ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic reborn (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : รู้ตัว คนที่1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.86K
      49
      23 ส.ค. 53

    แรมโบ้ เดินหอบขนมกลับบ้าน อย่างวิตกกังวลใจ เพราะคนที่เขาชนตะกี้นั้นมีแหวนเหมือนกับแหวนวองโกเล่ของเขาเลย คำพูดของรีบอร์นทวนซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา..

     

    รึจะว่า เจ้าคนเมื่อกี้จะเป็น... คู่หมั้น????!!!

     

    แต่มาคิดดูอีกที มันอาจแค่เรื่องบังเอิญก็ได้แฮะ กินขนมดีกว่าาา

     

    เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหยิบขนมที่เขาซื้อมา ขึ้นมากินแล้วเดินกลับบ้านอย่างร่าเริง จนลืมเรื่องเมื่อกี้ไป

     

    "ซือน้าาาา" แรมโบ้มาถึงบ้านก็เรียกหาสึนะ..

     

    "กลับมาแล้วหรอแรมโบ้ ออกไปไหนมาล่ะ"สึนะหันมาทักคนที่เรียกเขา

     

    "แรมโบ้ออกไปปซื้อขนมมา ซื้อมาฝากสึน้าด้วย อยากกินม๊ายยยย "

     

    "เอ่อ ไม่เอาล่ะ ว่าแต่แรมโบ้กินขนมแบบนี้ เดี๋ยวกินข้าวเย็นไม่ได้หรอก"สึนะเตือนคนที่เด็กกว่า

     

    อ๊ะ จริงด้วย เดี๋ยวอดกินข้าวเย็นฝีมือมาม๊าว่าจบแล้วก็เดินหายไปในห้องครัวทันที ทำเอาสึนะ ส่ายหัวให้กับแรมโบ้ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปเพื่อรอกินข้าวเย็น

     

    ช่วงนี้ในหัวสึนะมีแต่เรื่องคู่หมั้นกับแหวนเท่านั้น อยากรู้ใจจะขาด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ถามรีบอร์นก็ได้ลูกตะกั่วมาแทนคำตอบ หนีแทบไม่ทัน

     

    หลังจากที่กินข้าวเสร็จ แรมโบ้ก็เสนอตัวช่วยนานะล้างจาน

     

    แหม ขอบใจจ๊ะ แรมโบ้คุง

     

    ทำเอาสึนะเกิดอาการเสียวไม่ใช่น้อย เสียวมันทำจานแตกน่ะสิ

     

    จริงสิ เจ้าวัวบ้า แหวนวองโกเล่ แกยังพกติดตัวอยู่ใช่มั้ยรีบอร์นที่นั่งซดชาหลังอาหารอยู่ถามขึ้นมา

     

    นายนี่นา ช่วยเรียกชื่อคนอื่นให้ถูกหน่อยไม่ได้เรอะ นายรีบอร์นแรมโบ้พูดกลับมา

     

    ไม่จำเป็นกับแก เจ้าวัวโง่

     

    ปึ๊ด คำตอบของรีบอร์นทำเอาแรมโบ้อยากเอาระเบิดเขวี้ยงใส่หัวซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ข่มใจไว้ก่อน เดี๋ยวมาม๊าจะโกรธ (ไม่ใช่หรอก เดี๋ยวจะโดนกลับเข้าตัวเองเหมือนที่ผ่านๆมาอีก)

     

    ยังห้อยไว้กับตัวอยู่ ถามทำไม

     

    อ้อ เหรอ เปล่า ก็แค่นึกว่าวัวโง่อย่างแกอาจจะทำหายไปแล้วก็ได้ รีบอร์นพูดจบก็เดินหายไปจากห้องครัว

     

    ทิ้งให้แรมโบ้ อารมณ์เสียอยู่คนเดียว เจ้าหมอนั้น คำแรกก็บ้า คำสองก็โง่ ชั้นไม่ได้โง่กับบ้าน่ะเฟ้ย เจ้าบ้ารีบอร์น คอยดูเถอะ ชั้นจะเรียนเอาให้ได้ที่ 1 ของชั้นเรียนให้ได้ ที่นี้แกจะได้ไม่เรียกชั้นว่าโง่อีกต่อไป 555

    (คนแต่ง : บ้าจริงๆด้วยแถมยังหวังสูงอีก ไม่พึงสังวรเล้ย)

     

    อ้อ จริงสิ พูดเรื่องแหวน นี่นี่ สึน้าแรมโบ้กระโดดไปเกาะสึนะที่หลัง

     

    อะไรอีกล่ะสึนะถามด้วยความเบื่อหน่าย

     

    เค้าไปเจอคนที่แหวนลายเหมือนเค้ามาล่ะ ลายสายฟ้าน่ะแรมโบ้บอก

     

    เอ๋!!! จริงเหรอแรมโบ้สึนะถามเสียงลั่นบ้าน ทำเอานานะต้องออกมาเตือนเพราะมันรบกวนข้างบ้านเขา

     

    จริงสิ ลายเหมือนที่สลักอยู่บนวองโกเล่ริงค์เลยล่ะ เหมือนมากจนน่าแปลกใจ ว่ามันมีแหวนลายแบบนี้ขายอยู่ด้วยเหรอ” (มันโง่จริงๆล่ะ)

     

    ไม่แน่นา นั้นอาจจะเป็นคู่หมั้นของนายก็ได้นะแรมโบ้สึนะลองพูดดู

     

    อาจจะจริงนะ ก็หมอนั้นบอกว่าเก็บแหวนได้นี่นา เอาไว้วันหลังลองพิสูจน์ดูดีกว่าว่าจบแล้ว แรมโบ้ก็หายไปอาบน้ำ ทิ้งสึนะให้อยู่คนเดียว

     

    ลายเหมือนวองโกเล่ริงค์เปี๊ยบเหรอ อืม เฮ้ย เดี๋ยวก่อนสิ ตะกี้บอกว่าหมอนั้น งั้นก็ผู้ชายน่ะสิ คิดจบปุบก็วิ่งไปหาแรมโบ้ทันทีเพื่อเขาฟังผิด แต่ว่า...

     

    พอถึงห้องของแรมโบ้ ก็ปรากฏว่า เจ้านั้นหลับไปแล้ว แถมปลุกเท่าไรก็ไม่ยอมตื่นอีกแหนะ เลยทำให้สึนะยอมแพ้ไปตามระเบียบ

     

    ตอนเช้าว่าจะลุกมาถามแรมโบ้ใหม่ ก็ปรากฏว่าเจ้านั้นไปโรงเรียนแล้ว นานะบอกว่าวันนี้เจ้านั้นเป็นเวร ทำให้สึนะต้องไปมหาลัยทั้งที่ยังไม่ได้คำตอบเลย

     

    อรุณสวัสดิ์คร้าบ รุ่นที่10อนาคตมือขวารุ่นที่10 โกคุเทระทักสึนะ

     

    โย่ว สึนะยามาโมโตะเองก็มาพร้อมโกคุเทระ

     

    อรุณสวัสดิ์ทั้ง 2 คนสึนะทักตอบกลับไป แล้วทั้ง 3 คนก็เดินไปที่ห้องเรียนด้วยกันโดยมีเสียงทะเลาะกัน ดังมาไม่ขาดสายเหมือนปกติ

     

    จนกระทั่งได้เวลาเรียน ก็รับการแจ้งข่าวว่า วันนี้กับวันพรุ่งนี้อาจารย์ประชุมทั้งมหาลัย เลยประกาศให้เป็นวันหยุด 2 วัน ทำให้เหล่านักเรียนแยกย้ายกลับบ้าน

     

    จริงสิ ทั้ง 2 คน ชั้นมีจะเล่า อย่าเพิ่งกลับได้มั้ยสึนะถาม ยามาโมโตะกับโกคุเทระก็ตอบตกลง ระหว่างที่ทั้ง 3 คนกำลังจะขึ้นไปคุยบนดาดฟ้าตึกเรียนก็เจอคุณพี่เข้าซะก่อน

     

    ไง ซาวาดะ โกคุเทระ ยามาโมโตะ จะไปไหนกันไม่กลับบ้านรึคุณพี่ทักอย่างอารมณ์ดีตามเคย

     

    มีเรื่องจะคุยนิดหน่อยน่ะครับ คุณพี่ไปด้วยกันมั้ยสึนะถือโอกาสชวนไปด้วยเลย

     

    เมื่อมาถึงดาดฟ้า สึนะก็หันมาถามคนอื่น

     

    เรื่องแหวนกับคู่หมั้นน่ะ ทุกคนคิดยังไง

     

    คนโดนถามก็เงียบไม่มีใครสักคน

     

    มีอะไรเหรอสึนะยามาโมโตะถามมั้ง

     

    ก็ ไม่มีอะไรหรอก แต่เมื่อวานนี้แรมโบ้มาพูดให้ฟัง เจอคนที่มีแหวนลายสายฟ้า แบบเดียวกับแหวนวองโกเล่น่ะสิ เลยทำให้คิดอะไรขึ้นมาสึนะตอบตามความเป็นจริง

     

    จริงเหรอครับ ร่นที่10โกคุเทระถาม

     

    อืม คิดว่างั้นนะ เลยอาจคิดได้ว่านี่เป็นเบาะแสก็ได้ ถึงจะไม่แน่ใจเท่าไรก็เถอะ

     

    อืม แต่ชั้นคิดว่าจริงนะยามาโมโตะพูดแทรกขึ้นมา เล่นเอาทุกคนหันมามองอย่างอึ้งๆ

     

    ทำไมล่ะเรียวเฮหันมาถามยามาโมโตะ

     

    ก็ถ้าบอกว่าลาย เหมือนแหวนวองโกเล่เปี้ยบละก็ ชั้นเห็นคนคนหนึ่งพกเอาไว้ด้วยล่ะ

     

    จริงเหรอ ยามาโมโตะสึนะถาม

     

    อืม

     

    แล้วเค้าเป็นใครล่ะเรียวเฮถาม

     

    ก็ ฮาน...ยามาโมโตะพูดยังไม่ทันจบก็มีเสียงแทรกขึ้นมาซะก่อน

     

    หนวกหูชะมัด พวกแก กล้ามาสุมหัวกันต่อหน้าชั้น แถมยังคุยกันรบกวนเวลานอนของชั้นอีก รู้มั้ยว่าจะโดนลงโทษยังไง

     

    กึ๋ย!! คุณฮิบาริ!!!”สึนะร้องเสียงหลง

     

    พวกแกมารบกวนเวลานอนของฉันแบบนี้นี่ แสดงว่าพร้อมใจโดนขย้ำแล้วใช่มั้ย?” ฮิบาริว่าแล้วกระโจนใส่พวกสึนะทันที โดยร่างสูงของฮิบาริ ได้เหวี่ยงทอนฟาเข้าหาคนตัวเล็กเป็นรายแรก. "จ้ากกก" สึนะร้องลั่นด้วยความกลัว แต่ "แก๊งงงง!!" ร่างของชายหนุ่มนามยามาโมโตะ ได้เข้ามารับทอนฟาแทนสึนะด้วย ตะบองของยามาโมโตะ ซึ่งตกอยู่แถวนั้นพอดี(มาจากไส?) โกคุเห็นดังนั้นก็เกิดอาการทนไม่ได้ จึงหยิบระเบิดออกมา

    "รุ่นที่ 10 คร้าบบบ หลบให้พลิ้วๆน้าา"(เจ้าเนียนกับเจ้าบ้ามวยน่ะช่างมัน) จากนั้น.. ระเบิด 3x3 เท่าติดจรวดรุ่นใหม่ ก็ได้เข้ามาล้อมวงสึนะ ยามาโมโตะ และฮิบาริ

    "อ๋าาาาา"

    "เฮ้ย!!!!!"(x2)

    "เฮอะ!!"

    บรึ้มมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องไปทั่ว แต่เมื่อควันระเบิดจางลง กลับไม่เห็นร่างของว่าที่วองโกเล่ รุ่นที่10 กับผู้พิทักษ์ทั้ง 3 ..

     

    "เราปลอดภัยนะสึนะ" ยามาโมโตะร้องบอกสึนะที่นั่งอย่างตกตะลึงข้างๆตน ถ้าไม่ได้ยามาโมโตะ ตนเองคงจะดับไปพร้อมกับระเบิดตะกี้แล้ว..

    "ขอโทษคร้าบบ รุ่นที่10" โกคุพูดอย่างตื่นตระหนก พร้อมกับก้มหัวจนหัวโขกพื้นเพื่อขอโทษบอสของตน 

     

    "แกน่ะ อยากตายไวๆนักใช่มั้ย?" ฮิบาริถามด้วยเสียงเหี้ยม พร้อมแผ่กระจายจิตสังหารปกคลุมทั่วดาดฟ้าเป็นของแถม

     

    "ดาดฟ้าท่าจะไม่ดีแล้ว ป่ะสึนะ ยามะ หนีสุดหูรูดดดดดดดดด" คุณพี่เสนอ แต่หาทันไม่ เมื่อฮิบารินั้นเปิดกล่องวองโกเล่ พร้อมเม่นเมฆาออกมา..

     

    จากนั้นที่บนดาดฟ้าก็มีการตะลุมบอนรอบที่ 2 รุนแรงไม่เล็กน้อย โดยมีคนเฝ้าสังเกตการณ์ 2 คน

     

    คนแรกคือ รีบอร์น เขาเอากล้องส่องทางไกลมาคืนสภาพเป็นกิ่งก่าเลออนของเขาคืนแล้วบ่นอยู่คนเดียว

     

    "ไม่ว่าพวกแกจะโตเท่าไร ก็ยังมีเรื่องกันเป็นเด็กเหม็นกลิ่นนมทุกทีสิน่า คอยดูพ่อจิจับเคี่ยวให้เข็ดรายตัว"

     

    ว่าแต่ยามาโมโตะ รู้ตัวคู่หมั้นแล้วรึเนี่ย ไวจริงแฮะบ่นเสร็จก็นั่งดูพวกนั้นตีกันต่อไป

     

    ส่วนอีกคนก็คือผู้ที่ได้ชื่อว่าสายหมอก

     

    คุฟุฟุ ได้ยินเรื่องสนุกแล้วสิ แหวนลายเหมือนวองโกเล่ริงค์รึว่าจบก็หายไปสมชื่อสายหมอก

     

    หลังจากที่โดนฮิบาริขย้ำซะไม่เหลือสภาพ ตอนนี้ยามาโมโตะก็กำลังมุ่งกลับบ้าน แต่ว่าระหว่างทางดันไปเห็นคนที่เขาอาจจะคิดว่าเป็นคู่หมั้นเขาน่ะสิ!!

     

    ฮานากาวะ ยูคิ จริงสิ ลองทักคราวนี้เอาให้แน่เลยดีกว่า

     

    พอนึกจบก็เดินเข้าไปทักทันที

     

    ไง ฮานากาวะ เพิ่งกลับเหรอ

     

    นาย..ยามาโมโตะ ทาเคชิ

     

    โอ้ ดีใจมากที่นายจำชั้นได้ยามาโมโตะพูดด้วยรอยยิ้มตามประสาคนอารมณ์ดี และเขาค่อนข้างดีใจที่เห็นคนตรงหน้าจำเขาได้ ก็แหม เขาไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่นนอกจากคนที่ย้ายเข้ามาพร้อมกันนี่นา

     

    มีธุระอะไรยูคิถามจุดประสงค์กับคนตรงหน้า

     

    จะว่ามีก็มีนะ จะว่าไม่มีก็ไม่มีแหละ ฮะ ฮะ

     

    อะไรของนายยูคิขมวดคิ้วกับคำตอบที่เขาได้รับ

     

    เอาเป็นว่า นายพอมีเวลามั้ยล่ะ ไปกับชั้นหน่อยได้มะยามาโมโตะชวน

     

    ก็ไม่ได้รีบอะไรหรอก แต่ให้ไปกับนายเนี่ยนะ

     

    ใช่ เอาเป็นว่าโอเค ไปเลยละกันว่าจบยามาโมโตะก็ถือวิสาสะจับมือแล้วลากคนตรงหน้าออกเดินทันที

     

    เดินไปได้ไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่

     

    ยามาโมโตะซูชิยูคิอ่านป้ายหน้าร้าน

     

    อือ บ้านชั้นเองพูดจบก็ลากยูคิเข้าไปในร้าน

     

    พ่อครับ พาเพื่อนมาเที่ยวแหนะ อ้าว ไม่มีใครอยู่เลยยามาโมโตะว่าแล้วลองเดินไปสำรวจในบ้าน

     

    จนยูคิสังเกตเห็นตรงข้างบานประตูมีกระดาษโน้ตแปะอยู่

     

    นี่ นายมีกระดาษแปะอยู่ตรงนั้นยูคิว่า พลางชี้นิ้วไปทางโน้ต

     

    ยามาโมโตะเดินไปดูพร้อมกับดึงออกมาอ่าน

     

    ทาเคชิ พอดีว่าเพื่อนเก่าพ่อมาชวนไปเที่ยวบ่อน้ำร้อนด้วยกันน่ะ ก็เลยตกลงไปด้วย ถือซะว่าให้พ่อไปพักร้อนล่ะนะ 3-4 วันจะกลับ พ่อทิ้งเงินไว้ที่เดิมแล้ว ของในตู้เย็นก็พอมีอยู่บ้าง แกอยู่คนเดียวก็คงได้ อย่าก่อเรื่องล่ะ ปล.ห้ามแอบพาสาวเข้าบ้านล่ะ พ่ออ่านจบยามาโมโตะก็นั่งนึกอยู่ในใจ กลัวจะไม่ใช่ผู้หญิงแต่เป็นผู้ชายน่ะสิพ่อ แล้วก็หันไปมองยูคิ

     

    เอ่อ โทษทีนะ พ่อดันไปเที่ยวแบบปุบปับซะได้เจ้าของบ้านว่า

     

    ไม่เป็นไรหรอก แล้วเรื่องที่จะคุยล่ะ

     

    อ้อ จริงสิ เข้ามาก่อนสิ เดี๋ยวเอาน้ำชามาให้ยามาโมโตะว่า แล้วลากยูคิขึ้นไปบนห้องตัวเอง แล้วก็ไปหาน้ำชากับขนมมารับแขก

     

    นี่ ฮานากาวะ ขอดูแหวนเมื่อตอนนั้นหน่อยสิ นายพกติดตัวไว้ใช่มั้ย

     

    ก็นะ แล้วทำไมถึงคิดว่าชั้นจะให้ดูยูคิถาม

     

    ก็แค่..อยากให้แน่ใจอะไรหน่อยน่ะ

     

    ยูคิขมวดคิ้ว กำลังนั่งพิจารณาอยู่ว่าจะให้ยืมดูดีมั้ย

     

    น้า ขอร้องล่ะยามาโตะยกมือไหว้ขอร้อง

     

    กะ.ก็ได้แล้วยูคิก็ยอมแพ้ ที่จริงเขาไม่ได้อยากให้ดูนักหรอก แต่เขาอยากรีบกลับเพราะอยู่กับคนคนนี้ทีไร ไม่รู้ทำไมเขาถึงเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเองแบบนี้ แล้วเขาก็ถอดแหวนออกมาให้ดู

     

    ยามาโมโตะรับแหวนมาดูก่อนจะนิ่งไปนิดนึง

     

    ใช่จริงๆด้วยยามาโตะว่า

     

    อะไรเหรอยูคิถามกลับ

     

    นี่ไง ลายของแหวนมันเหมือนของชั้นเป๊ะเลยอ่ะยามาโตะพูดแล้วเอาแหวนของตัวเองออกมาแล้วเอามาเทียบกับของยูคิ

     

    จริงด้วย เหมือนมากเลย ทำไมเนี่ยยูคิมองดูแหวนด้วยความสงสัย

     

    นายเอาแหวนนี่มาจากไหนเหรอ

     

    ก็..ตอนที่พวกเราย้ายมาที่เมืองนี้ ระหว่างที่เดินสำรวจอยู่ในเมือง ก็ไปเจอเด็กทารกแปลกๆที่ใส่เสื้อสูทกับหมวกสีดำน่ะ แล้วก็มีกิ่งก่าอยู่บนหัวด้วย เด็กคนนั่นถามเรามาว่า พวกนายเชื่อเรื่องมาเฟียมั้ย พวกเราก็บอกไปว่าก็เชื่อนะ ที่ไหนก็ต้องมีคนแบบนั้นคุมอยู่ทั้งนั้น อีกอย่างพวกเราก็มีฝีมือต่อสู้อยู่บ้าง เลยตอบแบบนั้นไปโดยปริยาย แล้วเด็กคนนั้นก็ยื่นกล่องอะไรไม่รู้มาให้ แล้วก็หายไปเลย พอพวกเราเปิดดูก็ปรากฏว่ามีแหวนอยู่ในนั้น 7 วง แล้วก็มีโน้ตบอกว่าให้เราพกติดตัวไว้ล่ะ พวกเรานึกสนุกก็เลยพกไว้ทุกคนพอยูคิเล่าจบยามาโมโตะก็นิ่งไป

     

    เด็กทารกใส่เสื้อสูทสีดำเหรอ มีกิ่งก่าบนหัว งั้นก็แปลว่านั่นคือเจ้าหนูเหรอ

     

    เดี๋ยวสิ นายบอกว่าพวกเราใช่มั้ย งั้นก็แปลว่ามีคนอื่นอีกน่ะสิ

     

    ใช่ มีเพื่อนชั้นอีก 6 คนพอได้คำตอบสมองของเขาก็ประมวลผลได้ทันที คนที่เป็นคนเลือกคู่หมั้นก็คือเจ้าหนู แปลว่าอีกไม่นานเราก็คงต้องทีเรื่องอีกแหงเลย ฮะ ฮะ ในที่สุด ก็พบแล้วเว้ยยย

     

    ฮะ ฮะ เอาแบบนี้เลยเหรอยามาโมโตะบ่นอยู่คนเดียว

     

    นี่ นายรู้ใช่มั้ยว่าแหวนนี่มีความหมายว่าอะไรยูคิถาม

     

    ก็นะ คิดว่ารู้แล้วล่ะ

     

    บอกหน่อยสิคำที่ยูคิพูดมาทำเอายามาโมโตะนิ่งไป เขาจะบอกความจริงดีมั้ยนะ แต่ถ้ารู้มีหวังช็อคแหงเลย

     

    เอ่อ ไม่บอกได้มะ

     

    ต้องบอกสิ ชั้นเล่าเรื่องของชั้นไปตั้งเยอะ คราวนี้ตานายบอกมั้งสิยูคิว่า พลางลุกขึ้นไปจับคอเสื้อยามาโมโตะ

     

    ใจเย็นสิ แต่ชั้นว่านายไม่รู้จะดีกว่านะยามาโมโตะตอบเลี่ยงๆ

     

    บอกมานะยูคิถามเสียงดุ

     

    เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เขามาเค้นคอ คนอื่นถามแบบนี้น่ะ ปกติไม่เคยหรอก มันไม่ใช่นิสัยเขา

     

    เอ่อ..

     

    บอกมาเดี๋ยวนี้ยูคิเริ่มถามขั้นเด็ดขาด เขากำลังคิดอยู่ว่าถ้าไม่บอกละกันจะใช้กำลังซะเลย ที่จริงไม่ถามก็ได้ แต่มันดูมีลับลมคมนัยยังไงไม่รู้ แต่ยังไงซะเขาต้องรู้ให้ได้

     

    ยามาโมโตะเห็นเริ่มสถานการณ์ไม่ดีกำลังคิดหาวิธีเลี่ยงอยู่ เพราะเขานั่งอยู่ติดผนังเลย ก่อนที่หัวเขาจะคิดแผนการ(ชั่วร้าย)ขึ้นมาได้

     

    เขาจับมือยูคิที่จีบคอเสื้อเขาอยู่ เขารู้สึกได้ว่าคนตรงหน้านี่สะดุ้งนิดๆล่ะ

     

    จะบอกให้ก็ได้ แต่ต้องมีค่าตอบแทนนะ เพราะนี่มันความลับสุดยอดเลย

     

    อ้าว แล้วที่ชั้นบอกเมื่อกี้ล่ะ


    เมื่อกี้ไม่พอหรอก ว่าไงจะเอามั้ยยามาโมโตะถาม พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


    ค่าตอบแทนอะไรล่ะ


    ยามาโมโตะยิ้มออกมา ก่อนจะดึงข้อมือยูคิออกจากคอเสื้อเขา แล้วดันคนตัวเล็กกว่าลงไปนอนกับพื้น แล้วตัวเองคร่อมอยู่ข้างบน

     




    โอ้ย ทำอะไรเนี่ย อ๊ะ...ยูคิร้องด้วยความตกใจ ไม่นึกว่าคนตรงหน้าจะเล่นอะไรแบบนี้ แถมยัง...

     

    นี่ หยุดนะ..เมื่อคนตัวสูงกว่าเริ่มซุกไซร้อยู่ตรงคอเขา

     

    ยามาโมโตะซุกหน้าอยู่ตรงคอยูคิ สูดเอากลิ่มตัวหอมๆ ที่เขาได้กลิ่นตั้งแต่เข้ามาในบ้านแล้ว พร้อมใช้ปากเม้มนิดหน่อย ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูเบาๆว่า

     

    จะบอกให้ก็ได้ ที่แหวนเราคล้ายกันน่ะยูคิเกิดอาการเสียวขึ้นมา เมื่อมีคนมาพูดแถวข้างหู แล้วยังความรู้สึกแปลกๆอีกเนี่ย

     

    ก็เพราะเรา มีดวงชะตาต้องกันน่ะสิ ถ้าชั้นเดาไม่ผิด ชั้นคิดว่าเราอาจเป็นคู่หมั้นกันก็ได้นะ

     

    หา พูดเป็นเล่นทันทีที่ฟังคนตรงหน้าพูดจบ ยูคิก็โวยวายทันที แต่ยังโวยได้ไม่เต็มที่นัก เมื่อคนข้างบนยังไม่เลิกวุ่นวายแถวคอเขาเลยน่ะสิ

     

    อึก นายปล่อย..ได้แล้ว ชั้นไม่เชื่อเรื่องแบบนั้นหรอก ปล่อยเลยนะ ชั้นจะกลับบ้านแล้วยูคิโวยวายเสียงดัง แต่ก็แค่ทำให้ยามาโมโตะ หยุดเท่านั้น ก่อนจะปล่อยข้อมือ แล้วบอกกันยูคิว่า

     

    นี่ รู้รึเปล่า ว่าวันนี้มีพายุเข้า กว่าจะสงบก็เช้าแหละ

     

    หะยูคิได้ยินก็รีบไปที่หน้าต่างทันที รูดม่านออก แล้วก็เป็นจริงดังว่า ฝนตกหนักแล้วก็แรงมากด้วย เป็นแบบนี้เขาก็กลับบ้านไม่ได้น่ะสิ ซวยแล้ว ต้องอยู่กับคนๆนี้ทั้งคืนเรอะ (ความเสี่ยงโดนจับกด 50% เลยอ่ะ)

     

    นายรู้แล้วสินะยูคิหันมาถาม

     

    เปล่านะ ที่จริงก็ลืมไปแล้ว เพิ่งมานึกได้ตอนได้ยินเสียงฝนน่ะยามาโมโตะยกมือขึ้นยอมแพ้

     

    ยูคิจ้องคนตรงหน้า ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร

     

    นายค้างที่นี่ก็ได้นะ ยังไงก็ไม่มีใครอยู่ แล้วก็ออกไปไม่ได้อยู่ดีแหละจริงอย่างที่หมอนี่ว่า ยังไงเขาก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว จะค้างเลยก็ไม่เลว แต่ดูจากพฤติกรรมที่หมอนี่ทำกับเขาเมื่อกี้สิ มันไม่น่าไว้ใจเลยอ่ะ

     

     “ไม่ทำอะไรหรอกน่า ตกลงนะ เรื่องเสื้อ คิดว่านายคงใส่ของชั้นได้

     

    ยังไงเขา ก็ยังไม่อยากเปียกด้วยสิ กลัวไม่สบาย ถ้างั้นก่อนนอนหาอาวุธไว้ก่อนก็ดี

     

    ก็ได้ ขอรบกวนหน่อยนะ แล้วก็ขอยืมโทรศัพท์หน่อย พอดีตังค์มือถือหมด ต้องโทร.ไปบอกที่บ้านก่อน

     

    อือ งั้นเดี๋ยวชั้นไปทำอาหารเย็นก่อนนะแล้วทั้งสองคนลงไปข้างล่าง

     

     

    เอ๋ ไม่กลับบ้านเหรอ พี่พูดเล่นรึเปล่านี่คนที่เขาพูดด้วยคือยูกิ น้องชายเขา

     

    ก็ฝนมันตกซะขนาดนี้ จะกลับได้ไงเล่า

     

    เดี๋ยวสิ แล้วพี่จะนอนไหน แล้วนี่อยู่ไหน

     

    บ้านเพื่อน ลองถามคาซึกิดูก็ได้ หมอนั้นก็รู้จัก ชื่อยามาโมโตะ ทาเคชิ

     

    งั้นเหรอ โอเคครับผม

     

    แล้วพรุ่งนี้จะรีบกลับ

     

    ทราบแล้วครับผม แล้วระวังอย่าโดนเขากดล่ะ บ๊ายบายพี่

     

    เฮ้ย เดี๋ยวสิ ไอ้น้องบ้ายูคิโวยวาย ก็ดูน้องเขามันพูดสิคนยิ่งแต่ไม่อยากคิดอยู่

     

    มีอะไรเหรอยามาโมโตะชะโงกหน้ามาถามยูคิ

     

    ไม่มีอะไรหรอกยูคิว่าพลางวางโทรศัพท์ แล้วคิดอยู่ในใจ รึว่าเขาคิดผิดที่ค้างที่นี่ ก็อย่างที่ยูกิว่า พวกเขาทุกคนค่อนข้างมีปัญหาเรื่องหน้า ไม่รู้ทำไม คนอื่นชอบเห็นเขาเป็นผู้หญิงซะจริง เลยมีอันตรายหลายรอบแล้ว พวกเขาถึงมีวิชาต่อสู้ไว้ป้องกันตัวบ้าง แต่ดูเหมือนว่า ท่าทางเขาจะใช้ก็หมอนี่ไม่ได้ผล

     

    ยูคินั่งรออยู่สักแปบ ยามาโมโตะก็เดินมาบอก ข้าวเย็นเสร็จแล้ว

     

    แล้วทั้งคู่ก็นั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน

     

    นายทำอาหารอร่อยดี

     

    ขอบใจนะ ชั้นทำเองบ่อยๆน่ะยามาโมโตะว่า พลางเก็บจาน

     

    เดี๋ยวชั้นล้างให้ แค่นี้ก็รบกวนมากแล้วยูคิพูดแล้วลุกขึ้น

     

    เอางั้นเหรอ งั้นก็ฝากด้วยนะ ชั้นไปดูน้ำอ่างซะหน่อย ได้ที่ยังนะ แล้วก็จะดูเสื้อผ้าให้นายด้วยยูคิพยักหน้ารับรู้ก่อนจะไปล้างจาน

     

    หลังจากที่ยูคิล้างจานเสร็จ ยามาโมโตะก็โพล่มาพอดี

     

    นี่ นายน่าจะใส่ชุดนี่ได้นะ ชุดเก่าชั้นเอง

     

    อืม ขอบใจยูคิรับชุดมา

     

    นายไปอาบน้ำก่อนก็ได้ เดี๋ยวชั้นขอไปเช็คประตูก่อนแล้วเขาก็เดินออกไป

     

    ยูคิว่าแล้วเดินไปห้องอาบน้ำ

     

    เขาถอดเสื้ออกแล้วมองไปทางกระจกก่อนจะอึ้งไปไม่น้อย ที่คอเขามีรอยแดงที่เห็นอย่างเด่นชัดอยู่ เขาเอามือลูบ ตั้งแต่เมื่อไรกัน เขานึกอยู่ก่อนจะนึกออก ตอนนั้นเรอะ เจ้าหมอนั้น สงสัยต้องหาของป้องกันตัวซะละมั้ง เขาว่าก่อนจะรีบอาบน้ำ พยายามไม่มองรอยแดงนั้น

     

    ส่วนยามาโมโตะที่รออาบต่อ ก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางหัวเราะหึหึ เพราะเขาคิดว่าป่านนี้ยูคิคงรู้ตัวแล้วมั้ง ว่าเขาทำรอยแดงไว้บนคอเขา แถมชัดเสียด้วย ที่นี้เขาจะโดนแก้แค้นมั้ยเนี่ย แต่ก็เอาเถอะ มันอดไม่ได้นี่นาก็น่ารักสะขนาดนั้น..

    คืนนี้จะเอายังไงดีน้าา ยามาโมโตะคิดพลางยิ้ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×