ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 4 : ฟอลคอน
CHAPTER 4
อลินจะจดจำการ ‘บิน’ กับเรเวนครั้งนี้ไปอีกนานเลยทีเดียว
ในตอนแรกที่เขาบอกว่าจะพาเธอบิน หญิงสาวคิดว่าเขาจะหมายถึงให้เธอขี่หลังบิน เอ่อ..หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือเอาเล็บหิ้วไหล่เธอหรือใช้ปากคายเธอไป อะไรประมาณนั้น
นี่เธอไม่ได้เวอร์นะ ก็ตัวเขาใหญ่พอที่จะทำไอ้เรื่องพวกนี้ได้จริงๆนี่!
แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่เขาทำไม่ใช่ทั้งสามอย่างที่เธอคิดไว้ในตอนแรกเลย มันเป็นอะไรที่เธอ เอ่อ..โอเค เธอยอมรับว่าเธอแอบหวังไว้หน่อยๆแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบนี้!
ตั้งแต่ที่เขากลายร่างเป็นมนุษย์เพศชายร่างสูงใหญ่กำยำหล่อเหลานั่น เธอแค่แอบคิดเพียงเสี้ยววินาที ..แค่เสี้ยววินาทีจริงๆ!
เสี้ยววินาทีที่เธอแอบหวังว่าเธอจะได้สัมผัสกับซิกแพคที่อุดมสมบูรณ์ของเขา!!!!
แต่ตอนนี้ อลินกำลังได้สัมผัสมัน..อย่างแนบแน่นเชียวละ
เพราะจู่ๆ โดยไม่มีสัญญาณบอกกล่าวอะไรก่อน นอกจากรอยยิ้มสยองเป็นลางไม่ดีของเขานั่น เรเวนผู้หล่อเหลาก็กระทำการฉุดเธอเข้าไปแนบอก อุ้มเธอด้วยท่าเหมือนเจ้าบ่าวกำลังจะอุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอ และถีบตัวทะยานบินขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที!!
“กรี๊ดดดดดดดด ไอ้บ้า แกทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันลงนะ ปล่อยยยยยย…” หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง แต่ก็ไม่กล้าดิ้น เพราะแค่เขาถีบตัวขึ้นมาเพียงไม่กี่วินาที มนุษย์ปักษาได้ทะยานขึ้นมาโบยบินอยู่บนท้องฟ้าสูงประมาณสิบเมตรได้!!
“เงียบๆ อย่าโวยวายน่า ฉันไม่ปล่อยให้เธอตกหรอก เชื่อฉันสิ” ดูเหมือนคนที่อุ้มเธออยู่จะแปลความหมายการต่อต้านของเธอผิดไป เธอไม่ได้กลัวตก ไม่เลย ยกเว้นเธอจะดิ้น เธอคิดว่าเรเวนจะไม่มีทางปล่อยเธอตกลงไปเฉยๆ
ก็อย่างที่เขาบอกตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเธอตายเขาก็ตาย ถ้าปล่อยเธอตกลงไปตายเขาก็ตาย
แต่อลินไม่ได้ต่อต้านเขาเพราะว่ากลัวตก เธอต่อต้านที่เขาเอาเธอมาแนบชิดขนาดนี้ เอ่อ..แต่อันที่จริงเธอก็ไม่ได้รังเกียจหน้าท้องและแผงอกที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกล้ามเนื้อนี่หรอกนะ
ก็แค่พยายามจะรักนวลสงวนตัว พ่อสอนไว้!
แต่อลินไม่จำเป็นต้องคิดนานนักว่าเธอต้องพยายามรักนวลสงวนตัวอย่างที่เธอไม่ได้เป็นจริงๆต่อไปอีกไหม เพราะดูเหมือนชายหนุ่มที่โดนลวนลามโดยไม่รู้ตัวจากเธอนั้นจะเจอเป้าหมายของเขาแล้ว
วูบบบบบบบ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด” แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ดีต่อเธอมากกว่ากันสักเท่าไรนัก ยอกเว้นแต่ว่าเธอจะชอบเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ ซึ่งเธอก็ไม่ได้นิยมมันมากสักเท่าไร
สาเหตุที่เธอแหกปากกรี๊ดคราวนี้เป็นเพราะ เรเวนนั้นทิ้งดิ่งลงเหมือนจะโหม่งโลกด้วยความเร็วที่สูงกว่าตอนที่บินขึ้นเสียอีก ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังอยู่ในรายการสารคดีการล่าเหยื่อของนกนักล่าแบบสมจริงเลยทีเดียว
แต่ดูเหมือนเธอจะกลัวเก้อ เพราะเขาไม่ได้โหม่งโลก ไม่ชนต้นไม้หรืกิ่งไม้ใดๆ อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้ก่อให้เกิดเสียงอะไรนอกจากเสียงแหวกอากาศ ..โอเค..กับเสียงกรี๊ดลั่นป่าของเธอ
เรเวนร่อนลงสู่พื้นดินด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาทำให้เธอคิดว่าเขากำลังจะโหม่งโลกในไม่กี่วินาทีก่อน เขาร่อนลงอย่างไร้เสียงราวกันขนนกที่ค่อยๆตกสู่พื้นดิน เชื่องช้า นุ่มนวล และเงียบกริบ
ทันทีที่ถึงพื้น ผู้ชายมีปีกคนนี้ก็ปล่อยเธอลงจากอ้อมแขนทันที
“โอ๊ย!!” และเขาก็ดูไม่ได้สนใจกับการที่อลินอาจจะมีแผลถลอกจากการตกลงจากอ้อมแขนแข็งแรงของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาก้าวเดินผ่านเธอไปและไปหยุดที่ก้อนสีแดงเปียกๆ ก้อนใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะไม่เห็นก่อนหน้านี้ คงเป็นเพราะเธอเอาแต่กังวลกับเรื่องจะโหม่งโลกหรือไม่เนี่ยแหละ
และเขาก็ทำให้ฉันตกใจอีกครั้ง ด้วยการเตะอย่างแรกเข้าที่ก้อนนั้น ทำให้มันกระเด็นไปติดที่ต้นไม้ต้นใหญ่ และร้องครางอย่างเจ็บปวด มันเหมือนว่าเขาเจ็บจนไม่สามารถจะร้องออกมาดังๆได้แล้ว
“ดูเหมือนแกจะยังไม่ตายนะ ไอ้นกปีกหัก”เรเวนพูด เขาดูไม่แยแสกับอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายเลย
จากการพูดของเขา ทำให้ฉันพึ่งจะนึกได้ว่า เจ้าสิ่งที่เรเวนเตะไปนั่นคือวิหคสวรรค์ ศัตรูที่เขาขอมาตามหาก่อนที่จะเข้าเมือง และเมื่อสังเกตดีๆ ที่จริงวิหคสวรรค์นี่ก็หน้าตาเหมือนเหยี่ยวทั่วไป เพียงแต่ตัวใหญ่ยักษ์แบบเรเวน และมีสีขนทั้งตัวเป็นสีขาว แม้ตอนนี้จะถูกย้อมแดงทั้งตัวจากเลือดของตัวเองก็เถอะ
“แก..ยัง..ง..ไม่..ต…ตาย” วิหคสวรรค์พูด อย่างเจ็บปวดเสียด้วย ในน้ำเสียงของมันนั้นส่อแววพ่ายแพ้อย่างชัดเจน แม้อลินจะไม่รู้ว่า วิหคสวรรค์มันรู้ได้ยังไงว่านี่คือเรเวนตัวที่สู้กับมัน
“ใช่ แล้วดูสภาพแกสิ ดูไม่ได้เลยว่ะ จากที่บอกว่าว่าแกเป็นนอกปีกหัก วันนี้ข้าก็ได้หักปีกแกจริงๆแล้วนี่นะ” เรเวนพูดด้วยน้ำเสียงที่..ฟังยังไงมันก็ฟังดูสะใจ และเป็นผู้ชนะ
“คุณเป็นวิหคสวรรค์หรือ??” อลินที่ตอนนี้ตั้งสติได้ก็เดินเข้าไปหาสองศัตรูคู่อริ เธอถามทั้งๆที่เธอรู้อยู่แล้วนั่นแหละ
“ม..มนุษย์??” วิหคสวรรค์ดูมีท่าทางแปลกใจมากที่เจอเธอ คงเป็นเพราะเธอเป็นมนุษย์
“อา…ใช่..แกทำ…พันธะ..สัญญา..สิ…นะ” วิหคสวรรค์ผงกหัวนิดหนึ่งพร้อมหลับตา
“ถ้าคุณหมายถึงการที่ฉันรับเขาเป็นสัตว์เลี้ยงละก็ ใช่”ฉันพูดขึ้น
“มนุษย์..เจ้ารู้ว่า..ข้าคือ..อะไร…..ถ้าเช่นนั้น..โปรด…ทำพันธะสัญญากับ..ข้า…ด้วย” วิหคสวรรค์พูด และก็เหมือนเรเวน การพูดมากๆในเวลานี้ก็ไม่ได้ดีกับเขาเลย
“เรเวน คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันรับเข้าเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย?” ฉันหันไปถามเขา แต่ไม่ว่าคำตอบจะออกมายังไง ฉันก็จะรับเขามานั่นละ ไว้หลังจากนี้มีปัญหาค่อยปล่อยไปทีหลัง อย่างน้อยสองตัวนี้ก็รู้เรื่องแถวนี้ดี อาจจะพาเธอเก็บเลเวลได้
“แล้วแต่เธอแล้วกัน เก็บมันไว้ก็ได้ ฉันจะได้ซัดกับมันต่อนานๆ แต่ถ้าไม่เก็บมันไว้ ฉันจะบริการยำส่งมันให้ตายคาตีนตอนนี้เลยก็ได้” เขาพูดเหี้ยมๆ นี่ทำให้ฉันออกจะดีใจที่ไม่ใช่เป้าหมายการทำลายล้างของเขา
“เอาละ ฉัน อลิน ขอรับ วิหคสวรรค์ เป็นสัตว์เลี้ยง” หญิงสาวใช้เลือดจากแผลถลอกตอนที่เรเวนปล่อยเธอตกลงพื้นนี่แหละทำพันธะสัญญา เธอไม่อยากกรีดนิ้วตัวเองบ่อยนัก
“ข้า..อัศวินวิหคสวรรค์..ยอมรับ..อลิน..เป็นนาย..ของข้า” เมื่อเขาพูดจบ ก็เกิดเหตุการณืเหมือนกันกับที่เกิดกับเรเวน แต่ตอนนี้เธอได้สังเกตมันมากขึ้น เธอเห็นว่า นิ้วของเธอนั้นเริ่มส่องแสงและแสงนั้นก็เข้าไปเกี่ยวกระหวัดพันที่ตัวของวิหคสวรรค์ เริ่มจากส่วนที่แตะกับนิ้วของเธออยู่ และลามไปส่วนอื่นๆทั่วทั้งตัว
เมื่อกระบวนการเหล่านั้นเสร็จสิ้น วิหคสวรรค์ก็ค่อยๆยันตัวขึ้นยืนได้แบบปกติ ตอนนี้เธอเพิ่งจะสังเกตว่าดวงตาของมันเป็นสีฟ้า แต่จะแปลกอะไร ในเมื่อเรเวนยังมีตาสีแดงได้เลยนี่
‘ผู้เล่น อลิน ได้รับ อัศวินวิหคสวรรค์ เป็นสัตว์เลี้ยง ต้องการตั้งชื่อใหม่หรือไม่’
“เฮ้ คุณ ฉันจะเรียกคุณว่า ฟอลคอน นะ คุณโอเคมั้ย” อลินถาม
“ตามใจเจ้าเถิด ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้าด้วย ขอบคุณมากๆ” เขาพูดอย่างสุภาพ
‘ผู้เล่น อลิน ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงใหม่เป็น ฟอลคอน สำเร็จ’
‘ขณะนี้สัตว์เลี้ยงฟอลคอนกำลังพัฒนาร่างต้องการเลือดของเจ้านายเป็นส่วนประกอบในการพัฒนา’
อย่างที่เธอคิดเลย เธอต้องเสียเลือดอีกแล้วหรือนี่!
“เอานี่” คราวนี้เธอไม่ได้อิดออดเรื่องให้เลือด เพราะเธอรู้ว่ามันไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย
ฟอลคอนเองก็ดูจะรู้ว่าต้องทำอะไร เขางับนิ้วของฉันไว้เบาๆ อึดใจหนึ่งผ่านไป…
วูบบบบ
แสงสีขาวสว่างจ้าบาดตา ฟอลคอนกลายร่างเป็นมนุษย์ อย่างที่เธอคาดไว้แล้ว
ฟอลคอนนั้นต่างกับเรเวนลิบลับในเรื่องของรูปร่างหน้าตา ฟอลคอนเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่ไม่ได้คมเข้มแบบเรเวน แต่เขาหล่อแบบน่ารัก ผมทอง ตาฟ้า ปีกสีขาวสะอาด และผิวสีเดียวกันที่น่าหม่ำ อ๊ะ..ไม่ใช่สิ!!
แต่ส่วนที่เหมือนกันก็คือ ทั้งคู่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆและไม่ใส่เสื้อเหมือนกัน แม้ถ้าดูจริงๆ ฟอลคอนอาจจะล่ำน้อยกว่าเรเวนสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเมื่อเขามีหน้าตาที่น่ารักมาชดเชย
“นี่คือสิ่งที่ทำให้เจ้าสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้สินะ เจ้านกดำ” ฟอลคอนพึมพำ
“ก็อย่างที่แกคิดนั่นแหละ ได้นกปีกหัก”เรเวนตอบกลับเบาๆ
“นี่! ถ้าจะกรุณาได้โปรดหยุดจิกกัดกันได้ไหม มันน่ารำคาญและก็ดูไม่ใช่นิสัยผู้ชายเอามากๆเลยนะ!” อลินเริ่มจะรำคาญกับการด่ากันในทุกประโยคที่พูดคุยของสองหนุ่มนี้แล้ว
ทั้งคู่หันมามองเธอ และฟอลคอนเองเป็นฝ่ายที่เริ่มพูดก่อน
“ถ้ามันทำให้เจ้ารำคาญ ข้าจะหยุด”
“อีกเรื่องนึงนะฟอลคอน ฉันขอละ พวกนายสองคนนี่เป็นอะไรกัน ชอบใช้ภาษาสมัยโบราณจริงๆ พูดแบบปกติเถอะ!”หญิงสาวยังคงโวยวายอยู่ ให้ตายสิ! ที่จริงเธอไม่ใช่คนที่จะขี้โวยวายอะไรอย่างนี้เลยนะ!
“ได้สิ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอไม่ชอบ ^^” ฟอลคอนปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้มน่ารักๆ ให้ตายเถอะ!เขามีลักยิ้มด้วย! และนั่นทำให้เธอหน้าแดงไปเลยทีเดียว
“อลินเธอบอกว่าเธอจะต้องเข้าเมืองไม่ใช่หรือ??” ในที่สุดก็เป็นเรเวนที่ทำลายบรรยากาศน่าอายนี่ เธอรู้สึกขอบคุณเขาอยู่ลึกๆเลยทีเดียว
“เธอจะเข้าเมืองหรือ เราสองคนทำให้เธอเสียเวลาหรือเปล่า” ฟอลคอนดูเป็นกังวลกับความคิดนี้ จนหญิงสาวต้องรีบหลอบใจเขา
“ไม่หรอก ไม่ได้เปลืองเวลาอะไรมากนักหรอก แต่ถ้าจะช่วยพาฉันบินไปส่งเมืองจะดีมากเลยละ”
“อ๋อ เรื่องแค่นี้เอง ง่ายๆ ชิวๆ” เขาพูด
“เอ่อ..ขออนุญาตนะ” ฟอลคอนบอก เขาทำมือเหมือนกับจะเป็นท่าอุ้มเธอ
“เอ่อ ได้สิ “ เธอประหม่าเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เขาอุ้มแต่โดยดี
“ฉันจะบินไปก่อนแล้วกันนะ” ดูเหมือนเรเวนจะเบื่อที่จะรอแล้ว เขากำลังจะโผขึ้นสู่น่านฟ้าตอนที่ฉันพูดขึ้น
“เดี๋ยวไปเจอกันที่นอกเมืองนะ มันคงจะไม่ปกติเท่าไหร่ที่จะมีครึ่งคนครึ่งนกบินเข้าเมือง” ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าปกติคนที่นี่เค้าใช้ชีวิตกันยังไงก็ตาม..เธอจบประโยคในใจ ในตอนที่เธอพูดนั้น เรเวนเริ่มกระพือปีกบินแล้ว แต่เธอแน่ใจว่าเขาจะได้ยิน .. เขาต้องได้ยินสิ!!
“เอาละทีนี้เธอก็เกาะฉันให้แน่นๆแล้วกันนะ ^^” ฟอลคอนก้มลงมาพูดกับฉันในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา ก่อนจะทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าไปด้วยปีกสีขาวนั่น
อลินจะจดจำการ ‘บิน’ กับเรเวนครั้งนี้ไปอีกนานเลยทีเดียว
ในตอนแรกที่เขาบอกว่าจะพาเธอบิน หญิงสาวคิดว่าเขาจะหมายถึงให้เธอขี่หลังบิน เอ่อ..หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือเอาเล็บหิ้วไหล่เธอหรือใช้ปากคายเธอไป อะไรประมาณนั้น
นี่เธอไม่ได้เวอร์นะ ก็ตัวเขาใหญ่พอที่จะทำไอ้เรื่องพวกนี้ได้จริงๆนี่!
แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่เขาทำไม่ใช่ทั้งสามอย่างที่เธอคิดไว้ในตอนแรกเลย มันเป็นอะไรที่เธอ เอ่อ..โอเค เธอยอมรับว่าเธอแอบหวังไว้หน่อยๆแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบนี้!
ตั้งแต่ที่เขากลายร่างเป็นมนุษย์เพศชายร่างสูงใหญ่กำยำหล่อเหลานั่น เธอแค่แอบคิดเพียงเสี้ยววินาที ..แค่เสี้ยววินาทีจริงๆ!
เสี้ยววินาทีที่เธอแอบหวังว่าเธอจะได้สัมผัสกับซิกแพคที่อุดมสมบูรณ์ของเขา!!!!
แต่ตอนนี้ อลินกำลังได้สัมผัสมัน..อย่างแนบแน่นเชียวละ
เพราะจู่ๆ โดยไม่มีสัญญาณบอกกล่าวอะไรก่อน นอกจากรอยยิ้มสยองเป็นลางไม่ดีของเขานั่น เรเวนผู้หล่อเหลาก็กระทำการฉุดเธอเข้าไปแนบอก อุ้มเธอด้วยท่าเหมือนเจ้าบ่าวกำลังจะอุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอ และถีบตัวทะยานบินขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที!!
“กรี๊ดดดดดดดด ไอ้บ้า แกทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันลงนะ ปล่อยยยยยย…” หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง แต่ก็ไม่กล้าดิ้น เพราะแค่เขาถีบตัวขึ้นมาเพียงไม่กี่วินาที มนุษย์ปักษาได้ทะยานขึ้นมาโบยบินอยู่บนท้องฟ้าสูงประมาณสิบเมตรได้!!
“เงียบๆ อย่าโวยวายน่า ฉันไม่ปล่อยให้เธอตกหรอก เชื่อฉันสิ” ดูเหมือนคนที่อุ้มเธออยู่จะแปลความหมายการต่อต้านของเธอผิดไป เธอไม่ได้กลัวตก ไม่เลย ยกเว้นเธอจะดิ้น เธอคิดว่าเรเวนจะไม่มีทางปล่อยเธอตกลงไปเฉยๆ
ก็อย่างที่เขาบอกตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเธอตายเขาก็ตาย ถ้าปล่อยเธอตกลงไปตายเขาก็ตาย
แต่อลินไม่ได้ต่อต้านเขาเพราะว่ากลัวตก เธอต่อต้านที่เขาเอาเธอมาแนบชิดขนาดนี้ เอ่อ..แต่อันที่จริงเธอก็ไม่ได้รังเกียจหน้าท้องและแผงอกที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกล้ามเนื้อนี่หรอกนะ
ก็แค่พยายามจะรักนวลสงวนตัว พ่อสอนไว้!
แต่อลินไม่จำเป็นต้องคิดนานนักว่าเธอต้องพยายามรักนวลสงวนตัวอย่างที่เธอไม่ได้เป็นจริงๆต่อไปอีกไหม เพราะดูเหมือนชายหนุ่มที่โดนลวนลามโดยไม่รู้ตัวจากเธอนั้นจะเจอเป้าหมายของเขาแล้ว
วูบบบบบบบ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด” แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ดีต่อเธอมากกว่ากันสักเท่าไรนัก ยอกเว้นแต่ว่าเธอจะชอบเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ ซึ่งเธอก็ไม่ได้นิยมมันมากสักเท่าไร
สาเหตุที่เธอแหกปากกรี๊ดคราวนี้เป็นเพราะ เรเวนนั้นทิ้งดิ่งลงเหมือนจะโหม่งโลกด้วยความเร็วที่สูงกว่าตอนที่บินขึ้นเสียอีก ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังอยู่ในรายการสารคดีการล่าเหยื่อของนกนักล่าแบบสมจริงเลยทีเดียว
แต่ดูเหมือนเธอจะกลัวเก้อ เพราะเขาไม่ได้โหม่งโลก ไม่ชนต้นไม้หรืกิ่งไม้ใดๆ อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้ก่อให้เกิดเสียงอะไรนอกจากเสียงแหวกอากาศ ..โอเค..กับเสียงกรี๊ดลั่นป่าของเธอ
เรเวนร่อนลงสู่พื้นดินด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาทำให้เธอคิดว่าเขากำลังจะโหม่งโลกในไม่กี่วินาทีก่อน เขาร่อนลงอย่างไร้เสียงราวกันขนนกที่ค่อยๆตกสู่พื้นดิน เชื่องช้า นุ่มนวล และเงียบกริบ
ทันทีที่ถึงพื้น ผู้ชายมีปีกคนนี้ก็ปล่อยเธอลงจากอ้อมแขนทันที
“โอ๊ย!!” และเขาก็ดูไม่ได้สนใจกับการที่อลินอาจจะมีแผลถลอกจากการตกลงจากอ้อมแขนแข็งแรงของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาก้าวเดินผ่านเธอไปและไปหยุดที่ก้อนสีแดงเปียกๆ ก้อนใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะไม่เห็นก่อนหน้านี้ คงเป็นเพราะเธอเอาแต่กังวลกับเรื่องจะโหม่งโลกหรือไม่เนี่ยแหละ
และเขาก็ทำให้ฉันตกใจอีกครั้ง ด้วยการเตะอย่างแรกเข้าที่ก้อนนั้น ทำให้มันกระเด็นไปติดที่ต้นไม้ต้นใหญ่ และร้องครางอย่างเจ็บปวด มันเหมือนว่าเขาเจ็บจนไม่สามารถจะร้องออกมาดังๆได้แล้ว
“ดูเหมือนแกจะยังไม่ตายนะ ไอ้นกปีกหัก”เรเวนพูด เขาดูไม่แยแสกับอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายเลย
จากการพูดของเขา ทำให้ฉันพึ่งจะนึกได้ว่า เจ้าสิ่งที่เรเวนเตะไปนั่นคือวิหคสวรรค์ ศัตรูที่เขาขอมาตามหาก่อนที่จะเข้าเมือง และเมื่อสังเกตดีๆ ที่จริงวิหคสวรรค์นี่ก็หน้าตาเหมือนเหยี่ยวทั่วไป เพียงแต่ตัวใหญ่ยักษ์แบบเรเวน และมีสีขนทั้งตัวเป็นสีขาว แม้ตอนนี้จะถูกย้อมแดงทั้งตัวจากเลือดของตัวเองก็เถอะ
“แก..ยัง..ง..ไม่..ต…ตาย” วิหคสวรรค์พูด อย่างเจ็บปวดเสียด้วย ในน้ำเสียงของมันนั้นส่อแววพ่ายแพ้อย่างชัดเจน แม้อลินจะไม่รู้ว่า วิหคสวรรค์มันรู้ได้ยังไงว่านี่คือเรเวนตัวที่สู้กับมัน
“ใช่ แล้วดูสภาพแกสิ ดูไม่ได้เลยว่ะ จากที่บอกว่าว่าแกเป็นนอกปีกหัก วันนี้ข้าก็ได้หักปีกแกจริงๆแล้วนี่นะ” เรเวนพูดด้วยน้ำเสียงที่..ฟังยังไงมันก็ฟังดูสะใจ และเป็นผู้ชนะ
“คุณเป็นวิหคสวรรค์หรือ??” อลินที่ตอนนี้ตั้งสติได้ก็เดินเข้าไปหาสองศัตรูคู่อริ เธอถามทั้งๆที่เธอรู้อยู่แล้วนั่นแหละ
“ม..มนุษย์??” วิหคสวรรค์ดูมีท่าทางแปลกใจมากที่เจอเธอ คงเป็นเพราะเธอเป็นมนุษย์
“อา…ใช่..แกทำ…พันธะ..สัญญา..สิ…นะ” วิหคสวรรค์ผงกหัวนิดหนึ่งพร้อมหลับตา
“ถ้าคุณหมายถึงการที่ฉันรับเขาเป็นสัตว์เลี้ยงละก็ ใช่”ฉันพูดขึ้น
“มนุษย์..เจ้ารู้ว่า..ข้าคือ..อะไร…..ถ้าเช่นนั้น..โปรด…ทำพันธะสัญญากับ..ข้า…ด้วย” วิหคสวรรค์พูด และก็เหมือนเรเวน การพูดมากๆในเวลานี้ก็ไม่ได้ดีกับเขาเลย
“เรเวน คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันรับเข้าเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย?” ฉันหันไปถามเขา แต่ไม่ว่าคำตอบจะออกมายังไง ฉันก็จะรับเขามานั่นละ ไว้หลังจากนี้มีปัญหาค่อยปล่อยไปทีหลัง อย่างน้อยสองตัวนี้ก็รู้เรื่องแถวนี้ดี อาจจะพาเธอเก็บเลเวลได้
“แล้วแต่เธอแล้วกัน เก็บมันไว้ก็ได้ ฉันจะได้ซัดกับมันต่อนานๆ แต่ถ้าไม่เก็บมันไว้ ฉันจะบริการยำส่งมันให้ตายคาตีนตอนนี้เลยก็ได้” เขาพูดเหี้ยมๆ นี่ทำให้ฉันออกจะดีใจที่ไม่ใช่เป้าหมายการทำลายล้างของเขา
“เอาละ ฉัน อลิน ขอรับ วิหคสวรรค์ เป็นสัตว์เลี้ยง” หญิงสาวใช้เลือดจากแผลถลอกตอนที่เรเวนปล่อยเธอตกลงพื้นนี่แหละทำพันธะสัญญา เธอไม่อยากกรีดนิ้วตัวเองบ่อยนัก
“ข้า..อัศวินวิหคสวรรค์..ยอมรับ..อลิน..เป็นนาย..ของข้า” เมื่อเขาพูดจบ ก็เกิดเหตุการณืเหมือนกันกับที่เกิดกับเรเวน แต่ตอนนี้เธอได้สังเกตมันมากขึ้น เธอเห็นว่า นิ้วของเธอนั้นเริ่มส่องแสงและแสงนั้นก็เข้าไปเกี่ยวกระหวัดพันที่ตัวของวิหคสวรรค์ เริ่มจากส่วนที่แตะกับนิ้วของเธออยู่ และลามไปส่วนอื่นๆทั่วทั้งตัว
เมื่อกระบวนการเหล่านั้นเสร็จสิ้น วิหคสวรรค์ก็ค่อยๆยันตัวขึ้นยืนได้แบบปกติ ตอนนี้เธอเพิ่งจะสังเกตว่าดวงตาของมันเป็นสีฟ้า แต่จะแปลกอะไร ในเมื่อเรเวนยังมีตาสีแดงได้เลยนี่
‘ผู้เล่น อลิน ได้รับ อัศวินวิหคสวรรค์ เป็นสัตว์เลี้ยง ต้องการตั้งชื่อใหม่หรือไม่’
“เฮ้ คุณ ฉันจะเรียกคุณว่า ฟอลคอน นะ คุณโอเคมั้ย” อลินถาม
“ตามใจเจ้าเถิด ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้าด้วย ขอบคุณมากๆ” เขาพูดอย่างสุภาพ
‘ผู้เล่น อลิน ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงใหม่เป็น ฟอลคอน สำเร็จ’
‘ขณะนี้สัตว์เลี้ยงฟอลคอนกำลังพัฒนาร่างต้องการเลือดของเจ้านายเป็นส่วนประกอบในการพัฒนา’
อย่างที่เธอคิดเลย เธอต้องเสียเลือดอีกแล้วหรือนี่!
“เอานี่” คราวนี้เธอไม่ได้อิดออดเรื่องให้เลือด เพราะเธอรู้ว่ามันไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย
ฟอลคอนเองก็ดูจะรู้ว่าต้องทำอะไร เขางับนิ้วของฉันไว้เบาๆ อึดใจหนึ่งผ่านไป…
วูบบบบ
แสงสีขาวสว่างจ้าบาดตา ฟอลคอนกลายร่างเป็นมนุษย์ อย่างที่เธอคาดไว้แล้ว
ฟอลคอนนั้นต่างกับเรเวนลิบลับในเรื่องของรูปร่างหน้าตา ฟอลคอนเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่ไม่ได้คมเข้มแบบเรเวน แต่เขาหล่อแบบน่ารัก ผมทอง ตาฟ้า ปีกสีขาวสะอาด และผิวสีเดียวกันที่น่าหม่ำ อ๊ะ..ไม่ใช่สิ!!
แต่ส่วนที่เหมือนกันก็คือ ทั้งคู่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆและไม่ใส่เสื้อเหมือนกัน แม้ถ้าดูจริงๆ ฟอลคอนอาจจะล่ำน้อยกว่าเรเวนสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเมื่อเขามีหน้าตาที่น่ารักมาชดเชย
“นี่คือสิ่งที่ทำให้เจ้าสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้สินะ เจ้านกดำ” ฟอลคอนพึมพำ
“ก็อย่างที่แกคิดนั่นแหละ ได้นกปีกหัก”เรเวนตอบกลับเบาๆ
“นี่! ถ้าจะกรุณาได้โปรดหยุดจิกกัดกันได้ไหม มันน่ารำคาญและก็ดูไม่ใช่นิสัยผู้ชายเอามากๆเลยนะ!” อลินเริ่มจะรำคาญกับการด่ากันในทุกประโยคที่พูดคุยของสองหนุ่มนี้แล้ว
ทั้งคู่หันมามองเธอ และฟอลคอนเองเป็นฝ่ายที่เริ่มพูดก่อน
“ถ้ามันทำให้เจ้ารำคาญ ข้าจะหยุด”
“อีกเรื่องนึงนะฟอลคอน ฉันขอละ พวกนายสองคนนี่เป็นอะไรกัน ชอบใช้ภาษาสมัยโบราณจริงๆ พูดแบบปกติเถอะ!”หญิงสาวยังคงโวยวายอยู่ ให้ตายสิ! ที่จริงเธอไม่ใช่คนที่จะขี้โวยวายอะไรอย่างนี้เลยนะ!
“ได้สิ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอไม่ชอบ ^^” ฟอลคอนปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้มน่ารักๆ ให้ตายเถอะ!เขามีลักยิ้มด้วย! และนั่นทำให้เธอหน้าแดงไปเลยทีเดียว
“อลินเธอบอกว่าเธอจะต้องเข้าเมืองไม่ใช่หรือ??” ในที่สุดก็เป็นเรเวนที่ทำลายบรรยากาศน่าอายนี่ เธอรู้สึกขอบคุณเขาอยู่ลึกๆเลยทีเดียว
“เธอจะเข้าเมืองหรือ เราสองคนทำให้เธอเสียเวลาหรือเปล่า” ฟอลคอนดูเป็นกังวลกับความคิดนี้ จนหญิงสาวต้องรีบหลอบใจเขา
“ไม่หรอก ไม่ได้เปลืองเวลาอะไรมากนักหรอก แต่ถ้าจะช่วยพาฉันบินไปส่งเมืองจะดีมากเลยละ”
“อ๋อ เรื่องแค่นี้เอง ง่ายๆ ชิวๆ” เขาพูด
“เอ่อ..ขออนุญาตนะ” ฟอลคอนบอก เขาทำมือเหมือนกับจะเป็นท่าอุ้มเธอ
“เอ่อ ได้สิ “ เธอประหม่าเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เขาอุ้มแต่โดยดี
“ฉันจะบินไปก่อนแล้วกันนะ” ดูเหมือนเรเวนจะเบื่อที่จะรอแล้ว เขากำลังจะโผขึ้นสู่น่านฟ้าตอนที่ฉันพูดขึ้น
“เดี๋ยวไปเจอกันที่นอกเมืองนะ มันคงจะไม่ปกติเท่าไหร่ที่จะมีครึ่งคนครึ่งนกบินเข้าเมือง” ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าปกติคนที่นี่เค้าใช้ชีวิตกันยังไงก็ตาม..เธอจบประโยคในใจ ในตอนที่เธอพูดนั้น เรเวนเริ่มกระพือปีกบินแล้ว แต่เธอแน่ใจว่าเขาจะได้ยิน .. เขาต้องได้ยินสิ!!
“เอาละทีนี้เธอก็เกาะฉันให้แน่นๆแล้วกันนะ ^^” ฟอลคอนก้มลงมาพูดกับฉันในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา ก่อนจะทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าไปด้วยปีกสีขาวนั่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น