ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...ใจถึง......
โชคชะตากำลังเล่นตลกับเขาหรือเธอ เมื่อต้องมาเจอกับหมอปากร้ายแต่หัวใจสะออน
ผู้เข้าชมรวม
216
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...ใจถึง......
บทนำ
ร่างสูงสมส่วนเดินมองไปข้างหน้าโดยไม่ทันระวัง ก็ปะทะกับร่างเล็กที่เดินเข้ามาหา ดีที่คนร่างสูงคว้าคนร่างเล็กไว้ทันไม่งั้นคงลงไปนอนกองกับพื้น
“คุณก็รู้ว่าตัวเองสายตาสั้น แล้วไม่สั้นธรรมดานะคุณสั้นตั้ง 800 ไม่ใช่ซิตอนนี้ 1200 คุณยังจะกล้าเดินไปไหนมาไหนอีก”
คนตัวเล็กต่อว่าทันทีที่ปรับสมดุลตัวเองได้
“อ้าว ก็ไม่ได้ตาบอดนี่ นั่งรอเฉย ๆ มันกะเบื่อ เลยขอยืดเส้นยืดสายบ้าง”
“คุณนี่ เป็นประเภทฮาร์ดคอร์จริง ๆ นะ”
ใบหน้าคมยิ้มรับ ดวงหน้าพราวด้วยรอยยิ้ม
“กะมั่นใจอยู่”
“ไม่ได้ชม คุณน่ะรู้ไหมว่าตาคุณน่ะแย่แล้วนะ”
รอยยิ้มจางลงอย่างกะทันหัน
“เป็นมากเลยหรอ หมอ แต่ตอนนั้นกะยังไม่เป็นไรมากนี่”
ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองคนพูดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม น้ำเสียงเรียบแต่บ่งถึงความขัดใจ
“คุณกินยาไหมล่ะ”
ร่างสูงส่ายหน้า
“ไม่ค่อยได้กิน ไม่ค่อยมีเวลา ลืมอ่ะ”
คุณหมอทำหน้าเซ็งก่อนจะยิงคำถามต่อไป
“หยอดตาวันละกี่ครั้ง”
คราวนี้ร่างสูงถอนหายใจ
“เช้ากะหยอดไม่ทัน กลางวันกะใส่คอนแทค ได้หยอดแต่ตอนเย็น”
“ช่างเป็นผู้ป่วยที่ดีเหลือเกินนะ เป็นห่วงตัวเองม๊ากมาก”
ร่างสูงอมยิ้มแล้วก็หัวเราะ
“มันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วนี่หมอ”
คนร่างเล็กค้อนให้หน่อยหนึ่งก่อนจะยืนขึ้นแล้วยื่นอะไรบางอย่างให้
“ไปรับยาที่ห้องยา”
“อ้าว ไม่มีอภิสิทธิ์เหรอ นึกว่าจะให้พยาบาลเอามาให้”
“ฝันไปเปล่า”
“โฮ เอ่อนะ คบกันมาตั้งนานไม่มีบริการกันมั่งเลย”
ท่ามกลางการต่อล้อต่อเถียงของคนสองคนได้สร้างการจิ้นให้กับคุณพยาบาลทั้งสองไปแล้วอย่างช่วยไม่ได้
ร่างสูงพาตัวเองเดินจากไป เวลาเดินเขาจะเดินตัวตรงสง่าใบหน้ามองตรงไปข้างหน้ารูปร่างไม่สูงเกินไปไม่ผอมไม่อ้วน เขาใส่เสื้อแจ็คแก็ตสี่น้ำตาลอย่างนักแข่งรถชอบใส่แต่ไม่ใช่หนัง เสื้อเชิ้ตขาวกางเกงยืนส์ขายาวรองเท้าผ้าใบ ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน นัยต์ตาสีน้ำตาล คิ้วเข้มโดยไม่ต้องทำสามมิติ จมูกไม่เรียกว่าโด่งรั้นแต่ก็สมกับใบหน้าทำให้เวลามองแล้วดูเพลินตา คนผ่านไปมาอดมองไม่ได้ ร่างสูงพาตัวเองมานั่งรอรับยาที่ห้องรับยาแล้ว คนตัวเล็กเดินตามลงมาอย่างรีบร้อนเพราะเขาพึ่งนึกได้ว่า
“วันนี้ คุณขี่มอไซด์มาใช่ไหม”
คนฟังมองหน้าคนถามอย่างงง ๆ
“อีม แล้วไมอ่ะ”
“แล้วจะขี่กลับได้ไง”
คนฟังทำหน้ายุ่งหน่อย ๆ
“ก็...ธรรมดาก็ขี่ได้นะ”
“นี่ คุณ” คำว่า นี่คุณ ของคุณหมอเรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้มากที่เดียว
ร่างสูงทำปากจุ๊ๆ
“เบา ๆ ดิ หมอ อายเขา”
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวไปส่งแล้วกัน”
“โหย ไม่ต้องหรอกขี่เรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึง”
“แต่....”
“งานคุณยุ่งอยู่ไม่ใช่หรอ กลับไปทำต่อเหอะ”
เมื่อเห็นว่าร่างเล็กยังไม่ขยับไปไหน คนร่างสูงจึงทำมือบอกให้กลับไปได้แล้ว
คนร่างเล็กจึงจำยอมกลับไปทำงานต่อทั้งที่ยังขัดใจอยู่
ร่างสูงส่ายหัวไปมาแล้วอดอมยิ้มขำไม่ได้ มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันตั้งตัว คน คนนี้ทำให้เขายิ้มได้มากกกว่าที่เคยและทำให้เขามีพลังจะสร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่ไม่คิดไม่อยากจะทำอะไรมานานแสนนาน เขาปล่อยชีวิตไปวันๆ ใช้ชีวิตแบบนั้นมากี่ปีแล้วนะ ไม่อยากเดินห้าง ไม่อยากไปไหน ไม่อยากฟังเพลง ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น แม้กระทั่งการแต่งตัว เขาก็แต่งตัวแบบโทรม ๆ
แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับเขา ระหว่างสอนเด็กเล่นวอลเล่ย์อยู่ ด้วยพลังเสริฟอันมหาศาลจากการเสริฟของน้องฟลุ้ค เฟลล์ผ่านสนามมากระแทกตาเข้าไปเต็ม ๆ ในใจเขาคิดอย่างเดียว ซวยและ กูจะตาบอดไหมนี่ เจ็บชิบเป็ง เขารีบพาตัวเองออกจากตรงนั้นและตรงไปโรงพยาบาลทันที
“หมอ ตรวจดูแล้วนะคะ ตาคุณไม่ได้เป็นอะไรมากยังไงซะพรุ่งนี้ก็มาตรวจกับหมอตาอีกรอบนะคะ”
ร่างสูงพยักหน้ารับ
วันรุ่งขึ้น เขาก็เตรียมตัวไปหาหมอตาอย่างดี พี่แกนัดแปดโมง เขาไปถึงเกือบเก้าโมงเช้า ถึงเวลาตรวจ ก็เจอหน้าหมอ (เพราะใส่คอนแทคเลนส์ไว้ข้างซ้าย) ก็จำได้ว่าเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อนตรวจอยู่ ครั้งเดียวและไม่มาอีกเลยสาเหตุ แม่งหมอหรือ(อะไร)โหดโพด ไม่อยากตรวจและ เลยปล่อยให้สายตาสั้นลง ๆ และใส่คอนแทคเลนส์ตั้งแต่อายุ 17 แต่ก็ขอบอกว่า เสป๊กอ่ะ ชอบคนตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ใส่แว่นน่ารักแบบนี้แหละ เคยแอบชอบหมอมานานมากและไม่คิดว่าจะได้เจออีกนะเนี่ย เพราะหมอค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในทางการรักษาและชื่อเสียในทางปาก....ระหว่างตรวจกะแอบสังเกตอยู่และก็นึกในใจว่าหมอแต่งงานแล้วยังนะ (อายุป่านนี้น่าจะแต่งแหล่ะนะ) แต่แกดูเหมือนจะซอฟท์ลงเยอะทีเดียว ก็นะ จะว่าไปเราก็ซอฟท์ลงเยอะเหมือนกันไม่ไปกระโดดเตะปากใคร ไม่ไล่กระทืบใครเหมือนเมื่อก่อน ไม่ล้มโต๊ะเวลาโมโห ฯลฯ
“มองตรงมา มองไฟสิ เอ๊ะทำไมมองไปแต่ทางขวาล่ะ มองมานี่มองมาตรง ๆ”
แหม การบังคับให้มองไฟตรง ๆ นี่มันทำยากนะคุณ แสบตาชิ...หาย
“ก็ไม่เป็นไรมาก แค่จอประสาทตาบวมน่ะ ยังไงมาตรวจอีกรอบแล้วกันนะ”
ร่างสูงนั่งเอ๋อ ตรวจอีกรอบ ตูต้องมาโรง’บาลอีกหรอฟ่ะ ตูไม่มชอบโรง’บาล แต่เอาเถอะ ตาคืออวัยวะอันสำคัญมาก็มา และที่สำคัญคนน่ารักตรวจอ่ะ และที่สำคัญกว่าอาการปาก....หายและ น่ารักขึ้นอีกโคตร
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์
เฮ้อ ไหน ๆ หมอกะนัดและ วันนี้ ขอสบาย ๆ หนึ่งวัน อู้งานหนึ่งวันบอก ผอ.ว่า หมอนัด ฮึฮึ เราช่างเป็นคนดีซะเหลือเกิน ดีอะไรเช่นนี้ รอบสองนี่มาตรวจเหมือนจะนัดกันใส่เสื้อลายทางแต่งวดนี้ ตูสบายไปเปล่าว่ะกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะ เอาเหอะ มาเพื่อดวงตาตัวเอง มาครั้งนี้ตรวจหนักกว่าเดิมและมีนัดครั้งถัดไป
ห่ะ นัดอีก นี่ตูจะต้องหยุดโรงเรียน เอ๊ยสอนอีก ไม่...ด้วยสามัญสำนึกส่วนลึกไม่อยากหยุดอีกแล้ว ใช่แล้วเรามีชั่วโมงว่าง
“หมอ คือ นัดวันอังคารได้ไหมพอดีบ่ายว่าง”
“วันอังคาร หมอ ติดผ่าตัด”
“หมอว่างวัน จันทร์,พุธ.ศุกร์”
“งั้น จันทร์ได้ไหม พอดีว่างสองคาบบ่าย”
“หมอ ติดเลเซอร์”
“งั้นวันศุกร์”
“หมอ ติดประชุม”
“ตกลง เอาวันไหน”
แม่เจ้าต้องให้ ตรูตอบด้วยหรอเนี่ย ร่างสูงนึกในใจ แต่เขาไม่รู้สึกโกรธหมอ กลับนึกขำซะมากกว่า
“ก็แล้วแต่ หมอแล้วกัน”
“งั้นวันพุธนะ” เขาอดยิ้มขำไม่ได้
หมอเลยพูดแก้เก้อว่า
“เวลาเราไม่ตรงกันเลยเนอะ”
เขานึกในใจก็ว่างั้นแหละ
“แล้วเป็นไรมากไหมหมอต้องเลิกใส่คอนแทคป่ะ”
“ไม่ได้ห้ามใส่ ใส่ได้ไม่เกี่ยวกัน”
“ครั้งที่แล้ว ได้ยาอะไรไป”
เขาทำหน้าสำนึกผิด
“ยาหยอดตา หมอ แต่ไม่ค่อยได้หยอด เช้ามากะรีบไปทำงาน หยอดได้แต่ตอนเย็น”
หมอพยักหน้ารับรู้แล้วเขียนอะไรลงไปในใบสั่งยายื่นให้เขาอีกที
“เดี๋ยวหนู ไปรับยาที่ห้องยาด้วยนะคะ”
หนู.....เดี๋ยวนะ พี่แกเข้าใจอะไรผิดป่ะ ฉ้านนนนอายุ 39 แล้วนะเฟ้ย ทำไมคนอายุเยอะอยากแต่งตัวฮิป ๆ มั่งไม่ได้หรอ แต่เอ๊ะ วันนี้ตูลำลองนิ ช่างมันเหอะ เอา เป็นว่าสงสัยตูหน้าเด็ก ควรจะดีใจ
นั่งรอไปซักพัก เภสัชเรียกไปรับยา พอรับยา พี่แกก็ดันพูดว่า
“แพ้ยาอะไรไหมค่ะ”
“นอร์ฟ็อก” เภสัชพยักหน้า
“หมอนัดมาอีกใช่ไหมค่ะ”
ร่างสูงพยักหน้ารับอย่างงง ๆ อ้าว ทำไมต้องถามตูแบบนี้ฟ่ะ และยาที่ได้รับในวันนั้นคือยาบำรุง อืม เขารับมาแล้วก็ยิ้มขำ ยาบำรุงสายตา 60 เม็ด คิดว่าตูจะมีเวลากินไหมเนี่ย คิดว่าเป็นคนดีขนาดนั้นเลยหรอ จะพยายามนะคุณหมอ
“ใจที่มีเข็ดกับวันและคืน เพราะรักที่ไม่ยั่งยืนทำความเชื่อมั่นทะลาย นานเหลือเกินฝุ่นเกาะเต็มหัวใจ มันโทรมซะเกินแก้ไข ข้างในสร้างแรงต้านทาน แต่เธอ เธอ เธอมาทำให้ปั่นป่วน ทำให้ใจฉันเรรวนกับทุกอย่างที่รวมเป็นเธอ เธอ มีอะไรที่แตกต่าง ทำให้แรงต้านทานสั่น สั่นสะท้านเพราะเธอ ไม่มีสิ่งไหนต้านอยู่หรอกความรัก แม้ใจปิดแน่นหนา เท่าไหร่ ก็หายไปเป็นไปไปได้ไหม ว่าเป็นปาฎิหารย์ เธอเปิดใจให้ฉันและมันเกิดขึ้นจริง จริงที่ฉันรักเธอ”
“โฮ้ ครูร้องเพลงเพราะอ่ะ”
“ใช่ม่ะ ครูเท่ห์อยู่แล้ว”
“โหยยยย”
“แต่เอาเหอะ พักนี้ครูฟินไปป่ะ ยิ้มทั้งวันเลย”
“ก็คนมันอารมณ์ดี”
“เหรออออออ”
“นี่ เธอยัยพิ้งค์ เรียนชั่วโมงอะไรอย่ามามุ่งมิ้งกะครูไปเรียนได้และ”
“แหม แหมไปกะได้คุณครูเกาหลี”
“เฮ้ย พิ้งค์ไปเรียนได้แล้วครูมัญทนาเรียก”
“อ้าว ชิบเป็งชั่วโมงภาษาไทยนี่หว่า ไป ไปเร็ว”
ร่างสูงส่ายหัวด๊อกแด็กกับเหล่านักเรียนจอมแก่น
“นี่ แกว่าพักนี้ครูเขาน่ารักขึ้นป่ะว่ะ”
“เอ่อ ปกติ แกกะเหมือนแบบโทรม ๆ ไม่ค่อยแต่งตัว แต่เดี๋ยวนี้แกแบ่บดูเท่ห์อ่ะ”
“ช่ะป่ะ แกว่าเขาน่ารักเหมือนนักร้องเกาหลีป่ะ”
“ขนาดนั้น แต่กะนะ ดูดีอ่ะ”
“คุยอะไรกันจ้ะเธอ นี่มันสายไปสิบนาทีแล้วนะแม่คุณ”
“อูย....ขอโทษค่ะ ครู”
“เข้ามาเรียนได้แล้ว”
“ค่ะ” สองสาวรับพร้อมกัน
พักนี้ไม่รู้เป็นไง นักเรียนหญิงชอบมาวุ่นวายกับร่างสูงมากแต่ไม่ได้หมายความนักเรียนชายไม่ได้เข้ามาวุ่นวายด้วย
“ครูครับ วันนี้ซ้อมตะกร้อไหมครับ”
“ซ้อมดิ ทำไมอ่ะ”
“ผมปวดขาอ่ะ เนี่ยเป็นทั้งนักกรีฑา นักฟุตบอลแล้วต้องมาเตะตะกร้ออีก”
“เอ่อ ๆ มาซ้อมเหอะ ไอ้แห้ง มาแล้วเดี๋ยวครูเลี้ยงขนม”
ไอ้แห้งเป็นฉายาที่เขาตั้งให้กับนักเรียนของตัวเองเพราะว่ารูปร่างมันผอมมากแต่เตะตะกร้อโคตรเทพ
“ครูครับ”
“อะไร บึก” บึกเป็นฉายาที่เขาตั้งให้นักเรียนอีกเหมือนเคย ทำหน้ายิ้มกระลิ้มกระเลี่ยอยู่
“ซารางเฮโย แปลว่าอะไรครับ”
“ฉันรักเธอ”
“ครับ รักครับ”
“กวนตีนและแก ไปไปเลยไปเรียนไป ยิ้มอะไรสมส่วน”
“โห จารย์ชื่อผมก็มีเรียกชื่อผมก็ได้”
“เอ่อ จะเรียกแบบนี้มีปัญหาไรไหม”
“ไม่มีครับ คุณครูเกาหลี”
“พีรพัฒน์...”
“คร้าบบบ ไปแล้วครับ”
“ไอ้พวกนี้ พักหลังนี่มันเป็นอะไรกันนักหนานะ รำคาญจริง ๆ”
“ครูขา ครูเกาหลีขา”
“ยัยพลอย ครูชอบญี่ปุ่น”
“อ้าว ไม่ชอบเกาหลีหรอ”
“ก็ชอบ แต่ชอบญี่ปุ่นมากกว่า”
“โถ ครูมันกะคล้าย ๆ กันนั่นและ”
“เอ่อ ยอม”
“จารย์ กินข้าวยัง”
“เห็นว่ากินรึยังหล่ะ”
“แหม พอคุยกับน้องทำเป็นเก็ก พอคุยกับเราทำเป็นเบ่ง”
“ฉันเบ่งตรงไหนว่ะ”
“พวกพี่มัธยมน่ะแหละ ยุ่งอะไรด้วย”
“อ้อ แล้วประถมแก่แดดทำอะไรมิทราบ”
“หยุด พอ พอไปนั่งที่โต๊ะพวกเธอได้แล้วไป ไปกินข้าว ครูก็จะกินข้าว”
“หมอนัดหรอค่ะ”
ร่างสูงพยักหน้ารับ
“ขอดูใบนัดหน่อยค่ะ”
ร่างสูงส่งใบนัดให้กับพยาบาลที่ดูหน้าแล้วคิดว่าน่าจะรุ่นเดียวกันหรืออาจจะเป็นรุ่นน้องตัวเองด้วยซ้ำแต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลใด พี่แกเรียกเขาว่าน้องมาสองครั้งและ แรก ๆ เขานึกว่าเขาหูฝาดหรือพยาบาลอาจจะเรียกผิดแต่ครั้งนี้น่าจะชัวร์
“งั้น น้องมานี่เลยค่ะ”
กะเหมือนเดิม ตรวจวัดสายตาเสร็จแล้วก็หยอดยา ถ่ายรูปตาด้วยกล้องเฉพาะทางเทคนิคแสร็จแล้วก็เข้าไปตรวจแต่นี่เขาไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมนี่ หมอนัดเขาคนเดียว ทุกครั้งจะมีเขาแค่คนเดียว ทั้งที่คนไข้ตอนตอนเช้าเยอะมาก ทุกครั้งพยาบาลจะรีบมาดูแลเขาอย่างดี แล้วมันเพราะอะไรหล่ะ
“นั่งเลยค่ะ”
“เอาคางวางไว้ที่วาง หน้าผากติดค่ะเหมือนเดิมค่ะ”
หมอหยิบอุปกรณ์ ที่คาดว่าจะเป็นที่วัดความดันตาออกมา พยาบาลรีบบอกว่า
“ยังไม่ได้หยอดยาชาค่ะ”
“ไม่เป็นไร แค่....” แค่อะไรเขาได้ยินไม่ถนัดเพราะพยายามนั่งนิ่งและมองตรงไปข้างหน้า มองหน้าหมออยู่
“ก็ยังบวมอยู่นะ แต่ธรรมดาแล้วเดี๋ยวมันก็หายไปเอง แต่อืม...” หมอพูดอะไร ไม่ได้ยินอ่ะ เบา มัวแต่มองหน้าหมออยู่แต่ก็ไม่เห็นอยู่ดี เพราะเขาไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ไป ครั้งที่แล้วเขาต้องถอดทิ้งเพราะต้องหยอดยาสองข้างก็เลยไม่ใส่จึงไม่เห็นว่าหมอทำอะไร ซักพัก หมอ ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ เขารับมาและคลี่ดู
“อะไรอ่ะหมอ” หมอรีบตอบเสียดัง
“มันเป็นโค้ดลับ ไม่รู้หรอกต้องไปร้านยา ร้านยาเขารู้”
เขาอมยิ้มพยักหน้า เอ่อนะ ระหว่างนั้นหมอก็พูดอะไรไม่รู้ ซึ่งเขาได้ยินเพียงว่า
“งั้นนัดมาดูอีกที่ก็สองเดือน แต่ถ้ามีอะไรก็มาก่อนนัดได้นะ ............ถ้าจะดู ต้องมาดูทางนี้”
เอ๊ะ หมอให้ดูอะไรไม่ทันได้ยิน เห็นแต่ว่าหมอกวักมือเรียกให้ไปหา โดยไม่ทันรู้ตัวร่างสูงก็พาตัวเองมายังฝั่งที่หมอนั่งอยู่ เขาก้มหน้าลงชิดจอ
“ยัง เดี่ยวก่อนยังไม่เห็นหรอก เดี๋ยวขยายให้ เห็นไหม” ร่างสูงพยักหน้ารับ หน้าคุณหมออยู่ห่างไปแค่คืบถ้าหอมแก้มไปนี่จะเป็นไรไหม อ้าวเฮ้ย คิดไรว่ะตูเนี่ย
“เนี่ยจะเห็นว่ามันเป็นหยัก ๆ เห็นไหม”
“อืม” เขาพยักหน้ารับ
“แล้ววันนี้ไม่ได้ใส่อะไรมาเลยหรอ”
“ไม่ได้ใส่” ร่างสูงพูดขณะที่ยืดตัวตรงขึ้น
“แล้วกลับไง”
“ก็ มอไซด์”
ผลงานอื่นๆ ของ krunpooh ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ krunpooh
ความคิดเห็น