ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alzheimer's [Yaoi: 2PM ]

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 7..50%

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 54


    Chapter 7..

      ความเงียบเข้ามาปรกติคุมในรสหรู แผ่นเฟรมที่กันระหว่างพวกเขากับคนขับยิ่งทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในคุก ทั้งที่มี 2 ชีวิต 2 พี่น้อง ของ 2 PM นั่งอยู่ ถ้าดูๆพวกเขา 2 คนน่าจะพูดกันด้วยลมหายใจมากกว่า เพราะเสียงที่ดังอยู่ในตอนนี้มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองเท่านั้น

     

    “เฮ้อ อึกอัด”และเป็นน้องเล็กของวงนั้นเองที่ไม่ไหวจะทนกับความอึดอัดในรถ ถอนหายใจแล้วพูดออกมา พร้อมกับหันไปหาจุนซู

     

    “พี่จุนซูอ่า  พี่พูดมั้งสิ ผมฟังเสียงหายใจพี่ไม่ออกหรอกนะ”ชานซองวางท่าจะดิ้นบนเบาะรถ กลับมาแล้ว หมีน้อยชานของเรา  แบนปากออกมาแล้วคว้ามือถือมากดหยิกๆๆๆ แก้เซ็งเพราะไม่มีที่ท่าว่าคนที่นั่งข้างๆจะพูดอะไร

     

       รู้ว่าจุนซูเป็นคนเงียบอยู่แล้ว แต่หลังจากเหตุการณ์ตื่นตัว(?) เมื่อเช้านั้นยิ่งทำให้จุนซูเงียบไปมากกว่าเดิม มือก็กดโทรศัพท์แต่ตากลับเหลือบไปมองจุนซูที่เอาแต่ฟังเพลงในMP3 เป็นระยะ

     

    จะทนไม่ไหวแล้วนะ

     

    นั้นคือเสียงเด็กน้อยชานซองร่ำร้องอยู่ในใจ

     

       หนทางยังอีกยาวไกลเพราะกองถ่ายอยู่แถวๆชานเมือง ถ้ายังนิ่งสนิทอยู่อย่างนี้ ชานซองคนนี้ต้องบ้าตายแน่ อ้อนดีกว่า อย่างนี้ต้องอ้อน นี่แหละคือ ฮเว ชานซอง

     

    “พี่จุนซู ผมง่วงอีกแล้ว”ว่าพรางสะกิดแขนให้จุนซูเลิกสนใจสิ่งไร้สาระนอกหน้าต่างรถแล้วกลับมาสนสิ่งที่ไร้สาระกว่าในรถอย่างเขา

     

     จุนซูเอาหูฟังออกข้างหนึ่งแล้วหันไปมองชานซอง จับทำนองเพลงเป็นสติไม่ให้คิดถึงเรื่องเมื่อเช้า ทั้งที่เป็นเรื่องปกติที่เด็กชายวัยรุ่นจะรู้สึกอะไรอย่างนี้ แต่ทำไมต้องเป็นชานซองเด็กน้อยของเขา และทำไมต้องเป็นเพราะเขาที่ทำให้ชานซองรู้สึก

     

    “อะไรนะ พี่ไม่ได้ยิน”ทวนคำถามไม่ได้ยินจริงๆเมื่อครู่ ชานซองแบนปากออกมาอีกนิดไม่พอใจที่จะต้องพูดซ้ำ

     

    “บอกว่า ง่วงแล้วอ่า”

     

    “งั้นก็นอนสิ บอกพี่ทำไม”ว่าแล้วก็กำลังจะคว้าหูที่ถอดออกไปเมื่อครู่กลับมาใส่เหมือนเดิท ทำเป็นไม่สนใจทั้งที่หัวใจกำลังเต้นแรง

      ไม่ทันมือไวอย่างชานซอง ชานซองขยับเข้าไปเบียดจุนซูแล้วจับมือของจุนซูที่ถือหูฟังค้างอยู่ไว้ทั้งใส่หูฟังนั่นเอง 

     

    ฟังไม่ออกแล้วทำนองเพลง หน้าแดงแน่นอน รู้ดีเพราะตอนนี้ใบหน้าร้อนมากจนลามไปถึงใบหูเลย

     

    “ชะ.....”อยากจะโวยวาย แต่ช้าไป ชานซองล้มตัวลงมาหนุนตักตนเองเป็นหมอนเหมือนที่ชอบทำกับจุนโฮ

     

    “มันต้องอยู่ใกล้ๆกัน ผมฟังไม่ถนัด”แล้วก็ยิ้มให้พี่ชายเพียงศักดิ์ อีกครั้งที่เขาเห็นใบหน้าใสแดงระเรื่อและดึงดูดให้เขาอยากจะแกล้ง

     

    “พี่ฟังได้ใช่ไหม”เสียงทุ้มราวเด็ก กลับกลายเป็นเสียงแกร่งของชายหนุ่มไม่ได้แฝงความเอาแต่ใจเหมือนเด็ก แต่แฝงด้วยเล่ห์นัยบางอย่าง

     

     มือหนาเอื้อมขึ้นไปสัมผัสที่กกหูของจุนซูข้างที่สวมหูฟังอยู่ แกล้งกระชับหูฟังของจุนซูมากขึ้นแล้วลากมือช้าผ่านแก้มเนียน นุ่มมากจริงๆ เขาแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะนุ่มได้ขนาดนี้

     

       ทุกสัมผัสที่มือผ่าน ร้อนผ่าว จนเลือดยิ่งสูบฉีดหน้า ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน เล่นเอาจุนซูทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่อ หายใจติดขัด ดวงตาใสเบิกกว้างเล็กๆเป็นเชิงตกใจ กับการกระทำของชานซอง

     

    น่ารัก!

     

      นั้นคือสิ่งที่ชานซองคิด ลอบยิ้มออกมา และรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาได้ยินเสียงหัวใจของจุนซูดังมาก แถมรั่วเร็ว แต่นั้นก็ไม่ได้ต่างกับเขาเลย จนเกิดความสงสัยว่าจังวะการเต้นจะเป็นจังหวะเดียวกันรึเปล่า

     ยังไงความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของชานซองก็ยังมีอยู่

     

     “ดังจัง”ไม่ใช่เสียงเพลงแต่เป็นเสียงหัวใจทั้งคู่ ชานซองพูดออกมา พร้อมกับยืดตัวขึ้นไป แล้วเอาหูอีกข้างแนบอกของจุนซูพร้อมทั้งใช้มือจับอกตัวเองเหมือนกัน

     

    “เต้นเร็วเหมือนกันเลย”พูดออกมาเบาๆ จุนซูก็ไม่อาจจะได้ยิน ตอนนี้อื้อไปหมดแล้ว มีเพียงอย่าเดียวที่ขยับอยู่คงเป็นหัวใจของเขาหละมั้ง

     

    “พี่หายใจแรงด้วย”ว่าแล้วก็ยืดตัวขึ้นไปประจันหน้ากับจุนซู หากแต่ไม่ได้สบตา เพียงแค่ใช้แก้มของตัวเองรับสัมผัสลมหายของจุนซูเท่านั้น 

     

    อยากรู้ว่าตอนนี้จุนซูกำลังทำหน้าอย่างไร  ชานซองจึงหันตรงหน้าจุนซูทันที ใบหนาห่างกันเพียงปลายจมูกชน ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากของมักเน่อีกต่อไปเมื่อเขาสบตากับจุนซู 

     

     ราวกับส้องกระจก จุนซูเป็นอย่างไรเขาก็เป็นอย่างนั้น

     

    หัวใจเต้นรั่วเร็วเช่นกัน

     

    หายใจติดขัดเช่นกัน

     

    หน้าใสร้อนผ่าวจนแดงระเรื่อเช่นกัน

     

    แล้วความรู้สึกหละ จะเหมือนกันรึเปล่า

     

       มือหนาเลื่อนจากลำคอขาวขึ้นมายังคางแหลมของอีกคน จนนิ้วสัมผัสโดนริมฝีปากนุ่ม ลูบไล้เบามือ สัมผัสนุ่มจนอยากจะทาบทับด้วยริมฝีปากของตัวเองแทนปลายนิ้ว

     

      อยากจะเอียงหน้าหลบแต่ก็ได้เพียงคิด ไม่รู้อะไรที่สะกดให้จุนซูทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งราวรอรับสัมผัสบางอย่างจากคนตรงหน้า

     

      ชานซองไม่รอช้า  เอียงหน้าเล็กน้อยหลบจมูกโด่งของจุนซู พร้อมกับเรื่อยใบหน้าเข้าไปอีก จนริมฝีปากสัมผัสได้ถึงความนุ่มของริมฝีปากอีกฝ่าย กดจูบลงไปเบาๆ ไม่ได้รีบร้อน เร่งเร้า เพียงแค่สัมผัส แล้วถอนริมฝีปากออกมา  มองใบยังจุนซูที่ยังคงนิ่งสนิททำอะไรไม่ถูก 

     

        มักเน่ยกยิ้มมุมปากที่ไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากจุนซู  เลื่อนปากหยักลงไปกดจูบอีกครั้งแต่กลับหนักแน่นขึ้น จูบเน้นย้ำเบาๆชิมรสหวานของนมที่คนตัวเล็กกว่าดื่มมาก่อนออกจากบ้าน ปลายลิ้นร้อนแตะเบาๆเป็นเชิงขออนุญาต

     

      ไม่ได้อนุญาตแต่กลับเปิดช่องทางให้ลิ้นร้อนของรุ่นน้องแทรกผ่านเข้าไปได้ 

    มือหนาเลื่อนขึ้นไปตรงท้ายถอยรั้งจุนซูให้แนบชิดมากขึ้น

     

     เอี๊ยด!

    ปึก! ร่างใหญ่ของชานซองกลิ้งลงไปบนพื้น

     

    “โอ้ย เจ็บชิบ”ชานซองลุกขึ้นมานั่งบนเบาะเหมือนเดิม แล้วลูบแขนตัวเองที่ฟาดกับขอบประตูปอย่างเต็มแรงจนแดง  

     

    ปี๊น!!!

     

    “เฮ้ย!”จุนซูสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงแตรทำให้เขาดึงสติกลับคนมาได้ คลายตัวออกจากมนสะกด  แต่สติก็ยังกระจายไม่เข้าทีดีพอ

     

    “ขับให้มันดีๆได้ไหมว่ะ”คำสบถของคนขับรถทำให้เขารู้ว่าข้างนอกมีอุบัติเหตุแต่ดูจะไม่ได้รุนแรงมาก

     

    “พี่จุนซูเป็นอะไรไหม”ชานซองเลิกสนใจตัวเองเมื่อได้ยินเสียงของคนข้างตัวร้องออกมา จับร่างเล็กกว่าพลิกไปมาหาบาดแผล

     

    “พี่จุนซู ถ้ายังไม่รวบสติอีก ผมจะจูบพี่อีกครั้งนะ”ชานซองขู่เสียงเข้ม จุนซูเอาแต่นั่งนิ่ง เขาก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าร่างกายนั้นเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่

     

    “ไม่เอา ไม่เจ็บ ไม่รู้”พูดจบก็ปิดปากตัวเองทันที กลัวชานซองจะทำจริง

     

    “ไม่เจ็บจริงๆนะ”ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ  จุนซูเพียงพยักหน้าตอบเท่านั้น ชานซองถอนหายใจออกมา แล้วทิ้งตัวลงพิงเบาะรถ

     

    “ผมขอโทษ ผมห้ามใจไม่อยู่”พูดแค่นั้นแล้วหลับตาลง  ด่ากรนตัวเองในใจที่ทำเรื่องบ้าๆลงไปกับพี่ชานร่วมวง ของเพียงอย่างเกลียดกับการกระทำเกินยั้งคิดของเขาก็พอ

     

    “อย่าโกรธผมนะครับ”พูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่กลัวลืมตาขึ้นมาไม่รู้ว่าจุนซูจะทำหน้าแบบไหน ไม่อยากมอง

     

       จุนซูนะเพรอ หันไปมองตามที่ชานซองพูดทั้งที่ยังเอามือกุมปากอยู่ แล้วพยักหน้ารับรู้อย่างเงะๆงักๆ ชานซองคงหัวเราะใหญ่ถ้าลืมตาขึ้นมาในตอนนี้ เพราะคนที่ราวเด็กน้อยกลับเป็นจุนซูแทน

     

    .............................50%

     

    อ่า มาแต่ง 50%ให้คร้า

    รู้ไหมความสุขความสุขคนเราอะมีไม่กี่อย่าง

    แล้วอะไรที่ทำให้รู้ว่าเรามีความรู้ นั้นคือการที่เราทำสิ่งนั้นอย่างเต็มใจ และไม่ฝืน

    ความสุขของกั๊กคือการแต่งนิยาย อาจจะเล็กๆ นิดๆหน่อยๆ ดูไร้สาระ แต่นั้นก็คือความสุขที่เราสามารถเอื้อมคว้าได้

     ขอให้คนอ่านทุกคนเข้าใจถึงความสุขเล็กๆของกั๊กด้วยนะคะ

     

    เด๋วมาต่อให้คร้า อิอิ  .......

     

    อ่าขอบคุณทุกคอมเม้นจริง ยิ่งคอมเม้นยาวๆ อย่างหลายคนนั้น เป็นอะไรที่อ่านแล้วปลื้มใจจริงๆ นั้นก็เป็นอีกความสุขหนึ่ง  ขอบคุณที่เลือกที่จะอ่านเรื่องนี้คร้า อิอิ


    ขออีก 5เม้นน่าคร้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×