ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า

    ลำดับตอนที่ #9 : Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 5.2

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 55


    == == == Fiction  มันไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ แม้จะอยากให้จริงมากแค่ไหนก็ตาม == == ==
    **********************************************

     


    NutSin : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 5.2

     

    สองขาค่อยๆก้าวไปตามทางเดินช้าๆ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ไว้ข้างกาย  ร่างสูงเดินมาจนถึงลานจอดรถที่เงียบสงบ มืออีกข้างกดรีโมตกุญแจรถเพื่อปลดล็อค  นัทขึ้นไปประจำที่คนขับ มือข้างที่ถือโทรศัพท์ไว้กดหมายเลขที่เพิ่งโทรออกอีกครั้ง

     

    อีกฝ่ายยังคงไม่รับสายเช่นเดิม  เขาลองพยายามโทรหาอีกคนมาหลายรอบแล้ว  แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดใด  บางทีการโทรไปย้ำๆคงกำลังทำให้ฝ่ายนั้นรำคาญเขาอยู่ก็ได้  ตัดสินใจวางโทรศัพท์ไว้เบาะข้างคนขับแล้วออกรถ

     

     

    หลังกลับมาจากทริปที่เชียงใหม่  เขาก็ใช้เวลาอยู่กับตัวเองนานทีเดียว  เหมือนความสุขในตัวหายไปหมดสิ้น ทรมานอย่างไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบาย  ต่อหน้าแฟนคลับซินยังคงดูสดใสร่าเริงและพูดคุยกับเขาราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น  แต่คราใดที่อยู่กันสองคนทุกอย่างก็ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

     

    เมื่ออีกคนไม่พูดไม่คุย  จากเดิมที่มักจะตามง้อ พยายามหาทางเพื่อคุยด้วย แต่คราวนี้กลับยากเย็นเหลือเกินในความรู้สึก  ทุกครั้งที่เจอหน้ากันมันรู้สึกโหวงๆ  เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอะไรให้อีกคนหันมาสนใจ  เพราะที่เป็นแบบนี้ก็เป็นความผิดของเขาอย่างไม่มีข้อแก้ตัว

     

     

    --- RR RR R---

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มือใหญ่เอื้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วกดรับสาย

    “ครับพี่”

    “เราอยู่ไหนน่ะ”

    “อยู่คอนโดครับกำลังจะออกไปข้างนอก พี่โอ๊ตมีไร”

    “พี่จะโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้เข้าตึกด้วยนะ มีประชุมเรื่องคอน”

    “ครับ”

    “อื้มๆ เท่านี้แหละ”

    “ฮะ”

    “เออนัท...เรื่องซินเป็นไงมั้ง” น้ำเสียงที่ถามมาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

    “ก็...เหมือนเดิมพี่..ไม่รับสายเลย”

    “เห้ออ..ไหวไหมมึง...พี่ก็ไม่รู้จะช่วยไง”

     

    “ไม่เป็นไรพี่....ผมไหว”

     

    ....จริงๆคือต้องทนให้ไหวต่างหาก....


    คุยอีกนิดหน่อยพี่โอ๊ตก็วางสายไป  เขารู้ว่าพี่โอ๊ตเองก็คงคุยกับซินเรื่องนี้และคงพยายามช่วยพูดมาแล้วระดับหนึ่ง  แต่เรื่องส่วนตัวเรื่องความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถบังคับซินได้  เขาเองก็คงทำได้เพียงหวัง..หวังให้อีกคนจะเชื่อใจเขาอีกสักครั้ง

     

     

    รถคันงามเคลื่อนออกจากลานจอดรถมุ่งตรงไปยังสถานที่ที่เขามุ่งหมาย

     

    หลายวันมานี้เขาก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย  เลือกมานอนที่คอนโดแทนเพราะอยากอยู่คนเดียวมากกว่า  และดูจากสภาพตัวเองแล้วก็กลัวคนที่บ้านจะเป็นห่วง  แต่พออยู่กับตัวเองเงียบๆ ก็พาลทำให้เสียน้ำตาทุกครั้งที่คิดถึงอีกคน

    ยอมรับว่ายังมีมึนๆอยู่บ้างเพราะก็จัดเบียร์ไปมากพอตัว  แต่เขาอยากไปยังสถานที่หนึ่งมากกว่า  ที่ที่มีคนที่เขาคิดถึงมาตลอด

     

    อาจเพราะเป็นวันที่คนอื่นเขาทำงานกันและเป็นช่วงเวลาที่รถไม่ติด  ไม่นานนักรถคู่ใจก็เทียบจอดข้างกำแพงบ้านหลังที่คุ้นเคย  มาถึงไวกว่าที่เตรียมใจไว้  เขายังไม่ทันได้คิดเสียด้วยซ้ำว่าเมื่อถึงแล้วจะต้องทำยังไงต่อไป 

     

    นิ้วเรียวคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วพาดแขนตัวเองไว้ที่หน้าต่างรถ  พ้นควันลอยอ้อยอิ่งในอากาศระหว่างนั่งอยู่ในรถทำใจหาเหตุผลเข้าไปในบ้านหลังนี้ แล้วจู่ๆประตูรั้วบ้านก็เปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสูงอายุเจ้าของบ้าน แม่ของซินเอาถุงขยะออกมาทิ้งที่ถังขยะหน้าบ้าน  แล้วท่านก็พลันเห็นรถของเขา ซึ่งก็ต้องจำได้แน่นอนนัทจึงตัดสินใจดับบุหรี่แล้วลงจากรถไปทักคุณแม่ของซิน

     

    “ม๊าหวัดดีครับ” ยกมือขึ้นไหว้แล้วปิดประตูรถ

    “อ่าวนัท”หญิงสูงอายุยกมือขึ้นรับไหว้ มีท่าทีแปลกใจมากทีเดียวที่เห็นเขา

     “เอ่อ...ซินอยู่บ้านไหมครับม๊า” ถามออกไปทั้งที่พอจะเดาคำตอบได้ คงจะบอกว่าไม่อยู่อีกตามเคย เวลาโกรธกันซินมักจะให้ม๊าบอกแบบนี้เสมอ

     

    “อยู่ลูก...เข้าไปข้างในบ้านก่อนสิ”

    คำตอบทำให้นึกแปลกใจ ที่คราวนี้ม๊าไม่ช่วยโกหกให้ซิน  หรือเพราะซินไม่ได้สั่งห้ามไว้กันนะ

    หญิงสาวเดินนำมีชายร่างสูงเดินตามเข้าไปในบ้าน  ม๊าดูมีท่าทีเครียดๆแปลกๆไม่เอ่ยชวนคุยร่าเริงแบบปกติจนกระทั่งมาถึงห้องรับแขก

     

    “น้องซินดูเงียบๆหลังจากกลับมาจากเชียงใหม่...ทะเลาะกันใช่ไหมลูก”

     ม๊าเริ่มถามก่อนทำเอาผู้มาเยือนเครียดตามไปด้วย

     

    “.....ครับ”  ก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนถามเพราะเขาเองที่เป็นคนทำให้ซินเป็นแบบนั้น

     

    “ปกติเวลาทะเลาะกันเขาก็ยังพูดยังคุยเล่าให้ม๊าฟังบ้าง....จริงๆเขาสั่งไว้ว่าถ้านัทมาให้บอกว่าไม่อยู่แต่เขาเงียบจนม๊าเป็นห่วง...เลยว่าให้เราสองคนคุยกันดีกว่า”

     

    “เขาจะยอมคุยกับนัทหรอฮะ”

    “ลองดูนะลูก ...อยู่ในห้องนั่นน่ะ”

     

    เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านนัทจึงเดินขึ้นไปบนชั้นสอง มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง  แต่ไม่กล้าเคาะเรียกอยู่นานจนม๊าเดินตามมาแล้วเป็นคนเคาะเรียกให้แทน

     

    “น้องซินเปิดประตูให้ม๊าหน่อยลูก”

    แล้วเจ้าของห้องก็เปิดประตูมาจริงๆ ใบหน้าสวยมีท่าทีตกใจที่คนยืนอยู่หน้าห้องไม่ใช่ผู้เป็นแม่แต่คือนัท 

     

    “คุยกันนะลูก”

    แล้วม๊าก็เดินลงไปข้างล่างทิ้งเขาสองคนไว้ตามลำพัง

     

     

    “ขอเข้าไปได้ไหม”

     

    “อย่าดีกว่า....ลงไปรอข้างได้ไหม..เดี๋ยวเราตามลงไป” ตอบอย่างเย็นชาแล้วก็ปิดประตูใส่หน้า

     

    .....หนทางที่จะคืนดีคงอีกยาวไกล.....

     

    นัทลงมานั่งรอที่สวนหน้าบ้าน  กลัวใจอีกคนว่าจะให้เขาลงมารอเก้อรึเปล่า  แต่เมื่อซินบอกแบบนั้นต่อให้รั้นจะเข้าไปในห้องยังไงก็คงจะไม่ได้  จึงต้องจำยอมลงมานั่งรออยู่อย่างนี้  แต่ไม่นานก็ได้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ร่างบางเดินมาตามที่บอกเอาไว้  ซินนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อนฝั่งตรงข้ามพร้อมวางแก้วน้ำดื่มไว้ตรงหน้าเขา

     

    “ขอบคุณ”  เอ่ยขอบคุณไปเก้ๆกังๆ แล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี

     

    ร่างบางนั่งอยู่ตรงหน้านี้  แต่เขากลับไม่รู้จะเริ่มพูดว่าอะไรดี  ท่าทีที่มีให้กันเหมือนคนแปลกหน้ามากเสียจนในใจเริ่มเจ็บ

     

    “คุณร้องไห้มาเหรอ?”

    เสียงเล็กถามออกมาทำเอาเขาไปไม่ถูก ไม่คิดว่าจะถูกอีกคนถามเรื่องนี้เป็นประโยคแรก คงเพราะตาที่ยังแดงกล่ำที่เห็นชัดเจน

     

    “เอ่อ...ก็นิดหน่อย”

     

    “ร้องทำไม”

     

    “......”

     

    “เสียใจด้วยหรอ”

     

    “อย่าถามเหมือนนัทไม่มีหัวใจได้ป่ะวะซิน”

     

    “.......”  อีกฝ่ายเงียบไป ใบหน้าสวยนิ่งชะงัก  แต่ดวงตาคู่สวยกลับหลบมองไปทางอื่นไม่มองหน้าคนตรงข้าม

     

    “เสียใจที่ทำแบบนั้น...แต่ไม่ได้จะมีอะไรกับน้องเขาจริงๆไม่รู้จะทำยังไงให้เชื่อ.. แต่นัทพูดความจริง...เชื่อหน่อยได้ไหม”

     เสียงห้าวพรั่งพรูสิ่งที่อยากจะพูดออกมา 

     

    “........” 

    ซินยังคงเงียบ  และนิ่งอยู่แบบนั้น

     

    ต่อให้เขาพูดไปมากมายแค่ไหนคนคนนี้ก็ยังคงไม่มีท่าทีโอนอ่อนตามด้วยเลย  ทะเลาะกันด่ากันยังดีเสียกว่าสิ่งที่เป็นอยู่  คิ้วเข้มขมวดเพราะความอึดอัดที่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรเลย จนรู้สึกอ่อนแรงแล้วเงียบไปบ้าง

     

     

     

    เราจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลยหรอ

    คำถามที่คิดมาตลอดทั้งคืนหลุดโพร่งมาหลังจากเงียบไปนาน  เขาอยากรู้คำตอบ รู้ให้มันชัดเจนไปเลยดีกว่าที่จะต้องทรมานอยู่แบบนี้

     

     

    กลับไปเป็นแบบเดิม ...ซินไม่เอาหรอก

     

     

    คำตอบที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนอยากทรุดลงไปกองกับพื้น  ความผิดครั้งนี้ของเขาถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง แพงเสียจนต้องสูญเสียคนตรงหน้าไป  เหมือนเส้นด้ายบางๆที่เหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์ครั้งนี้เอาไว้ขาดสะบั้นลงต่อหน้าต่อตา

     

     

    แปลว่าเรา...จบกันแล้ว...จริงๆ..ใช่ไหม น้ำเสียงสั่นเครือถามออกไปแทบไม่เป็นประโยค  

     

     

    อื้ม...เราจบกันแล้ว...หลังจากนี้คุณอยากจะคบใครทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของคุณ

     

     

    .......

     

    ไม่มีคำใดจะเอ่ย คนตรงหน้านี้ไม่มีแววตาเศร้าเสียใจแบบที่มีในคืนนั้นอีกแล้ว  หากแต่มีเพียงแววตาที่มั่นคงและแน่วแน่ส่งมาให้

     

    ร่างสูงค่อยๆขยับเพื่อลุกขึ้นยืน  นั่งต่อไปคงไม่มีความหมาย ที่ตรงนี้คงไม่ได้มีไว้สำหรับคนแบบเขาอีกแล้ว มือที่ท้าวโต๊ะเอาไว้เพื่อยันตัวเองขึ้นสั่นเอาซะดื้อๆ  

     

    เดี๋ยว”  เสียงเล็กเอ่ยเรียกทำให้คนที่กำลังจะลุกชะงักงัน

     

     

    ........... หันกลับไปมองคนหน้าหวานอีกครั้ง  ภาพตรงหน้าดูเลือนลางเพราะถูกบดบังด้วยน้ำใสๆที่เอ่อดวงตา  เขาไม่ได้อยากร้องไห้ฟูมฟายต่อหน้าซินแบบนี้  ไม่อยากอ่อนแอไปมากกว่านี้แล้ว แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนคนนี้จะทำให้เขารู้สึกเจ็บได้มากเพียงนี้

     

    โสดแล้ว...อยากทำอะไรก็ทำ

     

     

    จบคำก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กวางไว้บนโต๊ะตรงหน้านัท  มือใหญ่เอื้อมหยิบกระดาษมาพร้อมๆกับร่างบางที่ลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินจากไป  เรียวขาเล็กก้าวจากไปช้าๆ แผ่นหลังบางที่เขาอยากเข้าไปสวมกอดกำลังจะกลายเป็นอดีต...

     

    ใบหน้าคมก้มลงมองกระดาษ  มือสวยรู้หน้าที่ดังใจหมายคลี่แผ่นกระดาษออกเพื่ออ่านเนื้อความในนั้น

     

     

    - - - - เมื่อคืนในห้องพี่นัทบอกมิ้นว่า ผมมีคนที่รักอยู่แล้วนะ  ผมมีอะไรกับคุณไม่ได้หรอก

              นี่คือความจริงทุกอย่างนะคะ  มิ้นไม่ได้อยากปกป้องใคร แต่แค่ไม่อยากทำให้คนรักกันต้องเข้าใจผิด

              ขอโทษสำหรับทุกอย่าง  จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตพี่สองคนอีกแล้วค่ะ - - - - -

     

                                                                                                                                    มิ้น

     

     ไม่รู้หรอกว่าจริงไหม คุณกับน้องอาจจะโกหก  หรืออาจจะจริง ทุกอย่างคุณรู้อยู่แก่ใจ

                                                     แต่จะถือว่าเรา จบเรื่องในอดีต ไว้เท่านี้ …..

    ถ้าคำว่า รัก ของคุณยังมีความหมาย  .....

    ก็แล้วแต่ว่าคุณจะใช้ชีวิตโสดของคุณหลังจากนี้ไป เพื่อใคร

     

                                                                                                                                                    -- รัก ---

     

     

    ลายมือตวัดที่คุ้นตาเขียนต่อท้ายส่วนล่างของจดหมาย เขาจำได้ดีว่าคือลายมือของใคร.....

     

    ......ถ้าสิ่งที่เขาเข้าใจไม่ผิดไป....

     

     

    นัทโสดแล้ว....งั้นก็แปลว่านัทจีบซินได้ใช่ไหม !!”

     

    ตะโกนถามร่างบางที่ยังหันหลังให้เขาอยู่  ตาโตเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง

     

     

    ……ขอให้สิ่งที่คิดเป็นจริงด้วยเถอะ.......

     

     

    คุณโสดแล้วหนิ....อยากจีบใครซินจะมีสิทธิว่าอะไร 

     

     

    จบคำของร่างบางก็เหมือนฟ้าที่มีเมฆหมอกมันหายไปกับตา  ฉีกยิ้มออกมาแบบที่ไม่คิดจะหยุดยั้งความดีใจเอาไว้  ร่างสูงลุกขึ้นวิ่งตามร่างบางที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ดึงร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้แน่น  กอดรัดแน่นจนคนในอ้อมแขนเริ่มร้องประท้วง

     

     

    โอ้ย..ซินเจ็บนะเว้ย !” เสียงเล็กอู้อี้พูดออกมา ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มเขินๆ

     

    จะกอดเอาไว้แน่นๆ จะไม่ปล่อยให้คุณไปไหนอีกแล้ว ใบหน้าหล่อซบลงที่ไหล่บาง

    คนหน้าหวานหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน เขามีความสุขทุกครั้งที่มีนัทอยู่ข้างกายแบบนี้

     

    .........ขอให้การตัดสินใจในครั้งนี้ของเขาไม่ผิดด้วยเถอะ..........

     

     

    เห้ย!....ปล่อยก่อนเลย แฟนเขาก็ไม่ใช่มีสิทธิอะไรมากอด

    ร่างเล็กเริ่มดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ แต่มันกลับเป็นดิ้นที่ทำให้กอดแนบแน่นขึ้นไปอีกต่างหาก

     

     

    อีกไม่นานก็เป็นแฟน คอยดูสิ เสียงห้าวเอ่ยออกไปอย่างมั่นใจ  ครั้งนี้เขาจะทำทุกอย่างให้ซินเชื่อมั่นในตัวเขาให้ได้

     

    ทำให้ได้เถอะ

    ริมฝีปากอิ่มคว่ำลงแบบดูถูก ดวงตาโตยิ้มสดใสบ๊องแบ๊วแบบที่เขาชอบมองกลับมาอีกครั้ง

    นัทหัวเราะร่าเสียงดังชอบอกชอบใจที่เห็นซินกลับมาเป็นคนเดิม

     

    แหงอยู่แล้ว...นี่ค่ามัดจำ

     

     

    แขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบเอวบางเอาไว้ แต่มืออีกข้างย้ายมาเชยคางใบหน้าสวยให้เข้ามาใกล้   แพขนตายาวสวยอยู่ใกล้เพียงคีบ  ตาคมจ้องมองซิน ดวงตาคู่งามจ้องกลับมาเต็มไปด้วยแววแห่งความสุข ไม่ต้องมีคำพูดใดคนตรงหน้าคงรู้ว่าความรักที่มีให้กันมากมายขนาดไหน  นัทกดริมฝีปากตัวเองแนบชิดกับกลีบปากอิ่มนั้น  ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มลงเผยอปากรับรสจูบแสนหวาน  บดเม้มอย่างโหยหาซึ่งกันและกัน แขนเล็กโอบรอบคอนัทเอาไว้อย่างเคยชิน  จมูกโด่งคลอเคลียหยอกเย้าจมูกสวยของคนตัวเล็ก  ลมหายใจถี่รดรินกันอยู่ไม่ไกล ร่างสูงรุกล้ำจูบเนิบนาบและเนิ่นนานอย่างนั้น  จนร่างบางเริ่มหอบหายใจถี่ถดถอยปากตัวเองออกอย่างเขินอาย เมื่ออิ่มเอมกับรสสัมผัสนัทจึงยอมผละออกจากกลีบปากอวบอิ่มนั้นแต่โดยดี

     

    ใบหน้าคมยิ้มกริ่มเมื่อเห็นผิวแก้มใสกลายเปลี่ยนเป็นสีแดง  ซินน่ารักเสมอเวลามีท่าทีเขินอายแบบนี้ กลิ่นกายที่หอมยังไงก็ยิ่งหอมชวนให้หลงใหลมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอยากมองไม่วางตา

     

    มองอะไรเล่า  ปล่อยได้แล้วเหม็นบุหรี่ ดิ้นเบาๆแล้วตีแขนแกร่งเปลี่ยนเรื่องแก้เขิน นัทหัวเราะร่วนลงคอแต่ยังไม่ยอมปล่อย  กลับยิ่งมองหน้าคนตัวเล็กอยู่อย่างนั้น ซินกลับหลบสายตาหันหลบยิ่งเขินหนักยิ่งอยากแกล้งหยอกมากขึ้น

     

    ขอบคุณที่ให้โอกาสนัทนะคะ

    แล้วจุมพิตที่หน้าผากคนตัวตัวเล็ก คนสวยยิ้มตอบกลับมาให้….

     

    ก่อนแววตาใสๆนั้นจะเปลี่ยนเป็นสายตาเย็นๆแปลกๆส่งมาให้ในฉับพลัน  มือสวยบีบแก้มนัทแรงๆจนปากยื่นแล้วเอ่ยด้วยเสียงเฉียบขาด...

     

     

    “แต่คราวหน้าซินไปจริงๆนะเว้ยบอกไว้เลย !

     

     To Be Con....
    *********************************************************************************************

    P.K.M Talk >>>  กลับมาแล้ววว หายไปเป็นอาทิตย์เลยนิ แหะๆยุ่งๆนิดหน่อยค่ะ ความจริงแต่งตอนนี้เสร็จควรจะรู้สึกแฮปปี้เนอะ แต่แบบแอบมีเรื่องให้เซ็งอีกละ เห้อออออออ....=,=

    ตอนนี้ก็ ..อ่านะคะตามคำเรียกร้องเราก็ไม่ได้อยากให้พี่นัทหงอยขนาดนั้น  แต่พอมาอ่านๆดู(ผสมกับอารมณ์ตอนนี้)ก็สะใจดี 555(ซาดิส)
    พี่ซินไม่น่าเชื่อง่ายๆน่าจะให้หลาบจำมากกว่านี้ (นี่แกแต่งเองจะมาเคืองอะไรเอง) 
    วุ้ยๆ แล้วๆกันไป ....  แต่คราวหน้าเธอโดนหนักแน่โชติวุฒิ !!


    แล้วก็ขอบคุณทุกท่านทั้งที่เป็นขาประจำและที่บังเอิญมาป๊ะกับฟิค OTOP ของเรานะคะ 
    ยินดีปรีดามากที่มีคนบอกว่าชอบ  มีกำลังใจอย่างสูงสุด   รักนะคะชาว OTOP ~ ~

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×