คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 5.1
= = = Fiction : มันเป็นจินตนาการนะคะ ไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ = = =
*********************************************
NutSin : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 5
“คุณทำให้ซินเกลียดตัวเอง..”
เสียงเล็กพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงันที่เกิดขึ้นหลังจากหญิงสาวปิดประตูลง
“ซินเกลียดการไร้เหตุผล เกลียดการต้องมาคอยจับผิด ...ฮึก...คนรักกันต้องมีความไว้ใจ...แต่..ซินมีให้คุณไม่ได้เลย...ฮึก..”
ร่างสูงค่อยๆเคลื่อนกายเข้าไปใกล้ร่างบางที่นั่งอยู่ เขาอยากเข้าไปปลอบใจอีกคน แต่ความผิดก็เป็นของเขาเองทั้งสิ้น
“ไร้ค่าที่สุด !...ต้องมาตามแย่งคุณคืนจากผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้”
มือสวยปาดน้ำตาตัวเอง แต่แรงสะอื้นยังมากมายเหลือเกิน เกินกว่าจะที่ห้ามไว้ได้
ใช่ที่เขาเคยรับได้ หากนัทจะไป “อะไรๆ” กับผู้หญิงคนอื่นเพื่อความสนุกชั่วครู่ชั่วคราว แต่มันต้องไม่ใช่กับคนเดิม เพราะมันตามมาด้วยสิ่งที่เขากลัวเสมอ กลัวนัทเผื่อใจให้คนอื่น กลัวนัทเห็นคนอื่นดีกว่าเขา
รู้..ไม่ใช่ไม่รู้ว่ายิ่งทำตัวแบบนี้ก็ยิ่งเป็นคนงี่เง่าน่าเบื่อ สักวันนัทอาจจะเหนื่อยและจากเขาไปก็ได้
แต่...เขาใจกว้างยังไม่มากพออีกหรือ การยอมให้คนที่ตัวเองรักไปกับผู้หญิงคนอื่นได้ มันไม่มากพอแล้วหรือ
แล้วเขามีสิทธิ์ไหมที่จะไม่ยินยอมแล้วสำหรับข้อตกลงนี้ ไม่อยากให้ใครได้ใกล้นัทอีกแล้ว
“นัทไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งกับน้องเขาแล้วจริงๆ” เสียงทุ้มเอ่ยอะไรออกมาบ้างหลังจากนิ่งฟังร่างบางอยู่นาน
“แต่เข้ามาในห้องกับเขาอย่างนี้หรอที่ว่าไม่ยุ่ง?” ดวงตาคู่สวยที่บวมช้ำมองหน้าอีกคนแบบไม่เข้าใจ
“ก็แค่เข้ามาคุย..ไม่ได้มากไปกว่านั้น”
“คุณเห็นซินเป็นเด็กอมมือหรอ ”
เริ่มขึ้นเสียงเพราะความอึดอัดใจที่อีกคนยังกล้าที่จะปฏิเสธ ความไว้เนื้อเชื่อใจตอนนี้หายไปหมดสิ้น ก่อนหน้านี้นัทกล้าบอกกับเขาว่าไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนนี้หรือคนไหนอีกแล้ว แต่สิ่งที่ทำกลับตรงกันข้าม
“นัทผิดเองที่เมาจนไม่รู้เรื่อง..แล้วเข้ามาในห้องแบบนี้..แต่...แต่นัทไม่ได้อยากจะ..”
“พูดไปมันก็ไม่ได้ฟังดูดีขึ้นหรอกนัท” ซินเถียงขึ้นมาก่อนที่นัทจะทันพูดจบ
“...........”
“คุณบอกว่าอยากให้ซินเป็นคนมีเหตุผล...แต่ครั้งนี้คุณกลับไม่สามารถหาเหตุผลที่ฟังขึ้นให้ซินได้”
พูดไปน้ำใสๆก็หยดแหมะลงข้างแก้ม ไม่รู้ว่าด้วยเพราะความโกรธหรือเสียใจมากกว่ากัน
ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียง ค่อยๆเดินมาหยุดลงข้างร่างบางที่เริ่มร้องไห้หนักอีกครั้ง มือใหญ่เอื้อมไปหมายจะจับมืออีกคนไว้ แต่ซินกลับชักมือหนีไปเสียก่อน นัทจึงตัดสินใจย่อตัวคุกเข่าลงตรงหน้าร่างบาง
“นัทต้องทำยังไงซินถึงจะเชื่อ” ใบหน้าคมเงยขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ้อนวอน
เขารู้ว่าที่ทำไปในวันนี้คงทำร้ายความรู้สึกของซินมาก เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ขาดสติยั้งคิดไป
แต่เขารู้ใจของตัวเองเสมอว่าตอนนี้ไมมีใครที่จะสำคัญเกินคนคนนี้
“.................” ไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมาจากอีกคน ซินไม่มองหน้านัทเสียด้วยซ้ำ
แววตาทีซ่อนอยู่หลังแว่นเศร้าสร้อยเหลือเกิน นั่นยิ่งทำให้นัทเองก็เจ็บปวด อยากจะต่อยตัวเองสักหมัดที่ทำอะไรขาดสติได้แบบนี้
บรรยากาศในห้องกลับเงียบงันอีกครั้ง เงียบเสียจนแทบจะได้ยินเสียงนาฬิกาที่ขยับไปช้าๆ
นัทยังคงนั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นไม่เคลื่อนไปไหน จากเคยพยามสบตาซินก็ต้องยอมถอดใจ สุดท้ายก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับความผิดของตัวเอง
เขารู้มาตลอดว่าสิ่งที่ซินไม่ชอบที่สุดในตัวเขาคือเรื่องความเจ้าชู้ ซินเคยบอกว่าความไว้ใจกันเป็นเรื่องสำคัญของคนที่จะเริ่มความสัมพันธ์กันทุกรูปแบบ แต่ก็ยังพยายามยอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ช่วงหลังๆมาเขารู้สึก “เพียงพอ” แล้วกับคนคนนี้
..........ซินมีค่าสำหรับนัทนะ.....
“เราลองหยุดเรื่องของเราไว้แค่วันนี้ดีไหม?”
คำถามที่ผ่ากลางความเงียบทำให้คนฟังเงยหน้าขึ้นมองร่างบางอย่างตกใจ มือใหญ่รีบคว้ามือสวยไว้แน่น
“ซิน...”
.....ไม่.......ไม่นะ.....
เหมือนใจถูกบีบแรงๆและยิ่งบีบแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าสวยดูเยือกเย็นและเด็ดขาดจนเขากลัว แม้กายจะสัมผัสกันแบบนี้แต่ซินกลับเมินเฉยเหมือนเขาอยู่แสนไกล
ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นยืน มือที่ถูกยื้อเอาไว้ถูกแกะออกจนพ้นพันธนาการ แล้วเคลื่อนกายผ่านหน้าคนที่คุกเข่าราวอ้อนวอนไปอย่างไม่หันกลับมามอง นัทลุกขึ้นเดินตามอีกร่างแขนแกร่งฉุดรั้งร่างบางเอาไว้
“ซิน...อย่าทิ้งนัทไป…ขอโทษได้ไหม..อภัยให้กันได้ไหม”
ดึงร่างนั้นเข้ามากอดจากด้านหลัง ใบหน้าคมซบลงตรงไหล่บาง
“นัทต่างหากที่เป็นคนทิ้ง...ทิ้งความเชื่อใจของซินไปหมดแล้ว”
*********
คืนนั้นซินกลับไปที่ห้องทิ้งนัทไว้ในห้องนั้นคนเดียว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ห้องนี้ทำไม ห้องของใครก็ไม่รู้เสียด้วยซ้ำ ยิ่งพาลโกรธตัวเองหนักกว่าเดิม ผลสุดท้ายนัทไม่รู้จะไปนอนที่ไหนจึงต้องไปขอนอนห้องพี่ทีมงาน พอเคาะห้องโอ๊ตเปิดประตูมาที่ตั้งท่าจะด่าก็ต้องชะงักไปเพราะดูอาการมือกีต้าร์จะแล้ว คงโดนอีกฝ่ายจัดการมาซะหน้าที่เคยดูหาเรื่องคนอื่นกลายเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ได้ขนาดนี้
“พี่...ขอนอนด้วยดิ”
ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้น ด้วยความสงสารโอ๊ตจึงตัดสินใจยอมให้เข้ามาในห้อง ผู้จัดการแบ่งเสื้อผ้าของตัวเองมาให้นัทเพื่อใช้ใส่นอนไปก่อนเพราะดูท่าแล้วคงมาทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าห้องตัวเองเสียด้วยซ้ำ นัทเอ่ยขอบคุณแล้วนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพักใหญ่ พี่ในห้องสองคนไม่มีใครกล้าถามอะไรเพราะคาดว่านัทเองก็คงยังไม่พร้อมจะเล่าสิ่งที่ตัวเองเจอมา นั่งได้สักพักก็หันมาขอบุหรี่แล้วเดินออกไปนอกระเบียง
“ศิลปินกู..กลายเป็นหมาหงอยเลยไง” ได้แต่ส่ายหัวพลางมองดูมือกีต้าร์ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่อยู่อย่างนั้น
ผ่านไปเป็นชั่วโมงนัทก็ยังไม่กลับเข้ามานอน โอ๊ตที่ตอนแรกนั่งรอก็แล้วออกไปเรียกก็แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมเข้ามา จึงตัดสินใจเข้านอนไปก่อน พอสว่างตื่นเช้ามาก็เห็นมือกีต้าร์นั่งฟุบหลับตรงโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูเวลายังพอมีเวลาเหลือให้นัทพักอีกสักหน่อย ขืนเรียกตอนนี้ก็คงมีสภาพไม่ต่างจากศพไปเจอแฟนคลับ เมื่อทำภารกิจตัวเองเสร็จก็ไปยังห้องของศิลปินในความดูแลอีกคน
- - -ก็อก ก็อก - -
ประตูเปิดออกในชั่วอึดใจ พร้อมกับใบหน้าสวยที่อยู่ในสภาพโทรมไม่ต่างกันกับเจ้าคนที่อยู่ในห้องเขา ตายังช้ำแดงอยู่อย่างเห็นได้ชัด
“ลงไปไหวไหมเนี่ย” ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวฮะ เดี๋ยวอาบน้ำแปปนึง”
“อื้ม...พี่มาเอาเสื้อผ้าให้ไอ้นัทด้วย เมื่อคืนมันเป็นหมาป่วยไปขอนอนห้องพี่นั่นน่ะ”
ซินจึงเดินเข้าไปในห้องแล้วกลับมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของนัท
“เมื่อคืน...เป็นไง” ตัดสินใจถามเพราะถ้าไม่ถามเจ้าสองคนนี้ก็คงไม่มีใครยอมบอก
ซินเงียบไป ก่อนตัดสินใจตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“มันจบแล้วพี่”
พูดจบก็กลับเข้าห้องไป นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าคนที่อยู่ในห้องของเขาไม่เป็นอันหลับอันนอน เห็นมันมีผู้หญิงเข้ามาเกาะแกะตลอดแบบนี้ แต่เวลานัทมันตกลงคบใครแล้ว มันก็จะเป็นจะตายเอาให้ได้ถ้าเขาทิ้งมันไปก่อน
แต่จะว่าไปไอ้ที่ถูกทิ้งทุกครั้งก็เพราะทำตัวเองตลอดนี่นา นิสัยสนุกมากไปนั่นแหละที่ทำให้ไม่มีใครสักคนทนได้
ตอนแรกที่ซินมาเล่าเรื่องที่ยอมรับได้ที่เจ้านัทจะไปกับสาวๆเขาเองก็แปลกใจว่า คนอย่างซินทนได้อย่างไร แต่แล้วสิ่งที่เขาคิดก็เป็นไปตามคาด ยิ่งนานยิ่งผูกพัน มีหรือที่จะทนเห็นคนของตัวเองไปเป็นของใคร ...แม้จะแค่ข้ามคืนก็ตาม.....
กลับมาที่ห้องร่างที่เคยฟุบหลับอยู่ก็หายไปแล้ว มองหาจึงพบว่าออกไปยืนสูบบุหรี่นอกระเบียงอีกตามเคย ร่างสูงยืนหันหลังพิงขอบระเบียงเอาไว้ นิ้วเรียวสวยคีบบุหรี่ออกจากปากก่อนพ่นควันนิโคตินให้ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
“สูบมากแฟนคลับเหม็นนะมึง” พูดแล้วก็ดึงบุหรี่ออกมาจากมือแล้วยันผ้าขนหนูใส่มือศิลปินแทน
“นิดนึง..หมดมวนไปละพี่” เอื้อมมือจะมาแย่งบุหรี่คืน
“นัทมึงอย่ามากลับไปทำตัวแบบเดิมนะ” โอ๊ตเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“..............” นัทหยุดแย่งบุหรี่แล้วนิ่งฟัง
“รู้ว่าเขาโกรธเพราะอะไรก็แก้ไขดิวะ...มึงยิ่งทำตัวแย่ทำแต่สิ่งที่เขาไม่ชอบ..มึงว่าเขาจะกลับมาหามึงหรอ”
ฟังคำจบสองแขนก็ท้าวเข้ากับระเบียงแล้วซบหน้าลงบนแขนตัวเองอย่างอ่อนแรง
“ผมแม่งเหี้ยว่ะพี่”
น้ำเสียงที่รู้ว่าปนเสียงสะอื้นทำให้โอ๊ตได้แต่ตบหลังปลอบใจน้องชาย มันคงอยากร้องมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และพอเขาพูดก็เหมือนไปเปิดจุกก็อกให้น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา
“ซินมันรักมึงมากนะ....แล้วถ้ามึงรักมันก็ต้องทำให้มันรู้ให้ได้ด้วยการกระทำดิวะ”
**********
มือสวยเอาผ้าขนหนูขึ้นเช็ดหน้าพร้อมกับเดินออกมาจากห้องน้ำ การได้อาบน้ำก็ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแม้เมื่อคืนจะไม่ได้นอนเลยก็ตาม ความจริงอยากจะหมกตัวอยู่ในห้องนี้ตลอดทั้งวันมากกว่า มองกระจกเห็นรอยช้ำที่ตาตังเองแล้วยิ่งไม่อยากไปเจอหน้าใคร แต่ก็ต้องทนใส่คอนแทคเลนส์ วันนี้คงต้องใช้บริการแว่นกันแดดอย่างเหนียวแน่น แต่ปัญหาเรื่องอะไรก็ไม่หนักใจเท่ากับการต้องลงไปเจอหน้า...อีกคน....
แล้วเราก็จะต้องสร้างภาพทำเป็นสนิทสนมกันแบบเดิมด้วยสินะ....
..........นั่นแหละที่คิดหนัก.........
แต่งตัวเสร็จก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กใกล้ประตูเพื่อใส่ถุงเท้า พลางเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่สอดอยู่ตรงช่องใต้ประตูห้อง จึงหยิบขึ้นมาเมื่ออ่าน พบกับลายมือที่ไม่คุ้นตา
- - - - เมื่อคืนในห้องพี่นัทบอกมิ้นว่า “ผมมีคนที่รักอยู่แล้วนะ ผมมีอะไรกับคุณไม่ได้หรอก”
นี่คือความจริงทุกอย่างนะคะ มิ้นไม่ได้อยากปกป้องใคร แต่แค่ไม่อยากทำให้คนรักกันต้องเข้าใจผิด
ขอโทษสำหรับทุกอย่าง จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตพี่สองคนอีกแล้วค่ะ - - - - -
“มิ้น”
น้ำใสๆหยดแหมะลงบนกระดาษแผ่นเล็ก ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อข้อความเหล่านี้หรือไม่
แต่ยอมรับไปแล้วว่ามันทำให้ภายในใจเหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงอีกครั้ง ค่อยๆพับกระดาษแผ่นเล็กใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเปิดประตูห้องออก ....เพื่อพบกับวันใหม่อีกครั้ง…….
To Be con…..
*******************************************************************************
P.K.M Talk : ในที่สุดก็มาต่อแล้ววววว ปั่นจนน่องโป่งเลยค่ะ (ปั่นฟิคนะแกไม่ใช่ปั่นจักรยาน!)
ตอนนี้ก็แอบสงสารพี่นัทนะเอ้อ แต่ก็นะ ภาพมันตำตาอ่ะ เป็นใครใครจะเชื่อว่าไม่มีอะไร ทำตัวดีดีเอาไว้ละกันพ่อคุณเผื่อแม่เค้าจะใจอ่อนลงมาบ้าง
และส่วนนี้สำหรับคนที่ติดตามฟิค OTOP ของเราแล้วบอกว่าชอบ */\* ขอบคุณมากนะคะ ถึงขั้นว่าจะยอมซื้อเล่มรวมเลยหรอ ปลื้มม๊ากกกกกกกก และทุกๆคำติชมไม่ว่าจะเรื่องสำนวน เรื่องคาแรกเตอร์ พออ่านแล้วมีกำลังใจอย่างสูง (มากจริงๆนะ)
ก้มกราบบบบ แล้วคลานเข่ากลับไปนอนคิดตอนต่อไป ~~~ รักอ๊ะ ! >//<
ความคิดเห็น