SF Singular: ผมไม่ใช่นางฟ้า # Cleansing
Short Fiction : เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากงาน SINGULAR 'S CONCERT DVD LAUNCH DAY ค่ะ ...
ผู้เข้าชมรวม
827
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
== Fiction คือ การมโน มโน เอาจ้าาา ==
****************************************
SF NutSin : ผมไม่ใช่นางฟ้า # Cleansing
“ซินอย่าเพิ่งไป”
เสียงห้าวร้องเรียกพร้อมขาก้าวเดินตามร่างบางที่ตอนนี้สวมแว่นกันแดดเตรียมเดินเพื่อออกจากห้องรับรองภายในงานเปิดตัวดีวีดีคอนเสิร์ตของเขาสองคน
“................” ร่างบางนั้นเดินเปิดประตูออกไปพร้อมกับทีมงานที่เดินนำหน้าไปก่อน
เสียงเรียกไร้ความหมาย พยายามคิดว่าอีกคนคงไม่ได้ยินและคงรีบจึงเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
.......แต่ในใจรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่แค่นั้น..........
แล้วถามว่าอย่างเขาจะทำอะไรได้นอกจากยืนมองอีกคนเดินออกไปแบบนั้น
- - - โมโหเรื่องหอมหรอ - - -
วินาทีนี้การส่งข้อความคงเป็นช่องทางเดียวที่จะสามารถพูดกับอีกคนได้บ้าง เพราะโทรไปก็ไม่รับแน่นอนอยู่แล้ว แม้ซินจะไม่ตอบกลับมาแต่เขารู้ว่าทางนั้นจะต้องได้อ่าน และก็อย่างที่คิด ไม่มีการตอบรับใดใด
นั่นก็แปลว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกต้องทุกประการ....
สักพักใหญ่ๆทีมงานก็มาส่งสัญญาณว่าซินกลับไปแล้ว ทีนี้ก็เป็นคิวของเขาที่จะสามารถกลับบ้าง
ปกติเขาเองจะรู้สึกดีใจและมีความสุขเสมอเวลาได้อยู่พูดคุย ถ่ายรูปกับแฟนๆก่อนกลับบ้าน แต่สำหรับวันนี้ มีสิ่งอื่นที่เขาอยากทำมากกว่า และดูเหมือนว่าจะต้องรีบทำโดยด่วนก่อนที่จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่เสียด้วย อารมณ์ที่อยากจะยิ้มอยากจะคุยเล่นตอนนี้ยอมรับว่าติดลบ ออกจะร้ายๆไปทางอยากจะไล่ให้ทุกคนกลับบ้านไปก่อนเสียด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะยังแคร์แฟนคลับจึงทำได้เพียงคิด ทุกคนตั้งใจมาดูเขาสองคนก็เป็นธรรมดาที่เขาอยากจะเห็นภาพที่เราร่าเริงและเป็นกันเอง
ด้วยอุณหภูมิที่ค่อนข้างอบอ้าวทำให้รู้สึกอึดอัดทีเดียว และอารมณ์ก็ไม่ค่อยพร้อมจะยิ้มแย้มเท่าไรแล้ว จริงๆไม่ใช่ว่าไม่ชินกับการเข้ามามุงขอถ่ายรูปขอลายเซ็นของแฟนคลับ แต่คงเพราะตอนนี้ในใจมันร้อนรนมากกว่า
กลัวว่าจะตามไม่ทัน....
รถซีอาร์วีสีแดงจอดข้างทางหลังจากพ้นสมาคมฝรั่งเศสมาได้ไม่ไกล มือใหญ่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างร้อนใจ
“ป๊าฮะ ..ถึงไหนแล้ว” รีบถามก่อนที่ปลายสายจะทันพูดอะไรเสียด้วยซ้ำ รอฟังคำตอบลุ้นๆเพราะกลัวว่าจะไปไกลแล้ว แต่ก็ได้ใจชื้นตรงที่ป๊าบอกว่ายังไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากนัก
“รอก่อนนะครับเดี๋ยวไปหา” ดูท่าคนรับสายจะออกอาการงงๆเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้ตามไปยังจุดนัดหมายแต่โดยดี
รถคันใหญ่จอดต่อท้ายรถสีบรอนเงินกะทัดรัด ร่างสูงก้าวลงจากรถอย่างร้อนใจมุ่งตรงไปยังประตูข้างคนขับ แต่กลับไม่พบร่างของคนที่ตัวเองอยากจะเจอ มีเพียงชายสูงอายุคนขับที่เปิดกระจกรถให้เขา
“โน้น ..ในเซเว่นน่ะ”
เหมือนป๊าจะรู้ว่าเหตุผลที่ทำให้เขาร้อนรนตามมาแบบนี้คืออะไร จึงพยักเพยิดบอกเป้าหมายให้ว่าเจ้าตัวหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้ว นัทยกมือไหว้ขอบคุณทั้งป๊าและม๊า
“เดี๋ยวผมไปส่งเองนะฮะ..ขอบคุณครับ” พูดแบบไม่รอให้อีกฝ่ายตอบตกลงแล้วเดินตามเข้าเซเว่นไปเลย
พ้นจากประตูร้านก็ชะเง้อมองหาร่างของนักร้องนำว่าอยู่ตรงส่วนไหน แล้วก็พบร่างบางยืนกอดอกอยู่หน้าตู้น้ำ ผมยาวถูกรวบขึ้นเป็นมวยไว้ที่ท้ายทอย สงสัยคงร้อนหลังจากฝ่าดงแฟนคลับออกมาได้ ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ แต่แล้วก็ต้องชะงักเพราะซินหันกลับมาพอดี ใบหน้าสวยถูกปกปิดด้วยแว่นกันแดดดำสนิท สีหน้าเรียบเฉยถูกส่งมาให้ แล้วร่างนั้นก็เดินเฉียดผ่านหน้าเขาไปแบบเรียกได้ว่าไม่ใยดี รู้ว่าทำอะไรไม่ได้เลยเดินตามไปหยุดรอซินจ่ายเงินที่หน้าเคาเตอร์
พอจ่ายเงินเสร็จร่างบางก็ออกจากร้านแบบไม่สนเสียด้วยซ้ำว่าเขาเดินตามออกมาแล้วหรือยัง แต่สิ่งที่ทำให้นัทยิ้มออกก็ตรงที่รถโฟล๊คคันงามไม่ได้จอดอยู่ตรงนั้นแล้ว นึกอยากกอดขอบคุณป๊ากับม๊าแน่นๆที่ยอมทำตามคำขอ หันไปมองคนสวยที่เอามือท้าวเอวตัวเองแล้วเริ่มจึ๊ปากออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
ร่างสูงรีบกูลีกูจอไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่แล้วเปิดประตูข้างคนขับเพื่อรอให้อีกคนเดินมาขึ้น ร่างบางกอดอกอยู่ตรงนั้นชั่วอึดใจ ดูท่าลังเลเหมือนไม่เต็มใจที่จะทำตามแต่แล้วก็ยอมเดินมาขึ้นรถจนได้ มือสวยจับประตูรถก่อนขึ้นนั่งแล้วหันมาพูดกับมือกีตาร์ที่ยืนรอปิดประตูให้
“รีบออกรถไป...ร้อน..ปิดเองได้” วาจาประกาศิตทำให้ร่างสูงรีบวิ่งไปประจำที่คนขับ
ขึ้นรถได้ก็รีบปรับเร่งแอร์ให้คนขี้ร้อนได้เย็นชื่นใจขึ้นมาบ้าง หวังว่าจะช่วยให้อารมณ์บ่จอยนั้นทุเลาลง
“เราไม่ได้งอนนะ” เสียงเล็กพูดขึ้นมาหลังจากออกรถมาได้ไม่นาน
“อ่าว..ก็เห็นรีบออกมาไหนจะไม่ยอมตอบข้อความอีก”
“..............”
แต่ซินเงียบไปไม่ยอมตอบ นัทก็ได้แต่เงียบรอฟังว่าอีกฝ่ายจะว่าอย่างไร
จนกระทั่งรถมาเทียบจอดที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่คุ้นตา นัทค่อยๆปลดกระดุมคอเสื้อตัวเองให้ผ่อนคลายมากขึ้น ก่อนดับเครื่องแล้วหันไปหยิบกระเป๋าตังค์จากกระเป๋าใบใหญ่ออกมา
“กินข้าวก่อนป๊ะ” แล้วนัทก็เดินลงจากรถนำเข้าร้านไป ซินไม่ได้ตอบว่าไงแต่ก็เดินตามลงมา
ร้านนี้เป็นร้านที่เขาสองคนเคยมากินแล้วสองสามครั้ง รสชาติใช้ได้และที่สำคัญคือที่ชั้นสองมีแยกเป็นห้องๆแบบส่วนตัวสำหรับลูกค้า พนักงานรับคำสั่งจากนัทแล้วก็พาเดินนำขึ้นไปบนชั้นสองแล้วเชิญให้เข้าห้องอาหารที่เป็นแบบโต๊ะญี่ปุ่นนั่งกับพื้นให้ทั้งสองเข้าไปพร้อมรับออร์เดอร์ตามคำสั่งของมือกีตาร์ ร่างบางนั่งลงแล้วกดมือถือต่อสายหาใครบางคน
“ป๊าใจร้าย..จะไปไม่บอกสักคำ”
เสียงอ้อนส่งไปให้คนปลายสาย ทำให้นัทห้ามยิ้มไว้ไม่อยู่ ถึงจะทำเป็นนิ่งแค่ไหน แต่เวลาซินอยู่กับป๊ากับม๊าก็จะกลายเป็นเด็กๆทุกที
“ฮะ...กำลังจะกินข้าว ป๊าม๊าไม่ต้องซื้อเผื่อ” คุยสายต่ออีกนิดหน่อยร่างบางก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง
“ไม่มีตังค์นะ..บ๋อแบ๋” วางโทรศัพท์แล้วก็หันมาบอกเขาพร้อมทำท่าทางแบมือสะบัดไปราวเด็กเล็กๆชอบทำ
“เออ..งกตลอด”
ว่าแล้วก็เริ่มนั่งเหยียบขาให้สบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น พลางหันไปมองคนสวยที่ตอนนี้ฟุบหน้าเข้ากับโต๊ะอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม มือใหญ่เอื้อมไปลูบหัวฟูๆของคนสวยเบาๆ
“เป็นไร”
“.......” คำตอบที่ได้คือการส่วยหันไปมา
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ เรียกได้ว่าจัดชุดใหญ่ ใบหน้าหวานเริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง สงสัยคงเพราะหิวจึงรีบจับอาวุธพร้อมทาน
“ใจเย็นๆไม่แย่งหรอกหน่า” เสียงห้าวเอ่ยแซว พลางนั่งดูร่างบางลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
แก้มป่องเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ดูสนอกสนใจอาหารมากกว่าคนตรงหน้าจนนัทเริ่มเอือม เลยเอื้อมไปแย่งจานปลาที่ซินหมายจะคีบมาไว้กับตัวเองแทน ใบหน้าสวยเบะอย่างเอาแต่ใจที่โดนแกล้ง
“ก็กินไม่สนใจกูเลยครับ”
“ก็หิวอ๊ะ” แล้วก็ขยับจานปลามาไว้ใกล้ตัวเองอีกครั้ง นัทไม่ได้ว่าอะไรแถมด้วยการคีบกุ้งเทมปุระของตัวเองใส่จานของซิน
“กินเยอะๆ”
“ไม่ต้องมาเอาใจ...ก็บอกแล้วว่าไม่ได้งอน”
“งั้นแล้วเป็นไร”
“หงุดหงิดตัวเอง”
คำตอบทำให้นัทแปลกใจปนงงในเวลาเดียวกัน คิ้วเข้มขมวดแสดงออกชัดเจนว่าไม่เข้าใจในคำตอบของคนตัวเล็ก ทำให้ซินหลุดหัวเราะออกมา แล้วกลับไปสนใจกินต่อ
“คุยให้รู้เรื่องก่อนดิวะซิน” เสียงท้วงทำให้มือสวยชะงักหยุดคีบอาหาร
“ซินหงุดหงิดตัวเอง....ที่ไม่ชอบเห็นใครทำแบบนั้นกับคุณ”
ใช่...เขาไม่เคยชอบตัวเองสักครั้งที่หึงที่หวงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง การที่แฟนคลับชื่นชอบและหลงใหลในตัวนัทนั่นควรจะเป็นเรื่องดี แฟนคลับยอมสละเวลาเพื่อมาเป็นกำลังใจให้พวกเขา แค่การจับมือ ถ่ายรูป กอด หรือแม้แต่หอมแก้ม ก็คงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ศิลปินพึงจะให้กับแฟนคลับได้
แต่ทุกครั้งที่เห็นในใจมันรู้สึกไปเอง มันควบคุมอะไรไม่ได้เลย ยังจำสิ่งที่เกิดขึ้นในงานช่วงบ่ายได้ดี วันนี้มันเป็นวันที่ดีอย่างเหลือเชื่อ และรู้สึกดีมากๆที่เห็นแฟนๆที่เขารักเรามาคอยมาทุ่มเททำอะไรให้ขนาดนี้ เรียกได้ว่าอารมณ์บวกร้อย แต่แล้วเสียงกรี๊ดโวยวายของแฟนคลับตอนช่วงเวลานั้นพร้อมกับเสียงที่ลอยมาว่ามีคนหอมแก้มนัท ...ก็รู้เลยว่าตัวเองยิ้มไม่ออก มันคงไม่ใช่ความหึงหวงไปซะทีเดียว แต่มันคือความรู้เหมือนถูกล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้มองว่านัทเป็นสิ่งของแต่อยากแสดงความเป็นเจ้าของ...
มือสั่น และพยายามอย่างมากที่จะไม่หันไปมอง รู้แต่ว่าตอนนั้นแค่การกระตุกยิ้มขึ้นมันช่างยากเหลือเกิน เขาเป็นแบบนั้นนานแค่ไหนก็จำตัวเองไม่ได้ มาเรียกสติตัวเองได้อีกทีก็ตอนที่มีน้องแฟนคลับมาขอจับมือจึงเงยหน้าส่งยิ้มไปให้
“คุณไม่ได้ผิด..คนที่หอมคุณก็ไม่ผิดหรอก” ใบหน้าสวยส่งยิ้มจางๆไปให้คนตรงหน้า
.....ไม่อยากเป็นคนงี่เง่าแบบนั้น.....
........แต่ขอเวลาเราจัดการอารมณ์ตัวเองหน่อยนะ..............
“นัทก็ไม่ทันตั้งตัว....อยู่ๆมาหอมเลย..เหอะๆ” พูดไปพร้อมเกาหัวตัวเองแก้เขิล
“อื้มม..เขารักเขาชอบคุณก็ต้องอยากแสดงออกเป็นธรรมดา...ซินไม่เป็นไรจริงๆ...ขอโทษที่งี่เง่าไปแล้ว”
นัทมองหน้าซินแล้วยิ้มออก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสองคนผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย หลายๆเหตุการณ์เป็นบททดสอบหัวใจได้เป็นอย่างดี และเขารู้ว่าซินพยายามอย่างมากที่จะเข้าใจและปรับตัวเสมอ แต่ทุกครั้งมันก็มีเรื่องดีเจืออยู่
......เพราะผมเชื่อเสมอว่าถ้าไม่รักคงไม่หึง.....
นึกแล้วก็ยิ้มแป้นออกมาคนเดียว ก่อนคีบซูชิไปจ่อตรงปากรอให้ซินกิน คนถูกป้อนขมวดคิ้วงงเล็กๆ
“มาไม้ไหนเนี่ย”
“ก็ให้รางวัลที่ทำตัวน่ารัก”
คำตอบทำให้คนสวยคว่ำปากแบบเอือมๆพร้อมหัวเราะร่วน
“มีรางวัลอื่นแทนมะ”
เสียงเล็กเอ่ยถาม พร้อมยิ้มตาหยีอย่างน่ารักน่าชัง(ในสายตานัท)
นัทไม่ได้ตอบอะไรแต่ชักมือที่คีบซูชิให้ซินกลับมาที่ตัวเอง แล้วคาบชิ้นซูชิไว้ที่ปากตัวเองค้างไว้แบบนั้น มือใหญ่กวักเรียกคนตรงหน้า แล้วชี้มาที่ปากตัวเอง
“มีแต่เนี่ย..มาเอามา” เสียงพูดอู้อี้ แต่คนฟังได้ยินชัดเจนจนหลุดยิ้มเขินออกมา
“ไอ้บ้า” หน้าร้อนวูบๆ
แต่นัทยังคงคาบซูชิค้างอยู่อย่างนั้นและกวักมือเรียกไม่เลิก แถมตบเบาะข้างๆเร่งให้รีบไปหา เสียงห้าวเริ่มร้องโวยวายว่าให้ร่างบางย้ายไปนั่งข้างเร็วๆเพราะเริ่มเมื่อยปาก สุดท้ายร่างบางก็ย้ายร่างตัวเองมาแหมะอยู่ข้างๆนัทจนได้
“เย็ววววว” ร้องเร่งพร้อม ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
ใบหน้าสวยขยับเข้าไปหา เอียงคอในองศาที่เหมาะที่จะงับชิ้นซูชิจากปากนั้น แต่ระหว่างที่กำลังกะจังหวะอยู่นัทก็ดึงชิ้นซูชิออกจากปากตัวเอง มือใหญ่จับต้นคอระหงแล้วโน้มเข้าไปหา แล้วจุ๊บปากบางนั้นแรงๆหนึ่งที
“จุ๊บๆ”
นัทแกล้งทำเสียงจุ๊บๆใส่จนถูกซินฟาดเข้าให้
“ขี้โกง” เสียงเล็กบ่นงุบงิบแล้วทำท่าจะลุกกลับไปนั่งที่ตัวเอง แต่ถูกแขนแกร่งรั่งเอาไว้
“นั่งนี่แหละ..ตรงนั้นไกลไป” ว่าแล้วก็เอื้อมไปบริการย้ายจานกับแก้วน้ำของซินมาให้ถึงที่
เห็นนัททำตัวน่ารักแบบนี้ยิ่งรู้สึกหัวใจพองโต
และทุกครั้งที่รักมากขึ้นเท่าไรมันก็ยิ่งหวงมากขึ้นเท่านั้น
รู้ว่าเป็นคนงี่เง่า ขี้เอาแต่ใจ แต่จะพยายามเป็นคนมีเหตุผลให้ได้
.....เพื่อนัท....
.....เพื่อรัก.....
หันไปแอบมองใบหน้าหล่อคมที่เริ่มลงมือกินอาหารบนโต๊ะ ปากได้รูปเคี้ยวหมุบหมับดูท่าทางก็คงหิวไม่ต่างกัน
ปากสวยยกยิ้มขึ้นมาอย่างเอ็นดูเพราะเม็ดข้าวที่ติดอยู่ตรงข้างแก้มใบหน้ามาเฟียนั้นช่างไม่เข้ากันเสียเลย ถ้าแฟนคลับมาเห็นภาพนี้คงลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ใช่มาเฟียแล้ว นี่มันเด็กอนุบาลชัดๆ ส่ายหน้าขำแล้วเอื้อมมือเข้าไปหา..
“เลอะเทอะ!”
แล้วปัดเศษข้าวออกจากแก้มให้นัท คนถูกจับแก้มหันกลับมาหางงๆแล้วเอามือเช็ดปากตัวเองพร้อมยิ้มเหรอหราแบบที่ทำบ่อยๆส่งมาให้
“แหะๆ”
เห็นรอยยิ้มของนัทที่ส่งมาให้ทำให้รู้สึกอิ่มเอาซะดื้อๆ แขนเล็กท้าวคางตัวเองดูคนข้างกายกินแทน
ความจริงหน้าตาแบบนัทนี่ไม่ใช่สเปคเขาเลย แต่ไม่รู้ทำไมพออยู่ๆไปกลับมองว่าไอ้หน้าแบบนี้มันดูน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ หรือจริงแบบที่ใครเขาบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด .....
“เดี๋ยวนะ...”
มือเล็กจับแขนเรียกให้นัทหยุดกินก่อน คนถูกเรียกชะงักตามเสียงแล้วหันไปมองหน้าเลิกคิ้วถามว่าร่างบางจะเอาอะไร
“ข้างนี้ใช่มะ?”
นิ้วเรียวจิ้มที่ข้างแก้มขวาของนัท แต่จากคำถามที่ไม่มีที่มาที่ไปทำให้คนฟังได้แต่ทำหน้าเหวอๆงงๆอยู่อย่างนั้น
“อะไรวะ”
“ลบรอยก่อน”
พูดจบก็เอามือตัวเองมาถูๆที่ข้างแก้มนัทแรงๆ ถูไปถูมา แล้วก็เอาปลายนิ้วปัดๆเหมือนปัดเศษฝุ่นออกไปก็ไม่ปาน
ถูและปัดจนพอใจก็ยิ้มสวยชื่นชมผมงานตัวเอง ก่อนโน้มหน้าเข้ามาใกล้จรดริมฝีปากตัวเองลงบนแก้มนัท...
“จุ๊บ~!”
.......โอเคสบายใจ.....กินต่อได้....
-END-
*************************************************************************************************************************
P.K.M Talk>>> มาต่อฟิคแว้วววว แต่คราวนี้มาแปลกหน่อยตรงเป็นฟิคสั้นนะจ๊ะ เพื่อให้เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันซะโหน่ยยยย
เรื่องของเรื่องคืออย่างที่ทุกคนรู้แหละเนอะ
งาน SINGULAR 'S CONCERT DVD LAUNCH DAY มีแต่เรื่องทำให้ฟินกลับมา
และเราก็โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อที่ได้บัตรตั้งแต่รอบแรกที่เล่นทางเฟสบุ๊ค จึงได้มีโอกาสไปเห็นความฟินกะตา อิอิ ฟิคตอนนี้อาจจะไม่ได้เล่ารายละเอียดในงานวันนั้นนะคะขอโทษด้วยค่าา แต่เราเก็บตกหลังงานมา หุหุ น่ารักรึเปล่าก็ไม่รู้สิ (หวังว่าจะถูกใจกันนะค๊าาา) 55555
ส่วนฟิคยาว ยังมีต่อนะคะ กำลังปั่นนะ ในไม่ช้าจะเอามาลง อย่าลืมติดตามกันด้วยเน้อออออออ
Fic OTOP จงเจริญ ~~~ รักนะตะเอ๊งงงง
ผลงานอื่นๆ ของ P.K.M ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ P.K.M
ความคิดเห็น