ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chuu .. ศิลป์ภาษาตัวร้ายกับนายวิทย์คณิต

    ลำดับตอนที่ #6 : [OS] ชู้ 50%

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 56


    ชู้

     

     

     

     

    เคยหลงรักคนที่ไม่ควรรึเปล่าครับ

    ความรู้สึกนั้นทั้งๆที่รู้ว่ามันก็ไม่สมควร

    แต่ความรู้สึกก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

    ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

     

    ...

     

     

     

     

     

               
                “เฮ !!!!!!!!!” เสียงโห่ร้องที่เต็มไปด้วยความสุขของเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงที่โห่ร้องกันด้วยความดีใจ ครับพวกเราเรียนจบปริญญาตรีกันสักที หลังจากทนเหน็ดเหนื่อยกันมานาน เหล่าบรรดาเพื่อนฝูงรวมถึงตัวผมที่กำลังมาจัดงานปาร์ตี้ริมทะเลเพื่อเป็นการแสดงความดีใจของพวกเราเอง

     

                เรียนจบสักทีน้า เหนื่อยแทบแย่ 4 ปีที่ผ่านมาขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่ออยู่ที่ริมชายหาย ฮยอนซึง เพื่อนรักของผมก็เดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ กอดคอผมและโยกเบาๆ ... ฮยอนซึงดีกับผมมาตลอด 4 ปี แต่ผมนี่สิ ... ผมที่เลว เลวมาตลอด 4 ปี

     

                ว๊าว มานั่งอยุ่ที่นี่เองเหรอ ทำไมไม่ไปสังสรรค์กันล่ะฮึ เจ้าอ้วนกับซึง ? ยงจุนฮยอง ครับ แฟนผมเอง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เหมือนทุกๆวันที่เขาเคยมองให้ผมมาตลอด 4 ปีเช่นเดียวกัน สำหรับผมเขาเป็นแฟนที่ดีมาก มากเสียจนเขาก็ทำให้ผมรู้สึกผิดเช่นกัน

     

                จุนฮยองลงมานั่งข้างๆผมพร้อมโอบเอวผมเบาๆด้วยสัมผัสที่ยังคงอบอุ่นเหมือนเคย ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้ผมเสียใจ ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว ...

                ก็ดาวตรงนี้มันสวยดิหนิ จุนฮยองลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสิ ^^” ผมพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า ที่ประดับไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ โชคดีที่วันนี้ท้องฟ้าเปิด อากาศดีมากสำหรับการดูดาวและการจัดกิจกรรมบริเวณชายหาดสำหรับพวกเรา บวกกับเสียงคลื่นกระทบทรายหาดที่แว่วลอยมาตามลม ดูเป็นอะไรที่เข้ากันได้ยิ่งนัก

     

                อื้อ ดวงนั้นชื่อจุนฮยอง ดวงใกล้ๆนั่นชื่อโยซอบจุนฮยองว่าพลางชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ดวงตาที่มีประกายและสดใสของจุนฮยอง บนนั้นมีดวงดาวเต็มไปหมด ... มีพระจันทร์ดวงกลมโตที่สวยงาม ส่องสีเหลืองนวลอ่อนๆ พระจันทร์ท่ามกลางหมู่ดาวที่รอบล้อมมากมาย ... หึ

     

                ย๊า ... พวกนายทำให้ฉันเหมือนเป็นส่วนเกินเลยนะ นี่จะอ้วกอยู่แล้วเนี่ย งั้นดวงนี้ชื่อฮยอนซึงแล้วกันนะ ฉันจะอยู่ใกล้ๆพวกนายตลอดไป เป็นเพื่อนกันแบบนี้ตลอดไปฮยอนซึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและชี้ไปที่ดวงดาวที่ใกล้ๆกับพวกเรา ใบหน้าสวยแหงนมองท้องฟ้าและกลุ่มดาวพร้อมกับรอยยิ้ม

     

                งั้นดวงนั้นคงเป็นดูจุนสินะจุนฮยองพูดขึ้นมาแกมๆหยอกล้อฮยอนซึง และคำพูดของจุนฮยองก็ต้องทำให้ฮยอนซึงเขินอายไปหมด แน่ละ แฟนของฮยอนซึงนี่นา ดูจุนน่ะ ...

     

                พวกเราทุกคนอายุเท่าๆกันหมด เรียนคณะเดียวกัน เป็นเพื่อนกันมา 4 ปีก็มีแต่พวกเขาที่แหละที่ผมคิดว่าจะไว้ใจได้ ... แต่ดูเหมือนผมจะเป็นคนพังทลายกำลังแห่งมิตรภาพของพวกเราเสียแล้วล่ะ ทำด้วยสองมือของผมและเขา ... กำแพงความไว้ใจของพวกเราที่สร้างขึ้นมา ผมน่ะ ... เลวใช่ไหม

                “ทำไมมานั่งกันอยู่ตรงนี้ละเนี่ย ?เสียงทุ้มนุ่ม ... เสียงของเขาแน่นอน ยุน ดูจุน ... ผมเงยหน้าขึ้นไปมองต้นเสียง เขา เขายังคงดูดีเหมือนทั้งๆทั้งที่ผ่านมา โดยที่เขาไม่ต้องแต่งอะไรมากมายก็สามารถดูดีได้ เขา ... คือผู้ที่สยบหัวใจของผม ดูจุนมองมาทางผมพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็ไปนั่งข้างฮยอนซึง

     

                ซ่า ซ่า ซ่า ~

                เสียงคลื่นกระทบชายหาดลอยแว่วมาเบาๆ พร้อมๆกับสายลมเย็นที่พัดหวนมา

     

                พวกเรา ... จะเป็นเพื่อนกันตลอดไปใช่ไหมสิ้นเสียงของฮยอนซึง ทุกอย่างก็เงียบ พวกเราสี่คนได้แต่แหงนหน้ามองหมู่ดาวบนท้องฟ้ามากมาย แต่ถ้าให้เปรียบเทียบผมก็คงเป็นดาวสักดวงในท้องฟ้านี่แหละครับ ส่วนเขาก็คงจะเป็นพระจันทร์ที่เหลืองนวลและส่องสว่างยามค่ำคืน เพราะจันทร์ที่ส่องแสงสีเหลืองอ่อนท่ามกลางหมูดาวที่รายล้อม ช่างโดดเด่นและน่าจับต้องเป็นยิ่งนักซึ่งนั่นมันก็เกินกว่าที่ผมจะหักห้ามใจตัวเอง

     

                เสียงเพลงครึกครื้นลอยมาตามสายลม เสียงของงานปาร์ตี้ยังยังเฮฮา ไม่ได้ลดหย่อนลงไปเลย เต็มไปด้วยเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงที่กำลังรายล้อม เต้นรำ พูดคุย และปิ้งย่างกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีคำว่ากร่อยเลย ทุกคนล้วนแต่เต็มที่กับงานปาร์ตี้ครั้งนี้ทั้งนั้น ก็แน่ละซิ เรียนจบทั้งที ... แต่นั่นมันจะหมายถึงมิตรภาพของพวกเราด้วยรึเปล่านะ

     

                นี่ ฉันอยากเต้นจัง มีใครจะไปเต้นกับฉันบ้างเนี่ย?เสียงฮยอนซึงเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของพวกเรา และนั่นต้องทำให้ฮยอนซึงตกเป็นที่สนใจอีกครั้ง ใบหน้าที่ขาวนวลของฮยอนซึง ที่มีสีเหลืองนวลเล็กน้อยเพราะแสงจันทร์ ... น่าอิจฉาจังเลยน้าเพื่อนคนนี้เนี่ย

     

                ฉันขอบายแล้วกัน ขอนั่งกินลมอยู่ตรงนี้ล่ะ ^^” ผมบอกฮยอนซึง

     

                งั้นฉันไปกับฮยอนซึงนะ เริ่มหิวแล้วเนี่ย แล้วก็อย่ากินลมมากล่ะ พองจะตายอยู่แล้วจุนฮยองว่าพลางลูบหัวของผมเล็กน้อยด้วยความอบอุ่น

     

                ขอโทษนะจุนฮยอง ...

     

                ดูจุน งั้นนายอยู่กับโยซอบเลย ดูแลโยซอบดีๆนะ !! อย่าให้มดไต่อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับโยซอบเด็ดขาด ไม่งั้นฉันเอานายตายแน่ดูจุน!!” ฮยอนซึงว่าพลางมองหน้าดูจุนกับผมสลับกันไปมา แต่เพราะคำพูดที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยของฮยอนซึงทำให้ผมต้องหลุดหัวเราะเป็นระยะๆ โดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังมองมาที่ผมอยู่เช่นกัน ...

     

                ครับผม จะดูแลอย่างดีไว้ใจได้เลย ดูจุนตอบฮยอนซึงพร้อมทำท่าทางแบบทหาร ท่าทางเหล่านั้นเรียกเสียงหัวเราะจากพวกผมได้อย่างดีเลยล่ะ แน่นอนว่าดูจุนเป็นคนอารมณ์ดีมาก และนั่นก็เป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่ทำให้พวกเรา .. รัก ดูจุน

     

                หลังจากจุนฮยองและฮยอนซึงลุกออกไปก็เหลือแค่ผมกับดูจุนที่นั่งอยู่ริมชายหาด ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากของผมและเขา ดูขุนขยับที่นั่งเข้ามาใกล้ผมซึ่งเป็นที่นั่งของฮยอนซึงเมื่อกี้ ตัวของเราโดนกันนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาได้แต่นั่งเงียบๆฟังเสียงคลื่นกระทบชายหาดที่แว่วมาเรื่อยๆเป็นระยะๆ

     

                เรียนจบสักทีสินะ เฮ้อดูจุนพูดพลางถอนหายใจ ตกลงนี่ดีใจจริงๆรึเปล่านะ ...

     

                ถอนหายใจแบบนี้ดีใจจริงรึเปล่าเนี่ยผมเอียงคอถามดูจุนเล็กน้อย ดูจุนไม่ตอบอะไรเพียงแต่มองผมกลับมาแล้วยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่ผมอยากจะครอบครองไว้คนเดียว แต่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ในเมื่อเราก็ต่างมีคนให้ดูแลทั้งสองคน

     

                คิดถึงนะ อยากกอด อยากจูบ อยากจับมือ ... อยากทำทุกอย่างกับนายแบบที่จุนฮยองทำ ทำไมถึงไม่เป็นฉันนะ โยซอบดูจุนพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ สายลมที่พัดผ่านมาทำให้เส้นผมของผมปลิวไปตามแรงลม ดุจุนเอื้อมมือมาจัดทรงผมให้กับผมอย่างที่เราเคยทำให้กันเวลาอยู่กันสองคน ... ดูจุนมองหน้าผมเล็กน้อย แววตาของดูจุนยังคงมั่นคงเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปเขี่ยเม็ดทรายเล่นอย่างเหม่อลอย

               

                นั่นน่ะสิ ... แล้วทำไมถึงไม่เป็นฉัน ... ทำไมถึงเป็นฮยอนซึงล่ะ ทำไมไม่ใช่ฉันเหมือนเสียงของผมหายไปกับคลื่นที่ซัดเข้ามาในชายฝั่ง น้ำเสียงมันเหือดแห้งไปหมด ไม่อยากรับรู้อะไรแล้วทั้งนั้น ผมรับความรู้สึกที่เป็นอยู่ไม่ไหวจริงๆ

     

                ผมนั่งก้มหน้ามองเม็ดทรายภายใต้แสงจันทร์ ความรู้สึกของผมบางทีมันก็หนักไปเสียแล้ว ผมผ่านอะไรมาหลายอย่าง มันหนัก มันเยอะจนผมคิดว่าผมไม่สามารถจะรับเรื่องราวต่อไปนี้ได้อีกแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำตามันมาจากไหน เพียงแต่ตอนนี้ผมเห็นน้ำตาของตัวเองหยดลงเม็ดทรายเรื่อยๆ จนมันเริ่มเปียก

     

                เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอ ไม่มีแม้เสียงสะอื้นจากผม มีแต่น้ำตาที่ไหลรินพร้อมกับความรู้สึกทั้งหมดที่แบกรับเอาไว้ มันหนักไปแล้วจริงๆกับการกระทำที่ผมทำอยู่ ผมทำเรื่องเลวๆลงไปด้วยน้ำมือของผมเอง ผมลงมือทำโดยรู้ว่าผลต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ผมก็ยังกระทำมันลงไปด้วยน้ำมือของผมเอง

     

                มึน ...

     

                ปวดหัว ...

     

                ไม่อยากเจอเขาแล้วล่ะ ...

     

                เราไม่น่ามาเจอกันเลยนะ ... ไม่น่าเลย ฮึก ..น้ำเสียงของผมที่พยายามพูดออกไปเพื่อให้ไม่สั่น ความรู้สึกผิดที่จุกอยู่เต็มอก ดูเหมือนคลื่นที่ซัดเข้ามาจะกอบโกยพลังจากผมไปหมดแล้วล่ะมั้ง ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรทั้งนั้น แค่พูด แค่พูดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ยังยากเลย ผมแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเรื่อยๆ ..

     

                เกิดเป็นหมู่ดาวผมว่ามันก็ดีอยู่หรอกนะ ได้อยู่ใกล้ๆของสวยงามที่น่าแตะต้องอย่างพระจันทร์ แม้จะไม่ใช่ดาวดวงเดียวที่ได้อยู่ใกล้ แต่อย่างน้อยก็ได้อยู่ใกล้กันไม่ใช่เหรอ อยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องใดๆ ไม่รับมาแบกรับความรู้สึกที่หนักหนาเหล่านี้ ไม่ต้องมาพังทลายกำแพงความไว้ใจ

     

                นายอย่าโทษตัวเองเลย ...ดูจุนพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือของผมไว้ สัมผัสที่อบอุ่นและนุ่มนวลของดูจุน เหมือนมีพลังส่งผ่านทางมือของดูจุนอย่างนั้นแหละ ผมกระชับมือของผมกับเขาให้แน่นขึ้นไปอีก ดูจุนบีบมือของผมเบาๆ เหมือนกับต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับผม บางอย่างที่ผมก็รู้ ... รู้อยู่แก่ใจ

     

                แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของผมกับดูจุนไม่ใช่เพื่อนกัน

     

                ใช่ ...

     

                พวกเราเป็นมากกว่านั้น ...

     

                ที่สำคัญ ...

     

                พวกเราคบกันมาตลอดระยะเวลา 4 ปี ...

     

                ในขณะเดียวกันพวกเราก็ต่างต้องมีคนให้ดูแลเช่นกัน ...

     

                ดูจุนก็มีฮยอนซึงให้ดูแลอยู่แล้ว ส่วนผมก็มีจุนฮยองให้ดูแลอยู่แล้วเช่นกัน ...

     

                ผมหลงรักดูจุนตั้งแต่แรกเห็น ดูจุนเป็นผู้ชายที่อบอุ่น เขาทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน เขาทำทุกอย่างเพื่อผม วันแรกที่เรารู้จักกัน ดูจุนแสดงให้ผมเห็นถึงความจริงใจของเขา และวันแรกที่ผมรู้จักกับดูจุน ก็เป็นวันแรกที่ผมรู้จักกับฮยอนซึงและจุนฮยอนเช่นกัน

     

                ดูจุนเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมรู้จัก ตามมาด้วยฮยอนซึงและจุนฮยอง แต่กลายเป็นว่าฮยอนซึงดันมาติดผมซะงั้น ผมกับอยอนซึงสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ฮยอนซึงบอกทุกอย่างให้ผมรับรู้หมดทุกอย่าง ไม่สบายใจเรื่องอะไร เกี่ยวกับเรื่องทางบ้านฮยอนซึงผมยังรู้เลย ไม่เว้นแม้แต่คนที่ชอบ ... ใช่ ... ฮยอนซึงชอบดูจุน นั่นเป็นเรื่องแรกของฮยอนซึงที่ทำให้ผมช็อคมาก

     

                และในขณะเดียวกัน ผมกับดูจุนซึ่งกำลังคุยๆกันอยู่ นั่นทำให้ผมตัดสินใจไปหยุดความสัมพันธ์กับดูจุนซะ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะถลำและร้ายแรงไปกว่านั้น ในเมื่อเพื่อนผมชอบ ผมควรถอยให้ฮยอนซึงไม่ใช่เหรอ

     

                ใช่ ...

     

                ในตอนนั้นผมคิดว่าผมจะถอยให้ฮยอนซึง ...

     

                ผมเล่าให้ดูจุนฟังเรื่องของฮยอนซึงก่อนจะใช้เรื่องนี้เป็นเหตุเพื่อขอหยุดความสัมพันธ์กับดูจุน แต่สิ่งที่ดุจุนตอบกลับมานั่นต้องทำให้ผมหยุด หยุดคิดอย่างหนัก

     

                ‘เราก็แอบคบกันสิ

     

                นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมทำผิดกับฮยอนซึง แต่เพราะฮยอนซึงรักเขา ... แต่ผมเองก็รัก ผมไม่รู้หรอกว่าใครรักดูจุนก่อนกันแน่ แต่ฮยอนซึงเป็นเพื่อนผม ผมก็จะถอย ... ถอยมาแอบคบกับดูจุนแทน โดยผมมีข้อแลกเปลี่ยนให้ดุจุน คือดุจุนต้องคบฮยอนซึงเป็นแฟนแบบเปิดเผย และแน่นอนดุจุนตอบตกลง นั่นเหมือนจะทำให้ผมมีความสุข

     

                ความสุข ...

     

                นั่นเรียกว่าความสุขรึไงนะ ...

     

                การที่เราแอบคบกับใครสักคน ... แล้วคนนั้นเขาก็คบกับเพื่อนเราด้วยเนี่ยนะ ความสัมพันธ์ของผมกำดูจุนยังดำเนินมาอย่างลับๆล่อๆแบบนั้นตลอด จนเข้าปีที่สอง ได้มีจุนฮยองเข้ามาเกี่ยว จุนฮยองมาสารภาพรักกับผม และแน่นอนจุนฮยองเป็นเพื่อนสนิทกับดูจุน ... ดูจุนซึ่งไม่อยากให้เพื่อนเสียใจและไม่อยากให้ผมเหงาเวลาตัวเองต้องไปใช้เวลาร่วมกับฮยอนซึงบ้างตามคำสั่งผม

     

                ในวันนั้นที่จุนอยองมาสารภาพรัก ... ทำให้ผมตอบตกลงตามคำของของดูจุน ถ้าเรียกให้ถูก จุนอยองน่ะเรียกว่าตัวแทนของดูจุนเสียดีกว่า เพราะผมไม่ได้มีแม้แต่ความรักให้เขาเลย ผมทำตามเพราะดูจุนขอมา และที่สำคัญ

     

                ผมไม่อยากเหงา ...

     

                ถึงผมจะเป็นคนยัดเยียดให้ดูจุนคบกับฮยอนซึงเอง แต่ผมก็เหงา เหงามากเวลาดูจุนไม่อยู่ ใช่ผมอิจฉา อิจฉาเวลาทั้งสองคนจู๋จี๋กัน อิจใบหน้าที่มีความสุขของฮยอนซึง อิจฉาที่พวกเขาสามารถรักกันออกสื่อได้ หลายครั้งที่ผมพยายามหวานกับจุนอยองเพื่อประชดดูจุน นั่นก็ทำให้เราทะเลาะกันหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็แค่การทะเลาะกัน .. ใช่ สุดท้ายพวกเราก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม

     

                คุณคิดว่ามันลำบากไหม ?

    การที่เราต้องเดทกันอย่างลับๆ การที่ผมและดุจุนต้องพกโทรศัพท์คนละ 2 เครื่องเพื่อเอาไว้ติดต่อกันโดยเฉพาะ

    การที่พวกเราต้องโกหกจุนอยองกับฮยอนซึงว่ากลับบ้านเกิด แต่จริงๆแล้วพวกเราไปเที่ยวด้วยกันสองคน

    การที่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รักกันเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย

    การที่พวกเราต้องแอบมาเจอกันตามสถานที่ลับๆของมหาวิทยาลัย

    หรือการที่พวกเราต้องแอบคุยโทรศัพท์กันตอนกลางคืนโดยไม่ให้แฟนของอีกฝ่ายรู้

     

    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในความคิดของคุณมันลำบากรึเปล่า ...

     

    แต่ผมว่าตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วที่เราจะหยุดความสัมพันธ์บ้าๆนี้ลงสักที ถึงดุจุนไม่เหนื่อย แต่ผมเหนื่อย อาจดูเห็นแก่ตัว แต่ผมไม่ไหวแล้วล่ะ ผมทำร้ายจุนฮยองและฮยอนซึงมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว แค่นี้ผมยังเลวไม่พออีกเหรอบางทีถ้าผมไม่เจอกับดูจุน และถ้าพวกเราไม่เจอกัน อะไรๆก็อาจจะดีกว่านี้

     

    หรือถ้าไม่มีผมสักคนคงดีกว่า ..

     

    ฮึก ฮึก ..

     

    เสียงสะอื้นของผมที่เล็ดลอดออกมาขอบตาร้อนผ่าว ภาพตรงหน้าเริ่มเบลอทีละนิด น้ำตาค่อยๆไหลลงมาจากดวงตาของผม นี่มันน้ำตาแห่งความผิดหวัง น้ำตาแห่งความเสียใจ หรือน้ำตาแห่งความน่าสมเพชกันนะ นั่นทำให้ผมเลือกที่จะก้มหน้าและมองพื้นทรายต่อไป คนอย่าผมน่ะไม่คู่ควรกับดวงจันทร์ที่สวยงามแบบนั้นหรอก เราไม่คู่กันตั้งแต่แรกแล้ว หรือถ้าเขาเป็นดวงจันทร์ผมก็คงจะเป็นดวงอาทิตย์ ระหว่างเราสองคนก็คงจะเป็นแค่เส้นขนานที่ไม่มีทางมาเจอกันได้

     

    จู่ๆผมก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นแล้วความอ่อนโยน ดูจุนดูจุนคลายมือที่จับกับมือของผมอยู่ แล้วเอื้อมมือมาลูบหลังผมเบาๆ พร้อมโอบกอดผมเบาๆแล้วโยกไปมาราวกับว่าจะขับไล่ความเจ็บปวดนี้ออกไป

     

    ซ่า ซ่า ซ่า ~

     

    คลื่น ... ทำไมไม่พัดพาความเสียใจของผมไม่ด้วยนะ เอามันลงทะเลไปเลย เอามันออกไปจากผมทีความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่เต็มอกแบบนี้ เอามันออกไป ...

     

    เราควรหยุดใช่ไหมดูจุน ... ใช่ ... เราควรหยุด

     

    ยังคงว่าเปล่า ไม่มีเสียงตอบรับจากดูจุน มีเพียงเสียงสะอื้นจากผมเท่านั้น ... ดูจุนอา ... ผมรับความรู้สึกนี้ไม่ไหวแล้วล่ะ ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมาอึดอัดแค่ไหนรู้มั้ย เหนื่อยที่สุดเลยนะดูจุน เหนื่อย อยากพักแล้วล่ะ พอได้ไหม พวกเราทำผิดเกินไปแล้วรึเปล่า

     

    หยุดโทษตัวเองสักทีดูจุนเอ่ยกับผมพร้อมบีบไหล่ผมเบาๆ ฉันเลือกแล้วที่จะรักนาย และฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน สักวันพวกเราจะต้องได้รักกันอย่างเปิดเผย มันต้องมีสักวัน นายต้องเชื่อในความรักที่พวกเรามีให้กันสิ ฉันรักนายมากแค่ไหนนายไม่รู้เหอรโยซอบดูจุนถอนหายใจแล้วเงียบไปสักพัก อะไรทำให้นายคิดแบบนี้กันนะ ตลอดเวลา 4 ปีพวกเราก็ทนอยู่ได้ไม่ใช่เหรอ นายไม่เชื่อใจฉันหรือไง ฉันต้องทำยังไงให้นายเชื่อว่าฉันรักนายมาก เรื่องฮยอนซึง วันนั้นน่ะ ถ้านายไม่ขอฉันก็ไม่ทำหรอกนะ รู้ไว้เถอะโยซอบ ว่าฉันทำเพื่อนาย ฉันคบกับฮยอนซึงเพื่อนาย เพราะนายต้องการสิ้นเสียงดูจุนความเงียบก็กัดกินบรรยากาศระหว่างพวกเรา

     

    ดูจุนฉันรักนาย

     

    ฉันก็รักนายโยซอบ

     

    เพล๊ง !!

     

    สิ้นเสียงเหมือนอะไรแตก ทำให้ผมกับดูจุนตกใจอย่างมาก พวกเราสองคนเด้งตัวออกจากกันโดยไม่ต้องมีใครบอก พร้อมกันไปทางต้นเสียง นั่นทำให้ผมพบกบฮยอนซึงที่ยืนอยุ่ข้างหลังพวกเรา

     

    ผมไม่รู้เหมือนกันว่าฮยอนซึงเข้ามาตอนไหน แล้วก็เข้ามาทันประโยคไหนของพวกเรา ผมไม่เห็นแม้แต่เงาของฮยอนซึง อาจเป็นเพราะพวกเรานั่งเข้าหาแสงจันทร์และทำให้เงาสะท้อนไปทางด้านหลัง

     

                ผมกับดุจุนหันมามองหน้ากัน ไม่มีคำพูดใดระหว่างผมกับเขา ฮยอนซึงที่ยืนอยู่ห่างจากพวกเราไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ผมว่าก็พอที่จะได้ยินบทสนทนาของพวกเราฮยอนซึงมองมาที่พวกเราด้วยแววตาที่คาดเดาได้ยาก

     

                โกรธ

     

                เกลียด

     

                เสียใจ

     

                หรือผิดหวัง

     

                ฮยอนซึงจ้องมาที่พวกเราด้วยท่าทางที่คาดเดาได้ยาก ดวงตาของฮยอนซึงสั่นไหวเล็กน้อย ร่างกายของอยอนซึงที่สั่นเทา ดวงตาคู่สวยของอยอนซึงมีน้ำตาไหลออกมาช้าๆ หยดแล้วหยดเล่า ก็ไม่ยังไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้นระหว่างพวกเราทั้ง 3 คน จนกระทั่ง ...

     

                อ้าวพวกนาย เข้างานปาร์ตี้กันไป ลุกๆๆๆ ดูจุนโยซอบไปสังสรรค์กันเถอะสิ้นเสียงจุนฮยอง ... คงนึกได้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติไป เห้ย ซึงอา นายร้องไห้ทำไม!!”

     

                ซึงอา ...

     

                หึ ... นายถามแฟนสุดที่รักของนายสิจุนฮยอง ว่าเกิดอะไรขึ้นฮยอนซึงแค่นยิ้มแล้วมองมาทางผมด้วยแววตาที่เจ็บปวด

     

                พอ ไม่ต้องถามโยซอบหรอกฉันจะบอกเองดูจุนออกตัวแทนผมแล้วกระตุกมือผมให้ลุกขึ้นยืนตามดูจุน ดูจุนจับมือของผมแน่น ... ดุจุนสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ก่อนจะพูดมันออกไป ฉันกับโยซอบเราคบกัน 4 ปีแล้ว พวกเรารักกันตั้งแต่ตอนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ...สิ้นเสียงของดูจุน ฮยอนซึงที่ได้ยินถึงกับเข่าอ่อน ทรุดตัวลงร้องไห้ มีเสือกสะอื้นของฮยอนซึงดังมาเป็นระยะๆ

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

    50 %


    #ฟิคชู้ดูซอบ

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×