คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 7..50%
Chapter 7..
ความเงียบเข้ามาปรกติคุมในรสหรู แผ่นเฟรมที่กันระหว่างพวกเขากับคนขับยิ่งทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในคุก ทั้งที่มี 2 ชีวิต 2 พี่น้อง ของ 2 PM นั่งอยู่ ถ้าดูๆพวกเขา 2 คนน่าจะพูดกันด้วยลมหายใจมากกว่า เพราะเสียงที่ดังอยู่ในตอนนี้มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองเท่านั้น
“เฮ้อ อึกอัด”และเป็นน้องเล็กของวงนั้นเองที่ไม่ไหวจะทนกับความอึดอัดในรถ ถอนหายใจแล้วพูดออกมา พร้อมกับหันไปหาจุนซู
“พี่จุนซูอ่า พี่พูดมั้งสิ ผมฟังเสียงหายใจพี่ไม่ออกหรอกนะ”ชานซองวางท่าจะดิ้นบนเบาะรถ กลับมาแล้ว หมีน้อยชานของเรา แบนปากออกมาแล้วคว้ามือถือมากดหยิกๆๆๆ แก้เซ็งเพราะไม่มีที่ท่าว่าคนที่นั่งข้างๆจะพูดอะไร
รู้ว่าจุนซูเป็นคนเงียบอยู่แล้ว แต่หลังจากเหตุการณ์ตื่นตัว(?) เมื่อเช้านั้นยิ่งทำให้จุนซูเงียบไปมากกว่าเดิม มือก็กดโทรศัพท์แต่ตากลับเหลือบไปมองจุนซูที่เอาแต่ฟังเพลงในMP3 เป็นระยะ
จะทนไม่ไหวแล้วนะ
นั้นคือเสียงเด็กน้อยชานซองร่ำร้องอยู่ในใจ
หนทางยังอีกยาวไกลเพราะกองถ่ายอยู่แถวๆชานเมือง ถ้ายังนิ่งสนิทอยู่อย่างนี้ ชานซองคนนี้ต้องบ้าตายแน่ อ้อนดีกว่า อย่างนี้ต้องอ้อน นี่แหละคือ ฮเว ชานซอง
“พี่จุนซู ผมง่วงอีกแล้ว”ว่าพรางสะกิดแขนให้จุนซูเลิกสนใจสิ่งไร้สาระนอกหน้าต่างรถแล้วกลับมาสนสิ่งที่ไร้สาระกว่าในรถอย่างเขา
จุนซูเอาหูฟังออกข้างหนึ่งแล้วหันไปมองชานซอง จับทำนองเพลงเป็นสติไม่ให้คิดถึงเรื่องเมื่อเช้า ทั้งที่เป็นเรื่องปกติที่เด็กชายวัยรุ่นจะรู้สึกอะไรอย่างนี้ แต่ทำไมต้องเป็นชานซองเด็กน้อยของเขา และทำไมต้องเป็นเพราะเขาที่ทำให้ชานซองรู้สึก
“อะไรนะ พี่ไม่ได้ยิน”ทวนคำถามไม่ได้ยินจริงๆเมื่อครู่ ชานซองแบนปากออกมาอีกนิดไม่พอใจที่จะต้องพูดซ้ำ
“บอกว่า ง่วงแล้วอ่า”
“งั้นก็นอนสิ บอกพี่ทำไม”ว่าแล้วก็กำลังจะคว้าหูที่ถอดออกไปเมื่อครู่กลับมาใส่เหมือนเดิท ทำเป็นไม่สนใจทั้งที่หัวใจกำลังเต้นแรง
ไม่ทันมือไวอย่างชานซอง ชานซองขยับเข้าไปเบียดจุนซูแล้วจับมือของจุนซูที่ถือหูฟังค้างอยู่ไว้ทั้งใส่หูฟังนั่นเอง
ฟังไม่ออกแล้วทำนองเพลง หน้าแดงแน่นอน รู้ดีเพราะตอนนี้ใบหน้าร้อนมากจนลามไปถึงใบหูเลย
“ชะ.....”อยากจะโวยวาย แต่ช้าไป ชานซองล้มตัวลงมาหนุนตักตนเองเป็นหมอนเหมือนที่ชอบทำกับจุนโฮ
“มันต้องอยู่ใกล้ๆกัน ผมฟังไม่ถนัด”แล้วก็ยิ้มให้พี่ชายเพียงศักดิ์ อีกครั้งที่เขาเห็นใบหน้าใสแดงระเรื่อและดึงดูดให้เขาอยากจะแกล้ง
“พี่ฟังได้ใช่ไหม”เสียงทุ้มราวเด็ก กลับกลายเป็นเสียงแกร่งของชายหนุ่มไม่ได้แฝงความเอาแต่ใจเหมือนเด็ก แต่แฝงด้วยเล่ห์นัยบางอย่าง
มือหนาเอื้อมขึ้นไปสัมผัสที่กกหูของจุนซูข้างที่สวมหูฟังอยู่ แกล้งกระชับหูฟังของจุนซูมากขึ้นแล้วลากมือช้าผ่านแก้มเนียน นุ่มมากจริงๆ เขาแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะนุ่มได้ขนาดนี้
ทุกสัมผัสที่มือผ่าน ร้อนผ่าว จนเลือดยิ่งสูบฉีดหน้า ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน เล่นเอาจุนซูทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่อ หายใจติดขัด ดวงตาใสเบิกกว้างเล็กๆเป็นเชิงตกใจ กับการกระทำของชานซอง
น่ารัก!
นั้นคือสิ่งที่ชานซองคิด ลอบยิ้มออกมา และรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาได้ยินเสียงหัวใจของจุนซูดังมาก แถมรั่วเร็ว แต่นั้นก็ไม่ได้ต่างกับเขาเลย จนเกิดความสงสัยว่าจังวะการเต้นจะเป็นจังหวะเดียวกันรึเปล่า
ยังไงความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของชานซองก็ยังมีอยู่
“ดังจัง”ไม่ใช่เสียงเพลงแต่เป็นเสียงหัวใจทั้งคู่ ชานซองพูดออกมา พร้อมกับยืดตัวขึ้นไป แล้วเอาหูอีกข้างแนบอกของจุนซูพร้อมทั้งใช้มือจับอกตัวเองเหมือนกัน
“เต้นเร็วเหมือนกันเลย”พูดออกมาเบาๆ จุนซูก็ไม่อาจจะได้ยิน ตอนนี้อื้อไปหมดแล้ว มีเพียงอย่าเดียวที่ขยับอยู่คงเป็นหัวใจของเขาหละมั้ง
“พี่หายใจแรงด้วย”ว่าแล้วก็ยืดตัวขึ้นไปประจันหน้ากับจุนซู หากแต่ไม่ได้สบตา เพียงแค่ใช้แก้มของตัวเองรับสัมผัสลมหายของจุนซูเท่านั้น
อยากรู้ว่าตอนนี้จุนซูกำลังทำหน้าอย่างไร ชานซองจึงหันตรงหน้าจุนซูทันที ใบหนาห่างกันเพียงปลายจมูกชน ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากของมักเน่อีกต่อไปเมื่อเขาสบตากับจุนซู
ราวกับส้องกระจก จุนซูเป็นอย่างไรเขาก็เป็นอย่างนั้น
หัวใจเต้นรั่วเร็วเช่นกัน
หายใจติดขัดเช่นกัน
หน้าใสร้อนผ่าวจนแดงระเรื่อเช่นกัน
แล้วความรู้สึกหละ จะเหมือนกันรึเปล่า
มือหนาเลื่อนจากลำคอขาวขึ้นมายังคางแหลมของอีกคน จนนิ้วสัมผัสโดนริมฝีปากนุ่ม ลูบไล้เบามือ สัมผัสนุ่มจนอยากจะทาบทับด้วยริมฝีปากของตัวเองแทนปลายนิ้ว
อยากจะเอียงหน้าหลบแต่ก็ได้เพียงคิด ไม่รู้อะไรที่สะกดให้จุนซูทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งราวรอรับสัมผัสบางอย่างจากคนตรงหน้า
ชานซองไม่รอช้า เอียงหน้าเล็กน้อยหลบจมูกโด่งของจุนซู พร้อมกับเรื่อยใบหน้าเข้าไปอีก จนริมฝีปากสัมผัสได้ถึงความนุ่มของริมฝีปากอีกฝ่าย กดจูบลงไปเบาๆ ไม่ได้รีบร้อน เร่งเร้า เพียงแค่สัมผัส แล้วถอนริมฝีปากออกมา มองใบยังจุนซูที่ยังคงนิ่งสนิททำอะไรไม่ถูก
มักเน่ยกยิ้มมุมปากที่ไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากจุนซู เลื่อนปากหยักลงไปกดจูบอีกครั้งแต่กลับหนักแน่นขึ้น จูบเน้นย้ำเบาๆชิมรสหวานของนมที่คนตัวเล็กกว่าดื่มมาก่อนออกจากบ้าน ปลายลิ้นร้อนแตะเบาๆเป็นเชิงขออนุญาต
ไม่ได้อนุญาตแต่กลับเปิดช่องทางให้ลิ้นร้อนของรุ่นน้องแทรกผ่านเข้าไปได้
มือหนาเลื่อนขึ้นไปตรงท้ายถอยรั้งจุนซูให้แนบชิดมากขึ้น
เอี๊ยด!
ปึก! ร่างใหญ่ของชานซองกลิ้งลงไปบนพื้น
“โอ้ย เจ็บชิบ”ชานซองลุกขึ้นมานั่งบนเบาะเหมือนเดิม แล้วลูบแขนตัวเองที่ฟาดกับขอบประตูปอย่างเต็มแรงจนแดง
ปี๊น!!!
“เฮ้ย!”จุนซูสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงแตรทำให้เขาดึงสติกลับคนมาได้ คลายตัวออกจากมนสะกด แต่สติก็ยังกระจายไม่เข้าทีดีพอ
“ขับให้มันดีๆได้ไหมว่ะ”คำสบถของคนขับรถทำให้เขารู้ว่าข้างนอกมีอุบัติเหตุแต่ดูจะไม่ได้รุนแรงมาก
“พี่จุนซูเป็นอะไรไหม”ชานซองเลิกสนใจตัวเองเมื่อได้ยินเสียงของคนข้างตัวร้องออกมา จับร่างเล็กกว่าพลิกไปมาหาบาดแผล
“พี่จุนซู ถ้ายังไม่รวบสติอีก ผมจะจูบพี่อีกครั้งนะ”ชานซองขู่เสียงเข้ม จุนซูเอาแต่นั่งนิ่ง เขาก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าร่างกายนั้นเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่
“ไม่เอา ไม่เจ็บ ไม่รู้”พูดจบก็ปิดปากตัวเองทันที กลัวชานซองจะทำจริง
“ไม่เจ็บจริงๆนะ”ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จุนซูเพียงพยักหน้าตอบเท่านั้น ชานซองถอนหายใจออกมา แล้วทิ้งตัวลงพิงเบาะรถ
“ผมขอโทษ ผมห้ามใจไม่อยู่”พูดแค่นั้นแล้วหลับตาลง ด่ากรนตัวเองในใจที่ทำเรื่องบ้าๆลงไปกับพี่ชานร่วมวง ของเพียงอย่างเกลียดกับการกระทำเกินยั้งคิดของเขาก็พอ
“อย่าโกรธผมนะครับ”พูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่กลัวลืมตาขึ้นมาไม่รู้ว่าจุนซูจะทำหน้าแบบไหน ไม่อยากมอง
จุนซูนะเพรอ หันไปมองตามที่ชานซองพูดทั้งที่ยังเอามือกุมปากอยู่ แล้วพยักหน้ารับรู้อย่างเงะๆงักๆ ชานซองคงหัวเราะใหญ่ถ้าลืมตาขึ้นมาในตอนนี้ เพราะคนที่ราวเด็กน้อยกลับเป็นจุนซูแทน
.............................50%
อ่า มาแต่ง 50%ให้คร้า
รู้ไหมความสุขความสุขคนเราอะมีไม่กี่อย่าง
แล้วอะไรที่ทำให้รู้ว่าเรามีความรู้ นั้นคือการที่เราทำสิ่งนั้นอย่างเต็มใจ และไม่ฝืน
ความสุขของกั๊กคือการแต่งนิยาย อาจจะเล็กๆ นิดๆหน่อยๆ ดูไร้สาระ แต่นั้นก็คือความสุขที่เราสามารถเอื้อมคว้าได้
ขอให้คนอ่านทุกคนเข้าใจถึงความสุขเล็กๆของกั๊กด้วยนะคะ
เด๋วมาต่อให้คร้า อิอิ .......
อ่าขอบคุณทุกคอมเม้นจริง ยิ่งคอมเม้นยาวๆ อย่างหลายคนนั้น เป็นอะไรที่อ่านแล้วปลื้มใจจริงๆ นั้นก็เป็นอีกความสุขหนึ่ง ขอบคุณที่เลือกที่จะอ่านเรื่องนี้คร้า อิอิ
ขออีก 5เม้นน่าคร้า
ความคิดเห็น