ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ติดตาม
ดึกสงัดของค่ำคืนอันมืดมิด ป่าใหญ่ถูกปกคลุมด้วยสีดำมองไม่เห็นทำมองไม่เห็นถนนหนทางเบื้องหน้า เสียงนกฮูก
นกแสกกู่ร้องก้องป่าเป็นระยะๆจั๊กจั่นกรีดสีตีเสียงแข่งกันจนจับทิศมางไม่ได้  แสงที่พอจะให้รู้ว่าความสว่างเป็น
อย่างไร ก็คือแสงดาวบนฟากฟ้า น้ำค้างยามดึกเกาะกิ่งไม้หนาจนเป็นน้ำแข็ง สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกของ
อากาศท่ามกลางป่าเขาลำเนาลึกแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ม่านหมอกตกลงสลัวมัวมืด ทำให้สุดความสามารถของสาย
ตาในการมองเห็น หากเดินห่างกันสักสามก้าว
ร่างตะคุ่มๆสองร่างเดินดุ่มๆคู่กันมาในสายหมอกและความมืด มองเห็นเป็นความเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อสายหมอกถูก
ตัดออกจากกัน การเดินที่ไม่มีการสะดุด สะเทือน ทำให้เกิดความประหลาดใจว่าในความมืดเช่นนี้ คนที่สามารถ
มองเห็นทางเดินได้ ไม่น่าจะมีเกิดขึ้น อย่างน้อยก็น่าจะมีอาการสะดุดสะเทือนระแวดระวังกับโขดหิน และหลุมบ่อ
ตามทางเดินบ้าง
ทั้งสองร่างใช้เสื้อคลุมตัวใหญ่คลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพื่อบรรเทาความหนาวและการอำพรางตัว ทำให้มอง
ดูไม่ออกเลยว่าใครที่อยู่ภายไต้ผ้าคลุม นอกเสียจากสัดส่วนที่ผิดแปลกแตกต่างคือตัวเล็กกับตัวโต ความเงียบ
ในการเดินไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจหรืออะไรที่ซึ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ในสายหมอกแห่งนี้ ดูเหมือนว่า
พวกเขาเดินเหมือนลอยอยู่บนพื้นดิน ทั้งๆที่กำลังเดินอย่างเร่งรีบและระแวดระวังต่อบรรยากาศรอบๆตัวต่างๆ
\"พ่อ ขืนเราเดินอย่างนี้ เราตามพวกมันไม่ทันแน่ๆ\"
ร่างเล็กๆที่ดูเดินอย่างเร่งรีบเพื่อให้ตามร่างสูงใหญ่ให้ทันพูดขึ้น
อย่างแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบ...หรืออีกอย่างเขายังไม่ได้ขยับริมฝีปากด้วยซ้ำ
\"การเดินจะทำให้เราไม่หลงมิติ และสามารถระลึกร่องรอยการเดินทางของฝ่ายมันได้ง่ายขึ้น เรื่องอย่างนี้เจ้าน่าจะ
เข้าใจนะ เด็กน้อย\"
ร่างใหญ่ในความมืดตอบกลับมาด้วยเสียงอันนุ่มนวลมาทางสายลมโดยไม่ได้ขยับส่วนใด
ของใบหน้าให้รู้ว่ากำลังพูดอยู่
\"ผมเข้าใจครับพ่อ แต่ว่าเราช้าเกินไปแล้ว ผมเป็นห่วงพวกเขาเหลือเกิน\" ร่างเล็กสะท้อนใจออกมาอย่างเป็นกังวล
นกแสกกู่ร้องก้องป่าเป็นระยะๆจั๊กจั่นกรีดสีตีเสียงแข่งกันจนจับทิศมางไม่ได้  แสงที่พอจะให้รู้ว่าความสว่างเป็น
อย่างไร ก็คือแสงดาวบนฟากฟ้า น้ำค้างยามดึกเกาะกิ่งไม้หนาจนเป็นน้ำแข็ง สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกของ
อากาศท่ามกลางป่าเขาลำเนาลึกแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ม่านหมอกตกลงสลัวมัวมืด ทำให้สุดความสามารถของสาย
ตาในการมองเห็น หากเดินห่างกันสักสามก้าว
ร่างตะคุ่มๆสองร่างเดินดุ่มๆคู่กันมาในสายหมอกและความมืด มองเห็นเป็นความเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อสายหมอกถูก
ตัดออกจากกัน การเดินที่ไม่มีการสะดุด สะเทือน ทำให้เกิดความประหลาดใจว่าในความมืดเช่นนี้ คนที่สามารถ
มองเห็นทางเดินได้ ไม่น่าจะมีเกิดขึ้น อย่างน้อยก็น่าจะมีอาการสะดุดสะเทือนระแวดระวังกับโขดหิน และหลุมบ่อ
ตามทางเดินบ้าง
ทั้งสองร่างใช้เสื้อคลุมตัวใหญ่คลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพื่อบรรเทาความหนาวและการอำพรางตัว ทำให้มอง
ดูไม่ออกเลยว่าใครที่อยู่ภายไต้ผ้าคลุม นอกเสียจากสัดส่วนที่ผิดแปลกแตกต่างคือตัวเล็กกับตัวโต ความเงียบ
ในการเดินไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจหรืออะไรที่ซึ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ในสายหมอกแห่งนี้ ดูเหมือนว่า
พวกเขาเดินเหมือนลอยอยู่บนพื้นดิน ทั้งๆที่กำลังเดินอย่างเร่งรีบและระแวดระวังต่อบรรยากาศรอบๆตัวต่างๆ
\"พ่อ ขืนเราเดินอย่างนี้ เราตามพวกมันไม่ทันแน่ๆ\"
ร่างเล็กๆที่ดูเดินอย่างเร่งรีบเพื่อให้ตามร่างสูงใหญ่ให้ทันพูดขึ้น
อย่างแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบ...หรืออีกอย่างเขายังไม่ได้ขยับริมฝีปากด้วยซ้ำ
\"การเดินจะทำให้เราไม่หลงมิติ และสามารถระลึกร่องรอยการเดินทางของฝ่ายมันได้ง่ายขึ้น เรื่องอย่างนี้เจ้าน่าจะ
เข้าใจนะ เด็กน้อย\"
ร่างใหญ่ในความมืดตอบกลับมาด้วยเสียงอันนุ่มนวลมาทางสายลมโดยไม่ได้ขยับส่วนใด
ของใบหน้าให้รู้ว่ากำลังพูดอยู่
\"ผมเข้าใจครับพ่อ แต่ว่าเราช้าเกินไปแล้ว ผมเป็นห่วงพวกเขาเหลือเกิน\" ร่างเล็กสะท้อนใจออกมาอย่างเป็นกังวล
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น