คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Fiction Singular : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 1
===Fiction แปลว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงนะคะ จินตนาการล้วนๆ !! ===
----------------------------------------------------------------------------------------------
NutSin : ผมไม่ใช่นางฟ้า # 1
“ซินไม่ใช่นางฟ้านัท ซินทนได้เท่าที่ซินจะพอทน” จบคำมือเรียวสวยก็หลุดพ้นจากพันธนาการของมือใหญ่กว่า
ร่างบางเดินจากไป ทิ้งเหลือเอาไว้เพียงร่างสูงที่ยืนมองตามอย่างอ่อนใจ
ในใจของเขาตอนนี้อยากเดินตามร่างบางนั้นไป แต่ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบแล้วเขาจำต้องทำสิ่งตรงข้าม
ร่างสูงค่อยๆออกเดินอีกครั้งตรงไปยังห้องซ้อมร้องเพลงอีกชั้นหนึ่งของตึก ภายในใจไม่ได้มีแรงขับใดใดที่จะทำให้เขากระตือรือล้นที่จะมายังที่นี่เลยแม้แต่น้อย นัทหยุดฝีเท้าที่หน้าห้องซ้อม ประตูบานหนาป้องกันเสียงหลุดรอดออกมามีกระจกใสสามารถมองเห็นคนด้านในได้
หญิงสาวหน้าตาน่ารักกำลังหลับตาพริ้มเอื้อนเสียงไปตามจังหวะเพลงที่เธอกำลังฝึกซ้อม ภาพตรงหน้าสวยงามเหลือเกิน ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มากมายที่คงทำให้ชายมากมายหลงรักได้ ....
แต่สำหรับเขามันไม่ง่ายเลย ไม่ใช่เพราะเธอไม่ดี แต่เพราะหัวใจของเขาไม่ได้มีที่ว่างไว้ให้ใครในตอนนี้
“พี่นัทคะ เข้ามาข้างในก่อนก็ได้ค่ะ ดาต้าเหลือซ้อมอีกสองเพลง” เสียงเล็กเอ่ยเรียก พร้อมๆกับใบหน้าสวยที่โผล่หน้ามาจากประตูที่แง้มออก
“อ่อ ไม่เป็นไรครับ เราหิวรึเปล่าเดี๋ยวพี่ลงไปหาอะไรมาให้กิน”
“ไม่หิวเลยค่ะ พี่นัทหิวหรอ เดี๋ยวซ้อมเสร็จเราออกไปหาอะไรกินกันไหม”
“พี่ไม่ค่อยหิวหรอก แต่ไปก็ได้ เข้าไปซ้อมต่อเถอะอย่าอู้ ฮ่าฮ่า” มือใหญ่ขยี้หัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู
หญิงสาวกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง นัทค่อยๆเดินออกมานั่งตรงมุมนั่งเล่น ร่างสูงเอนกายลงพิงเบาะอ่อนนุ่ม รู้สึกร่างกายอ่อนล้าเหลือเกิน คงเป็นเพราะตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาตระเวนทัวร์ไปหลายจังหวัดไม่ค่อยได้พักผ่อน เมื่อบ่ายก็เพิ่งไปงานโชว์ตัวที่ห้างดังมา แล้วก็ต้องกลับมาที่ตึกอีกครั้ง แต่เอาจริงๆเขาไม่ได้เหนื่อยกายเท่าไร เหนื่อยใจเสียมากกว่า…
นัทค่อยๆผ่อนสายตาหลับลงหวังให้ได้พักผ่อนบ้าง แต่แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นมาใหม่เพราะเสียงข้อความจากมือถือคู่กาย มือใหญ่หยิบมันขึ้นมาอ่านข้อความ
-- กลับถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย - -
อ่านจบใบหน้านิ่งก็ยิ้มขึ้นมา อย่างน้อยอีกคนก็ยังส่งข้อความมาหา คงอารมณ์เย็นลงแล้วบ้าง นัทส่งข้อความกลับไปอย่างอารมณ์ดี
-- กลัวเขาสนุกจนลืมตัวเองล่ะสิ ฮ่าฮ่า --
ส่งข้อความไปยังไม่ทันที่จะเก็บโทรศัพท์ ข้อความใหม่ก็เข้ามาทันควัน
-- ถ้าสนุกมาก ก็ไม่ต้องโทรมา ! --
อ่าว งานงอกเลยกู นัทรีบกดเบอร์ที่คุ้นเคยหมายจะรีบโทรไปเคลียร์กับอีกฝ่าย
“พี่นัทคะ เสร็จแล้วค่ะไปกันเถอะ” เสียงเรียกทำให้นัทต้องกดวางสายเสียก่อน
“อ่าวเสร็จแล้วหรอ โอเคไปกัน วันนี้อยากกินอะไรเรา”พูดจบมือใหญ่ก็เอื้อมไปหยิบกระเป๋าออกมาจากมือเล็กของหญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ดาต้าอยากกินอาหารญี่ปุ่นเราไปกินกันนะมีร้านนึงอร่อยมากเดี๋ยวดาต้าพาไป” พูดจบก็คล้องแขนแกร่งแล้วออกเดินอย่างอารมณ์ดี
การจราจรกลางเมืองช่วงค่ำยังคงหนาแน่นอยู่ เสียงเล็กยังคงเจื้อยแจ้วไปเรื่อย เธอเล่าเรื่องการทำงาน เรื่องเรียน เรื่องเพื่อนที่มหาลัย นัทฟังไปเรื่อยไม่ได้เบื่อหน่ายอะไร แต่ก็ยอมรับว่ามีบ้างที่ลืมฟังเพราะมัวแต่สนใจการจราจรตรงหน้า
~ ~ ใจหนึ่งใจ จะต้องการอะไรให้มันมากมาย ให้มันวุ่นวาย เพียงเธอนั้นใส่ใจกันเบาเบา พอให้สองเรา ได้ทำอะไรมากมายให้ตอนนี้~ ~
เสียงร้องคุ้นหูทำให้นัทหลุดออกจากผวังของการจราจรแล้วเผลอยิ้มออกมา
“โอ้ ! เพลงศิลปินดัง 555 เพราะจังเลย ” ดาต้าร้องออกมาอย่างอารมณ์ดี พลางเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น
“555 เนอะเพลงใครวะอย่างหล่ออ่ะ”
“โอ้โห ชมหน่อยไม่มีถ่อมตัวเลยนะ ฮ่าฮ่า คิดถึงฉันสักครั้งเมื่อไม่ได้คิดถึงใคร ทำตัวตามสบายเมื่อเจอกันในความฝัน มีเวลาดีดีก็บอกให้ฉันได้ฟัง ไม่มากเกินไปกว่านั้น ค่อยๆรักกันเบาเบา” ดาต้าร้องเพลงคลอไปตามเสียงเพลง
เสียงนี้ที่ร้องก็ไพเราะ แต่มันไม่เหมือนกันในความรู้สึก ยิ่งได้ยินเสียงยิ่งทำให้คิดถึงคนที่แต่งเพลงนี้
ถ้าตอนนี้ได้อยู่ด้วยกันก็คงดี
“พี่นัท ดาต้าขอเอาเพลงนี้ไปร้องโชว์ได้ไม๊คะ”
คำถามทำเอาคนฟังชะงักไปชั่วขณะ ไม่ใช่ไม่อยากให้แต่....
“ไม่รู้หรอ ไปขอเจ้าของเพลงเขาสิ” นั่นแหละปัญหา
“อ่าว ก็นี่ไงพี่นัทก็เจ้าของเพลง”
“แต่พี่ไม่ใช่คนแต่งไง ไปถามซินโน้น นั่นน่ะเจ้าของเพลงตัวจริง ”
“พี่ซินใจดีอยู่แล้ว ไม่หวงหรอกดาต้าว่าพี่นัทนั่นแหละ ทำมาเป็นหวง ชิ”
~ ~ มีเวลาดีดีก็บอกให้ฉันได้ฟังไม่มากเกินไปกว่านั้น ค่อยๆรักกันเบาเบา ~ ~
“ฮัลโหล”
“หลับรึยัง”
“ยัง แต่ใกล้แล้ว ดึกแล้วนี่ก็ต้องหลับต้องนอนใครจะไปลั้นลาออกไปโน้นมานี่”
“โอ้โห ประชดจัดเต็ม”
“อาบน้ำรึยัง”
“ยังเลย ถึงบ้านก็รีบโทรมาหาคุณก่อน”
“ไปอาบน้ำสิ เราจะนอนละ”
“อ่าว คนอุตส่าห์รีบโทรมาหาไล่กันเฉยเลย”
“ซินรู้คุณเหนื่อย ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า ไปอาบน้ำนอนเถอะ”
“ไม่เคยเหนื่อยเลยนะ เวลาอยู่กับซิน”
คำพูดของนัททำให้ริมฝีปากสวยเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ยกเว้นก็แต่ เวลาฟาดงวงฟาดงา”
“ไอ่นัท !” ไอ่นี้ชอบกวนตีนขัดอารมณ์คนกำลังเคลิ้ม มันน่าไล่เตะนัก
“ ฮ่าฮ่า อย่าเพิ่งนอนนะ ไปอาบน้ำแปปเดียว เดี๋ยวโทรไปใหม่ เหม็นตัวเองมากเลย”
“ไปไหนก็ไปเลยไป!”
“เขาไม่โทรไปหาแล้วตัวเองจะคิดถึง ห้ามหลับไปก่อนนะซิน” แล้วเจ้าตัวแสบก็วางสายไปพร้อมเสียงหัวเราะร่วน
ใบหน้าหวานหัวเราะอย่างเอือมระอา เคยมีความคิดอยากจะงอนให้ได้นานๆ แต่เจ้าตัวก็มาตามง้อได้ทันเวลาทุกทีสิหน่า สงสัยเราจะแพ้ทางคนหน้ามึน ร่างบางล้มตัวลงนอนแผ่ไปกับเตียงนุ่ม ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปบนเพดานห้อง พลางให้คิดไปต่างๆนานา
เขาไม่รู้หรอกว่ารู้สึกแบบนี้กับนัทตั้งแต่เมื่อไร แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่านัทจะรู้สึกเท่าๆกับที่เขารู้สึกไหม แต่บอกได้แค่ว่าทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันมันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
นัทดีมาก ดีเสียจนเขาไม่อยากจะให้นัททำดีกับคนอื่นแบบเดียวกัน ใช่ มันฟังดูเห็นแก่ตัว แต่เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรที่จะใจกว้างราวมหาสมุทร เผลอๆจะเป็นมารร้ายเสียด้วยซ้ำ (แบบนี้นัทชอบว่าเขาบ่อยๆ)
“ซินน่ะเหมือนแอปเปิ้ลในเรื่องสโนไวท์”
นัทเคยบอกเขาไว้อย่างนั้น เพราะใบหน้าหวานๆ ภายนอกที่ดูเรียบร้อย จนใครๆก็คงคิดว่าเขาจะเป็นคนนุ่มนิ่ม ยอมคนและบอบบาง แต่เปล่า... อะไรๆมันไม่ได้ดูง่ายขนาดนั้น
“ผมร้ายกว่าที่คุณคิดไว้เยอะครับ ^^” ซินตอบนัทไปแบบนั้น
แสงแดดยามเช้ากระทบเข้ากับเปลือกตาคู่สวย สิ่งรบกวนทำให้ใบหน้าหวานค่อยๆขยับและลืมตาขึ้นช้าๆ มือสวยขยับหมายจะขยี้ตาตัวเองเรียกความสดชื่น แต่ก็ต้องหยุดเพราะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับอยู่ตรงหน้าท้อง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจรีบมองหาที่มาของแรงกดทับนั้น
“นัท!” เสียงร้องลั่นทำเอาคนที่นอนหลับเอาแขนก่ายกอดเขาไว้ทำหน้าตาเหยเก แต่ก็ยังคงไม่ลืมตามาสนใจเสียงเล็กที่ตะโกนอยู่ดี
“มาได้ไงเนี่ย แล้วนี่อะไร ออกไปเลยหนัก!” ร่างเล็กๆพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการแต่ดูเหมือนอีกคนจะตื่นแล้วและแกล้งหลับเพราะแรงกอดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“ก็บอกว่าห้ามหลับก่อน ซินขี้เซานัทเลยมานอนกอดทำโทษ คิดถึงจังเลยยย ” เสียงอู้อี้ของคนหัวโตที่เอาหัวมาซุกๆตรงอกร่างบาง ใบหน้าสวยยิ้มออกมาอย่างใจอ่อน
“อ้อนอะไรแต่เช้าเลยนะ” หัวเราะร่วนลงคอ ใจอ่อนยอมให้อีกคนกอดแต่โดยดี
“อืออออ” จมูกโด่งซุกลงบนซอกคอขาวๆอย่างหยอกเย้า ทำให้ร่างในอ้อมกอดดิ้นเบี่ยงร่างหนี
“อ๊าาาาา นัทไม่เล่นนนน!”มือสวยพยามยามปัดป่ายให้ใบหน้าหล่อคมนั้นให้ออกห่างจากคอตัวเอง แต่ดูเหมือนจะยากเหลือเกิน
แขนแกร่งโอบรอบเอวบางเอาไว้แน่น มือใหญ่ซุกซนลูบเข้าไปใต้เสื้อตัวบางของคนตัวเล็ก ใบหน้าคมขโมยหอมแก้มคนตรงหน้าไปฟอดใหญ่
“นัท !เยอะและนะ” คมฟันงับเข้าลงตรงไหล่กว้าง
“โอ้ย ! เจ็บนะซิน”
“ก็กัดให้เจ็บไง จะฟ้องป๊านัทแกล้ง” ตีเข้าอีกหนึ่งทีแรงๆที่อกกว้างตรงหน้า
“นิยมความรุนแรงหรอเราอ่ะ ได้ !มานี่เลย”
คนตัวใหญ่กว่าขยับตัวขึ้นคร่อมร่างเล็ก จับแขนบางตรึงไว้สองข้าง ใบหน้าคมซุกไซ้ที่คอระหงอีกครั้ง แต่คราวนี้จรดลิ้นร้อนๆให้คนข้างล่างสะดุ้งสุดตัวร้องออกมาลั่น ขาเล็กๆพยายามดิ้นรนแต่ก็ถูกความหนักของคนข้างบนกดทับเอาไว้ให้ไม่สามารถแผลงฤทธิ์อะไรได้มาก
ลิ้นร้อนยังคงอ้อยอิ่งอยู่ที่ผิวสวยๆตรงซอกคอนั้น ก่อนนัทจะค่อยๆเคลื่อนใบหน้าขึ้นมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้หลับตาปี๋ด้วยความเสี่ยวซ่าน ลมหายใจร้อนๆรดรินที่แก้มใส นัทหัวเราะลงคออย่างชอบใจที่เห็นคนตรงหน้าหยุดต่อสู้ไปแล้ว
“นิ่งๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”
ใบหน้าสวยแต้มไปด้วยสีแดงระเรื่อ ซินค่อยๆลืมตามองหน้านัทแล้วหลุบตาหลบไม่กล้าสบตา
แล้วริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นก็ถูกริมฝีปากอุ่นๆประกบเข้าอย่างอ่อนโยน ค่อยๆบดเบียดอย่างช้าๆ กลีบปากแดงกล่ำค่อยๆเผยอรับรสจูบอย่างรู้งาน แขนแกร่งที่ตรึงเอาไว้ไร้ความหมายเมื่อคนข้างล่างเลิกขัดขืน ลิ้นร้อนๆลุกล้ำอาณาเขตเข้าไปสัมผัสกับลิ้นอุ่นๆได้อย่างไม่ยากเย็น ทั้งคู่อ้อยอิ่งอยู่กับรสจูบเนิ่นนาน ก่อนนัทจำต้องถอนริมฝีปากออกเพราะคนตรงหน้าเริ่มหายใจหอบ แต่ไม่ปล่อยให้อีกคนหายใจได้นานนัทก็บดริมฝีปากตัวเองลงไปใหม่อีกครั้ง เพราะภาพตรงหน้ายากจะต้านทานไหว แรงขบเม้มเริ่มแรงขึ้นด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่านเกินห้ามใจ
และก่อนที่นัทจะทันรู้ตัว คนด้านล่างก็ขยับพลิกกายขึ้นมาคร่อมร่างเขาแทนเสียแล้วทั้งที่กลีบปากทั้งสองยังไม่ได้ผละออกจากันเสียด้วยซ้ำ ใบหน้าหวานๆที่แดงกล่ำบัดนี้ไม่ได้มีท่าทีเขิลอายอีกต่อไป แต่กลับตอบกลับคนด้านล่างด้วยร้อยยิ้มที่ยั่วยวนที่สุดเท่าที่นัทเคยเห็นมา ผมยาวสลวยทิ้งตัวลงมาปรกหน้า มือใหญ่จัดการจับมันทัดหูคนสวยที่กำลังเป็นผู้ดำเนินเกมส์แทนเขา ริมฝีปากของซินเริ่มเป็นสีแดงเข้มกว่าเดิมเพราะช้ำจากแรงบดขยี้ แต่นั้นไม่ทำให้นัทอยากหยุด กลับยิ่งขบเม้มริมฝีปากล่างนั้นแรงๆอีกหนึ่งที กลางลำตัวแข็งตึงหลังจากรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากบั้นทายที่อีกคนทาบทับลงมาที่หน้าท้องแกร่ง สองมือป่ายปัดไปทั่วแผ่นหลังเรียบเนียน แต่กลายเป็นเขาเองที่ถูกคนตัวเล็กกว่าปลดเปลื้องเสื้อออกให้หายไปกับตา
…..ผมบอกแล้วไงครับ ซินไม่ใช่แมวเหมียว..........
.........แต่เป็นเสือสาว.........
~ คิดถึงฉันสักครั้งเมื่อไม่ได้คิดถึงใคร ทำตัวตามสบาย... ~
เสียงหญิงสาวร้องได้เพราะทีเดียว ใบหน้าสวยในชุดแดรสยาวสวมหมวกน่ารัก กำลังโยกตัวไปมาเข้ากับจังหวะเพลง คงเป็นภาพที่น่ารักในสายตาใครใคร
“เขิลเจ้าของเพลงจังเลยค่ะ ..”
จบประโยคเท่านั้น มือสวยก็กระแทกปิดโน๊ตบุ๊กอย่างแรง คิ้วเข้มสวยได้รูปขมวดมุ้นเพราะอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดออกมา
“อ่าวมาถึงเร็วจังซิน”เสียงพี่ทีมงานทักหลังจากเดินเข้าประตูมา
ใบหน้าสวยหันกลับไปยิ้มหวานให้อย่างรู้หน้าที่
“ฮะ ป๊ามาส่งเลยมาถึงเร็ว วันนี้พี่ไม่ต้องไปงานที่ไหนหรอฮะ”
“มีช่วงเย็นอ่ะนี่เอาของมาให้โอ๊ต ว่าแต่มันไปไหน”
“ยังไม่เห็นเลยครับ ซินก็มีเรื่องว่าจะคุยกับพี่โอ๊ตอยู่เหมือนกัน”
“ไหนใครเรียกฉัน!” เสียงแจ๋วมาก่อนตัว ผู้จัดการส่วนตัวร่างสูงโผล่มาพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“กูนี่แหละเรียก อ่ะนี่เอกสารส่งถึงมึงน่ะ แล้วนี่มึงแต่งตัวไรเนี่ย กางเกงเขียวเสื้อส้มกูจะเป็นลม 555”
“อะไรแฟชั่น ออกจะสดใสมึงนี่ตาไม่ถึง”
เสียงโต้เถียงหยอกล้อของพี่สองคนทำให้ร่างบางหัวเราะตามเบาเบา แต่ยังคงไม่ลืมเรื่องที่ติดอยู่ในใจให้ขุ่นมัว
และทันทีที่พี่ทีมงานอีกคนเดินจากไป ซินก็เริ่มเปิดประเด็น
“ใครให้น้องคนนั้นร้องเบาเบา ?”
คำถามทำเอาโอ๊ตหยุดเก็บข้าวของบนโต๊ะ แล้วหันกลับมามองด้วยใบหน้าจริงจัง
“นี่เราเห็นคลิปแล้วหรอ”
“แปลว่าพี่โอ๊ตรู้ แล้วทำไมไม่บอกซิน” ใบหน้าสวยที่เคยดูอ่อนหวานตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“ซิน ใจเย็นก่อน เพราะพี่รู้ไงว่าซินจะต้องเป็นแบบนี้ถึงไม่บอก”
“ก็เลยให้น้องเขาเอาของของซินไปได้ตามอำเภอใจใช่ไม๊ฮะ” น้ำเสียงแข็งกร้าวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เราเริ่มไร้เหตุผลแล้ว นี่แค่เพลงเองนะ ค่ายเดียวกันเอาเพลงไปร้อง พี่ไม่เห็นว่าจะต้องขออะไร”
“แล้วต้องเอาไปหมดทุกอย่างเลยรึเปล่าที่เป็นของซิน น้องเขาถึงจะพอใจ”
ร่างบางเดินออกจากห้องไปทิ้งให้โอ๊ตยืนถอนหายใจตามหลัง
ซินไม่เคยเป็นคนอารมณ์ร้ายแบบนี้มาก่อนจนกระทั่งมีเรื่องที่ทำให้นิสัยรักสงบของซินเปลี่ยนไป
“นัท..เราช่วยน้องหน่อยนะ พี่ว่ามันเป็นผลดีกับเราทุกฝ่าย” ผู้ใหญ่ของค่ายท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางการประชุม
ใบหน้าสวยนิ่งเรียบ เมื่อได้ยินสิ่งที่ทางค่ายขอ ภายในใจเกิดความไม่พอใจมากมายแต่เขาทำได้เพียงเงียบเอาไว้ และยิ้ม ยิ้มรอให้อีกคนพูดอะไรออกไปบ้าง
“แล้วทำไมต้องเป็นนัทล่ะครับ คนในค่ายเยอะแยะ”นัทเอ่ยถาม
“พี่ว่าเรามีเพาเวอร์พอที่จะช่วยดึงน้องขึ้นมา แล้วอีกอย่างน้องเขาเองก็ชอบนัทอยู่แล้วด้วย”
.......ชอบอยู่แล้วอย่างนั้นหรอ??......
และเมื่อเป็นคำขอของผู้ใหญ่ มีหรือที่ “ลูกจ้าง” แบบเขาทั้งคู่จะสามารถขัดอะไรได้
ตั้งแต่นั้นมาข่าวเรื่อง นัท ซิงกูล่าร์ ตามจีบนักร้องสาวน้องร่วมค่าย ดาต้า ดลันชรัส ก็เริ่มแพร่ออกไป
“ซินมาคุยกันก่อน อย่าเดินหนีนัทแบบนี้” แขนแกร่งพยายามฉุดร่างบางที่พยายามเดินหนีเขาสุดกำลัง
“นัทยังมีอะไรจะต้องคุยกับซินด้วยหรอ” ดวงตากลมโตจ้องกลับมาแต่ในดวงตานั้นเอ่อไปด้วยน้ำใสๆ
“ขอโทษ นัทก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องเขาจะกล้าเอาเพลงซินไปร้อง นัทคิดว่าเขาพูดเล่น”
“พูดเล่น! นัทยังไม่รู้อีกหรอว่าเขาไม่เคยเล่นๆ เขาจะเอาไปทั้งหมดนั้นแหละ ทุกอย่าง...ฮึก...รวมทั้งนัทด้วย”
ใบหน้าสวยที่ฉาบไปด้วยความบึ้งตึง มีหยดย้ำใสๆไหลออกมาด้วยความอึดอัดใจ
เขาไม่ได้อยากเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้ แต่ก็ไม่สามารถเก็บความรู้สึกเหล่านี้ต่อไปได้อีกแล้ว
“นัทไม่ใช่สิ่งของ ถ้าซินเชื่อใจนัทสักนิด ซินจะรู้ว่านัทไม่มีทางเป็นของเขาได้”
นัทพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนที่สุด หวังเพื่อให้อีกคนเย็นลง มือใหญ่ลูบปาดน้ำตาให้พ้นออกไปจากแก้มใส
“ซินไม่ได้อยากงี่เง่า แต่กับคนนี้ซินไม่ชอบ เขาตั้งใจทำให้ซินโกรธ”
“คิดมาก น้องเขาคงไม่ได้ตั้งใจ”
“ซินไม่ได้คิดไปเอง สักวันนัทจะรู้ ว่าหน้าสวยๆแบบนั้น แอ๊บแบ๊วยิ่งกว่าอะไร”
“หึ! เราปากร้ายว่าผู้หญิงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร” มือใหญ่รวบเอวเล็กเข้ามาใกล้ตัว จมูกโด่งแนบลงที่แก้มสวยอย่างฉวยโอกาส
“นัท !เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ตีเข้าฉาดใหญ่ที่อกกว้าง แต่ถูกนัทรั้งร่างเข้าไปกอดเอาไว้แนบกาย มือใหญ่ลูบหัวคนตัวเล็กกว่าอย่างทะนุถนอมและพยายามปลอบโยน ซินยอมให้อีกฝ่ายกอดแต่โดยดี ใบหน้าสวยซบลงที่ไหล่กว้าง
เพราะนัทดีแบบนี้ ไม่ว่าซินจะเอาแต่ใจแค่ไหนนัทก็ไม่เคยว่า.....
เพราะแบบนี้ซินถึงไม่อยากแบ่งนัทให้ใคร อยากเป็นคนเดียวที่ถูกนัทกอด.....
“อะแฮ่ม ! ดูโอ้ เพลาๆเลยเอ็ง ไปขึ้นรถได้แล้ว” เสียงผู้จัดการขัดเข้าทำเอาสองร่างรีบแยกออกจากกันทันใด
นัทเดินยิ้มอายๆออกไปก่อน ทิ้งซินเอาไว้กับใบหน้าแดงระเรือ
ผ่านไปเป็นอาทิตย์หลังจากเรื่องถูกน้องเขาเอาเพลงเบาเบาไปร้อง ซินกลับมาเป็นคนเดิม ใครใครก็ยังคงเอ็นดูคนคนนี้ จนกระทั่งวันนี้วันที่มีงานคอนเสริตการกุศล ที่รวมตัวศิลปินจากค่ายโซนี่มาแทบยกค่าย และแน่นอนรวมถึงดาต้าด้วยเช่นกัน
และก็เหมือนที่คาดเอาไว้ นัทจำเป็นต้องอยู่ใกล้ดาต้า แม้จะยังต้องทำให้ข่าวดูคลุมเครือ แต่ก็ต้องสนิทชิดเชื้อกับน้องเขามากกว่าคนอื่นๆ
หลังจากลงจากรถ เขาและซินยืนรอพี่โอ๊ตที่เข้าไปคุยคิวงานอยู่ข้างรถตู้ วันนี้ซินมีสีหน้านิ่งปนบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่ได้ถึงกับขมวดคิ้วหรือเบะปากออกมา แต่ไอ้หน้าที่นิ่งและเมินเฉยนี่แหละที่น่ากลัว แขนแกร่งแตะเอวคนตัวเล็กเบาเบาครั้งหนึ่งเพื่อเรียกให้ซินออกจากผวังแห่งอารมณ์ขุ่นๆนั้น ใบหน้าสวยหันมามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนพยายามฝืนยิ้มส่งมาให้
ไม่นานนักสถานการณ์ที่เขาไม่ชอบก็มาถึง หญิงสาวตัวสูงเดินยิ้มมากแต่ไกล ดาต้าไหว้สวัสดีทุกคนในงาน
“สวัสดีค่ะพี่ซิน” ดาต้ายกมือไหว้ซิน แต่กลับหันมายิ้มให้นัทอย่างคุ้นเคยไม่ได้ยกมือไหว้อะไร
ซินรับไหว้อย่างขืนๆ แต่ก็ยิ้มตอบกลับไป แล้วเริ่มใช้มือพัดตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
ยอมรับว่าอากาศวันนี้อบอ้าวมาก แต่คงจะถึงขั้นร้อนระอุในใจของคนร่างบาง
“ร้อนเนอะคะพี่ซิน” ดาต้าเริ่มชวนซินคุยหลังจากที่นัทเดินไปคุยกับแบ๊คอัพเรื่องเครื่องเสียง หญิงสาวตัวสูงกว่าหันไปหยิบพัดออกมาจากกระเป๋า แล้วพัดตัวเอง ซินไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยิ้มกลับไปแล้วหันหน้าไปอีกทางทำทีเป็นสนใจการแสดงบนเวที
“ดาต้าได้ยินว่าพี่ซินไม่พอใจที่ดาต้าเอาเพลงพี่ซินไปร้อง?”
ใบหน้าสวยที่พยายามยิ้มให้กับเวทีหยุดชะงัก ซินหันกลับมามองหน้าผู้หญิงข้างกาย แล้วยิ้มให้เย็นยะเยือก
“เปล่าครับ พี่ไม่ได้โกรธ”ซินตอบแล้วหันกลับไปมองเวทีอีกครั้ง
เขารู้ดีว่าข่าวเรื่องเขาทะเลาะกับนัทครั้งที่ผ่านมาหลายๆคนในบริษัทรู้เรื่อง และคงไปเข้าหูใครได้ง่ายๆ
“หรอคะ ดีจังค่ะ แสดงว่าข่าวที่ได้ยินมาคงมั่ว แค่เพลงเองพี่ซินจะมาโกรธอะไรเนอะ ดาต้าว่า...ไร้สาระ”
ใบหน้าสวยหันควับ เริ่มไม่สนุกกับบทสนทนาที่ทิ้งเสียงเอาไว้ตรงท้ายประโยคนี้แล้ว ดวงตากลมโตจ้องกลับ
หญิงสาวยังคงยิ้มหวานกลับมาให้ แล้วเริ่มเอาพัดมาพัดให้คนตัวเล็กกว่าแทน
“ร้อนหรอคะเหงื่ออกเยอะเชียว ...อ่าวพี่นัทมาพอดี” ดาต้าเดินไปหานัทแล้วช่วยพัดให้นัท ชวนคนนั้นคนนี้คุยโน้นนี่อย่างร่าเริง
..........สามารถยิ้มสวยออกมาได้อย่างร้ายกาจ...........
ร่างบางตัดสินใจเดินแยกตัวออกมาแล้วมานั่งตรงเก้าอี้ที่พักของศิลปิน พยายามพูดคุยกับศิลปินคนอื่น แต่ก็คุยไม่ได้นานเพราะความจริงแล้วอารมณ์เขาไม่ได้ดีขนาดนั้นที่จะหัวเราะร่าออกมาได้
สักพักแล้วนัทกับดาต้าก็มาสมทบ นัทนั่งข้างเขา และอีกฝั่งคือหญิงสาวที่นั่งประกบคู่อยู่ ความห่างของเก้าอี้ข้างกายช่างห่างออกไปเสียในใจเริ่มหงุดหงิด เรียวขาสวยยกขึ้นไขว้ห้างด้วยท่าที่คุ้นชิน มือเรียวสวยโบกลมเพื่อหวังให้อะไรๆเย็นลงบ้าง
.....แต่ไม่ช่วยเพราะสิ่งที่ร้อนไม่ใช่กาย.....คือใจต่างหาก......
เสียงหัวเราะโห่ร้องเป็นกำลังใจให้ศิลปินบนเวทีของหญิงสาวคนนั้นทำให้เขาอยากเอามืออุดหูแต่ทำไม่ได้ ซินจำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าวันนั้นมีใครขึ้นโชว์บ้าง ทำได้เพียงปรบมือเบาเบาให้กับทุกโชว์ เขาอยากทำตัวงี่เง่าให้งานนี้ล่มไปเลย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เขารู้ว่านัทลำบากมากแล้วที่ต้องทำทุกอย่างแบบนี้ เขาเองก็คงทำได้แค่ไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หลายๆครั้งสิ่งที่นัททำก็ดูมากเกินไปกว่าการทำตามหน้าที่ ดูแลผู้หญิงคนนี้ดีเหลือเกินเสียจนเขากลัว....
“อุ้ย! พี่นัทขาเก้าอี้ทับกระโปรงต้า” หญิงสาวก้มลงพยายามเอามือดึงกระโปรงของตนเองที่อยู่ใต้ขาเก้าอี้ของนัท
“อ่าวเออขอโทษ มาพี่ช่วย” ชายหนุ่มขยับเก้าอี้หลบและช่วยหญิงสาวดึงชายกระโปรงขึ้นมาเพราะอีกคนถือแก้วน้ำอยู่ในมือทำให้ก้มลงไปจับไม่ถนัด
“พี่ครับ!ขอน้ำหน่อยครับ” ซินร้องเรียกพี่ทีมงานเสียงดังแข่งกับเสียงเครื่องดนตรีที่ดังกระหึ่ม ทีมงานพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบน้ำให้ เสียงเรียกของซินทำให้นัทรีบหันกลับมามอง
“หิวน้ำหรอ” นัทหันมาถามคนตัวเล็กแบบไม่มีเสียง ได้การตอบรับคือการพยักหน้านิดหน่อย
ไม่นานขวดน้ำก็ถูกส่งมาถึงมือ ซินเปิดน้ำออกแล้วยกขึ้นดื่มแต่ด้วยความรีบร้อนเพราะหิวน้ำทำให้น้ำหกรดเสื้อจนเปียกไปหมด
“อุ้ย!เปียกเลยอ่ะ” ซินร้องออกมา แต่นัทมั่นใจว่านี่ไม่ใช่นิสัยของซินที่จะร้องโวยวายเสียงดังออกมาแบบนี้ คนสวยรีบวางขวดน้ำแล้วเอามือเช็ดๆลงบนเสื้อที่แนบกับอกขาว
“ดาต้ามีทิชชู่ป่ะครับพี่ขอหน่อย” นัทหันไปถามหญิงสาว ดาต้าหยิบทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้นัท
มือใหญ่รับมา แล้วขยับเก้าอี้มาอีกทางหนึ่งพร้อมยื่นให้ร่างบางที่กำลังสนใจกับเสื้อที่เปียกชื้น แต่ซินกลับไม่ยอมรับทิชชู่ที่เขาส่งให้ ใบหน้าคมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจแล้วขยับมือยื่นไปตรงหน้าสวยๆของซินอีกครั้ง และซินก็เห็นเช่นเดิมแต่ไม่รับ จนนัทอ่อนใจชักแขนกลับ
“เปียกหมดเลย” แล้วนิ้วเรียวก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกสองเม็ด ดวงตากลมคู่สวยจ้องกลับมามองนัทแล้วทำมือโบกลมพัดเสื้อราวจะช่วยให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้น
“ยั่วหรอ..” นัทพูดไม่มีเสียงใส่อีกคนที่จ้องหน้าเขาอยู่
อีกคนยักคิ้วตอบกลับมาอย่างท้าทาย พร้อมยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์
“พี่โอ๊ตซินไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงเล็กเอ่ยบอกผู้จัดการส่วนตัวที่เดินมาพอดี แล้วร่างบางก็ลุกเดินจากไป
มือเรียวเปิดประตูชั้นแรกของห้องน้ำออก เดินตรงเข้าไปดึงทิชชู่แล้วหยุดอยู่หน้าอ่างล้างหน้าค่อยๆซับเสื้อที่เปียกชื้นของตนเอง เมื่อความชื้นลดลง ส่องกระจกดูความเรียบร้อยของตัวเอง ติดระดุมให้เข้าที่ตามเดิม ขาเรียวจึงก้าวไปยังประตูห้องน้ำเตรียมออกไปด้านนอก แต่ก็ต้องชะงักเพราะมีอีกร่างหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู
ซินทำท่าจะก้าวเดินต่อ แต่ก็ถูกนัทขวางทางไว้ ขยับไปทางซ้ายนัทก็ขยับซ้าย ขยับไปทางขวานัทก็ขยับขวา
“ขวางทาง!”
ซินเอ็ดกลับไปเสียงดุ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดีของอีกคน นัทใช้แขนตัวเองโอบเอวคนตัวเล็กให้เดินตามเขาเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง
“กริ๊ก!” เสียงล็อกประตูห้องน้ำทำให้ซินหันควับกลับไปมองตามเสียง แล้วจ้องหน้าคนที่ยืนอยู่แนบกาย
“ยั่วหรอครับคุณซิน” แล้วร่างใหญ่ก็ต้อนจนอีกคนหลังแนบกับผนัง แขนท้าวกำแพงเอาไว้สองข้างกันอีกคนคิดหนี ลมหายใจร้อนๆกระทบแก้มใสเพราะใบหน้าหล่อคมห่างจากหน้าเขาเพียงไม่กี่เซนต์
“ก็....ไม่ปฏิเสธ..”
นิ้วเรียวสวยกรีดกรายไปตามแนวกระดุมเสื้อของคนตรงหน้า ก่อนเขย่งตัวเล็กน้อยแล้วประทับริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากคนตัวสูงกว่าหนี่งทีเบาเบา ดวงตาคู่สวยยิ้มส่งกลับให้คนที่ยืนทำหน้างง เพราะไม่ทันตั้งตัว แล้วเมื่อเรียกตัวเองกลับมาได้ ริมฝีปากอิ่มของซินถูกอีกคนบดเบียดตอบกลับ แต่ไม่ใช่การแตะอย่างแผ่วเบา กลับเป็นการบดเบียดที่ล้ำลึกอย่างกระหายเหลือเกิน ลิ้นอุ่นล้วงล้ำเข้าไปสัมผัสกับอีกคนอย่างดูดดื่ม แรงกระหวัดกลัดเกี่ยวของสองคนไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมใคร นัทลดแขนลงมาโอบรัดรอบเอวคอดนั้นไว้ หน้าท้องแบนเรียบแนบเข้ากับลำตัวของเขายิ่งปลุกเร้าอารมณ์ให้เกินกว่าจะต้านทานไหว ร่างสูงค่อยๆพาร่างบางเข้าไปในห้องน้ำห้องที่ใกล้ตัวที่สุด จับฝาชักโครกปิดลงแล้วทิ้งตัวเองลงนั่งพร้อมกับจับอีกคนนั่งบนตัก แขนเล็กโอบรอบคอคนที่ตนนั่งทาบทับอยู่ แล้วเริ่มต้นละเลงริมฝีปากตัวเองกับกลีบปากอีกคน อีกครั้งและอีกครั้ง
“อ๊ะ.. ฮะ เดี๋ยว แฮ่ก นัท”
ซินถอนริมฝีปากออกก่อนเพื่อหายใจถี่รวยริน มือสวยวางตรงอกกว้างเพื่อดันให้อีกคนหนึ่งหยุดก่อน เมื่อหายใจได้สะดวกขึ้น ใบหน้าสวยยิ้มออกมาหน่อยๆ ก่อนลูบไล้แผ่นอกกว้างแล้วเลื่อนไปตามหน้าท้องแข็งนั้นหยุดตรงส่วนที่ดูเหมือนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“แย่แล้ว”
เสียงเล็กพูดออกมากลั่วเสียงหัวเราะคิกในลำคอ พลางเตรียมจะลุกหนีเพราะรับรู้ได้ถึงสัมผัสที่แข็งตึงของอีกคนที่เขานั่งกดทับอยู่ แต่ก็ถูกอีกคนดึงรั้งเอาไว้ให้ลงมานั่งบนตักแบบเดิม
“ความผิดคุณคนเดียวเลย” ขบที่ใบหูคนตัวเล็ก ลมหายใจถี่แรงด้วยอารมณ์ใคร่ที่อยากจะระเบิดออกมา มือใหญ่เริ่มซุกซนอยู่ไม่สุข นัทปลดกระดุมเสื้อตัวบางของซินออกทีละเม็ด แต่ก็ถูกอีกมือหนึ่งขัดเอาไว้
“แต่เรา..มาห้องน้ำนานไปแล้วนะ” เสียงที่เอ่ยห้ามนั่นกระเซ่าเกินกว่าที่จะทำให้นัทหยุด แม้กระดุมจะถูกปลดเพียงสามเม็ดแต่ก็เผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูของอีกคน นัทพรมจูบไล่ตั้งแต่ไหล่ขาวลากลิ้นร้อนๆลงมายังปุ่มสีชมพูล่อใจนั้น ซินจิกแผ่นหลังนัทอย่างแรงด้วยความเสียวซ่านดวงตากลมโตหลับปี๋ เสียงครางหลุดรอดออกมาจากปากบางเบาๆ แม้จะจะเคลิ้บเคลิ้มตามแค่ไหนแต่ร่างบางต้องพยายามผละตัวเองออกพร้อมหอบหายใจถี่
“คะ...แค่นี้ก่อนนะ”เสียงพูดสั่นแผ่วเหลือเกิน
ดวงตาเยิ้มจ้องมองคนข้างล่างแบบอ้อนวอน เพราะเขารู้ดีว่าหากเลยเถิดมากไปกว่านี้ทั้งเขาและนัทจะทำให้เสียงาน ใบหน้าหล่อมองจ้องกลับมาอย่างผิดหวัง ซินรู้ดีว่าตอนนี้นัทคงอึดอัดมากที่ถูกเขาตัดบทกลางครันแบบนี้
ซินก้มลงประกบกลีบปากบางกับคนตรงหน้าอีกครั้ง ดุนดันลิ้นร้อนอย่างเสน่ห์หาหวังจะทำให้อีกคนเข้าใจว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากจบบทไปเพียงเท่านี้ นัทขบเม้มริมฝีปากสวยนั้นอย่างไม่ยอมให้ผละจากไปไหน ซินค่อยๆถอนจูบออกมาช้าๆ แล้วมองตาคนรักอีกครั้ง
“นะ..” ก้มลงจุ๊บปากอีกครั้ง แล้วหอมแก้มนัทฟอดใหญ่
ร่างบางค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้น เนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อซินรีบติดกระดุมตัวเองพลางสายตาก็มองไปเห็นยังจุดที่เขาเคยนั่งทับเอาไว้ ที่มีบางอย่างใต้กางเกงนั้นกำลังแข็งขันทีเดียว แล้วหลุดขำออกมา
“นัท น่าเกลียด!” แล้วรีบเดินหนีไปยังอ่างล้างมือ
“ความผิดคุณนั่นแหละ เดี๋ยวดิจะไปไหน!” คนถูกทิ้งร้องประท้วงเสียงหลง
“ซินจะออกไปข้างนอกแล้ว เดี๋ยวคนอื่นสงสัย” พูดไปแต่ตัวเองก็ต้องรีบเอาน้ำล้างหน้าเพื่อดับอารมณ์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้หมดไป
“ซินนน...” นัทเดินตามออกมา สองแขนโอบเอวคนตัวเล็กจากด้านหลัง แต่ก็พร้อมๆกับที่ร่างบางรีบเบี่ยงหลบ
ตีแรงๆเข้าที่แขนหนึ่งที ขืนปล่อยให้อีกคนเข้าใกล้ได้เขาคงจะห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่เช่นกัน
ซินรีบหนีออกจะออกจากห้องน้ำ แถมก่อนปิดประตูยังกลับมายิ้มสวยให้คนข้างใน ชี้นิ้วไปยังเป้าหมายนั้น....
“เดี๋ยวล็อคประตูให้นะ เคลียร์ตัวเองด้วย! ^ ^ ”
To Be Con.....
------------------------------------------------------
P.K.M. Talk >>> จะโดนแบนไม๊อ่า นี่คือความกลัวของมือใหม่หัดลงฟิคในนี้นะ ถึงแม้จะรู้ว่าคงไม่มีคนได้อ่านเท่าไร แต่ก็นะ เราว่ามันไม่ได้วาบวิวไรมากมายนะเอ้ออออ Fic Otop จงเจริญ แต่งเองอ่านเองจ๊าาาา ~~~
ความคิดเห็น