คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 3 : เรเวน
วูบบบบบบ
หลังจากที่ได้ยินคำอวยพรจากระบบที่ฟังดูทะแม่งๆ อลินที่ก้าวเข้าสู่ประตูก็รู้สึกเหมือนตัวเองหล่นจากหน้าผาสูง
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" เธอกรีดร้องสุดเสียง อย่างที่คนปกติคงจะทำกันนั่นแหละ
โครม!
เธอหล่นลงมาสู่ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ได้เจ็บมากอะไร พื้นที่ตกลงมาก็นุ่มอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นพื้นหญ้า
"ที่ไหนเนี่ย?" อลินพึมพำ เธอรู้สึกได้ว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืน เมื่อมองไปบนฟ้าก็พบกับดวงจันทร์กลมโต สาดแสงลงสู่พื้นดิน ลมพัดอ่อนๆ มันเป็นป่าที่ใดที่หนึ่ง และเธอก็ตกลงสู่พื้นหญ้าจริงๆ
“ทางเดินอะไรก็ไม่มี แล้วจะให้กลับเข้าเมืองยังไงเนี่ย -*-“ เธอบ่นออกมา ก็ตรงนี้มันเป็นป่าจริงๆ และดูไม่เหมือนว่าจะใกล้เมืองเลยแม้แต่น้อย
“กลางคืนอันตรายไว้ตอนเช้าค่อยเข้าเมืองแล้วกัน” อลินตัดสินใจ เธอปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่ดูแข็งแรงต้นหนึ่ง โชคดีที่ตอนเด็กๆเธอซนจนปีนต้นไม้ได้เก่งพอควรอยู่
ผู้เล่น อลิน ได้รับทักษะ ปีนป่าย ระดับ 1 ค่ะ
“แค่ปีนต้นไม้ก็ได้ทักษะด้วยหรอ ดีแฮะ” เธอรู้สึกทึ่งเล็กน้อยที่เกมนี้เก็บรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตมาเป็นทักษะด้วย
หลังจากที่อลินนำตัวเองขึ้นมานอนเอกเขนกบนกิ่งไม้ใหญ่แข็งแรงที่สูงจากพื้นดินประมาณสามเมตรได้ เธอก็ตัดสินใจเปิดดูหน้าต่างระบบเช็กของที่ได้รับมาจากระบบ
ยาฟื้นพลัง HP 10 ชิ้น
ยาฟื้นพลัง MP 10 ชิ้น
มีดสั้น ระดับ D 1 เล่ม
“มีดสั้น ระดับ D???” สงสัยว่าคงเป็นอะไรที่ระบบไม่ได้พูดถึงไว้อีกละสิ ความลับที่จะต้องมาไขปริศนาเอาเองอีกข้อหนึ่ง
นอกจากนี้เธอก็ยังเจอแผนที่ ที่พอจะบอกทางคร่าวๆให้เธอไปถึงเมืองเริ่มต้นได้ – มันเป็นทางคร่าวๆจริงๆ เพราะมีแค่ตำแหน่งตัวเธอและตำแหน่งเมืองเท่านั้น!!
“ไอ้เกมนี้นี่มันกะจะให้คนเล่นคลำหาทางเอาเองทุกอย่างเลยใช่มั้ยเนี่ย -*-“ อลินบ่น แต่ดวงตาและน้ำเสียงของเธอนั้นบอกได้เลยว่าถูกใจ เพราะการที่ให้คนอื่นมาบอกว่าต้องทำอะไรบ้างนั้นไม่ใช่นิสัยของเธอ เธอชอบที่จะทำสิ่งที่เธออยากทำเองมากกว่า และการหาข้อมูลเองนั้นก็น่าสนุกกว่าการที่ให้คนอื่นมาบอกเป็นไหนๆ
ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีฟ้าเทา บ่งบอกถึงยามเช้าที่กำลังมาเยือน
อลินที่ตื่นแล้วและปีนกลับลงมาสู่พื้นดินได้อีกครั้งกำลังจะเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่เมือง
“ไปทางเหนือสินะ”เธอเปิดแผนที่เฮงซวยที่เมื่อคืนเจอดูอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจก่อนจะเริ่มต้นก้าวๆยาวๆ ป่านี้ไม่รกมาก ซึ่งก็สมเหตุสมผลอยู่ เพราะถ้าป่ารกมากผู้เล่นใหม่คงได้เหนื่อยตายก่อนถึงเมืองแน่
ซวบ
“ใครน่ะ!!” อลินหันกลับหลังไปทางที่เกิดเสียงมาทันที เธอค่อนข้างแน่ใจนะว่าไม่มีคนอยู่ในบริเวณที่เธออยู่ บางทีอาจจะเป็นสัตว์อสูรก็ได้
ตุ้บ
เสียงเบาๆนั่นเกิดขึ้นจากบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงมาจากด้านบน ไม่ใช่ด้านหลังอย่างที่เธอเข้าใจ ที่สำคัญคือ บางสิ่งนั้น ตัวใหญ่กว่าตัวเธอเสียอีก และโชกเลือดด้วย
“นี่มันตัวอะไรเนี่ย??” อลินพึมพำอย่างตกตะลึง
“ม…มนุษย์...หรือ??? “ สิ่งที่ตกลงมาพูดขึ้น เสียงนั้นดูมีอำนาจ แต่ก็อ่อนแรงในขณะเดียวกัน
“เอ่อ.. ใช่ ฉันคิดว่างั้นแหละ”อลินตอบกลับ พยามยามรักษาเสียงตัวเองไว้ไม่ให้สั่น มือของเธอก็ดึงเอามีดสั้นที่เรียกมาเตรียมเหน็บไว้ที่เอวออกมา เจ้าตัวนี่พูดได้ด้วย
“คุณเป็นใครน่ะ?” อลินถามเบาๆ การสุภาพไว้ก่อนเป็นเรื่องดี แม้เธอพร้อมจะวิ่งหนีขึ้นทางเหนือไปสู่เมืองทันทีที่เธอคิดว่าจำเป็นก็ตาม
“ข้า...คือ..เรเวน..น” สิ่งนั้นตอบกลับ มันฟังดูเหมือนเสียงผู้ชาย นั่นคือสิ่งที่เธอไม่ได้สังเกตุในครั้งแรกที่เขาพูด
“เรเวนนี่เป็นนกชนิดหนึ่งใช่มั้ย??”อลินถามออกมาหน้าตายังดูสงสัย ตอนนี้เธอสังเกตุเห็นแล้วว่าเจ้าเรเวนตัวนี้มันคือนกจริงๆนั่นแหละ มันมีปีกขนาดใหญ่ที่เก็บพับอยู่ด้วย ที่เธอไม่สังเกตุแต่แรกคงเป็นเพราะเธอมัวแต่สนใจเลือดที่ออกมาของมันมากกว่า
“ช..ใช่” เรเวนตัวนี้ตอบกลับมา เสียงของมันฟังดูอ่อนแรงลงไปอีก และดูใกล้ตายเต็มที่แล้ว มันผงกหัวขึ้นมาทำให้เธอได้เห็นหน้าตาเรเวนยักษ์ตัวนี้เต็มตา หน้าตามันก็ดูเหมือนนกเรเวนทั่วไป ที่แตกต่างจะทำให้เธอต้องผงะไปคือดวงตาสีแดงคู่นั้น
“ตาคุณ!!!” อลินร้องออกมาอย่างตกใจ เธอเกือบจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆแล้ว แต่ก็นึกได้ว่ายังไม่ควรไว้ใจเจ้านกตัวนี้
“ข้ายัง..ไม่อยา..ก…ตาย..ย” นกเรเวนดูจะไม่ได้สนใจกับคำอุทานของอลิน มันเริ่มต้นพูดอีกครั้ง มีประกายแห่งความมุ่งมั่นที่อ่อนแรงฉายอยู่ในดวงตาของมันด้วย
“ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้าง?”อลินกระซิบถามอย่างรวดเร็ว เธอไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่การจะให้ปล่อยให้เจ้าตัวนี้ตายไปต่อหน้าต่อตาก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
“รับข้า..เป็นสัตว์เลี้ยง..ง” นกยักษ์พยายามจะคือคลานเข้ามาใกล้อลิน แต่เมื่อทำเช่นนั้นมันก็ต้องร้องครวญครางออกมาอย่างเจ็บปวด
‘ดูเหมือนจะระบมไปทั้งตัวแฮะ’
“ฉันต้องทำยังไง ฉันทำไม่เป็น”หญิงสาวกระซิบ เธอเดินเข้าไปใกล้นกยักษ์อีกก้าวหนึ่ง ตอนนี้เธอตัดสินใจว่ามันคงจะไม่สามารถทำอันตรายเธอได้ จากสภาพของมันตอนนี้
“ใช้เลือดของเจ้า.. แตะที่หน้าผาก..ข้า แล้ว..เอ่ยนามของเจ้า และขอรับข้าเป็น..สัตว์เลี้ยง” เมื่อมันพูดจบ นกเรเวนก็ทรุดลงไป ดูท่าการพูดมากๆคงไม่ดีสำหรับมันมากๆในตอนนี้
อลินใช้มีดกรีดที่นิ้นชี้ขวาพอให้เลือดออก พร้อมก้าวเข้าไปประคองหัวของเรเวนขึ้นมา
“ฉัน อลิน ขอรับเรเวนตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยง” อลินเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ตอนนี้เรเวนกำลังใช้ดวงตาสีแดงสดจ้องเธอในระยะประชิด
“ข้า…เรเวนแห่งพงไพร…ยอมรับ อลิน…เป็นเจ้านายของข้า” ทันทีที่พูดจบ ก็มีแสงจากนิ้วของเธอที่แตะหน้าผากเรเวนอยู่ แสงนั้นเกี่ยวพันรอบตัวนกยักษ์ และเมื่อแสงนั้นหายไป บาดแผลตามตัวของนกเรเวนก็หายไปหมดสิ้น ทิ้งไว้เพียงครายเลือดที่ยังไม่แห้งเท่านั้น
ผู้เล่นอลินได้รับเรเวนแห่งพงไพร ระดับ 25 เป้นสัตว์เลี้ยง ต้องการตั้งชื่อใหม่หรือไม่
“ฉันจะเรียกคุณว่าเรเวนนะ คุณโอเคมั้ย?” อลินถอยออกมาก่อนหนึ่งก้าวขณะที่เรเวนพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นได้ อันที่จริงมันดูสง่างามเกินกว่าที่จะเป็นเรเวนด้วยซ้ำไป
“จะเรียกข้าว่าอะไรก็ได้”เรเวนตอบกลับมา มันกำลังสำรวจตัวเองอยู่ ตามที่เธอคิดนะ
ผู้เล่น อลิน ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงใหม่ว่า เรเวน สำเร็จค่ะ
ขณะนี้สัตว์เลี้ยงเรเวนกำลังจะพัฒนาร่าง ต้องการเลือดของเจ้านายเป็นส่วนประกอบในการพัฒนาค่ะ
ทันทีที่อลินได้ยินเสียงระบบบอกว่าเรเวนต้องการเลือดของเธอ เธอก็จ้องจ้านกยักษ์ที่ตอนนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอเขม็งทันที และมันก็จ้องเธอกลับด้วย น่าจะได้ยินเหมือนกันสินะ
“รออะไรอยู่ล่ะ เอาเลือดของเจ้ามาสิ ข้าจะได้เปลี่ยนร่างสักที” เมื่อมันเห็นว่าอลินคงจะไม่ให้เลือดกับมันเร็วๆนี้มันจึงเอ่ยปากเร่งขึ้นมา
“แล้วฉันต้องทำยังไงล่ะ?”หญิงสาวถาม ที่เธอยังไม่ทำอะไรเพราะเธอไม่รู้จะทำอะไรเนี่ยแหละ!
“จากความรู้สึกนะ เจ้าต้องให้ข้าดื่มเลือดละ”เรเวนตอบกลับมาด้วยคำตอบที่แทบทำให้เธอหน้าหงายไปเลย
“ดื่มเลือดเนี่ยนะ!”
“ใช่ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก เพราะถ้าฆ่าเจ้า ข้าก็ต้องตายไปด้วย แปลว่าที่อุตส่าห์ทำพันธสัญญาเป็นสัตว์เลี้ยงกับเจ้าก็เปล่าประโยชน์น่ะสิ” เรเวนพูด ด้วยน้ำเสียงที่เธอคิดว่าเป็นการพูดเพื่ออธิบายอะไรที่เห็นกันได้ชัดๆอยู่แล้ว
“เดี๋ยวนะ แล้วทำไมคุณถึงต้องพัฒนาร่างล่ะ หรือว่าสัตว์อสูรที่ถูกจับเป็นสัตว์เลี้ยงจะพัฒนาร่าง??”อลินที่เพิ่งจะเอะใจถามขึ้นทันที
เรเวนเงียบไปพักหนึ่ง
“ข้าคิดว่า มันน่าจะมีสาเหตุมากจากการต่อสู้ของข้าเมื่อครู่นี้”เรเวนพูดงึมงำ
“ที่ทำให้คุณเกือบตายนั่นใช่มั้ย?”
“อืม”
“แล้วยังไงล่ะ คุณสู้ คุณเกือบตาย แล้วไง?”
“ข้าต่อสู้กับศัตรูของเผ่าพันธุ์ที่มีมานานแล้ว คือพวกวิหคสวรรค์ความจริงข้าถือเป็นนักรบของเผ่าพันธุ์เรเวนในบริเวณนี้ แล้วก็อย่างที่บอก ข้าสู้กับมัน ระหว่างการต่อสู้ มันดันใส่พลังอะไรซักอย่างลงในตัวข้า ทำให้ข้าอ่อนแอ ที่ตกลงมานี่ก็เพราะว่าซัดพลังสุดท้ายของข้าใส่มันนั่นแหละ แต่พลังของมันก็ยังอยู่ในตัวข้านี่ ข้าว่านี่คือสาเหตุที่ข้าต้องพัฒนาร่าง”
หลังจากที่ฟังเรเวนร่ายยาว อลินก็ยังงงอยู่ดี -*-
“อ้าว คุณบอกว่าทำให้คุณอ่อนแอแล้วตอนนี้ล่ะ?”
“ก็ตอนนี้เจ้ารับข้าเป้นสัตว์เลี้ยง ก็เท่ากับว่าเจ้ารักษาและฟื้นพลังให้ข้า ข้าเลยใช้พลังสะกดมันเอาไว้ไง”
“แล้ววิหคสวรรค์อะไรนั่นมันตายหรือปล่า ?”
“ถ้าไม่ตายก็คงต้องพัฒนาร่างแบบข้านี่แหละ” เรเวนพูดด้วยเสียงเป็นกังวล
“ข้าขออะไรสักอย่างสิอลิน”
“คงไม่ใช่ให้ฉันไปตามหาซากวิหคสวรรค์อะไรนั่นหรอกนะ” อลินถามอย่างหวาดๆ
“นั่นแหละ แต่พัฒนาร่างให้ข้าก่อนนะ”
“แต่ฉันต้องกลับเข้าเมืองนะ” เธอพยายามแถไปเรื่อยๆ
“ถ้าจะเข้าเมืองเจ้าต้องขึ้นเหนือ ศัตรูของข้าก็หล่นลงทางเหนือเช่นเดียวกัน อีกอย่าง ข้าสามารถพาเจ้าบินได้ ฉะนั้น แค่ไปดูไอ้เวรนั่นไม่ได้ทำให้การเดินทางของเจ้าล่าช้าไปแน่นอน”เรเวนให้คำมั่น
“ฉันไม่มีทางเลือกสินะ”หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนจะกรีดมีดลงบนแผลเก่าที่นิ้วมือที่ตอนนี้เลือดหยุดไหลไปแล้วให้แผลเปิดอีกครั้ง
เรเวนดูจะรู้ว่าต้องทำอะไร เขาเอาจะงอยปากงับตรงที่เป็นแผล มันไม่ได้เจ็บอะไร เหมือนเขาแค่เอามารองไว้ไม่ให้เลือดไหลทิ้งแค่นั้น
อึดใจต่อมาหลังจากที่เรเวนได้เลือดเธอไป เขาผละออกจากเธอ ทรุดลง ตัวสั่น และเริ่มครวญคราง
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า” อลินกระซิบถาม ตอนนี้เธอคุกเข่าและวางมือไว้บนปีกข้างหนึ่งของเขา
“ไม่..ข้าไม่..เ..เป็นอะ..ไร”เรเวนให้คำมั่น แต่เธอไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไรนัก
อีกครู่ต่อมา เรเวนก็มีอาการเป็นปกติ
“มันแค่ต้องปรับสมดุลพลังนั่นแหละ อย่างที่คิดไว้ สาเหตุมาจากพลังของเจ้านั่นจริงๆด้วย”เขาพูดอย่างมั่นคง
ทันใดนั้น ตัวเขาก็เย็นวูบ สลายกลายเป็นควัน กลุ่มควันทั้งหมดประกอบรวมกันใหม่ กลายเป็นผู้ชายร่างสูงกำยำ ผมดำ และตาสีเดียวกัน ผิวขาว ใส่กางเกงขายาว และท่อนบนที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเนื้อก็ไม่ได้มีอะไรปกปิดเลยแม้แต่น้อย ที่แปลกที่สุดคือว่า เขามีปีกสีดำสนิทพับเก็บอย่างเรียบร้อยอยู่ด้านหลังของเขานี่แหละ
“ข้าคิดว่านี่คืทักษะใหม่ที่ได้จากการพัฒนาร่างนะ ‘ทักษะจำแลงกาย’”เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเธอ
“เอ่อ โอเค แหลว่าตอนนี้คุณแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้สินะ”
“ใช่”
“ฉันขออะไรอย่างนึงสิ” อลินพูดเสียงเรียบ
“ลองบอกมาสิ ถ้าข้าให้ได้ข้าจะให้”
“เลิกพูด ข้า-เจ้า ซักทีเถอะ คุณพูดภาษายุคปัจจุบันไม่ได้หรือไง” อลินพูด เธอขัดหูมานานแล้ว กับการใช้ภาษาแบบนี้ของเขา
เรเวนมองเธออยู่อึดใจหนึ่ง
“ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น ฉันจะพูดแบบนี้กับเธอแล้วกัน” เขาพูดในที่สุด
“ค่อยดีหน่อย” อลินพูดแล้วก็ถอนหายใจ
“ทีนี้เราจะไปหาไอ้นกปีกหักตกสวรรค์นั่นกันรึยัง?” เขาเร่งเธอ
“โอเค ทีนี้เธอจะพาฉันบินยังไงล่ะ” อลินไล่มองไปตามตัวของเขา
“ฉันมีวิธีแล้วกัน” เขาพูด แล้วคลี่ยิ้มให้เธอได้เห็นเป็นครั้งแรก โดยไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย
ออกจะทำให้เธอระแวงด้วยซ้ำ!!!
ความคิดเห็น