คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : วันอาทิตย์
หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา
ดูเหมือน สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะสงบเหมือนเดิม
เมื่อไม่มีข่าวการทำร้ายเพื่อนนักเรียนอีก ในที่สุด ทสึกะอุจิ
ก็สั่งยกเลิกการเฝ้าติดตาม ทำให้บาคุโกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
อิซุคุในตอนนี้แผลหายสนิทหมดแล้ว
แต่ก็ยังไม่ได้เข้าเรียน ช่วงนี้ เลยมีครอบครัวบาคุโกมาช่วยลากไปนู่นไปนี่เป็นเพื่อน
เพื่อไม่ให้อยู่บ้านเบื่อแค่สองคน และถือเป็นการเปิดโลก แนะนำสิ่งต่าง ๆ
ให้อิซุคุด้วย
และเจ้าของคำสัญญาก็ทำอย่างที่พูด
ถึงจะมีเสียงโวยวายตามหลังอยู่ไม่ขาด แต่บาคุโก คัตสึกิ ก็มาคอยดูแล มิโดริยะ
อิซุคุ อย่างดี ราวกับภาพในวันวาน ตอนที่พวกเขายังเล่นอยู่ด้วยกัน มีความสุข
สนุกไปตามเรื่องราวของเด็ก และราวกับไม่เคยมีเรื่องบาดหมางระหว่างกันเลย
วันนี้ก็เหมือนกัน
วันอาทิตย์ แม่ลูกบาคุโกก็เดินทางมาที่บ้านของมิโดริยะ โดยมีเป้าประสงค์คือ
ไปช้อบปิ้ของลดราคา โดยกะเอาลูกชายไปถือของ
ซึ่งก็ไม่มีใครปฎิเสธ(คนนึงตามใจแม่
ส่วนอีกคนไม่กล้าหือ เพราะมีการแผ่รังสีอำมหิตออกมาด้วย)
เมื่อทุกอย่างโอเคตามที่คิด
มหกรรมช้อบปิ้งก็เริ่มขึ้น ตั้งแต่ช่วงสาย จนตอนนี้บ่ายกว่าแล้ว
“วะ
ไหวมั้ยครับ บาคุโกคุง”อิซุคุถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นอาการอีกคน
“เออ”อีกคนตอบห้วนๆ
แต่ข้างๆกัน มีสารพัดถุงและกล่องอีกจำนวนนึงที่เพิ่งวางลงกับพื้น
พร้อมนั่งหอบน้อยๆ อยู่หน้าร้านถัดไปที่พวกแม่ๆของเขาเข้าไปดูของ
......จะซื้ออะไรนักหนาฟะ...ชาตินี้ไม่เคยซื้อของรึไง....เจ้าตัวกำลังบ่นแม่ตัวเองที่ซื้อของแล้วก็โยนมาให้เขาถือทั้งหมด
ส่วนทางฝั่งเดกุ มีถุงใบเล็กใบนึง กับห่อใส่หนังสือ ที่เจ้าตัวเพิ่งซื้อมา
สรุป
เขา : 18 ชิ้น / เดกุ :
2 ชิ้น
....มันต่างกันไปโว้ย....
หลังจากนั่งหอบพร้อมอาการเหงื่อตก
อิซุคุที่กลับมาจากในร้าน หลังน้าอิงโกะกวักมือเรียกเมื่อกี้ เดินออกจากร้านมา
“คุณแม่กับคุณน้าบอกให้เรา
ไปหาที่เย็นๆนั่งดื่มชารอก่อนก็ได้ หาร้านได้แล้วค่อยโทรมาบอก”
“เออ
ดี นึกว่าจะปล่อยให้ตายซะแล้ว”เมื่อได้ฟัง ก็เริ่มหิ้วของขึ้นมาอีกรอบ
พลางมองหาร้านที่พอจะหนีไปนั่งพักได้ ในตอนที่จะหยิบถุง
อีกมือนึงก็มาตัดหน้าเขาไปก่อน
“อันนี้ผมช่วยถือนะ”อิซุคุยิ้มน้อยๆให้
ตอนนี้คนผมเขียวเริ่มยิ้มขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มันก็ไม่ได้สดใสเท่าเมื่อก่อน
แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี
“ชั้นถือเองได้”แต่คนผมสีฟางกลับไม่ยอมซะนี่
“เอาน่า
แค่นี้ไม่หนักหรอก”ว่าจบก็รีบเดินชิ่งออกจากตรงนั้นทันที โดยไม่ฟังคำโต้แย้ง ทำเอาคนโดนทิ้ง
คิ้วกระตุกขึ้นมานิดๆ ไอ้ยิ้มบ้างมันก็ดี แต่ไอ้อาการเมินเขา แล้วหนีดื้อๆเนี่ย
ไม่ต้องเรียนรู้มาจากแม่เขามากก็ได้นะ
ในระหว่างที่กำลังเดินหาร้าน
ก็มีเสียงเรียกมาจากข้างหลัง
“บาคุโก”
เจ้าของชื่อหันไปมองเมื่อมีคนมาเกาะหลัง
ก็เจอบรรดาเพื่อนห้อง 1 – A ที่แต่ละคนมีถุงกันมาคนละถุงสองถุง
อิซุคุก็หยุดเดิน
เมื่ออีกคนหยุดเดินแล้ววางของไว้ตรงริมทาง
“ทำไมมาอยู่ที่นี่กันฟะ”เขาถามคนที่มาเกาะหลังในทันที
ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อน อาจจะมีระเบิดแถมสักลูกสองลูก
“อ้าว
ก็บอกแล้วนี่หว่า ว่าวันนี้จะมาซื้อของเตรียมไว้สำหรับเข้าค่ายในอีก 2
อาทิตย์ข้างหน้าไง”คิริชิมะตอบ
“เห็นนายบอกขอผ่าน
ไอ้เรารึก็นึกว่ามีธุระสำคัญ ที่แท้ก็มาเดทนี่เอง”คามินาริที่เดินมาสมทบพูดบ้าง
“ไม่ได้มาเดทโว้ย
มาเป็นเบ้ให้ยัยป้าที่บ้านต่างหาก ไม่เห็นของเรอะ”เจ้าตัวพูด
พร้อมกับชี้มือไปข้างหลัง
“อืมม
ปริมาณน่ากลัวแหะ สาธุ ถ้ามีแฟน
อย่าให้แฟนบ้าช้อปปิ้งอย่างนี้เลย”เซโร่มองไปทางที่ชี้ ก่อนจะสะดุด
“มากับเพื่อนเหรอ
หรือแฟน”คามินาริถามพร้อมรอยยิ้ม พอได้ยินคำว่าแฟนเท่านั้นแหละ สาวๆที่มาด้วย
ก็พุ่งตัวมาทันที
“ไหนๆ
ไหนแฟนบาคุโกคุงเหรอ”อุรารากะมองหาเป้าหมายทันที
“คนอย่างนายมีแฟนได้ด้วยเหรอ”จิโร่พูดพร้อมมองหน้า
ทำเอาบาคุโกจะพุ่งใส่ ถ้าไม่ติดว่าคามินาริจับไว้ก่อน
“ไม่ใช่โว้ย
จะแฟน จะเดท มันมากับผู้ชายได้เรอะ”มือระเบิด โวยวายออกมา
แต่ยังไม่ทันเถียงอะไรต่อ ก็มีคนแทรก
“ยุคสมัยแบบนี้แล้ว
จะมีแฟนเป็นผู้ชายก็ไม่แปลกนี่นา”อาชิโดะพูบ้าง
“ช่ายๆ
ถ้าน่ารัก ชั้นก็ยอมรับได้หมดแหละ เคโระ”สึยุบอก โดยมีสาวๆที่เหลือ
พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ทำเอาหนุ่มๆ เริ่มถอยหลัง หน้าซีดกันไป
.....นี่พวกตูไม่ได้โดนยัยพวกนี้จับคู่กันให้ใช่มั้ย...สาววายยยกกลุ่มขนาดนี้....
ด้วยเหตุนั้น
ทำให้บาคุโกฝ่าวงล้อมไปทะเลาะกับสาวๆทันที เพื่อแก้ความเข้าใจผิด
โดยมีคนช่วยห้ามปรามบ้าง
อิซุคุมองเห็นการณ์ตรงหน้าอย่างงงๆ
เพื่อนกัน....สินะ
“เอ่อ
ขอโทษนะที่วุ่นวายไปหน่อย”เสียงที่ดังขึ้นข้างๆ ทำให้อิซุคุหันไปมอง
“ไม่เป็นไรครับ
เป็น...เพื่อนของบาคุโกคุงหรือครับ”อิซุคุตอบร่างสูงผมแดงแซมสีขาวไป
พร้อมมองแผลบนหน้าไปด้วย
“อือ
เพื่อนร่วมห้องน่ะ กลัวแผลนี่เหรอ”คนตรงหน้าตอบรับ พร้อมเอาแตะที่แผล
“ปะ
เปล่าครับ ขอโทษนะครับที่เสียมารยาทจ้อง”อิซุคุรีบก้มหัวข้อโทษ
“ไม่เป็นไรชั้นชินแล้ว
แต่ไม่ค่อยเห็นหมอนั่นมีเพื่อนคนอื่นนอกจากคนในห้องเท่าไร
เพราะปกติเห็นทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว”
“.....”...ก็น่าจะเป็นงั้นแหละนะ
ถ้าดูจากนิสัย
“โทโดโรกิ
โชโตะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“อะ
เช่นกันครับ มิโดริยะ อิซุคุครับ” หลังจากที่แนะนำตัวเสร็จ
อิซุคุก็หันไปมองคัตสึกิที่ยังเปิดศึกเถียงแบบไม่ลดราวาศอก
“สงสัยคงอีกนานแน่
ถ้าไง รบกวนโทโดโรกิคุงช่วยบอกบาคุโกคุงหน่อยมั้ยครับ
ว่าผมจะไปรอที่ร้านคาเฟ่ตรงนั้น”อิซุคุพูดพร้อมกับชี้ไปที่ร้านที่อยู่ไม่ไกล
“ได้สิ”อีกคนตอบมาสั้นๆ
“งั้นรบกวนหน่อยนะครับ ผมขอตัวก่อน”แล้วอิซุคุก็วิ่งออกมา
ตรงไปที่ร้านนั่น เลือกร้านตรงริมกระจก
หลังจากสั่งเครื่องดื่ม ก็มองไปกลุ่มคนที่ยังคงออกกันอยู่ที่เดิม
นัยน์ตาสีมรกต
มองไปข้างนอกกระจกด้วยสีหน้าเรียบ ดวงตาไร้แวว มืดมนกว่าปกติ
“ท่าทางสนุกจังนะ
ต่างกับตอนที่อยู่กับผมเลย ไม่ว่าจะตอนนี้หรือเมื่อก่อน”
“ไม่ว่าจะทำยังไง
ผมก็ไม่มีทางที่จะยืนอยู่บนเวทีเดียวกับคุณสินะ ”
“เห็นผมอ่อนแอกว่าสินะ
ถึงได้กล้าพูดที่จะปกป้องผม”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ผมคงยินดี เพราะนั่นเป็นคำที่ผมอยากได้จากคุณมากที่สุด แต่ตตอนมันไม่ใช่แล้ว”
“ผมจะไปยิ่งกว่านั้น
สูงกว่าที่คุณยืนอยู่”
“จะทำลายทุกอย่างที่คุณมี”
“จะแก้แค้นกับทุกสิ่งที่คุณทำให้กับผม
ทุกอย่างเลย”
“ตอนนี้ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้วล่ะ
คัตจัง”
ความคิดเห็น