ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [ Boku No Hero ] ผมมาเอาคืนครับ

    ลำดับตอนที่ #17 : ออกจากโรงพยาบาล 2

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 61




    “เจ็บแผลเหรอ”คัตสึกิถาม เมื่อเห็นว่า พอขยับไปสักหน่อย อีกคนคนก็ชะงัก

     

    “เปล่าครับ แต่เหมือนผ้าพันแผลจะตึงๆ เลยก้มมัดเชือกรองเท้าไม่ค่อยสะดวก”อิซุคุตอบพร้อมกับยืดตัวใหม่ หลังจากก้มตัวไม่สำเร็จ



     

    ก่อนจะหายใจเข้า แล้วก้มใหม่ แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเจอคนหัวเม่น นั่งลงตรงหน้าแล้วก้มผูกเชือกรองเท้าให้

     



    “อะ บาคุโกคุง เดี๋ยวผมทำเอง”

     

    “นั่งเฉยๆ”คำพูดที่ได้ยินทำคนฟังเงียบ แล้วนั่งมองคนตรงหน้าไป

     




    “นี่ อัตลักษณ์ของบาคุโกคุงคืออะไรเหรอ”

     

    “......”


     

    “เอ่อ ขอโทษนะไม่ต้องตอบก็ได้”เสียงนั่นพูดต่อ เมื่อเขาไม่ยอมตอบอะไรออกไป

     

    “.....”

     

    “.......”

     

    “ระเบิด”เขาตอบไปแค่นั้น พลางนึกถึงตอนเด็กๆ ตอนที่อัตลักษณ์เพิ่งตื่น เจ้านั่นจะทำหน้าชื่นชมเขามั้ยนะ




     

    “โห อย่างบาคุโกคุง ต้องแข็งแกร่งมากแน่เลย แถมเห็นใส่เครื่องแบบโรงเรียนยูเอย์ด้วย ต้องเก่งมากแน่”บาคุโกเงยหน้ามอง เมื่อผูกเชือกรองเท้าให้เสร็จ ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางหน้าต่าง

     


    “ขอบคุณนะ”อิซุคุมองงงๆ

     

    “เออ”คัตสึกิหันหลังให้คนในห้อง

     



    ที่ตอบเมื่อกี้ ถ้าบอกไม่หวังเลยก็คงโกหก เขาก็แค่อยากเห็นเดกุแบบสมัยก่อนที่มองด้วยสายตาที่ชื่นชมเขา แววตาเป็นประกาย แต่เปล่าเลย ปฎิกิริยาเมื่อกี้ แค่คำชมทั่วไป ในแววตานั้นก็เรียบเฉย ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

     

    เขาได้ยินหมอบอกว่าความทรงจำบางอย่างร่างกายและหัวใจก็สามารถจำให้ได้ แต่นี่มันไม่มีอะไรเหมือนเมื่อก่อน ท่าทีแบบนั้นมันแปลว่าอะไร การที่เป็นแบบนี้ แปลว่าในช่วงที่เดกุหายไป บุคลิกนี้ขึ้นมาแทนที่เหรอ ในตอนนี้ นั่นคือตัวตนของนายเหรอ


     

    และก่อนที่จะจมในห้วงความคิดยาวไปกว่านี้ คนอื่นๆ ก็กลับมาพอดี





     

    “ไปกันเถอะจ๊ะ”แล้วทุกคนก็ออกจากห้องไป พร้อมกับคำอวยพร ขอให้หายเร็วๆจากเหล่าพยาบาล

     

    “อิซุคุคุง ยังต้องกินยา งั้นเราไปกินข้าวในห้างกันเถอะ”มิซึกิเสนอขึ้นมาเมื่อยู่บนรถ

     

    “นั่นสินะ เลี้ยงฉลองเลยล่ะกันนะ”คุณพ่อที่กำลังขับรถก็เห็นด้วย อิงโกะก็ไม่ได้ปฎิเสธอะไร เลยตรงไปห้างตรงใจกลางเมืองแทนที่จะกลับบ้าน


     





    ในระหว่างที่เดินๆเลือกร้าน อิซุคุก็มองไปรอบๆอย่างสนใจ ก็คนที่ผ่านไปมา มีแต่แปลกๆทั้งนั้น

     

    “สนใจเหรอ”บาคุโกถาม เมื่อเห็นอิซุคุจ้องไปที่หนุ่มแปลกๆที่มีหินเกาะอยู่ตามตัว

     

    “ครับ จะว่าไงดีล่ะ”อิซุคุมองไปทางที่พวกผู้ใหญ่กำลังเลือกดูเมนูแนะนำร้านอยู่ เขาสองคนบอกอะไรก็ได้ เลยมาเดินตามอยู่ข้างหลัง


     

    “หือ...”

     

    “อีกเรื่องนึง ที่ผมจำได้ เป็นหน้าของหมอสักคน ที่บอกกับผมว่า ผมเป็นพวกไร้อัตลักษณ์น่ะครับ ก็เลยว่ามันน่าสนใจ น่าอิจฉาจัง”แววตาที่ไม่ค่อยแสดงอะไรอยู่แล้ว ก็หม่นแสงลงไปอีก เมื่อพูดออกมา

     


    “ที่คุณเรียกผมว่าเดกุ(ไร้ค่า) ผมว่ามันก็จริงนะ คงไม่มีสนใจรึดูแลผมหรอก นอกจากแม่”



     

    และก่อนที่คนฟังจะได้พูดอะไรต่อ แม่ของทั้งคู่ก็เรียกพวกเขาซะก่อน เลยทำให้บทสนทนาจบลงแค่นั้น




     

    ร้านอาหารที่เลือกก็เป็นร้านปกติ งานนี้ครอบครัวบาคุโกเป็นเจ้าภาพ เมื่อได้ยินดังนั้น คัตสึกิก็แสยะยิ้ม แล้วสั่งมาแต่ของแพง พร้อมอ้างทิ้งท้ายว่า ให้เดกุชิม กินของดีๆ จะได้แข็งแรงไวๆ

     

    เลยไม่มีใครว่าอะไรอีก(แผนสูงนี่นา)






     

    หลังจากกินเสร็จ ก็ตกลงกลับบ้านเลยดีกว่า เพื่อให้อิซุคุได้พักผ่อน ในระหว่างที่จ่ายเงิน พวกเขาก็รอคัตสึกิที่ไปห้องน้ำอยู่

     

    “นานไปมั้ย หลงทางรึไง คนก็ไม่เยอะนี่”คนแม่เริ่มบ่น เมื่อเห็นว่าคนลูกหายไปนานเกินไปแล้ว (20 นาทีได้)

     



    เมื่อคัตสึกิกลับมา มิซึกิก็เตรียมตั้งท่าจะบ่นในทันที แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นของในมือลูกชาย

     

    “อิซุคุ”เจ้าของชื่อ หันกลับมาเมื่อโดนเรียก ก่อนจะเจอเป็นดอกไม้ช่อขนาดกลางเป็นช่อดอกกุหลาบสีเหลืองและดอกไลแซนทัส

     



    “นี่คือ..”

     

    “ดีใจด้วยที่ออกจากรพ.”มิซึกิพูดแทรกขึ้นมา เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าลูกชายตัวเองไม่มีทางพูดแน่

     

    “ขอบคุณ”อิซุคุรับมา พลางจ้องมองช่อดอกไม้ในมือ




     

    และเมื่อมาครบคน ทุกคนก็เดินออกจากร้าน แต่ในขณะที่อิซุคุจะเดินผ่านคัตสึกิ ก็ได้ยินเสียงพูดเบาๆ

     

    “แกไม่ได้ไร้ค่า แต่เป็นสิ่งสำคัญของชั้น ชั้นจะปกป้องแกเอง”

     



    คนฟังชะงักไปทันที แต่ก็เพียงชั่วครู ก่อนจะวิ่งตามหลังไปแล้วเรียก

     

    “บาคุโกคุง”


     

    ไม่มีเสียงตอบรับ แต่อีกฝ่ายแค่หันหน้ามามอง และทั้งคู่ก็ไม่ได้หยุดเดิน



     

    อิซุคุดึงดอกกุหลาบเหลืองมาดอกหนึ่ง แล้วส่งให้คัตสึกิ ซึ่งก็เรียกความสงสัยเป็นอย่างดี

     

    “เอ่อ แทนคำขอบคุณที่ช่วยผมไว้ตั้งแต่แรกน่ะ”คนยื่นให้ยิ้มเล็กๆ

     


    คนหัวเม่นมองอย่างชั่งใจ แต่ก็ยอมรับมา พร้อมกับเร่งฝีเท้าขึ้น เมื่อพ่อกับแม่เรียก เพราะพวกเขาเดินทิ้งช่วงมาพอควร

     

    อิซุคุมองตามไป ก่อนที่จะเร่งฝีเท้า ก็ดึงดอกไลเซนทัสขึ้นมาอีกดอก หลับตา สูดกลิ่นหอม และจูบเบาๆ

     




    ก่อนที่จะลืมตาสีมรกตที่ไร้แววความรู้สึกใดๆ และดอกไม้ก็ขาดออกเป็นชิ้นๆ ราวกับถูกตัดด้วยกรรไกรหรือมีดคมกริบ กลีบดอกสีขาวลอยตกลงช้าๆกับพื้น และออกเดินตามให้ทันโดยไม่สนใจเศษซากดอกไม้ที่อยู่ที่พื้นเลยสักนิด

     





     

     

    *ดอกกุหลาบเหลือง (Yellow Rose) เป็นตัวแทนมิตรภาพ สื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ ต้องการให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขสดชื่น



    **ดอกไลเซนทัส(Lisianthus) เป็นดอกไม้ขนาดเล็ก คล้ายดอกกุหลาบ แต่จะออกเป็นช่อ มีกลีบบางอ่อนดูนุ่มนวล ให้ความหมายว่า การเอาใจใส่ต่อคนๆนั้นหรือมิตรภาพที่ยั่งยืนหรือความทรงจำที่ดี





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×