ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic reborn (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #10 : รู้ตัว คนที่ 2 (มั้ง)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.53K
      52
      17 พ.ค. 54

    แล้วก็ข้ามมาคู่อื่นเลยล่ะกัน

    .........ย้อนกลับไปช่วงเช้า..........

    วันนี้ผมอารมณ์ดี เลยมามหาลัยแต่เช้า แหม ผมนี่เป็นคนดีจังเนอะ  พอมาถึงห้องเรียน ก็ปรากฎว่ามีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว ชิ นี่อุตสามาเร็วแล้วนะ คนที่นั่งอยู่ในห้องคือ คนที่ย้ายมาพร้อมกับผม รู้สึกจะชื่อ มากามิ โทโมกิ สินะ อืมไม่เป็นไรเขาสวยพอ ยกโทษให้ได้

    อรุณสวัสดิ์ มากามิคุง ผมทักคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเดินไปนั่งใกล้ๆโทโมกิ ก็ที่ติดกันนี่นะ

     

    คนตรงหน้าเงยจากหนังสือ มามองผม ก่อนจะตอบสั้นๆ

     

    อรุณสวัสดิ์พูดแค่นี้ แล้วก็อ่านหนังสือต่อ ให้ตายเถอะหมอนี่พูดกับผมนี่นับคำได้เลยนะ

     

    แล้วผมก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยเอารายงานที่อาจารย์ที่ต้องส่งวันนี้มาเขียนต่อให้เสร็จ

     

    หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เขียนเสร็จคนอื่นก็เริ่มทยอยมาแล้ว แต่รู้สึกว่าคู่ปรับผมจะยังไม่มา คู่ปรับของผม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร นั้นก็คือ ฮิบาริ เคียวยะนั้นเอง

     

    แต่ผมว่าอีกไม่นานก็ต้องมาแล้วล่ะ เพราะได้เวลาเรียนแล้ว ตอนนี้หมอนั้นคงกำลังไปตามล่าพวกมาสายอยู่

     

    ระหว่างที่รอให้อาจารย์มาสอนอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงคนวิ่งเข้ามาในห้อง ผมหันไปมอง คงไม่พ้น หนีฮิบาริ มานั้นแหละ

     

    สองคนนั้นหอบอยู่หน้าห้อง สองคนนี้คือ นักเรียนอีก 2 คนที่ย้ายมาพร้อมผม ชื่ออะไรหว่า จำไม่ได้แล้ว

     

    เฮ้อ เกือบสายอีกตามเคยเสียงจากคนข้างๆพูดอยู่คนเดียว

     

    2 คนนั้นเหรอ เป็นแบบนี้ประจำเหรอผมหันไปถาม แต่คนข้างๆไม่ตอบ หันมามองหน้าผม ก่อนจะหยิบน้ำในกระเป๋ามาสองขวด ยื่นให้สองคนที่เพิ่งมา

     

    ขอบใจ โทโมกิ

     

    สองคนนั้นรับน้ำไป

     

    ให้ตายสิ พวกนายเมื่อไรจะหัดมาให้มันเช้าบ้างเนี่ย แล้วหนีอะไรมา

     

    จะหนีอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่อีตากรรมการคุมกฎที่ชื่อ ฮิบาริ เคียวยะน่ะ ให้ตายสิ มาสายนิดหน่อย ก็จะเอาทอนฟามาประเคนให้ซะแล้วคนผมสีม่วงตอบ

     

    เหอะ หนีฮิบาริมาจริงด้วย ยังนึกชื่อสองคนนี้ไม่ออกแฮะ

     

    แล้วทำไมมาสายขนาดนี้ล่ะ พวกนายจะออกบ้านตั้งนายแล้วไม่ใช่เหรอมากามิยังไม่เลิกถาม

     

    แล้วทำไมผมต้องมาฟังคนอื่นพูดกันด้วยเนี่ย ผมกำลังจะหันกลับไป แต่เผอิญหูได้ยินเรื่อง...

     

    ก็เรียวน่ะสิ ทำแหวนหล่นหายแถวประตูบ้าน เลยต้องช่วยหาน่ะสิคนผมม่วงตอบ

     

    แหวน ช่วงนี้วองโกเล่บอกว่าจะมีคู่หมั้นรึอะไรนั้นสินะ ครั้งที่แล้วไม่ตั้งใจฟังเท่าไร  แต่ช่างเถอะ คงไม่พ้นฝีมืออัลโกบาเล่โน่นั้นอีกหรอก แต่อาจจะเป็นเรื่องน่าสนใจ ฟังต่อดีกว่า

     

    อย่ามาโทษว่าเป็นความผิดชั้นสิ ถ้าฮิคารุไม่มายุ่งกับแหวนของชั้นมันก็คงไม่หล่นหรอกอีกคนเถียงกลับ อ้อ ชื่อเรียวกับฮิคารุ วันหลังจะจำไว้

     

    ว่าไงนะ

     

    ก็มันจริงนี่นา

     

    เอาล่ะ พอ พอ พอได้แล้วทั้งคู่เลย ไปนั่งที่ซะจะได้เวลาเรียนแล้วโทโมกิ ไล่เพื่อนเขาสองคนไปนั่งที่

     

    ก่อนจะอ่านหนังสือต่อ หมอนี่มันไม่รู้จักทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือรึไงนะ แล้วอยู่เขาก็ปิดหนังสือ แล้วหยิบเอาของออกมาจากเสื้อ รูปร่าง เหมือนจะเป็นแหวนแฮะ อืม ถ้าสังเกตดูดีแล้ว ลายมันคล้ายของผมจังแฮะ แล้วในขณะที่ผมจะถาม เสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้นซะก่อน พร้อมกับความเงียบที่เข้าปกคลุม

     

    คนที่เดินเข้ามาคือ ฮิบาริ เคียวยะ

     

    อ้อ จริงสิ ผมจะบอกอะไรอีกอย่าง ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่นี้ ผมตีกับฮิบาริเขาทุกวันเลย เหมือนงานอดิเรกเลย ตอนนี้ผมว่างมากเลยอ่ะลองแหย่ฮิบาริเล่นดูดีกว่า

     

    เหนื่อยหน่อยนะครับ ฮิบาริซังฮิบาริหันมามองผมพร้อมกับรังสีอำมหิตที่เริ่มแผ่ไปทั่ว คนอื่นเริ่มถอยห่างออกไปแล้ว

     

    แกอยู่เงียบก็ดีอยู่แล้ว ไอ้หัวสับปะรดฮิบาริตอบกลับมา

     

    อย่าพูดงั้นสิ ทั้งที่เราเป็นพวกเดียวกันแท้

     

    ท่าทางแก จะอยากถูกชั้นขย้ำมากสินะ

     

    ฮิบาริว่าพลางชักทอนฟาออกมา ส่วนผมลุกจากที่ เอาสามง่ามออกมา คนอื่นในห้องกระจายไปอยู่รอบนอกเรียบร้อย แถมเพื่อนในห้องยังไม่ลืมเข้ามาลากพวกมากามิออกไปอีก


     

    เมื่อคนดูเตรียมพร้อม ฝ่ายแดงกับฝ่ายน้ำเงิน ก็ชักอาวุธทันที

    ฝ่ายแดง ชักทอนฟาคู่ใจออกมา เตรียมพร้อม กระโจนใส่คนตรงหน้า

    ฝ่ายน้ำเงิน ก็เรียกสามง่ามออกมา เตรียมพร้อมรับการโจมตีของอีกฝ่าย

     

    “เตรียมหาหลุมฝังศพได้เลย ไอ้หัวสัปบะรด”ฮิบาริพูดเสียงเหี้ยม

     

    “เตรียมหาให้ตัวเองดีกว่ามั้ยครับ ฮิบาริคุง”มุคุโร่ ตอยเสียงเรียบตั้งใจกวนประสาทฮิบาริ

     

    แล้วในระหว่างที่ทั้งสองคนจะกระโจนเข้าหากัน นั่นเอง ก็มีผู้กล้าเสี่ยงตายเข้ามาห้าม ซึ่งคนนั้นจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก

     

    “ซาซางาวะ”เสียงเพื่อนคนอื่นในห้อง เรียกอย่างตกใจ ที่อยู่ๆเขาก็กระโจนเข้ามาขวางคนทั้งสอง

     

    ทำเอาทั้งสองคน นิ่งไป

     

    “เจ้าสัตว์กินพืช กล้าดียังไงถึงมาขวางทางชั้น”ฮิบาริถาม

     

    “เอ่อ ถ้าจะฆ่ากัน ยังไงฟังชั้นพูดก่อนนะ ทั้งห้องเลย”เรียวเฮเริ่มเหงื่อตกเล็กน้อย เมื่อมีจิตอาฆาตอยู่ทั้ง สองฟาก

     

    “แล้วมีเรื่องอะไรล่ะ”เสียงของฮิคารุดังแทรกขึ้นมา

     

    ทำเอาคนในห้องสะดุ้งกันไม่ใช่น้อยที่มีคนกล้าพูดแทรกฮิบาริด้วย ฮิบาริ เหลือบตามาดูนิดนึง ก่อนจะหันไปมองเรียวเฮต่อ

     

    “คือ อาจารย์ฝากมาบอกว่า วันนี้กับวันพรุ่งนี้ อาจารย์จะมีประชุม ทั้งโรงเรียน งดการเรียนการสอนทั้งหมด กลับบ้านได้ แค่นี้แหล่ะ เอาล่ะ พวกนายจะตีกันต่อก็ตามสบาย ชั้นขอตัวล่ะ”พอเรียวเฮว่าจบ ก็เดินออกมาจากกลางวง เดินออกไปนอกห้องเฉยเลย

     

    “ว่าไงครับ จะสู้รึเปล่า”มุคุโร่ถาม

     

    “ไม่ล่ะ ชั้นต้องไปตรวจดูความเรียบร้อย โชคดีไปนะ โรคุโด มุคุโร่”แล้วฮิบาริก็เก็บทอนฟา แล้วเดินออกจากห้องไป ทำให้คนในห้องหายใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง

     

    ฝ่ายมุคุโร่ก็เก็บสามง่ามไป แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน ซึ่งคนอื่นก็เหมือนกัน

     

    “ไปหาเรื่องเขา แบบนั้น ไม่กลัวตายรึไง”โทโมกิถาม

     

    “ไม่กลัวหรอก อย่างฮิบาริน่ะ ล้มผมไม่ได้หรอกนะ”ว่าจบแล้วก็ไปยิ้มให้

     

    “ว่าแต่นาย เอาสามง่ามมาจากไหนน่ะ แล้วหายไปไหนแล้ว เล่นกลรึไง”เสียงฮิคารุถาม

     

    มุคุโร่หันไปมองคนที่ยืนข้างโทโมกิ ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะพูดว่า

     

    “คุณน่ะ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ”

     

    “ระวังเรื่องอะไร”

     

    “ก็เมื่อกี้ที่คุณพูดแทรกขึ้นมา ผมเห็นฮิบาริ เหลือบมองคุณน่ะ อย่านึกว่าเขาไม่เห็นล่ะ ระวังโดนเขาทำโทษทีหลังนะ ไปล่ะ”แล้วมุคุโร่ก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ฮิคารุยืนขมวดคิ้วอยู่คนเดียว

     

     

    หลังจากที่ฮิบาริตรวจดูความเรียบร้อยเสร็จ ก็หนีขึ้นไปนอนบนดาดฟ้า

     

    แต่เมื่อเขานอนได้ไม่นาน ก็มีคนเข้ามากวน ซึ่งก็คือพวกสึนะนั่นเอง

     

    (แล้วเหตุก็เป็นไปเหมือนตอนที่ 7 ขี้เกียจเขียน)

     

    หลังจากที่ฮิบาริ จัดการพวกสึนะจนนอนกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับบ้าน(บ้านของฮิซัง คนแต่งเป็นคนคิดเองนะ)แล้วล้มตัวลงนอน

     

    หลังจากที่เขาตื่นนอน ก็พบว่าเย็นมากแล้ว ก่อนที่ในหัวจะนึกขึ้นได้ว่า พยากรณ์อากาศบอกว่าจะมีพายุเข้า จะสงบก็เช้า ทำให้เขาลุกจากเตียง เปลี่ยนเสื้อ แล้วออกไปเดินซื้อข้าวเย็น วันนี้ที่บ้านเขาไม่มีใครอยู่

     

    เขาเลือกไปซื้อซูชิจากร้านที่อยู่ในเมืองมา ในระหว่างที่เขาก็เดินกลับ เขาก็บังเอิญเหลือบไปเห็น คนกำลังตีอยู่ ทำให้เขายิ้มออกมา มีเหยื่อมาให้เขาเล่นถึงที่แล้ว เขาฝากของไว้ที่ร้านขายเนื้อข้าง ตรอกที่เขาตีกันอยู่

     

    ในระหว่างที่เขาเดินเข้าไปนั้นก็ได้ยินเสียงคนข้างในตะโกนดังออกมา

     

    “นาโอยะ หนีเถอะ มันเยอะเกินไป แบบนี้เราเสียเปรียบ เจอกันที่บ้านนะ”เมื่อเสียงนั้นพูดจบ ก็มีคนล้มลงไป 2- 3 คนแล้วมีคนหนึ่งวิ่งไปอีกทาง ส่วนอีกคนวิ่งมาทางฮิบาริ ฮิบาริขัดขาให้คนที่พุ่งเข้ามาหาเขาล้มลง ซึ่งก็อย่างที่คาดไว้ เขาล้มลง แล้วหันมามองหน้าฮิบาริ

     

    “ฮิบาริ เคียวยะ”

     

    “นาย เด็กใหม่”ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้ คนที่อยู่ข้างหลังก็พูดแทรกซะก่อน

     

    “นี่มัน ฮิบาริ เผ่นเร็วพวกเรา”คนที่เหมือนหัวหน้าพูดขึ้น แต่ฮิบาริยิ้มเหี้ยมหันไปพูดกับฮิคารุ

     

    “นายอยู่นี่ก่อน ถ้าหนีละก็ จะเล่นนายให้หนักเลย”ว่าจบก็วิ่งตามไปจัดการพวกที่บังอาจมาสุมหัวกันต่อหน้าฮิบาริ

     

    หลังจากนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมง ฮิบาริก็จัดการเสร็จเรียบร้อย แล้วเดินเข้ามาฮิคารุ ก่อนจะก้มตัวลง ปรากฏว่าฮิคารุนั่งพิงกำแพงหลับไปซะแล้ว ฮิบาริมอง ก่อนจะลุกขึ้น เตรียมกลับบ้าน ตั้งใจว่าจะทิ้งคนตรงหน้าให้ลับรอพายุอยู่นี่แหล่ะ ถ้าบังเอิญไม่เหลือบสายตาไปเห็นสร้อยที่ฮิคารุห้อยซะก่อน

     

    เขาก้มตัวลง หยิบแหวนที่ห้อยคอขึ้นมาดู มัน เหมือนลายที่แหวนเมฆาของเขามากเลย แล้วในหัวก็หวนคิดเรื่องที่ได้ยินมาจากพวกสึนะ เมื่อเย็นนี้

     

    คู่หมั้น จะมีแหวนลายเหมือนกัน กับวองโกเล่ริงค์ของพวกเขา ฮิบาริยิ้มนิดหน่อย เขาอยากให้แน่ใจอะไรหน่อย จึงจัดการอุ้มฮิคารุขึ้นมา เดินกลับไปเอาข้าวเย็นที่ฝากเขาไว้แล้วกลับบ้าน

     

    หลังจากที่เขากลับมาที่บ้าน ก็จัดการทำแผลให้ฮิคารุ แล้วจัดการหาที่นอนให้เรียบร้อย ส่วนตัวเองก็จัดการเตรียมข้าวเย็น ระหว่างที่ทำ พายุก็ดูเหมือนจะเข้าซะแล้ว

     

    หลังจากที่เตรียมจนเกือบเสร็จแล้ว ก็รู้สึกเหมือนได้ยินคนในห้องตื่นแล้ว(บ้านฮิบาริ เป็นบ้านชั้นเดียว)

     

    คนในห้อง เมื่อเห็นฮิบาริ ก็ตกใจร้องถาม

     

    “ฮิบาริ เคียวยะ ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ ที่นี่ไหน แล้วทำไมชั้นมาอยู่ที่นี่เนี่ย”คนบนเตียงโวยวาย

     

    “ถามทีละคำถามได้มั้ย เจ้าสัตว์กินพืช”ฮิบาริถามอย่างหน่ายเขาคิดถูกรึเปล่า ที่เอาเจ้านี่กลับมาที่บ้าน ถ้าไม่ติดว่ามีคำถามอยากถาม ป่านนี้มันได้นอนอยู่ในเมืองแล้ว

     

    ฮิคารุ ตากระตุกนิดสัตว์กินพืช แล้วตัวเองไม่กินรึไง แต่ก็ต้องตัดใจถาม เพราะเขาอยากรู้มากกว่าว่าที่นี้ที่ไหน

     

    “ทำไมชั้นมาอยู่ที่นี่”

     

    “ชั้นพามา”

     

    “ที่นี่ที่ไหน”

     

    “บ้าน”ตอบกวนโอ้ยอย่างนี้ อยากถีบโว้ย

     

    “ทำไมนายมาอยู่นี่”

     

    “นี่บ้านชั้น”

     

    “อะไรนะ แล้วทำไมชั้นมาอยู่นี่”

     

    “ก็บอกอยู่หยกว่าชั้นพามา”

     

    “ไม่ใช่ ที่ชั้นถามน่ะ ทำไมนายถึงพาชั้นมานี่เล่า”ฮิคารุถามอย่างเหลืออด

     

    “ชั้นมีคำถามอยากถามนายหน่อย พอดีเลย นายตื่นแล้วก็ตอบคำถามชั้นมาซะ”ฮิบาริว่า พลางเดินเขามาใกล้ฮิคารุที่นอนอยู่บนเตียง แล้วนั่งลงบนเตียง

     

    “คำถามอะไร”

     

    “ชั้นถามนายก็ตอบ แค่นั้นแหละ”

     

    “ชั้นไม่ตอบเฟ้ย”ฮิคารุโวย แต่ก็ต้องเงียบปาก เมื่อฮิบาริชักทอนฟาออกมาข้างนึง ส่วนอีกมือนึงกดฮิคารุลงกับเตียง แล้วยันตัวไว้

     

    “ถ้าไม่ตอบ ก็เตรียมตัวตายได้เลย ตอนนี้ไม่มีใครช่วยนายได้หรอก แถมพายุก็เข้า ไม่มีใครได้ยินเสียงนายชัวร์” ฮิบาริตอบเย็น

     

    ทำเอาฮิคารุกลืนน้ำลายแทบไม่ลง แล้วเขาก็นึกได้ว่าวันนี้พายุเข้าจริงสงสัยคงต้องยอมไปก่อน ไม่งั้นเขาอาจตายได้ เพราะหมอนี่เก่ง

     

    “งั้น นายจะถามอะไรล่ะ”

     

    “แหวนที่นายห้อยอยู่ ไปเอามาจากไหน”

     

    “แหวนนี่น่ะเหรอ”ฮิคารุว่า พลางหยิบแหวนขึ้นมา

     

    “ใช่”

     

    “แหวนนี่ มีเด็กแปลกๆให้เรามา ใส่สูทมีกิ่งก่าตัวสีเขียวอยู่บนหัว ถามอะไรพวกเรา แล้วก็ยื่นแหวนให้”

     

    เด็ก สูท กิ่งก่า เจ้าหนูนั่นน่ะรึ เล่นอะไรอีกละเนี่ย

     

    “แค่นี้ใช่มั้ย ปล่อยชั้นซะที”ฮิคารุบ่น

     

    “งั้นขอคำถามสุดท้าย แหวนนั้น คงไม่ได้มีวงเดียวสินะ ทำไมนายเลือกแหวนวงนี้”

     

    “ก็ชั้นชอบลายนี้ที่สุดนี่นา ปล่อยได้แล้ว”

     

    ฮิบาริยิ้มนิดๆก่อนจะลุกออกมา แล้วเดินออกไปนอกห้อง

     

    “ออกมากินข้าวได้แล้ว พายุเข้าแบบนี้ ยังไงนายก็ต้องค้างที่นี้”

     

    “อะไรนะ”

     

    “พายุแรงขนาดนี้ ชั้นว่านายกลับไม่ถึงบ้านหรอก ยิ่งสภาพแบบนั้น”

     

    แล้วฮิบาริก็ออกจากห้อง ไปเตรียมซูชิให้เสร็จ ส่วนในหัว ก็คิดถึงเรื่องที่สึนะพูด เจ้าหมอนี่ คู่หมั้นเราสินะ หึหึ น่าแกล้งดีชะมัด ท่าทางพยศหน่อยๆแบบนี้ มันน่าปราบให้ลงมาอยู่ในมือเขาจริงๆ

     

    ฮิคารุ หลังจากที่ทำใจได้ ก็เดินออกจากห้องมา ฮิบาริที่ครัว

     

    “นี่ ขอยืมโทรศัพท์หน่อย จะบอกที่บ้าน”

     

    ฮิบาริ ชี้ไปที่หลังตู้ที่วางโทรศัพท์ ก่อนนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว รอฮิคารุ

     

    ฮิคารุ กดเบอร์โทร.ไปที่บ้าน คนที่รับสายคือ ยูกิ

     

    “ว่าไงฮิคารุ อยู่ไหนเนี่ย นาโอยะเป็นห่วงนายมากนะ กลัวนายหนีพวกนั้นไม่พ้นน่ะ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอก หนีพ้นแล้ว แค่จะโทรมาบอกว่า พายุมันเข้า กลับบ้านไม่ได้นะ”

     

    “แปลว่า ฮิคารุก็ไม่กลับบ้านสินะ”

     

    “หมายความว่าไง”

     

    “ก็ พี่ยูคิ โทรศัพท์มาซักพักล่ะ ว่าจะไม่กลับบ้านจะค้างบ้านเพื่อน ยังภาวนาอยู่เลยว่าจะโดนเขากดรึเปล่า”

     

    ฮิคารุได้ฟังก็สะดุ้ง แล้วหันไปมองฮิบาริที่นั่งมองเขาอยู่เช่นกัน

     

    “บ้าน่า ยูคิไม่มีทางโดนหรอกน่ะ แค่นี้นะยูกิ”

     

    “คร้าบคร้าบ นายก็อีกคน อย่าโดนเขากดล่ะ ว่าแต่อยู่บ้านใคร”ยูกิถามอีก

     

    “ฮิบาริ เคียวยะ”ว่าจบก็ตัดสายทันที แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะกับฮิบาริ

     

    “จบแล้วเหรอ”

     

    “เออ ว่าแต่นายชอบกินซูชิเหรอ”

     

    “ก็พอสมควรนะ ดีนะที่ชั้นซื้อมาเยอะ เลยแบ่งนายได้”

     

    ฮิบาริว่าจบก็ลงมือกินทันที ฮิคารุเลยนั่งกินด้วย

     

    ฮิบาริกินเสร็จก็นำกล่องทิ้งลงขยะไป ล้างมือ และก่อนที่เดินออกจากห้อง ฮิคารุก็ถาม

     

    “นี่ ฮิบาริ นายรู้ความหมายของแหวนนี่รึเปล่า”

     

    ฮิบาริ หันมา ยิ้มก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ฮิคารุที่ยังนั่งอยู่

     

    “รู้สิ แล้วก็พอจะรู้แล้วว่านี่ฝีมือใคร”

     

    “งั้นนายบอกชั้นหน่อยสิ”

     

    “ชั้นไม่บอกหรอก”

     

    “นี่นาย ชั้นตอบคำถามของนายไปแล้วนี่ คราวนี้นายก็ตอบชั้นบ้างสิ”ฮิคารุเริ่มโวย แล้วลุกขึ้นไปประจันหน้ากับฮิบาริ

     

    “หึ ชั้นจะตอบก็ได้ แต่..”

     

    “แต่อะไร”สีหน้าของฮิบาริทำเอาฮิคารุต้องถอยหลังไปเล็กน้อย

     

    “แต่นายต้องยอมเป็นของชั้นก่อน ชั้นไม่พูดอะไรพล่อยๆให้คนอื่นฟังหรอก ถ้าไม่ใช่คนของชั้น”ฮิบาริว่า พลางหอมแก้มฮิคารุ ทำเอาฮิคารุถอยหลังไปติดกำแพง มือจับอยู่ที่แก้ม หน้าร้อนพ่าว

     

    ฮิบาริยิ้ม ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

     

    “ชั้นขออาบน้ำก่อน นายทำอะไรฆ่าเวลาไปก็ได้ แต่อย่าคิดหนีจากที่นี้ล่ะ”แล้วฮิบาริก็เดินออกจากห้องไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×