อระดับโลกอาร์มานี่ก้าวเดินตามหลังแจจุงอย่างสงบแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาบุนวมอย่างดีสไตล์ยุโรปอย่างอดรู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปเล็กๆของแจจุงไม่ได้ แจจุงไม่ได้วิ่งเข้ามากอดเขาเหมือนอย่างทุกครั้งทีเขาปรากฏตัวอยู่หน้าประตูนี่ ไม่มีรอยยิ้มหวานๆรวมถึงเสียงออดอ้อนฉอเลาะที่บ่งบอกให้รู้ว่าดีใจแค่ไหนที่เขามาหาเหมือนอย่างเคย ที่เจ้าตัวทำมีแค่เดินมาส่งเขาไว้ตรงโซฟานี่ก่อนจะเดินหายเข้าห้องนอนไป

    คงรีบไปแต่งตัว

    คิดอย่างไม่ใส่ใจมากนักพลางเอื้อมมือไปหยิบรีโมทคอนโทรที่วางอยู่ข้างๆกับแก้วนมและหนังสือนิตยสารลูกรักรายสัปดาห์ที่แจจุงคงจะอ่านทิ้งไว้  เขาเหลือบมองหน้าเด็กน้อยที่ยิ้มแป้นให้กล้องอย่างผิวเผินก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ในโทรทัศน์ต่อ

    “คุณกินอะไรมาหรือยัง”เป็นเสียงแจจุงนั่นเองที่ดังลอดมาจากห้องนอน บานประตูเปิดแง้มๆไว้เล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะลอดผ่านแค่ส่วนหัวออกมา

    “ก็รองท้องมาบ้างนิดหน่อย”ยุนโฮตอบทั้งๆที่ไม่ได้ละสายตาจากจอทีวี

    “เอาไงดีล่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมาเลยไม่ได้ทำอะไรเผื่อไว้ด้วยสิ”

    “ไม่เป็นไรหรอก ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”แจจุงพยักหน้าก่อนจะผลุบหน้าหายเข้าไปหลังบานประตู รอเพียงไม่นานนักประตูก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างขาวๆในชุดนอนยาวเพียงขา และผ้าขนหนูสีขาวที่พาดผ่านคอระไว้กับเส้นผมที่ยังคมเปียกน้ำอยู่

    ร่างนั้นเดินผ่านโซฟาตัวยาวที่ยุนโฮนั่งอยู่ก่อนจะทรุดลงนั่งบนเก้าอี้เล็กที่เข้าคู่กันที่ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งเหมือนจงใจเลี่ยง ยุนโฮมองตามร่างนั้นไปอย่างอดจะรู้สึกให้แปลกใจไม่ได้กับการกระทำที่ดูเหมือนจะแปลกไป

    “ว่าแต่มีธุระอะไรล่ะ”เป็นแจจุงที่เอ่ยปากถามก่อน

    “เดี๋ยวนี้ผมมาหาคุณต้องมีธุระด้วยหรอ”

    “ก็ไม่รู้นี่ ปกติก็ไม่เห็นมานี่นา”พูดเรื่อยๆเหมือนไม่สนใจแต่ถ้อยคำเหล่านั้นกับบาดลงใจของคนฟังแบบที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง ยุนโฮหันมองคนที่กำลังหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอีกครั้งด้วยแววตาครุ่นคิด

    “เขาเป็นยังไงบ้าง”

    “ก็ดีแข็งแรงดี เพื่อนคุณไม่ได้รายงานให้ฟังหรอ”

    “ไม่เอาน่า ผมอุตส่าห์มาหาคุณ อย่าชวนผมทะเลาะได้มั้ย”

    “ฉันไปชวนคุณทะเลาะตั้งแต่เมื่อไหร่”หันมาค้อนขวับให้ชายหนุ่มดอกหนุ่มก่อนจะเบ้ปากตามนิสัยแล้วก้มลงไปอ่านหนังสือในมืออีกครั้ง คิ้วบางแอบกระตุกกับคำว่าอุตส่าห์

    ลำบากมากทีหลังไม่ต้องมาก็ได้นะ

    “เอาน่าๆ มานี่ดีกว่า เดี๋ยวผมเช็ดหัวให้”เขาว่าพลางลุกขึ้นจากโซฟา ขายาวเดินไปหยุดหน้าเก้าอี้ตัวที่แจจุงนั่งอยู่ หยิบหนังสือที่อยู่บนตักออกก่อนจะค่อยๆจับจูงให้ลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับมานั่งยังโซฟาตัวเดิมที่เขาเพิ่งลุกมา เพียงแต่ตอนนี้มีคนร่างบางนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง นิ้วยาวสวยได้รูปที่แจจุงเคยหลงรักค่อยๆหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาจากบ่าพลางซับหยดน้ำออกจากเส้นผมอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล

    แจจุงหลุบตาลงต่ำ เม้มปากอย่างอ่อนใจ

    แบบนี้ทุกทีเลย

    “จริงๆคุณไม่น่ารีบเลยนะ ควรจะเป่าผมให้แห้งก่อนสิ ออกมาทั้งๆที่ผมยังไม่แห้งแบบนี้ ถ้าไม่สบายไปแล้วจะแย่เอา”บ่นไปเรื่อยในขณะที่ยังคงตั้งอกตั้งใจเช็ดผมให้ร่างบางๆ “แล้วถ้าไม่สบาย เขาก็จะแย่ไปด้วยนะอย่าลืมสิ คุณต้องดูแลตัวเองให้มากๆเข้าใจมั้ย”

    “อืม ฉันรู้”

    “เสร็จเรียบร้อยแล้ว”ยุนโฮหยิบผ้าขนหนูออกไปพาดบนพนักโซฟา แล้วปล่อยให้แจจุงเอนตัวลงมาพิงกับเขาแทน

    “ทำไมล่ะยุนโฮ ทำไมคุณต้องคอยบอกให้ฉันดูแลตัวเอง ทำไมไม่เป็นคุณล่ะที่คอยมาดูแลฉัน”

    เขาถอนหายใจเหมือนกับทุกครั้งที่แจจุงเริ่มต้นพูดเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าคนตรงหน้านี่จะไม่ยอมเข้าใจว่าเขาไม่สามารถทำอะไรเหมือนเดิมได้แล้ว เขามีภรรยาที่รออยู่ที่บ้านที่ต้องกลับไปดูแล มีครอบครัว

    ลืมอะไรไปหรือเปล่าชองยุนโฮ

    “ทำไมล่ะ ทำไมต้องถอนหายใจด้วย ทำไมต้องทำแบบนี้ เขาที่คุณเรียกอยู่นี่เป็นลูกคุณนะยุนโฮ”

    “ผมว่าเราคุยกันเรื่องนี้รู้เรื่องแล้วนะ”

    “คุณรู้เรื่องอยู่คนเดียวน่ะสิ”แจจุงผลุดลุกจากแผ่นอกของเขา ใบหน้างามในยามนี้แลดูเกรี้ยวกราดยิ่งนัก เขาควรจะรู้สึกขอบคุณแจจุงหรือเปล่านะที่ทำให้เขาระลึกได้ว่าเพราะอะไรเขาจึงไม่ค่อยมาหาร่างบางนี่ เพราะแจจุงเป็นแบบนี้ไง ชอบที่จะโวยวายโดยไม่ฟังอะไร เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ไงที่ทำให้เขารู้สึกว่าการคุยกับแจจุงนี่มันช่างยากเหลือเกิน

    “ถ้ายังไม่ฟังผมจะกลับแล้วนะ”ยกไม้ตายที่ทุกครั้งใช้ได้ผลขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มมีปากเสียงกับแจจุงแค่เขาเอ่ยเพียงว่าจะกลับ แจจุงก็จะหยุดทะเลาะกับเขาและกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยๆทันที  แต่ทว่า วันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อคราวนี้แจจุงกลับเป็นคนผลักเขาออกมา

    “กลับไปเลย ไปแล้วไม่ต้องมาอีกนะ”

    ยุนโฮจ้องแจจุงราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขากระพริบตาตอนที่แจจุงเริ่มหันมาเกรี้ยวกราดใส่

    “พอแล้วฉันจะไม่ทนอีกแล้ว”

    “คุณเป็นอะไรไป”

    “เป็นแบบที่ฉันควรจะเป็นมานานแล้วไง”

    “คุณ…….

    “ไปสิอยากทำอะไรก็ทำอยากจะกลับไปหานังนั่นก็ไป”สายตาของแจจุงเปลี่ยนไปจากทุกที คราวนี้มันดูโกรธเกรี้ยวมากกว่าทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ไม่เคยมีเลยซักครั้งที่แจจุงจะเป็นฝ่ายผลักไสเขา ความเป็นจริงข้อนี้ทำให้ยุนโฮอดรู้สึกแปลกใจอีกครั้งไม่ได้ “ออกไป ออกไปสิ”

    แล้วตอนนี้เขาก็มายืนอยู่หน้าประตูของห้องหมายเลข9095อีกครั้งเหมือนตอนที่เขาเดินเข้ามา ไฟหน้าห้องสว่างอีกครั้งผิดเพียงคราวนี้เขากำลังจะก้าวเดินออกไป ในขณะที่ยุนโฮจับลูกบิดประตูแล้วก้าวเท้าเดินออกจากห้องเสียงระฆังจากนาฬิกาโบราณเรือนหรูดังบอกเวลาเที่ยงคืนดังขึ้นมาว่า *ผิด* เขากำลังครุ่นคิดถึงแววตาและคำพูดรวมถึงท่าทางทีแปลกไปของแจจุงสายตาแจจุงดูแข็งกร้าวกว่าเดิมทว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร *ผิด*ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เขาก็มั่นใจว่าในที่สุดแจจุงก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในวันพรุ่งนี้เหมือนทุกครั้งที่ทะเลาะกัน *ผิด* แม้ว่าทุกครั้งที่ได้ยินเสียงระฆังยุนโฮก็รู้สึกเหมือนกับสิ่งที่กำลังทำและกำลังคิดมัน *ผิด ผิด ผิด*  

    และในขณะที่ยุนโฮกำลังเกินก้าวเข้าลิฟไปเสียงระฆังก็ดังขึ้นอีกครั้งราวกับเสียงระฆังบอกเวลาในวันคริสมาสที่จะแจ้งข่าวให้แก่คนที่ได้ยินมัน

    ยินดีด้วย คุณเสียคิมแจจุงไปแล้ว

    TBC

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×