คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ออกจากโรงพยาบาล
ช่วงสาย
เมื่อเตรียมตัวเสร็จทุกอย่าง ครอบครัวบาคุโกก็ไป รพ.เพื่อรับอิซุคุกลับบ้าน
ที่ออกช่วงสาย
เพราะช่วงเช้ามีศึกแม่ลูกทะเลาะกันตามเคย โดยหัวข้อคราวนี้คือ โรงเรียน
คัตสึกิบอกจะโดดเรียนไปรับอิซุคุด้วย
ทำให้คุณแม่เริ่มหัวเสียนิดๆ ถึงตัวมิซึกิจะรู้ว่าลูกชายตนนั้น
ค่อนข้างเก่งแต่ดูเหมือนว่า ช่วงนี้จะหาเรื่องโดดเรียนบ่อยเกิน ไปเฝ้าอิซุคุก็จริง
แต่ก็ทำหน้าเซ็งบอกบุญไม่รับไปด้วย โดยเฉพาะหลังผลตรวจออกมา
แต่สุดท้าย
ลูกชายหัวเม่นก็ชนะ เพราะคุณพ่อ ช่วยพูดให้
เมื่อมาถึงรพ.
ก็เจอตำรวจหลายคนอยู่หน้าห้อง พร้อมกับทสึกะอุจิที่เดินออกมาจากห้องของอิซุคุพอดี
“สวัสดีครับ”เป็นนายตำรวจที่ทักก่อน
“สวัสดีค่ะ
มาเช้าจังนะคะ”มิซึกิตอบกลับ
“ครับ
พอดี มีกำหนดการอื่นแทรกเข้ามาหน่อย
ผมเลยต้องมารบกวนขอให้มิโดริยะคุงให้การแต่เช้าน่ะครับ”ทสึกะอุจิยิ้มน้อยๆ
“แปลว่าเสร็จแล้วเหรอครับ”คุณพ่อเป็นฝ่ายถามบ้าง
“ครับ”
“ดูท่าคงไม่ได้อะไรล่ะสิ”คนลูกพูดแทรกกลางวง
“คัตสึกิ”ทั้งคนพ่อและคนแม่
เรียกชื่อลูกชายผมสีฟางทันที
“ฮะๆ
ก็ตามนั้นแหละครับ มิโดริยะคุงนึกอะไรไม่ออกเลย
จำไม่ได้ด้วยว่าตัวเองไปอยู่ที่ตรอกนั้นได้ยังไงด้วย”ทสึกะอุจิว่า
“นั่นน่ะ แปลว่าถ้าคัตสึกิคุงไม่ไปเจอซะก่อน ตอนนี้ชั้นก็ยังคงไม่ได้เจออิซุคุสินะ”เสียงที่มาจากด้านหลัง ทำเอาทุกคนหันไปมอง
“อิงโกะ!!”มิซึกิเรียกก่อนจะรีบไปตรงไปหาเพื่อนสาวคนสนิททันที
“ขอบใจนะ
คัตสึกิคุงที่หาอิซุคุเจอ ขอบใจจริงๆ”อิงโกะเดินเข้ามาจับมือลูกชายของเพื่อนไว้
“เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกรับ
ถ้าอะไรเสร็จหมดแล้ว ก็กลับบ้านกันเถอะครับ”บาคุโกรีบบอก
“นั่นสิครับ
อยู่แต่รพ.กันคงน่าเบื่อแย่ ยังไงผมก็จะส่งตำรวจนอกเครื่องแบบเฝ้าดูความปลอดภัยอีก
ไม่ต้องห่วงนะครับ”ทสึกะอุจิยิ้มให้
“ขอบคุณมากนะคะ”อิงโกะก้มหัวขอบคุณตำรวจตรงหน้า
“ไม่เป็นไรครับ
หน้าที่ของผมอยู่แล้ว แล้วก็ถ้ามิโดริยะคุงนึกอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ
ถ้างั้นผมขอตัวก่อน”แล้วตำรวจ 3 – 4 คนก็เดินออกไปพร้อมกับทสึกะอุจิ
แต่ก็มียืนอยู่หน้าห้องอีก 4 คน
สร้างความเซ็งให้กับบาคุโกคนลูกเป็นอย่างดี
ของเขากับเดกุ คนละ 2 คน น่ารำคาญ เมื่อไรจะเลิกเฝ้าฟะ
เมื่อคนแม่เห็นหน้าคนลูกที่ไม่สบอารมณ์เท่าไร
แถมดูท่าพร้อมจะเหวี่ยงขนาดนี้ จึงต้องตบเรียกสติทันที
“โอ้ย!! นี่ยัยป้า
มันเจ็บนะ”ก่อนจะเหวี่ยงตำรวจ เหวี่ยงแม่ตัวเองก่อนจะดีกว่ามั้ย
“เพราะเจ็บไง
ชั้นถึงทำ บอกไว้ก่อนนะ ถ้าแกก่อเรื่อง ชั้นจะบอกให้พ่อแกขับรถไปโรงเรียน
แล้วเอาแกไปโยนในโรงเรียน ถ้าออกไปตอนนี้ยังไงก็ทันคาบบ่าย”
ผู้ชมสองคน
ถอยหลังทันทีเพื่อความปลอดภัย และอีกสี่คนที่ถอนใจอย่างปลงๆ(เห็นจนเริ่มชิน)
“ยัยป้..”
“แล้วก็
วันนี้เป็นฉลองออกจากโรงพยาบาลของอิซุคุคุง ห้ามแกรังแกเขาเด็ดขาด
เข้าใจมั้ย”มิซึกิยื่นคำขาด
“รู้แล้วน่า”
แล้วทุกคนก็เข้าห้องพักผู้ป่วยไป
“อิซุคุ
ทุกคนมารับแล้วน้า เตรียมกลับกันเถอะจ๊ะ”อิงโกะที่เดินเข้ามาคนแรกบอกด้วยเสียงสดใส
“ครับ
คุณแม่”อิซุคุที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างหันมามอง
แล้วตอบด้วยใบหน้าเรียบๆปราศจากรอยยิ้ม
“เดี๋ยวลูกเปลี่ยนชุดเลยนะ
พวกแม่จะเก็บของก่อน”อิงโกะรื้อชุดในกระเป๋า ส่งให้อิซุคุ แล้วดันให้ไปเปลี่ยน
“หมอมาแล้วเหรอ”คราวนี้คนพ่อมีโอกาสได้ถาม
หลังจากเงียบมานาน
“ค่ะ
มาตรวจก่อนที่พวกคุณทสึกะอุจิจะมา บอกไม่มีปัญหา ถ้าพูดคุยเสร็จก็กลับได้เลย”
“แล้วแผลล่ะครับ”คนลูกถามต่อ
“อาทิตย์หน้าค่อยมาตรวจสภาพแผลที่หัวอีกรอบน่ะจ๊ะ”
เนื่องจากเตรียมเก็บของไว้อยู่แล้ว
เวลาไม่กี่นาทีก็เก็บเสร็จ
“งั้นผมขนของพวกนี้ไปใส่รถก่อนนะ”สามีภรรยาบาคุโกช่วยกันขนของออกไปก่อน
“งั้นชั้นไปขอบคุณพยาบาลกับตรวจเช็ครอบสุดท้ายนะ
คัตสึกิคุง ถ้าอิซุคุออกมาแล้ว
บอกเขาด้วยนะว่าน้าวางถุงเท้ากับรองเท้าไว้ตรงโซฟา”อิงโกะหันมาบอกกับคนผมสีฟางก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
คัตสึกิมองไปตรงที่น้าอิงโกะว่า
ก็เจอรองเท้าสีแดง แบบเดียวกับที่อิซุคุเคยใส่ในสมัยก่อนเด๊ะ
ก่อนจะมองไปทางประตูห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าอีกคน หายไปนานเกินไปแล้ว
แค่เปลี่ยนชุดเอง หรือจะล้ม คิดแค่นั้นก็เดินไปที่ประตูห้องน้ำ
ในระหว่างที่กำลังจะเคาะประตูเพื่อเรียก
คนผมเขียวก็เปิดประตูออกมาก่อน
“อะ
เอ่อ..มีอะไรเหรอครับ”อิซุคุถาม เมื่อเจอคนตรงหน้ายืนอยู่
“เปล่านิ”บาคุโกปฎิเสธ
แล้วคว้าชุดคนป่วยมาถือพับ แล้วชี้ไปที่โซฟา
“รองเท้าอยู่นั่น
ใส่ซะ เดี๋ยวคนอื่นก็มาแล้ว”
“ครับ”รับคำ
แล้วก็เดินไปที่โซฟา
คัตสึกิพับชุดวางบนเตียง
ก่อนจะเดินสำรวจ ตรวจเช็คของในห้องเป็นรอบสุดท้าย จึงเดินมาที่โซฟา
เพื่อรอพวกแม่ๆกลับมา ก่อนจะสังเกตเห็นคนบนโซฟา
“เจ็บแผลเหรอ”คัตสึกิถาม
เมื่อเห็นว่า พอขยับไปสักหน่อย อีกคนคนก็ชะงัก
“เปล่าครับ
แต่เหมือนผ้าพันแผลจะตึงๆ
เลยก้มมัดเชือกรองเท้าไม่สะดวก”อิซุคุตอบพร้อมกับยืดตัวใหม่
หลังจากก้มตัวไม่สำเร็จ
ก่อนจะหายใจเข้า แล้วก้มใหม่
แต่ก็ต้องชะงัก
เมื่อเจอคนหัวเม่น
นั่งลงตรงหน้าแล้วก้มผูกเชือกรองเท้าให้
ความคิดเห็น