คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER1 ทางสว่างไปพบรักแท้
CHAPTER 1
ทางสว่างไปพบรักแท้.
ในขณะที่เจ้าชายกำลังเดินอยู่ในตรอกนี้เพื่อไปหาแม่น้ำฮั่นด้วยระยะทางที่ค่อนข้างใกล้และเหน็ดเหนื่อย เมื่อเข้าเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เข้าหยุดชะงักมอง
และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าชายคือ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
กำแพงทางตัน
“ไอ้มหา!!!! ” ทำให้เจ้าชายถึงกับชักดาบออกมาเพื่อจะวิ่งกลับไปแทงไอ้มหา
“อย่าลืมถ้าเจ้าเจออุปสรรคใดๆจงข้ามมันไป” อยู่ดีดีก็มีเสียงนี้ลอยเข้ามาในหูของเจ้าชาย ทำให้เจ้าชายหันกลับไปมองที่กำแพงอีกครั้ง แล้วตัดสิ้นใจ ที่จะ
ปีนข้ามกำแพงนี้ไป
ในขณะเมื่อเจ้าชายปีนกำแพงจนถึงยอด ทำให้เห็นบางสิ่งบางอย่างนั้นคือ
.
.
.
.
.
.
.
ทางสว่าง
แสงไฟที่ประดับประดาทางเดิน และผู้คนที่เดินไปมามากมายเห็นแล้วดูมีสีสันทำให้ผู้ชายที่อยู่แต่ในวังยิ้มออกมา จากนั้นเข้าจึงตัดสินใจกระโดดข้ามมาโดยไม่ได้ใส่ใจข้างล่างเลย
“โอ้ยยยยยยยยย”
“แย่แล้ว” เซฮุนตกใจกับสิ่งที่เท้าตัวเองสัมผัสได้เมื่อกี้นี้
“นี่นายคิดว่าเป็นทหารอยู่ในวังคิดอยากเหยียบหัวใครก็ได้งั้นหรอห๊ะ” หญิงสาวด่าเซฮุนพร้อมชี้หน้า
“เอิ่มมมมคือว่า... คือว่าคือๆๆๆ... ข้าขอโทษ...” ก้มหน้าพูดตะกุกตะกักเพราะกลัวหญิงคนข้างหน้าจะฆ่าเอา
“หึ~ ขอโทษแล้วมันนน....” หญิงสาวพูดไม่ทันจบ ผู้ชายที่เอาแต่ก้มหน้าเงยหน้าขึ้นมาทำเอาแทบจะเป็นลม เนื่องจากความหล่อของชายคนข้างหน้าขโมยหัวใจคุณไปมักๆ
ไม่ต่างกับเขาก็เช่นเดี่ยวกันที่เข้าเห็นใบหน้าของคุณ แล้วรู้สึกว่าโลกมันหยุดหมุน
“หึงั้นไม่เป็นไรฉันให้อภัยนาย” พูดจบคุณก็ส่งยิ้มอันแสนละลายไปให้เข้า ในใจคุณก็ได้แต่คิดว่าเพราะนายหล่อฉันถึงให้อภัย ชายตรงหน้าได้แต่พยักหน้ารับ ไม่พูดอะไรเนื่องจากเห็นรอยยิ้มของคุณทำให้เข้าถึงกับใจละลาย
“นี่เธอ...เอิ่มคือเธอชื่ออะไรล่ะ” เข้าตะโกนถามคุณที่เดินไป จนคุณหันมาตอบแบบอายนิดๆ
“ปาร์ค ยองกวาง” คุณหันกลับไปอีกครั้งแต่ในใจคุณเองก็อยากถามชื่อเข้าเช่นกัน
“ผมชื่อ โอเซฮุน นะ” เขาตะโกนมาบอกคุณ
“อืม” คุณหันไปตอบเขาแบบนี้เพราะคุณเขินเขามากๆนะสิ แต่จะบ้าหรอยองกวางที่คนในหมู่บ้านเล่าขานถึงความสวยแถมหยิ่ง-*- เพราะผู้ชายที่ไหนมาจีบเธอ เธอก็จะวิ่งไล่กระทืบเขาสะหมด ก็คนมันไม่ชอบนิเนอะ
“...ทำไมเราต้องตะโกนบอกเธอไปแบบนั้นล่ะ และทำไมเธอถึงตอบกลับมาแค่อืม ทำไมๆ...” เซฮุนได้แต่สบถตัวเองอยู่ในใจ และยังไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำไปเมื่อกี้
“ยองกวางเราไปดูดอกไม้ไฟกันไหม” ปากเจ้ากรรมของเขาดันพูดออกมาอีกครั้ง
“อืม จริงหรอ” คุณทำหน้านิ่งแต่ในใจจะระเบิด
“จริงสิครับ คุณโอ ยองกวาง” ตัวเซฮุนเองก็ไม่คิดว่าจะกล้ายิงมุขนี้ใส่คุณ แต่เซฮุนก็รู้สึกได้ว่าเธออึ้งกับประโยคของผมมะกี้ไปเล็กน้อย
และในขณะที่คุณกำลังอึ้ง คุณก็ไตร่ตรองพิจารณาชายข้างหน้า
“...หมอนี่กะล่อนไม่เบา...”
“ อืมไปก็ไป” ตอบกลับไปแบบคอนข้างระแวงผู้ชายคนข้างหน้า
“ ถ้างั้นเราไปนั่งตรงนู้นกัน” เขาบอกคุณเมื่อมองเห็นม้านั่งที่ว่างอยู่
“ อืม ” ในใจเซฮุนตอนนี้คิดว่าหญิงงามคนนี้พูดเป็นแต่อืม หรือไงงงงง
เมื่อคุณนั่งลง คุณจึงนึกได้ว่าเขาเป็นทหาร
“ นี้นายออกมาแบบนี้ไม่โดนด่าหรอ”
“เอิ่มคือ เวรฉันตอนเช้าอ่ะ” พูดแถไปเพื่อไม่ให้รู้ว่าเขาคือองค์รัชทายาท หนีเที่ยว
“หรอแล้วนายรู้จักชานยอลไหม”
“อ่อใช่คนที่ป็นทหารตัวสูงๆขาโก่งๆ หูกางๆตาโปนๆดูเอ๋อ เปล่า” เซฮุนตอบไปตามสภาพความจริงที่เห็นชายทหารสองคนในวังก่อนหน้านี้
“แหม่นายนี้ว่าสะเสียพี่ชานยอลออกจะหล่อนะ”
ประโยคที่คุณพูดออกมาทำให้เซฮุนอ่อนไหวนิดๆ ผมรู้สึกสงสัยนายชานยอลเป็นอะไรกับเธอกันแน่
“เธอคบกับนายทหารชานยอลหรอ”
“บ้า!!!พี่ชานยอลเป็นพี่ชายของฉันแท้ๆนะ”
ประโยคคำตอบของคุณทำให้เข้ารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะเขาคิดว่าจะไม่โอกาสเสียแล้ว
ฟลิ๊ววววววว ปั๊งง
ไม่ทันใดเสียงพลุก็จุดขึ้น
คุณจึงดึงตัวของเขาเพื่อวิ่งไปดูใกล้ๆริมแม่น้ำด้วยกัน แต่เนื่องจากคุณดึงเขาแรงมากไปหน่อยจึงทำให้ตัวของเข้าล้มลงไปกับพื้น
“โอ๊ยยยยยยย” เสียงร้องเจ็บปวดของเขาดังขึ้น คุณมองสภาพของผู้ชายคนข้างหน้าที่ล้มลงไปด้วยความอ่อนแอ -_- ในขณะนั้นคุณก็สังเกตเหตุที่กางเกงตรงหัวเข่าของผู้ชายคนข้างหน้ามีเลือดออกมา
“นี้นาย!!! เลือดที่หัวเข่านายออกน่ะ” คณะนั้นคุณก็หยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากย่ามของคุณ
“ห๊ะ!!! อะไรนะเลือดออกงั้นหรอ” ผู้ชายคนข้างหน้าคุณ ตกใจเป็นอย่างมากเพราะตัวเขาเองเป็นถึงเจ้าชาย ซึ่งถ้ามีบุคคลใดทำให้องค์ชายได้รับบาดเจ็บต้องมีบทลงโทษขั้นรุนแรง
“เธอออ จะทำอะไรน่ะ” เขาถามคุณในขณะที่คุณก้มลงถกขากางเกงของเขาขึ้น ซึ่งขาวเนียนมาก -..-
“ก็ทำแผลให้นายไง”
“เธอทำแผลเป็นด้วยหรอ”
“ก็เป็นสิ ฉันลูกสาวหมอใหญ่แห่งตระกูลปาร์คเลยนะ นายไปอยู่ดงไหนมาเนี่ย” เขามองคุณที่กำลังทำแผลให้เขาอยู่ ในใจเซฮุนตอนนึกได้เรื่องหมอใหญ่แห่งตระกูลปาร์คมีความสามารถด้านการรักษาคนป่วยเป็นอย่างมาก ขุนนางใหญ่บางคนยังต้องออกไปหาหมอนอกวังเพื่อให้รักษาอาการป่วย และท่านพ่อก็เคยส่งสารเชิญตัวเขามาเป็นหมอในวังแต่หมอปาร์คปฎิเสธ เนื่องจากตนเองต้องการรักษาผู้คนยากจนนอกวัง ...นี้ชั่งเป็นครอบครัวที่ดีอะไรแบบนี้คงจะยกเว้นชายหูกางนั้นล่ะมั่งหึหึ
“นี้นายจะมองหน้าฉันอะไรหนักหนารีบลุกได้สักทีสิ”
“อ่อๆครับ” คุณเริ่มไม่ไว้ใจกับพฤติกรรมของชายคนข้างหน้าอย่างมาก แต่ไม่เป็นไรวันนี้มันวันแห่งความสุขนี้
คุณและเซฮุนยืนดูพลุบนท้องฟ้าที่จุดขึ้นเรื่อยๆ จังหวะนั้นคุณก็หันไปหาหน้าของเขาก็ได้พบรอยยิ้มที่มีความสุขของเขา รอยยิ้มของเขามันเหมือนมีความสุขกับสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน พูดง่ายๆเขาเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงโซลเอามากๆ ไม่ทันไรเขาก็หันหน้ามาหาคุณ ทำให้คุณต้องหันหน้าหลบเขาไปมองท้องฟ้าเหมือนเดิม
ทางด้านของเซฮุนก็มองคุณอย่างมีความสุขตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่าความรัก ผมอยากจะดึงเธอเขามากอดแต่ทำยังไงได้ล่ะเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนิและเหมือนผมจะชอบเธอข้างเดี่ยวด้วยสิ
เมื่อดูพลุบนท้องฟ้าเสร็จแล้วเธอก็เดินดูของที่มาขายตามข้างทาง โดยที่มีชายที่ไม่ได้รับเชิญอย่างผมตามมาติดๆ จริงๆเธอก็ไล่ผมไปนานแล้วละ แต่ผมบอกเธอว่าผมมาคุ้มกันหญิงงาม พอผมพูดคำนี้เสร็จเธอก็หน้าแดงอยู่เหมือนกัน สักพักเราก็มาหยุดที่ร้านขายปิ่นปักผม
“ยองกวางวันนี้พาหนุ่มที่ไหมมาจ๊ะหล่อมากสะด้วย” คนขายของกล่าวทักมายเราทั้งสองคน
“เออคือเป็นแค่เพื่อนกันค่ะป้า...”
“...เป็นแค่เพื่อนหรอเธอคิดกับผมแค่นั้นจริงหรอ...”
“อุ๊ยยย!!! ปิ่นอันนี้สวยจัง เท่าไรค่ะป้า”
“อันนั้น 520 วอนจ๊ะ เป็นหยกแท้ฝังมุขเลยแพงหน่อยนะ”
ผมรู้ว่าราคาของสิ่งนั้นทำเอาเธอชะงักเธอจึงว่างสิ่งนั้นลงบนโต๊ะเหมือนเดิม ผมก็ว่าจะซื้อให้เธออยู่นะแต่ทำไงได้เจ้าชายที่ไหหนเขามีเงินติดตัวกัน ไว้รอวันหลังและกันนะยองกวาง... แต่เมื่อเธอว่างสิ่งของที่ผมหมายจะซื้อให้เธอไป ก็มีมือของผู้หญิงอีกคนมาหยิบของสิ่งนั้นไป
“...เธอเป็นใครกันนะ…”
50%
“...เธอเป็นใครกันนะ…”
“ปิ่นอันนี้สวยจังนะเพค่ะ” หญิงปริศนาที่คลุมผ้าหันไปคุยกับผู้ชายอีกคนที่ปิดใบหน้าเช่นกัน
“ใช่สวยเหมือนเจ้านั้นล่ะ” คำหยอกล้อของคู่รักสองคนนี้ทำเอายองกวางแทบอ้วก
“...ว่าแต่เสียงของผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้นมันเหมือนกับ...” ผมรู้สึกคุ้นหูกับเสียงทั้งสองคนนี้มาก
“...อย่าบอกนะว่าเป็นเสด็จพ่อเสด็จแม่!!!...” ผมจึงเริ่มเดินห่างๆออกมาแล้วหันหลังที่จะเตรียมวิ่ง แต่ว่ามีมือปริศนามาแตะที่ไหล่ของผม
“นี่เจ้าน่ะเป็นทหารในวังหมดเวรยามแล้วไม่ควรจะมาใส่เครื่องแบบเดินเที่ยวแบบนี้”ผมหันหน้าไปพบกับเจ้าของมือปริศนาที่ตอนนี้เขาก็ตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของผม
“อร๊ากกกกกกกกกกกกกกก~นี้ลูกพ่อออมาอยู่นี้ได้หงายยยยย!!!!!”
“เสด็จพ่อยกโทษให้ลูกด้วยกระผมผิดไปแล้วเสด็จ กระผมแค่รู้สึกอยากสนุกจึงออกมานอกวังโดยภาระการ” ผมนั่งคุกเข่ารับโทษต่อหน้าเสด็จพ่อที่โทษครั้งนี้คงไม่เบาเป็นแน่
“ ฮ่าๆ นี้เจ้าลูกไม้หล่นไม่ใกล้ต้นจริงๆ” แต่ท่านพ่อกลับดันหัวเราะพร้อมกับลูบหัวผมไปด้วย
“เสด็จพ่อจะยกโทษให้กระผมหรอครับ”
“ใช่เพราะตอนพ่ออายุเท่าเจ้าพ่อก็ชอบหนีออกมานอกวังแบบนี้ล่ะ ฮ่าๆ” ผมรู้สึกดีใจที่ท่านพ่อให้อภัยและเขาใจพฤติกรรมของผม เพราะตัวเองก็เคยทำนี้เอง
“เออว่าแต่ เด็กผู้หญิงคนเมื่อกี้ใครล่ะ หน้าตาสวยใช่ได้เลยหนา”
“อ่อ คือก็แค่เพื่อนกันครับเสด็จพ่อ” ผมตอบเสด็จพ่อไปด้วยหน้าที่เศร้าเพราะเธอคิดกับผมแค่นั้นนิ
“จริงหรอ เจ้านิโกหกไม่เก่งเลยนะ ฮ่าๆ” จากสีหน้าของเซฮุนทำให้คยูฮยอนดูออกได้เลยว่ากำลังโกหก
ทางด้านคุณ
คุณถูกผู้หญิงอีกคนลากคุณมาที่มุมนึ่ง ด้วยความสงสัยฉันจึงถามเธอไปว่า
“ขอโทษนะค่ะ...คุณมีอะไรกับฉันหรอค่ะ” คุณถามเขาไปตามมารยาท
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับหล่อนน่ะ”
“เรื่องอะไรหรอค่ะ”
“เธอมากับผู้ชายที่ใส่ชุดทหารนั้นใช่ไหม” ถึงทหารคนนั้นจะพลางตัวมาขนาดไหนมีหรอว่าคนเป็นแม่อย่างเธอจะจำลูกชายตัวเองไม่ได้
“ เปล่าค่ะ ฉันกับเขาพึ่งเจอกันเมื่อไม่นานมานี้”
“ แล้วหล่อนเจอเขาได้ยังไง” คุณจึงบรรยายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้หญิงปริศนาฟัง
“พ่อหนุ่มคนนั้นดูมีใจให้เธอนะ ว่าแต่หล่อนมีนามว่าอะไรล่ะ”
“ยองกวางค่ะ”
“ยองกวางงั้นหรอ ข้าจะเก็บไว้พิจารณาแล้วกันนะ” จากนั้นผู้หญิงปริศนาคนนั้นก็เดินจากคุณไป
“...อะไรของเขานะ…” คุณสบถออกว่าสงสัยหญิงปริศนาคนนั้น
“ว่าแต่ไอ้ทหารกะหล่อนนั้นหายไปแล้วนิ ว่าแล้วกะหล่อนไม่มีผิด” คุณยืนบ่นคนเดี่ยวเสร็จก็เดินทางกลับบ้านอย่างสบายใจ
ทางด้านเซฮุน
ผมยืนมองผู้หญิงอีกคนที่มากับเสด็จพ่อซึ่งก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเสด็จแม่ของผม
“องค์ชายออกมาเที่ยวนอกวังแบบนี้ไม่ได้นะรู้ไหมมันอันตราย” ซอฮยอนบ่นกับลูกชายสุดรักของตัวเอง
“ครับเสด็จแม่กระผมผิดไปแล้ว” ผมรู้ดีว่าเสด็จแม่เป็นห่วงผม
“เอาหนาฉันว่าลูกไปแล้วล่ะเธอกับลูกก็กลับวังกันได้แล้ว” คยูฮยอนบอกกับซอฮยอน
ในระหว่างที่เรา พ่อแม่ลูกทั้ง3คนกำลังเดินทางกลับวัง เราก็ได้พบกับขุนนางใหญ่บังยงกุก
“ฝ่าบาทปลอมตัวออกมานอกวังอีกแล้วหรือขอรับ” คุกเข่าพร้อมกับหญิงอีกคนที่มาด้วย
“อืมใช่ ข้ามาดูว่างานเทศกาลที่จัดขึ้นได้ผลขนาดไหน” คยูฮยอนตอบคำถามของยงกุก
“ขอรับฝ่าบาท ว่าแต่ทำไมวันนี้มีทหารติดตามมาด้วยล่ะขอรับ” ผมที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังก็เขยิบออกมาให้ขุนนางผู้นั้นเห็นหน้าผมชัดๆ แต่สายตาผมกับไปประจบกับหญิงอีกคนที่ติดตามขุนนางผู้นั้นมาด้วย
.
.
.
.
.
“…ชั่งงดงามจริงๆ...”
“นั้นองค์รัชทายาทนี้ขอรับฝ่าบาท”
“อืมใช่ วันนี้ลองมาแบบครอบครัวดูน่ะ ฮ่าๆ” คยูฮยอนตอบไปโดยที่ไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ว่าองค์รัชทายาทหนีออกมาเอง หญิงผู้งดงามคนนั้นเมื่อได้ยินว่าผมเป็นองค์รัชทายาทก็ก้มหน้ารับอีกครั้ง
“นี่ท่านขุนนางบังยงกุก เด็กสาวคนนั้นเป็นลูกของท่านหรือ” ซอฮยอนถามออกไปเนื่องจากกิริยามารยาทและหน้าตาของเด็กสาวคนนี้ชั่งเข้าตาซอฮยอนมากๆ
“ใช่ ขอรับพระมเหสี นี่มินอาลูกสาวของกระผมเองขอรับ”
“ มินอาเธอคงรู้ใช่ไหมว่าอีกสามเดือนข้างหน้า เธอมีงานสำคัญเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
“เพค่ะ พระมเหสี ดิฉันจะไปงานสำคัญนี้ให้ได้เพค่ะ” มินอาตอบรับการเชิญชวนจากซอฮยอนด้วยความตั้งใจ
งานสำคัญนี้ถึงไม่มีใครพูดชื่องานออกมาผมก็รู้แล้วล่ะว่ามันคืองานอะไร นี้ทั้งเสด็จพ่อเสด็จแม่ยังพยายามให้ผมแต่งงานให้ได้ใช่ไหม แต่ทำไมหญิงงามคนนี้ทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหวเหมือนกับตอนที่เจอยองกวางเลย
“ข้าขอตัว ก่อนนะเริ่มดึกเกินมันจะอันตราย” คยูฮยอนบอกกับยงกุก ทำให้เซฮุนและซอฮยอนเดินกลับตามไป
“ขอรับฝ่าบาท” ยงกุกและมินอาก้มคำนับอีกครั้ง
ผมเดินตามหลังเสด็จพ่อเสด็จแม่ออกมาโดยที่ผมหันหลังกลับไปมองใบหน้าของมินอาอีกครั้ง โดยเป็นจังหวะพอดีที่เธอหันมายิ้มให้ผมเช่นกัน ทำไมหัวใจมันเต้นแรงแบบนี้
และเมื่อผมและเสด็จพ่อและแม่เดินมาถึงหน้าประตูวังทางส่งสินค้า
“นี้องค์ชายทำหน้าที่ทหารหน่อยสิ” เสด็จพ่อกล่าวกับผม
“หน้าที่อะไรหรอครับเสด็จพ่อ” ผมถามเสด็จพ่อด้วยความสงสัย
“ก็เวลากษัตริย์เข้าวังทหารรับใช้จะต้องทำยังไงเล่า”
“ เปิดประตูวัง ฝ่าบาทเสด็จ” เมื่อผมนึกออกจึงพูดออกไปในระดับเสียงที่เบา
“ให้ตะโกนไม่ใช่คุยกับยุง ให้มันกว่านี้สิ” และมันก็ทำให้ผมโดนเสด็จพ่อว่า
“ เ ปิ ด ป ร ะ ตู วั ง ฝ่ า บ า ท เ ส ด็ จ จ จ จ จ จ จ !!!!!” ผมตะโกนออกไปด้วยความดังนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมตะโกนเสียงดังขนาดนี้
จากนั้นประตูจึงเปิดขึ้นพร้อมกับทหารตัวสูงที่ดูปัญญาอ่อนสองคนกระโดดออกมา ทหารสองคนนั้นชักดาบออกมาชี้ที่หน้าของผม ทำให้พระเจ้าคยูฮยอนและมเหสีซอฮยอนตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่เจ้าเอาชาวบ้านสองคนนี้มาอ้างเป็นฝ่าบาทได้อย่างไร” ทหารอู๋อี้ฝานถามตัวผม
“ฝ่าบาทเราลืมไปค่ะว่าปีนกำแพงออกมา” ทางซอฮยอนที่กระซิบคุยกับคยูฮยอนเนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้ออกทางประตู
“ อืมข้าลืมไปจริงๆ” คยูฮยอนตอบกลับซอฮยอน จากนั้นคยูฮยอนก็เปิดผ้าคลุมออก
“ ข้าคือฝ่าบาท ” ทำให้ทหารสองคนที่เห็นถึงกับตกใจตัวแข็งเป็นหิน
“ ฝ่าบาทกระหม่อมทั้งสองคนผิดไปแล้ว” ทั้งสองนั่งคุกเข้าก้นหน้ารับโทษ และร้องไห้อ้อนวอน
“ข้ากับนายทหารชานยอลขออภัยที่เข้าใจผิดไปขอรับฝ่าบาท”
“หึๆ ไม่เป็นไรเจ้าสองคนทำหน้าที่ทหารได้ดีมาก ข้าจะยกโทษให้” ถึงจะเป็นการหมินต่อคยูฮยอนเช่นใด แต่ทหารสองคนนี้ก็ไม่ได้ทำผิดเนื่องจากทุกอย่างเกิดจากความเข้าใจผิด
“ทรงพระเจริญครับฝ่าบาท” ทหารทั้งสองก้มหน้าร้องไห้กับพระมหากรุณาจากพระเจ้าคยูฮยอน จากนั้นฝ่าบาท พระมเหสี และเซฮุน ก็เดินกลับเข้าวังไป
“ไงไอ้หยอย เกือบไปแล้วไหมมึง” อี้ฟานพูดกับเพื่อนไปร้องไห้ไป
“ไอ้อู๋ใครจะไปรู้ว่ะ คอเกือบหลุดจากบ่าแล้วไง”
“ ดีนะที่ฝ่าบาททรงไม่เอาความ เออมึงว่าแต่ไอ้ทหารนั้นมันใหญ่มาจากไหนว่ะ”
“ไอ้อู๋กูก็ว่ามันพึ่งเข้ากรมมา แต่ทำไมมันได้คุ้มกันฝ่าบาทกับพระมเหสีเลยว่ะ”
“หยอยกูว่านะไอ้ทหารนี้มัน...”
“มันทำไมว่ะ??” ชานยอลรอคำตอบจากทหารเพื่อนรัก
“มันต้องเป็นยอดมนุษย์ฝ่าบาทถึงยอมให้มันคุ้มกัน มันต้องเก่งมากแน่ๆ”
“ ถุ้ย!!!! ไอ้สัสลูกคนขายกิมจิขวดนี้นะ” ชานยอลมองหน้าเพื่อนตัวเองที่ยังปัญญาอ่อนไม่เลิก
“เออ มึงลองแดกกิมจิขวดบ้านมันบ้างดิเพื่อมึงจะได้เป็นยอดมนุษย์” อี้ฝานตอบกลับชานยอลไป
“ กูว่ามึงเกินแล้วว่ะไอ้อู๋!!!!” ชานยอลมองหน้าทหารเพื่อนรัก แล้วส่ายหัวไปมา
เซฮุนเดินกลับมายังที่ตำหนักอีกครั้งทำให้นางกำนัลและทหารที่คุ้มกันต่างตกใจกันเป็นอย่างมากเนื่องจากกลัวถูกฝ่าบาทลงโทษแต่ก่อนหน้านี้เซฮุน ได้บอกเรื่องนี้กับฝ่าบาทไว้แล้วกับแผนที่ผมหลอกนางกำนัลและทหารขึ้นทำให้เสด็จพ่ออภัยให้เนื่องจากแผนที่กระผมทำมันชั่งร้ายกาจ ผมจึงบอกกับนางกำนัลละทหารทุกคนว่าอย่าห่วงไปเลย
ผมกลับมาเข้านอนอีกครั้ง แต่ก็ยังนอนไม่หลับเนื่องจาก จิตใจมันยังคิดถึงเธอสองคนนั้น คนที่มีรอยยิ้มที่งดงาม ใบหน้าที่สวยงาม กิริยามารยาทที่เพียบพร้อม ทำไมในหัวสมองของฉันมันมีเธอทั้งสองเข้ามาตีกัน สรุปว่าฉันรู้สึกยังไงกับยองกวาง ฉันรู้สึกยังไงกับมินอา ในสมองของเซฮุนตอนนี้มันมีแต่ความสับสนกับหญิงสาวทั้งสองที่เขาได้เจอภายในวันนี้
ทางด้านของคุณที่กำลังเดินกลับอยู่นั้นคุณก็ได้พบกับชายผิวสีคนนึ่ง ที่ตอนนี้เขากำลังได้รับบาดเจ็บ
“นี่นายๆเป็นอะไรไหม” คุณวิ่งมาดูอาการของเขา และเห็นที่อกข้างขวาของเขาถูกธนูยิง
“ก็โดนธนูยิงไง โอ๊ยฉันไม่ไหวแล้วว” เขาตอบกลับคุณอย่างกวนประสาทมากนี้ฉันกำลังช่วยนายอยู่นะ
“ ช่วยด้วยค่ะมีคนถูกทำร้าย” ด้วยความตกใจทำให้คุณทำอะไรไม่ถูกคุณจึงตะโกนขอความช่วยเหลือ
“เจ้าบุรุษผู้นี้เป็นอะไรหรอแม่สุภาพสตรี” ชายผู้ทรงธรรมที่กำลังเดินจงกลมอยู่ได้ยินเสียงจึงวิ่งมาดูพอดี
“เขาถูกธนูยิงค่ะ” คุณบอกกับชายผู้ทรงธรรมที่อยู่ข้างหน้า
“พาไปที่สำนักของฉันอยู่ใกล้ๆนี้ ยิ่งอยู่ตรงนี้อันตรายเดี่ยวศัตรูของบุรุษผู้นี้มาเห็นจะเป็นอันตรายต่อสุภาพสตรีได้” มหาผู้ทรงธรรมบอกกับคุณเนื่องจากกลัวภัยอันตราย
“เรารีบพาเขาไปเถอะค่ะ” คุณพยายามที่จะแบกตัวเขาไป แต่นายนี้มันก็นักไม่ใช้เล่น
“ ไม่เป็นไรเดี่ยวข้าเรียกลูกศิษย์ของข้ามานำชายคนนี้ไปท่านสุภาพสตรีจะตามไปก็ได้นะ” จากนั้นมหาก็ท่องคาถาที่ฟังล้วมันไม่ใช่คาถาสักเท่าไร
ชังนันเน นอ โดแดเช แนกา มวอยา
มันมันเน Uh นัลกัทโด โนนึนกอยา
นอ จีกึม วีฮอมแม เว นารึล ชีฮอมแม
เว นารึล ชีฮอมแม เฮดกัลรีเก ฮาจีมา~
อยู่ดีๆก็มีลูกศิษย์ของเขาทั้ง7คนปรากฏตัวขึ้น
“ท่านอาจารย์เรียกพวกผมมามีอะไรให้รับใช้ครับ”
“นัมจุนช่วยนำร่างของชายผู้นี้ไปที่สำนักหน่อย” มหาบอกกับลูกศิษย์นัมจุน
“ได้ครับท่านอาจารย์ ลูกศิษย์ทั้ง7ก็ช่วยกันอุ้มร่างของชายผิวสีคนนั้น และก็หายตัวไป”
“อ่าวไป หายไปไหนแล้วล่ะ” คุณตกใจกับเหตุการณ์ตรงข้างหน้าอะไรที่คนพวกนี้หายตัวได้
“ไม่ต้องกังวลไปท่านสุภาพสตรี เดี่ยวเจ้าตามกลับไปที่สำนักกับข้าก็ได้” ด้วยความความชอบยุ้งเรื่องชาวบ้านของคุณจึงตามหาไปเนื่องจากเขามามีพิษภัยแน่นอน
จากนั้นคุณกับมหาก็ได้ตามไปที่สำนัก ทั้งที่มหาก็หายได้ทำไมให้มาเดินก็ไม่รู้!! เมื่อเข้าไปในสำนัก ก็มีแก๊งลูกศิษย์ค่อยนั่งสมาธิส่งกระแสจิตอยู่
“บุรุษผู้นี้อาการหนักมากครับท่านอาจารย์เราควรไปตามหมอมา” เสียงของจองกุกตะโกนบอกท่านอาจารย์เมื่อเห็นร่างกายของชายผิวดำผู้นี้ไม่ไหวแล้ว
“เดี๋ยวฉันไปตามมาให้ค่ะ” คุณรู้ดีว่าอาการถูกธนูยิงแบบนี้ทั้งเมืองคงมีพ่อของตนเองเท่านั้นที่สามารถรักษาให้ได้ คุณจึงรีบวิ่งกลับไปที่บ้าน
ณ ตำหนักหมอตระกูลปาร์ค
“นี่ดาร่าลูกสาวเราหายไปไหนทำไมยังไม่รีบกลับมาวันหลังฉันจะไม่ให้ออกไปแล้วนะ” ผู้เป็นพ่อนั่งตบยุงรอรับลูกสาวกลับบ้าน
“ยูชอนอย่าบ่นมากเลยหนาลูกก็โตๆแล้วเดี่ยวก็กลับมา”
“พ่ออออออออออ” เสียงของคุณดังขึ้นทำให้ผู้เป็นแม่หันกลับไปบอกผู้เป็นพ่อ
“ นั้นไงเห็นไหมกลับมาแล้ว”
“ไปไหนมาเนี้ยวิ่งมาสะเหงื่อเต็มตัว หรือแอบไปกระโดดน้ำเล่นมาฮ่ะ บอกไม่ให้ไปเล่น แล้วนี้ก็ดึกแล้วข้าวปลาไม่กินหรือไง ” ยูชอนเห็นสภาพลูกสาวตนเองที่เนื้อตัวเปียกไปด้วยเหงื่อก็โถมคำด่ามาสารพัด
“ไม่ต้องบ่นแล้วพ่อไปกับหนูเดี่ยวนี้เลย แม่ค่ะหยิบย่ามทำแผลของพ่อมาให้ด้วยนะค่ะ”
“จ๊ะๆเดี่ยวแม่หยิบให้” เมื่อคุณแม่ดาร่าหยิบของให้เสร็จคุณก็ลากคุณพ่อยูชอน ของคุณวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
ณ สำนักจงแดแดนมหาธรรม
“มาแล้วครับท่านอาจารย์” เจโฮปเห็นคุณและยูชอนจึงวิ่งไปบอกท่านอาจารย์
“อะไรมาหรอเจโฮป” มหาที่นั้งสมาธิอยู่ถามลูกศิษย์ของตน
“ หมาครับเห้ย!!! หมอครับท่าน”
“รีบๆนำหมอมาด่วนเร็วอาการบุรุษชายผู้นี้ไม่ไหวแล้ว”
“ไหนอยู่ไหน คนบาดเจ็บน่ะ” ยูชอนเปิดประตูเขามาเพื่อหาคนไข้
“อยู่ทางนั้นครับท่านหมอปาร์ค” มหาชี้ไปทางบุรุษที่นอนอาการใกล้ตาย หมอปาร์คจึงวิ่งไปดูอาการและทำการดึงธนูออก รีบเย็บแผลปิดให้เร็วที่สุด และใช้สมุนไพร่สูตรเฉพาะของตระกูลปาร์คประคบและดูและอาการคนไข้อย่างใกล้ชิด
ทำให้มหาและลูกศิษย์คนรักนั้นเห็นการเย็บแผลที่น่าเจ็บปวด
“นี่ล่ะบังทันทุกคนเหตุผลนี้เราไม่ควรจะไปสร้างศัตรูกับผู้ใด แบบนั้นจะได้รับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน” มหาสั่งสอนกับลูกศิษย์ที่รักของตนทั้ง7คน
“ ช่างเลื่อมใส จริงๆครับท่านอาจารย์” ลูกศิษย์ทั้ง7จึงทำการคำนับมหาด้วยความเลื่อมใส
คุณที่ยืนมองพฤติกรรมของพวกคนดีแล้วก็นึกเสียไม่ได้ว่ามันก็จริงล่ะผู้ชายผิวสีคนนั้นไปสร้างศัตรูที่ไหนกันล่ะ
หลังจากนั้น2วัน ชายผู้ผิวสีผู้นั้นก็รู้สึกตัวดีขึ้นกว่าเดิมทำให้คุณที่อยากรู้เรื่องเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
“นายชื่อว่าอะไร” คุณถามชายผิวสีคนนั้นด้วยความอยากรู้เรื่องชาวบ้านของตน
“ทำไมฉันต้องบอกเธอ” และชายผู้นั้นก็ตอบคุณด้วยคำพูดที่กวนประสาทเหมือนเดิม
“เออฉันจะได้เขียนใบจ่ายค่ายาได้ไง” คุณก็แถไปเรื่อยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มากที่สุด
“ ฉันชื่อคิม จง อิน” เขาตอบคุณด้วยท่าทีที่ไม่อยากจะตอบเท่าไร
“ นายทำงานอะไร แล้วนี้นายถูกยิงธนูได้ยังไง แล้วคนที่ยิงนายเป็นใคร” เมื่อเขายอมปริปากบอกชื่อคุณจึงได้โอกาสถามเขาต่อไป
“มันเกินไปนะที่เธอถามฉันมา!!! ” เขาพูดตะคอกคุณแล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง
“ เรื่องบางเรื่องไม่รู้สะชีวิตเธอจะปลอดภัยกว่านะ” จงอินบีบขอมือของคุณทำให้คุณร้องออกมา
“โอ๊ยยยย”
“ไหนใบจ่ายค่ายาฉันจะได้รีบๆไปจากที่นี้”
“ไม่มีอ่ะฉันให้นายฟรี”
“ฟรีคืออะไร” จงอินถามคุณเนื่องจากไม่รู้ความหมายของคำนี้
“นายไม่รู้จักคำตะวันตกพวกนี้หรือไง” คุณด่าย้อนเขากลับไป
“ถ้าฉันรู้ฉันจะถามเธอไหม แล้วไหนล่ะเอามาเร็วฉันจะได้ไปจากที่นี้สะ” จงอินรู้สึกรีบมากทั้งที่ยังไม่ค่อยจะหายดี
“ก็นายไม่ต้องจ่ายไงงงง!!~” คุณตะโกนตอบกลับเขาไปเนื่องจากไอ้จงอินนี้มันจะรีบไปไหนของมัน
“ อืม...เสียเวลาฉันหมด” จากนั้นจงอินก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไป
“นายนั้นไม่มีมารยาทเอาสะเลยหนา” คุณบ่นกับตัวเองและก็ได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา
****100% ผ่านไปแล้วกับตอนแรก ไรท์กลัวว่าวันอังคารจะไม่ว่างเลยมาอัพให้จบตอนไปก่อนเลย จงอินนี้เป็นคนไม่มีมีมารยาทจริงๆเลยเนอะ ขอขอบคุณคอมเมนต์เป็นกำลังใจจ๊ะยองกวางทุกคน ^_^ ****
ไรท์มีของแถมจ๊ะ
จากช๊อตที่องค์ชายเงยหน้าขึ้นมาเจอกับยองกวาง
ต่อด้วยแก๊งลูกศิษย์ของท่านมหาลูกศิษย์น่ารักน่าเอ็นดูทุกคนเลย
ความคิดเห็น