คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 。 Just so you know - s i x
。 Just so you know แค่รู้ว่ารัก :: - chanbaek
#จซยนครวร
ตอนที่ 6 ♥
P a r t : B a e k h y u n
ในเวลาค่ำคืนพระอาทิตย์ล่วงลับหายไป แบคฮยอนกับชานยอลนั้นกำลังเดินกลับบ้านด้วยกันหลังจากที่ได้ไปเที่ยวใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันในวันเปิดเทอมวันแรกของพวกเขา
“ โอ้ยยย ให้ตายเหอะเพราะนายแท้ๆ ชานยอล ฉันเมื่อยขาไปหมดเลย “
ผมพูดบ่นๆให้คนที่เดินอยู่ข้างๆได้ยิน
“ ….. “
คนที่อยู่ข้างๆผมไม่ตอบอะไร หยุดยืนนิ่งเฉยๆมองไปบนท้องฟ้าไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผมพูดเลย ผมเลยต้องหยุดเดินและมองไปบนท้องฟ้าตามที่ชานยอลมอง
ว้าววว....ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่ายามฟ้ามืดดาวจะสวยมากขนาดนี้ เปล่าหรอก....เพราะผมไม่เคยสนใจดาวเลยต่างหากล่ะ ผมคิดว่ามันค่อนข้างจะไร้สาระที่เราจะต้องไปคอยดูดาวเฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไร
หมอนั่นยืนดูอยู่แป๊บนึง แสงยามค่ำคืนที่ส่องลงมาที่ตัวของหมอนั่น ผมสีทองที่เป็นประกายสะท้อนกับไฟสลัวยามค่ำคืนนั่น ดูดีชะมัดเลย....(เอ๊ะ? -___- ) แต่ทำไมหมอนั่นถึงให้ความสนใจกับดาวจังนะ มันก็แค่ดาวนิ จะดูตอนไหนก็ได้ยามค่ำคืน
“ มองฉันทำไม.....หลงรักฉันแล้วล่ะสิ “ หมอนั่นละสายตาจากดวงดาวบนท้องฟ้ก่อนจะหันหน้ามาพูดกับผมแล้วยิ้มกริ่ม
“ จะบ้าหรอใครจะไปชอบนายกันล่ะ ทำไมชอบพูดจาไรหลงตัวเองอยู่เรื่อย “ ผมรีบเรียกสติตัวเองกลับคืนมา ก่อนจะตอบหมอนั่นไป ทำไมถึงชอบหลงตัวเองอยู่เรื่อย ไอ้หูกางเอ้ย คิดว่าตัวเองหล่อมากหรือไง.......
เออ ก็หล่อจริงล่ะ.......ผมคิดในใจ ถึงจะหน้าตาหล่อ หน้าตาดีก็เหอะแต่ก็ใช่ว่าผมจะต้องไปหลงรักหรือชอบหมอนั่นซะหน่อย
“ หรอ ฮ่าๆๆๆ งั้นกลับบ้านกันต่อเถอะ “ หมอนั่นหัวเราะเบาๆ ผมเงยหน้ามองดูดวงดาวบนท้องฟ้าก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วหันกลับมาเดินต่อ
ระหว่างเดินทางกลับบ้านนั้นผมกับหมอนั่นไม่ได้คุยอะไรกันเลย ไม่มีใครเริ่มพูดก่อน มันอึดอัดจริงๆ ไม่ชอบเลยทำไมหมอนั่นไม่พูดล่ะ ปกติเห็นพูดมากจะตาย ผมไม่ชินเอาซะเลยเวลาหมอนั่นทำตัวเงียบๆ จะว่าไปตอนหมอนั่นเงียบๆนี่ไม่ยิ้มไม่พูดอะไรนี่น่ากลัวชะมัด ปกติเห็นจะยิ้มและพูดมากตลอดเวลา
“ นี่นาย.... “ เสียงของผมแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ผมทนกับความเงียบและความน่ากลัวของหมอนั่นไม่ได้เลยตัดสินใจเป็นคนทักหมอนั่นไปก่อน
“ อะไร? “ หมอนั่นตอบก่อนหันหน้ามายักคิ้วสงสัยใส่ผม
“ ทำไมจู่ๆนายก็เงียบไปล่ะ “
“ เปล่าวซะหน่อย อ๊ะ นั่นไงถึงบ้านละ “ นายนั่นหันมาตอบผมก่อนจะเงยหน้ามองบ้านที่จะถึงอยู่ตรงหน้า
“เฮ้....ห้องนายมีระเบียงยื่นออกมาด้วยหรอ “ หมอนั่นถาม ชี้นิ้วไปตรงห้องของผม
“ อือ....ใช่ ห้องฉันติดกับระเบียง ตอนเช้าๆก็ออกมาสูดอากาศได้ “
ผมตอบกลับไปพลางเดินเข้าบ้านไม่ได้สนใจอะไร ผมเดินขึ้นไปบนบ้าน เข้าห้องของตัวเองแล้ววางกระเป๋านักเรียนลงบนเตียงก่อนล้มตัวนอนลง วันนี้เหนื่อยชะมัด ล้าไปทั้งตัวเลย ผมคิด พลางยกมือขึ้นนวดตามตัว
สักพักผมก็ไปอาบน้ำ และกลับมายังห้องเช็ดผมให้แห้งแล้วปิดไฟล้มลงเตียงคลุมโปรงนอน
ก๊อก ก๊อก
“ ใคร.... “ ผมขานถามออกไปแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา....
“ ใครน่ะ ฉันถาม “
ผมตะโกนถามไปอีกที แต่ก็เหมือนเดิม......มีแต่ความเงียบที่ตอบกลับมา ผมรวบรวมความกล้าลุกขึ้นจากเตียงเปิดไฟแล้วค่อยๆหันลูกบิดประตูแล้วเปิดประตูออกอย่างช้าๆ ผมค่อยโผล่หน้าออกไปมองข้างนอกว่าใครมาเคาะประตู
“ แบร่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “
“ เหย!!!!!!! “
“ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “
ผมลืมตามาอีกทีก็พบว่าตัวเองนั่งลงอยู่กับพื้นแล้วมีคนตัวสูงตรงหน้ายืนมองผมแล้วหัวเราะออกมาอย่างเสียงดัง ให้ตายเหอะ ไอ้หูกางมันแกล้งผมอีกแล้ว เมื่อตอนที่เดินกลับบ้านยังเงียบๆทำหน้านิ่งจ๋อยเหมือนหมาหิวอยู่เลย
“ นี่!!! ไอ้หูกาง แกล้งกันแบบนี้ตลกมากปะ?!! “ ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนชี้หน้าตะคอกใส่คนตรงหน้าที่เอาแต่ยืนมือกุมท้องหัวเราะไม่หยุด
“ ฮ่าๆๆๆๆ ใช่ ตลกมาก ฮ่าๆๆๆๆๆ “ คนตรงหน้าหัวเราะไม่หยุด แถมยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง
“ เฮ้อออ ฉันล่ะขี้เกียจพูดกับนายละ กลับห้องไปได้แล้ว ฉันจะนอนพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน “ ผมว่าก่อนโบกมือไล่เบาๆ
“ ฉันนอนไม่หลับ ฉันยังหลงเวลาอยู่ “
“ แล้วไง? “
“ อยากดูดาว “
ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดต่อนายนั่นก็เข้ามาในห้องผมโดยที่ยังไม่ขออนุญาตจาผม แต่ผมก็ปล่อยให้นายนั่นเข้ามาไม่ได้ห้ามอะไร เพราะเมื่อตอนหัวค่ำเห็นจากสีหน้านายนั่นตอนเงียบขรึม ดูป็นคนน่าสงสารชะมัด คยองซูเคยบอกผมว่า
‘ คนที่ร่าเริงยิ้มแจ่มใส คนที่ใครอยู่ด้วยแล้วก็มีความสุข ตอนที่คนนั้นเศร้า คนนั้นจะน่าสงสารมากที่สุด ’
ผมว่าที่คยองซูพูดมาเป็นความจริงล่ะ เมื่อตอนหัวค่ำชานยอลน่าสงสารมากจริงๆ หรือเพราะว่าผมไม่ชินกับมุมๆนี้ของนายนั่น
“ ระเบียงนายอยู่ตรงไหนหรอ แบคฮยอน “
นายนั่นมองไปรอบๆห้องก่อนจะหันมาถามผม ผมเลยชี้ไปตรงระเบียงที่มีผ้าม่านปิดไว้อยู่ ระเบียงผมอยู่ใกล้ๆกับเตียง ถ้าจะดูดาวจริงๆไม่ต้องออกไปนอกระเบียงก็ได้ แค่เปิดผ้าม่านออกก็นอนดูดาวได้แล้ว ชานยอลเดินไปตามที่นิ้วแบคฮยอนชี้ ชานยอลเปิดผ้าม่านออกมาก็พบว่ามีประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่อยู่
“ ชานยอล นายแน่ใจหรอว่าจะออกไปดูดาวข้างนอก ตอนกลางคืนยุงเยอะจะตาย “ ผมถาม เหลือบมองเจ้าตัวสูงที่มองออกไปข้างนอกอย่างสนใจ
“ งั้นฉันนั่งในห้องข้างๆเตียงนายแต่เปิดผ้าม่านออกดูดาวได้ไหม “ หมอนั่นหันมาถาม
ให้ตายสิ
แววตายังกะลูกหมาได้ของเล่น
“ แล้วแต่นาย ตอนดูดาวปิดไฟด้วยก็แล้วกันเพราะฉันง่วง ฉันจะนอน“ ผมหันหน้า หลบสายตาคู่นั้นกับมายังที่นอน
“ อื้ม... “
ชานยอลตอบก่อนจะเดินไปปิดไฟและล้มตัวนั่งลงตรงพื้นเอาหลังพิงขอบเตียงและหันหน้ามองดูดาวอย่างเงียบๆอยู่คนเดียว ส่วนผมก็นอนอยู่บนเตียง ให้ตายเหอะผมก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ใครจะไปหลับลงล่ะก็มีคนมาอยู่ในห้องด้วยเนี่ย
ผมนอนตะแคงแอบมองหมอนั่นเล็กน้อย หมอนั่นนั่งดูดาวอย่างใจจดใจจ่อ หมอนั่นไม่เบื่อบ้างหรอที่นั่งดูดาวอยู่เฉยๆ ทำไมถึงให้ความสนใจกับดาวจัง หมอนั่นชอบดูดาวหรอ ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ ว่าคนพูดมากอย่างหมอนั่นจะชอบนั่งดูดาวและมีมุมเงียบขรึมอย่างนี้ด้วย
03:00 am
ผมลืมตาขึ้นมากลางดึก นี่ผมหลับไปตอนไหนเนี่ยไม่รู้ตัวเลยแฮะ ผมจำได้ตอนสุดท้ายคือนอนมองชานยอลนั่งดูดาว ผมรู้สึกถึงมีอะไรหนักๆทับที่ช่วงท้อง
อะ อะไรเนี่ย
ผมเบี่ยงตัวหันตะแคงข้าง แต่ก็ต้องตกใจแบบสุดชีวิต ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดใส่หน้าผม
ชานยอล.. ชานยอลเรอะ?
พอผมหันไปก็พบว่าคนที่มานอนข้างๆผมคือชานยอล ดวงตากลมโตถูกปิดสนิท ลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าคนข้างๆเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ผมสังเกตว่าหมอนี่หลับสนิทสุดๆ แต่ร่างกายของหมอนั่นไม่ได้ห่มผ้าห่มด้วย แอร์ก็เย็นไม่หนาวหรือไงกันนะ สงสัยจะชินกับอากาศที่อเมริกามั้ง
เอาวะ.. ผมดึงผ้าห่มห่มให้อีกคนเบาๆ
ผมไม่ได้ต้องการจะให้มันตื่น
ก็แค่.. ก็แค่เห็นว่ามันหลงเวลา กว่าจะหลับก็หลับยากแค่นั้นเอง
ผมสะบัดหัวเบาๆ ก่อนถดตัวนอนลงไปตามเดิม ถึงจะไม่ค่อยชินกับการที่มีลมอุ่นๆเป่ารดระยะประชิดก็เถอะรับ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
ฝันดีนะ.....นาย ปาร์ค ขานยอล
ความคิดเห็น