ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✿ 8 วัน 7 คืน ✿

    ลำดับตอนที่ #3 : คืนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 60




    คืนที่ 1





                อากิบะหรืออากิฮาบาร่าในยามค่ำคืนยังครึกครื้นเหมือนทุกที ย่านนี้เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของผม ถ้ามาญี่ปุ่นก็ต้องมาที่นี่ แล้วย่านนี้มันมีอะไรน่ะเหรอ

                ก็อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้านอาหาร แล้วก็...ของเกี่ยวกับอนิเมะ มังงะ ไอดอล ฟิกเกอร์ กาชาปอง วิดีโอเกมส์ เมดคาเฟ่ พูดง่ายๆ ก็สวรรค์ของโอตาคุนั่นแหละ หรือจะพูดอีกทีก็คือสวรรค์ของผมอีกเหมือนกัน

                ผมพาน้องหมีเดินลัดเลาะไปตามซอกซอยอย่างช่ำชอง ดูเหมือนน้องมันจะชอบที่นี่นะ มองดูสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยความสนใจ โดยเฉพาะตอนเดินผ่านร้านที่มีตู้เรียงเป็นแถวๆ แถมเสียงดังไปถึงหน้าปากซอย

                "สนใจ" ถามลองเชิงออกไปน้องหมีมันก็รีบพยักหน้ารับ หรือจะทิ้งน้องมันไว้ที่นี่แล้วผมไปเมดคาเฟ่คนเดียวดี

                "มันคืออะไร"

                "ปาจิงโกะ เล่นเป็นมั้ย"

                "ไม่อ่ะ"

                "อย่าไปเล่นเลย" ผมเดินผ่านร้านปาจิงโกะทิ้งน้องหมีให้ยืนมองหน้าร้านตาละห้อยต่อไป มันเป็นการพนันอย่าไปเล่นเลย ถึงจะถูกกฎหมายก็เถอะ เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า

     

                เมดคาเฟ่ที่ผมพามาอยู่ชั้นสี่ของตึก ตอนเข้าไปในลิฟต์เจอเพื่อนร่วมทางอีกสองคน แถมตอนออกจากลิฟต์เจอน้องเมดเลิกงานพอดีอีก คนอื่นเขาก็ทักทายน้องเมดกันไป ยกมือบ๊ายบายทำเสียงงุ้งงิ้งอะไรแบบนี้ ผมก็อยากทำบ้างนะแต่แอบเหล่ไอ้คนข้างๆ เห็นมันมองเขาแล้วยิ้มตาปิดเลยไม่ทำดีกว่า

                ออกจากลิฟต์เดินมาอีกนิดหน่อยก็ถึงทางเข้าร้าน มีสาวน้อยใส่ชุดเมดสีน้ำตาลหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่าชังคอยต้อนรับอยู่พร้อมกับแนะนำรายละเอียดของร้านซึ่งผมก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง อาศัยประสบการณ์มาบ่อยเลยเข้าใจเป็นอย่างดี

                "มันต้องเสียค่าเข้านะ คนละพันสี่ร้อยเยนค่าอาหารต่างหาก ส่วนอันนี้เป็นแพ็กเกจแนะนำ อาหารอย่างเดียว อาหารพร้อมเครื่องดื่ม ส่วนอันนี้มีถ่ายรูปคู่ จะเลือกแบบไหนก็คิดไว้" หลังจากรับแผ่นแนะนำจากน้องเมดมาผมก็อธิบายให้น้องหมีฟังคร่าวๆ

                "พี่อินเลือกแบบไหน"

                เออไอ้นี่ ให้เลือกไว้ในใจไม่ได้ให้ถามกลับ

                ผมมองหน้าน้องหมีแล้วยิ้ม อย่างพี่น่ะเหรอ แบบที่สามอยู่แล้ว การถ่ายรูปกับน้องเมดคือภารกิจหลัก ส่วนอาหารน่ะมันของแถม

                "สาม" ตอบน้องหมีแล้วผมก็เดินตามน้องเมดเข้าไปข้างใน

                ผมสอดส่ายสายตาไปตามมุมต่างๆ ของร้าน วันนี้ลูกค้าค่อนเยอะดูวุ่นวายนิดหน่อย และตอนที่กำลังเดินผ่านโต๊ะลูกค้ากลุ่มหนึ่งใครบางคนที่ผมอยากเจอก็หันมามองพอดิบพอดี

                "อ๊ะ!" เมดสาววัยยี่สิบต้นๆ ในชุดสีน้ำตาลกับผมทรงทวินเทลยิ้มหวานพร้อมโบกมือให้

                "ไอริจัง~" ผมเรียกชื่อเธอเบาๆ ส่งยิ้มทักทายกลับ ถ้าไม่ติดว่าโต๊ะนั้นมีลูกค้าอยู่ผมคงเดินเข้าไปหาแล้ว ตอนนี้เลยทำได้แค่เดินตามน้องเมดไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง

                "รู้จักกันด้วยเหรอ" หย่อนก้นนั่งได้น้องหมีมันก็สะกิดถามผมยิกๆ หน้าตาอยากรู้อยากเห็นแบบปิดไม่มิด

                "อืม รู้"

                "โห ร้ายว่ะ"

                ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ หยิบเมนูมาเปิดดูพร้อมกับอธิบายกฎของร้านในน้องหมีมันฟังไปพลางๆ อย่างเช่นห้ามจับตัวน้องเมด ห้ามถ่ายรูปน้องเมด จนเลือกเมนูที่ต้องการได้น้องเมดคนเดิมก็เดินมารับออเดอร์

                ผมจิ้มแพ็กเกจที่สามอย่างไม่ลังเล น้องหมีมันแอบมองผมแล้วก็จิ้มแพ็กเกจที่สามเหมือนกัน ลอกกันนี่หว่า

                พอน้องเมดคนน่ารักรับออเดอร์จากไปแล้วผมเลยหันไปหาไอริจังที่ยังวุ่นวายกับลูกค้าคนเดิมอยู่ เลยได้แต่ส่งกระแสจิตไปหาให้เธอทิ้งไอ้หมอนั่นแล้วมาหาผมเร็วๆ แต่เชื่อเถอะว่ายังไงเธอก็ต้องมาหาผม เพราะผมมันคนพิเศษไง

                "พี่อินๆ"

                "อะไร" แต่ที่มันจะไม่พิเศษก็เพราะมีน้องมันอยู่ด้วยนี่แหละ สะกิดกันจัง

                "อย่าบอกนะที่มาญี่ปุ่นบ่อยๆ คือมาที่นี่"

                โอโห้ เดาได้แทงใจดำแถมตรงประเด็นเผงๆ นี่ขนาดผมเก็บอาการแล้วนะ ถ้ามากับกลุ่มเพื่อนที่ชอบเหมือนกันจะดี๊ด๊ายิ่งกว่านี้อีก

                แล้วทำไม มาบ่อยแล้วมีปัญหาหรือไง

                "อืม"

                "พี่ชอบอะไรแบบนี้เหรอ"

                "ทำไม"

                "มันก็น่ารักดี ไม่เคยเห็นแบบนี้ที่ไทย" น้องหมีมันว่าแล้วหันมองไปรอบๆ ร้าน

                "ที่ไทยก็มีนะ"

                "จริงดิ" แล้วก็หันมาทำตาโตใส่ผม จะตกใจอะไรขนาดนั้น ที่ไทยเองก็มีดินแดนอาโนเนะเหมือนกันนั่นแหละ

                "อืม ไม่ชอบเหรอ"

                "ไม่นะ มันก็โอเค" ยืนยันสีหน้าจริงจังแล้วยิ้มจนตาหยี

                ลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นผู้ชาย อายุแต่ละคนก็ไม่ใช่น้อยๆ มีตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยใกล้เกษียร ทุกคนต่างเข้ามาหาความสุขให้ตัวเอง ผมก็ใช่ ได้เล่นบทบาทสมมติที่ตัวเองกลายเป็นคุณหนูคุณชายมีเมดสาวสวยคอยดูแล ผมไม่รู้หรอกว่าคนไทยส่วนใหญ่เขาคิดยังไงกับเรื่องแบบนี้ ไร้สาระหรือเสียเงินไปเปล่าๆ กับน้องหมีเองผมก็ไม่รู้ความคิดน้องมัน แต่ดูจะเป็นไปในทางบวกมากกว่าที่คิด

                ถ้าท่าทางที่น้องมันแสดงออกมาคือความรู้สึกจริงๆ

                รอไม่นานนักเครื่องดื่มสีเขียวก็ถูกนำมาเสิร์ฟโดยน้องเมดคนเดิม แต่ที่นี่ไม่ใช่ว่าของมาเสิร์ฟแล้วจะได้กินเลย ต้องมีพิธีการเสกมนต์คาถาก่อน

                "โออิชิคุนาเระ โมเอะ โมเอะ บีมมม~"

                "เอ่อ..."

                น้องหมีเหวอรับประทานทันทีตอนน้องเมดผายมือให้พูดและทำตามโดยการทำมือเป็นรูปหัวใจโยกไปมาแล้วยื่นไปที่อาหารตอนพูดว่าบีม ที่จริงน้องมันคงอึ้งตั้งแต่เห็นผมทำแล้วล่ะ ปกติไม่เคยอายนะ แต่เห็นน้องมันมองด้วยสายตาแปลกๆ ก็ชักจะเขิน

                ทำไม ไม่เคยเห็นผู้ชายแอ๊บแบ๊วหรือไงวะ

                "ทำตามด้วย"

                "ต้องทำจริงดิ"

                "เออ"

                ตกลงกับน้องหมีเสร็จผมก็หันไปยิ้มให้น้องเมด แล้วการร่ายคาถาเพื่อเพิ่มความอร่อยของอาหารก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง

                "ไฮ เซโนะ โออิชิคุนาเระ โมเอะ โมเอะ บีมมม~"

                เสกคาถาใส่เครื่องดื่มเสร็จน้องเมดก็อวยพรอีกนิดหน่อยแล้วลุกออกไป ผมน่ะชินแล้วกับการทำอะไรแบบนี้ แต่คนที่ไม่ชินก็คนข้างๆ นี่เลย นั่งเขินเกาหัวเกาคอเหมือนโดนเห็บกัด

                "เดี๋ยวข้าวมาต้องทำอีก"

                "พูดจริง"

                "อืม"

                "โอ้ว" ดูท่าน้องหมีมันจะเขินจริงจัง ยกมือขึ้นทำท่าแบบเมื่อเหมือนจะซ้อมแล้วก็ยิ้มเขิน เป็นท่าทางที่มองแล้วต้องหัวเราะ

                ผมว่าดีนะที่น้องหมีแสดงอาการออกมาแค่นี้ จะโอเคอย่างที่ปากบอกหรือจริงๆ แล้วไม่ชอบผมก็ไม่อาจรู้ได้ แต่มันดีที่น้องมันไม่ทำท่าทางโอเวอร์หรือพูดเหยียดดูถูกเหมือนบางคนที่ผมเคยเจอมา

                "ฮายยย~ คนนิจิวะ อินซัง"

                ปล่อยให้รออยู่นานสองนานในที่สุดเมดสาวสวยคนพิเศษของผมก็มาเสียที

                ไอริจังเดินมายืนอยู่หน้าโต๊ะพวกผมซึ่งเป็นเคาน์เตอร์บาร์ยาวๆ พื้นด้านหน้าที่ทำไว้ให้สำหรับเมดจะเตี้ยกว่าเพื่อความสะดวกเวลาบริการลูกค้าความสูงจะได้อยู่ในระดับเดียวกันซึ่งมันดีมากๆ ดีพอๆ กับรอยยิ้มของไอริจังในตอนนี้เลย

                ผมคุยกับไอริจังด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบงูๆ ปลาๆ ที่เพียรศึกษามาด้วยตัวเอง เราเคยเจอกันที่ไทยตอนไอริจังเป็นตัวแทนของร้านไปโปรโมทวัฒนธรรมในงานเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ผมเอาน้ำไปให้เธอที่ดูเหมือนจะยังไม่ชินกับอากาศที่ร้อนมากๆ ของเมืองไทยเลยได้ทำความรู้จักกัน หลังจากนั้นถ้ามาญี่ปุ่นผมก็จะแวะมาที่นี่เสมอ ตามเธอในบล็อคกับทวิตเตอร์จนกลายเป็นเพื่อนกันไปเลย

                "ท่านนี้ใครเหรอ" ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันนานคุยเพลินจนลืมไปเลยว่าพาน้องหมีมันมาด้วยจนไอริจังถามนั่นแหละถึงได้แนะนำ

                "น้องชายน่ะ มาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก"

                "คนนิจิวะ"

                "อะ เอ่อ...คนนิจิวะ" น้องหมีพูดตามไอริจังแบบเก้ๆ กังๆ จะว่าไปแล้วก็ดูน่ารักแบบเด๋อๆ ดี

                หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธีอาหารที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟ เป็นข้าวห่อไข่หน้าตาน่ากินตกแต่งด้วยผักกระจุ๋มกระจิ๋ม และมีความพิเศษอีกอย่างคือเมดจะวาดรูปบนไข่ให้เราด้วย

                ไอริจังใช้ซอสมะเขือเทศวาดรูปหน้าคนลงบนไข่ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร หน้าผมนี่แหละ แม้จะวาดไม่ค่อยเหมือนแต่ยังไงเราก็ต้องชมไว้ก่อน พอเธอวาดเสร็จผมก็ทำหน้าตื่นเต้นแสดงรีแอคชันที่ควรจะเป็นออกไป

                "น่ารักมาก เก่งจังเลย" พูดเสียงเล็กเสียงน้อยไปก็ปรบมือไปด้วย ยิ้มกว้างให้ไอริจังที่ยิ้มหวานกลับมาจนไอ้คนข้างๆ มันมองนี่แหละถึงได้หยุดทำ

                ขอโทษที ลืมตัวไปหน่อย

                น้องหมียิ้มกริ่ม มันต้องกำลังขำผมอยู่ในใจแน่ๆ เล่นทำท่าทางแอ๊บแบ๊วเป็นรอบที่สองตั้งแต่มาถึงคาเฟ่ หมดกันไอ้ที่เก๊กขรึมมาก่อนหน้านี้ แต่มาที่นี่มันก็ต้องทำแบบนี้ดิ อารมณ์ร่วมไงรู้จักไหม ที่น่ารักๆ แบบนี้จะมาทำหน้าโหดมันเข้ากันที่ไหน

                แล้วนี่เมื่อไรจะหยุดยิ้มวะ

                ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่น้องมันแก้เขิน ก็เหมือนคนไม่สนิทมาเห็นเราในมุมแปลกๆ มันเลยไม่ชิน รอปรับตัวได้อีกนิดก่อนเถอะผมจะเปิดเผยตัวเต็มที่ จะรับได้หรือรับไม่ได้ก็เรื่องของน้องมันแล้ว เพราะจบทริปนี้ก็แยกย้าย ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม

                หลังจากวาดให้ผมเสร็จไอริจังก็ไปวาดให้น้องหมีบ้าง ส่วนรูป ก็หน้าน้องมันนั่นแหละ ตอนเธอวาดน้องมันก็มองไปยิ้มไป ไอริจังก็เงยหน้าขึ้นมาเหมือนจะให้ทายว่าวาดอะไร ไอ้น้องหมีก็ชี้ตัวเองใหญ่ แล้วก็ปรบมือดี๊ด๊ากันอยู่สองคน

                เออ ปรับตัวเร็วดีนี่ ทีเมื่อกี้มาทำเป็นยิ้มล้อ เดี๋ยวปั๊ดตบคว่ำ

                ทุกครั้งก่อนกินต้องมีการร่ายคาถา ไอริจังตั้งท่า ผมตั้งท่า น้องหมีเหล่มองแล้วตั้งท่าตาม

                "โออิชิคุนาเระ โมเอะ โมเอะ บีมมม~"

                สดใสร่าเริงสมกับเป็นเมดสาวผู้น่ารัก รอบนี้ผมไม่เขินแล้ว ทำเสร็จน้องหมีมันก็หัวเราะ แถมบีนานกว่าผมอีก ท่าทางจะชอบใจ โบกมือบ๊ายบายให้ไอริจังที่ต้องไปดูแลคุณหนูท่านอื่นต่อใหญ่

                "ชอบเหรอ"

                "มันแปลกดี ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน"

                ผมพยักหน้ารับแล้วลงมือกินข้าวห่อไข่ที่มีฝีมือการวาดหน้าผมด้วยซอสมะเขือเทศของไอริจัง รสชาติก็ไม่เท่าไรแต่สุขใจที่มีเมดน่ารักๆ คอยดูแลนี่แหละ

                "จริงๆ ร้านนี้มันก็เหมาะกับพี่อินดีนะ"

                "เหมาะยังไง"

                "ไม่รู้ดิ แต่เหมาะดี"

                ผมได้แต่ส่ายหน้าเลิกเซ้าซี้จะเอาคำตอบ จะเหมาะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ แค่น้องมันไม่ดูถูกสิ่งที่คนอื่นชอบผมก็พอใจแล้ว

                แพ็กเกจที่พวกผมเลือกกันสามารถถ่ายรูปโพลารอยด์คู่กับเมดได้หนึ่งรูป อยากได้คนไหนก็เลือกได้ตามอัธยาศัย แน่นอนว่าผมต้องเลือกไอริจัง ตอนถ่ายก็ทำท่ารูปหัวใจกัน ถ่ายเสร็จเธอก็เอาไปวาดรูปเขียนข้อความให้ ได้มาเก็บเข้าคอลเลคชั่นไว้อีกรูป

                ส่วนน้องหมีหลังจากเล็งอยู่นานก็เลือกน้องคนหนึ่งที่แทบไม่ได้เดินเฉี่ยวมาใกล้โต๊ะพวกเราเลย แถมน้องมันให้เหตุผลว่า 'ดูเหมือนหน้าอกจะใหญ่ที่สุด' เลยอยากถ่ายด้วย ผมล่ะหมดคำจะพูด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าตาก็น่ารักนะ สูงผม ออกแนวเซ็กซี่หน่อยๆ

                ใช้เวลาอยู่ในเมดคาเฟ่หนึ่งชั่วโมงตามเวลาที่กำหนดก็ได้เวลาต้องลาจาก แถมไอริจังจังแอบมากระซิบบอกผมว่าถึงเวลาที่เธอต้องเลิกงานพอดี ล่ำลากันแล้วเช็คบิลพาน้องหมีออกมาจากร้าน ส่วนไอริจังกว่าจะออกมาก็คงสักพักใหญ่ๆ ใจหนึ่งก็อยากรอแต่ใจหนึ่งก็เกรงใจคนที่พามาด้วย ผมควรจะสนใจน้องหมีมากกว่าจริงไหม

                "ทำอะไรต่อดี" ยกนาฬิกาขึ้นดูเพิ่งจะสองทุ่ม หรือควรจะรีบกลับไปนอนเตรียมตัวลุยวันพรุ่งนี้ดี

                "หิว"

                "อะไร เพิ่งกินมา" ออกจากร้านไม่ถึงห้านาทีบ่นหิว แล้วที่เพิ่งกินไปเมื่อกี้เอาไปไว้ส่วนไหนของกระเพาะวะ

                "งั้นหาอะไรกินที่ซุปเปอร์แล้วกัน" เสนอทางนี้ไปเพราะผมไม่หิว ให้ไปนั่งกินในร้านด้วยคงไม่ไหว

                "โอเค"

     

                ผมว่าน้องหมีมันตัวโตขนาดนี้ได้คงเป็นเพราะกินทุกอย่างให้หมดอย่างที่บอกไว้จริงๆ ทั้งข้าวห่อไข่ที่เมดคาเฟ่ ของที่ซื้อจากซุปเปอร์ไม่ว่าจะเป็นยากิโซบะ นมกล่องใหญ่ ขนมกินเล่น แล้วก็สตรอเบอรี่อีกกล่องที่แวะซื้อตรงร้านขายผักผลไม้ใกล้ๆ โรงแรม ทุกอย่างนี้ถูกซัดเรียบในมื้อเดียว

                "อิ่ม" ว่าแล้วก็ตบพุงใหญ่ๆ ของตัวเองดังปุๆ

                กินไปเยอะขนาดนี้ถ้าไม่อิ่มก็ให้มันรู้ไปสิ

                "พี่อินกินน้อยตัวเลยโตแค่นี้"

                ฟังแล้วผมอยากจะพุ่งเข้าไปล็อคคอ มองแรงแล้วยังไม่สำนึกมีหน้ามาหัวเราะชอบใจอีก ต่อให้ผมกินเท่าน้องมันก็ไม่ขยายขึ้นข้างบนหรอก ดีไม่ดีออกด้านข้างทำไง ถึงจะหน้าตาดีแต่อ้วนแล้วมันไม่โอเคนะเว้ย

                "พี่อิน"

                ปล่อยให้เงียบได้ไม่นานน้องมันก็เรียกขึ้นมาอีก ผมเลิกคิ้วมองน้องหมีที่นอนผึ่งพุงอยู่บนเตียง จากหมีกลายร่างเป็นงูหลามไปแล้ว

                "พี่อินชอบผู้หญิงแบบพวกเมดเหรอ" แล้วอยู่ๆ ก็ยิงคำถามประหลาดออกมา

                "ก็ใช่"

                จะบอกว่าชอบผู้หญิงแบบสาวๆ เมดเลยก็ไม่เชิง ถ้าหมายถึงผู้หญิงที่คิดจะคบจริงจังผมไม่มีสเปคที่ชัดเจน แต่ละคนที่ชอบไม่ค่อยเหมือนกันสักแนว แต่ถ้าหมายถึงความสุขทางจิตใจใครน่ารักผมก็ชอบหมดนั่นแหละ

                "ถามทำไม"

                "อยากรู้เฉยๆ ตอนเด็กเห็นติดแต่การ์ตูน ไม่คิดว่าจะชอบอะไรแบบนี้ด้วย"

                ฟังแล้วเหมือนได้ย้อนความหลัง ผมติดการ์ตูนญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก โตมากับช่องเก้าการ์ตูนอะไรประมาณนั้น และเพราะสนิทกันเลยลากน้องหมีมันมาดูด้วยแต่น้องมันไม่ได้บ้าขนาดผม ยังจำได้อยู่เลยว่าผมเล่นเป็นยามาโตะ ส่วนน้องมันเล่นเป็นไทจิจากเรื่องดิจิม่อนกัน

                นึกถึงแล้วก็ได้แต่ยิ้ม ตอนเด็กคือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดแล้ว

                "แล้วพี่อินเริ่มชอบพวกเมดนี่ตั้งแต่ตอนไหนอ่ะ"

                คำถามยากแฮะ กะจะเปิดโปงกันเลยใช่มั้ย

                ผมมองน้องมันนิ่งๆ กังคิดว่าจะเล่าเรื่องความชอบของตัวเองไปให้มันจบๆ หรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปดี ความจริงมันก็ไม่เสียหายหรอกถ้าจะบอก แต่เราต้องอยู่ด้วยกันอีกหลายวัน ถ้าเกิดน้องมันแหยงผมขึ้นมาจะทำยังไง อึดอัดตาย เที่ยวไม่สนุกกันพอดี

                "งั้นจะเล่าความจริงนะ"

                แค่กริ่นน้องหมีมันทำหน้าตกใจ คงงงว่าอะไรคือความจริง ความจริงก็คืออะไรที่มันซับซ้อนมากกว่าการชอบเมดของผมนี่แหละ

                "อินเป็นโอตาคุ รู้จักมั้ยโอตาคุอ่ะ"

                คนฟังส่ายหน้ารัว ก็ไม่แปลกหรอกที่จะไม่รู้จัก

                "โอตาคุก็คือพวกที่คลั้งไคล้อะไรมากๆ มันก็จะแบ่งเป็นหลายประเภทน่ะนะ ส่วนอินชอบไอดอล ที่มาญี่ปุ่นบ่อยๆ คือมาดูคอนเสิร์ต มาอีเวนท์ งานจับมือ งานวัดเกิดอะไรพวกนี้ เลยไม่เคยไปที่อื่นไกลๆ เลยนอกจากโตเกียว"

                น้องหมีนิ่งไปเลยตอนผมเล่า ไม่รู้อึ้งหรืองงอยู่กันแน่ แต่ทิ้งจังหวะให้ลุ้นได้ไม่นานน้องมันก็ยิ้มออกมา

                "เจ๋งว่ะ"

                ผมจ้องหน้าน้องมันกลับ จากใจแน่ๆ ใช่มั้ยที่พูด

                "ให้มันจริง"

                "ได้ทำในสิ่งที่ชอบมันก็ต้องเจ๋งดิ ยังไงก็เจ๋งกว่าชีวิตแบร์ล่ะวะ"

                "อะไรนะ" ประโยคหลังเหมือนน้องหมีมันพูดกับตัวเองผมเลยได้ยินไม่ค่อยชัด

                "ไม่มีอะไร พี่อินไปอาบน้ำไป ขอนอนย่อยแป๊บ"

                ขี้เกียจเถียงด้วยผมเลยหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ แล้วนอนเป็นหมีขึ้นอืดแบบนั้นมันคงย่อยหรอก อยู่นี่จะขุนจากหมีให้กลายเป็นหมูเลย กลับไทยไปมีน้ำหนักขึ้นแบบไม่ต้องสืบ


     

    TBC.


      

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เจอกันตอนหน้าจ้า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×