คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The dear neighbor. ตอนที่ 3 ภาระของพี่สาว
“ถึงจะทำตัวให้เป็นธรรมชาติก็เหอะ แต่ก็สะดุดตาคนจนได้สินะเรา”
ร่างบางรำพึงกับตัวเองขณะแช่อยู่ในอ่างน้ำสีขาวในห้องน้ำของเธอ พลางนึกถึงเครื่องแบบของตนเองที่จำเป็นต้องสวมกระโปรงกลีบต่างจากนักศึกษาทั่วไปที่สวมกระโปรงไร้กลีบ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเป็นนักศึกษาหลักสูตรพิเศษ
“ไม่รู้ว่ากอร์นจะปลอดภัยรึเปล่านะที่โรงเรียน แต่คงไม่เป็นไรมั้งเพราะที่นี่มันหมู่บ้านตำรวจ โรงเรียนก็อยู่เขตฮันเตอร์ซิตี้พอดี”
“พี่ฮะเมื่อไหร่จะอาบเสร็จล่ะฮะ ผมรอนานแล้วนะ”
เด็กชายตะโกนข้ามห้อง
“เดี๋ยวจ้าเดี๋ยว”
ว่าแล้วเธอก็รีบห่มกายที่เปียกชุ่มด้วยผ้าขนหนูสีขาวแล้วเดินไปยังระเบียงแคบๆสีขาวสะอาด
เวลา สองทุ่มครึ่ง
คุราปิก้านั่งเช็ดผมที่เตียงนอนสีฟ้าอ่อน อย่างสบายอารมณ์ น้องชายตัวแสบของเธอเคาะประตูห้อง
“เสร็จแล้วเหรอ”
เสียงหวานใสถามเด็กหนุ่ม
“ฮะ แล้วพี่ไม่ลงไปทานข้าวล่ะฮะ”
กอร์นถามอย่างสงสัย
“พี่ยังไม่ได้แต่งตัว น้องลงไปทานข้าวก่อนสิ พี่เตรียมไว้แล้ว”
“ฮะ”
สิ้นเสียงเด็กหนุ่ม เด็กสาวก็เตรียมแต่งตัว
“กุกกักๆๆ”
เสียงแปลกๆดังมาจากสวนข้างบ้าน
“เสียงอะไรน่ะ แมวมั้ง”
เด็กสาวถอดผ้าขนหนูสีขาวออก เผยให้เห็นผิวขาวและเรือนร่างที่บอบบาง
“ว้าก!!!!!!!!!!!!!”
เสียงตะโกนดังมาจากชั้นล่าง นั่นมัน!!เสียงกอร์นนี่นา!!!!!
เด็กสาวคว้าผ้าเช็ดตัวมาสวมอีกครั้งโดยไม่ใยดีสภาพของตนเองอีกแล้วเพราะในจิตใจเป็นห่วงน้องชายเหลือเกิน
แล้วเธอก็คว้าอะไรบางอย่างจากที่ซ่อนหลังตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็กระโจนไปยังที่เกิดเหตุ
ภาพที่เธอเห็นคือห้องครัวที่ถูกทำลายโดยการขว้างปาก้อนหินใส่กระจก เด็กหนุ่มนั่งขดตัวอยู่กับตู้ หน้าผากมีของเหลวสีแดงฉานไหลอาบ
“กอร์นเป็นอะไรรึเปล่า!!!”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้
“ไม่มากฮะ......พี่!!!ข้างหลัง”
กอร์นพูดขณะเห็นเงาๆหนึ่งจากข้างหลังพี่สาว
“เพล้ง!!!!”
กระจกหน้าต่างแตกเป็นเสี่ยงๆ กอร์นหลับตาเพราะภาพที่เห็นแต่รู้สึกว่า..............
“พะ...พี่ฮะ”
ร่างเล็กของเด็กหนุ่มถูกโอบกอดด้วยร่างบางของพี่สาว เธอเต็มไปด้วยบาดแผลรอยกระจก เลือดสีแดงเปราะไปทั่วร่างบอบบาง
“ไม่เป็นไร”
ร่างบางกัดฟันพูดแล้วคว้าปืนไรเฟิลที่เธอถือมาด้วย(คูกะจัง/เอาเลยๆยิงมันให้ไส้แตกเลย!!!!)
ทางขวา!!!!
“ปัง!!!!!”
ร่างบางเล็งปีนไปยังเงาที่อยู่หลังบานกระจกที่แตกแล้ว แต่พลาด เธอจึงตัดสินใจลากร่างที่บอบช้ำของตนแล้ววิ่งตามไปจนหน้าบ้าน แต่เงานั้นก็ปีนหนีออกนอกบ้านไปแล้ว
“ชิ หนีไปได้ซะแล้ว”
เธอสบถอย่างอารมณ์เสีย หนอย ถ้าเจอ แม่จะจับส่งตำรวจกินข้าวแดงในห้องกรงเลยคอยดู
“คุราปิก้าเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
เสียงของเด็กหนุ่มข้างบ้านดังขึ้น เขาปีนกำแพงมา
“คือ...มะ”
ไม่ทันขาดคำ เด็กหนุ่มก็ถอดแจ็คเก็ตสีน้ำเงินแล้วห่มให้เด็กสาว ทำให้เธอตกใจไม่ใช่น้อย(คูกะจัง/แหม พี่คิลใจดีจริงๆอ่ะ)
“ผมว่าต้องแจ้งตำรวจซะแล้วล่ะ ผมว่าคุณเข้าไปทำแผลดีกว่า”
เด็กหนุ่มบอกแล้วสำรวจร่างบาง แผลเต็มตัวไปหมดเลยแฮะ
“ทางชั้นไม่ต้องห่วงค่ะ น้องชายของชั้นบาดเจ็บอยู่ค่ะ”
ร่างบางบอกแล้วสวมเสื้อแจ็คเก็ตให้กระชับ
“ผมเรียกคนมาช่วยดีกว่านะครับ ว่าแต่ที่นี่มีแต่คุณกับน้องชายเหรอครับ”
“ค่ะ บ้านชั้นไม่มีคนรับใช้หรอกค่ะ ช่างเถอะ ตอนนี้เรียกตำรวจนะดีที่สุด”
ว่าแล้วเธอก็ก้าวเดินอย่างยากลำบากเพราะเท้าเผลอเหยียบเศษกระจก เธอจึงล้มลงแต่เด็กหนุ่มก็พยุงเธอเอาไว้
“ขอบคุณค่ะ”
เธอพูดเศร้าๆเพราะสมเพชในความอ่อนแอของตน แต่ไม่รู้เลยว่าคนข้างๆเธอหน้าร้อนผ่าวถึงแม้จะสัมผัสร่างบางเพียงนิดหน่อยก็ตามแต่(คูกะจัง/ง่า...เค้าอิจฉาพี่คิลง่ะ)
**********************************************
“โอ๊ย! เจ็บ!”
เด็กสาวร้องออกมาขณะเอามือแตะแผล ตอนนี้ตำรวจเข้ามาสำรวจบ้านแล้ว ส่วนน้องชายของเธอทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว พยาบาลสาวคนหนึ่งกำลังล้างแผลให้เธอ
“คุณเป็นผู้หญิงที่ห้าวหาญมากนะคะ แต่ไม่ต้องมากขนาดนั้นก็ได้”
พยาบาลสาวพูดขณะป้ายน้ำยาสีขาวลงบนแผล เด็กสาวกัดฟัน น้ำตาซึมด้วยความเจ็บปวด
“พี่ฮะ เป็นอะไรมากรึเปล่า”
ดวงตาสีน้ำตาลจดจ้องร่างบางด้วยความอาวรณ์
“ไม่เป็นอะไรมากหรอก ถ้ากอร์นไม่เป็นอะไร พี่ก็สบายใจแล้วล่ะ”
เด็กสาวพูดแล้วยิ้ม แต่เด็กชายก็ยังคงมีใบหน้าที่เศร้าสร้อย
“เพราะผมแท้ๆ”
เสียงของเด็กชายแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิดที่ตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวต้องมารับเคราะห์แทนตนเอง
“ไม่หรอกน่า”
หลังจากที่ทำแผลเสร็จเธอก็เดินมานั่งข้างๆกอร์น แล้วก็โอบกอดน้องชายด้วยความรัก
“จำไว้นะกอร์น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่ก็จะปกป้องนายให้ได้”
ใบหน้าของเด็กชายแนบอกของเด็กสาว ของเหลวอุ่นสีใสหลั่งไหลออกจากดวงตาสีน้ำตาลที่หม่นหมอง
“ฮึก........และ...แล้ว...พี่....ต้อง...ไม่...เป็น...อะ....ไร.....นะฮะ.....ฮึก.....”
กอร์นสะอื้นไห้ ในจิตใจเขากลัวการสูญเสียพี่สาวไปเหมือนกับที่เขาสูญเสีย พ่อแม่แท้ๆของเขาไป หรือแม้แต่พ่อแม่บุญธรรมที่ตายในหน้าที่ เขาจึงคิดที่จะเรียนตำรวจเพื่อช่วยเหลือคนอีกมากมายจะการคุกคามของอาชญากร
“แน่นอน พี่ต้องไม่เป็นไร พี่จะอยู่ดูแลกอร์นนะ”
คุราปิก้าพูดอย่างอ่อนโยน มือลูบหัวน้องชาย ใช่....ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น....ชั้นต้องปกป้องเขาให้ได้.....
**********************************************
รุ่งเช้า
“เฮ้ย!!!! นี่กอร์น นายไปโดนอะไรมา”
เด็กชายเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีมรกตถาม
“โจรขึ้นบ้านอะเด่ะ”
กอร์นพูดอย่างโมโห ขณะพูดกับเพื่อนสนิท
“ว่าแต่ โฮตารุคุงเดี๋ยวเรียนวิชาอะไรล่ะ”
“คณิตศาสตร์ไง”
เด็กชายหน้าถอดสี ตายล่ะ.....ลืมทำการบ้าน!!!!
ทันใดนั้นก็ถึงคาบเรียน คุณครูคณิตศาสตร์ก็ย่างกายมายังห้องม.1 ห้อง B
“ตายแน่......................”
**********************************************
“คูลท์ ครูได้ข่าวว่าเธอถูกลอบทำร้ายใช่รึเปล่าล่ะ”
คุณครูเม็นจิถามขึ้น
“ค่ะ”
คุราปิก้าชักหน้าออกจากหนังสือจิตวิทยาเบื้องต้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยปาสเตอร์ปะแผล ที่หน้าผากมีผ้าพันแผลพันไว้ สภาพมิต่างจากทหารหาญไปสู้รบเลยทีเดียว
“ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ”
อาจารย์สาวบอกอย่างสงสัยปนชื่นชมในความขยัน
“ไม่ได้ค่ะ การเรียนสำคัญกว่าค่ะ”
ร่างบางพูดและยิ้มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แผลที่หลังจะปวดตุบๆอยู่ก็ตาม
เลโอลีโอนั่งยิ้มด้วยความทึ่งในตัวยัยเด็กรู้มาก ถ้าเป็นเขาคงไม่ลากสังขารมาเรียนให้ยากหรอก.....แต่ในใจก็รู้สึกสงสารและเป็นห่วงแม้จะ(ยัง)ไม่ใช่เพื่อนสนิทก็ตาม
“เมดดิเคิล ใครเป็นบิดาแห่งนักจิตวิทยา” (คูกะจัง/ถ้าหนูจำไม่ผิด)
เสียงของอาจารย์เม็นจิถามชายหนุ่มร่างสูง
“เอ่อ.......”
ร่างสูงพูดไม่ออก
“เธอนี่ใช้ไม่ได้จริงๆ คูลท์ตอบครูซิ”
“ซิกส์ มัลฟอยล์ ค่ะ” (คูกะจัง/เขียนว่าอย่างนี้ใช่ไหมคะเพื่อนๆ)
เด็กสาวพูดอย่างเบื่อ ทั้งๆที่เธอนั่งเหม่อลอย แต่ก็ยังตอบได้
“เก่งมาก ทฤษฎีจิตวิทยาชื่อดังเริ่มต้นด้วย..........................”
**********************************************
ตอนเย็น
กอร์นนั่งขัดห้องน้ำชายด้วยอารมณ์ที่หม่นหมอง เขาต้องขัดห้องน้ำเป็นเวลาสามวัน ทุกๆเย็น ข้อหาไม่ทำการบ้าน และแล้วคุณครูจอมโหดก็เดินมาหา เขามีเส้นผมสีดำสนิทกับดวงตาสีนิลที่ดูลึกลับ(คูกะจัง/ คงรู้นะว่าใคร)
“พอแค่นี้ล่ะ เธอกลับบ้านได้”
เสียงเย็นชากล่าวออก เด็กชายพ่นลมหายใจ
“ครับ”
เขาตอบง่ายแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
“ถ้าเธอกลับบ้านไม่ได้กลับกับครูก็ได้นะ”
ชายหนุ่มพูด เด็กชายหันขวับอย่างไม่พอใจ
“ไม่ครับ ขอบคุณ”
ว่าแล้วเด็กชายก็วิ่งกลับบ้านทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นครูถอนหายใจ
“เฮ้อ งานที่พ่อสั่งให้ทำท่าจะยากซะแล้วแฮะ เป็นซีไอเอมันลำบากจริงๆ”
ใบหน้าหล่อเหลาส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย
“ไง...... เป็นครูคณิตศาสตร์ท่าจะยากล่ะสิ”
เสียงเย็นชาพร้อมจิตสังหารเปล่งมาจากชายหนุ่มผมสีแดง ดวงตาสีน้ำเงินเหม่อมองอย่างชวนให้ขนหัวลุก ชายหนุ่มอีกคนถอนหายใจ
“พูดได้เข้าท่าดีนี่ แค่คุ้มครองเด็กผู้ชายต๊องๆกับเด็กสาวร่างบางแค่นี้ทำไมต้องลงทุนขนาดนี้ด้วยวะ”
ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์เสีย มันน่าเล้ยจริงๆ.........ไอ้งานขี่ช้างจับตั๊กแตน.......สุดจะทน
“เอาน่าๆไงๆพวกนั้นก็เป็นลูกของท่านพันตรีคุเระ เพื่อนของพ่อแกไงเล่า”
หนุ่มผมแดงพูดให้เหตุผล
“เรอะ แล้วทำไมต้องเป็นชั้นด้วยฟะ!!!! หน่วยซีไอเอมีเป็นร้อยทำไมไม่สั่งทำ”
“ก็แกเป็นลูกพ่อแกไงเล่า!!!! พ่อแกยิ่งขี้ระแวงอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงน่า ไงๆซะอีกไม่กี่วันแกโดนเทศน์แน่ๆว่ะ พวกนั้นโดนลอบสังหาร แต่ยัยเด็กคนนั้นเล่นนุ่งผ้าขนหนูถือปืนวิ่งไล่ไอ้โจรชั่ว ชั้นว่างานนี้มีเฮแหงๆ”
ชายหนุ่มเล่าพลางหัวเราะเบาๆ เพื่อนร่วมงานไม่ใส่ใจ
“ช่างเหอะๆไร้สาระ”
“โห ไหงแกเย็นชากับผู้หญิงวะ”
“เรื่องของชั้น นายมียัยมาจิอยู่แล้วนี่”
“เหอะๆ จริงของนายว่ะ แต่นายอย่าตัดสิน เด็กสาวคุราอะไรนั่นแค่รูปถ่ายตอนหล่อนอายุ 8 ขวบนะ”
หนุ่มผมแดงแนะนำ แต่หนุ่มผมดำกลับส่ายหัว
“เหอะ แค่รูปถ่ายตอนเด็กก็ดูไม่ได้แล้ว ยัยเด็กผมทองสุดห้าว ไอ้ภาพที่พ่อให้ดูแล้วจี้ดีว่ะ นึกว่าเด็กผู้ชายที่ไหน”
“หึๆๆ ก็ภาพที่หล่อนเล่นปีนต้นไม้นี่หว่า แล้วนายดูดีๆสิ น้องเค้าก็สวยดีนี่”
“ที่นายพูดมันหมายความว่านายจะหาแฟนให้ชั้นเรอะ ยัยขาตะเกียบนั่น ชั้นคงเอาไม่ลงหรอกมั้ง ดูอ่อนแอจะตายไป” ชายหนุ่มพูดตัดบท (คูกะจัง/ว่าใครขาตะเกียบฟระ!!! ไอ้ซาตานโรคจิต!!!)
“แล้วแกจะเอาผู้ชายเหรอห๊า ผู้หญิงมันก็หยั่งงี้ล่ะวะ แกนี่เรื่องมากจริงๆแฮะ มิน่าล่ะจะสามสิบแล้วยังหาแฟนไม่ได้ มีผู้หญิงเป็นร้อยประเคนให้แกทุกวันแต่แกไม่เอาเองนี่”
“แกน่ะเงียบไปเลยไอ้ฮิจจี้โรคจิต”
“พูดใหม่สิฟะ ไอ้คุโระหมาน้อย” (คูกะจัง/พี่ฮิจจี้พูดมากไปหน่อยค่ะ (- -) ไม่รู้จะเอาใครมาเป็นเพื่อนคู่หูดี)
“ใครหมาน้อยฟะ”
“แกไง ชื่อเหมือนหมาออก เอ้อ!!!ต้องหมาตัวสีดำด้วยถึงจะเหมาะ”
“แก...... ไอ้...........”
ทั้งสองเดินไปตามระเบียงของอาคารโรงเรียนฮารุ ปากยังเถียงกันไม่หยุด
>To be continue<
ความคิดเห็น