ตอนที่ 4 : หนี 2
สายตาที่มุ่งฝ่าไปในความมืดคู่นั้นนำพาร่างน้อยก้าวเร็ว ๆ ลัดเลาะชายป่าลึกขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ทิศทาง บุคคลที่เธออาศัยเกาะกลุ่มหนีตายมาด้วยกันต่างก็พลัดหลงกันคนละทิศละทาง การเดินทางลี้ภัยด้วยเท้าท่ามกลางฤดูหนาวเหน็บ ช่างทรมานเหลือเกิน หิว กระหาย น้ำสักหยด ข้าวสักเม็ดยังไม่เคยตกถึงท้องตั้งแต่ตอนสายของวัน ริมฝีปากน้อยแห้งผากและแตกเป็นร่องมีเลือดซึมบาง ๆ เธอเลียมันขับไล่ความเจ็บนั้น
รองเท้าสานที่สวมร่วมทางมาด้วยกันเนิ่นนานเริ่มชำรุด เด็กหญิงมองหาสมุนไพรให้น้ำมากัดกินจึงค่อยสดชื่นขึ้น แหงน
หน้ามองท้องฟ้า คาดเดาว่าอีกไม่นานฟ้าจะสาดแสงให้ความสว่าง เธอเกลียดทั้งความสว่างและความมืด เพราะไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก็ไม่เคยนำพาความสุขมาสู่หัวใจของเธอ แม่และพ่อต่างก็ทอดทิ้งเธอไป เพราะภัยแห่งสงคราม
“เฮ้ยนั่น! มีใครอยู่ตรงนั้น” เสียงทหารนายหนึ่งเอ่ยขึ้น เด็กหญิงวิ่งหนีสุดชีวิต เหนื่อยใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจชะลอฝีเท้าได้ แม้จะวิ่งหนีมาไกลห่างจากทหารกลุ่มนั้นและไม่ได้ยินเสียงติดตามมาแล้วก็ตาม แต่ความกลัวทำให้เธอยังไม่ยอมหยุดสองเท้าเหยียบย่ำลงไป
“โอ๊ย!” ขาข้างหนึ่งเหยียบลงไปบนกับดักสัตว์ของนายพรานที่วางดักไว้ แม้จะเจ็บปวดสาหัสแต่ไม่มีน้ำตาบนใบหน้าอมเศร้า เพราะความเจ็บและเสียใจของเธอที่ผ่านพบเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายเหลือเกิน และไม่คิดว่าจะมีเรื่องใดทำให้เธอเสียน้ำตาได้อีก
“โอ๊ย!” เด็กหญิงพยายามปลดกับดักนั้นออก แต่ไม่สำเร็จ เธอไม่อ้อนวอนหรือร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ เลือดที่ซึมไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เพราะขาดน้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สติจึงดับวูบลง
++++++++++++
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
