คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : +Trust you + ตอนที่ 2 น้ำตา
+Trust you + ตอนที่ 2 น้ำตา
......จ่อมจมกับห้วงรัตติกาลอันไร้ที่สิ้นสุด
หลอมรวมแสงสว่างเข้ากับอ้อมกอดทมิฬ
เทวาผู้แพ้พ่าย
เจ้าจักกลายเป็นเพียงกายไร้ซึ่งวิญญาณหรือ
ในเมื่อเจ้าได้แปดเปื้อนลง
และกำลังจะสูญสิ้นในมิช้า....
ในห้องที่ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีดำและขาวตัดกันอย่างมีรสนิยม บนเตียงใหญ่ใจกลางห้องคือร่างหนึ่งที่นอนหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้า เรือนผมสีทองของร่างบอบบางที่หาความหล่อเหลาของการเป็นบุรุษเพศไม่เจอสยายบนหมอนขนนกสีดำกำมหยี่ อีกร่างที่แข็งแรงและหล่อเหลากว่า ผมสีรัตติกาลสยายลงบนผ้าปูที่นอน ข้างๆคือถังไม้ที่บรรจุน้ำไว้บางส่วน ผ้าขนหนูสีขาววางพาดบนขอบภาชนะ
“อือ......”
ร่างบางลืมตาขึ้น ปรากฏใบหน้าหล่อคมของผู้ที่ช่วยเขาเอาไว้จากความอัปยศเมื่อคืนที่ผ่านมา ร่างกายเบาหวิวอย่างน่าประหลาด ทว่าเขาไม่ได้ใส่ เพราะคนที่ช่วยเขาเอาไว้กลับมาให้เขานอนเตียงของตัวเอง แถมดูแลเขาตลอดทั้งคืน
“คะ....คุณ...ฮะ......”
เสียงหวานลังเลเล็กน้อย
“อือ.....ฮ้าวววววว เช้าแล้วเหรอเนี่ย...อารุณซาหวาด....ตื่นแล้วเหรอไข้ลดแล้วมั้งเนี่ย!”
ร่างสูงหาววอด มือขยี้ตา แล้วมองนาฬิกา
“เอ่อ....งั้น.....ผม...ไปแล้วนะฮะ!!”
ไม่ทันที่คนสวยจะลุกขึ้น เขาก็ถูกจับให้นั่งลง คุโรโร่ยิ้มกวนๆ ก่อนบิดขี้เกียจ
“วันนี้ชั้นขออู้ซักวัน ที่สำคัญ ช่วยเล่าเรื่องที่เกิดได้รึเปล่า”
“อ่ะ....ครับ”
คุราจำต้องตอบตกลงไปโดยปริยาย เนื่องจากการต่อต้านร่างสูงเหมือนกับคนแล้งน้ำใจ ทั้งที่คนนั้นช่วยเอาไว้
#########
“งั้นเหรอ....อืมม....ถ้านายไม่รังเกียจก็อยู่ที่นี่ซะล่ะ”
คุโระพูด ยิ้มละไมอย่างอ่อนโยนมือหนาแตะศีรษะที่ปกคลุมด้วยกลุ่มผมสีสว่างอย่างเอ็นดู
“คือว่า...น้องชายของผม....”
“งั้นนายก็พาเค้ามาอยู่ที่นี่สิ.....ชั้นรับรองว่าไม่มีใครทำอันตรายนายได้เลย”
คุราปิก้ายิ้มเศร้า และส่ายหัว
“จะให้ผมมาอยู่ที่นี่เฉยๆก็กระไรอยู่”
“หือ....”
“ถ้าคุโระซังไม่ว่าอะไร ผมก็ทำหน้าที่เป็นคนใช้ก็ได้นะครับ ค่าจ้างก็แล้วแต่คุณจะกำหนดเอง แต่ว่าให้ผมกับน้องพักที่นี่ก็เป็นบุญคุณมากพอแล้ว...”
“ก็ได้ๆ ตกลงตามนี้ ต่อไปนายก็เป็นผู้ดูแลชั้นก็แล้วกัน เดี๋ยวก็ไปขนของกันเหอะนะ”
ชายหนุ่มยิ้มแบบคนขี้เล่น ทำเอาคุราปิก้าอดยิ้มไม่ได้ ร่างบางลุกขึ้นแล้วจัดชุดนอนสีขาวที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ จนต้องพับแขนให้มือโผล่พ้น
“เอ่อ...คือ...ชุด....”
เขาพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ เมื่อคิดถึงสภาพของตนตรงหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ ในค่ำคืนที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากคนบาป ร่างเปลือยเปล่านี้ แม้นจะรู้ว่าตนเป็นบุรุษเพศ แต่ถ้าอายุป่านนี้ คงจะน่าอายไม่น้อย หากจะเผยร่างไร้อาภรณ์ต่อหน้าบุรุษอื่น
“อ๋อ...ชุดเหรอ? นี่ไง”
เสื้อผ้าของเขาถูกพับอย่างเรียบร้อย และแห้งสนิท เป็นดั่งของขวัญชิ้นเล็กที่มอบให้กับคนไร้หัวนอนปลายเท้าที่เพิ่งได้รู้จักกันไม่ถึง24ชั่วโมง
“ขอบคุณนะฮะ คุโระซัง”
ร่างบางคลี่ยิ้มหวาน แล้วหยิบเสื้อผ้า
“ไม่คิดจะเปลี่ยนที่นี่เหรอ?”
ประโยคชวนให้คิดเรียกให้เด็กหนุ่มหน้าแดง แล้วเดินเข้าห้องน้ำ ปิดประตูเสียงดังด้วยอาการเขิน ทิ้งร่างสูงที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
“น่ารักจังแฮะ”
ยามเวลาเช้าตรู่ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ช่างเป็นพิเศษสำหรับคุราปิก้าก็เป็นได้
#########
สองร่างที่ดูแตกต่างกันยืนอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง บ้านที่แทบจะพังอยู่รอมร่อ แผ่นไม้หลายแผ่นตอกติดปกปิดให้เหมือนกับบ้าน ไม้ผุสีซีดอันเกิดจากน้ำฝน ตะไคร่สีเขียวจับไปทั่ว ร่างบางเดินนำ แล้วหยิบกุญแจทองเหลืองไข เมื่อบานประตูเปิดออก เผยให้เห็นที่นอนผ้าปะชุนกันหลายครั้ง สีผ้าที่ดูไม่เข้ากันและเก่า แต่ไม่ส่งกลิ่นเหม็นเพราะถูกซักอย่างถนอม บนนั้นคือร่างน้อยของเด็กชายผู้มีเส้นผมสีเงิน ผิวสีขาวซีดที่มีสีแดงจางๆบนแก้มขาว ผ้าสีขาวซับน้ำโปะอยู่ด้านบน ข้างๆคือหญิงแก่อายุมากพอสมควร
“อ้าว...หนู...ป้ามาดูน้องของหนูตั้งนานแล้ว...ไปไหนมาเหรอ...พาพ่อหนุ่มมาด้วย?”
เธอยิ้มอย่างอบอุ่น ผมสีเทาหยิกและชุดกระโปรงเรียบง่ายสีขาวสะอาด แสดงถึงความมีฐานะที่ดีไม่น้อย ดวงตาสีน้ำตาลเปี่ยมอาธรณ์มองสองร่างหน้าประตู
“คุณมาเรีย..ขอบคุณมากครับ แล้วก็ขอโทษที่รบกวน...”
น้ำเสียงหวานรู้สึกผิด คนร่างบางคลานมาหาร่างเล็กของเด็กชาย มือเรียวสัมผัสหน้าผากของเด็กชายเบาๆ
“ไม่รบกวนหรอกจ้า ป้าแค่มาดูอาการเป็นระยะ เจ้าหนูคงเพลียมาก....จริงสิ ป้าต้องกลับไปทำอาหารเช้าให้ลุงแล้วล่ะ”
เธอเดินค้ำไม้เท้าจากไปด้วยรอยยิ้ม คุโรโร่ยิ้มเมื่อเห็นผู้ที่เต็มไปด้วยเมตตา รอบๆห้องถึงจะเต็มไปด้วยความเก่า แต่ห้องก็สะอาดเอี่ยม ข้าวของเก็บได้อย่างเป็นระเบียบ ชั้นหนังสือที่ทำจากไม้อัดซ้อนกัน และหนังสือทั้งเก่าและใหม่ เกียรติบัตร ทั้งนักเรียนดีเด่น นักเรียนคุณธรรมดีเด่น การประกวดวิชาการ สิ่งเหล่านั้นล้วนการันตีร่างบอบบางเจ้าของเรือนผมสีทองสว่างได้เป็นอย่างดี ตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้ผุเช่นกัน มีเสื้อผ้าหลายชุดที่เก่าแต่สะอาด
“เอ่อ.....”
คุราลังเลเล็กน้อย ก่อนจะลากเสื่อมาปูบนพื้นไม้แข็ง ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เค้านั่งลงบนเสื่อ ไม่คุ้นเคยกับชีวิตแบบคนยากจน เพราะเกิดมาก็กลายเป็นคนเกิดบนกองเงินกองทองของพ่อแม่ไม่ปาน
“แล้ว...เมื่อไหร่จะเก็บของซะที...”
“เอ่อ....ผมขอปลุกน้องก่อนนะครับ”
เด็กหนุ่มสะกิดน้องชายเบาๆ ไม่นานเด็กชายจึงลืมตาขึ้นช้าๆ
“คิลัว...ตื่นแล้ว...เป็นไงบ้าง...? ฮึ! ยังปวดหัวอีกรึเปล่า?”
“อือ.....นิดหน่อยฮะ....”
เด็กชายพยุงกายขึ้น ดวงตาสีม่วงปรือ กวาดมองไปรอบๆ
“วันนี้เราไม่ต้องเช่าบ้านแล้วล่ะ...พี่หางานได้แล้ว...และนายจ้างเขาก็มีที่พักฟรีให้ด้วยนะ”
เสียงหวานเอ่ย แต่ประโยคนี้ทำให้เด็กชายสะดุ้ง
“แล้วพี่ทำงานอะไรฮะ!!”
เค้าถามอย่างเกรงกลัว ไม่รู้ว่าเค้าจะต้องเจออะไรอีก จากประสบการณ์ “บางอย่าง” ได้สอนเขาให้รู้จักระมัดระวังตัวมากขึ้น
“เป็นคนรับใช้ส่วนตัว พี่ว่าเราไม่มีทางเลือกแล้วนะ...แถมเค้าช่วยพี่จากพวกบ้ากามนั่นด้วย....”
คุราปิก้ายิ้มหวาน มือลูบหัวน้องชายอย่างรักใคร่ แต่ว่าคิลัวกลับทำหน้าบูดเหมือนไปรับประทานของบูดมาไม่ปาน
“ไว้ใจได้เหรอ!!”
ดวงตาสีม่วงกวาดไปรอบๆ ก็เจอชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ทั้งดวงตา เส้นผม และสูทล้วนแต่เป็นสีดำ
“ฮื่อ....”
คิลัวมองคุโรโร่อย่างไม่น่าไว้วางใจ สายตาข่มขู่อย่างไม่กลัวเกรงใคร ชายหนุ่มอดขำไม่ได้ เพราะท่าทีของเด็กชายเหมือนคนหึงแฟนไงๆไม่รู้ ท่าทางน่าสงสัย
“ไม่เอาน่า....คิลัวก็.....เขาเป็นคนดีนะ....แล้วก็มีทางเลือกแค่ทางเดียวเท่านั้นแล้วนะ”
จากสำเนียงบอกเป็นสำเนียงอ้อน ดวงตาหวานมองน้องชายอย่างขอความเมตตา เนตรอัญมณีสีม่วงหรี่ลง ใช้ความคิดจนเกิดอาการเครียด แต่มองหน้าพี่ชายแล้ว อดใจอ่อนไม่ได้จริงๆ....
“ก็ได้....ถ้านายทำอะไรพี่ชั้น!! ชั้นฆ่านายแน่!!!”
เด็กชายแยกเขี้ยว แล้วทำหน้ามุ่ย สะบัดหน้างอน จนพี่ชายหัวเราะแห้งๆ
“ไม่ต้องห่วงน่า....”
ร่างสูงยิ้มกริ่ม แล้วจึงลุกขึ้น ปัดชุดสูทให้ฝุ่นที่เกาะออกไป โดยมีร่างเล็กกอดอก ทำจมูกย่นอารมณ์ประมาณเกลียดคนรวย
“เก็บข้าวของได้แล้ว...หรืออยากถูกพวกโรคจิตตามมาจับกดล่ะ?”
คิลัวดุแยกเขี้ยว ขู่ขวัญราวลูกแมวสีเงินขี้โมโห
“ครับๆๆ เข้าใจแล้ว คิลัว...ไปนั่งรอข้างนอกนะ พี่จะขนของเอง”
“อือ...ครับ...”
เด็กชายเดินเซนิดๆออกไปนอกบ้านอย่างสุดแสนจะไม่สบอารมณ์ ความคิดถึงวิชาฆ่าหั่นศพขอฆาตกรโรคจิตที่เพิ่งอ่านไปหลั่งไหลเข้าสู่สอง และอาจจะนำไปใช้จริง หากพบว่าร่างสูงที่มาเยือนกำลังจะล่อลวงคนสำคัญของตน
“ฉันนช่วยด้วยอีกคน...”
“ขอบคุณครับ...”
และแล้วทั้งสองก็ช่วยกันลงมือเก็บข้าวของ ทิ้งร่างเล็กของเด็กชายไว้ข้างนอก
“ไอ้เจ้าสีดำ (คุโระ)นั่น....ถ้ามันบังอาจทำอะไรพี่ฉันล่ะก็....มันต้องตายด้วยมือฉัน!!”
#########
“ว๊าวววว ห้องสวยจังเลยฮะ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นแค่ห้องคนรับใช้!!!!”
คุราปิก้ายิ้มร่า เมื่อเขายืนอยู่ที่ห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย เตียงเดี่ยวสี่เสาเรียบง่าย ผนังสีขาวสะอาด ชั้นหนังสือตั้งอยู่ข้างตู้เสื้อผ้าไม้เงาวาววับ พื้นกระเบื้องสีน้ำเงินที่ได้รับการขัดถูอย่างใส่ใจ ร่างบางรีบหอบข้าวของมาไว้ในห้อง โดยมีคนใช้เป็นชายหนุ่มสองคนช่วยขนไปด้วย ไม่นานนักห้องนี้ก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ถึงห้องจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับคุราปิก้าแล้ว...
“จอห์นสัน อีสเตอร์ พวกนายกลับไปได้แล้วล่ะ”
สองหนุ่มจากไป โดยยังมองหน้าหวานของร่างบางไม่วางตาง่ายๆ ผู้เป็นนายสั่งแล้วจึงเดินมาหาเด็กหนุ่มตบไหล่เรียกกำลังใจไปพลาง (คู-แต่คนแต่งคิดว่าแต๊ะอั๋งล่ะ- -+)
“ชอบมั้ยล่ะ?”
“ครับ!! ชอบมากๆด้วย เนอะ!คิลัว!”
“อ่ะ..อื้อ...”
คิลัวพยักหน้า ถึงจะทึ่งกับสวัสดิการหรูๆ แต่พิษไข้รุนแรงกว่า จนต้องล้มตัวลงบนเตียงอย่างเมื่อยล้า
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีโอกาสได้นอนที่แบบนี้....ที่ผ่านมาก็ได้นอนแต่นอนกลางดินกินกลางทราย......อย่างดีสุดก็เพิงอย่างที่เห็นนั่นแหละ”
ลืมไปว่าเจ้านายคนใหม่ยังมิได้ออกไปจากห้อง เด็กชายมองหน้าร่างสูงครู่ใหญ่อย่างใช้ความคิด
“นายจะให้พี่ชั้นทำงานอะไร?”
“อ๋อ..ก็ไม่มากมาย ห้องนี้อยู่ข้างห้องชั้น...คุราปิก้าจะมีหน้าที่ดูแลฉันในเรื่องเครื่องแต่งกาย เขาต้องรีดผ้าของฉัน ทำความสะอาดห้องนอน จัดหนังสือ ช่วยเรื่องส่วนตัวประมาณนั้น เผอิญว่าฉันขาดคนดูแล...จะหาผู้ชายแบบนี้ก็ไม่มี แถมจะให้ผู้หญิงก็กระไรอยู่ แถมเผอิญเจอเขา ก็เลยอยากช่วย งานนี้ฉันจ่ายเดือนละสองหมื่นเจนี่ แล้วก็เลี้ยงข้าวให้ทุกมื้อ แถมนายจะติดตามฉันไปที่บริษัทเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น สบายๆใช่มั้ยล่ะ?”
ชายหนุ่มพูดจบก็สาวเท้าออกไป
“หลับให้สบายนะ คุราปิก้า วันนี้ตามฉันมาที่บริษัททีนะ แล้วก็เผอิญวันนี้วันจันทร์....ขาดเรียนวันเดียวจะเป็นไรมั้ย?”
“ไม่ครับ...ผมลาคุณครูพอดี บอกว่าน้องป่วยเลยต้องมาดูแล...”
“งั้นเรอะ ตามมาสิ ฉันจะได้แนะนำอะไรบ้าง”
“ครับ”
คิลัวทำหน้ามุ่ยก่อนจะม่อยหลับลงบนเตียง
.....ทำไมนะ...เค้าถึงรู้สึกไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับพี่ชาย....พี่ชายที่เลี้ยงดูเค้าเหมือนน้องชายแท้ๆ.....
“หวังว่าหมอนั่นคงไม่ได้.......”
ความทรงจำเมื่อครั้งอดีตยังคงตรึงใจเค้าอยู่.....
..ถ้าเป็นไปได้....อย่าให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง.....
...
..
..
.
ภายในห้องมืดแคบ ร่างบอบบางถูกผลักลงบนกองผ้าเก่ายุ่งๆบนพื้นเย็นเฉียบ ร่างสูงของชายหนุ่มหลายคนยืนค้ำ ดวงตาส่อแววต้องการร่างนั้นมาเป็นของตน
“ว่าไงจ๊ะ...คนสวย....รับปากว่าจะช่วยงานพวกพี่....งานเป็นผู้ช่วยตามที่บอกเอาไว้ให้”
ชายหนุ่มผิวคล้ำเชยคางของเด็กชายตัวเล็กเอาไว้ ดวงหน้างามราวนางฟ้าตัวน้อยเงยขึ้นด้วยแรงบังคับที่ส่งผ่านปลายนิ้วหยาบ ดวงตาสีใบไม้หวาดหวั่น
“ก็....ก็ได้...แต่ว่า...มัดผมไว้ทำไมฮะ?”
มือน้อยๆพยายามสลัดให้พ้นซึ่งการพันธนาการจากเชือกหนา
“ก็พวกพี่บอกแล้วไง...ว่าเป็นผู้ช่วย...ผู้ช่วยให้พี่มีความสุขไงน้อง!!! ฮ่าๆๆ”
ว่าแล้วเค้าก็จัดการกระชากเสื้อสีขาวออกอย่างง่ายดาย มือหลาลูบไล้ผิวกายที่สั่นเทิ้ม เด็กน้อยดิ้นรน ปากขอร้องความช่วยเหลือ ดวงตาสีเขียวรื้นชื้นไปด้วยหยดน้ำตา
“พี่ฮะ!!!!!!”
เด็กน้อยวัยห้าขวบวิ่งเข้าเพื่อที่จะช่วยผู้ที่เรียกว่าพี่ แต่ก็ถูกชายอีกคนจับเอาไว้ และจับมัดติดกับเสาเหล็กอย่างง่ายดาย แม้ว่าร่างเล็กจะทั้งทุบทั้งตีก็ไม่เป็นผล
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
เด็กน้อยผมสีสว่างกรีดร้อง ด้วยความหวาดกลัว เมื่อชายหนุ่มคนนั้นพยายามย่ำยีเค้าให้ถึงที่สุด ทั้งๆที่ตัวเค้าเองไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร......
ดวงเนตรสีม่วงไพรินมองภาพด้วยความเจ็บปวด รวดร้าวจากภายในจิตใจ เค้า....ไม่อาจปกป้องคนสำคัญของเค้าได้เลยหรือไง!!!
“พี่ฮะ!!!! หยุดนะ!! ไอ้พวกบ้า!!!”
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ม่ายยยยยยยยยย ผมเจ็บบบบบบบบบ”
.....เสียงกรีดร้องที่ราวกับกรีดหัวใจให้ร้าวฉาน
ทำนบน้ำตาที่อาบไหล ราวกับทำให้ร่างกายเย็นเฉียบ
แววตาเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ราวกับกำลังอ้อนวอน ขอร้องคนที่ไร้ซึ่งกำลัง.......
สิ่งสุดท้าย......ที่โสดประสาทจะได้รับ คือเสียงกระซิบร่ำไห้ของร่างน้อยๆ ที่เจ็บไปทั่วร่าง
.
ปวดร้าว....ราวอยู่ในขุมนรก....
หยดน้ำตาไหลรินอาบร่างแก้มขาว หลังจากที่ร่างสูงของพวกต่ำช้าได้สาวเท้าจากไปอย่างสุขสมที่ได้ลิ้มรสชาติหอมหวานของเทวดาตัวน้อย.... เด็กน้อยผมสีสว่างนอนงอตัว คราบเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วร่าง รวมทั้งตามผืนผ้าเจือปนกับคราบของเหลวสีขาวขุ่นที่ร่างเล็กไม่เคยเห็นมาก่อน รอยจ้ำสีแดงเต็มไปทั่วร่างน้อย เด็กชายผมสีเงินดิ้นขลุกๆเพื่อหาทางแก้เชือกนั้น
“ฮึก...ฮึก....ฮือ......”
เด็กชายสะอื้น เจ็บ...ไปทั่วทั้งกาย.....ทั้งจิตใจ......
“พี่ฮะ!!”
ในที่สุดเด็กน้อยผมสีเงินก็ได้หลุดมาจากบ่วงเชือกตรงไปยังร่างบอบช้ำของพี่ชาย มือขาวซีดช้อนร่างเปลือยเปล่าของเค้าขึ้น ดวงหน้าเปื้อนคราบน้ำตาซบอกของเด็กชายที่อายุน้อยกว่าถึงห้าปี
“ผม....ขอ....โทษ...ที่ปกป้อง...พี่ไม่ได้...ฮะ...”
“ฮึก...ไม่หรอก...คิลัว...พี่ต่างหากที่ไม่ระวังเอง....ฮึก.....”
ไหล่เล็กสั่นเทิ้มเพราะการร้องไห้เป็นเวลานาน
“พี่ฮะ...ผม...จะปกป้องพี่เองฮะ....ฮือ.......”
ร่างน้อยของเด็กชายร้องไห้อย่างเวทนา ต่างกอดกันเพื่อซึมซับไออุ่น ไออุ่นจากครอบครัว ที่แม้ไม่ใช่จากสายเลือดแต่ก็ยังดี.....ยังดีที่มีคนอยู่เคียงข้าง.......
..........เสียงร่ำไห้จะดังอยู่ เนิ่นนาน..........
..
..
..
..
สิ่งที่ผมปรารถนา......คือการได้ปกป้องพี่ครับ..........
...
...
.
.
.
..
+ติดตามตอนต่อไป+
ความคิดเห็น