ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตัดจบ สัประยุทธ์ออนไลน์ - เหล่าศาสตราครองใต้หล้า

    ลำดับตอนที่ #6 : บุกค่ายคนโฉด ปลดผนึกเหล่าภูติ

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 55


    “เอ่อไม่ทราบว่า”

    “พี่สาวจะขนพวกระเบิดเยอะไปไหมครับ” 

    ^ ^   โอคที่ถูกฟ้าใสบังคับให้ไปซื้อระเบิดชนิดต่าง ๆ โดยให้ใส่เป้ใบใหญ่พอ ๆ กับขนาดของเตียงนอนเลยทีเดียวถามด้วยรอยยิ้ม

     

    “แหม ๆ อะไรกันค่ะคุณน้องยังหนุ่มยังแน่น”

    “ทำมาเป็นบ่นออด ๆ แอด ๆ ไปได้”

    “แมนหรือเปล่าค่ะเนี่ยหรือว่าเป็นเก้งกวางไปซะแล้ว” 

    ^.^   ฟ้าใสเองก็ยิ้มตอบรับโอคไปเช่นกัน

     

     

    “-*-”

    “จะไม่บ่นได้ไงห่ะแม่ตัวดี”

    “เธอไม่ได้เป็นคนแบกระเบิดพวกนี้เองนะ”

    “ฉันเซ่แบกจนหลังจะหักอยู่แล้ว !!!    โอคที่หมดความอดทนลงไปรีบโวยวายออกมา

     

    “ชิ”

    “ซื้อแค่นี้ก็พอแล้วย่ะ”

    “ตะโกนมาได้หูจะแตก”   ว่าแล้วฟ้าใสก็เดินนำหน้าโอคออกนอกเมืองไปโดยที่ตัวของเธอนั้นได้ฮัมเพลงเบา ๆ ไปด้วย

     

    ไม่เข้าใจแม่คุณคนดีจริง ๆ แฮะ

    ฝีมือการใช้กระบี่ก็ดีแบบสุด ๆ อยู่แล้วจะขนระเบิดพวกนี้ไปทำไมกัน

    แต่เราเชื่ออย่างนะถ้าแม่คุณคิดจะใช้ระเบิดหมดกระเป๋าจริง ๆ ล่ะก็ ค่ายคนโฉดรับรองไม่เหลือซากให้หัวหน้ามันกลับไปแน่นอน   โอคที่รู้น้ำหนักจากการแบกคลังแสงด้านหลังดีเขาได้แต่ภาวนาว่าฟ้าใสจะไม่ใช้หมด

                แต่เขาไม่ได้เป็นห่วงเหล่าคนโฉดแม้แต่น้อย เขากลับเป็นห่วงตัวเองที่แบกระเบิดพวกนี้เอาไว้มากกว่า เพราะถ้าหากโดนลอบโจมตีโดยการใช้ไฟล่ะก็เขานี่แหละจะเป็นผุยผงไปแทน

                เพียงไม่กี่นาทีต่อมาโอคและฟ้าใสก็ได้มาซู่มอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ กับค่ายคนโฉด แน่นอนว่าได้มีเวรยามประมาณ 10 กว่าคนพากันเดินขบวนรอบ ๆ ค่ายเพื่อตรวจตราผู้บุกรุก

    “เวรยามแน่นหนามากจะทำยังไง........ดี..........”

    “เห้ยเอางี้เลยเหรอ”   ในระหว่างที่โอคกำลังคิดแผนการว่าจะบุกเข้าไปยังไงอยู่ ๆ ฟ้าใสกลับหยิบเอาระเบิดออกมาจากเป้ที่เขาสะพายหลังเอาไว้แล้วปาใส่เหล่าเวรยามที่เดินอยู่ไม่ไกล

    “บรึมมมมมมมมมมมมมมมมม”   ระเบิดได้ทำหน้าที่ของมันอย่างแน่นอน พร้อมกับร่างของเหล่าคนโฉดที่กระเด็นไปคนละทิศละทางแต่ก็ไม่มีใครตาย ซึ่งบ่งบอกได้ว่าระดับของพวกมันสูงพอควร

     

    “ยืนขึ้น”   ฟ้าใสสั่งอย่างเร่งด่วนโอคก็ทำตามแต่โดยดีเพราะเขาคิดว่าเธอน่าจะมีแผนอะไรอยู่แล้ว

    “หันหลังซิค่ะคุณชายเร็ว ๆ ด้วย”   แม้เขาจะไม่รู้ว่าฟ้าใสสั่งเช่นนี้ทำไมแต่เขาก็ทำตาม

    “ผั๊วะ”   โดยที่โอคไม่ทันตั้งตัวฟ้าใสออกแรงถีบยันโอคกระเด็นไปล้มหน้าทิ่มอยู่ไม่ห่างจากจุดระเบิดมากนัก

     

    “ทำอะไรของเธอเนี่ยยัยบ๊อง”   แน่ล่ะอยู่ ๆ โดนถีบหน้าปักพื้นดินฟรี ๆ ใครจะยอมโอคจึงรีบหันไปต่อว่าฟ้าใสทันที  แต่เขาก็ไม่เห็นร่างของฟ้าใสแล้ว

     

    “อิอิอิ”

    “ระเบิดพวกนี้ใช้ตามสบายนะ”

    “ทำหน้าที่ให้ดีนะค่ะเหยื่อล่อ”   เสียงหัวเราะเบา ๆ ของฟ้าใสแว่วมาตามสายลมอย่างอารมณ์ดี แต่สำหรับโอคน่ะเหรอเขาหน้าซีดเผือกไปเสียแล้ว

     

    “อ้ากจำไว้เลยนะยัยบ๊อง”

    “หางานหนักมาให้ตูอีกแล้วววว”   โอคตะโกนลั่นอย่างหัวเสีย

     

    “ฉับบบบบบบบบบบบบ”   แต่ก่อนที่เขาจะทันแหกปากจบก็ได้กลิ้งตัวหลบคมดาบของคนโฉดผู้หนึ่งที่ได้กระโจนเงื้องดาบฟันใส่เขา

                พอโอคกลิ้งตัวหลบไปได้ไม่ไกลเขาก็เริ่มเห็นเหล่าคนโฉดที่เหลือพากันลุกขึ้นยืนแล้วนำอาวุธออกมาเตรียมพร้อมจะรุมยำเขาซะแล้ว

    “เฮ้ออออออออ”  โอคถอนหายใจออกมายาว ๆ แม้เขาจะมีเลเวลเพียง 1 แถมอาวุธเทพยังไม่สามารถใช้ได้ดั่งใจอีก และวิชาที่พึ่งพาได้ก็มีแต่เคล็ดวิชาที่อาชูร่าฝึกโหดให้กับเขาเท่านั้น

    “ไม่ค่อยแน่ใจเลยวุ้ยว่าเคล็ดวิชากายาศาสตราจะใช้ได้จริงไหม”   โอคที่ยังกังวลกับเคล็ดวิชาของเขาอยู่ไม่นาน คนโฉดอีกคนก็ใจร้อนกระโดดมายกขวานอันใหญ่จามใส่ลงมาหาโอคจากด้านบนซะแล้ว

    “ให้ตายก็ไม่กล้ารับว้อยยยย”  เขาตะโกนมาอย่างหัวเสียก่อนที่จะกำหมัดขวาแน่น

    “วูบบบบบบบ”  เพียงชั่วพริบตาโอคหมุนตัวหลบขวานไปด้านข้าง แล้วเขาก็หมุนตัวกลับมาอีกรอบซึ่งในตอนนี้หมัดขวาของโอคได้มีออร่าค้อนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา

    “หมัดค้อน”

    “ตูมมมมมมมมมมมมม”  ออร่าค้อนที่หุ้มหมัดขวาของโอคหวดเข้าเต็ม ๆ ร่างของคนโฉดรายนั้นทันที โดยมีเสียงคล้ายอวัยวะภายในของมันแหลกดังขึ้นมาอีกด้วย

     

    “อ๊อกกกกกกกกกก”  ร่างของคนโฉดดังกล่าวกระเด็นไปกลิ้งกับพื้นหลายตลบก่อนที่มันจะสำลอกเอาเลือดสด ๆ ออกมา

                แต่โอคก็ไม่คิดจะติดตามผลงานของตนเองเลยแม้แต่น้อยเพราะในตอนนี้คนโฉดอีก 2 คน คนหนึ่งใช้หอกอีกคนใช้ลูกตุ้มก็ได้เข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว

    “วูบบบบบบบ”   โอคตั้งสมาธิมั่นเพื่อหลบหัวหอกที่แทงมาด้านซ้าย 

    “ฟุ่บ”   และยังไม่ทันไรเขาก็ต้องหมุนตัวกลางอากาศเพื่อหลบลูกตุ้มที่ได้หวดเข้ามาใส่หัวของเขาจากด้านขวา แต่โอคก็หาได้หลบเฉยไม่เขารีบจรดปลายเท้าข้างซ้ายงอพับเข้าหาลำตัวแล้วรีบดีดเตะลำคอของคนโฉดผู้ใช้ลูกตุ้มทันที

    “ดาบอิไอเท้า”

    “ฉั๊วะ”    คนโฉดกลับรู้สึกว่ามันโดนเพียงโอคเตะผ่านลำคอของมันไปแต่ยังไม่ทันไรก็ปรากฏแผลถูกของมีคมบาดลึกที่ลำคอของมันจนเลือดพุ่งกระฉูดออกมา

                เมื่อโอคลงมาถึงพื้นเขาก็โจมตีคนโฉดที่ใช้หอกต่อเนื่องทันที

    “ดัชนี อาวุธลับ”

    “ฟุ่บ ๆ”

    “ฉึก ๆ”

    “อ้ากกกกกกกกกกกกก”   เพียงแค่โอคดีดนิ้วไปด้านหน้ากลับเกิดออร่าคุโนโปร่งใสพุ่งออกไปปักเข้าที่เบ้าตาของคนโฉดผู้ใช้หอกอย่างแม่นยำมันจึงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

                และเมื่อศัตรูเสียงการมองเห็นไปแล้วโอคก็รีบดีดร่างเข้าประชิดใส่มันทันที โอคทะยานเหนือพื้นเล็กน้อยแล้วรีบปล่อยเข่าซ้ายออกไปโยมีออร่าของลหัวลูกศรธนูปรากฏออกมาหุ้มหัวเข่าของเขาเอาไว้

    “เข่าศรยักษ์” 

    “ซวบบบบบบบบบบบบบบ”   ออร่าหัวลูกศรขนาดใหญ่ทิ่มทะลุหัวของคนโฉดผู้ใช้หอก แต่มันก็ไม่ได้หยุดแค่นั้นเพราะว่าออร่าลูกศรขนาดใหญ่ได้พุ่งออกไปพาร่างที่สิ้นลมของคนโฉดผู้ใช้หอกออกไปด้วย และลูกศรออร่ายักษ์ก็ตรงดิ่งไปหาเหล่าคนโฉดอีก 3 คนที่กำลังวิ่งเขามา และพวกมันก็รู้ว่ากำลังทำผิดซะแล้ว

    “ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย”   พวกมันทั้ง 3 แหกปากร้องลั่นก่อนที่ร่างของคนโฉดผู้ใช้หอกที่ลอยมากับออร่าลูกศรจะชนกระแทกทิ่มทะลุร่างของมันสิ้นชีพไป อีก 3 ศพ

     

    “เหว๊ออออออออออ” 

    “รีบไปเรียกพวกเรามาช่วยเร็วผู้บุกรุกเป็นยอดฝีมือ”   เหล่าคนโฉดที่เหลือเห็นท่าจะไม่ดีก็เลยพากันวิ่งหนีเป็นแถวหน้ากระดานเพื่อกลับเข้าค่ายไป

    “เวรล่ะ”   โอคเห็นดังนั้นเขาจึงกล้ามั่นใจที่จะใช้วิชาของอาชูร่ามากขึ้นโดยที่เขาร่ายฝ่ามือไปมาก่อนที่จะประกบฝ่ามือทั้ง 2 โดยยื่นแขนไปทางซ้าย

    “ท่าประสาน”

    “บูมเมอแรงตัดอากาศ”   เพียงพริบตาโอคก็รีบตวัดฝ่ามือทั้ง 2 ที่ยื่นไปด้านซ้ายกลับมาด้านขวาของเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีออร่าบูมเมอแรงขนาดใหญ่ลอยพุ่งเข้าใส่เหล่าคนโฉดที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุน

    “ฟ้าววววววววววววววววว”

    “ควับ ๆ ๆ ๆ ๆ” 

    “ฉั๊วะ”

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”   เหล่าคนโฉดที่พากันหนีตายกู่ร้องอย่างเจ็บปวดพร้อมกับล้มลงไปโดยที่ด้านหลังของพวกมันได้ปรากฏแผลถูกฟันขนาดใหญ่แนวนอนขึ้นที่กลางหลังแทบทุกคน

     

    “เอาน่า นี่แค่เราเลเวล 1 นะเนี่ยต่อให้พวกมันไม่ตายทันทีแต่แค่นี้ก็ต้องบอกเลยล่ะนะว่าวิชาของอาชูร่าสามารถสู้กับคนที่เลเวลสูงกว่าเราได้จริง ๆ”   โอควิเคราะห์จนพอใจแล้วเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้โอคไม่รอช้าเขาวิ่งไปหยิบเอาเป้ระเบิดขนาดใหญ่มาวางไว้ใกล้ ๆ เหล่าคนโฉดที่นอนบาดเจ็บปางตายอยู่เกลื่อนพื้น

    “มีคนบุกรุก !!!    แล้วเขาก็ตะโกนลั่นไปทั่วบริเวณแห่งนี้หลายทีก่อนที่จะรีบวิ่งไปปืนต้นไม้แอบ

                เพียงไม่นานเหล่าคนโฉดนับ 30 ชีวิตก็พากันวิ่งหือมายังบริเวณดังกล่าว เมื่อพวกมันเห็นพวกพ้องนอนบาดเจ็บอยู่ก็รีบพากันรักษาขั้นต้นทันที

    “แหงะ 30 คนเองเหรอ”

    “ช่วยไม่ได้แฮะ”

    “ฉันตัดกำลังให้เธอได้เท่านี้ล่ะนะฟ้าใส”    กล่าวจบโอคก็โบยระเบิดแต่ไม่ได้ถอดสลักจากบ้านบนและเมื่อมันอยู่ในระยะพอสมควรแล้วเขาก็ใช้ดัชนีอาวุธลับ ซัดออร่าคุไนออกไป 1 เล่ม

    “ฉึกกกกกกกกก”  ออร่าคุไน ปักเข้ากับระเบิดที่โอคเพิ่งจะโยนออกไป และด้วยความเร็วสูงของท่าโจมตีนี้ได้ทำให้คุไนโปร่งใสกำลังปักนำพาระเบิดที่กำลังจะปะทุลอยลิ่วเข้าไปปักกลางกระเป๋าเป้ที่บรรจุไปด้วยคลังแสงขนาดย่อม

    “บรึมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”   แทบไม่ต้องคิดเลยว่าแรงระเบิดจากระเบิดนานาชนิดนัลร้อยในกระเป๋าแห่งนี้จะสามารถคร่าชีวิตเหล่าคนโฉดทั้งหมดในบริเวณแห่งนี้ไปได้สบาย ๆ เลยล่ะ

                แต่สิ่งที่โอคคำนวนพลาดไปอย่างหนักคือเขาลืมคิดถึงแรงอัดระเบิดที่จะตามมาด้วย ซึ่งกว่าเขาจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว โอคเองก็ได้ถูกแรงอัดระเบิดซัดร่างกระเด็นไปไกลพอสมควร และกลิ้งกระแทกใส่กิ่งไม้หลายต้นเลยทีเดียว โดยกว่าที่เขาจะถึงพื้นนี้ร่างของเขาก็เริ่มโปร่งใสและกระพริบถี่ ๆ เพื่อบ่งบอกว่ากำลังจะตายแล้ว

    “อึกกกกกกกกกก”   โอคพยายามใช้มืออันสั่นเทาหยิบเอาน้ำยาเพิ่มเลือดมาดื่มซะ เพราะถ้าอยู่ในสภาพนี้อีกไม่กี่นาทีทางระบบจะมอบสถานะ ช็อค ให้กับเขา

    “ฟู่วววววววววว” 

    “หวังว่าคงต้องรอให้สภาพร่างกายปรับตัวเองแฮะ”   หลังจากที่โอคกินยาเพิ่มเลือดระดับกลางไปหลายขวดพอควรกว่าที่เขาจะขยับร่างได้ปกติ แม้จะยังมีอาการอ่อนล้าไปบ้างก็ตาม เขาเดินไปนั่งนิ่ง ๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

    “ไม่ไหวแฮะ”

    “นี่ยังดีนะที่เราบาดเจ็บจากแรงระเบิดไม่มาก”

    “แต่ก็เสี่ยงตายอยู่ดี”

    “ต้องหาตัวช่วยหน่อยแล้วมั้งเนี่ย”   พูดจนมันสมองของเขาก็คิดไปได้ถึงว่าเขายังมีเหล่าภูติอยู่นี่ แถมยังเป็นภูติแห่งธาตุระดับสูงอีกต่างหากยังไงซะก็น่าจะเรียกออกมาใช้งานหน่อยเพราะพวกมันเล่นดูดค่าประสบการณ์ไปจากเขามากโขอยู่แล้ว

    “ปลดผนึก เฟรม”

    “. . . . . .”   โอคลองเดาสุ่มชื่อภูตที่เขาจะเรียกออกมาแต่แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “ปลดผนึก บลา ๆ ๆ ๆ”   เขาร่ายรายชื่อยาว ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งมาหยุดลงที่ชื่อของภูติแห่งสายลมนามว่าวิน

    “วิ้งงงงงงงงงงงงง”   สยบทศทิศส่องสว่างสีเขียวอ่อน ๆ ออกมาพร้อมกับมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นว่า

                ผู้เล่นโอคได้ทำการปลดผนึกภูติแห่งธาตุครั้งแรกค่ะ ทำให้สยบทศทิศมีคุณสมบัติตามธาตุของภูติที่เรียกออกมาค่ะ

                เสียงประกาศจบลงพร้อมกับเกราะแขนทั้ง 2 ข้างของโอคเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน ๆจากที่ตอนแรกมันเป็นสีดำสนิท

    “วี้ ๆ ๆ ๆ ๆ  ๆ ๆ”  ในระหว่างที่โอคสนใจการเปลี่ยนแปลงของอาวุธใหม่ของเขาได้ไม่ทันไรอยู่ ๆ กลับมีร่างเล็ก ๆ ร่างหนึ่งบินโฉบไปมารอบ ๆ ตัวของเขาอย่างรวดเร็วอีกด้วย

    “หมับ”

    “จับได้ล่ะไหนขอดูหน้าหน่อย..........”   โอคจับจังหวะไปซักพักเขาก็คว้ามือมาจับด้านหลังของร่างปริศนาได้ แต่เมื่อเขาจับได้แล้วเขาก็เกิดอาการอึ้งขึ้นมา

    “อย่าบอกนะว่าแกคือวิน. . . . .”

     

    “วี้ ๆ ๆ ๆ”   เจ้าตัวปริศนารูปร่างคล้าย ๆ กระรอกบินส่งเสียงขานตอบออกมาทันใด

     

    “โอ้ภูติแห่งธาตุของฉันทำไมมันดูน่ารักบ๊องแบ๊วเกินกว่าที่จะเอาไปสู้รบตบมือกับใคร ๆ เขาได้เนี่ย”

    “ภูติแห่งธาตุลมขั้นสูงงั้นเหรอ”

    “นี่มันชูก้าไรเดอร์ชัด ๆ”   เขาส่ายหน้าอย่างหน่าย ๆ และดูเหมือนเจ้าภูติจะรู้เลยว่านายใหม่ของมันจะผิดหวังกับรูปลักษณ์ของมันมิใช่น้อยมันจึงออกอาการหดหู่ลงทันใด โดยที่หูของมันได้ลู่ตกลงมา

     

    “ช่างเถอะสภาพแกแบบนี้แล้วฉันก็คงตัดใจเอาแกออกมาสู้ไม่ได้หรอกนะ”

    “เอาน่ะไอ้โอค อย่างน้อยเราก็ทราบความสามารถอย่างนึงของสยบทศทิศที่พอนำภูติออกมาเราจะใช้ธาตุของภูติได้”   โอคโยนความคิดหวังจะพึ่งวินในการต่อสู้ทิ้งไปแล้วเอาก็จับอุ้มมากอดไว้

    “จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะ วิน”

    “อ๋อแล้วก็อยู่เฉย ๆ อย่าซนบินไปมาล่ะ เพราะฉันจะแอบไปดูหน่อยว่ายัยฟ้าใสจะรับมือเหล่าคนโฉดไหวไหม”  ว่าแล้วเขาก็อุ้มวินแล้วย่องเดินไปยังค่ายของเหล่าคนโฉด

     

     

                ภายในค่ายคนโฉด

    “ชิ้งงงงงงงงงงงงง”

    “ฉั๊วะ ๆ ๆ ๆ ๆ”

    “ชินายบ้านั่นทำสะเอะอะเลย”

    “พวกมันถึงได้แห่กันมารุมชั้นซินะ”   ฟ้าใสพูดอย่างหงุดหงิดเพราะการระเบิดหมู่ที่โอคสร้างขึ้นมาดันทำให้เหล่าคนโฉดที่เฝ้าค่ายรู้ตัวว่ามีผู้บุกรุก แผนของเธอที่หวังจะเข้ามาจัดการหัวหน้าค่ายแห่งนี้ และขมขู่เหล่าคนโฉดจึงพังลงไม่เป็นท่า

                แถมในตอนนี้เธอยังใช้กระบี่คู่ใจเข้าจัดการกับเหล่าคนโฉดที่ดาหน้ากันเข้ามาจัดการเธอไม่มีหมดอีกด้วย

    “ไม่ดีแน่ขืนฝืนปะทะต่อไปต่อให้เราระดับสูงกว่าพวกมันมากแค่ไหนก็ตามทางเราต้องเหนื่อยล้าก่อนเป็นแน่”   ฟ้าใสประเมินสถานการณ์โดยรวมแล้วเธอพบว่าอีกไม่นานเธอต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่แท้

    “ควับ”

    “บรึมมมมมมมมมม”

    “ฟู่ ๆ ๆ ๆ”   คิดได้ดังนั้นเธอจึงเบี่ยงตังฟันเข้าไปที่ลำตัวของคนโฉดที่โจมตีเข้ามาแล้วรีบนำระเบิดควันออกมาใช้งานทันที

     

    “ตามมันไปมันคงยังหนีไม่ได้ไกล”  เหล่าคนโฉดที่ไม่ได้แตกตื่นเลยแม้แต่น้อยรีบตะโกนสั่งขุมกำลังของพวกมันให้ไล่ติดตามฟ้าใสอย่างเร่งรีบ

                15 นาทีต่อมา

    “แหงะ”

    “ไหงค่ายมันดูโล่ง ๆ ล่ะเนี่ย”   โอคที่แอบย่องดอดเข้ามาถึงเต้นแห่งหนึ่งอย่างระมัดระวังเขาก็พบว่าเหล่าทหารยามที่เฝ้าอยู่ตรงเต้นท์ส่วนนี้แทบไม่มีเลยเขาจึงแอบเข้ามาด้านในเต้นท์ได้

    “วี้ ๆ ๆ ๆ ๆ”   เจ้าวินในอ้อมกอดออกแรงดิ้นเล็กน้อยเพื่อเตือนนายของมันถึงอะไรบางอย่าง

    “มีอะไรหรือวิน”  ว่าแล้วโอคก็หันไปมองยังทิศทางที่มันพยายามกางปีกน้อย ๆ ชี้บอก

    “เห้ย..........”

    “ในเกมมันมีด้วยเหรอเนี่ย”   ภาพที่โอคเห็นถึงกับทำให้เขาเหวอขึ้นมาทันทีเพราะภายในเต้นท์แห่งนี้ได้มีกรงขนาดไม่ใหญ่มากวางเรียงรายเอาไว้ แต่สิ่งที่อยู่ด้านในหาใช่สัตว์อสูรในเกม แต่เป็นเหล่า สาว ๆ ที่หน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น แถมสภาพร่างกายของพวกเธอล้วนมีแต่อาการอิดโรยแสดงออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดอีกต่างหาก

    “ฟึ่บ”

    “วี้ ๆ ๆ ๆ ๆ”   แต่ทว่าอยู่ ๆ เจ้าวินกลับเกิดอาการคล้ายไม่สบอารมณ์ขึ้นมามันจึงผละออกจากอ้อมกอดของโอคแล้วบินไปยังลูกกรงเหล่านี้พร้อมกับอ้าปากพ่นเอาพลังงานสายลมเข้าโจมตีเหล่าลูกกรงอย่างสุดกำลังแต่ก็ไร้ผล

     

    “อืม.........พวกแกคงเจ็บแค้นซินะวิน”

    “ถึงได้พยายามช่วยเหลือผู้หญิงพวกนี้”

    “ที่อยู่ ๆ ถูกใครก็ไม่รู้จับมาขังเอาไว้โดยไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันเลยแม้แต่น้อย”  โอคพูดออกมาอย่างเข้าอกเข้าใจในความรู้สึกของวิน และ อาจเป็นความรู้สึกของเหล่าภูติที่ถูกผนึกเอาไว้ในสยบทศทิศแทบทุกตัวตน

     

                ผู้เล่น โอคได้ ผ่านเงื่อนไข เข้าใจเหล่าภูติค่ะ

                ผู้เล่นโอคสามารถปลดผนึกเหล่าภูติทั้งหมดได้แล้วค่ะ

                เสียงแจ้งเตือนกล่าวจบเกราะแขนทั้ง 2 ข้างของเขาก็เกิดอาการสั่นไหวเล็กน้อยขึ้นมาราวกับสิ่งที่อยู่ด้านในนี้มันพร้อมที่จะออกมาเต็มทีแล้ว

    “เหอะ ๆ”

    “ขืนพวกแกออกมากันหมดด้วยความรู้สึกคับแค้นใจล่ะก็ฉันรับรองรองเลยมีหวังค่ายคนโฉดแห่กันมารุมยำฉันแน่”  เขามองเกราะแขนสยบทศทิศอย่างอ่อนใจ

    “แต่ฉันเถอะเต็มที่เลยพวกแกอย่างมากพวกเราก็กอดคอกันตายแหละฟร่ะ”

    “ลุย”

    “ปลดผนึกภูติทั้งหมด”

    “วิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”   โอคเตรียมใจเอาไว้แล้วเขาจึงเอ่ยปากปลดผนึกเหล่าภูติทั้งหมดของเขาออกมาทันที โดยที่สยบทศทิศได้แปล่งแสงสีสันหลากหลายขึ้นมา

     

                ผู้เล่นโอคได้ ผ่านเงื่อนไขพิเศษ  พร้อใจกับเหล่าภูติทำให้เหล่าภูติได้ทำการปลดผนึกพลังงานที่แท้จริงค่ะ

     

    “เห้ ๆ ๆ ๆ”

    “อย่าบอกนะว่า. . . . .”   โอคกลืนน้ำลายลงอึกใหญ่เพราะในตอนนี้เหล่าภูติทั้งหมดของเขาได้มีแววตาสว่างวูบวาบด้วยสีตามธาตุของตน

    “อยู่ไม่ได้แล้วในเต้นท์นี้เผ่นว้อยยยยยยยยยยยยยยยฉ๊าน”   แทบไม่ต้องคิดเลยว่าเขาจะอยู่ดูผลงานทำไมงานนี้โอคกล้ารับรับประกันได้เลยว่าค่ายคนโฉดเหล่านี้ต้องหายไปจากแผนที่ของเกมสัประยุทธ์ ออนไลน์แน่แท้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×