คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 2.2
=== Fiction ก็แปลว่า มันเป็นเพียงจินตนาการนะคะ ไม่ใช่เรื่องจริงนะเธอออ====
*****************************************************************************
NutSin : ผมไม่ใช่นางฟ้า 2.2
“น้ำส้มอันนี้มันรสชาติแปลกๆนะพี่ว่า น้องแอมซื้อมาจากไหนอ่ะ”หญิงสาวเอ่ยถามหลังจากจิบน้ำส้มที่อยู่ในมือไปเพียงเล็กน้อย
“ก็ร้านข้างๆตึกอ่ะค่ะ แอมเห็นเขาคั้นสดสดน่ากินดี พี่คนอื่นกินก็ว่าอร่อยดีนี่คะ” แอมตอบแบบเซ็งๆ...ไม่เข้าใจว่าจะเรื่องมากอะไรนักหนา..
“หรอ..แต่มัน...ช่างมันเหอะพี่ลงไปหาไรกินข้างล่างดีกว่า” ดาต้าวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ แล้วหันไปล้างมือที่ซิ้งค์ล้างจาน
“น้องแอมนัทมันหิวจัดของกินให้หน่อย..อ่าว..” ซินชะงักเมื่อเห็นว่ามีอีกคนยืนอยู่ในห้องด้วย
ร่างบางค่อยๆเดินเข้ามาในห้องแล้วหันไปคุยกะแอมโดยไม่ได้ทักอีกคน
“จัดของให้พวกพี่เดฟด้วยนะ เอาแบบเมื่อเช้าก็ได้เบาเบา เดี๋ยวซ้อมเสร็จก็ลงไปกินข้าวแล้ว”
“เอาน้ำส้มไหมพี่ซิน อร่อยนะ แต่พี่ดาต้าว่ามันแปลกๆพี่ซินลองชิมดู” เด็กสาวพูดเสียงค่อย แต่ก็ไม่ได้เบาไปกว่าที่อีกคนในห้องจะได้ยินเช่นกัน ดาต้าเริ่มมีสีหน้าไม่สบอารมณ์
“พี่ก็แค่ว่ามันแปลกๆยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะน้องแอม มีปัญหาอะไรกับพี่ป่ะคะ”หันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่าไม่พอใจ
“ป่าวค่ะ แอมไม่ได้มีปัญหาอะไร” แอมตอบเสียงอ่อย ก้มหน้าก้มตาจัดของให้ซิน
“ไหนลองชิมหน่อย”
ซินพูดแทรกขึ้นมาแล้วหยิบขวดน้ำส้มขึ้นมาแกะ เอาหลอดใส่ลงไปแล้วจิบชิมดู
“อร่อยดี เอาไปเผื่อนัทด้วยสิ”
“อะไรคุณซินนินทาผมหรอ”
เสียงดังมาก่อนตัว ร่างสูงเดินตามเข้ามาในห้อง มือยังจับรอยแผลที่ปากตัวเองอยู่ เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นว่าในห้องไม่ได้มีเพียงซินกับแอม จึงหันไปยิ้มให้กับหญิงสาวในห้อง ดาต้าเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มคืนกลับไปทันที
“ไหนของมีไรกินบ้างเอ่ยน้องแอม”พูดแล้วนัทก็เริ่มรื้อถุงข้าวของ
“เยอะแยะเลยค่ะพี่นัท นี่แอมจัดใส่ถุงให้อยู่”
“มีน้ำส้มด้วยนะคะพี่นัทลองชิมดูสิ” ดาต้าพูดแทรกขึ้นมา พลางหยิบแก้วน้ำส้มของตนที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบแล้วยิ้มสวย
.....แสร้งเก่งจริงนะ.....
“หรอ ไหนชิมดิ๊” พูดจบมือใหญ่ก็เอื้อมไปหยิบขวดน้ำส้มที่อยู่ในมือซินเอามาเป็นของตัวเองแล้วชิมจากหลอดที่อยู่ในขวดอึกใหญ่
คนถูกแย่งขวดไปจากมือมองอย่างเอือมๆก่อนหันไปเห็นแอมกำลังจ้องดูพฤติกรรมของมือกีต้าร์แล้วยิ้มแป้นกลับมาให้ตนเอง เขาไม่รู้จะทำอะไรแก้เขินดีจึงทำได้เพียงคว่ำปากแล้วส่ายหน้าเอือมๆไปให้น้องสาว
“อร่อยดี เอาให้พี่ด้วยน้องแอมจัดไปๆ เออว่าแต่เราเข้าบริษัทมาทำไรพี่ไม่เห็นรู้” ส่งขวดคืนให้คนตัวเล็กพลางหันไปถามฝ่ายหญิง
“อ่อ ..ต้าเข้ามาคุยเรื่องละครค่ะ ตอนคุยโทรศัพท์เมื่อวานก็ลืมบอก”
หลังจากดูเหมือนจะอึ้งๆกับภาพตรงหน้าเมื่อครู่เล็กน้อย เสียงเล็กก็ตอบกลับมา แต่สายตาไม่ได้จ้องไปที่นัท กลับจ้องมองมายังร่างบางที่ยืนถือขวดน้ำส้มอยู่ในมือมากกว่า
“พี่เอาของพวกนี้ไปก่อนนะ ที่เหลือให้นัทเอาไปละกัน” ซินพูดจบก็วางขวดน้ำไว้บนโต๊ะ หันไปหยิบของกินบางส่วนเตรียมจะออกจากห้อง
“อ่าว รอไปพร้อมกันดิซิน” แขนบางถูกอีกมือหนึ่งรั้งเอาไว้ คนตัวเล็กกว่าหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าคนที่ยื้อเขาเอาไว้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
....เฉยเสียจนรู้ว่า....งานเข้าแล้วกู....
“น้องแอมเอาของกินมาเร็วค๊าบ ป่านนี้พี่เดฟบ่นแย่แล้ว” นัทรีบหันไปสั่งน้อง แต่มือยังคงไม่ปล่อยแขนอีกคนที่เริ่มพยายามบิดไปมาให้พ้นจากพันธนาการ
“จิ๊! ” เสียงจิ๊ปากเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสวยนั้น คิ้วสวยได้รูปขมวดมุ้นเพราะกำลังพยายามจะแกะมือของอีกคนออกจากแขนตัวเอง แต่ด้วยของที่หิ้วอยู่ทำให้ทำอะไรลำบากเหลือเกิน
เด็กสาวรีบหยิบโน้นนี่ใส่ถุงแล้วส่งให้นัทอย่างรวดเร็ว เพราะอาการฮึดฮัดของคนตัวเล็กเริ่มชัดเจนขึ้นทุกที
“เอาค่ะๆ ไม่พอมาเอาใหม่นะคะ” ส่งของให้แล้วก็โบกมือลานัทอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
“ครับๆ เออพี่ไปก่อนนะดาต้า” นัทพูดพร้อมกับรีบเดินไปตามแรงขัดของอีกคน
“พี่ซินนี่ขี้หึงเนอะ”
ดาต้าเอ่ยออกมาแล้ววางแก้วน้ำส้มไว้ตามเดิม พร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอที่ทำให้คนฟังอยู่ไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“แอมก็ชอบพี่นัทมาก แต่พี่ซินก็ทำตัวน่ารักด้วย...เพราะงั้นแอมว่ามันอยู่ที่นิสัยแต่ละคนมากกว่า !”
พูดจบเด็กสาวก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งดาต้าไว้คนเดียวในห้อง
*******************
“ของกินมาแล้ว !”
พี่โบรีบวิ่งมารับถุงไปจากมือนัทและซิน พี่ทีมงานคนอื่นก็มาช่วยกันรับของไป โดยลืมสังเกตอาการนิ่งเงียบของนักร้องนำที่พอส่งของให้เสร็จก็ไปนั่งประจำที่อยู่คนเดียว ขาสวยสับขึ้นไขว่ห้าง มือสวยวางบนหน้าตักตัวเอง เผลอเคาะนิ้วออกมาแรงๆหลายทีเพราะอารมณ์ที่ครุกรุนของตัวเอง
ใบหน้าคมหันไปยิ้มให้พี่พี่ ก่อนแอบเหลือบมองอีกคนที่หนีไปนั่งมุมไกลนั้น ซินถอนหายใจออกมาแรงๆหนึ่งที ความจริงเขาอยากเดินเข้าไปเคลียร์ตอนนี้แต่ก็ทำไม่ได้ คงจะหน้าเกลียดเกินไปหากศิลปินมาทะเลาะกันทำให้เสียบรรยากาศ ตอนนี้จึงได้เพียงแอบมองห่างๆ
“ปากมึงไปโดนไรมาน่ะไอ้นัท?” พี่ชายเอ่ยถามขึ้นมาทั้งที่ปากยังเคี้ยวขนมปังตุ้ยๆ
“อ่า..คือเมื่อกี๊เอ่อ..แบบ..ร้อนในพี่เลยไปแกะมันโคตรเจ็บเลย” นัทรีบแก้ตัว ดวงตาคมแอบลอบมองอีกคนที่ก็หันกลับมามองแวบหนึ่ง สงสัยคงเป็นห่วงกลัวว่าเขาจะหาข้อแก้ตัวไม่ได้ แต่พอซินเห็นว่าเขามองอยู่ก็รีบหันหนีกลับไปทันที
“ใครเขาให้แกะวะ เดี๋ยวมึงหมดหล่อออกงานไม่ได้ไอ้โอ๊ตด่าหูดับ”
ความเห็นของพี่เดฟทำเอาทั้งวงฮาครืนออกมา นัทก็หัวเราะแห้งๆตามเขาไปด้วย
หลังจากพักเบรกกินอะไรกันไปบ้างแล้ววงก็เริ่มซ้อมต่อ มีเพลงเหลือที่ต้องเก็บอีกแค่สามเพลงและเป็นเพลงของซิงกูลาร์เองจึงทำให้ใช้เวลาไม่นานมากนัก เมื่อซ้อมเสร็จเหล่าพี่แบ็กอัพก็ต้องขอตัวไปก่อนเพราะติดไปซ้อมให้กับศิลปินคนอื่นในค่ายเหมือนกัน
หลังกล่าวลาพี่พี่ นัทเหลือบมองนาฬิกาที่แขนตัวเอง นี่ก็บ่ายสองกว่าแล้ว ป่านนี้คนตัวเล็กคงหิวแล้ว ดูท่ายังทำนิ่ง ร่างบางยืนเก็บข้าวของใส่กระเป๋าตรงโซฟานั้น ไม่ยอมพูดยอมจากับเขาเลย ขนาดตอนซ้อมอยากจะปรับตรงไหนก็เอาแต่บอกพี่เดฟให้ต้องมาบอกต่อเขาอีกที
“หิวไหม” ลองเสี่ยงถามดูเผื่ออีกคนจะตอบกลับมา
แต่ก็อย่างที่คิดเอาไว้ ประโยคคำถามของเขาเหมือนถูกส่งไปยังกำแพงอิฐที่ก่อเอาไว้แล้วสะท้อนกลับมาด้วยความว่างเปล่า นี่แหละอาการงอนที่เต็มรูปแบบของนักร้องนำของเขา
นัทเก็บกีต้าร์เข้าที่แล้วเดินไปยืนข้างๆร่างบาง ทำทีเป็นเก็บของใส่กระเป๋าบ้าง ซินขยับตัวหลบเมื่อไหล่ของทั้งสองคนชนกัน
“อย่างอนเลยไปกินข้าวกัน” นับขยับเข้าไปใกล้ ไหล่กว้างกระแซะเข้าที่ไหล่คนตัวเล็ก
“......” ซินไม่ยอมตอบว่าอะไร แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
นิ้วสวยสไลด์เลขหมายที่ต้องการแล้วกดโทรออก
“ป๊า..อยู่ไหนฮะ ซินซ้อมเสร็จแล้...”
โทรศัพท์ถูกแย่งออกไปจากมือ นัทเอาโทรศัพท์แนบหูตัวเองพร้อมกับเดินหนีคนที่พยายามจะแย่งโทรศัพท์คืนไป
“ป๊าครับเดี๋ยววันนี้นัทไปส่งซินที่บ้านเลยนะครับ ช่วงเย็นมีคุยเรื่องเพลงใหม่อีกน่าจะกลับดึก ครับ ครับไม่ต้องเป็นห่วงครับ” กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวเอง
“เอาคืนมา! ” แขนเล็กเอื้อมไปยังกระเป๋ากางเกงข้างที่นัทเก็บโทรศัพท์เขาเอาไว้ แต่ร่างสูงก็เบี่ยงตัวหลบ แล้วจับร่างบางมาแนบกายเอาไว้แทน มือใหญ่โอบไว้ที่กลางหลังดันให้สองกายแนบชิดยิ่งขึ้น ใบหน้าสวยหันหน้าหนีเพราะรู้ว่าอีกคนหมายจะทำอะไร ลมหายใจร้อนๆรดที่ต้นคอระหง
“ไปกินข้าวก่อน อย่าดื้อ”
“อย่ามาพูดเหมือนเราเป็นเด็ก”
“แล้วเคยนับไหมว่าวันๆนึงซินงอนนัทกี่รอบ” คำถามทำให้คนที่อยู่ในอ้อมแขนหันขวับมามอง ปากเริ่มเบะอย่างไม่พอใจ เหมือนเด็กที่โดนผู้ใหญ่ดุ
“งั้นก็ไม่ต้องง้อ” น้ำเสียงกระชากอย่างประชดประชัน
“ถ้าวันนึงนัทไม่ง้อจริงๆ คุณจะเป็นยังไง”
น้ำเสียงของนัทไม่ได้ดูโมโหหรือโกรธอะไร เป็นเสียงที่รายเรียบ แต่กลับทำให้คนที่ฟังอยู่ใจสั่นและเริ่มกลัว
ซินยอมรับว่าเห็นภายนอกดูเหมือนจะเป็นเขาที่มีอำนาจอยู่เหนือนัทเสมอ อะไรหลายๆอย่างนัทจะตามใจเสียหมด ใครใครก็คิดแบบนั้นคิดว่านัทยอมซินไปซะทุกเรื่อง จนเป็นที่มาของวลี “ผิดตลอด” ของแฟนๆ
แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ว่านัทต่างหากที่เป็นคนดุ ... ดุจนซินกลัว ...
หลายเรื่องที่เวลาทำให้เขาสองคนต้องทะเลาะกัน ซินยอมรับว่าก็มีงอนนัทแบบนี้เสมอ แล้วนัทก็จะตามมาง้อเขาตลอด และก็รู้ตัวเองอีกเหมือนกันว่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ง่ายๆก็คืออยากให้อีกคนมาง้อมาเอาใจนั่นแหละ แต่นัทเป็นคนประเภทที่ถ้าไม่มีเหตุผล คุยกันดีดีแล้วยังไม่ยอมฟังก็จะมีอีกมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“คุณยังไม่ทันถามเรื่องจริงจากนัทเลย แต่คุณงอนนัทไปแล้วงี้หรอ”
แขนแกร่งยังไม่คลายให้อีกคนออกจากอ้อมกอดแต่เริ่มพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป
“....” คนในอ้อมแขนได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าตอบอะไร
“โกรธอะไรก็บอกมา อย่าเมินกันแบบนี้ หรือถ้าจะไม่พูดก็ไปกินข้าวก่อน วันนี้ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยนะคุณ ถ้าเป็นโรคกระเพาะนัทจะบังคับให้นอนโรงพยาบาล”
“อย่าเพิ่งดุได้ไหม” ในที่สุดเสียงเล็กก็เริ่มพูดออกมาแล้ว
“งั้นมีอะไรจะถามนัทไหม”
“ก็คุณไม่เห็นบอกว่าโทรคุยกับน้องเขาเมื่อวาน” ค่อยๆพูดออกมาเบาเบา ในสิ่งที่เขาไม่พอใจ
“น้องเขาโทรมา โทรมาแค่แป๊บเดียวว่าลืมของไว้ในรถ ขอโทษที่เล่าไม่หมด นัทเห็นมันไม่มีอะไรก็เลยไม่ได้บอกคุณ”
“ซินไม่ชอบฟังเรื่องคุณจากคนอื่น”
“งั้นก็ถามสิ ทุกอย่างที่อยากรู้ก็จะได้รู้หมด” จมูกโด่งฝังลงที่แก้มใสฟอดใหญ่ ถือว่าเป็นรางวัลให้กับคนที่ยอมฟังเหตุผลแล้วยอมอ่อนข้อลงพูดจากันบ้าง
“ไว้จะถามให้หมดเปลือกเลย”
แขนเล็กสอดเข้าคล้องเอวคนตัวหนากว่าเข้ามากอดไว้แน่น เขย่งขึ้นเล็กน้อยจุ๊บแก้มนัทเบาเบาหนึ่งที
“ชอบว่าแต่นัทอ้อน ตัวเองก็ขี้อ้อนเห๊อะ” ว่าแล้วก็แกล้งยกคนตัวเล็กกว่าขึ้นจนตัวลอย จนทำให้อีกคนร้องเสียงดังลั่น
“ก็นัทดุ ซินก็ต้องอ้อนไง หายกันนะ” เอาจมูกโด่งๆของตัวเองไปคลอเคลียตรงไหล่กว้าง นัทหัวเราะชอบใจออกมา
“ใครว่าหายกันครับ !”
ริมฝีปากได้รูปฝังลงตรงซอกคอขาว แล้วค่อยๆออกแรงดูดเม้มผิวใสอย่างแรง ลิ้นสากลากผ่านผิวเรียบเนียนนั้นอยากเอ้อระเหย แล้วขบเม้มย้ำลงไปที่เดิมอีกครั้งย้ำๆ
“อ๊า! นัท !” เจ้าของซอกคอร้องออกมาเสียงกระเซ่า ดิ้นพลาดๆ มือเล็กทุบรัวๆเข้าที่แขนผู้กระทำ
เมื่อหนำใจปรารถนา ใบหน้าคมยอมละออกมาจากคอระหงแล้วมองดูผลงานที่ตัวเองเป็นผู้รังสรรค์
นัทยิ้มหัวเราะร่าเมื่อมองดูผิวขาวๆตรงซอกคอบัดนี้มีรอยจ้ำแดงฮ้อเลือดดวงใหญ่มาแทนที่
“ฮ่าฮ่า นี่ต่างหากถึงจะเรียกว่าหายกัน!”
************
P.K.M Talk >>>> มาต่อแล้ววว ต่อเร็วจังเว้ย งงตัวเอง(ก็คนมันใจง่ายย คนบอกให้รีบมาต่อ ก็เลยเชื่อคนง่ายยย จั๊ดจาดาด๊า จั๊ดๆจาดาด๊า วู๊ ! )
ตอนนี้สถานการณ์กลับพลิกเลยสิคะ กลายเป็นแมวเหมียวขี้อ้อนไปแล้วพี่ซินของหนู อ่านะ ก็อย่างที่บอกว่าคนเรามีอารมณ์หลายอย่างในคนเดียวนะคะ
เห็นซึนๆแบบนี้ ตัวจริงอาจจะอ้อนหนักเลยก็ได้ (ขนาดคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ยังบอกว่าไม่พอ แปลว่าติดแฟนพอตัวนะเธอ!)
ส่วนอีกคนเห็นมึนๆ ยอมๆ จริงๆอาจจะดุมากมาดเข้มก็ได้กับแฟนน่ะ ><
เช่นเคยค่ะ Fic Otop ที่ค่อยๆอ่านกันเบาเบา น้อยๆ เม้นหน่อยเบาเบาเราก็ชื่นนนใจ ~~
ความคิดเห็น