ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter 2 : When i was just a little boy
The Guard wins Guardian
genre: A/U , Triangle , Flangst
rating: PG13 - NC17
paring: kris x suho , chanbaek , kai x d.o , xiumin & luhan
.. สมัยยังเด็ก ..
ทุกคนมักไปรวมตัวกันที่สนามเด็กเล่นแถวบ้าน
คุณรู้มั้ย..เด็กผู้ชายก็เริ่มเบ่งอำนาจกันตั้งแต่ตอนนั้นเลยล่ะ
เด็กผ้หญิงเค้าก่อทรายเป็นบ้านในฝัน หรืออบขนมทำอาหารกันอย่างใช้จินตนาการจากกองดิน
พ่อคุณเล่นเตะบอลไปโดนบ้างล่ะ วิ่งไปเหยียบทำลายซะเละเทะบ้างล่ะ
ยิ่งมีเด็กในกลุ่มร้องไห้ด้วยละก็ .. เด็กผู้ชายยิ่งชอบใจใหญ่
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงบ้าพลังและอำนาจกันตั้งแต่ตอนนั้น..
.
.
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Chapter 2 : When i was just a little boy.
"เฮ้ ดูไอ้ต่างด้าวนี่ดิ หน้าขาวอย่างกับผีจีนเลยอะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"เอาบอลมานี่"
เด็กผู้ชายตัวไล่เลี่ยกันแย่งบอลไปจากมือเจ้าของลูกบอลใหม่เอี่ยมที่พ่อเขาเพิ่งซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิด บอลใบน้อยลอยไปตามแรงเหวี่ยงลงไปตกกระทบบนใบหน้าขาวซีดอย่างจัง เรียกเสียงหัวเราะของเด็กผู้ชายรอบตัวให้ดังกว่าเก่า
"เฮ้ ไปทำเขาทำไมน่ะ" เจ้าของบอลรีบวิ่งไปเก็บลูกบอลที่กลิ้งอยู่ข้างๆ 'ผีจีน' ที่เพื่อนๆกำลังหัวเราะเยาะ
"เจ็บมั้ย" คนถูกถามเอาแต่ยืนลูบหน้าตัวเองที่ขึ้นสีแดงเป็นปื้น ไม่ตอบ และไม่มีปฏิกิริยาต่อเสียงหัวเราะรอบข้างเลย
"เป็นผีจะไปเจ็บได้ยังไง อีกอย่างนะ มันเป็นผีจีน ฟังภาษาเกาหลีไม่ออกหรอกฮยอง"
"ผีจีน?"
"อื้อ แ่ม่บอกว่ามันมาจากจีน"
"ไอ้ผีจีน.. / ไอ้ผีกองกอย" เด็กคนอื่นเริ่มส่งเสียงล้อตาม
ในขณะที่เด็กบางคนเอาแต่หัวเราะใส่ ส่วนบางคนก็เริ่มยืดแขนออกแล้วกระโดดเลียนแบบผีกองกอยทำเอาเพื่อนที่อยู่ข้างๆวิ่งหนีและเริ่มวิ่งไล่กัน ส่วนเด็กที่พูดกับจุนมยอนเมื่อครู่เริ่มหยิบทรายที่พื้นมาปาใส่พร้อมออกเสียงขับไล่ให้ผีจีนตัวจริงออกไป
"จงอินอย่าไปแกล้งเขาสิ"
"ฮยอง เอาบอลปาใส่เลย เร็วสิ พี่คยองซูกลัวจะแย่แล้ว"
จุนมยอนยังคงกอดบอลเอาไว้แน่นตอนที่มองผีจีนที่จงอินพูดถึง เขามองตามชานยอลที่เล่นบทเป็นผีกองกอย คอยกระโดดไล่คยองซูที่วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย จุนมยอนไม่ได้คิดไปเอง เขาเห็นมุมปากของเด็กผู้ชายหน้าขาวซีดคนนั้นกระตุกขึ้นนิดๆเหมือนกำลัง...... ยิ้ม
"ฮยอง! เอาบอลมา!!"
"ไปเตะบอลกันเถอะจงอิน"
ทุกคนคงลืมไปว่าวันนี้นัดกันเตะบอลที่สนามเด็กเล่นทันทีที่จุนมยอนอวดว่าพ่อซื้อลูกบอลให้เป็นของขวัญวันเ
กิด อันที่จริงเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนพวกเขาเพิ่งจะบ้าเล่นเบสบอลกันไปเอง แต่จงอินดันบ้าพลังเกินไปหน่อย ปาลูกเบสบอลของแบคฮยอนลอยข้ามหลังคาบ้านใครก็ไม่รู้แถวนั้นจนหากันไม่เจอ แบคฮยอนโกรธมาก จนป่านนี้ยังไม่ยอมออกมาเล่นด้วยเลย
"ชานยอล! เลิกแกล้งคยองซูแล้วไปเตะบอลกันเถอะ เร็วเข้าเดี๋ยวจะมืดแล้วนะ!"
"ฮยอง~ เราต้องทำลายผีจีนนี่นะ บอกพ่อฮยองด้วยว่าต้องขับไล่มันออกไป ไม่งั้นคยองซูกลัวตายเลยนะฮยอง"
เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อหลายวันก่อนมีครอบครัวใหม่เพิ่งย้ายเข้ามาในอพาร์ทเมนท์ของเขา.. ที่แท้ก็เด็กคนนี้เอง
"ผีเผอที่ไหน จงอินเด็กบ้า! ไม่รู้จักโต! อะบอล เอาไปเตะกับชานยอลเร็ว"
"ฮยอง!!"
จงอินไม่ชอบให้ใครมาว่าเขาเป็น 'เด็ก' จุนมยอนอายุมากที่สุดก็จริงแต่จงอินมักจะเป็นหัวโจกของเด็กในละแวกนั้น คนที่ถูกหาว่าเป็นเด็กเลยระบายอารมณ์ใส่ลูกบอลโดยการออกแรงเตะสุดกำลัง มันลอยโด่งไปตกไกลถึงอีกฝั่งของสนามแทบจะกลิ้งออกไปถึงถนนอยู่แล้ว เด็กคนอื่นๆรวมถึงตัวจงอินเองพากันวิ่งไปทางลูกบอลแล้วเริ่มแย่งกันเตะจนลืมการขับไล่ผีจีนไปสนิท..
"เป็นอะไรมั้ย?" จุนมยอนถามคนที่เอาแต่มองการแย่งบอลอีกฟากของสนาม
"นี่ ได้ยินมั้ย? ไม่เจ็บใช่เปล่า?" คนถูกถามหันมามองหน้าจุนมยอน เหมือนมีเควสชั่นมาร์คอันใหญ่แปะไว้ที่หน้าเพราะระหว่างคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน จุนมยอนจิ้มไปบนหน้าของอีกคนที่มีรอยแดงๆอยู่แล้วถามซ้ำอีกครั้ง
"ตรงนี้..เจ็บมั้ย?"
อีกคนยกมือขึ้นลูบหน้า ...ไม่ตอบ และไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
"สงสัยจะไม่เข้าใจภาษาเกาหลีจริงๆ" จุนมยอนระบายลมหายใจยาว แต่ก็ยังไม่เลิกพยายามคุยกับเพื่อนร่วมอพาร์ทเมนท์คนใหม่
"นายชื่ออะไร?.. ชื่อน่ะ ...ชื่อ เข้าใจมั้ย?"
เขายังคงได้รับการขมวดคิ้วกลับมาเป็นคำตอบเช่นเดิม
"ฉันชื่อจุน... ไม่สิ ฉันซูโฮ.." เขาชี้มาที่ตัวเองแล้วเริ่มพูดช้าๆ "ซู...โฮ"
"ซู... โฮ" อีกคนพูดตาม ทำให้จุนมยอนยิ้มกว้างกับปฏิกิริยาตอบรับที่ได้กลับมา
"ใช่ๆ ฉันซูโฮ" เขาชี้มือมาที่ตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะหันนิ้วไปหาอีกคนแล้วถาม "นายชื่ออะไร?"
"อู๋ฟาน"
"ห๊ะ?"
"อู๋ฟาน"
"อู...พาน"
"อู๋..ฟาน"
"โอ้ย พูดยากชะมัด" จุนมยอนขยี้ผมอย่างแรงเมื่อไม่สามารถออกเสียงตามได้ถูกต้อง
"ฮะฮะ"
"ขำอะไร!?"
ไ่ม่ใช่ว่าเด็กชายชาวจีนจะเข้าใจจุนมยอนหรอกนะ เพียงแต่หน้าตาไม่สบอารมณ์กับน้ำเสียงขุ่นมัวแบบนั้นทำเอาอู๋ฟานที่กำลังนึกขำกับท่าทางไม่พอใจนั่นหุบยิ้
มทันที
"เริ่นซื่อหนี่หว่อเหิ่นเกาซิ่ง..ซูโฮ"
(ยินดีที่ได้รู้จัก..ซูโฮ)
จุนมยอนเอียงคอด้วยความสงสัยว่าอีกคนพูดอะไร แต่ถึงถามไปก็คงไม่เข้าใจอยู่ดีจึงเลิกสนใจ เขาเริ่มพยายามพูดชื่อของอู๋ฟานอีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มของเจ้าของชื่อเริ่มยกยิ้มขึ้นจนเห็นได้ชัด เด็กชาวจีนออกเสียงใ้ห้จุนมยอนฟังอีกครั้ง เขาทั้งคู่สลับกันสอนเรียกชื่อของตัวเอง สลับกันพูดภาษาที่ต่างคนต่างไม่เข้าใจกันแต่ก็นั่งคุยกันนานจนเวลาผ่านไปเร็วอย่างไม่ทันรู้ตัว พอเริ่มได้ยินเสียงผู้ปกครองของเด็กหลายคนมาเรียกลูกของตัวเองกลับบ้าน จุนมยอนผุดลุกขึ้นยืนหากลุ่มเด็กที่เอาลูกบอลเขาไปเล่น โชคยังดีที่เห็นเพื่อนร่วมอพาร์ทเมนท์ยังเตะบอลกันอยู่
"จะมืดแล้ว กลับบ้านกันเถอะอู๋ฟาน"
เพราะเป็นลูกเจ้าของอพาร์ทเมนท์หรือเปล่าก็ไม่รู้ จุนมยอนถึงรู้สึกอยากดูแลเพื่อนบ้านคนใหม่คนนี้เป็นอย่างดี เหมือนกับว่าครอบครัวเขาเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องคอยดูแลทุกคนที่อยู่อาศัยด้วยกันให้ได้รับความสะดวกสบายมา
กที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ จุนมยอนจึงไม่ชอบใจเลยที่เห็นเพื่อนบ้านคนใหม่ถูกรังแก
มือน้อยเดินจูงมือพาอู๋ฟานเข้าไปหาเด็กที่เตะบอลกันอยู่ ในกลุ่มนั้นมีหลายคนที่พักอยู่อพาร์ทเมนท์เดียวกันกับเขา จงอินที่กำลังมองมาด้วยความไม่พอใจ เห็นลูกบอลกำลังกลิ้งมาก็เลยเตะอัดระบายอารมณ์จนเดือดร้อนให้ชานยอลต้องรีบวิ่งไปเก็บก่อนจะออกนอกถนนไปอี
ก ส่วนคยองซูที่นั่งพักบนเก้าอี้ ทันทีที่เห็นจุนมยอนจูงอู๋ฟานมาก็กระโดดไปเกาะหลังซันวูทันที
"ปะ..เย็นแล้วเรารีบกลับบ้านกันเถอะ"
"ฮ..ฮยอง"
"ไม่ต้องกลัวนะคยองซู เพื่อนบ้านใหม่ของเราเป็นคนไม่ใช่ผีจีนอย่างที่จงอินโกหกหรอกนะ"
"ไม่ได้โกหกซะหน่อย!"
"อย่าแกล้งคยองซูสิ ไอ้บ้าพลัง" ชานยอลที่วิ่งไปเก็บบอลมาได้ก็เอามาเด้งใส่หัวคู่กรณีทีนึงก่อนยื่นกลับไปให้เจ้าของคนเดิม
"ปะ กลับบ้านๆ เดี๋ยวป่าป๊าบ่นแย่เลย" เขาพูดแล้วก็เดินนำทุกคนออกไป คยองซูโบกมือลาซันวูก่อนจะรีบวิ่งไปเกาะหลังชานยอลแทน แต่ยังไม่วายหันหลับมามองคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีจีนอย่างกล้าๆกลัวๆ จนจุนมยอนต้องพูดย้ำอีกครั้งว่าอู๋ฟานไม่ใช่ผี คยองซูพยักหน้ารับแต่แววตาก็ยังสั่นไหวเพราะความกลัวอยู่ดี
"ระัวังเหอะ สักวันฮยองจะถูกผีจีนกัดเอา" จุนมยอนส่ายหน้าให้จงอินที่หันมาค้อนใส่เขา
ทันทีที่เดินมาถึงอพาร์ทเมนท์ จงอินที่เห็นแบคฮยอนเดินออกมาจากร้านคิมมาร์ทพอดีก็รีบปรี่เข้าไปหา เพราะกรณีการขว้างลูกเบสบอลหายไปนั้นทำให้แบคฮยอนโกรธมากจนไม่พูดกับจงอินมาหลายอาทิตย์แล้ว ชานยอลกับคยองซูวิ่งไปสมทบ ทั้ง 4 คนพากันหายเข้าไปในคิมมาร์ท คาดว่าจงอินคงพยายามซื้อไอติมง้อแบคฮยอนอีกแน่
"กินไอติมมั้ย.. ไอติม?" คนถูกถามส่ายหน้า
"งั้นฉันเข้าร้านนะ บาย.. อู๋ฟาน"
"บ้ายบาย ... ซูโฮ"
เจ้าของชื่อยิ้มหวานรับคำขานเรียก ไม่เคยมีใครเคยเรียกเขาด้วยชื่อนี้ แน่ล่ะ มีแค่เขากับพ่อเท่านั้นที่รู้ที่มาที่ไปของชื่อ 'ซูโฮ'
ครั้งหนึ่ง พ่อเคยสอนเขาว่า.. การจะเป็นเจ้าของอะไรสักอย่าง ไม่ใช่การเป็น เจ้าเข้าเจ้าของ
เราไม่สามารถบ่งการทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปได้อย่างใจเราต้องการ เราทำได้เพียงในส่วนที่เราพึงจะทำเท่านั้น
พ่อบอกว่าเราต้องให้ความรัก ความเอาใจใส่ ดูแลและห่วงใยคนอื่นก่อน เขาถึงจะให้สิ่งนั้นตอบเรากลับมา
'ลูกต้องเป็นให้ได้อย่าง ซูโฮ คนที่จะคอยปกป้องคุ้มครอง และคอยดูแลรักษาคนอื่นๆนะ'
เขาจึงอยากจะเป็นซูโฮ... ผู้พิทักษ์ที่จะคอยปกป้องดูแลทุกคน
.
.
.
ซูโฮ..
ซูโฮ...
ซูโฮ....
..........ซูโฮ!
"ห๊ะ อ..อะไร!?"
ผมสะดุ้งจนนึกอายคนที่นั่งไม่ห่างจากตัวเอง เลยถามแบบไม่พอใจเพื่อกลบเกลื่อน
"เจ็บ"
"อ้อ โทษที.. เฮ้ย! อย่าเลียดิ"
คนเพิ่งทายาให้อยู่หยกๆ เล่นเลียออกหมดแบบนี้แล้วเมื่อไหร่แผลมันจะหายกันเล่า อีกอย่างค่ายาก็ไม่ได้เสีย ช่วยประหยัดหน่อยก็ไ่ม่ได้..ไอ้ต่างด้าวเอ้ย!
ดูมัน..บอกว่าอย่าเลียก็ยังไม่หยุดอีก
"ตกลงว่า..นายรู้จักหมอนี่จริงๆใช่มั้ย"
มินซอกฮยองยืนกอดอกพิงตู้เสื้อผ้ามองผมกับอู๋ฟานที่นั่งอยู่บนเตียง
"อื้อ ครอบครัวเขาเคยอยู่ที่นี่" คนถามพยักหน้าว่าเข้าใจ แต่คิ้วก็ยังขมวดเข้าหากันเพราะยังติดใจสงสัยอยู่หลายเรื่อง และแน่นอน..มินซอกฮยองไม่เคยปล่อยให้ตัวเองสงสัยอะไรนานๆหรอก
"แล้วนายไปมีเรื่องอะไรกับพวกนั้นหรอ เป็นหนี้?"
"อืม ... ..............ไม่แน่ใจเหมือนกัน"
เจ้าคนจีนยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแล้วทำหน้าคิด ผมเลยได้โอกาสป้ายยาซ้ำที่เดิมที่หมอนี่เลียออกไปหมด เขาปัดมือผมออก ถึงแม้จะไม่แรงแต่ผมก็ไม่พอใจ คนอุตส่าห์อยากให้แผลหายเร็วๆ ไม่ใช่เพราะผมรู้สึกผิดที่ต่อยเขาโดยไม่ฟังอะไรหรอกนะ แต่แผลบนหน้าไม่ได้มีแต่ผมที่ฝากรอยเอาไว้สักหน่อย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะแข่งกันบวมขนาดไหน ต่อให้หล่อซะขนาดนี้พรุ่งนี้หน้าคงบวมจนหมดหล่อลงไปเยอะเหมือนกัน
"ไม่เอา ไม่ทาแล้ว"
เด็กดื้อ!!!!!
ผมโยนอุปกรณ์ทำแผลและยาลงกล่องอย่างไม่พอใจ บ๊ะ..คนเขาอุตส่าห์มานั่งทำแผลให้ ขอบคุณสักคำก็ไม่มีแล้วยังจะเล่นตัวอีก เออดี แผลหายช้าๆหน้าจะได้ไม่หล่อไปนานๆ
"เอ่อ ข..ขอ......"
หืม จะขอบคุณหรอ หมอนี่จะขอบคุณผมใช่ไหมเนี่ย
"อะไร"
"ข... ขอ........"
ลีลาว่ะ คำว่าขอบคุณนี่มันพูดยากตรงไหนเนี่ย แต่ถ้ามันลำบากมากนักไม่ต้องพูดก็ได้นะ ถือว่าเจ๊ากันไป ฉันต่อยนายถือว่าผิด แต่ก็มานั่งทำแผลให้ก็ถือว่าเจ๊ากันไปแล้วกัน ผมชินแล้วล่ะกับลีลาของหมอนี่
"ขอ...อะไรกินหน่อย"
ห๊ะ!
"นานหิวเหรอ ได้เลย! เดี๋ยวฉันไปต้มรามยอนมาให้แล้วกันนะ เพราะฉันก็หิวอยู่พอดีเลย แหะๆ" มินซอกเดินลูบท้องออกจากห้องนอนไปทันทีที่พูดจบ
"ขอบใจนะ ซูโฮ"
ห๊ะ!
"เฮ้อ....เหนื่อยชะมัด"
อู๋ฟานเอนหลังนอนราบไปบนเตียง เขาเหยียดแขนขาที่ยาวเกินไปเพื่อบิดไล่ความเมื่อย
"เฮ้ยๆ อย่ามานอนบนเตียงคนอื่นแบบนี้สิ"
"ทำไม นายจะถีบฉันลงจากเตียงแบบเสี่ยวลู่หรือไง"
ผมทำหน้างงใส่คนบนเตียงที่ทำหน้ากวนแถมยังยักคิ้วใส่ผมอีกแน่ะ
"เสี่ยว......ลู่?"
จบคำถาม คนบนเตียงผุดลุกขึ้นนั่งประจันหน้าผมทันทีก่อนที่จะตอบเสียงอ่อน "เพื่อนน่ะ"
"ถ้าเหนื่อยก็นอนพักไปเถอะ ฉันจะจัดของ นายหลับง่ายอยู่แล้ว ไม่เป็นไรใช่มั้ย"
เขาส่ายหน้า แล้วเอนตัวนอนอีกครั้ง
"บะหมี่สุกแล้วปลุกด้วยนะ"
"ยังเรียกบะหมี่อยู่อีก เคยบอกว่ามันไม่เหมือนกันแล้วไม่ใช่หรือไง"
เขาไม่พูดอะไรต่อแต่ผมทันเห็นรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ ผมลุกเดินกระแทกเท้าไปหยิบกระเป๋ามาวางหน้าตู้เสื้อผ้า เงยหน้าขึ้นเห็นขาที่ยาวเลยเตียงออกมาก็อดขำไม่ได้ คนบนเตียงที่หลับตาไปแล้วลืมขึ้นมาอีกครั้ง
"ขอโทษที..ขานายมันยาวเกินไปน่ะ"
"เตียงนายสั้นไปต่างหาก"
"อย่ามาตลก นี่มันไซส์มาตรฐาน ตัวนายเองต่างหากที่ยาวเกินไป"
ถึงจะบ่นแต่ผมเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีนะครับ ผมลุกขึ้นเื้อื้อมไปหยิบกล่องใส่เครื่องนอนบนหลังตู้เสื้อผ้า ดึงเอาผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมส่วนขาที่ยื่นพ้นเตียงออกมา อู๋ฟานเป็นคนขี้หนาว เขากระชับผ้าห่มบนตัว
"ซูโฮยังเหมือนเดิมเลยนะ"
หืม?
"เป็นซูโฮ..ผู้พิทักษ์ปกป้องดูแลคนอื่นเหมือนเดิม"
ไม่รู้ว่าความร้อนมากมายมาจากไหนถึงได้แล่นริ้วขึ้นหน้าอย่างกระทันหัน ผมเสมองหน้าต่างที่แตกทั้งบานแต่มินซอกหาแผ่นพลาสติกมาปิดไว้ชั่วคราว ก่อนจะมองกลับมาหาคนบนเตียงที่หลับตานิ่งไปแล้ว ผมเดินไปหยิบรีโมทมากดหรี่แอร์ลง ก่อนหน้านี้อากาศช่วงบ่ายร้อนระอุ แต่นี่ก็บ่ายแก่แล้วอากาศข้างนอกคงเย็นขึ้นเยอะ ผมเลยกลัวว่าแอร์จะเย็นเกินไป..
อ่า... นี่ผมกำลังเป็นซูโฮอยู่จริงๆด้วยสินะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
special talk:
มาต่อตอน 2 แล้วค่ะ .. ยังออกทะเลเรียบลื่นไร้สึนามิต่อไป แหะๆ สำหรับตอนนี้ก็ย้อนวัยกันไปเล็กน้อย
ไม่ได้คิดไว้ว่าตอนนั้นเด็กๆอยู่ป.อะไรกัน เหมารวมว่าเป็นตอนประถมวัยกำลังซนไปก่อนแล้วกันนะคะ ; )
แอบขอนิดนึงค่ะ ทั้งคู่ที่เราแต่งและตัวเรื่องอาจจะไม่สนุกและไม่ชอบกัน แต่รบกวนคอมเมนท์สักนิดนึงนะคะ
ถ้าไม่ชอบคู่ ไม่ชอบเรื่องบอกได้เลย เราจะได้ปรับปรุงจ้า ;__; ขอบคุณค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น