ตอนที่ 25 : บทที่ 11. เจ้านาย-ชายคนเก่า -2
จนเวลาผ่านไปการพูดคุยเรื่องงานอย่างเรียบง่ายก็จบสิ้นลงลูกค้าหนุ่มจากจีนแผ่นดินใหญ่ขยับตัวลุกขึ้นยืนมองนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือก่อนที่ต้องตัดใจลาเมื่อมีงานที่ต้องไปเจรจาต่อ แต่ก่อนกลับไปก็ยังคงพูดส่งท้ายกับเจนณิรินอย่างมีความหวัง
“ถ้านาฬิการุ่นใหม่ของโนเบิลรอยัลไปเปิดตัวที่จีนหวังว่าเราคงจะได้เจอกันนะครับคุณเจนณิริน”
“เอ่อ...”
“ครับ ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดหรืองานด่วนอื่นๆอาจจะได้เจอกัน แต่ว่าทางผมเองก็ไม่อยากรับปากทางคุณเฉิน เกรงว่าจะผิดหวัง หากวันนั้นเกิดขัดข้องขึ้นมา”
เตวิชที่เห็นเจนณิรินมีแววตาที่แฝงความกังวลใจจึงรีบตอบตัดบทแทนหญิงสาว แต่ก็ยังถือหลักบัวไม่ให้ช้ำธุรกิจยังไม่ควรเกิดปัญหา
เพราะบริษัทของไทเกอร์ เฉินถือว่าเป็นตัวแทนขายนาฬิกาแบรนด์หรูของบริษัท โนเบิลรอยัล จากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มียอดขายแทบจะเรียกได้ว่าเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ผลิตในแต่ละรุ่นที่นำไปเปิดตัวที่นั่นเลยทีเดียว ซึ่งเจนณิรินก็เผยยิ้มเล็กน้อยอย่างคล้อยตามและเห็นด้วยดั่งคำของเจ้านาย
“ครับ แต่ถึงยังไงผมก็หวังไว้ว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ..งั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ไทเกอร์ เฉินพูดกับเตวิชแต่สายตากับมองไปที่เจนณิรินผู้หญิงสวยหวานแต่มีคำพูดความฉลาดหลักแหลมอย่างที่หาได้ไม่ง่ายนัก ก่อนที่จะหันมาสบตาเตวิชอีกครั้งเพื่อกล่าวลาเมื่อจวนเจียนเวลาที่ต้องออกเดินทาง
“ครับ/ค่ะ” เตวิชจับมือกับลูกค้ารายใหญ่อีกครั้ง ในขณะที่เจนณิรินทำเพียงส่งยิ้มและค้อมศีรษะให้เล็กน้อยไม่ยอมยื่นมือไปอีกไทเกอร์ เฉินจึงจำเป็นต้องหมุนตัวเดินออกไป
เจนณิรินเผลอถอนหายใจออกมาแผ่วเบาอย่างโล่งใจ เธอรู้สึกอึดอัดกับการแสดงออกว่าพึงใจจากไทเกอร์ เฉินที่มีต่อเธอค่อนข้างโจ่งแจ้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ถึงความหมายที่เขาส่งมา เพียงแต่ว่าเธอไม่อยากสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกค้าเกินกว่าพันธมิตรทางธุรกิจก็เท่านั้น ต้องขอบคุณเจ้านายของเธอที่ช่วยเหลือไว้ได้ทัน
เตวิชที่คอยมองดูอยู่แล้วก็แอบหันไปอีกทางอดอมยิ้มไม่ได้ เมื่อมองออกว่าเจนณิรินโล่งใจขนาดไหนที่ลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่เดินออกไปแล้วลับตา ทั้งที่เมื่อครู่เขายังรู้สึกไม่พอใจอยู่แท้ๆ
...อีกทั้งลึกๆแล้ว เขารู้สึกราวกับว่ากำลังสบายใจที่ผู้หญิงคนข้างๆไม่อยากสร้างสัมพันธ์กับชายคนอื่นในขณะนี้
............................
“คุณอลิซ สวัสดีค่ะ ทำไมวันนี้ฉายเดี่ยวได้ล่ะคะ”
อลิษาที่เดินเฉิดฉายเข้ามาภายในบริเวณงานเลี้ยงในห้องโรงแรมหรูกลางกรุงก็หันไปตามเสียงเรียกทักของแขกที่เข้ามาร่วมงานเช่นกัน ก่อนที่เธอจะยกมือไหว้สตรีสูงวัยกว่าที่เดินคู่กันมาพร้อมรอยยิ้มหวาน..อย่างปลอมๆ
“สวัสดีค่ะคุณพราว พอดีคุณกฤษมีงานด่วนที่ญี่ปุ่นค่ะ” อลิษาตอบด้วยใบหน้าติดรอยยิ้มแจ่มใส ในขณะที่คิดหาช่องทางเลี่ยงจากสาวสังคมทั้งสองที่ต่างรู้กันดีว่าเป็นคู่เพื่อนซี้ที่ชอบเรื่องชาวบ้านมากที่สุดคู่หนึ่ง
“นั่นสิคะ พี่ถึงว่าเถอะติดงานนี่เอง ถึงได้ปล่อยคุณน้องมาคนเดียวแบบนี้”
“....” อลิษาเพียงยิ้มรับแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
“อุ้ย..นั่น คุณพิสิษฐ์นี่คะ มาคนเดียวอีกละ งานก่อนก็เห็นว่ามาคนเดียวนะคะ” สตรีอีกนางหนึ่งเอ่ยขึ้นมาบ้างเมื่อสายตาของนางไปปะทะกับชายหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังอีกคนเดินเข้ามาในบริเวณงาน
“ใช่ค่ะ สงสัยจะแย่แล้วล่ะ วงในเค้าเม้าส์ว่าทางฝั่งผู้หญิงเริ่มถังแตกละ น่ากลัวจะไม่รอดแน่เลยค่ะ” พราวนภาเอ่ยสมทบขึ้นมาบ้าง
“อ้าว..เห็นว่ารักกันมากไม่ใช่เหรอคะคุณพี่”
“ใครบอกล่ะคะ มีคนบอกว่าดองกันเพราะธุรกิจล้วนๆเลยนะคะ”
“แรกๆคู่นี้เค้าก็ดูเหมาะกันดี แล้วดูตอนนี้สิ...สู้คู่ของคุณอลิซไม่ได้เลยนะคะ ทั้งฐานะหน้าตา เหมาะสมกันที่สุดเลยค่ะ” สองสาวที่เริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนานก็หันมาทางอลิษาอีกครั้ง
“ใช่ๆ ถ้าคุณอลิซมีลูกนะ..โอ้โห อิจฉากันทั้งประเทศแน่เลย คุณพ่อหล่อ คุณแม่สวยแบบนี้”
“ใช่ๆค่ะ ถ้าพี่เป็นคุณอลิซนะ พี่คงท้องไปหลายคนละ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณพี่ก็พูดเกินไป” อลิษาที่ปากก็พูดจาและยิ้มรับอย่างสวยงาม แต่ในใจกลับรู้สึกรำคาญกับความจุ้นจ้านของสองสาวใหญ่คู่นี้จนลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหาจังหวะเอ่ยขอตัวเดินไปอีกด้านหนึ่งของงาน สายตาก็มองไปทั่วไม่เจาะจงพร้อมกับจิบเครื่องดื่มในมือไปเรื่อยๆ
ทำไมเธอจะไม่อยากมีลูกล่ะ กฤษณพลเองก็เคยเอ่ยปากเรื่องนี้ไปเมื่อวันที่ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันหลังจากวันครบรอบแต่งงาน แต่เธอจะบอกสามีได้อย่างไรว่าเธอเลิกคุมกำเนิดมาตั้งนานแล้ว..แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะตั้งครรภ์ และตอนนี้เธอกำลังหาเวลาว่างที่จะไปปรึษาแพทย์เรื่องนี้เพียงลำพัง
“อลิซ”
เสียงทุ้มคุ้นหูที่ทักขึ้นมาจากด้านหลัง อลิษาจึงค่อยๆหมุนตัวกลับมามองจึงได้เห็นคนที่ยืนอยู่ชัดเจน เธอชะงักเล็กน้อยก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“พี่ก้อง..เอ่อ..คุณก้องภพ สวัสดีค่ะ” อลิษาเกือบเผลอเรียกด้วยสรรพนามเดิมที่เคยเรียกก็รีบปรับเปลี่ยนแทบไม่ทัน
ก้องภพ ผู้ชายที่บอกว่ารักเธอ...แต่เลือกที่จะไปใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงอีกคน..
แม้วันนี้ความรักที่มีต่อเขามันจะจืดจางลงไปแล้วตามกาลเวลา แต่เธอรู้ดีว่ามันยังมีเยื่อใยบางอย่างตกค้างอยู่ในใจ อาจจะเพราะเขาเป็นรักแรกที่เธอคาดหวังอนาคตร่วมกันกับเขาไว้ทุกด้าน วาดฝันไว้อย่างสวยหรู
สุดท้ายเธอก็กลายเป็นคนที่ถูกทิ้ง เป็นผู้หญิงด้อยค่าให้คนในแวดวงสังคมนินทาจิกกัดเธอลับหลัง..จนผลักดันให้เธอพยายามเลือกผู้ชายที่ต้องมีทุกๆด้านดีกว่าเขาเข้ามาทดแทน
..และเธอก็ทำสำเร็จเมื่อสุดท้ายเธอได้แต่งงานกับกฤษณพล
“อลิซสบายดีหรือเปล่า เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ”
“ค่ะ ก็สบายดี แล้วภรรยาคุณล่ะคะ ไม่มาด้วยกันเหรอ” อลิษาพูดจาทักทายอย่างไร้ความรู้สึก สายตาคมหวานกลับวาวไปด้วยความโกรธชั่วครู่เมื่อนึกถึงวันวานก่อนจะจางหายไป พยายามปั้นสีหน้าเรียบเฉยเมื่อต้องมายืนตรงหน้าเขาอีกครั้ง...เขาคนที่เคยเป็นที่รักและเคยบอกว่ารักเธอที่สุด
“ฟ้าเขาไม่ได้มาด้วย พอดีลูกชายไม่ค่อยสบายครับ”
“อ้อ..ค่ะ” อลิษาตอบรับสั้นๆและไม่มีบทสนทนาอะไรเพิ่มอีก ยิ่งได้ยินถ้อยคำที่เขาเอ่ยถึงภรรยาและลูกอย่างอ่อนโยน เธอก็ยิ่งรู้สึกถึงความโกรธที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น
“อลิซ..พี่...”
“ฉันคิดว่า เราไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีกแล้วค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
อลิษาตัดบทสนทนาก่อนที่จะก้าวยาวๆปลีกตัวออกมาทันที แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วแต่เธอก็ยังไม่สามารถกลับไปพูดคุยกับชายคนนี้ได้อีก ยิ่งเห็นว่าเขามีความสุขดีกับภรรยาที่เขาเคยบอกว่าไม่ได้เต็มใจแต่งงานตั้งแต่แรก ยิ่งทำให้เธอรู้สึกโกรธและ....เจ็บแปลบในใจลึกๆ
การที่เธอประสบผลสำเร็จทั้งในเรื่องชีวิตแต่งงานและธุรกิจที่เธอบริหารก็ยังไม่อาจลบความรู้สึกด้อยค่าจากการโดนปฏิเสธของคนตรงหน้านี้ได้เลย..ไม่เลย ยิ่งตอนนี้เธอไม่มีทายาทเพื่อทำให้ครอบครัวของเธอสมบูรณ์ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอยังไม่ประสบผลสำเร็จตามที่เธอตั้งเป้าหมายเอาไว้
ก้องภพมองตามร่างบางสมส่วนของอลิษาไปด้วยแววตาของความรู้สึกผิด นับแต่เลิกรากันไปเพราะเขาจำต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นภรรยาในปัจจุบัน อลิษาก็ไม่แม้แต่จะมอบความเป็นเพื่อนให้กับเขาอีกเลย
วันนี้เขาเห็นว่าเธอเองก็มีชีวิตคู่ที่ดี ดูมีความสุขยามที่เขาเห็นข่าวของเธอกับสามีผ่านสายตามาตลอดหลายปีมานี้ และคิดว่าเธออาจจะลืมเรื่องราวเก่าระหว่างเขากับเธอแล้ว เขาจึงอยากกลับมาเป็นเพื่อนกับเธออีกครั้ง...แต่เท่าที่เห็นคงเป็นไปไม่ได้..
............................................
บทนี้ให้รู้จักอลิษาบ้างเนอะ เดี๋ยวจะแหม...แต่งงานกับกฤษณพลมาตั้งนาน ไม่พามารู้จักคนอ่านมั่งเลย
อย่างที่เคยแจ้งไป ช่วงนี้งานเยอะจริงๆค่ะ
แต่จะพยายามมาให้บ่อยขึ้นนะคะ ขอทวนเนื้อหาอีกหน่อย บางวันพอเสร็จงานประจำแล้วมาแต่งนิยายก็ต้องปรับจูนอารมณ์ให้เข้ากับเนื้อเรื่องใหม่ทุกครั้งเลย ... 555 ยังไม่มืออาชีพ โปรดให้อภัยด้วยเถิด
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและติดตามเรื่องนี้ค่ะ
เอ้า มันเลวใส่เขา แล้วให้เขาดีด้วย เป็นเพื่อนที่ดีให้-งี้เหรอ บ้าบ้อ
ไม่อยากรู้จัก ค่ะ ขอเปนชีวิตของเจนกับลูกที่ปากกัดตีนถีบจนได้ดีมากกว่าและลูกก็รู้จักคิดอะค่ะ
ต่างคน ต่างก็มีคู่ของตัวเองแล้ว ผ่านมาก็เกือบสิบปี รักๆใคร่ๆน่าจะจางลงไป จะไปวาดหวัง สิ่งที่มองไม่ทำไม อยู่กับกฤษณพลที่ใจดำ ไร้ศิลธรรมเห็นแก่ตัว ไม่เป็นลูกผู้ชาย ก็ดีแล้ว ทั้งคู่ก็ก็เหมาะสมกันดีอีกคนก็ทิ้งเมีย นอกใจเมีย มาแต่งงานกับเธอ ก็น่าภูมิใจนะ ที่ได้สามีเป็นผู้ชายไร้ศิลธรรมแบบนั้น หาที่ไหนได้ล่ะ
ชอบอ่านเรื่องของเจนมากกว่าค่ะ
รอจ้า....เวรกรรมของผัวเก่านางเอกจ้าาาาหมันแด๊กกกกกกกกกกก55555
อยากให้เจนเริ่มใหม่อย่างมีความสุข
ไม่โทษอลิสนะนางก็โดนหลอกเหมือนกัน ในเรื่องนี้คนผิดคือกฤษเห็นแก้ตัวสุดแต่ชีวิตโคตรสบาย ไม่รู้กรรมตามทันเมื่อไร
รอดูเจนมีความสุขกับชีวิตใหม่บ้าง แต่ไม่ใช่กับคนเก่า เพราะแก้วที่แตกไปแล้ว ต่อให้ใช้กาวดีเลิศแค่ไหน ร่องรอยมันก็ยังมีอยู่ตลอดไป. ผู้ชายสมควรได้รับผลการกระทำบ้าง. อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวล