คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เฟรชชี่ไนท์ มหาโหด -*-
และแล้วงานเฟรชชี่ไนท์ที่รอคอยก็มาถึง พวกสี่สหายมารอฉันและกุกกุ๊กแต่งตัวที่ห้องของฉัน ระหว่างที่รอพวกมันก็เปิดทีวีดู ส่วนคนที่ไม่อยู่นิ่งๆก็ไอ้อาร์มมี่ มันมานั่งวิพากษ์วิจารณ์ว่าฉันเขียนคิ้วไม่เท่ากันบ้างล่ะ กรีดอายไลน์เนอร์ไม่ตรงบ้างล่ะ
“แกกำลังทำพวกฉันเสียสมาธินะ” ไม่ใช่เสียงฉันแต่เป็นยัยกุกกุ๊กที่เริ่มทนไม่ได้
“เออ ก็เห็นพวกแกแต่งแล้วอย่างแต่มั่ง” #_# !
“O()O” หน้าทุกคน
“ เอ่อ ไม่ใช่อย่างที่พวกแกคิดนะ แค่แบบเห็นแล้วอยากแต่งให้น่ะ ก็พวกแกเขียนเองจะไปเห็นได้ไง จริงมะ แหะๆ“อาร์มมี่แก้ตัวข้างๆคูๆ
“ฉันไม่คิดหรอกนะว่าลิงยักษ์อย่างแกจะเป็น เอ่อ.. อย่างว่าน่ะ “ฉันพูดพลางปัดบลัทออนสีชมพูลงบนแก้มทั้งสองข้าง แต่แอบมองอาร์มมี่ด้วยหางตานิดนึง
“ฉันไม่ได้เป็นเว้ย ไอ้นี่หนิ อย่ามาเดา” U3U
“ถ้าแกเป็นฉันจะเตะให้หายเป็นเลยคอยดู” ปอร์บอกด้วยสีหน้าจริงจัง ทุกคนรู้ว่าปอร์เคยโดนเกย์ตามจีบเยอะ เพราะหน้าตามันตรงสเป็คเพศที่สามมาก มีระยะนึงที่มันแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะต้องรับโทรศัพท์เกย์เฒ่าโรคจิต เดี๋ยวก็ส่งข้อความมา เดี๋ยวก็โทรมา เดี๋ยวไปดูมันเล่นเทนนิสที่สนาม ตอนแรกมันไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นเกย์ แต่เริ่มจะมาระวังตัวเมื่อเกย์เฒ่าเจ้าเล่ห์ชอบมองตูด และพี่ในชมรมเตือนๆมัน วู้ย เสียว @+@
การแต่งตัวผ่านไปเกือบสองชั่วโมงและแล้วนางซินกับนางไอ่ (นางในนิทานพื้นบ้านของภาคอีสาน)ก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ฉันจะเสียสละเป็นนางซินก็แล้วกัน ฮี่ๆ ฉันเกล้าผมขึ้น สวมเดรสเกาะอกสีดำความยาวเท่าเข่า มีสร้อยคอเส้นเล็กๆเพื่อไม่ให้ดูโล่งจนเกินไป ที่แขนใส่กำไลสีขาวดำ และใส่แหวนรูปดอกกุหลาบสีดำ รองเท้าก็ดำ นี่จะไปงานศพรึเปล่าฉันก็งงตัวเอง ส่วนยัยกุกกุ๊กมาในชุดเดรสพลิ้วๆสีขาว หล่อนดัดผมยาวเป็นลอน และใส่ผ้าคาดผมสีขาว ดูแมทกับชุดมาก
“OoO โห ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องสำอางทุกวันนี้ทำผีให้กลายเป็นคนว่ะ มาๆ ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน “ กั้งพูดแล้วหยิบกล้องดิจิตอลออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดตั้งเวลาถ่ายวางไว้บนตู้เอกสารข้างๆเตียง พวกที่เหลือก็กรูกันขึ้นมาบนเตียงแล้วทำท่าแอ๊บแบ้ว
^-^ หน้าอาร์มมี่
*0*หน้ากุกกุ๊ก
@_@หน้าปอร์
(. . !) หน้าหนุ่ม(มีเหงื่อด้วย อย่าบอกนะว่าปวดขี้อีก เย้ย!)
=+= หน้ากั้ง
(-3-)Y หน้าฉันเอง
หลังจากถ่ายรูปไปสองสามรูปแล้วปอร์ก็เอารถยนต์มาจอดรับพวกเราที่หน้าหอ แล้วขับไปยังจุดหมายปลายทางเพราะเลยกำหนดเวลามาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
“ไม่รู้ป่านนี้ ไอ้มาวินมันกินน้องเป็ดฉันหมดรึยังไม่รู้ ขับเร็วกว่านี้หน่อยเด้ไอ้ปอร์” หนุ่มโอดครวญ มันห่วงกินจริงๆ
“ก็รีบแล้วเนี่ย จะขับเองมั้ย ฮะ” ปอร์หันมาเอ็ด
(.. )( ..)(.. )( ..) หนุ่มส่ายหน้าแล้วยอมหุบปากไปโดยดี
และแล้วรถโตโยต้าวิชของปอร์ก็พาพวกเรามาถึงงานเฟรชชี่ไนท์ที่สุดแสนอลังการงานสร้าง ไฟสีส้มที่ถูกประดับไว้ตั้งแต่ทางเข้างาน พรมแดงที่ปูลาดมาเป็นระยะทางยาวเกือบๆยี่สิบเมตร มีฉากที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามพร้อมซุ้มถ่ายรูปที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานนาชนิด หน้างานจะเป็นโต๊ะลงชื่อเข้างานเมื่อผ่านประตูเข้าไปจะเจอห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีวงดนตรีเล็กๆเล่นเพลงแนวสกา คนที่ยืนมุงบ้างก็เต้น บ้างก็ร้องตาม ฉันสะดุดตากับมือกีตาร์ที่กำลังเล่นอย่างเมามันส์ อ้อ นั่นพี่รหัสฉันเองแหละ ชื่อพี่ท๊อปฟี่ ฉันเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า พี่ท๊อปฟี่เงยหน้าขึ้นมาพอดี ฉันเลยยกมือไหว้ทักทาย พี่ท๊อปฟี่ขยับปากพูดช้าๆ ประมาณว่า “ เดี๋ยวมาถ่ายรูปกันนะ” อะไรประมาณนี้เพราะเพลงมันดังมาก ฉันพยักหน้าและยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปในนั่งที่โต๊ะซึ่งต้องเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ๆอีกห้องหนึ่ง อาหารชุดแรกถูกยกมาเสิร์ฟ พวกเราไม่รอช้ารีบคว้าอุปกรณ์ขึ้นมาแล้วลงมือทำลายหลักฐานกันอย่างไม่มีใครยอกใคร เชื่อมันเลย นี่ฉันว่าฉันเร็วสุดๆแล้วนะ ไอ้บ้าหนุ่มมันเอาปีกไก่ปีกสุดท้ายไปได้ยังไงหว่า ฉันเหลือบไปเห็นกุ้งน้อยที่ลอยอยู่ในหม้อต้มยำ
ฮ่าๆ เสร็จฉันล่ะน้า ฮึบ.. ระหว่างที่ช้อนของฉันกำลังจะพาร่างน้องกุ้งเข้าปาก
“แตมป์ แกรักฉันป่าวว่ะ” ไอ้อาร์มมี่เอ่ยปากแถมทำหน้าเศร้าสุดๆ (*3*)
“ เอ่อ แกหมายถึง กุ้งตัวนี้รึเปล่าวะอาร์มมี่ โทดนะ คือวันนี้ฉันไม่รักแกว่ะ “ว่าแล้วก็ตักน้องกุ้งเข้าปากอย่างมีความสุข หุหุ
“นี่แคท เธอเคยเห็นพวกบ้านอกเข้าเมืองมั้ย สงสัยไม่เคยกินอาหารดีๆอ่ะ ที่บ้านคงกินแต่ปลาร้า ปลาจ่อม อะไรเทือกๆนี้อ่ะว่ามั้ย
“นี่ๆ พวกเธอ ถ้ายังไม่อิ่ม ที่โต๊ะA3 มีอีกเยอะนะ เพราะอาหารพวกนี้ เรากินจนเอียนแล้วล่ะ อิอิ” ยัยแคทว่าพร้อมเพยิดหน้าไปทางโต๊ะของหล่อน
“ถ้าไม่พอก็ไปขอโต๊ะเพื่อนฉันก็ได้นะ หรือจะห่อกลับไปกินที่บ้านดีล่ะ เพราะน้ำหน้าอย่างเธอคงไม่ค่อยมีโอกาสได้กินหรอกใช่มั้ยจ๊ะแสตมป์” นี่คือเสียงยัยหมูโบว์ลิ่งที่มาในชุดแดงผ่าอกจนเห็นร่อง
“ไม่ล่ะจ้ะ ขอบใจนะที่ยังนึกถึงกัน แต่วันหลังไม่ต้องเจือกหรอกนะ” ยัยกุกกุ๊กสวน
“แกว่าใครฮะ ใครเจือก” ยัยแมรี่หันมาวีน
“ก็ว่าใครล่ะฮะที่มันปากไม่ดี ชอบดูถูกคนอื่นน่ะ” ฉันพูดขึ้นบ้างหลังจากที่ฟังยัยสามชะนีแพล่มมานาน
“ก็ฉันดูถูกไง ไม่ได้ดูผิดนี่ พวกแกน่ะ เป็นเหมือนขยะของคณะเรา อี๋ พวกคนชั้นล่าง ช่างกล้ามางานนะ”
“ทำไมพวกเราจะมาไม่ได้ งานนี้พ่อแม่พวกเธอมาจัดให้รึไง” กั้งที่เริ่มจะทนไม่ได้กับพฤติกรรมของพวกสามชะนีเริ่มพูดขึ้นบ้าง
“ใช่ ฉันว่าพวกเธอจะไปไหนก็ไปเหอะ” หนุ่มตาม
“ไปที่ชอบๆยิ่งดี ใช่มะวะแตมป์” ปอร์แตะที่ไหล่ฉันเบาๆก่อนยิ้มให้พวกสามชะนี
“เหอะ พวกแกน่ะนะ รู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังพูดกับใคร” ยัยโบว์ลิ่งถาม
“อ้าว แม่คู้ณ ขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วจะมาถามพวกฉันทำไม” ^-^
“นี่ จะบอกให้เอาบุญนะ พ่อของแมรี่น่ะเป็นรองคณบดีเชียวนะ ฉันว่าพวกแกเก็บปากเอาไว้เห่าที่อื่นดีกว่ามั้ย ชิ” ยัยแคทพูดพร้อมทำท่ายักไหล่อย่างไม่สนใจว่าตอนนี้คนรอบข้างเริ่มหันมามองแล้ว
“อีกอย่าง ว่างๆ ก็ไปหาหมอบ้างนะ เค้าจะได้ผ่าหมาออกจากปากพวกแกบ้าง ที่ไม่รู้ที่ไหนควรเห่าที่ไหนไม่ควรเห่า” หนอยยัยพวกนี้มันเกิดมาเพื่อดูถูกคนจริงๆนะ
“จ้า ขอบใจนะโบว์ลิ่ง แต่ไหนๆพวกฉันก็จะไปผ่าหมาออกจากปากแล้ว พวกเธอไม่ไปผ่า “นอ “ออกจากจมูกบ้างเหรอจ๊ะ” ฉันเน้นคำว่า “นอ”ดังๆ คนรอบข้างเริ่มจะหัวเราะกับคำพูดของฉันและท่าทางเหมือนนางร้ายกำลังจะลงไปดิ้นตายของยัยสามชะนี
“หนอย นังแสตมป์ ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันไม่จบง่ายๆแน่ “ ยัยแมรี่ว่าพลางชี้นิ้วมาทางฉันอย่างอาฆาต
“จะรอนะจ๊ะแมรี่ที่รัก ฮ่าๆ” หนุ่มพูดพร้อมส่งจูบไปให้ยัยสามชะนี พวกนั้นทำท่าทางรังเกียจก่อนจะเดินหนีไปทางอื่น
“ให้ตายสิ ยัยนี่มันเขม่นฉันมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้วนะเนี่ย เฮ้อ” ฉันถอนหายใจอย่าเซ็งๆ
“ก็ยัยนั่นคิดว่าตัวเองสวย เริ่ดที่สุดไง เจอนางามบ้านนอกอย่างแกก็คงกลัวว่าเรทติ้งจะตกเป็นธรรมดา อีกอย่างนะ ยัยแคทมันแอบชอบปอร์อยู่ พอเห็นแกกับฉันมาสนิทสนมปอร์ พวกหล่อนเลยหมั่นไส้น่ะสิ” กุกกุ๊กว่าพร้อมเอามือตบไหล่เป็นเชิงปลอบ
“จริงๆฉันก็ไม่ได้แย่งมาเก็ตแชร์อะไรหล่อนนี่หว่าฉันก็อยู่ของฉันดีๆ “ @-@
“ แกอย่าคิดมากเลยว่ะแตมป์ ยัยนั่นมันนิสัยไม่ดีแกอย่าสนใจเลย ป่ะไปถ่ายรูปหน้างานกัน ฉันเห็นมีแต่ซุ้มสวยๆว่ะ” อาร์มมี่บอกและขว้าแขนฉันให้ลุกขึ้น
เอ้า 1 2 3
. แชะ เสียงรัวถ่ายรูปในงานดังมาไม่ขาดสาย กล้องนับสิบมาจ่อที่หน้าฉัน
“แตมป์ๆ ขออีกรูปนะ จะเอาไปลงเฟสบุ๊คน่ะ” สลิ่ม เพื่อนผู้ชายในสาขาบอกพร้อมกดชัตเตอร์ซูมมาที่หน้าฉัน จากนั้นก็ถ่ายกับพี่ท๊อปฟี่ พี่รหัสฉัน และก็ บลาๆๆๆ
“เอ่อ ไอ้แตมป์ ฉันว่าแกไปเป็นนางแบบดีกว่าว่ะ ท่าจะรุ่ง” กุกกุ๊กบอก
“ไอ้บ้า เพื่อนขอถ่ายรูปแกจะให้ฉันบอกว่าไงวะ “
“แหม นางงามบ้านนอกนี่ฮอตจังนะ “ อาร์มมี่แซว โอ้ย ใครจะอยากฮอต ฉันทำตัวธรรมดามากๆแล้วนะ
“แตมป์ ถ่ายรูปกับพี่หน่อยสิ “พี่โอมเพี้ยงเดินเข้ามาสะกิดขอถ่ายรูปยิกๆ พี่โอมเพี้ยงเป็นพี่ที่อยู่ชมรมกีฬา เปตองที่ฉันเป็นสมาชิกอยู่ คือฉันเล่นอย่างอื่นไม่เป็นน่ะ
“ได้สิคะพี่ ไอ้อาร์มมี่ ถ่ายให้หน่อยแซะ” ฉันหันไปบอกอาร์มมี่ที่ยืนถือกล้องอยู่
“ขอบคุณมากนะแตมป์” พี่โอมเพี้ยงกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ “ฉันยิ้มให้พี่เค้าก่อนจะสลับกันถ่ายรูปให้เพื่อนๆที่เหลือ
“งานเต้นรำข้างในเริ่มแล้วมั้ง ไปกันเหอะ” กั้งชวนเพื่อน
“อืม ปะ ไปกัน “ ปอร์ว่าพลางเดินนำเข้าไปในงานอีกครั้ง
“พวกแกเข้าไปกันก่อนนะ ฉันขอเข้าห้องน้ำเดี๋ยว” ฉันบอกเพื่อนๆและเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่เวรของกรรมกรรมของเวร แถวยาวมักมาก โอ้ย จะกลั้นไม่ไหวแล้วนะเนี่ย เร็วๆโหน่ยน้า T^T
ระหว่างที่ฉันกำลังอั้นฉี่อยู่นั้นยัยสามชะนีก็เดินสวนออกมาจากห้องน้ำพอดี ฉันมีรางสังหรณ์ว่าจะต้องเกิดเหตุกาณ์อะไรกับฉันแน่ๆตาขาวกระตุกยิกๆ ในขณะที่ตายังกระตุกไม่หายดี แคทกับโบว์ลิ่งเดินเข้ามาประกบสองข้างและจับแขนของฉันไว้ส่วนหัวหน้ามันก็กอดอกยิ้มย่อง คนอื่นๆเริ่มแหวกทางและถอยหนี
“เธอจะทำอะไรน่ะ”
“หึ ทีอย่างนี้ไม่เห็นเก่งเลย ตอนนั้นเห็นด่าฉันปาวๆนี่ “
“เพี๊ยะ!!!”ยัยแมรี่ตบหน้าฉันจนหันไปอีกทาง มันรู้สึกชาไปจนถึงหูแหนะ หนอยๆ ฉันก็สู้คนนะเฟ้ย
“เก่งแต่ปากนี่ ฮ่าๆ”ยัยแคทว่า
“ถ้าพวกแกแน่จริงปล่อยฉันตัวต่อตัวกะยัยแมรี่สิ หรือป๊อดจ๊ะ” ^0^
“เพ๊ยะ!!” มันตบฉันอีกแล้ว ฉันไม่สนอีกต่อไป แม้ว่าจะมีชะนีสองตัวที่เกาะแขนฉันอยู่แต่ฉันก็กระโดดถีบท้องยัยแมรี่จนหงายหลังและเอาเท้าถีบขายัยแคท พอยัยแคทล้มฉันก็หันไปชกเบ้าตายัยโบว์ลิ่งต่อ
“จับมันไว้” ยัยแมรี่ออกคำสั่ง สองคนนั้นวิ่งมาขว้าแขนฉัน แต่ฉันไวกว่าใช้ฝ่ามือฟาดเข้าที่ตายัยแคท ยัยนั่นเอามือกุมตาไว้ ฉันหันมาตบยัยโบว์ลิ่งต่อ ให้มันรู้ไป ฉันไม่กลัวพวกแกหรอกนะ มาอีกสิบคนก็ไม่กลัว
“แมรี่ ฉันไม่ไหวนะ มันถึกยิ่งกว่าควายอีก “ แคทพูดพลางถอยไปหลบหลังแมรี่T0T
“โธ่ว้อย แค่นี้ก็ไม่มีปัญญา มา แกมาเจอกับฉันนี่นังแสตมป์” แมรี่ว่าพร้อมกระโดดถีบเข้าที่เอว ฉันที่ไม่ทันระวังตัวเสียหลักล้มลง ยัยแมรี่ได้โอกาสขึ้นคร่อมและตบฉันไม่ยั้ง (//*0*//)
“ว้าย ยัยแตมป์” ฉันได้ยินเสียงกุกกุ๊กร้องและวิ่งเข้ามาช่วยลากยัยแมรี่ออก
“ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ ช่วยที ยืนดูทำไม คนจะตายแล้วเนี่ย มาช่วยแยกเซ่! “ กุกกุ๊กตะโกนขอความช่วยเหลือเพราะเห็นท่าไม่ดี ตอนนี้ฉันรู้สึกมึนๆที่หัวและเจ็บแปล๊บๆที่เอว สงสัยโดนยัยแมรี่มันตบหลายทีเลยมึน @^@
“เกิดอะไรขึ้น แมรี่ นี่เธอ! “ นายเนมวิ่งเข้ามาในห้องน้ำหญิงพร้อมเพื่อนของเขาอีกสองสามคน ยัยกุกกุ๊กเดินมาพยุงฉันให้ลุกขึ้น
“เธอทำอะไรแมรี่ ฮะ ยัยป้าปากเสีย” เขาตวาดฉันเสียงเข้ม ยัยแมรี่ที่ตอนแรกก็ดูไม่เป็นอะไรพอเห็นนายเนมก็ทำท่าเหมือนจะเป็นลม @0@
“ ใครทำแฟนนาย ฮะ ฉันต่างหากที่โดนกระทำ” ฉันตะโกนด้วยความโมโห 0O0/
“เนมขา แมรี่ไม่ผิดนะคะ ยัยแสตมป์หาเรื่องแมรี่ก่อนค่ะ ใช่มั้ยแคท โบว์ลิ่ง”
“ช่ายๆ ยัยแสตมป์พูดจาหาเรื่องพวกเราก่อนนะ” สองชะนีลูกน้องพร้อมกันตอแหล(U.U) (U.U)
“ทำไมเธอต้องทำร้ายแมรี่ด้วย เธอนี่นอกจากจะปากไม่ดีแล้วยังทำตัวต่ำๆอีก” เขาพูดดูถูก นี่มันจะมากไปแล้วนะ อะไรวะ มาถึงก็ด่าฉันฉอดๆ ยังไม่ทันได้ฟังความจริงเลย คนแบบนี้มันน่าจับหักคอ
“นี่ อย่ามากล่าวหาพล่อยๆนะ พวกนี้แหละที่ไปหาเรื่องพวกเราที่โต๊ะก่อน แล้วยังมาทำร้ายร่างกายเพื่อนฉันอีก” กุกกุ๊กยืนชี้หน้าเถียงคอเป็นเอ็น ^0^/
“ใครจะไปรู้ เห็นแบบนี้อาจจะโกหกสร้างเรื่องเรียกร้องความสนใจอีกก็ได้ เรื่องถนัดไม่ใช่เหรอ เพื่อนเธอน่ะ หึ” =_=
“นี่ จะให้บอกสักกี่ครั้งว่าไม่ได้เรียกร้องความสนใจ คนอย่างนายน่ะไม่ได้อยู่ในหางตาฉันด้วยซ้ำ แฟนนายน่ะมาหาเรื่องฉันก่อน และมาตบฉันก่อนด้วย พยานก็มี ยืนอยู่เต็มห้องน้ำ ทำไมนายไม่ถาม หลับหูหลับตาเข้าข้างกันอยู่ได้ “ เขาเริ่มทำหน้าเลิกลั่ก ก่อนจะหันไปถามผู้หญิงที่ยืนมุงอยู่ทุกคนพยักหน้าเป็นเชิงว่าที่ฉันพูดมาเป็นความจริง ( .. )(* *)( .. )(* *)
“แมรี่ นี่เธอทำร้ายยัยป้านี่จริงๆเหรอ ทำไม เพราะอะไร? “เขาหันไปถามแมรี่หน้าตึง
“เอ่อ คือ ถ้าจริงแล้วจะทำไมล่ะเนม ก็ยัยนี่มันพูดจาไม่ดีกะแมรี่นี่ อีกอย่างคนชั้นต่ำอย่างมันโดนแบบนี้ไม่ สะเทือนหรอกค่ะ” *3*
“หยุดนะแมรี่ อย่ามาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าฉัน ถ้าเธอทำผิด ก็ขอโทษเขาซะ” (=_=)
“ไม่นะคะ มันก็สมควรแล้วนี่” ยัยแมรี่งอแง
“อย่าให้ฉันพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง ขอโทษเขาซะ” ทำไมหมอนี่หน้ากลัวจังเวลาเอาจริง
“ก็ได้ ขอโทษ พอใจรึยัง” แมรี่หันมาขอโทษแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก>_<
“ส่วนเธอ !ปากเธอเป็นแผลนี่ รีบพาเพื่อนเธอไปทำแผลไป” เขาสั่ง
“ทำไมเนมต้องไปเป็นห่วงมันด้วย แมรี่ไม่ยอมนะ” T^T
“แมรี่ เงียบไปเลย ที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอนะ “เนมหันไปตวาดแมรี่ที่ทำหน้างอไม่พอใจ
“ไหวมั้ย “ น้ำเสียงเขาอ่อนโยนขึ้นมานิดๆ แต่ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกของฉันดีขึ้น เพื่อนเขาเดินเข้ามาช่วยพยุงฉันแต่ถูกฉันห้ามไว้ เพราะกุกกุ๊กโทรตามสี่สหายออกมาแล้ว
ฉันกลับมาถึงห้องก็เกือบเที่ยงคืน กว่าจะทำแผล อาบน้ำเสร็จ กว่าจะนอนก็เกือบตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้จะไปเรียนไหวมั้ยเนี่ย ฉันเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มกละเข้าสู่ห่วงนิทรา
ความคิดเห็น