ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า

    ลำดับตอนที่ #6 : Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 4.1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 55


    == Fiction มันเป็นเพียงจินตนาการ
    ~อยู่ในฝันฉันเรื่อยไป โลกความจริงเป็นเช่นไร ฉันไม่รู้ไม่สนใจ~ = =

     

     

    *****************************************************

    NutSin : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 4

     

    เครื่องปรับอากาศทำงานให้ความเย็นอย่างคงที่ ทำให้คนที่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนากระชับผ้าให้ปกคลุมกายมากขึ้นกว่าเดิม  แขนแกร่งยังคงโอบอยู่ที่เอวบาง  ซินพลิกตัวหันหลังให้อีกร่างที่หลับสนิท  แม้จะเคยมานอนที่นี่หลายครั้งแล้วแต่ด้วยเป็นคนหลับยากจึงทำให้เขาตื่นขึ้นมากลางดึก  มือสวยเอื้อมไปกดนาฬิกาหัวเตียง  นาฬิกาเรืองแสงบอกเวลาตีห้ากว่าแล้ว  ยังคงรู้สึกเพลียอยู่และเจ็บแปล็บที่กลางลำตัว  เมื่อคืนเขาทั้งคู่เผลอหลับกันไปตอนไหนก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าดื่มไปมากเอาการ  และก็”จัดหนัก”ไปหลายรอบ  แล้วตอนนี้ก็ปวดหัวขึ้นมาหน่อยๆ 

     

    ร่างบางขยับอีกครั้งหมายจะลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ต้องชะงักเพราะเมื่อสำรวจร่างกายตัวเองกลับพบว่ายังเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนข้างกาย  พยายามหันไปมองหาชิ้นส่วนที่ใกล้ตัวที่สุด  แต่ในห้องนอนห้องนี้กลับไม่พบเลย...

    ตอนนี้อยากเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างตัวแล้ว  สุดท้ายจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปห้องน้ำทั้งๆที่ไม่มีอาภรณ์ชิ้นใดห่อหุ้มกาย

     

    “ค่อยยังชั่วหน่อย...”

     

    พูดออกมาอย่างผ่อนคลายเมื่อหย่อนตัวเองลงบนอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอุ่นๆผสมครีมอาบน้ำหอมฟุ้งไปทั่วห้อง  แขนบางค่อยๆเคลื่อนเอาฟองน้ำลูบไล้แขนตัวเองช้าๆ  แล้วก็ต้องมุ่ยหน้าเพราะความเจ็บ  ผิวขาวบัดนี้มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆตรงต้นแขน

    พลางให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อขึ้นแล้วก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ

     

    ......ไอ้นัทบ้า...ทำคนอื่นเจ็บ....

     

    แช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำอยู่พักใหญ่  ก็ได้ฤกษ์ออกมาจากห้องน้ำ  โดยมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวเอาไว้  กลับเข้าห้องนอนมาเอาเสื้อผ้า อีกคนยังคงหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง  ดูจากสภาพก็เหนื่อยอ่อนไม่ต่างกัน  ใบหน้าสวยเผลอยิ้มแล้วส่ายหัวอย่างเอ็นดูแล้วเดินไปจับผ้าห่มให้ปกปิดร่างล่อนจ้อนนั่นให้มิดชิด

     

    แต่งตัวเสร็จแสงอาทิตย์ก็เริ่มแย้มออกมาแล้ว  ซินเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น สภาพที่เห็นราวกับเกิดศึกสงครามย่อมๆ เสื้อผ้าของเขาและนัทกระจัดกระจายไปทั่ว  ตั้งแต่หน้าประตูยันโซฟากลางห้อง มือสวยค่อยๆเก็บชิ้นส่วนอย่างเขินอายตัวเอง 


    ......นี่เราทำอะไรไปเนี่ย...>///<

     

    พอเก็บเสื้อผ้าใส่ตะกร้าจนหมดแล้วซินก็เริ่มเข้าครัวเปิดตู้เย็นควานหาวัตถุดิบเพื่อทำอาหารมื้อเช้าให้กับตัวเองและอีกคน

     นัทไม่ค่อยได้มาอยู่ที่นี่เท่าไรนักจึงไม่ค่อยมีอะไรให้กินมาก  จะมีก็แต่เส้นสปาเกตตี้และมักกะโรนีที่เขาเองเป็นคนซื้อมาติดคอนโดเอาไว้  ยังดีที่มีผักอีกนิดหน่อยที่ยังพอเอามาทำเมนูง่ายๆสำหรับเช้านี้

     

    “หอมจังทำไรอ่ะ” แขนแกร่งโอบรอบเอวจากด้านหลังคนที่กำลังผัดมักกะโรนีอย่างตั้งอกตั้งใจ  แผ่นอกเปลือยเปล่าแนบชิดกับแผ่นหลังบาง  ทำให้คนถูกกอดหันหน้ามามอง

     

    “คุณ! ไปใส่เสื้อผ้าก่อนเลย!” ตีเข้าให้ที่แขน 

    “อะไร ก็นี่ไงนัทใส่บ็อกเซอร์อยู่เนี่ย”

    “ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วมากินข้าว ไปเลย!” วางตะหลิวลงแล้วแกะมือปลาหมึกที่ยังเกาะแกะไม่เลิก

    “ขอหอมทีนึง”

    “ไม่ให้ ไปเลยตัวเหม็น !

    ไล่จนในที่สุดคนตัวใหญ่กว่าก็ยอมปล่อยมือแล้วเข้าห้องน้ำไป  ซินส่ายหน้าออกมาอย่างเอือมๆแต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

    ไม่นานอาหารเช้าก็เสร็จ ซินจัดวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยเพื่อรอให้อีกคนออกมาทานด้วยกัน

     

     

    ---RR RR RR ---

    เสียงโทรศัพท์ของนัทดังอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา  ซินเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้ในเครื่อง

     

    “นัท! โทรศัพท์ไม่รู้ใครโทรมา” ซินเดินไปตะโกนบอกคนในห้องน้ำ

    “รับเลย”

     


    เมื่ออีกคนอนุญาตในรับสายแทน  จึงกดรับแล้วเอาโทรศัพท์แนบหู

    “ฮัลโหล ครับ”
    “พี่นัทหรอคะ” เสียงหญิงสาวมาจากปลายสายดูท่าดีอกดีใจที่มีคนรับสาย

    “เอ่อ..ไม่ใช่ครับ..นัทไม่ว่างรับสาย”

    “อ่าวพี่นัทไปไหนอ่ะคะ”

    “เข้าห้องน้ำอ่ะครับ  ฝากอะไรไว้ไหมครับ” ....ใครกัน.....
    “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฝากบอกพี่นัทด้วยนะคะว่ามิ้นโทรมาหา”

    “มิ้นไหนครับ”

    “มิ้นที่อยู่เชียงใหม่อ่ะค่ะ” ......เอ่อ...

    แล้วปลายสายก็วางไป


    .....มิ้นไหน......


    ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นออกมาจากห้องนอน  ถือผ้าขนหนูเช็ดหัวไปพลางๆ ผิวปากอย่างอารมณ์ดี

    อาหารสองจานวางอยู่บนโต๊ะ  แต่ร่างบางกลับนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟากลางห้องนั้น  ขายาวค่อยๆก้าวไปนั่งข้างๆ

      

    “อาบน้ำเสร็จแล้ว ไปกินข้าวกัน” เอือมมือไปโอบไหล่บาง

    “เมื่อกี๊คนชื่อมิ้นโทรมา”

    “มิ้นไหนวะ”  

    “เขาบอกว่าอยู่เชียงใหม่”

    “เชียงใหม่?” 

     

    คนฟังทวนคำถามแล้วก็ยังทำหน้างงไม่เข้าใจว่าเขาไปรู้จักคนที่ชื่อมิ้น และอยู่ที่เชียงใหม่มาตอนไหน

     

    “ลองโทรกลับไปสิ” 

    นี่ไม่ใช่ประโยคออกความคิดเห็น แต่คือคำสั่งต่างหาก นัทจึงจำต้องกดเบอร์ที่โทรเข้ามาเมื่อครู่กลับไป

     

    ......มาโหดอีกแล้วไง......

    “ฮัลโหล ใครฮะ ..อ่อ..ใช่ครับ นัทครับ.....มิ้นไหนอ่ะ...เชียงใหม่?.......เหอะๆมิ้นไหนอ่ะพี่จำไม่ได้.....”

     

    ตลอดการสนทนามีอีกคนที่นั่งกอดอกอยู่ข้างๆทำท่าเป็นไม่สนใจ แต่ความจริงตั้งใจฟังทุกคำของคนที่คุยโทรศัพท์อยู่ต่างหาก

     

    “อ๋อ.. ! ...เหอะๆ....นึกออกแล้ว...เอ่อ...ครับๆ คือ ...พี่ไม่สะดวกคุยอ่ะครับแค่นี้ก่อนนะ”

     

    นัทกดวางสาย แล้วก็ต้องแอบเหล่มองคนข้างกายที่ยังคงเงียบไม่ได้ถามอะไรออกมา

     

    ........เหอะๆ พลาดแล้วกู.....

      

    “คือ...น้องเขาอยู่เชียงใหม่....เอ่อคือ...เคยเจอกันนานแล้ว” ตอบไปตะกุกตะกัก

    “แล้ว?” 

     

     

    “ก็ ...เคย....นั่นแหละ!

     จบคำว่า “นั่นแหละ” ซินก็ลุกขึ้นจากโซฟาหนีเข้าห้องนอนไป ร่างสูงรีบวิ่งตามดึงข้อมืออีกคนเอาไว้ก่อน

     

    “มันนานมาแล้ว นัทไม่ได้อะไรแล้วนะ” เสียงห้าวเริ่มเอ่ยออกมา


    “........” แขนเล็กดึงข้อมือตัวเองออกแล้วนั่งลงบนเตียง  ดวงตาคู่สวยจ้องกลับมามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

    ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าคนแบบนัทมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาในชีวิต  เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย เจ้าชู้  ยิ่งมาเป็นศิลปินด้วยแล้ว  การจะมีผู้หญิงมายุ่งเกี่ยวก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย และเขาก็พอรับได้ เพราะเราสองคนต่างก็มี อดีต ของตัวเอง 

     

    ก่อนที่เขาสองคนจะเริ่มความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน ซินรู้ว่านัทมีชีวิตแบบไหน  ดนตรี เหล้า แสงสี และที่ขาดไม่ได้คือผู้หญิง  เข้ามาแล้วผ่านไปเป็นธรรมดา

     

    เรื่องอารมณ์ แบบนั้น มันก็เป็นธรรมดาของผู้ชาย ที่แต่ละคนมีวิธีการระบายแตกต่างกันไป

    แล้วเขาเองก็ไม่สามารถจะ ช่วยนัทได้ทุกครั้ง  แค่ตารางงานที่แน่นขนาดนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว  

    ฉะนั้นเขาจึงยอมรับได้หากนัทจะมาขออนุญาติ หายไป กับใครสักคืน

    และที่ว่ารับได้นั่นคือ  มันจะต้องเป็นเพียง ข้ามคืน แล้วจบลง

     

    แต่พอตัวเขาเองเริ่มจริงจังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้  ก็ต้องยอมรับว่า “หวง” ในตัวอีกคนไม่น้อยทีเดียว

    จากเดิมที่เคยรับได้ ..... ตอนนี้มันก็เปลี่ยนไป

     

    คุณจะเคยมีอะไรกับใครซินรับได้  แต่ทำไมเขาถึงมีเบอร์คุณ?

     

    นัทไม่ได้ให้เบอร์เขา ก็เราตกลงกันแล้ว ร่างสูงขยับเดินเข้าไปใกล้ แต่อีกคนดูจะไม่เชื่อคำพูดของเขายังคงมีสีหน้าเครียด

     

    ..........อีกคนยังมองหน้าไม่พูดไม่เอ่ยอะไร

     

    ไม่รู้เขาไปเอาเบอร์นัทมาจากไหน  เปลี่ยนมานั่งข้างๆร่างบาง แล้วจับมืออีกคนเอาไว้
     

    เขาโทรมาว่าไง น้ำเสียงที่ถามกลับมายังคงราบเรียบจนน่ากลัว 
     

    เขารู้ว่าเรามีตารางงานจะไปเชียงใหม่...ก็เลย...โทรมาหา ตอบกลับไปแบบเกร็งๆ

    ก็เลยจะมาหาคุณอีก?

    นัทเลิกอะไรแบบนี้ไปแล้ว คุณก็รู้

    อดีตของคุณซินไม่รู้หรอก  แต่ซินให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราตกลงกัน

    คุณเชื่อนัทดิ...

     

    ซินให้คุณไปเคลียร์ตัวเองนะ  ถ้าเขายังไม่จบ...คุณกับซินเราก็จบกัน

    ***********

    หลังจากวันนั้นนัทก็ไม่สามารถติดต่อซินได้เลย โทรไปหาก็ไม่ยอมรับสาย ไปหาที่บ้านก็ได้พบกับม๊าที่ทำท่าทีลำบากใจแล้วบอกเขาว่าซิน(ให้โกหกว่า)ไม่อยู่  เขารู้ดีว่าอาการแบบนี้แปลว่าซินคงเอาจริง  เพราะแต่ก่อนเขาก็ยอมรับว่ามีบ้างที่ทำตัวเสเพล สาวๆที่เข้ามาในชีวิตไม่ได้ซ้ำหน้า  แต่มันก็ไม่ใช่จริงจังอะไร  ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป  ซินรู้เรื่องพวกนี้ทุกครั้ง และเราตกลงกันชัดเจนว่า  จะต้องไม่มีผลกระทบตามมาทีหลัง ทั้งกับชื่อเสียงของวงและกับตัวซินเอง

     

    ซินไม่ชอบที่ต้องคอยมารับรู้เรื่องของคุณกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้  เพราะงั้นคุณต้องเซฟตัวเอง

     

    นี่คือคำพูดที่ซินบอกเขาเอาไว้เมื่อนานมาแล้วตั้งแต่เราทำข้อตกลงกัน  และเขาก็ทำตามสัญญามาตลอด

     คือจะไม่มีการติดต่อกลับมา  ปลอดภัย และเซฟทุกทาง  แต่มาช่วงหลังๆ พอเริ่มรู้สึกจริงจังกับซินมากขึ้น เขาเองก็เลิกพฤติกรรมเหล่านี้ไป  แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่มีการติดต่อมาหาเขาได้ 

     

    ฮัลโหล...น้องมิ้นเปล่าครับ

     

    นัทตัดสินใจโทรไปหาต้นเหตุของเรื่อง เพื่อบอกว่าไม่ต้องการให้อีกคนติดต่อกลับมาอีก  และเขาไม่สามารถข้องเกี่ยวอะไรด้วยได้อีกแล้ว  อีกฝ่ายไม่ได้โต้แย้งอะไร ก็ดูยอมรับแต่โดยดี

     

    - - นัทเคลียร์แล้วนะ  ถ้าใจเย็นลงก็ติดต่อกลับมาหน่อย - - -

    ส่งข้อความไป หวังว่าอีกคนจะตอบอะไรกลับมาบ้าง

      

    - - เจอกัน ตามตารางงาน - -

    ตอบกลับมาสั้นๆแบบนั้น

     

    นี่เขาจะได้เจอซินอีกทีก็วันที่เดินทางไปงานที่เชียงใหม่เลยสินะ  ใจแข็งเป็นหินแลยจริงๆคนคนนี้

    *******

    ช่วงสิ้นปีซิงกูลาร์มีคิวงานกับทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งให้ไปงานที่จังหวัดเชียงใหม่หลายวันทีเดียว  บรรยากาศผู้ร่วมทริปดูมีความสุขกันถ้วนหน้า ด้วยเพราะอากาศที่เย็นกำลังดี และการได้มาร่วมกิจกรรมกับสองหนุ่ม

    แต่ช่วงเวลาที่นัทรอคอยกลับคือตอนที่จะได้เข้าไปพักผ่อนที่โรงแรมต่างหาก เพราะเขากับซินยังไม่ได้คุยกับแบบส่วนตัวเลยสักที

    วันนี้อากาศเย็นเนอะ เมื่อเข้ามาถึงห้องพัก  นัทก็ลองเอ่ยชวนอีกคนหนี่งคุยก่อนเพื่อหยั่งเชิงว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

    อืม ตอบกลับมาสั้นเหลือเกิน  โดยร่างบางก็กำลังง่วนกับการจัดของออกจากกระเป๋าไม่หันมามองหน้าเขาเลย

    ดีกันเนอะ ฉวยโอกาสเข้าไปโอบจากด้านหลังคนตัวเล็ก  อีกคนไม่ได้ขัดขืน

     

    มาถึงถิ่นเขา ระวังให้ดีเถอะเขาจะมาหาถึงโรงแรม

     

    อย่าเพิ่งพูดถึงคนอื่นได้ไหม แล้วก็จับให้อีกคนหันหน้ามาหา  มือใหญ่เกี่ยวผมที่ปรกอย่าตรงหน้าสวยให้ไปทัดหูเอาไว้

    เผยให้เห็นต่างหูที่ซินใส่เป็นประจำ 

     

    ......ซินยังคงทำหน้างอ ไม่ยอมสบตาคนตรงหน้า
     

    ไม่เจอกันตั้งหลายวัน ไม่คิดถึงนัทหรอ มือใหญ่ลูบถูเบาเบาที่เอวบาง  ทำให้อีกคนเผลอดิ้นแล้วอมยิ้มออกมา นัทจึงยิ่งดึงให้อีกคนเข้ามาแนบกาย 

    ......ดูท่าจะหายงอนแล้ว....


    ไม่เจอคุณดีจะตาย ซินไม่เจ็บตัว

    ปากพูดไปแต่พฤติกรรมกลับตรงกันข้าม  ใบหน้าสวยซบลงตรงไหล่กว้าง  แขนเล็กวางแนบอกอุ่น นัทจึงจับอีกคนเข้ามากอดความคิดถึง

     

    เรานี่มันปากแข็งจริงๆ
     

    กอดแน่นอีกได้ไหมอ่ะ

     เสียงเล็กเอ่ยออกมาเบาเบาด้วยน้ำเสียงที่ทำเอาคนฟังยิ้มตาหยี  แล้วก็จัดให้ตามคำขอ เขาชอบที่สุดเวลาที่ซินอ้อนเป็นเด็กๆแบบนี้

     ทั้งคู่กอดกันอยู่นานทีเดียว  ค่อยๆซึมซับกลิ่นกายของกันและกันหลังจากไม่ได้เจอกันหลายวัน

     

    แล้วหายโกรธเรื่องนั้นรึยัง เสียงห้าวเอ่ยถามคนในอ้อมแขน

    หายแล้ว.....ยกเว้นคุณยังไม่จบ

    ถ้าเขามายุ่งแล้วเราจะทำไม?

    คอยดูละกัน

     

    ดุจังวะ...งั้นตลอดทริปนี้จะไม่ไปไหนเลย ตัวติดคุณตลอดเลยดีป่ะ

     

    ดีมาก !” พร้อมเคลื่อนริมฝีปากตัวเองไปจุ๊บปากคนตัวสูงกว่าเบาๆ

     

    .......น่ารักแบบนี้ให้ตลอดเถอะ !......

     

     

    .....ซินบอกคุณแล้วนะ....ว่าซินไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย......

     

    ******************************************************
    P.K.M Talk >>> เห้อออ นี่เรากลายเป็นติดนิสัยต้องแบ่งตอนออกเป็นสองPart ไปแล้วสินะ  ทั้งๆที่พยายามจะไม่แยกแล้วเชียว  (ขออภัยคนอ่านนะคะ ที่อาจดูน่ารำคาญที่แยกตอน)

    ส่วนตอนนี้ ...  หึหึ ...ต้องขอโทษเมนพี่นัท หรือใครใครที่อ่านเรื่องนี้แล้วคิดว่าพี่นัทเป็นพ่อหนุ่มอบอุ่นเพอร์เฟคนะคะ 
    ก็เราบอกไปแว้ววว ว่าเรื่องนี้เราไม่นิยมให้ใครเป็นคนดีอ่ะนะ 555  เพราะงั้นก็ตามเรื่องเลยค่ะ คุณเขาเจ้าชู้อยู่มิใช่น้อย  

    ก็อย่างที่มีคนเขาบอกไว้ไง คนเจ้าชู้มักจะมีแฟนดุ  ~ !
    เราทำให้ใครรับไม่ได้อะไรรึเปล่าไม่รู้นะเนี่ย  แต่เรามองว่าพี่ซินก็จะมีวิธีในการจัดการคุณนัทให้อยู่ในอุ้งมือได้เสมอ  แฮร่ ;) 
    เพราะงั้นอย่าเพิ่งกลัวจินตนาการของเราหายไปหมดนะค๊ะ  Y^Y (พรีสสสส)

    ฝากติดตามฟิค Otop รักน้อยๆแต่รักนานๆของเราด้วยนะฮ๊าาาา ~ ~  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×