ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dream of Me อยากให้เธอฝันยามหนุน

    ลำดับตอนที่ #6 : ฝันครั้งที่ 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      100
      6 ก.พ. 61



    ฝันครั้งที่ 5

     

                Yanakorn : ช่วยเลือกของขวัญหน่อย

                ข้อความแรกจากเพื่อนเด้งขึ้นมาในช่วงสายของวัน หลงละสายตาจากงานเลื่อนสายตามาที่มองมุมขวาล่างของหน้าจอ คลิกเมาส์ที่แจ้งเตือนเพื่อเข้าไปพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

                Veerayu : ของขวัญอะไร

                Veerayu : วันเกิดเหรอ

                หลงลองเดาสุ่ม วันปีใหม่ก็เลยมาตั้งนานแล้ว วันเกิดเพื่อนในกลุ่มก็ไม่ใช่ แล้วเพื่อนจะซื้อของขวัญไปให้ใครกัน เพื่อนที่ทำงานงั้นเหรอ

                Yanakorn : ของขวัญบัดดี้

                Yanakorn : ที่ทำงานเล่นบัดดี้กันจะเฉลยพรุ่งนี้

                Yanakorn : เลยว่าจะหาซื้อของขวัญให้

                หลงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแม้อีกฝ่ายจะมองไม่เห็น เล่นบัดดี้กันอย่างนั้นเหรอ โตเป็นผู้ใหญ่ทำงานแล้วก็ยังเล่นอะไรแบบนี้ได้อยู่สินะ มาคิดๆ ดูแล้วเขาเองก็อยากลองเล่นกับที่ทำงานเหมือนกัน แต่บริษัทเล็กที่มีพนักงานแค่ไม่กี่คนแถมยังมีแต่ผู้สูงวัยคงไม่น่าสนุกเท่าไร

                Veerayu : บัดดี้เป็นหญิงหรือาย

                Yanakorn : ผู้หญิง ทีนี่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง มีผู้ชายแค่สามคนเอง

                Veerayu : คิดไว้หรือยังว่าอยากซื้ออะไร

                Yanakorn : ตอนแรกว่าจะให้แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม

                Yanakorn : แต่คงไม่เหมาะมั้ง 55555

                หลงหลุดยิ้มออกมากับความคิดของเพื่อน จะว่าไปของขวัญชิ้นนี้มันจะไม่คุ้นเคยไปหน่อยเหรอ แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม

                Veerayu : อย่าลอกดิ คิดเองๆ

                Yanakorn : ลอกอะไร ไม่ได้ลอกเลย

                หลงส่ายหน้า คิดเองที่ไหน แบบนี้มันลอกกันชัดๆ อีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ได้อยากได้แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มเหมือนใครบางคนก็ได้

                Veerayu : ตกลงจะซื้ออะไร

                Yanakorn : ยังคิดไม่ออกเลย ว่าจะชวนไปเดินดูด้วยกัน

                Yanakorn : ไปมั้ย

                'ข้ออ้าง' คำนี้โผล่เข้ามาในหัวเมื่อคิดถึงเรื่องของขวัญที่เพื่อนชวนไปช่วยเลือก ในละครก็ชอบใช้มุกนี้ออกจะบ่อย แต่หลงกลับไม่คิดอยากปฏิเสธเลยสักนิด เพราะไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างหรือเรื่องจริง เขาก็เลือกที่จะตอบตกลงอยู่ดี

                Veerayu : ไปดิ

               

                ม. 5 เทอม 2

                ญาณากร

                หลงมองชื่อที่เขียนไว้บนแผ่นกระดาษเล็กๆ สลับกับมองเจ้าของชื่อที่นั่งอยู่แถวข้างๆ แล้วได้แต่คิดว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่ ที่จับได้เพื่อนกลุ่มเดียวกันตอนเล่นบัดดี้แบบนี้

                "ได้ใครวะ" โหน่งที่นั่งคู่กับหลงชะโงกหน้ามาดูแต่โดนเบี่ยงตัวหลบ

                "ไม่บอก"

                "ผู้หญิงผู้ชาย"

                "ไม่บอก"

                "เฮ้ยใบ้หน่อย กูได้ผู้หญิง"

                หลงเหล่มองอย่างไม่ไว้ใจ ได้คนใกล้ตัวมีสิทธิ์โดนจับได้ไงอยู่แล้ว แต่เมื่อลองเทียบจำนวนนักเรียนหญิงชายในห้องแล้วต่างกันอยู่ไม่มากนัก งั้นเขาจะยอมใบ้ก็ได้

                "ผู้ชาย"

                "กี่ชื่อพยางค์"

                "พอ"

                "ไม่สนุกเลย"

                สุดท้ายโหน่งก็เลิกตื้อเมื่อรู้ว่าไม่ได้ผล กลับไปนั่งคิดถึงสิ่งดีๆ ที่จะทำให้คู่บัดดี้ตลอดสัปดาห์นี้ หลงเองก็เช่นกัน จะเทคแคร์ยังไงให้เพื่อนไม่รู้ตัว ในเมื่อปกติแล้วพวกเขาเรียกได้ว่าสนิทกันน้อยที่สุดในกลุ่มเลยด้วยซ้ำ

     

                เพื่อนเป็นคนคนขี้เซา หลงไม่รู้ว่าเพื่อนไปอดหลับอดนอนมาจากไหนหรือเอาเวลาช่วงกลางคืนไปทำอะไรหมด แปดสิบเปอร์เซ็นต์นอกจากเวลาเรียนจึงมักเห็นเพื่อนคนนี้ฟุบหลับบนโต๊ะเรียนเป็นประจำ อย่างเช่นตอนนี้

                คนในกลุ่มกำลังคุยโม้ไม่ก็ปรึกษากันเรื่องบัดดี้ จากที่หลงฟังมาคงมีแต่เขาเท่านั้นที่ได้เพื่อนในกลุ่ม เพราะบางคนถึงขนาดยอมเอ่ยชื่อออกมาว่าจับได้ใคร

                กลุ่มของหลงนั้นจับจองมุมหลังห้องติดหน้าต่าง ที่นั่งเป็นแถวคู่ หากไล่จากแถวหลังขึ้นไปจะเป็นนารอนกับขวัญ เพื่อนกับเล็ก เก้กับเต้ย ส่วนหลงกับโหน่งนั้นจองที่ไม่ทันเลยได้นั่งแถวถัดไปข้างๆ เพื่อนกับเล็กแทน

                 ตอนนี้เป็นช่วงพักสิบนาทีของคาบเช้า เพื่อนฟุบหลับ เล็กไปกับเต้ยไปเข้าห้องน้ำ ส่วนที่เหลือก็คุยห้ามหัวกันไปมา เห็นแล้วนึกสงสารเพื่อนอยู่ไม่น้อย หลงเลยแอบขยับไปนั่งที่เล็ก ตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างให้เพื่อน แต่เพียงแค่หย่อนก้นนั่งลงคนที่ฟุบอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมา

                คนตัวอ้วนใหญ่เทอะทะอย่างเขาจะทำให้มันเงียบสงบไร้การเคลื่อนไหวคงไม่รอดสินะ

                เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วส่งยิ้มบางๆ พวกเขาคุยกันไม่บ่อย แต่ใช่ว่าจะรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ด้วยกัน

                "ทำให้ตื่นป้ะเนี่ย"

                "แค่ไม่กี่นาทีเอง ยังไม่หลับหรอก"

                "เสียงดังด้วยใช่มั้ย"

                "เสียงดังไม่เท่าไร แต่หมอนมันไม่นุ่ม" เพื่อนบอกแล้วก็หัวเราะพลางโชว์แขนของตัวเองให้ดู

                หลงยิ้มแหยกลับ มองท่อนแขนที่ไม่ถึงกับสุขภาพดีและไม่ผอมจนเกินไป เห็นเส้นเลือดปูดโปนออกมาดูแล้วสมกับความเป็นชาย แล้วมันก็คงไม่นุ่มน่าหนุนจริงอย่างที่ว่า

                "แต่อันนี้น่าจะนุ่มดี" แล้วอยู่ๆ เพื่อนก็ชี้มาที่แขนของหลง

                หลงมองท่อนแขนอวบอ้วนของตัวเองแล้วเลิกคิ้ว แขนที่มีแต่ไขมันนุ่มนิ่มแบบนี้คงหนุนแล้วหลับสบายกว่าแขนที่มีแต่กล้ามเนื้อ และถ้าบัดดี้อยากจะหนุน เขาเองก็ยินดี

                "จะลองหนุนมั้ยล่ะ"

                "ได้เหรอ"

                "อืม"

                เพื่อนยิ้มแฉ่งจนเห็นลักยิ้มตอนหลงวางแขนลงบนโต๊ะ เขาฟุบตัวลงหนุนแขน หันหน้าตะแคงข้างไปทางหลงโดยที่รอยยิ้มจะแต้มอยู่บนริมฝีปาก กะแล้วว่าแขนของหลงต้องนุ่มอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด

                "หนุนแขนหลงดีกว่าจริงด้วยแฮะ"

                หลงมองคนพูดกับริมฝีปากที่กำลังแย้มยิ้มอย่างไม่อาจละสายตา อีกทั้งดวงตาที่เปล่งประกายสดใสคล้ายกับกำลังถูกสะกดทุกครั้งที่มอง เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครต่อใครถึงได้หลงใหลในตัวเพื่อนคนนี้ เพราะถ้าหากเขาเป็นผู้หญิง เขาก็คงจะเผลอหลงเสน่ห์นี้เหมือนกัน

                เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อนก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรงเหมือนเดิม เขายังคงยิ้ม และบอกออกมาอย่างเสียดาย

                "วันนี้เวลาไม่พอ ไว้จะใช้บริการใหม่นะ"

                หลงได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนเจ้าของโต๊ะตัวจริงจะกลับมา

                ความอบอุ่นจากสัมผัสเพียงชั่วครู่หายไปอย่างรวดเร็ว หลงย้ายกลับไปนั่งโต๊ะตัวเอง ร่วมวงสนทนากับเพื่อนๆ และกลายร่างเป็นหลงหลับจนขวัญต้องออกปากห้าม ส่วนคนที่ทำตัวง่วงเหงาหาวนอนก่อนหน้านี้กำลังหัวเราะชอบใจ ไร้คำพูดไร้ข้อคิดเห็น มีเพียงเสียงหัวเราะกับรอยยิ้มชอบใจที่ใครต่อใครต่างชอบมัน

     

                และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของการเล่นบัดดี้ หลงรู้สึกว่าเขายังเทคแคร์บัดดี้ของตัวเองได้ไม่ดีนัก แต่การที่เพื่อนมักออกปากขอยืมแขนเขาหนุนก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้รู้สึกภูมิใจขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ทำให้เพื่อนมีความสุขได้บ้างนอกจากของกินที่แอบเอาไปซ่อนไว้ให้ใต้โต๊ะ

                วันเฉลยนั้นทุกคนในตกลงกันว่าจะจัดในห้องเรียน โดยให้บัดเดอร์เตรียมของขวัญมาคนละชิ้นจะเป็นอะไรก็ได้ไม่จำเป็น และนำไปมอบให้บัดดี้ของตนที่โต๊ะ

                กิจกรรมเฉลยบัดดี้จัดขึ้นหลังเรียนในวันศุกร์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานเฮฮา ของขวัญที่แต่ละคนเลือกสรรมานั้นเพื่อบัดดี้ของตนโดยเฉพาะ ถูกใจบ้าง น่าโมโหบ้าง บางคนทายถูก บางคนนึกไม่ออกเลยก็มี แล้วเพื่อนล่ะจะรู้ตัวไหมว่าใครเป็นบัดดี้ของตัวเอง

                เลขที่ของหลงนั้นอยู่เกือบลำดับท้ายๆ เมื่อถึงคิวตัวเองเขาก็หยิบถุงกระดาษที่เตรียมมาเดินไปยืนข้างโต๊ะของเล็ก แต่เล็กนั้นได้รับของขวัญไปแล้ว คนที่รู้ตัวแล้วว่าได้เป็นบัดดี้ของหลงเลยยิ้มกว้างยกมือชี้หน้าตัวเอง

                "หวังว่าจะชอบ" หลงยื่นถุงใบนั้นให้เพื่อน เพื่อนๆ ในกลุ่มเริ่มส่งเสียงโวยวายเพราะจับได้คนในกลุ่มกันเองแต่ไม่มีใครรู้ ก็คงจะมีแต่เพื่อนเท่านั้นที่ดูดีใจและไม่โวยวายไปกับเขา

                "ขอบใจนะ"

                หลงไม่รู้ว่าเพื่อนชอบอะไรเป็นพิเศษ การ์ตูน หนัง ศิลปะหรือดนตรี เขารู้เพียงว่าเพื่อนชอบกิน อาจจะมีเมนูบางอย่างเป็นพิเศษ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าของกินเพื่อนก็ชอบหมด เป็นคนชอบกินแล้วยังเป็นคนที่น่าอิจฉาอีก น่าอิจฉาที่เพื่อนกินเท่าไรก็ไม่อ้วนตุ๊ต๊ะอย่างเขา

                การเฉลยบัดดี้ยังดำเนินต่อไปหลังจากหลงเดินกลับมานั่งที่ เขาแอบชะเง้อมองตอนเพื่อนเปิดดูของในถุง เพื่อนเองก็ชะโงกมามองเขาและยิ้มให้เช่นกัน หวังว่าจะชอบนะ

                แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มเจ้าเด็ดในตลาดที่เขาซื้อให้เป็นของขวัญ

     

                เพราะบ้านอยู่ถนนเส้นเดียวกัน แถมที่ทำงานของหลงยังใกล้บ้านเพื่อนมากกว่าบ้านตัวเองเสียอีก ทำให้การนัดเจอกันในแต่ละครั้งของทั้งสองกลายเป็นเรื่องง่าย เพื่อนเลิกงานสี่โมงครึ่งในวันที่ไม่มีเวรตอนเย็น ส่วนหลงเลิกงานหกโมง คำนวณจากเวลาแล้ว เมื่อเพื่อนกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเลิกงานของหลงพอดี

                ตลาดใกล้สำนักงานเขตซึ่งอยู่ระหว่างที่ทำงานหลงกับบ้านเพื่อนกลายเป็นจุดนัดพบ ตลาดแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าเล็กๆ พ่อค้าแม่ค้าเริ่มตั้งร้านช่วงบ่ายสามโมงและเริ่มเก็บร้านตอนสองทุ่ม หลงเองช่วงหลังเลิกงานก็มักจะแวะซื้อของกินที่นี่บ่อยๆ

                "คิดออกหรือยังว่าจะซื้ออะไร" ทันทีที่เจอหน้ากันหลงก็โยนคำถามใส่

                เพื่อนทำท่านึก คนที่เป็นบัดดี้เขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ถ้าพูดถึงจุดเด่นของเธอคงเป็นผมที่ยาวดำสลวย แต่น่าเสียดายที่มันถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อยตามกฎของโรงพยาบาล แต่เหล่าสาวๆ ยังสามารถหาสิ่งสวยๆ งามๆ มาใส่ให้มันดูไม่ธรรมดาได้เสมอ

                และถ้าหากพูดถึงเรื่องความสวยความงาม สิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะเหมาะกับเธอคงเป็น...

                "เน็ตคลุมผม"

                "เน็ต?" หลงเลิกคิ้วถามกลับ เขาไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้นัก และไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร

                "ที่มันมีโบว์แล้วก็มีตาข่ายเอาไว้เก็บผมยาวๆ อ่ะ"

                "อ๋อ"

                "เอาไอ้นั่นแหละ"

                "ช่างเลือก"

                "มันน่าจะเหมาะดี"

                "กับผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ"

                "ใช่ หาอันที่มันสวยๆ เวอร์ๆ หน่อยน่าจะเหมาะ" เพื่อนอมยิ้มแล้วนึกภูมิใจกับความคิดของตัวเอง ปกติเขาเป็นคนเลือกของขวัญไม่ค่อยเก่ง แค่ซื้อของที่อยากซื้อโดยไม่ได้คิดว่าคนรับอยากจะได้หรือไม่ แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกว่าเธอต้องชอบของที่เขาเลือกให้แน่ๆ

                "ร้านตรงนั้นน่าจะมี" หลงชี้ไปยังร้านที่อยู่ใกล้ทางออก ร้านนี้ขายของน่ารักๆ ที่พวกผู้หญิงชอบ เขาเองก็เคยพาหยกแวะมาซื้อโบว์ผูกผมที่ร้านนี้เหมือนกัน

                ร้านสำหรับผู้หญิงดูแล้วไม่เหมาะกับผู้ชายตัวโตๆ อย่างพวกเขาเท่าไร โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นในร้าน ทว่ารอยยิ้มกับสายตาของแม่ค้าที่มองมากลับทำให้คนถูกรู้สึกอึดอัด คงจะเป็นอะไรที่แปลกเมื่อผู้ชายสองคนกำลังยืนเลือกเครื่องประดับของผู้หญิง แต่คนถูกมองคงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นน่ารักสำหรับผู้พบเห็น

                ผู้ชายสองคนในร้านกิ๊ฟช็อปเครื่องประดับผู้หญิง ในความคิดของคนมองก็แค่ผู้ชายที่กำลังเลือกซื้อของให้ผู้หญิง มาว่าจะเป็นแฟน น้องสาว หรือเพื่อน ก็เท่านั้นเอง

                ที่ร้านนี้มีเน็ตคลุมผมไม่มากนัก หลงยืนข้างเพื่อนคอยออกความเห็นเมื่อเน็ตคลุมผมแต่ละอันถูกหยิบมาดู ผ่านไปอันแล้วอันเล่าจนในที่สุดก็ได้ของที่ถูกใจ เพื่อนยิ้มกว้างส่งให้แม่ค้าคิดเงิน ได้ของขวัญสำหรับบัดดี้แล้วก็เก็บใส่กระเป๋า รีบเดินนำออกจากร้าน

                "เออใช่ แล้วก็มีของจะให้สำหรับบัดเดอร์ด้วย" เดินพ้นเขตร้านมาได้ไม่เท่าไรเพื่อนก็หมุนตัวกลับมาหา เขายิ้มกว้าง มองหลงที่เอียงคอทำหน้างง

                "บัดเดอร์ใคร"

                "บัดเดอร์เมื่อตอน ม. 5"

                พูดจบเพื่อนก็เปิดกระเป๋าหยิบถุงบางอย่างออกมา เพราะเป็นสีทึบหลงจึงเดาไม่ออก จนเมื่อมันถูกยื่นมาให้พร้อมคำเฉลยถึงได้เข้าใจ

                "แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มจากเชียงใหม่"

                แต่หลงกลับไม่คิดว่ามันคือของขวัญ ในเมื่อเพื่อนเพิ่งกลับจากงานแต่งเพื่อนที่เชียงใหม่เมื่อวาน เพราะฉะนั้นมันควรเรียกว่าของฝากมากกว่า

                "ไม่ใช่ของฝากหรอกเหรอ"

                "มันก็เหมือนกันแหละน่า"

                "ไม่เห็นจะเหมือน"

                "เหมือนดิ"

                "เหมือนตรงไหน ไม่ได้เล่นบัดดี้บัดเดอร์กันสักหน่อย"

                เพื่อนมองคนที่เถียงอย่างไม่ยอมแล้วอมยิ้ม ตอนนี้มีมุกเสี่ยวๆ ลอยอยู่ในหัวเขาเต็มไปหมดแต่ยังลังเลว่าควรจะเล่นดีหรือเปล่า เกิดหลงไม่ชอบโดนทำมึนตึงใส่ขึ้นมาคงลำบาก อีกอย่างเขาไม่ใช่สายแจกมุก เกิดมาก็ยังไม่เคยเดินหน้าจีบใครเป็นจริงเป็นจังเพราะเป็นฝ่ายถูกเข้าหามาโดยตลอด พอมาลองคิดๆ ดูแล้วสงบปากเอาไว้น่าจะดีกว่า ถ้าไม่เมาเขาคงไม่กล้าทำเรื่องบ้าๆ กับหลงจริงๆ

                "ยิ้มอยู่นั่นแหละ"

                "เป็นแค่ของฝากก่อนก็ได้" สุดท้ายของที่ตั้งใจซื้อมาให้เพื่อเล่นมุกเสี่ยวก็กลายเป็นแค่ของฝากธรรมดา

                หลงยิ้มขำส่ายหน้าให้กับอาการแปลกๆ ของเพื่อนที่เขาเข้าใจดี ถึงจะติสท์ ดูเอื่อยเฉื่อยไม่สนใจรอบข้าง แต่เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ห่วงความรู้สึกคนอื่นมากแค่ไหน อะไรเลี่ยงได้ก็เลี่ยง อะไรที่พอทำได้ก็ทำ

                "ซื้ออะไรอีกมั้ย"

                เพื่อนส่ายหน้ารัวๆ เมื่อโดนถาม เขาตั้งใจมาซื้อแค่ของขวัญให้บัดดี้กับเอาของฝากจากเชียงใหม่มาให้หลง แม้มันจะเป็นข้ออ้างในการนัดเจอกันครั้งนี้ก็ตาม

                "กลับเลยมั้ยจะได้ไปส่ง"

                "กลับเลยก็ได้" เพื่อนพยักหน้ารับ ก่อนเดินตามหลงไปยังลานจอดรถ

                คนเดินนำหน้าอมยิ้มกับตัวเอง นึกขำคนที่ไม่ยอมเอ่ยปากขอทั้งที่น่าจะมีอะไรอยู่ในใจ เพราะสีหน้าหงอยๆ ที่แสดงออกมานั้นเดาได้ไม่ยาก แค่ลองเอ่ยปากออกมาว่า 'ยังไม่อยากกลับ' แค่นั้นเขาก็พร้อมจะยืดเวลาเพื่อให้อยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้

                อยู่กับเพื่อนที่ชื่อเพื่อน

                อยู่กับเพื่อน คนที่ไม่ได้อยากรู้จักกับเขาแค่ในสถานะเพื่อน

     

    TBC

     

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เจอกันตอนหน้าค่า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×