ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic reborn (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #64 : คอร์สสะใภ้วองโกเล่ (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.34K
      9
      16 ก.ค. 57

    “แล้วคุณพาพวกผมมาทำอะไร?” คาสึกิถาม

     

    “มาเข้าคอร์ส สะใภ้วองโกเล่ไง” ปู่ตอบยิ้มๆ

     

    “สะใภ้วองโกเล่!!!” (X7) ได้ยินงานนี้ พวกผมก็แทบลมจับสิครับ

     

    ปกติแค่ห่วงว่าจะโดนคนไม่รู้จักกดเอา แต่นี่ นอกจากเป็นคนที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงเดือน โดนเขาบอกว่าเป็นคู่หมั้นไม่พอ ยังต้องมาเข้าคอร์สบ้าอะไรอีกเหรอ โอ้ยย ย จะเป็นสะใภ้ เอ้ย โดนจับมาเป็นเหยื่อ? ให้พวกหื่นๆยังไม่พอใช่มั้ย? สงสัยพวกผมต้องไปทำบุญเก้าวัด สะเดาะเคราะห์ ในประเทศไทยแล้วล่ะ  

     

    “เอ่อ ประเดี๋ยวก่อนนะ คุณปู่ทั้งหลาย”ยูกิยกมือขึ้นถามเป็นคนแรก เพราะคนอื่นยังช็อกกันไม่หาย

     

    “ว่าไงล่ะหลาน”จ็อตโต้ตอบอย่างอารมณ์ดี

     

    “ทำไมเป็นลูกสะใภ้อีกแล้วล่ะ แค่คู่หมั้นเป็นผู้ชายนี่ก็แย่แล้วนะ แถมพวกเราเป็นลูกสะใภ้ แปลว่าเราเป็นฝ่ายรับ ไม่ใช่เหรอ แล้วเราไปเป็นหลานพวกคุณตั้งแต่เมื่อไรกัน”ยูกิถาม ซึ่งส่งผลให้คนที่เหลือหันมามองอย่างทึ่ง ยูกิพูดรู้เรื่องเป็นงานเป็นการก่อนพวกเขาอีกวุ้ย

     

    “แหม ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหนเลย พวกเธอก็ออกจะสวยกันทั้งนั้น หลานๆพวกชั้นไม่เห็นมีใครขัดสักคนเลยนะ แถมดูเหมือนจะพอใจด้วย อ้อ แล้วที่ถามว่าเป็นหลานตั้งแต่เมื่อไรนั่นน่ะ ก็เป็นตั้งแต่ที่เจ้าหนูอัลโกบาเลโน่อรุณ แนะนำตัวพวกเธอน่ะสิ เพราะงั้น พวกเธอก็หลานของพวกเรา”จ๊อตโต้ตอบ

     

    “ใครจะเป็นฮะ ไอ้พวกลอบวางยา”(X6)(ไม่นับโทโมกิ)

     

    “แล้วมีปัญหาอะไรเหรอ”แรมโพถาม

     

    “มีสิ เป็นผู้ชายน่ะ ยังพอว่า (เพราะพวกเรามีปัญหาเรื่องหน้า นี่น่ะ) ทำใจได้แล้วในระดับหนึ่ง แต่ทำไมผมต้องโดนคนอายุน้อยกว่ากดเอาด้วยเล่า”ยูกิถามอย่างไม่สบอารมณ์

     

    นั่นคือ ประเด็นที่แกมีเหตุผลสินะ ไม่อยากโดนคนอายุน้อยกว่ากดเนี่ยนะ >>>นี่คือความคิดของหกคนที่เหลือ

     

    “เอาเถอะ ไม่ว่ายังไง ผลก็เปลี่ยนไม่ได้ พวกเธอก็ทำใจซะเถอะ”จีกล่าวปิดท้าย  

     

    “ไม่ทำโว้ย”นาโอยะกับฮิคารุโวยขึ้นมา เป็นสัญญาณ ให้แต่ละคนออกตัววิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางทันที (เจอแบบนี้ใครจะอยู่ล่ะคร้าบ เผ่นก่อนละกัน)โดยมีจุดมุ่งหมายเป็นคฤหาสน์ที่อยู่มาไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่

     

    “อ้าว หนีไปซะแล้ว วิ่งกันเร็วจัง”จ๊อตโต้มอง พร้อมกับเอ่ยชม

     

    “มันใช่เวลามั้ย จ๊อตโต้”จีเอ่ยตัดมุข พร้อมถอนหายใจ

     

    “งั้นก็..เอาตามที่ตกลงกันไว้นะ จ๊อตโต้”อลาวดี้บอกอย่างเซ็งๆ แล้วออกตัวไปตามเจ้าหลานดื้อของตัวเอง(?)

     

    “อืม ช่วยติวพิเศษหน่อยนะทุกคน”จ๊อตโต้บอกอย่างร่าเริง พร้อมกับมองดูแต่ละคนที่แยกย้ายกันไป

     

    แต่ประโยคที่บอกว่าพิเศษนี่ ทำเอาคนฟังแต่ละคนยิ้มเชียว

     

    ....เอาล่ะ....ได้เวลาแกล้งหลานตัวเองแล้ว......(แต่หลานคนไหน นี่ไม่รับประกัน โดยผู้เขียน)

     

    “เราเองก็เริ่มมั้งดีกว่า”จ๊อตโต้บอกกับตัวเอง ก็ออกวิ่งไปตามทางที่คาสึกิวิ่งหายไป

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    พิรุณ

     

    หลังจากที่วิ่งมาได้พอสมควร ยูคิก็หันไปมอง เพี่อสำรวจดูว่าตอนนี้เขาปลอดภัย(?)จากผีคุณปู่รึยัง

     

    เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร เขาก็ถอนหายใจ เขาไม่ใช่พวกมีกำลังมากนัก แต่ก็คาดว่าน่าจะมีแรงพื้นฐานสำหรับผู้ชายอยู่ แต่นั่นก็ไม่สามารถสู้กับเจ้าหื่นที่ถูกตั้งให้คู่หมั้นของเขาเลยแม้แต่นิด...โลกนี้ไม่ยุติธรรม ทำไมเขาต้องมาเจอแบบนี้ ยิ่งไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นเขา ทั้งเนียน ทั้งหื่น ทั้ง... โอ้ยย ยย ไม่มีคำบรรยายแล้วนะ

     

    เมื่อคร่ำครวญกับตัวเอง + พักเหนื่อยเสร็จ ยูคิก็มองรอบๆ เพื่อที่จะหาทางกลับคฤหาสน์ ในขณะที่จะก้าวเดิน สัญชาตญาณของเขาก็บอกว่ามีคนอยู่ใกล้ๆนี่

     

    มือบางคว้าอาวุธของตนมาไว้ในมือทันที โซ่เส้นยาว ถูกม้วนขดเป็นวงกลมประมาณ 4 รอบไว้ในมือซ้าย มือขวาถือปลายโซ่อีกด้านไว้

     

    ยูคินิ่งเงียบ ใช้สมาธิฟังเสียงรอบตัว นอกจากเสียงใบไม้ไหวที่เขาได้ยินแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไรที่ผิดปกติ

     

    เขาจึงตัดสินใจ ออกเดินอีกครั้ง ไม่ถึง 5 นาทีดี ประสาทสัมผัสของยูคิก็ทำงาน เสียงวัตถุบางอย่างฝ่าสายลมเข้ามา ทำให้ยูคิต้องรีบกระโดดหลบให้พ้นจากวิถีของสิ่งนั้น

     

    สิ่งที่ปรากฏให้เห็น คือมีดสั้น 2 เล่ม ปักอยู่บนพื้นตรงที่เดินที่เขายืนอยู่

     

    “แหม ประสาทไวดีนะขอรับ”อุเก็ตสึเดินออกมาจากในเงามืด พร้อมกับเอ่ยชม ที่ยูคิสามารถหลบมืดสั้นที่เขาปาออกไปได้

     

    “ขอบใจสำหรับคำชม แต่นั่นสมควรไปชมหลานคุณมากกว่า เพราะเจ้านั่นแหละ ชั้นถึงต้องระวังตัวแจแบบนี้”ยูคิตอบ

     

    “งั้นหรือขอรับ ถ้างั้นก็ไว้ชมคราวหลังแล้วกัน”อุเก็ตสึพูดสบายๆ แล้วเก็บมีดสั้นขึ้นมา เล่มนึง แล้วหันมามองยูคิ แล้วชักดาบคาตานะเล่มยาวออกมา พุ่งตัวเข้าหายูคิ

     

    ยูคิที่เห็นอีกฝ่ายบุกเข้าโจมตีก็ดึงโซ่มากั้นไว้ ไม่ให้ดาบมาถึงตัวเขา

     

    เคร้ง !!

     

    “อืม ยอดเยี่ยมจริง ปฏิกิริยาตอบโต้ก็ดีเชียว”ปู่พิรุณชมอีกครา แล้วโดดถอยออกไปตั้งหลัก

     

    “แต่คิดจริงๆหรือขอรับ ว่าโซ่เส้นนั้นจะสู้กระผมได้” อาซาริยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

     

    “นี่สรุปคุณมาทำอะไรกันเนี่ย ตกลงจะสู้จริงเหรอ ไหนบอกว่าจะเข้าคอร์สอะไรนั้นไง ไหงเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย”ยูคิพึมพำ เขาไม่ใช่สายต่อสู้โดยตรง พูดๆไป ปกติเขาแค่เอาโซ่ไว้ใช้ป้องกันตัวเฉยๆ แต่ถ้าจะสู้มันก็อีกเรื่องนึงเลยนะ

     

    “ก็เปลี่ยนใจแล้วไงขอรับ ตอนแรกเห็นไม่อยากเข้ากันนักนี่ แล้วตอนนี้มาถามถึงทำไมละขอรับ ลองสู้กับกระผมดูหน่อยนะขอรับ”คุณปู่ซึ่งหูดีเกิน ตอบคำถามให้

     

    ....เอาแน่เอานอนไม่ได้ทั้งปู่ทั้งหลานเลยวุ้ย....

     

    ตอบจบคุณปู่พิรุณก็ยืนนิ่งมองยูคิ ไฟสีฟ้าปรากฏขึ้นบนดาบเล่มยาว ก่อนมันจะพุ่งออกมา ตรงใส่ยูคิที่กำลังยืนตะลึงอยู่

     

     

    .......

     

     

    “โอ้ เจ้าทำแบบนี้ได้ด้วย”อาซาริมองอย่างทึ่งๆ(งานนี้ปู่ระรื่นเชียว ชมมันทุกอย่าง)

     

    ยูคิเหวี่ยงโซ่เกี่ยวกับกิ่งไม้ที่แข็งแรงพอสมควร แล้วดึงตัวเองออกมาให้พ้นจะระยะไฟดับเครื่องชนที่พุ่งเข้าหาตัว หลบได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะดึงโซ่กลับมาไว้ในมือ

     

    “นั่นอะไรน่ะ”ยูคิมองไปตรงจุดที่เขายืนอยู่ ซึ่งตอนนี้ไฟมันดับไปแล้ว เหลือรอยไหม้นิดหน่อยไว้บนพื้น

     

    “อ้อ นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้นะขอรับ”

     

    “หา”

     

    “นั่นคือ สิ่งที่มาเฟียอย่างเราๆใช้ในการต่อสู้ ในเมื่อจะคุณจะเข้ามาอยู่ในวองโกเล่ คุณก็ต้องทำสิ่งนั้นให้ได้ มันเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำสุด ในการทำให้คนยอมรับเข้าแฟมิลี่”

     

    “ขั้นต่ำสุดเหรอ”  ว่าแต่... ใครขอให้รับเข้าแฟมิลี่ฟร่ะ????

     

    “ขอรับ เป็นภรรยาของผู้พิทักษ์วองโกเล่ ไม่เก่งเรื่องต่อสู้ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้ไฟดับเครื่องชน ในการปกป้องตนเองได้”

     

    “ไฟดับเครื่องชน ?”ยูคิทวน มันคืออะไรล่ะนั่น ความอยากรู้เริ่มเข้ามาแทนที่

     

    “ใช่ขอรับ ผมรับรองได้ว่า ถ้าคุณใช้ได้เมื่อไร คุณก็น่าจะสามารถรับมือหลานของผมได้ในระดับหนึ่งนะขอรับ”

     

    คำพูดนี่ล่ะ ทำเอายูคิหูผึ่ง รับมือเจ้าเนียนได้ อันนี้น่าสนแฮะ

     

    ยูคินิ่งเงียบ คิด ก่อนจะออกปากถามคุณปู่ที่ยืนรออยู่

     

    “แล้วทำยังไง ผมถึงจะใช้ไฟนั่นได้”

     

    “นั่นสินะ สำหรับคุณหลานคนสวย ตั้งใจต่อสู้แล้วจูบผมสักที แล้วจะสอนให้นะขอรับ”อาซาริตอบอย่างอารมณ์ดี

     

    ยูคิเหวี่ยงปลายโซ่ใส่คนตรงหน้าทันที ที่ได้ยินคำตอบ

     

    อาซาริก้าวหลบออกมาด้านข้าง 2 ก้าว ก็พ้นจากวิถีโซ่ที่เหวี่ยงใส่เขาได้

     

    “แหม ผมล้อเล่นนะครับ โกรธเหรอ”

     

    “มาก”ยูคิตอบสั้นๆแล้วออกแรงดึงโซ่กลับมา

     

    อาซาริเหลือบไปเห็นที่ปลายโซ่ที่โดนดึงกลับมา กระโดดหลบขึ้นไปยืนบนต้นไม้

     

    “เจ้าโซ่นั่น อันตรายกว่าที่คิดนะขอรับ”อาซาริมองปลายโซ่ที่ยูคิดึงกลับมา

     

    มันไม่ได้มีแค่ปลายโซ่ที่ว่างเปล่า แต่มันมีท่อนไม้ขนาดไม่ใหญ่ แต่น่าจะพอตีหัวคนให้สลบได้สบายๆ ยาวประมาณ 1 เมตรติดกลับมาด้วย

     

    “มันติดมาได้ไงล่ะนั่น”อุเก็ตสึถาม

     

    แทนคำตอบ ยูคิดึงโซ่ขึ้นมานิดหน่อย ให้ไม้ลอยขึ้นมาจากพื้น

     

    “หืม...”อุเก็ตสึสังเกตเห็นว่าที่ปลายโซ่ที่พันอยู่รอบไม้นั่นมีตะขอเกี่ยวไว้ด้วย

     

    “ตะขอเกี่ยวแบบสั่งทำพิเศษ สำหรับใช้เกี่ยวสิ่งต่างๆ รับน้ำหนักได้มากพอสมควร”ของสัมมนาคุณพิเศษจากบ้านนาโอยะ ยูคิเหวี่ยงโซ่ที่มีไม้ติดอยู่เป็นวงกลม แล้วพุ่งมันใส่ปู่พิรุณที่อยู่บนต้นไม้อย่างรวดเร็ว

     

    อาซาริใช้ดาบของตน ผ่าต้นไม้ที่ยูคิเกี่ยวอยู่

     

    “ชิ”ยูคิดึงโซ่กลับมา เพื่อป้องกันตัว เมื่อคุณปู่โดดลงมาจากต้นไม้ พุ่งใส่เขาเต็มๆ

     

    เคร้ง !!

     

    เสียงโซ่ที่ปะทะกับดาบดังก้องเข้ามาในหู ก่อนที่ยูคิจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากคนหรือผีตรงหน้า

     

    “สอบผ่านขอรับ”คนตรงหน้ายิ้ม

     

    ก่อนที่ไฟจะปรากฏขึ้นบนดาบอีกครั้ง คราวนี้มันลามมาบนสายโซ่ที่ยูคิถืออยู่ด้วย

     

    “หวา”ยูคิตกใจ เลยเผลอปล่อยมือจากโซ่ เมื่อไฟลามมาจนเกือบโดนมือเขา เขาถอยหลัง แต่ต้องก็ล้มลงไปกับพื้นเมื่อเขาสะดุดเข้ากับมีดสั้นอีกเล่ม ที่คุณปู่คนดีไม่ยอมเก็บไปในตอนแรก

     

    “อ๊ะ”ยูคิล้มลงไป แถมท้ายด้วยการมีคุณปู่ตามมาคร่อมด้วย

     

    “แบบนี้ไฟก็หายไปหมดสิขอรับ อย่าปล่อยมือสิ มันไม่ลวกมือหรอกนะ”

     

    “มันช้าไปแล้ว แล้วถอยไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”ยูคิเถียงกลับ พร้อมดิ้นรนให้พ้นจากคนด้านบน

     

    อาซาริกดมือทั้งสองของยูคิไว้กับพื้น และโน้มตัวลงมา ยูคิรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่กระทบใบหูบาง

     

    “หึหึ ถ้าอยากใช้ไฟได้ ก็ตั้งใจให้มากๆนะครับ ผมจะอยู่ข้างคุณให้คุณใช้ไฟได้ง่ายขึ้นนะ”

     

    “หา จะช่วยเหรอ”

     

    “ก็ตั้งใจว่าจะช่วยจนกว่า จะผ่านการทดสอบล่ะนะ หลานกระผมน่ะ รับมือไม่อยากหรอก คุณยอมนิดหน่อย แล้วสวนหนักๆสักที เขาก็ยอมแล้วล่ะขอรับ”อาซาริยิ้มแล้วหอมแก้มเบาๆทีนึงแล้วผละตัวออกมา แล้วหายไปพร้อมเสียงหัวเราะ

     

    “ไอ้วิญญาณบ้า ลามก หื่น ไม่แพ้หลานเลยนะ”ยูคิโวยวายใช้มือถูแก้มที่ถูกหอมแรงๆ

     

    “ทำแบบนั้นผมเสียใจนะ รังเกียจผมเหรอ อ๊ะ แต่ลืมไปว่า ยังไงคุณก็คงยอมให้หลานกระผมคนเดียวมั้ง ช่างเถอะ เดี๋ยวกระผมไปเอาค่าเหนื่อยจากจีก็ได้”อาซาริยังไม่วายกลับมาคุยส่งท้าย

     

    “จะไปไหนก็ไปเลย ไอ้ปู่หื่น”ยูคิโวยกลับ เมื่อเห็นคุณปู่หายไป เขาก็ถอนหายใจ แต่ก็ยอมรับล่ะนะ ว่าคำแนะนำที่เขาได้ยินเมื่อกี้ น่าจะใช้ได้ผลดีนะ

    ว่าแต่ ไอ้ความหื่นนี่.. มันติดต่อกันทางสายเลือดหรือเปล่า??  แล้วมันคืออะไรอ่ะ เอาค่าเหนื่อยจากจีเนี่ย ??แล้วจีที่ว่าเนี่ย คุณปู่คนไหนกัน??

     

    เมื่อเขาปรับอารมณ์ให้คงที่ได้แล้ว เขาก็ลุกขึ้น เดินไปเก็บโซ่ แล้วออกเดิน ไปที่คฤหาส์นอีกรอบ

     

    ....ยอมอ่อนก่อน.. แล้วค่อยสวนหนักๆงั้นหรือ หึหึ ....

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    มาก่อน 1 คู่น้า 

    เริ่มที่ 80 ที่โดนเข้าคอร์สคนแรก

    เพื่อเป็นการขออภัยคนที่อุตสารอ อยากคู่ไหน จากอีก 6 คู่ 

    เลือกมาได้เลย เดี๋ยวข้าวจัดให้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×