ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction NutSin : รักที่ไม่รู้

    ลำดับตอนที่ #1 : Fiction NutSin : รักที่ไม่รู้ # 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 55


    === Fiction ไม่ใช่เรื่องจริง  .....จบนะคะ   ====

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    NutSin : รักที่ไม่รู้ # 1 

     

    เธอคงพอรู้  ในสิ่งเหล่านี้ โดยไม่มีถ้อยคำบอกไว้

    เธอคงพอรู้จากทุกความเป็นไป  ในวันที่สองเราใกล้กัน

    แม้ในวันนั้น  ยั่งยืนเพียงฝัน เป็นแค่เพียงเมื่อวานผ่านไป

     

    ซินวันหยุดไปเที่ยวไหน

    ไม่รู้อ่ะคงอยู่บ้าน  ทำไม?

    กูจะไปดูหนังพรุ่งนี้ออกไปด้วยกันเปล่าเดี๋ยวไปรับ

    เราติดธุระอื่นแล้วอ่ะ นัทไปเหอะ

    ไม่เอาอ่ะ ซินไม่ไปกูก็ไม่ไป

    เอ้า  อะไรของแกวะ 555” 

    เซ็งว่ะ  ชวนไปไหนไม่ยอมไปด้วยกัน  รักกันป่ะเนี่ย!”

    หึหึ  อะไรเข้าสิงอ่ะนัทอ้อล้อนะเราวันนี้อ่ะ ..... แต่กลับทำให้เขาอารมณ์ดีกว่าทุกๆวันสินะ

    เปล่า  ก็อยากไปไหนมาไหนกันบ้าง 

    ก็เจอกันอยู่ทุกวัน ..... มือสวยเกี่ยวผมทัดหูอย่างเคยชิน แก้มใสใสเริ่มเจือสี 

    มันไม่เหมือนกันหรอก  ไม่ได้อยากเจอแค่เวลางาน” 

     

    เรานัดเขาไว้แล้ว  เราขอโทษนะนัท  ....... เขา ที่นัทเองก็รู้ดีว่าคือใคร…..

     

    จะไปไหนกันหรอ เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ไปทะเลกันไม่ใช่ไง  ......น้ำเสียงประชดประชันหรือหมั่นไส้กันนะ..

    ไปช่วยพี่เขาเลือกของเข้าบ้าน  เข้าสร้างบ้านใหม่น่ะ

    .....ทำไมการพูดถึงอีกคนกับนัทมันถึงยากเย็นยังไงชอบกล....

     

    หรอ อื้มไปเหอะ เขาไม่ได้เจอซินตั้งนานก็ต้องคิดถึง  ฝากหวัดดีด้วยนะ  นัทจะไปนอนละ

    ..... อยู่ๆก็เอ่ยจะตัดสาย…..ผิดวิสัยทุกครั้งทมี่คุยโทรศัพท์กันมา

     

    นัท.....

    หื้ม?

     

     

    เป็นไรป่ะเนี่ย 

    ไม่ได้เป็นไร  ง่วงจริงๆ” …..โกหก....

     

    สามทุ่มเนี่ยนะ?

    ก็นอนเร็วบ้าง...คุณไม่ชอบไง๊? .....กลบเกลื่อน....

     

    นอนให้จริงเหอะ

    จริงๆนัทจะโกหกคุณทำไม ฮะฮะ

     

    นัทไม่ชอบพี่ท็อปใช่ไม๊” …คำถามที่ทำให้อกีฝ่ายหยุดหัวเราะทันที....

     

    ............

     

    นัท

    เปล่า

     

    เปล่าแล้วทำไมเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาเราพูดถึงพี่เขา

    ช่างเหอะ....ฝันดีนะครับคุณซิน

     

    นัทนิสัยไม่ดีถามแล้วไม่เคยยอมตอบ  อื้มๆเข้านอนเลยนะคุณ บะบายๆ ฝันดี

    ....นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถามคำถามนี้....แต่ทุกครั้งก็ไม่เคยได้อะไรกลับมา........

     

    ซินไม่ได้กดวางสาย แต่รอให้อีกฝ่ายวางก่อน  มันเป็นปกติที่ทั้งคู่รู้ดี  ซินติดนิสัยนี้อย่างไม่มีเหตุผล

     

    ........  อีกคนยังคงไม่ยอมตัดสายไป

    คุณ! วางสิ

     

     

    เราไม่ได้ไม่ชอบพี่ท็อป.....แต่เราแค่ไม่ชอบให้ซินรักพี่ท็อป 

     

     แล้วสายก็ตัดไป

     

     

    *********

    พี่ซิน แป้งมีเรื่องนึงอยากบอกพี่ซินมาสักพักแล้วอ่ะ  แต่ไม่รู้จะบอกยังไง

    หญิงสาวหน้าหวานเอ่ยขึ้นมาระหว่างที่เธอและพี่ชายคนสนิทกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟเจ้าประจำที่ทั้งคู่ชอบมานั่งเล่นกันบ่อยๆ

     

    หื้อ? อะไรหรอ ใบหน้าสวยราวผู้หญิงเงยขึ้นมามองหน้าคนตรงข้ามตาแป๋ว  แล้ววางไอโฟนคู่กายลงบนโต๊ะ  เพื่อตั้งใจฟังคู่สนธนา

     

    ยิ่งเห็นสายตาท่าทางที่แสนจะใสซื่อของพี่ชาย แป้งก็แทบอยากจะกลืนสิ่งที่กำลังจะพูดลงไป

    แต่เธอก็ตัดสินใจไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องบอกพี่ซินให้ได้  แม้ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง  เธอก็พร้อมจะอยู่ข้างๆพี่ชายคนนี้เสมอ

     

     

    คือ... หญิงสาวอ่ำอึ้ง

    อะไรจ๊ะ ฮะฮ่า 

    ซินหัวเราะกับท่าทางแปลกๆของน้องสาวคนสวย  รอยยิ้มหวานๆที่พิฆาตคนมากมายถูกส่งให้น้องสาว

     

    คือ....พี่ซินรู้เรื่องพี่นัทบ้างไหมอ่ะ” 

    แป้งหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆเริ่มประเด็นที่อยากจะพูด

     

    ......นัท...ทำไมหรอ...

     ด้วยสีหน้าท่าทาง หรือ ลางสังหรณ์อะไรบางอย่างทำให้ร่างบางเริ่มรับรู้ได้ว่าเรื่องที่ตนกำลังจะได้ยินคงเป็นสิ่งที่ตนไม่อยากรับรู้ (หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้) เท่าไรนัก

     

    ก็เรื่องที่พี่นัทกับน้องดาต้าเขาคุยๆกันอยู่...พี่ซินรู้ใช่ป่ะคะ

     

     

    เหมือนแก้วที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ  ลอยอยู่อย่างนั้น ไม่นาน ทุกอย่างเงียบงัน  แล้วเมื่อถึงปลายทางมันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ  ….. มันคงเหมือนกับความรู้สึกของเขาตอนนี้

     

    ใบหน้าสวยหวานยังคงมีรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง  เขายังคงส่งยิ้มให้คนตรงข้ามแล้วหัวเราะลงคอ อย่างไร้เหตุผล  ดวงตาร้อนผ่าวๆแบบยากจะควบคุม  เขารู้ดีว่าตอนนี้ต่อให้ยิ้มกว้างแค่ไหนก็ไม่สามารถจะไล่ให้น้ำใสๆที่เอ่ออยู่ที่เบ้าตาออกไปได้

     

    แป้งรู้ดีว่าท่าทีของคนตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับอาการช็อค  แม้ไม่มีคำพูดอะไรออกมา แต่เธอรู้ดีว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไง  เธออยู่ใกล้ชิดคนนี้มาพอสมควรและพอจะรู้ความรู้สึกที่พี่ชายของเธอเก็บอยู่ในใจเสมอได้

     

    พี่ซิน....

     แป้งเอื้อมมือไปจับมือพี่ชายเอาไว้  บีบกระชับเพื่ออยากให้ซินรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่เธอมีให้

    น้ำใสๆหยดแหมะลงกระทบข้างแก้มใส ช่างตรงกันข้ามกับรอยยิ้มฝืนๆนั้นเหลือเกิน

     

    แป้งว่าพี่ซินพอรู้....แต่แค่ครั้งนี้แป้งได้ยินมาจากคนอื่นเรื่อยๆ …. แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริง แป้งก็อยากอยู่ข้างๆพี่ซินนะ  จนหนทางที่จะอธิบายใดใด เธอคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่เพียงต้องการให้ซินรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว

     

     

    ขอบคุณนะแป้ง......ได้ยินจากแป้งก็ยังดีกว่าไม่มีใครบอกอะไรพี่เลย  น้ำเสียงสั่นเครือแม้พยายามควบคุมเท่าไรก็ตาม 

     

    อีกคนหนึ่งใกล้ตัวเขาขนาดนี้  ใช่ว่าเขาจะไม่สังเกตว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น  แต่นัทกลับไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขา

    ผู้คนรอบข้างเริ่มหยอกล้อ ทุกคนรู้.....ยกเว้นเขา.....ยกเว้ยเขาที่นัทไม่บอก..........

    ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาเฝ้าแต่รอให้นัทบอก......แต่แล้วก็ไม่.......

     

    จนกระทั่งวันนี้เขาได้รับรู้แล้ว.....ทุกอย่างคงชัดเจน....

    ดีแล้ว.....ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย .....เพราะเจ้าตัวคงเลือกที่จะไม่บอกเขา.....

     

    คงหมดเวลาแล้วสำหรับการพยายามหลอกตัวเอง......

     

     

    **********

     

    ลมเอื้อยๆที่พัดมากระทบแก้มทำให้คนที่นั่งอยู่ริมสระน้ำหลับตาลงอย่างเปี่ยมความสุข  เขาไม่ได้มาพักผ่อนต่างจังหวัดแบบนี้นานแล้วหลังจากคิวงานที่แน่นเอียด  และถึงแม้ครั้งนี้จะคือการมาทำงานแต่ก็เป็นงานที่มีช่วงให้ได้ผ่อนคลายมากทีเดียว  มือสวยเอื้อมไปหยิบกล่องโพลาลอยด์ของเล่นชิ้นโปรดออกมาส่องขึ้นไปบนฟ้านั่น  เลือกมุมที่ตนเองคิดว่าน่าจดจำเอาไว้แล้วบรรจงกดชัตเตอร์ ไม่นานภาพท้องฟ้าสีสวยก็ปรากฎขึ้นพร้อมๆกับรอยยิ้มของคนถ่าย

    “มาอยู่นี่เอง นัทนึกว่าออกไปเดินเล่นข้างนอก” เสียงคุ้นหูพูดลอยมา  ร่างบางหันไปยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

    “แดดมันร้อน ไม่เอาอ่ะรอเย็นๆก่อน”
     

    ขาเรียวเล็กที่จุ่มลงไปในสระน้ำแกว่งไปมาอย่างอ้อยอิ่ง  นิ้วเรียวสวยกวักน้ำเล่นไปมา

    น้ำในสระกระเพื่อมเป็นวงใหญ่เพราะมีใครอีกคนหย่อนตัวเองลงไปในสระเรียบร้อย พร้อมยิ้มแป้นน่าเอ็นดู

    “น้ำเย็นสดชื่นจังเลยยย  ลงมาดิซินเชื่อกู” 

    “ไม่เอาอ่ะขี้เกียจเปลี่ยนชุด”  ส่ายหัวปฏิเสธพร้อมรอยยิ้ม  พลางมองดูคนตัวโตกว่าแหวกว่ายไปกับน้ำอย่างสบายอารมณ์  สงสัยคงสดชื่นจริงอย่างเขาว่าไว้

     

    นัทเองก็คงจะรู้สึกเหมือนเขาที่สามารถใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายและมีความเป็นส่วนตัวบ้าง  เพราะต้องยอมรับว่าชีวิตในกรุงเทพต่อให้เราไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็คงหนีไม่พ้นสายตาที่จับจ้องมาของคนที่รู้จักเรา  การออกมาทำงานที่ต่างจังหวัดแบบนี้ก็เหมือนการชาร์ตแบตให้ชีวิตได้ดีทีเดียว
     

    “คุณอย่าไปไกลตรงนั้นมันลึกนะ” เสียงเล็กรีบบอกก่อนที่มือกีต้าร์ของเขาจะสนุกจนลืมดูแลความปลอดภัยของตัวเอง  แต่ดูท่าอีกฝ่ายคงจะไม่ได้ยินเสียงเขาหรอก  ก็เล่นตั้งหน้าตั้งตาสนุกอยู่นั่น 
     

    เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะข้างสระน้ำดังขึ้น  เจ้าของเครื่องค่อยเอาขาออกจากน้ำแล้วเดินไปตามเสียง

    ดวงตาสวยมองดูชื่อผู้โทรเขามาแล้วก็เผลอเหลือบไปมองอีกคนที่อยู่ในสระน้ำ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองมาจึงกดรับ

     

    “ครับพี่ท็อป”

    รับสายแล้วร่างบางค่อยเดินออกห่างมาจากสระว่ายน้ำ  แต่ครั้นจะเข้าไปในห้องพักที่อยู่ติดสระน้ำก็ไม่ได้เพราะขากางเกงของเขาเปียกอยู่  จึงได้แต่หลบอยู่ตรงสวนข้างๆห้องสระน้ำนั้น

    “สนุกอยู่ล่ะสิตัวเล็ก” คำพูดของปลายสายทักมาสร้างรอยยิ้มให้กับคนฟัง

    “ฮะ  ที่นี่บรรยากาศดีมากเลย ซินได้มีเวลาพักเยอะเลยนะ ของกินก็อร่อยมากกก”

    “ดีแล้ว พักผ่อนบ้างกินข้าวเยอะๆ เดี๋ยวนี้เราตัวเล็กพี่กอดแล้วไม่หนำใจ”

    “พี่ท็อปบ้า ! พูดไรอ่ะ” ใบหน้าสวยยิ้มให้กับดอกไม้ตรงหน้าด้วยความเขินอาย

    “คิดถึงเธอจังเลยยย อยากกอดดด”

     

    “ขี้อ้อนจังคนแก่” พูดไปหัวเราะไป 

    “แก่แล้วรักไม๊อ่ะ”

    “ไม่บอก555” เสียงเล็กหัวเราะร่วนลงคอ  แล้วก็ต้องชะงักเมื่อหันไปมองที่สระ
    น้ำแล้วพบว่ามือกีต้าร์ของเขาเลิกว่ายน้ำเล่นแล้ว  แต่กลับยืนท้าวขอบสระมองมาทางเขาอยู่  มือใหญ่กวักเรียกเขาให้เดินเข้าไปหา  ร่างบางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเรียกเขาหรอ  ใบหน้าคมพนักหน้าตอบ 

     

    ซินเดินไปนั่งข้างสระเหมือนเดิม  มือยังคงถือโทรศัพท์ไว้อยู่ตอบโต้อีกฝ่ายไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

    เมื่อเรียวขาจุ่มลงไปในสระน้ำ นัทก็กลับไปว่ายน้ำอีกครั้ง 
     

    ....อะไรของเขากวักเรียกแล้วก็ไปว่ายน้ำเฉยเลย....
     

    “พี่ท็อปก็กินข้าวบ้างนะ ซินรู้นะพี่เหมียวบอกซินว่าพี่ท็อปไม่ยอมกินข้าวกลางวันเมื่อวาน” 

    บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป ไม่นานนักก็มีอีกร่างหนึ่งมาเกาะขอบสระอีกครั้งอยู่ข้างกายร่างบาง

    อีกคนไม่ได้พูดอะไรแต่สายตากลับเอาแต่จับจ้องทุกอิริยาบถของซิน
     

    “...อะไร...”  ซินพูดแบบไมมีเสียงใส่เจ้าหนุ่มหน้าหล่อข้างกายที่ยืนท้าวค้างมองอยู่นั่น
     

    คนตัวใหญ่กว่าไม่ตอบอะไรแต่กลับเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนกระทั่งมาหยุดตรงหน้า  แผ่นอกที่เปลือยเปล่าแนบชิดกับขาเรียวนั้น  ใบหน้าคมยิ้มน้อยๆยิ่งสร้างความสงสัยให้ร่างบาง
     

    “ครับพี่ท็อป” สติในการคุยโทรศัพท์ของซินลดลงอย่างรวดเร็วเพราะความสนใจพุ่งตรงไปที่คนตรงหน้า  แขนแกร่งดึงขาเล็กเป็นเชิงหยอกให้ลงน้ำ จนโดนร่างบางตีฉาดใหญ่เข้าที่ต้นแขนเพราะความตกใจ  แต่แทนที่จะทำให้อีกคนเจ็บแล้วหยุด กลับสร้างเสียงหัวเราะร่าดังลั่น
     

    “อ๋อ เสียงนัทมันหัวเราะบ้าไรไม่รู้พี่ท็อป” แอบแลบลิ้นใส่คนในสระน้ำ  และก็โดนละอองน้ำสาดเข้าข้างแก้มทันควัน

    “นัทอย่าสาดน้ำมันเปียกหมดแล้วเห็นไม๊! !” เสียงเล็กดุใส่คนที่ยิ้มหัวเราะใหญ่ ไอ่นี่ยิ่งว่ายิ่งแกล้งเว้ย

    “อ๋อ..นัทมันแกล้งสาดน้ำเข้าหน้าเปียกหมดเลยง่า...ถ้าซินไม่สบายพี่ท็อปต้องมาจัดกา...อ๊ะ”

    ต้องชะงักลงเพราะรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือใหญ่ที่ข้างแก้ม  นัทค่อยๆเช็ดน้ำที่เปียกข้างแก้มออกให้เขา ใบหน้าสวยหันกลับไปมองอย่างแปลกใจ  แขนแกร่งโอบเข้ารอบเอวบางแล้วดึงให้ร่างบางลงไปอยู่ในสระน้ำอย่างง่ายดาย

     

    “เห๊ยยย!..นัททำอะ...!!”  

    ไม่ทันที่จะเอ่ยคำได้จบ กลีบปากสีชมพูก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากอุ่นของอีกคน ลมหายใจอุ่นรดลงที่ปลายจมูก มือหนาโอบกระชับเอวบางให้เข้ามารับสัมผัสมากขึ้นไปอีก โทรศัพท์ถูกวางลงขอบสระอย่างอัตโนมัติและไม่รู้ตัว ดวงตากลมโตเบิกโพล่งด้วยความตกใจค่อยๆปิดลง ยิ่งอีกฝ่ายบดริมฝีปากลงแนบเท่าไรยิ่งทำให้อีกฝ่ายโหยหาเท่านั้น  นัทพรมจูบกลีบปากสวยจนเป็นสีแดงเข้ม มือสวยจิกเข้าแผ่นหลังกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายขบเม้มทีริมฝีปากล่าง นัทไม่มีทีท่าจะหยุดลงยังคงมอบรสจูบให้ร่างบางซ้ำย้ำอย่างนั้น มันนานเท่าไรไม่มีใครรู้  รู้แต่มันเนิ่นนานในความรู้สึก......

    ***********************

     วันนี้ซิงกูล่ามีงานกับคลื่นวิทยุคลื่นหนึ่ง มีแฟนๆและสื่อมวลชนมากมายกว่าที่คิด  บรรยากาศครึกครื้น ทั้งคู่ขึ้นโชว์ผ่านไปได้อย่างราบรื่น อาจเพราะประสบการณ์ต่างๆสอนให้พวกเขาเก่งขึ้น  และรู้งาน

    ใบหน้าหวานยิ้มต้อรับแขกแบบเคย สาวๆหลายๆคนกรี๊ดกร๊าดกับความน่ารักของนักร้องนำ และความหล่อเข้มของมือกีต้าร์คนเก่ง

     เบื้องหน้าเป็นเช่นนี้เสมอ  แม้เบื้องลึกแล้วจะเป็นเช่นไรก็ตาม...

     

    จะเก็บมันเอาไว้ ในใจ  เพราะฉัน  ไม่อาจฝืนย้อนคืนวัน  ให้หวนได้ใหม่

     

    และเป็นที่แน่นอนว่างานไหนที่มีสื่อมลชนมามากมายก็จะต้องมีช่วงที่เขาทั้งคู่จะต้องให้สัมภาษณ์

    แล้วสิ่งที่ซินคาดการณ์เอาไว้ก็ไม่เคยผิดพลาด
     

    ขอถามนัทบ้างดีกว่า  มีข่าวว่านัทคบอยู่กับน้องดาต้า 

    ไม่มีอะไรครับก็เป็นพี่น้องร่วมค่ายกันครับ  คนข้างกายเขาตอบอย่างฉะฉานชัดเจน

     

    .....ชัดเจนเสียจนเขาเองก็เกือบเชื่อไปแล้ว....

    ร่างบางยืนยิ้มอยู่ข้างๆเพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเขา  แต่แล้วนักข่าวสาวก็กลับยื่นไมค์มาทางเขา

    จริงรึเปล่าคะคุณซิน?

     

    ก็เจ้าตัวเขาก็ยืนยันซะขนาดนี้นะครับ  ก็คงจริงตามเขาครับ หัวเราะสร้างบรรยากาศรื่นเริง

    ..........นัทโกหกเก่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ.....ซินไม่เห็นเคยรู้เลย...

     

    นักข่าวสาวจากไปแล้ว  ก็คงถึงเวลาที่เขาควรไปจากตรงบ้างเช่นกัน  ...
     

    ซินเดินนำไปที่รถก่อนที่นัทจะทันรู้ตัวหลังจากที่ถ่ายรูปกับแฟนคลับมาพอสมควรแล้ว  ความจริงอยากให้ป๊ามารับแต่ท่านไม่ว่าง  ก็คงต้องนั่งไปบนรถก่อน  แม้ไม่ได้อยากอยู่ใกล้....คนขี้โกหก...

    ไม่นานนักนัทและทีมงานก็มาสมทบที่รถ ทุกคนพูดคุยหยอกล้อกันครึกครื้นเช่นเคย

    รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ  เสียงพูดคุยเริ่มซาลงไปเพราะความเหนื่อยอ่อน

     

    วันนี้นักข่าวถามเรื่องดาต้าใช่ไหม?”  พี่โอ๊ตถามขึ้นทำลายความเงียบนั้น

    ครับ  นัทตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก

     แต่ซินยังคงมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง  สีหน้าเรียบเฉยภายใต้แว่นกันแดดสีเข้มนั้นไม่มีใครสามารถเห็นอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ได้

     

    ก็ตอบไปนะ รู้ใช่ไหมว่าควรตอบยังไง  ซินก็ช่วยนัทมันแก้ข่าวหน่อยนะ

    ซินต้องช่วยนัท โกหก ใช่ไหมครับ  ได้ครับ  ....คำว่าโกหกชัดถ้อยชัดคำเสียจนคนหน้าหล่อหันควับไปมองหน้า….

    ซินไม่พูดอะไรอีกแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้ นมากดโทรออก
     

    พี่ท็อปซินเลิกงงานแล้ว  จะมารับรึเปล่าฮะ”  ….เขารู้ดีว่าไอ่สิ่งที่ทำมันแปลก  แต่ก็ทำไปแล้ว...

    เราเข้าบริษัทก่อนป่ะพี่โอ๊ต นัทพูดเสียงดังขึ้นมาซะดื้อๆ แต่สายตากลับมองจ้องไปยังคนที่กำลังคุยโทรศัพท์

    อื้ม ทำไมมึงจะไปแรดไหนอีกนัท ไม่เข็ดนะเพิ่งแก้ข่าว

    เปล่า  ก็ถามเผื่อบางคนเขาอยากลงกลางทาง ......เสียงดังไปให้อีกคนได้ยินชัดเจน....

     

    พี่โอ๊ตฮะ เดี๋ยวซินเข้าไปอยู่ออฟฟิศก่อนนะฮะ รอพี่ท็อปมารับ

    นี่คงเป็นสงครามเย็นสินะ.....

    ใบหน้าคมขมวดมุ่นเพราะอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก  มือใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอย่างรวดเร็ว

    ไม่นานเสียงเตือนข้อความเข้าของนักร้องนำก็ดังขึ้น

     

    ---- มีเรื่องต้องคุยกันนะ นัทจะรอที่ห้องซ้อม ---

     

    ทำได้เพียงคิดถึง นับจากนี้ไป

    เธอจะอยู่ในใจ  เป็นเรื่องจริงในความทรงจำ

     จะเก็บมันเอาไว้ ในใจ เมื่อครั้งมีเธอ และฉันรู้สึก ครั้งนี้ ยังไง
     

    ผ่านไปกว่าครี่งชั่วโมงแล้ว  แต่ก็ยังคงไร้เงาของคนที่เขารออยู่

    นัทเริ่มมองดูนาฬิกา หรือพี่ท็อปจะมารับซินแล้ว  แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะคงยังไม่ถึงเวลาเลิกงานของพนักงานบริษัททั่วไป  ความกระวนกระวายใจทำให้ผลสุดท้ายเขาก็พาตัวเองมาหยุดที่ห้องทำงานพี่โอ๊ต
     

    ร่างบางยังนั่งอยู่ตรงนั้น  ใบหน้าเรียบเฉยแต่สายตาที่เหม่อลอยนั้นกลับเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

    เขาไม่ชอบเห็นอีกคนเป็นแบบนี้เลยให้ตายเถอะ  มันเจ็บอยู่ข้างในลึกๆ

    นัทตัดสินใจกดมือถืออีกครั้ง
     

    --- ออกมาข้างนอกหน่อย  นัทอยากคุยกับซินจริงๆนะ ---
     

    เมื่ออีกคนอ่านข้อความจบก็หันมาพบกับใบหน้าคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูพอดี

    ไม่รู้ว่าซินจะยอมออกมาไหม  ก็ได้แต่ภาวนาให้อีกคนใจอ่อน  เพราะจะให้เดินเข้าไปกระชากร่างบางออกมาก็คงจะทำให้ทุกคนเป็นห่วง
     

    ร่างบางเริ่มขยับลุกขึ้นจากโซฟา ทำท่าบอกอะไรสักอย่างกับพี่โอ๊ต  แล้วเดินมายังประตูที่เขายืนรออยู่นัทคนตัวสูงกว่าเผลอหลุดยิ้มออกมาเพราะความดีใจ 
     

    ซินเปิดประตูออกแต่ไม่พูดอะไร  ร่างบางเดินนำเขาไปยังห้องอัดซ้อมดนตรีข้างบนตามที่นัดกันเอาไว้

    เมื่อประตูห้องซ้อมปิดลง  ร่างบางก็หยุดฝีเท้ายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่พูดอะไรออกมา
     

    ซิน....รู้เรื่องนัทกับดาต้าแล้วใช่ไหม  ....สิ่งที่ไม่อยากพูดมาตลอด....ผลสุดท้ายก็ต้องพูดอยู่ดี...
     

    ไม่มีเสียงตอบกลับมา  มีเพียงการพยักหน้าเบาเบาของคนตรงหน้า  และชัดเจนว่าซินไม่ยอมสบตาเขา

     

    นัทขอโทษที่ไม่ได้บอกซินก่อน...แล้วซินรู้มาจากใคร”…เสียงที่ถามแผ่วเบาราวกับนักโทษที่สารภาพผิด
     

    ซินไม่ได้โง่นะนัท    


    น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาสั่นเครือเสียจนคนฟังรีบเดินเข้าหา แต่อีกร่างก็ถอยห่างออกไปเช่นกัน

    ใบหน้าหวานนั้นแดงกล่ำเพราะอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ภายใน  ดวงตาที่มองจ้องข้ามไหล่นัทไปเริ่มเอ่อด้วยของเหลวใส  ภาพตรงหน้าบีบใจของนัทเหลือเกิน  เขาไม่อยากให้ซินเป็นแบบนี้ 

     

    มือใหญ่กว่าคว้ามือสวยนั้นมากุมเอาไว้  ร่างบางไม่ได้ขัดขืนสะบัดมือออกแต่กลับเงียบงัน  และหันหน้าหนีเขาไป

     

    นัทรู้ว่าซินไม่โง่ แต่ แต่นัท นัทแค่ไม่รู้จะเริ่มบอกซินยังไง

     

    ก็นัทรักน้องดาต้าไง......ประโยคสั้นๆเองนะนัท
     

    จบประโยคน้ำใสๆก็ไหลรินอาบแก้มแบบที่เจ้าตัวไม่อาจห้ามได้  พร้อมๆกับที่ซินถูกคนตัวใหญ่กว่าคว้าตัวเข้าไปกอดเอาไว้แน่น  ซินไม่ได้กอดตอบเพราะเรี่ยวแรงตอนนี้ช่างเหลือน้อยนัก  น้ำตายังคงไหลออกมาราวทำนบแตก  แรงสะอื้นเริ่มมากขึ้นจนตัวโยน  และนัทก็กอดเขาแรงมากขึ้นไปอีก  แต่ยิ่งแน่นเท่าไรกลับเจ็บข้างในหัวใจมากเท่านั้น
     

    “ก็แค่นัท..ฮึก...นัทรักคนอื่น..ทำไมไม่..ฮึก ฮือออ”

     

    ในที่สุดก็ปล่อยโฮออกมา......ขาไร้เรี่ยวแรง ร่างบางทรุดลงนั่งกับพื้น ทั้งๆที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน
     

    ไม่น่าใกล้นัทขนาดนี้เลย..... 

    เคยอยากให้นัทกอดแน่นๆแบบนี้  แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุการณ์นี้.....

    แบบนี้มันแย่ที่สุด......เกลียดตัวเองที่งอแงแบบนี้

    แต่มันเจ็บที่สุด...เจ็บกว่าที่คิดเอาไว้ทุกอย่าง

     

    จะเก็บมันเอาไว้

    จะเก็บมันเอาไว้ในใจเมื่อครั้งมีเธอ และฉัน รู้สึก ครั้งนี้ยังไง

    ให้เป็นความคิดถึง แม้นานเท่าไร

    เธอจะอยู่ในใจเป็นเรื่องจริงในความทรงจำ

     
    By : P.K.M

     P.K.M #  มันไม่ได้ดราม่าไปใช่ไม๊อ่ะ  เพราะเราฟังเพลงเรื่องจริงไปด้วยแต่งไปด้วย มันเลยออกมาเป็นแบบนี้เลย   แต่ความรักมันก็ต้องมีทั้งสุขเศร้าผสมกันไปเนอะ  Y^Y

    ยังคงจะมีตอนต่อไปนะคะ  ฟิคOTOP แต่งเงียบๆ และคนอ่านเงียบๆ แหะๆ  สนองนี๊ดตัวเองล้วนๆ


    ขอบคุณที่อ่านค่ะ (ก้มกราบ)



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×