คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 พิชญลีลา
Chapter 4 พิชญลีลา
มหัศจรรย์แห่งรัก...
พิชญ์..ลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐี หนุ่มนักเรียนนอก รูปงาม มีคารมคมคาย แต่มีนิสัยเอาแต่ใจ เจ้าชู้ ใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ จนผู้เป็นพ่อเอือมระอาจึงส่งไปอยู่ในหมู่บ้านที่ไกลเมืองไร้แสงสี ไร้ความสะดวกสบาย เพื่อดัดนิสัย
ที่นั่นพิชญ์ได้พบกับ ลีลา..สาวสวยประจำหมู่บ้านผู้มีหัวสมัยใหม่และนิสัยใฝ่รู้ จนอ่านออกเขียนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งหายากในสมัยนั้น เธอจึงอาสาเป็นครูสอนเด็กๆในหมู่บ้าน
ลีลาสอนให้พิชญ์ได้รู้ถึงการมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า ที่สุดพิชญ์จึงยอมเปลี่ยนตัวเองด้วยเหตุผลเดียวคือ เค้ารักลีลา..
เรื่องเกือบจะลงเอยด้วยดี เมื่อทั้งสองแต่งงานกัน แต่ด้วยความที่ลีลาเป็นคนที่สุขภาพอ่อนแอ เมื่อคลอดลูกคนแรกความตายจึงพรากเธอไปจากเค้า..
เมื่อไม่มีเธอ พิชญ์อยู่อย่างไร้วิญญาณ แต่สิ่งที่ทำให้เค้าอยู่มีชีวิตอยู่ต่อคือคำขอร้องสุดท้ายของลีลาที่ให้เค้าอยู่เพื่อลูก
พิชญ์จึงสร้างโรงเรียนขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ความรักของทั้ง 2 คน สร้างลานนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยต้นมะลิ เพราะลีลาชอบดอกมะลิ และให้ชื่อว่าลานลีลา
เมื่อมีคนถามถึงการตั้งชื่อโรงเรียน พิชญ์ตอบอย่างไม่ลังเลว่า
“โรงเรียนแห่งนี้จะชื่อ พิชญลีลา ”
++++++++++++++++++++++++++++++
ด้วยความสามารถพิเศษหรือแรงกระตุ้นใดก็ไม่มีใครรู้ อัยสร้างสรรบทละครใหม่ในเวลา 2 วันโดยมีญาดาที่เพิ่มค้นพบว่าตัวเองเป็นที่มีพรสวรรค์ทางด้านการเขียนเป็นผู้ช่วย
“วีเธอเคยเห็นใครรึเปล่าที่มีความสามารถทั้งด้านการร้องเพลงและการเขียน ก็ฉันนี่ไง” (นาวี : =_= ^^)
ดังนั้นการคัดตัวนักแสดงจึงมีขึ้นในเย็นของวันจันทร์ โดยมีเอก(ผู้กำกับ) อัย(เขียนบท) และญาดา(ผู้ช่วยเขียนบท) เป็นคนคัดเลือก (“พี่อัยคะดาว่าตัวเองก็มีแววด้านการแสดงนะคะ” อัย : =_=^^^^^ )
“ตัวแสดงหลักในเรื่องจะมีแค่พ่อพิชญ์กับแม่ลีลา ตัวละครย่อยลงมาก็คือพ่อ แม่และเพื่อนของพ่อพิชญ์กับแม่ลีลา แล้วก็ชาวบ้าน จะมีไม่เกิน 8 คน”
เอกเกริ่นนำก่อนการคัดเลือก เด็กพิชญลีลาทุกคนจะเรียกพิชญ์กับลีลานำหน้าว่าพ่อและแม่เสมอ เพราะถือเป็นบุคคลที่สร้างสถานที่ให้ความรู้แก่ทุกคน
“ก็เลยอยากให้พวกเราในที่นี้มาคัดตัวแสดง ส่วนนักเต้นเคนกับน้องรันได้ไปติดต่อมาแล้ว และทางชมรมก็ให้ความร่วมมือ”
ได้ยินอย่างนี้โยเกิร์ตจึงเลือกที่จะไปกับณิชาที่ได้รับหน้าที่ไปติดต่อหาไม้มาทำฉากมากกว่าที่จะอยู่รอให้รุ่นพี่เรียกไปคัดตัว ไม่ว่าบทจะเล็กแค่ไหนก็ตาม แต่โยเกิร์ตก็ไม่คิดเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง ผิดกับผู้หญิงคนอื่นในห้องที่ต่างหวังเล่นในบทแม่ลีลาทั้งนั้น
เมื่อการคัดตัวผ่านไปสักพักทั้งเอก อัย และญาดาก็คุยกันว่าหาคนที่เล่นบทตัวละครย่อยได้แล้ว เหลือแต่บทของพ่อพิชญ์กับแม่ลีลาที่ยังไม่มีใครเล่นได้เข้าตากรรมการ
เอกมีมารยาทพอที่จะไม่หัวเราะถึงแม้เค้าจะตลกกับท่าทางของคนที่มาคัดเลือก อัยนั้นจะเสลงไปเก็บของใต้โต๊ะทุเกครั้งที่จะหลุดก๊าก ส่วนญาดานั้นไม่แนบเนียนพอ แกล้งไอด้วยเสียงที่ไม่ไกลจากคำว่าหัวเราะเลย
ผ่านไปนานเข้า จำนวนของคนที่จะมาคัดเริ่มน้อยก็ยังไม่มีท่าทีที่จะได้ตัวแสดงหลักของเรื่องเลย แต่แสงสว่างของพวกเค้าก็มาถึง
“โทษที/ขอโทษค่ะ ที่มาสาย ไปติดต่อชมรมดนตรีสากลมา”
เคนกับรันเพิ่มมาถึง ทั้งสองเดินเคียงข้างกันมา แปร่งประกายรัศมีของนักแสดง
หน้าตา... เพอร์เฟค
รูปร่าง... ไม่มีที่ติ
การแสดง...ไม่มีปัญหาฝึกได้(เอาหน้าตาเป็นหลักนี่หว่า..)
ญาดาปราดเข้าไปควงแขนทั้งสองคนให้มาที่เวที
“โอ้..ความหวังของเราพี่เคน ยัยรัน”
“เฮ้ย/ว้ายอะไรเนี้ย”
“นี่ค่ะบท”
“พี่เขียนบทไม่เป็นหรอก เอาไปให้อัยสิ”
“โธ่!เรื่องบทน่ะพี่อัยกับอัจฉริยะทางการเขียนอย่างดาเขียนเสร็จแล้วค่ะ แต่หนูอยากให้พี่เคนกับรันคัดตัวในบทของพ่อพิชญ์กับแม่ลีลา”
“มะ ไม่เอาหรอกดา ฉันแสดงไม่เป็น” เคนพยักหน้าเห็นด้วยกับรัน
“ก็ลองแสดงดูก่อนสิ คิดว่าช่วยกันเถอะว่ะไอ้เคน นะครับน้องรัน”
เอกช่วยพูดอีกแรงมีอัยพยักหน้าสนับสนุน
เคนมองหน้ารันขอความเห็น “รันว่าไงล่ะ”
“ลองดูก็ได้ค่ะพี่เค้าแค่ชวนเราคัดตัว ไม่ได้ให้แสดงจริงซะหน่อย”
“เออๆก็ได้” เคนหันไปบอกกับเพื่อน แต่ในใจไม่ได้คิดอย่างที่รันบอกสักนิด
ทั้งดึงทั้งลากมาแบบนี้คงไม่ได้แค่คัดตัวอย่างเดียวแน่
เอาวะ..อย่างน้อยก็เคยแสดงเป็นต้นไม้ในเรื่องสโนไวท์ตอนอนุบาลสอง
++++++++++++++++++++++++++++
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จริงของละครเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว แต่เพื่อให้ง่ายในการใช้ภาษาและองค์ประกอบต่างๆของเรื่อง อัยจึงประยุกต์ให้เป็นสมัยปัจจุบัน
บทในการคัดเลือกพ่อพิชญ์กับแม่ลีลาจะมีสองบท คือบทที่ทั้งสองคนเจอกันตอนแรก และบทที่ทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน(บทจีบกันนั่นแหละ)
เคนกับรันใช้เวลาอ่านบทเพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจกันสักพัก จึงมาแสดงต่อหน้าเอก อัย และญาดา แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับการคัดเลือกของสองคนนี้ราวกับแสดงจริง รวมทั้งโยเกิร์ตกับณิชาที่เพิ่งกลับมาจากหาไม้ทำฉากละคร
“โห..ยังคัดตัวกันไม่เสร็จเหรอ แล้วนั่นใครนะคัดอยู่คนดูเต็มเลยไปดูเถอะโยเกิร์ต” ด้วยกลัวว่าโยเกิร์ตจะปฏิเสธณิชาเลยดึงเพื่อนไปทันทีโดยไม่รอตำตอบ
“อ้าว..นั้นยัยรันกับพี่เคนนี่” เมื่อเดินเข้าไปไกลๆจึงเห็นว่าคนนี่กำลังคัดอยู่คือเพื่อนของพวกเธอสองคน
“โอ้..ออร่านักแสดงจับเชียว ว่ามะโยเกิร์ต” ถามไปก็เหมือนประโยคบอกเล่า ณิชาไม่ได้คาดว่าจะได้รับคำตอบจากใบหน้าที่เฉยเมยอยู่แล้ว พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนที่ไม่ชอบยุ่งกับใครอย่างโยเกิร์ตถึงขอไปกับเธอในวันนี้ คงเพราะไม่อยากจะคัดตัวนักแสดงนี่เอง ณิชายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จนลักยิ้มทั้งสองข้างปุ๋ม เมื่อคิดอะไรบางอย่างออก
“โย่ โย่ สู้เค้านะยัยรันนนน..วู้ๆๆๆ”
ณิชาตะโกนอย่างสุดเสียง เสียงที่ตะโกนออกไปจึงทั้งดังและก้อง เมื่อตะโกนออกไปแล้วเจ้าตัวก็กระโดดไปหลบอยู่หลังพนักเก้าอี้ ทิ้งให้โยเกิร์ตอยู่กับสายตาครึ่งร้อยของคนทั้งหอประชุม
ฟึบ
โยเกิร์ตที่ยังไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอนั้นอันตธานไปเป็นส่วนหนึ่งของเก้าอี้จึงยังยืนอยู่ทีเดิมด้วยสีหน้าที่ยังไร้ความรู้สึก แต่เมื่อสังเกตเพื่อนแต่ละที่ทำหน้าเหมือนเห็นของแปลก เธอจึงหันกลับไปด้านหลังที่เมื่อสามวินาที่ที่แล้วยังเป็นที่อยู่ของณิชา แต่ก็ไม่พบ!!! ณิชาแกล้งเธอ
โยเกิร์ตแทบไม่อยากหันหน้ากลับไปแต่ก็ต้องทำ สิ่งแรกที่เห็นคือสีหน้าขบขันของเคน ความพยายามที่จะไม่หัวเราะของเอก ส่วนภนต์ที่เห็นฝีมือของรุ่นน้องตั้งแต่ต้นแอบไปหัวเราะหลังเวที สุดท้ายคือเพื่อนของโยเกิร์ตที่อึ้งกันทุกคน
โยเกิร์ตพูดได้ (ภาคสอง)
“เอ่อ..หึหึ..อุ๊บ.. ไอ้เคน น้องรันเริ่มแสดงได้ครับ”
นี่แหละคำที่โยเกิร์ตรอ ทุกสายตาหันไปให้ความสนใจที่เวทีเหมือนเดิม
“คัดตัวไปถึงไหนแล้วเนี้ย รันแสดงดีมั้ย”
ณิชาแกล้งถามออกไป หลังออกมาจากพนักเก้าอี้แล้ว
ควับ..โยเกิร์ตหันไปทันทีไม่สนใจที่จะปิดบังแววตาที่กำลังโกรธ
“อ๋อ เมื่อกี๊ฉันไปเข้าห้องน้ำมา มีอะไรเหรอ”
“ไม่มี..” โยเกิร์ตหันกลับไปทางเวที
ณิชาหัวเราะในใจ เหตุการณ์เมื่อสองวันที่แล้วทำให้เธอรู้สึกว่าโยเกิร์ตอาจไม่ใช่คนเย็นชาและน่ากลัวอย่างที่คิด
+++++++++++++++++++++++++++++
ยอดเยี่ยม
นี่แหละที่ต้องการ
ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนคัดเลือกนักแสดงทั้ง 3 คน ต่างมีความเห็นที่ตรงกันไม่เพียงแค่เอก อัย และญาดาเท่านั้นแต่ ทุกคนที่อยู่ในหอประชุมตอนนี้เงียบกริบ ไม่กล้าส่งเสียงรบกวนแม้แต่เสียงหายใจ สายตาทุกคู่มุ่งตรงไปที่เคนและรัน
ทั้งสองแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งในบทที่เจอกันครั้งแรก เคนทำให้ทุกคนเชื่อว่าเค้าเป็นหนุ่มเอาแต่ใจ เจ้าชู้ คารมคมคาย ส่วนรันก็เป็นคนที่พูดจาได้ฉะฉาน ไม่หวั่นเกรงต่อชายแปลกหน้าที่กำลังดูถูกว่าหมู่บ้านของเธอไม่มีความเจริญ ทั้งที่ตรงข้ามกับนิสัยจริงๆของรันที่เป็นคนเรียบร้อย พูดเพราะ
และบทที่ต้องแสดงความรักต่อกันก็ยังทำให้สาวๆทั้งหอประชุมต้องกรี๊ดด้วยความอิจฉา ไม่ว่าจะด้วยสายตา การกระทำ ถ้านี่ไม่ใช่บนเวทีคงคิดว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแล้ว
“เอาล่ะค่ะ ทีนี้เราก็ได้ผู้ที่แสดงบทของพ่อพิชญ์และแม่ลีลาแล้ว”
อัยลุกขึ้นประกาศเป็นทางการให้ทุกคนรู้ หลังจากที่การคัดตัวจบลง
“เคนกับร้องรันค่ะ”
เสียงปรบมือจากทุกคนคงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าพวกเค้าได้นักแสดงนำที่เหมาะสมแล้ว
รันยิ้มอย่างอายๆไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่ได้รับบทนี้ แต่ถ้าได้ใกล้ชิดกับเค้าบ่อยๆ อีกหน่อยสายตาของเธอคงจะฟ้องออกมาหมดว่าเธอคิดอะไรกับเค้า เธอยังไม่พร้อมที่จะเสี่ยง การบอกความรู้สึกออกไปแล้วเค้าไม่คิดเหมือนเธอ ทุกอย่างมันอาจจะไม่เหมือนเดิม..
++++++++++++++++++++++++++++++
ทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ บทละครมีเข้ามาเสริมว่าจะร้องตรงไหน เต้นตรงไหน คนจากชมรมดนตรีสากลและdancing ก็เข้ามาซ้อมด้วยตามที่จะมีเวลามาได้ เพราะทางชมรมก็มีงานที่ต้องเตรียมเหมือนกัน ฉากก็เริ่มขึ้นไม้ไว้ เสื้อผ้าร่างแบบและวัดตัวเรียบร้อย ถ้าผ้าที่สั่งไปได้มาก็ตัดเย็บได้
โยเกิร์ตเลือกที่จะทำงานแบบไม่จำกัดหน้าที่ ตรงไหนที่มีคนทำน้อยเธอก็ทำงานนั้น ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนรู้ว่าโยเกิร์ตพูดได้มากกว่าสามคำ แต่ด้วยท่าทีที่เย็นชาคงเส้นคงวาจึงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาพูดกับเธอเช่นเดิม แม้ว่าจะมีหลงมาบ้างก็ตาม
“เอ่อ..โย..”
ควับ เฮือก
แสนดี เพื่อนห้องเดียวกับโยเกิร์ตพยายามเรียกเธอด้วยชื่อเล่นแต่ไม่เคยเรียกจบซะที
“เอ่อ..เคียงตะวัน เราขอพู่กันหน่อยครับ”
แสนดียื่นมือออกมารอรับผู้กันทั้งสองมือเหมือนเด็กรอรับถาดข้าวจากครู คงเป็นครูที่ใจร้ายด้วยสิเพราะมือเกร็งจนสั่น
“ขะ..ขอบคุณ” เมื่อได้ผู้กันแสนดีก็เดินออกไป โยเกิร์ตแอบเห็นว่าเค้าถอนหายใจเฮือกใหญ่และใช้ผู้กันที่ได้ไปกระหน่ำตีหัวตัวเอง!!!
บ้าไปแล้ว??
โยเกิร์ตหันมาทาสีพื้นหลังที่ค้างไว้ต่อ..
วันนี้เป็นวันศุกร์มีเวลาในการทำงานเยอะกว่าทุกวันคงวาดได้หลายฉาก โยเกิร์ตมองคนอีก5-6คนที่กำลังช่วยกันลงสีพื้นหลังเหมือนเธอ
“เฮ้อ..เหนื่อยจัง” เคนเดินมาทรุดลงนั่งข้างๆโยเกิร์ต
“..............”
“เฮ้ออ..เหมื่อยมากเลย”
“..............”
“เฮ้อออออ..เหนื่อยจริงๆนะไม่ได้โกหก”
“..............” โยเกิร์ตยังคงไม่พูดอะไรแต่เริ่มมองด้วยหางตา
“นี่ถ้าได้น้ำสักแก้วคงจะหายเหนื่อย แล้วก็ไปซ้อมละครต่อ ใช่มั้ย..เจ้าพู่กัน” เคนมองพู่กันในมือโยเกิร์ตแล้วหลับตา
หมอนี่ก็อีกคน บ้าไปแล้ว
โยเกิร์ตจึงตัดสินใจเดินไปหยิบน้ำที่ฝ่ายบริการเครื่องดื่มมาให้ หมอนี่จะได้ไปนั่งถอนใจที่อื่น
กึก..แล้วทำไมต้องเอาไปให้ด้วยล่ะ
โยเกิร์ตหันไปมองเคนที่ยังคงหลับตาอยู่อย่างเหนื่อยล้า ก็ต้องเหนื่อยแหละ ทั้งซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลง ซ้อมการแสดง
แต่เรื่องอะไรมาใช้ให้เธอทำนั่นทำนี่..
อยากได้น้ำมากใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวจัดให้รับรองหายเหนื่อย
“อะ..น้ำ” เคนยิ้มแต่ยังคงไม่ลืมตา นึกถึงคำพูดของรัน
แต่เค้าเป็นคนดีนะคะ ขอบช่วยเหลือรันกับณิชาเรื่อย
จริงแฮะ..
เคนรับกระป๋องน้ำอัดลมที่โยเกิร์ตส่งมาให้ ด้วยความกระหายจึงซัดเอาซะเต็มสตรีม ผลที่ได้ก็คือ
พรวด.. “แค่ก แค่ก..แหวะ..แค่ก นี่มันน้ำอะไรเนี่ย”
โยเกิร์ตไม่ได้ตอบเพียงแต่ส่งสายตารำคาญแล้วมองไปที่กระป๋องเหมือนจะบอกว่า ก็น้ำแดงไง
“แล้วน้ำแดงที่ไหนรสแบบนะ..” เคนชะงักไป เพื่อนที่ทำงานรอบๆเริ่มหันมามองด้วยความอยากรู้
“แหะๆ น้องโยเกิร์ตอุตส่าห์เอาน้ำมาให้ขอบใจนะ”
สมน้ำหน้าอยากมายุ่งกันดีนัก ดื่มน้ำล้างพู่กันอร่อยมั้ยล่ะ
โยเกิร์ตหันไปทาพื้นหลังต่อ
“แล้วน้องโยเกิร์ตไม่หิวน้ำเหรอ มาๆกินกับพี่ก็ได้ พี่กินไม่หมด”
อะไรนะ!! “มะ...ไม่หิว”
“เถอะน่า ไม่ต้องเกรงใจหรอกดื่มๆ” เคนเอากระป๋องน้ำเข้ามาใกล้ปากเธอมากขึ้น ด้วยความตกใจโยเกิร์ตจึงยกพู่กันขึ้นมา
แปะ..
ชิ้งง..เหมือนทุกสิ่งหยุดการเคลื่อนไหว เมื่อใบหน้าขาวๆของเคนมีสีแดงป้ายตรงจมูก ดูแล้วเหมือนซาลาเปาน้อยๆ
“อุ๊บ...หึหึหึ..ฮ่าฮ่า..หน้านาย..หึ..เหมือนซาลาเปาเลย”
โยเกิร์ตหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว..
เสียงหัวเราะที่สดใสทำให้บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไป ทุกคนที่ทำงานอยู่รอบๆพากันหันมามอง อดทึ้งในความแตกต่างไม่ได้ เด็กสาวคนเดียวกันเมื่อเปลี่ยนจากใบหน้าที่เย็นชาและเมินเฉยมาเป็นหัวเราะอย่างเบิกบาน ทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมา
ดูเหมือนจะมีโยเกิร์ตคนเดียวที่ยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งของเธอและผู้คนรอบๆ ยังคงหัวเราะงอหงายต่อไปแต่เมื่อเห็นใบหน้าของเคนที่จ้องมองเธออย่างตกตะลึงจึงรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป โยเกิร์ตหยุดหัวเราะแทบจะในทันที
“เอ่อ..ดะ เดี๋ยวจะไปเอาผ้ามาเช็ดให้” แล้วรีบลุกไปที่หลังเวทีอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ..นี่ฉันทำอะไรลงไป” โยเกิร์ตเอาหน้าซบลงกับฝ่ามือข้างหนึ่ง อีกข้างกำผ้าชุบน้ำที่จะเอาไปให้เคนไว้แน่น
“น้องเป็นอะไรรึเปล่า” เสียงนุ่มเอ่ยถามขึ้นมา
โยเกิร์ตยืดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นมาพบว่าคนที่ถามคือเอก
“เปล่า..”
“แต่ว่าหน้าซีดนะไปห้องพยาบาลมั้ย” เอกถามขึ้นอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ แต่โยเกิร์ตรีบตัดบทแล้วเดินออกไปทันที วันนี้เธอพูดมากเกินความจำเป็นแล้ว
“ไม่ได้เป็นอะไร”
++++++++++++++++++++++++++++++
“ขอบคุณครับ”
เคนรับผ้าที่โยเกิร์ตยื่นมาให้ แล้วมองหญิงสาวทาสีที่พื้นหลังต่อ
กลับมาอีกครั้งแล้วเหรอ ใบหน้าที่เย็นชา..
“นี่..ยังไม่ได้บอกพี่เลยว่าน้ำทีเอาให้กินมันน้ำอะไร”
เคนพยายามชวนหญิงสาวคุย
“ถ้าฉันตอบนายจะเลิกคุยกับฉันมั้ย” โยเกิร์ตถามโดยไม่มองหน้าเคน
“อ่าว..ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ เธอเป็นคนผิดเองแท้ๆ..ก็ได้ๆถ้าตอบมาวันนี้ก็จะไม่ชวนคุยอีก โธ่ไม่ต้องทำตาดุขนาดนั้นก็ได้”
“น้ำล้างพู่กัน”
“หา!!น้ำล้างพู่กัน เดี๋ยวๆสิ..” เคนคว้ามือหญิงสาวเอาไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังลุกขึ้นและจะเดินไปทางอื่น และก็เหมือนตอนที่เค้าจับมือเธอครั้งแรก โยเกิร์ตยังคงสะบัดออกอย่างรวดเร็ว
“โอเคๆไม่ชวนคุยแล้วแค่อยากจะบอกว่า..” เคนลุกขึ้นยืนซึ่งนั้นทำให้โยเกิร์ตสูงแค่ไหล่เค้าเท่านั้น
“ตอนหัวเราะดูน่ารักกว่าตอนทำหน้าแบบนี้เยอะ” เคนยื่นมือไปหยิกแก้มของเด็กสาวเบาๆ โยเกิร์ตกำลังจะต่อว่าที่เค้ามาฉวยโอกาสแบบนี้
“ไอ้เคน..ซ้อมต่อ” เสียงเอกตะโกนเรียกมา
“เออๆไปเดี๋ยวนี้แหละ..อย่าลืมยิ้มบ่อยๆนะ” เคนยิ้มให้ก่อนจะวิ่งไปซ้อมละครต่อ
ยิ้มบ่อยๆแล้วได้อะไร
มันจะทำให้ใครบางคนกลับมาหาฉันได้มั้ยล่ะ
ความคิดเห็น