ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dream of Me อยากให้เธอฝันยามหนุน

    ลำดับตอนที่ #1 : ก่อนจะฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 60




    ก่อนจะฝัน

     

                'ไปนะมึง'

                ระบบแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นยอดฮิตอย่างไลน์สั่นขึ้นไม่รู้ครั้งที่เท่าไรของวัน ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังจดจ่ออยู่กับงานต้องละสายตาไปมองสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าเก็บที่วางอยู่ข้างโน้ตบุ๊กสภาพคร่ำครึพอกัน ทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมีใครทักมานอกจากหัวหน้างาน

                'ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีแล้วนะ'

                'นานๆ ทีโรงเรียนจะจัดคืนสู่เหย้า'

                'ทุกคนตกลงมาหมด'

                'ยกเว้นมึงที่ไม่ตอบกูเนี่ย'

                เขาได้แต่นั่งมองข้อความบนหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ เด้งขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นลักษณะการอ่านที่ไม่ยอมแสดงตัวว่าอ่านและไม่ตอบ จนกระทั่งข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมา

                'ไอ้เพื่อนก็มานะมึง'

                อ่านจบมือก็เอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อกแทบจะในทันที ข้อความจากเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายยังขึ้นเด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่เพียงเพราะชื่อของคนคนเดียวกลับทำให้เขาสนใจที่จะคุยมากกว่าเดิม

                'ตั้งแต่เรียนจบกูยังไม่เคยเจอหน้ามันเลย'

                'ได้ข่าวว่ามันกลับมาอยู่บ้านได้เป็นสองสามเดือนแล้ว'

                'ถ้าน้ำกับคชาไม่บังเอิญไปเจอคงไม่เห็นหัวมันจริงๆ'

                เขานั่งนิ่งมองหน้าจอมือถืออยู่นาน คำบอกเล่าของเพื่อนเก่าช่วยขุดความทรงจำสมัยมัธยมให้หวนกลับไปนึกถึง

    คิดถึงห้องเรียน คิดถึงความวุ่นวาย คิดถึงเสียงหัวเราะ คิดถึงมิตรภาพ คิดถึงเพื่อน และคิดถึงใครบางคนที่ชื่อ 'เพื่อน'

                'ไอ้หลง สรุปว่าไงมึง จะมาไหม'

                คำถามเริ่มทำให้เขาคิดหนัก ก่อนหน้านี้ปฏิเสธไปเป็นร้อยรอบแล้วว่าไม่ไปเพราะงานที่กองอยู่ท่วมหัวจนต้องอยู่ทำโอทีทุกวัน แต่จิตใจคนเราย่อมเปลี่ยนกันได้เมื่อมีบางอย่างเข้ามากระตุ้น เอาเป็นว่าเขาจะยอมเคลียร์งานทั้งหมดให้เสร็จเพื่อไปงานที่โดนตื้อมาร่วมสัปดาห์นี้แล้วกัน

                'กูไปก็ได้'

     

                งานคืนสู่เหย้าจัดขึ้นในคืนวันเสาร์ เคลียร์งานที่ออฟฟิศเสร็จหลงก็บึ่งรถกลับบ้านอาบน้ำอาบท่าถึงได้เดินทางไปที่โรงเรียนต่อ

                เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับสแลคสีดำถูกเลือกเป็นเครื่องแต่งกายสำหรับคืนนี้ ความจริงแล้วมันไม่ได้ต่างจากชุดที่ใส่ไปทำงานทุกวันนัก เพราะชีวิตของหลงไม่ได้มีอะไรมากกว่าการไปทำงานและช่วยกิจการในครอบครัว

                รถกระบะสี่ประตูที่ได้เป็นของขวัญเรียนจบเมื่อสามปีก่อนแล่นไปตามถนนโล่งๆ ในช่วงเย็นของวันหยุด ลานกิจกรรมโล่งๆ ข้างโรงเรียนถูกใช้เป็นที่จอดรถชั่วคราว ดับเครื่องยนต์ยังไม่ทันจะลงรถเพื่อนตัวดีที่ตามจิกตลอดสัปดาห์ก็โทรมา

                (อยู่ไหนแล้วมึง)

                "ลานโล่ง กำลังจะเข้างาน"

                (กูก็เพิ่งถึง รอหน้าโรงเรียนนะ เดี๋ยวเข้าพร้อมกัน)

                "โอเค"

                เสียงดนตรีจากในโรงเรียนดังมาถึงข้างสวนเมื่อก้าวลงจากรถ เดินไปถึงหน้าโรงเรียนก็เจอกับเล็ก พ่อลูกอ่อนร่างสูงชะลูดตัวโตไม่สมกับชื่อยืนก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์อยู่ คาดว่าคงโทรตามจิกเพื่อนคนอื่นที่ยังมาไม่ถึง

                "ไอ้เล็ก" เรียกชื่อออกไปคนที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ถึงได้เงยขึ้นมามอง รอยยิ้มกว้างฉายบนใบหน้าก่อนฝ่ามือใหญ่จะฟาดเข้าที่ต้นแขนเต็มรัก

                "ไงมึง ไม่เจอซะนาน ซูบลงอีกแล้วป่ะวะ"

                "สัด! เจ็บ"

                "ไปๆ เข้างาน พวกไอ้ขวัญมาถึงตั้งนานแล้ว" เล็กหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีวาดแขนโอบรอบคอเพื่อนแล้วพาเดินเข้างาน

                ที่นี่เป็นโรงเรียนมัธยมเก่าแก่อายุเกือบร้อยปี ปีๆ หนึ่งมีนักเรียนประมาณสองถึงสามพันคน สนามกีฬาที่อยู่ใต้โดมขนาดใหญ่ถูกใช้สำหรับจัดโต๊ะจีน เวทีตั้งอยู่หน้าเสาธง แต่ด้วยพื้นที่โรงเรียนที่มีอยู่น้อยนิดเลยทำให้ดูแออัดไปสักหน่อย ไหนจะจำนวนคนที่ทยอยเข้ามาในงานเรื่อยๆ ดูไปแล้วสถานที่แห่งนี้ไม่น่าจะจุแขกทั้งหมดได้พอ

                สองหนุ่มเดินลัดเลาะไปตามขอบสนาม โต๊ะของพวกเขาอยู่ค่อนไปทางด้านหลังเกือบจะท้ายสุด ถูกจับจองด้วยชายหนุ่มห้าคนห้าสไตล์กับอีกหนึ่งสาวที่กำลังโบกมือส่งเสียงทักทายมาให้

                "ไงมึง กว่าจะโผล่มา" คนแรกที่ทักขึ้นคือขวัญ ตี๋จ้ำหม่ำอดีตเพื่อนที่เคยซี้ที่สุดของหลงสมัยเรียน

                "งานมันยุ่ง"

                "อ้างงานตลอด" เสริมด้วยโหน่ง วิศวกรผิวเข้มผอมแห้งที่หนีบเอาแฟนสาวรุ่นน้องมาด้วย คบกันมานานตั้งแต่สมัย ม.สี่ แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะประกาศแต่งสักที

                "มึงรู้มั้ยวันๆ กูต้องเจอกับอะไรบ้าง" หลงทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างใกล้ๆ ติดกับขวัญแล้วก็เล็ก จากนั้นก็เริ่มสาธยายงานของตัวเองให้เพื่อนฟัง แต่พูดได้ไม่กี่ประโยคก็โดนยกมือห้าม

                'หลงหลับ' คือฉายที่สมัยก่อนเพื่อนชอบเรียก ถ้าเปิดโอกาสให้พูดอย่าหวังว่าใครจะเข้ามาขัดได้ พูดจนเพื่อนหลับมาแล้วก็เคย

                "แล้วเมื่อไรเจ้าภาพจะมาวะ" เก้ ไกด์เกาหลีตัวเล็กที่สุดในกลุ่มร้องถามพาลทำให้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ หันไปมองเล็กที่ยังจดจ่อกับมือถืออย่างพร้อมเพรียงกัน

                "ใกล้ถึงแล้ว แต่มันบอกว่าไม่มีบัตรเข้างานว่ะ"

                "เอ้า!" ทั้งโต๊ะร้องขึ้นพร้อมกัน

                เหตุผลหนึ่งที่พวกเขานัดรวมพลกันมาครบแก๊งก็เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของคนที่ยังมาไม่มีถึง เป็นวันเกิดที่ตรงกับวันจัดงานคืนสู่เหย้า ทุกคนเลยเห็นพ้องต้องกันว่ายังไงสมาชิกก็ต้องมากลับมาเจอกันในวันนี้ ถือเป็นการฉลองที่ได้กลับคืนถิ่นและฉลองงานวันเกิดให้เพื่อนในกลุ่มไปเลยทีเดียว

                "ให้มันซื้อบัตรหน้างานแล้วรีบๆ เข้ามา มึงออกไปรอรับมันเลยเล็ก" นารอน หนุ่มอิสลามเพียงคนเดียวในกลุ่มเสนอ ในขณะที่คนโดนใช้ยังจดจ่อกับมือถือไม่เลิก แล้วคำตอบที่ได้กลับมาทำให้ทุกคนแทบจะล้มโต๊ะ

                "มันบอกไม่มีตังค์"

                "ห่ามันหนิ" เต้ย หนุ่มจากอีสานโผงออกมาทันที

                แล้วทุกคนในกลุ่มก็ได้แต่นั่งกุมขมับกับความเยอะแยะวุ่นวายของเพื่อนที่ชื่อ 'เพื่อน'

                สุดท้ายทุกคนเลยช่วยกันออกเงินซื้อบัตรเข้างานให้เจ้าภาพที่เพิ่งทราบว่ามารออยู่หน้าโรงเรียนแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ขวัญอาสาเป็นคนออกไปรับด้วยตัวเอง

                หายไปไม่ถึงสิบนาทีตี๋ใหญ่จากสระแก้วก็เดินบ่นเป็นหมีกินผึ้งโดยมีผู้ชายตัวสูงผมซอยชี้ไม่เป็นทรงยิ้มแห้งๆ ฟังคำบ่นเดินตามหลัง ทันทีที่หันไปเห็นผู้มาใหม่ทั้งโต๊ะแทบจะลุกขึ้นพร้อมกัน เป้าหมายคือเพื่อนที่ชื่อเพื่อน อยากจะตบกบาลสักคนละทีให้หายหมั่นไส้โทษฐานที่ตามตัวยากเสียเหลือเกิน

                "ไม่เคยจะติดต่อกลับ"

                "กูนึกว่าตายห่าอยู่เชียงรายไปแล้ว"

                "ขาวขึ้นป้ะวะ"

                "มึงเป็นแวมไพรป้ะเนี่ย หน้าไม่เปลี่ยนเลย"

                "มานี่เลยมึงมานี่" เล็กคว้าแขนผู้มาใหม่แหวงฝูงเพื่อนที่รายล้อมให้มานั่งลงที่โต๊ะ กลุ่มแร้งทึ้งถึงได้สลายกลับไปนั่งที่ใครที่มัน

                เพื่อนถูกจับให้นั่งหันหลังให้เวที เสียงโหวกเหวกโวยวายสอบถามสารทุกข์สุขดิบจากคนในกลุ่มเริ่มดังขึ้น ทว่าสายตาของเพื่อนกลับจับจ้องอยู่ที่ใครบางคนจนไม่อาจละไปไหนได้ คนที่เหมือนจะรู้จักแต่ก็ไม่รู้จัก ผู้ชายหน้าตาคุ้นแสนคุ้นที่นั่งตรงข้ามกับเขา

                "ไงมึง อึ้งเลย" เก้ที่นั่งข้างกันเอี้ยวตัวมากอดคอ ยักคิ้วหลิ่วตาชอบอกชอบใจ

                "ให้มึงทาย" ขวัญใช้ศอกกระทุ้งแล้วพยักพเยิดหน้าไปยังคนที่ทำให้เพื่อนแปลกใจจนกระทั่งป่านนี้ก็ยังนั่งนิ่งอยู่

                ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองบุคคลปริศนาอย่างใช้ความคิด มองคนตรงหน้าสลับกับกลุ่มเพื่อนแล้วตาสองชั้นหลบในก็เบิกกว้าง เมื่อคำตอบที่น่าจะใช่ที่สุดปรากฏขึ้นมาในใจ

                "หลง?" ถามออกไปอย่างไม่แน่ใจนัก แต่เมื่อได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้ายิ่งทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิม

                หลง คนที่เคยมีน้ำหนักมากที่สุดในกลุ่มตอนนี้เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม จากเด็กอ้วนกลายเป็นหนุ่มหล่อ กับตัวเขาที่แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย

     

    ----ติดตามตอนต่อไป----

      

    แอบมาเปิดเรื่องใหม่ เพราะรู้สึกว่าถ้าไม่เปิดไม่ยอมลงไว้ก็จะไม่เสร็จสักที TT

    ฝากหลงเพื่อนด้วยนะคะ เป็นชื่อเล่นของเรื่องเลย

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เจอกันตอนหน้าค่า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×