ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2
    เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงกับเสียงคุ้นหูที่ดังมาแต่ไกล
      ..ลูนะ..เป็นอะไรอีกล่ะ..ถึงจะนิสัยห้าวๆ แต่ยังไงก็อดห่วงไม่ได้แฮะ...
    เท้าไวเท่าความคิดเมื่อสองขาพาวิ่งไปทางต้นเสียงทันที \"ลู..เป็นอะ.\"
    \"น่าร้ากก..\"เสียงเล็กเอ่ยอย่างตื่นเต้น  แต่ภาพที่เห็นกลับทำเอาคูลเวตน์ยืนนิ่งไป
    ก็ในมือของเธอนั่นมันเหลือเชื่อชัดๆ...
    ลูนะมองร่างเล็กๆของแฟรี่ตัวจิ๋วที่มีขนาดใหญ่กว่านกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ปีกบางสีฟ้าของมันถูกเด็กหญิงทดลองจับดูเป็นว่าเล่น ส่วนเจ้าแฟรี่เคราะห์ร้ายก็ได้แต่ต่อสู้สุดฤทธิ์จนเส้นผมสีทองสลวยที่ถูกมัดรวบเป็นเปียสองข้างปลิวไสวตามแรง
      คูลเวตน์กระพริบตาปริบๆราวกับจะไล่ภาพลวงตา
    ..ของแบบนี้มีจริงได้ยังไงกัน มองยังไงก็เป็นแฟรี่ชัดๆ..
    เด็กหนุ่มเสมองไปทางอื่นหวังจะให้ภาพลวงตาหายไป แต่พอมองไปทางยอดไม้แต่ก็ต้องแปลกใจรอบสองเมื่อเห็นเงาคนจากข้างบน
    \"น่าสนใจๆ มองเห็นพวกเรากันทั้งคู่เลยเหรอ\" เสียงถามมาจากร่างนั้นก่อนที่เจ้าตัวจะบินลอยลงมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา \"สวัสดี ชั้นเป็นเทพแห่งต้นไม้ ชื่อเคียร่า\"
      ทั้งสองหันมามองพลางเบิกตากว้างก่อนจะพร้อมใจประสานเสียงกันอีกรอบ
      \"ว๊ากกก..!!\"
                                                        ~*~*~*~*~*~*~
    เมื่อเริ่มสงบสติอารมณ์กันได้บ้างแล้วลูนะจึงค่อยๆเอ่ยคำถามแม้ว่าคูลเวตน์จะไม่อยากเชื่อเรื่องเหล่านี้เลยก็ตาม
      \"พวกคุณเป็นใครกัน แล้วมาจากไหน\" เธอเอ่ยอย่างเป็นมิตร
    \"ก็บอกแล้วไงว่าข้าคือเคียร่า ส่วนเจ้าแฟรี่นี่ก็เรนนี่\" เทพสาวตอบ \"แต่ที่ถามว่าเรามาจากไหนคงตอบไม่ได้เพราะพวกเราอยู่ที่นี่กันมาแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าพวกเจ้ามองไม่เห็นกันเองก็เท่านั้น\"
    \"ถ้างั้น..ทำไม\" ลูนะขมวดคิ้วในขณะที่เคียร่ายิ้มบางๆพลางชี้มือไปทางกระเป๋าเสื้อของเธอ
    \"เพราะเจ้าสิ่งนั้นไงล่ะ ที่ทำให้มองเห็นพวกเรา\"
    \"หินลายหยดน้ำ??\" เด็กหญิงมองมันอย่างงๆพลางหันไปทางคูลเวตน์ที่หยิบของตัวเองออกมาดูเหมือนกัน
    \"ดิวดรอบ\" เรนนี่แก้อย่างคนรู้ดี
    \"มันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขี้นได้ยากมากเมื่อหยาดน้ำค้างแห่งรุ่งอรุณจะรวมตัวกันและกลายเป็นหินแบบนี้ แล้วมันก็มีพลังพิเศษที่ทำให้เห็นพวกเราได้เพราะปกติมนุษย์จะไม่สามารถเห็นได้หรอก\" เทพสาวอธิบาย
    \"ใช่...แล้วมันก็บังเอิญจริงๆที่พวกนายเก็บได้\" เรนนี่ว่าต่อ \"ผุ้ที่มองเห็นดิวดรอบได้จะเป็นคนที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากจริงเท่านั้นแหละ\" เจ้าแฟรี่แลบลิ้นใส่ ..ท่าทางจะยังโกรธคาลูร์ไม่หาย..
    \"เหลือเชื่อ\" คูลเวตน์เอ่ยหลังจากเงียบไปนาน ส่วนลูนะก็ได้แต่มองเคียร่ากับเรนนี่สลับไปมาพลางยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ตามฉบับตัวเอง
    ส่วนเรนนี่ก็หันมาพูดต่ออย่างไม่สนใจใคร
    \"เข้าใจก็ดีแล้วทีนี้พวกนายก็ห่างๆธรรมชาติซักพักละกันจะได้ไม่ต้องเจอพวกเราอีก\" แฟรี่น้อยบอกอย่างมั่นใจเพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนเก็บดิวดรอบได้แต่ก็กลัวพวกเธอจนแผ่นแน่บไปทั้งๆที่ไม่มีอะไรอันตรายอะไรซักหน่อย..มนุษย์ก็เหมือนๆกันหมดน่ะแหละ
    \"เคียร่า\" ลูนะเอ่ยเรียกอย่างตื่นเต้นพลางหันไปมองคูลเวตน์และมาหยุดอยู่ที่เรนนี่ \"ตั้งแต่นี้ไปชั้นจะขอมาที่นี่ทุกวันเลยนะ เรื่องเทพนิยายเนี่ยชอบมาตั้งนานแล้ว..!!\"
    คำพูดที่หนักแน่นและดูเหมือนว่าจะไม่เปลี่ยนใจของเด็กหญิงทำเอาแฟรี่น้อยอ้าปากค้าง
    ..อะไรกันเนี่ย งานนี้ท่าจะยุ่งซะแล้ว พวกนี้ไม่เห็นเหมือนคนอื่นๆเลย...
                                                              ~*~*~*~*~*~*~
    แล้วลูนะก็ทำตามที่พูดไว้อย่างไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียว เธอกลายเป็นคนตื่นเช้าขึ้นมาได้เพื่อจะมาที่สวนหลังโรงเรียนนี้โดยเฉพาะ  ส่วนช่วงเย็นถ้ามีเวลาเด็กหญิงก็จะแอบแวะมาเล่นก่อนกลับบ้านเหมือนกัน
    เธอสามารถผูกมิตรกับเหล่าแฟรี่ในสวนได้อย่างรวดเร็วและด้วยความที่เป็นคนชอบเทพนิยายสุดๆอยู่แล้วทำให้ลูนะสนุกได้อย่างไม่เบื่อเลย ส่วนเรนนี่ที่ไม่ค่อยถูกชะตากับลูนะในตอนแรกกลับยอมเปิดใจเล่นกับเธอบ้างแล้ว
    “โอ๊ส!!วันนี้มีขนมเค้กมาฝากเต็มเลย ใครช้าอดน้าคร้าบ..” เด็กหญิงวิ่งเข้าสวนไปอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเหล่าแฟรี่บินมาหาเธอด้วยความคุ้นเคย
    “อรุณสวัสดิ์ลูนะ มาเช้าจังนะวันนี้” แอเรียล เงือกน้อยแห่งบ่อปลาส่งเสียงทักมาด้วยความขบขัน “อ้าว..มาเช้าพอกันเลยแฮะ อรุณสวัสดิ์หนุ่มน้อยคูลเวตน์”
    ลูนะหันหลังไปตามทางก็เห็นคนที่ถูกเรียกโบกมือทักน้อยๆพลางเดินตามหลังเธอเข้ามาติดๆ
    ..นี่ก็น่าแปลก ตอนแรกๆก็เห็นพี่คูลทำท่าจะไม่เชื่อเรื่องแฟรี่ แต่ไหงเขากลับมาที่นี่ซะได้ละเนี่ย  เฮ้อ..ช่างเถอะเรื่องของเขานี่นา..
    “เคียร่าชั้นเอาวิทยุมาด้วยล่ะ เปิดเพลงฟังแล้วกินมอร์นิ่งไทม์กันเถอะ” เธอหันมาสนใจของตรงหน้าแทนก่อนจะแจกจ่ายขนมให้เพื่อนๆอย่างมีความสุข
    “จริงสิแอเรียลกินเค้กด้วยไหม” ลูนะหันไปหาเงือกน้อย เมื่อเห็นเธอพยักหน้ารับเด็กหญิงจึงลุกไปหาทันที
    “อ่ะนี่” เธอส่งให้แต่กลับสะดุดเศษหินเสียหลักจนเกือบร่วงไปในบ่อน้ำถ้าไม่ใช่เพราะว่า..
    “ไม่เป็นไรนะ” คูลเวตน์เอ่ยอย่างร้อนรนพลางถามคนในอ้อมแขน
    ..โชคดีจริงๆที่คว้าร่างเล็กไว้ทันก่อนจะหล่นโครมลงไปในน้ำ  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องช่วยเธอ  แต่ในใจมันกลับเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก  แค่รู้ว่าเธอกำลังจะตกน้ำก็รีบวิ่งมารับแทบไม่ทันแล้ว..
    “อ..เอ้อ” ลูนะเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเมื่อออกมาจากอ้อมกอดของเขา
    ..ทำไมหัวใจถึงได้เต้นผิดจังหวะได้ก็ไม่รู้..
    “ขอบคุณนะ  พี่คูล ไม่ได้พี่หนูคงตกไปแล้วละ” เธอยิ้มให้เขาอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก
    ..ดูดีๆถ้าหมอนี่ไม่ปากเสียแล้วก็มีน้ำใจแบบนี้  ไม่เก๊กมากเกินไปเหมือนแต่ก่อนก็น่ารักดีแฮะ..
                                                                ~*~*~*~*~*~*~
    ราวกลับกลัวว่าลูนะจะทำอะไรแผลงๆอีกคูลเวตน์จึงมาคอยเฝ้าที่สวนนี่แทบทุกวัน  แม้จะต้องตื่นเช้าไปเสียหน่อยแต่เอาเข้าจริงๆมาคุยเล่นกับพวกแฟรี่ก็ไม่เลวนักหรอกถึงจะต้องทนฟังเสียงเจื้อยแจ้วของลูนะตัวดีอยู่ตลอดเวลาก็เถอะ
    ถ้านับดูจริงๆหลังจากที่ได้พบกับพวกเคียร่าครั้งแรกก็ปาเข้าไปเกือบสองสัปดาห์แล้ว จะว่าไปก็อาจเป็นเพราะกาลเวลาหรือไม่ก็เพราะเหตุการณ์ที่บ่อปลานั่นแหละที่ทำให้เขากับลูนะพูดกันดีๆได้โดยไม่กัดกันอีก อย่างน้อยก็ได้เป็นมิตรกันมากพอตัวทีเดียว
    ขนมคุกกี้ถุงโตถูกยื่นมาตรงหน้าทำเอาคนรับแปลกใจไปพอตัว “ให้ฉันเหรอ”
    เด็กหนุ่มหันไปมองลูนะที่พยักหน้ารับ
    ..ก็แค่แปลกใจว่าทำไมคราวนี้ถึงให้ขนมถุงใหญ่กว่าปกติ ทั้งที่เจ้าตัวหวงขนมจะตายไป..
    “ขี้โกงนี่หน่า ทำไมเจ้านั่นได้ถุงใหญ่กว่าล่ะ” จิน แฟรี่เพศชายที่ชอบของหวานเป็นชีวิตจิตใจบ่นอย่างอารมณ์เสีย
    “ไม่เห็นแปลกเลยจินก็ลูนะเขาชอบคูลเวตน์นี่หน่า” เรนนี่บอกเพื่อนอย่างไม่รู้ตัวว่าคนที่ถูกเอ่ยหน้าขึ้นสีไปทั้งคู่แล้ว
    “เปล่านะ..แค่ขอบคุณที่พี่เขาคอยช่วยเหลือบ่อยๆต่างหาก” เด็กหญิงรีบเอ่ยแก้
    ...หลังจากช่วยที่บ่อน้ำพี่เขายังมาคอยสอนการบ้าน คอยช่วยถือของบ่อยๆเลยนี่นา..ก็แค่ขอบคุณเอง คิดอะไรมากนะเรนนี่..
    “เอ้อ..ว่าแต่ว่าพวกเราจะสามารถมองเห็นเคียร่าได้ตลอดไปเลยรึเปล่าล่ะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง
    “ชั้นกำลังจะบอกเรื่องนี้อยู่พอดีเลย” เทพสาวเอ่ยอย่างเศร้าๆ “ดิวดรอบจะหายไปเมื่อหมดเวลาของมันและดูท่าทางมันคงจะหายไปราวๆอาทิตย์นี้ซะด้วยซิ”
    “ถ..ถ้ามันหายไปก็..” ลูนะเงียบไปเมื่อพูดคำสุดท้ายไม่ออก
    “ก็จะไม่สามารถเห็นพวกเราได้อีก” เรนนี่ต่อให้แต่สีหน้ากลับสลดลง “บอกตรงๆว่าตอนแรกชั้นไม่ถูกชะตากับเธอเลยเพราะว่ามนุษย์น่ะชอบทำลายธรรมชาติ แต่พอรู้จักกันจริงๆก็รู้ว่าพวกเธอไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ออกจะเป็นคนดีด้วยซ้ำจนตอนนี้ชักไม่อยากแยกจากกันซะแล้ว”
    ลูนะสลดไปวูบหนึ่งก่อนจะหันมายิ้มกว้างเหมือนเดิม “เอาน่ายังพอมีเวลาเหลืออีกหน่อยนี่หน่า  ใช้ช่วงเวลาที่มีอยู่ให้มีค่าที่สุดละกันนะ  พวกเราร้องเพลงกันอีกรอบเถอะ..”
    ..ในเมื่อเวลาก็เหลือน้อยมากแล้วถ้ามัวแต่สลดก็หมดสนุกกันพอดีน่ะซิ ขอใช้ช่วงเวลาที่ล้ำค่าให้คุ้มเถอะ ให้ได้อยู่กับทุกๆคนแล้วก็..พี่คูล..
   
                                                              ~*~*~*~*~*~*~*~
    ถ้าถามถึงช่วงที่วุ่นวายมากที่สุดในโรงเรียนคงไม่พ้นตอนพักที่นักเรียนรอคอยให้ถึงเป็นที่สุด  เมื่อกริ่งปล่อยพักดังขึ้นจึงมีเสียงเฮลั่นของทุกคนตามมาอีกระลอก
    “ไปโรงอาหารกันเลยนะลู” เจน เพื่อนสาวของลูนะเข้ามาชวนทันทีที่ออกจากห้องเรียน
    “เอ้อ..โทษทีนะเดี๋ยวจะตามไปละกันมีธุระนิดหน่อย” เธอว่าในขณะที่วิ่งไปชั้นบนทันที
    ..ก็เมื่อวานพี่คูลดันลืมหนังสือเรียนไว้ที่สวนซะนี่  ถ้ามีเรียนก็แย่เลย..
    เด็กหญิงหยุดยืนหน้าห้องเรียนของคูลเวตน์แต่ไม่ทันจะเข้าไปก็ได้ยินเสียงที่ลอดมาจากประตูห้องซึ่งแง้มเอาไว้
    “คูลเวตน์  เห็นเขาว่ากันว่านายไปที่สวนหลังโรงเรียนกับรุ่นน้องที่ชื่อลูนะเหรอ  อย่าบอกนะว่านายชอบยันนั่น เห็นห้าวออก นิสัยต่างกับนายจะตายไป”
    “เกี่ยวอะไรกับนาย ชั้นก็ยังไม่ได้บอกว่าชอบเขาซักหน่อย” เสียงคูลเวตน์ตอบมาเรียบๆแต่ก็ทำเอาลูนะหันหลังวิ่งกลับไปอีกทางแทบจะทันที
    ..นั่นซิ..คนเก่งๆอย่างเขามีเหรอจะมาสนใจเรา ความจริงถ้าไม่ใช่เพราะดิวดรอบก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกันหรอก  เรื่องทั้งหมดนี่อาจไม่มีวันเกิดขึ้นเลยก็ได้ สุดท้ายมันก็แค่ความคิดไปเองเท่านั้นซินะ..แค่คิดไปเอง..เท่านั้น..
      ..ลูนะ..เป็นอะไรอีกล่ะ..ถึงจะนิสัยห้าวๆ แต่ยังไงก็อดห่วงไม่ได้แฮะ...
    เท้าไวเท่าความคิดเมื่อสองขาพาวิ่งไปทางต้นเสียงทันที \"ลู..เป็นอะ.\"
    \"น่าร้ากก..\"เสียงเล็กเอ่ยอย่างตื่นเต้น  แต่ภาพที่เห็นกลับทำเอาคูลเวตน์ยืนนิ่งไป
    ก็ในมือของเธอนั่นมันเหลือเชื่อชัดๆ...
    ลูนะมองร่างเล็กๆของแฟรี่ตัวจิ๋วที่มีขนาดใหญ่กว่านกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ปีกบางสีฟ้าของมันถูกเด็กหญิงทดลองจับดูเป็นว่าเล่น ส่วนเจ้าแฟรี่เคราะห์ร้ายก็ได้แต่ต่อสู้สุดฤทธิ์จนเส้นผมสีทองสลวยที่ถูกมัดรวบเป็นเปียสองข้างปลิวไสวตามแรง
      คูลเวตน์กระพริบตาปริบๆราวกับจะไล่ภาพลวงตา
    ..ของแบบนี้มีจริงได้ยังไงกัน มองยังไงก็เป็นแฟรี่ชัดๆ..
    เด็กหนุ่มเสมองไปทางอื่นหวังจะให้ภาพลวงตาหายไป แต่พอมองไปทางยอดไม้แต่ก็ต้องแปลกใจรอบสองเมื่อเห็นเงาคนจากข้างบน
    \"น่าสนใจๆ มองเห็นพวกเรากันทั้งคู่เลยเหรอ\" เสียงถามมาจากร่างนั้นก่อนที่เจ้าตัวจะบินลอยลงมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา \"สวัสดี ชั้นเป็นเทพแห่งต้นไม้ ชื่อเคียร่า\"
      ทั้งสองหันมามองพลางเบิกตากว้างก่อนจะพร้อมใจประสานเสียงกันอีกรอบ
      \"ว๊ากกก..!!\"
                                                        ~*~*~*~*~*~*~
    เมื่อเริ่มสงบสติอารมณ์กันได้บ้างแล้วลูนะจึงค่อยๆเอ่ยคำถามแม้ว่าคูลเวตน์จะไม่อยากเชื่อเรื่องเหล่านี้เลยก็ตาม
      \"พวกคุณเป็นใครกัน แล้วมาจากไหน\" เธอเอ่ยอย่างเป็นมิตร
    \"ก็บอกแล้วไงว่าข้าคือเคียร่า ส่วนเจ้าแฟรี่นี่ก็เรนนี่\" เทพสาวตอบ \"แต่ที่ถามว่าเรามาจากไหนคงตอบไม่ได้เพราะพวกเราอยู่ที่นี่กันมาแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าพวกเจ้ามองไม่เห็นกันเองก็เท่านั้น\"
    \"ถ้างั้น..ทำไม\" ลูนะขมวดคิ้วในขณะที่เคียร่ายิ้มบางๆพลางชี้มือไปทางกระเป๋าเสื้อของเธอ
    \"เพราะเจ้าสิ่งนั้นไงล่ะ ที่ทำให้มองเห็นพวกเรา\"
    \"หินลายหยดน้ำ??\" เด็กหญิงมองมันอย่างงๆพลางหันไปทางคูลเวตน์ที่หยิบของตัวเองออกมาดูเหมือนกัน
    \"ดิวดรอบ\" เรนนี่แก้อย่างคนรู้ดี
    \"มันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขี้นได้ยากมากเมื่อหยาดน้ำค้างแห่งรุ่งอรุณจะรวมตัวกันและกลายเป็นหินแบบนี้ แล้วมันก็มีพลังพิเศษที่ทำให้เห็นพวกเราได้เพราะปกติมนุษย์จะไม่สามารถเห็นได้หรอก\" เทพสาวอธิบาย
    \"ใช่...แล้วมันก็บังเอิญจริงๆที่พวกนายเก็บได้\" เรนนี่ว่าต่อ \"ผุ้ที่มองเห็นดิวดรอบได้จะเป็นคนที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากจริงเท่านั้นแหละ\" เจ้าแฟรี่แลบลิ้นใส่ ..ท่าทางจะยังโกรธคาลูร์ไม่หาย..
    \"เหลือเชื่อ\" คูลเวตน์เอ่ยหลังจากเงียบไปนาน ส่วนลูนะก็ได้แต่มองเคียร่ากับเรนนี่สลับไปมาพลางยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ตามฉบับตัวเอง
    ส่วนเรนนี่ก็หันมาพูดต่ออย่างไม่สนใจใคร
    \"เข้าใจก็ดีแล้วทีนี้พวกนายก็ห่างๆธรรมชาติซักพักละกันจะได้ไม่ต้องเจอพวกเราอีก\" แฟรี่น้อยบอกอย่างมั่นใจเพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนเก็บดิวดรอบได้แต่ก็กลัวพวกเธอจนแผ่นแน่บไปทั้งๆที่ไม่มีอะไรอันตรายอะไรซักหน่อย..มนุษย์ก็เหมือนๆกันหมดน่ะแหละ
    \"เคียร่า\" ลูนะเอ่ยเรียกอย่างตื่นเต้นพลางหันไปมองคูลเวตน์และมาหยุดอยู่ที่เรนนี่ \"ตั้งแต่นี้ไปชั้นจะขอมาที่นี่ทุกวันเลยนะ เรื่องเทพนิยายเนี่ยชอบมาตั้งนานแล้ว..!!\"
    คำพูดที่หนักแน่นและดูเหมือนว่าจะไม่เปลี่ยนใจของเด็กหญิงทำเอาแฟรี่น้อยอ้าปากค้าง
    ..อะไรกันเนี่ย งานนี้ท่าจะยุ่งซะแล้ว พวกนี้ไม่เห็นเหมือนคนอื่นๆเลย...
                                                              ~*~*~*~*~*~*~
    แล้วลูนะก็ทำตามที่พูดไว้อย่างไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียว เธอกลายเป็นคนตื่นเช้าขึ้นมาได้เพื่อจะมาที่สวนหลังโรงเรียนนี้โดยเฉพาะ  ส่วนช่วงเย็นถ้ามีเวลาเด็กหญิงก็จะแอบแวะมาเล่นก่อนกลับบ้านเหมือนกัน
    เธอสามารถผูกมิตรกับเหล่าแฟรี่ในสวนได้อย่างรวดเร็วและด้วยความที่เป็นคนชอบเทพนิยายสุดๆอยู่แล้วทำให้ลูนะสนุกได้อย่างไม่เบื่อเลย ส่วนเรนนี่ที่ไม่ค่อยถูกชะตากับลูนะในตอนแรกกลับยอมเปิดใจเล่นกับเธอบ้างแล้ว
    “โอ๊ส!!วันนี้มีขนมเค้กมาฝากเต็มเลย ใครช้าอดน้าคร้าบ..” เด็กหญิงวิ่งเข้าสวนไปอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเหล่าแฟรี่บินมาหาเธอด้วยความคุ้นเคย
    “อรุณสวัสดิ์ลูนะ มาเช้าจังนะวันนี้” แอเรียล เงือกน้อยแห่งบ่อปลาส่งเสียงทักมาด้วยความขบขัน “อ้าว..มาเช้าพอกันเลยแฮะ อรุณสวัสดิ์หนุ่มน้อยคูลเวตน์”
    ลูนะหันหลังไปตามทางก็เห็นคนที่ถูกเรียกโบกมือทักน้อยๆพลางเดินตามหลังเธอเข้ามาติดๆ
    ..นี่ก็น่าแปลก ตอนแรกๆก็เห็นพี่คูลทำท่าจะไม่เชื่อเรื่องแฟรี่ แต่ไหงเขากลับมาที่นี่ซะได้ละเนี่ย  เฮ้อ..ช่างเถอะเรื่องของเขานี่นา..
    “เคียร่าชั้นเอาวิทยุมาด้วยล่ะ เปิดเพลงฟังแล้วกินมอร์นิ่งไทม์กันเถอะ” เธอหันมาสนใจของตรงหน้าแทนก่อนจะแจกจ่ายขนมให้เพื่อนๆอย่างมีความสุข
    “จริงสิแอเรียลกินเค้กด้วยไหม” ลูนะหันไปหาเงือกน้อย เมื่อเห็นเธอพยักหน้ารับเด็กหญิงจึงลุกไปหาทันที
    “อ่ะนี่” เธอส่งให้แต่กลับสะดุดเศษหินเสียหลักจนเกือบร่วงไปในบ่อน้ำถ้าไม่ใช่เพราะว่า..
    “ไม่เป็นไรนะ” คูลเวตน์เอ่ยอย่างร้อนรนพลางถามคนในอ้อมแขน
    ..โชคดีจริงๆที่คว้าร่างเล็กไว้ทันก่อนจะหล่นโครมลงไปในน้ำ  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องช่วยเธอ  แต่ในใจมันกลับเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก  แค่รู้ว่าเธอกำลังจะตกน้ำก็รีบวิ่งมารับแทบไม่ทันแล้ว..
    “อ..เอ้อ” ลูนะเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเมื่อออกมาจากอ้อมกอดของเขา
    ..ทำไมหัวใจถึงได้เต้นผิดจังหวะได้ก็ไม่รู้..
    “ขอบคุณนะ  พี่คูล ไม่ได้พี่หนูคงตกไปแล้วละ” เธอยิ้มให้เขาอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก
    ..ดูดีๆถ้าหมอนี่ไม่ปากเสียแล้วก็มีน้ำใจแบบนี้  ไม่เก๊กมากเกินไปเหมือนแต่ก่อนก็น่ารักดีแฮะ..
                                                                ~*~*~*~*~*~*~
    ราวกลับกลัวว่าลูนะจะทำอะไรแผลงๆอีกคูลเวตน์จึงมาคอยเฝ้าที่สวนนี่แทบทุกวัน  แม้จะต้องตื่นเช้าไปเสียหน่อยแต่เอาเข้าจริงๆมาคุยเล่นกับพวกแฟรี่ก็ไม่เลวนักหรอกถึงจะต้องทนฟังเสียงเจื้อยแจ้วของลูนะตัวดีอยู่ตลอดเวลาก็เถอะ
    ถ้านับดูจริงๆหลังจากที่ได้พบกับพวกเคียร่าครั้งแรกก็ปาเข้าไปเกือบสองสัปดาห์แล้ว จะว่าไปก็อาจเป็นเพราะกาลเวลาหรือไม่ก็เพราะเหตุการณ์ที่บ่อปลานั่นแหละที่ทำให้เขากับลูนะพูดกันดีๆได้โดยไม่กัดกันอีก อย่างน้อยก็ได้เป็นมิตรกันมากพอตัวทีเดียว
    ขนมคุกกี้ถุงโตถูกยื่นมาตรงหน้าทำเอาคนรับแปลกใจไปพอตัว “ให้ฉันเหรอ”
    เด็กหนุ่มหันไปมองลูนะที่พยักหน้ารับ
    ..ก็แค่แปลกใจว่าทำไมคราวนี้ถึงให้ขนมถุงใหญ่กว่าปกติ ทั้งที่เจ้าตัวหวงขนมจะตายไป..
    “ขี้โกงนี่หน่า ทำไมเจ้านั่นได้ถุงใหญ่กว่าล่ะ” จิน แฟรี่เพศชายที่ชอบของหวานเป็นชีวิตจิตใจบ่นอย่างอารมณ์เสีย
    “ไม่เห็นแปลกเลยจินก็ลูนะเขาชอบคูลเวตน์นี่หน่า” เรนนี่บอกเพื่อนอย่างไม่รู้ตัวว่าคนที่ถูกเอ่ยหน้าขึ้นสีไปทั้งคู่แล้ว
    “เปล่านะ..แค่ขอบคุณที่พี่เขาคอยช่วยเหลือบ่อยๆต่างหาก” เด็กหญิงรีบเอ่ยแก้
    ...หลังจากช่วยที่บ่อน้ำพี่เขายังมาคอยสอนการบ้าน คอยช่วยถือของบ่อยๆเลยนี่นา..ก็แค่ขอบคุณเอง คิดอะไรมากนะเรนนี่..
    “เอ้อ..ว่าแต่ว่าพวกเราจะสามารถมองเห็นเคียร่าได้ตลอดไปเลยรึเปล่าล่ะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง
    “ชั้นกำลังจะบอกเรื่องนี้อยู่พอดีเลย” เทพสาวเอ่ยอย่างเศร้าๆ “ดิวดรอบจะหายไปเมื่อหมดเวลาของมันและดูท่าทางมันคงจะหายไปราวๆอาทิตย์นี้ซะด้วยซิ”
    “ถ..ถ้ามันหายไปก็..” ลูนะเงียบไปเมื่อพูดคำสุดท้ายไม่ออก
    “ก็จะไม่สามารถเห็นพวกเราได้อีก” เรนนี่ต่อให้แต่สีหน้ากลับสลดลง “บอกตรงๆว่าตอนแรกชั้นไม่ถูกชะตากับเธอเลยเพราะว่ามนุษย์น่ะชอบทำลายธรรมชาติ แต่พอรู้จักกันจริงๆก็รู้ว่าพวกเธอไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ออกจะเป็นคนดีด้วยซ้ำจนตอนนี้ชักไม่อยากแยกจากกันซะแล้ว”
    ลูนะสลดไปวูบหนึ่งก่อนจะหันมายิ้มกว้างเหมือนเดิม “เอาน่ายังพอมีเวลาเหลืออีกหน่อยนี่หน่า  ใช้ช่วงเวลาที่มีอยู่ให้มีค่าที่สุดละกันนะ  พวกเราร้องเพลงกันอีกรอบเถอะ..”
    ..ในเมื่อเวลาก็เหลือน้อยมากแล้วถ้ามัวแต่สลดก็หมดสนุกกันพอดีน่ะซิ ขอใช้ช่วงเวลาที่ล้ำค่าให้คุ้มเถอะ ให้ได้อยู่กับทุกๆคนแล้วก็..พี่คูล..
   
                                                              ~*~*~*~*~*~*~*~
    ถ้าถามถึงช่วงที่วุ่นวายมากที่สุดในโรงเรียนคงไม่พ้นตอนพักที่นักเรียนรอคอยให้ถึงเป็นที่สุด  เมื่อกริ่งปล่อยพักดังขึ้นจึงมีเสียงเฮลั่นของทุกคนตามมาอีกระลอก
    “ไปโรงอาหารกันเลยนะลู” เจน เพื่อนสาวของลูนะเข้ามาชวนทันทีที่ออกจากห้องเรียน
    “เอ้อ..โทษทีนะเดี๋ยวจะตามไปละกันมีธุระนิดหน่อย” เธอว่าในขณะที่วิ่งไปชั้นบนทันที
    ..ก็เมื่อวานพี่คูลดันลืมหนังสือเรียนไว้ที่สวนซะนี่  ถ้ามีเรียนก็แย่เลย..
    เด็กหญิงหยุดยืนหน้าห้องเรียนของคูลเวตน์แต่ไม่ทันจะเข้าไปก็ได้ยินเสียงที่ลอดมาจากประตูห้องซึ่งแง้มเอาไว้
    “คูลเวตน์  เห็นเขาว่ากันว่านายไปที่สวนหลังโรงเรียนกับรุ่นน้องที่ชื่อลูนะเหรอ  อย่าบอกนะว่านายชอบยันนั่น เห็นห้าวออก นิสัยต่างกับนายจะตายไป”
    “เกี่ยวอะไรกับนาย ชั้นก็ยังไม่ได้บอกว่าชอบเขาซักหน่อย” เสียงคูลเวตน์ตอบมาเรียบๆแต่ก็ทำเอาลูนะหันหลังวิ่งกลับไปอีกทางแทบจะทันที
    ..นั่นซิ..คนเก่งๆอย่างเขามีเหรอจะมาสนใจเรา ความจริงถ้าไม่ใช่เพราะดิวดรอบก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกันหรอก  เรื่องทั้งหมดนี่อาจไม่มีวันเกิดขึ้นเลยก็ได้ สุดท้ายมันก็แค่ความคิดไปเองเท่านั้นซินะ..แค่คิดไปเอง..เท่านั้น..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น