ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โสด Station

    ลำดับตอนที่ #1 : อกหัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 23
      0
      5 มี.ค. 57

     





    อกหัก


     

     

     

    “ฮืออออออออออออออออ”


    “เป็นอะไรจุนมยอนนนนนน”


    “ฮืออออ อี้ชิงงงง ลู่หานนนน ฮืออออ กูอกหัก”


    “อีกแล้วเหรอ/อีกแล้วเหรอ”

     

    มันออกจะเป็นภาพที่ชวนทำหน้าแหยๆสักหน่อยกับการที่ชายหนุ่มสองคนกำลังลูบหัวลูบหลังปลอบอกปลอบใจชายหนุ่มอีกหนึ่งคนที่เอาแต่แหกปากร่ำไห้เหมือนจะขาดใจอยู่ข้างโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะเศรษฐศาสตร์ 

     

    ไม่ได้ล้อเล่นที่บอกว่านั่งร้องไห้ข้างๆโต๊ะ เพราะคนที่เพิ่งอกเดาะมาหมาดๆไสตัวลงไปนั่งกับพื้นดินกลิ่นหญ้า ฟุบหน้ากับม้าที่เอาไว้สำหรับนั่ง เพื่อนรักอย่างอี้ชิงและลู่หานจะทำยังไงได้นอกจากตามลงมานั่งคลุกฝุ่นข้างๆ จะให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแล้วยื่นเท้ามาลูบหลังเพื่อนก็คงไม่ใช่ คิมจุนมยอนไม่ใช่คนโอเว่อร์ แต่อาจจะเป็นพวกชอบมโนไปนิด คงคิดว่าการลงมานั่งข้างล่างมันทำให้ชีวิตดูดราม่ามากกว่านั่งร้องไห้บนเก้าอี้ล่ะมั้ง ซึ่งก็อาจจะคิดถูกเพราะตอนนี้อี้ชิงและลู่หานอายจนเข้าขั้นอยากดราม่าตามเพื่อน



                      “กูไม่ดีตรงไหนนนน พวกมึงบอกกูทีสิ บ้านกูก็รวย อาจจะไม่มากเท่าน้องเซฮุนแฟนมึงแต่กูก็มีการ์ดดำ หน้ากูอาจจะไม่หล่ออย่างจื่อเทาผัวกลางเก่ากลางใหม่ของมึงแต่กูเคยเป็นเดือนโรงเรียนนะ ฮือออออ”





                จางอี้ชิงเตรียมกางเล็บจะกระชากผมเพื่อนที่เรียกแฟนเขาราวกับเป็นวัตถุโบราณ ดีที่ลู่หานคว้ามือขาวๆนั่นไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงได้ชมการแสดงประจำชาติอย่างงิ้วโดยไม่ต้องบินกลับไปถึงปักกิ่ง จุนมยอนยังฟุบหน้าร้องไห้คร่ำครวญเพ้อไปร้อยแปด น้ำตาน้ำลายน้ำมูกไหลรวมกันจนแทบกลายเป็นแม่น้ำฮวงโห

     

    “มึง อย่าร้อง เดี๋ยวกูร้องตามนะ”

    “ร้องเลยสิกูจะได้ ฮึก มี พะ เพื่อนนน  ฮือออ คนอกหักเสียใจไม่ให้ร้องไห้แล้วจะให้กูทำอะไร ให้กูเคี้ยวใบไผ่เหมือนแฟนอี้ชิงเลยไหม ฮือออ”

     

    และก็เป็นอีกครั้งที่จางอี้ชิงสยายกรงเล็บตรงดิ่งไปยังลำคอขาวๆของคนที่สะอึกสะอื้นอู้อี้อยู่ท่าเดิม และก็ถือว่าจุนมยอนยังโชคดีที่ลู่หานคว้ามืออี้ชิงไว้ได้อีกรอบอย่างหวุดหวิด ไม่อย่างนั้นคอขาวๆนั่นหักตามอกจุนมยอนไปแน่นอน

    “กูรู้มึงเสียใจ แต่อย่าพูดถึงจื่อเทาเสียๆหายๆได้ไหม” เป็นครั้งแรกที่จุนมยอนยอมเงยหน้าตวัดตาขึ้นมองเพื่อนรัก

    “มึงห่วงแฟนมากกว่าเพื่อนเหรออี้ชิง”

    “ทำไมมึงรู้”

    “มึงนี่..โกหกบ้างก็ได้”

    “กูเป็นคนซื่อ กูจริงใจ” ลู่หานถึงกับถอนหายใจ คำตอบของอี้ชิงทำเอาจุนมยอนหยุดร้องไปหลายวิ เหตุเพราะคงช็อคพอตั้งหลักได้ก็กลับไปฟุบหน้าร้องไห้อีกครั้ง

    “แล้วทำไมพี่อูบินไม่จริงใจกับกู ฮืออออออ”

    “มันโยงเข้าไปได้ยังไง นี่จุนมยอนมึงฟังกูนะ ต่อให้มึงร้องไห้ให้ตายไอ้พี่อูบินมันก็ไม่เห็นไม่รับรู้หรอกนะ มึงอย่าไปเสียน้ำตาให้มันเลย” ลู่หานลูบหัวเพื่อนทั้งยังคอยปลอบแม้จะอยากฟาดหัวมากกว่าลูบหัวก็เถอะ จุนมยอนไม่ใช่คนกวนตีนมันแค่เป็นคนงี่เง่า อืม แค่นั้นเอง

    “มึงก็ถ่ายคลิปไปลงยูทูปไม่ก็ไอจีแล้วแท็กไปให้มันดูสิ ฮืออ เดี๋ยวมันก็เห็นเองนั่นแหละ”

    “ถ้าจะพยายามขนาดนั้น กูไปลากคอมันมาให้ดีกว่าไหม”

    “ไม่ต้อง ฮืออ กูไม่อยากเจอหน้ามัน มัน ฮึก มันบอกกูว่ากูเด็กไป ไอ้เหี้ยถ้าอยากได้แก่ๆทำไมไม่ไปขอคบป้าแม่บ้านตึกวิทย์ แล้วมันก็บอก อึก วะ ว่าชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่มีเหตุผล มัน ฮึก มันบอกว่าเราเข้ากันไม่ได้ พ่อมันเถอะยังไม่ได้ลองเข้าสักครั้งมันรู้ได้ยังไงว่าไม่ได้ ฮือออออ เหตุผลส้นตีนไอ้พี่อูบินคนหล่อกูเกลียดมึง”

     

     

    อี้ชิงและลู่หานรู้วิธีการรับมือกับจุนมยอนโหมดอกหักเป็นอย่างดีเพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนฝนตก หิมะตก หรือบางทีอาจจะเหมือนเวลาแดดออก มันเกิดขึ้นแบบนี้เสมอมา อาจจะเว้นช่วงห่างบ้างถี่บ้างแล้วแต่คู่กรณี

     

    จริงๆแล้วคิมจุนมยอนเป็นคนน่ารัก ทั้งนิสัยและหน้าตา มันชวนให้เอ็นดูเหมาะกับฉายานุ่มนิ่มมุ้งมิ้งนั่นแหละ จุนมยอนเป็นคุณหนูบ้านเกือบเข้าขั้นเศรษฐี ตระกูลก็ดี อยู่ในสังคมที่ดีเรียกว่าทุกอย่างดีหมดยกเว้นดวงเรื่องความรัก จุนมยอนเป็นคนอาภัพรัก ถ้าไม่แอบรักก็ไปรักคนมีเจ้าของ แอบรักคนมีแฟนไม่เท่าไรหนักหน่อยก็ไปเจอคนที่เขามีสามีแล้ว  

     

    ถอยหลังออกวิ่งสี่คูนร้อยแทบไม่ทัน และถึงจะโชคดีหน่อยมีคนมาจีบมาคบแต่มันก็มักจะจบด้วยการถูกทิ้ง  เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไม่มีใครจริงจังจริงใจด้วยสักที หรือเป็นเพราะเขาตกหลุมรักคนง่าย ไว้ใจคนง่าย และเจ็บง่ายเกินไป เขาได้แต่ถามคำถามนี้กับตัวเองซ้ำๆซากๆถามจนเริ่มเบื่อ

    ดูอย่างอี้ชิงสิคนเอ๋อๆมึนๆอย่างนั้นกลับมีแฟนแสนดีอย่างจื่อเทามาคอยเอาอกเอาใจ ทะเลาะกันทีไรฝ่ายนั้นก็มาง้อก่อนตลอด รักกันมาตั้งแต่พวกเขาอยู่ปีหนึ่งจนตอนนี้ขึ้นปีสาม คู่นั้นก็ยังหวานไม่เปลี่ยน คู่อี้ชิงว่าน่าอิจฉาแต่จะกลายเป็นแค่เกลือสินเทาธรรมดาเมื่อมาเจอแฟนเด็กของลู่หาน โอเซฮุนน่ะทั้งหล่อลากอิฐลากดินลากมาทั้งแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ไหนจะทั้งรักทั้งหลงลู่หานชนิดที่ถ้าเอาไปต้มสกัดเก็บไว้ดมได้เซฮุนคงทำไปแล้ว

     

    ก็ลู่หานมันน่ารักขนาดนั้นนี่นาถ้าแฟนจะหลงจนเต็มใจไม่โงหัวขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เฮ้ออออออออ ดีใจกับเพื่อนที่มีความรักดีๆแต่บางทีก็แอบอิจฉาและอยากถามคนบนฟ้าว่าเมื่อไรจุนมยอนจะได้เจอความรักดีๆกับเขาบ้าง

     

    เมื่อไรคนที่เขาทุ่มเทให้ทั้งหัวใจจะไม่เดินจากกันไป

    เมื่อไรจะมีคนที่ยอมรับในทุกๆตัวตนที่จุนมยอนเป็น

    เมื่อไรจะมีคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างในวันที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุด

    เมื่อไรจะเจอใครคนนั้นสักที

     

    ตั้งแต่ถูกรุ่นพี่ต่างคณะบอกเลิกเมื่อสองเดือนก่อนตอนนี้จุนมยอนก็กลับมาครองสถานะโสดสนิท ก็ไม่รู้มันจะอยากมาชิดเชื้ออะไรกับเขานักหนา เอะอะโสด เอะอะโสด

    จุนมยอนเป็นคนรักคนง่าย รักมาก ทุ่มเท มีเท่าไรให้หมด ทั้งเวลา ความห่วงใย เอาใจใส่ดูแลเทคแคร์ทุกอย่าง จะกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เคยจำ มันเลยไม่แปลกที่เวลาเจ็บจะเจ็บมากแต่ที่แปลกคืออาการเหล่านั้นอยู่ได้ไม่นาน จุนมยอนคนเดิมที่พร้อมจะเริ่มมองหาความรักครั้งใหม่ก็กลับมา จนอี้ชิงมันขนานนามโจษจันกันไปสามบ้านแปดบ้านว่าเขาเป็นโรค….โรคที่มีชื่อเก๋ๆว่าโรคขาดผู้ชายไม่ได้ ฟัคเถอะอี้ชิง

     

    จุนมยอนได้แต่เท้าคางมองอาจารย์ที่ยืนอธิบายกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ  ปกติจุนมยอนเป็นคนมีสมาธิในการเรียนแต่ตอนนี้จุนมยอนอยากเอาสมาธิไปที่อื่นเพราะไม่อยากรับรู้โลกสีชมพูบานเย็นของลู่หานและแฟนเด็กที่ยอมลงทุนมานั่งฟังบรรยายด้วย

     

    ห้องสโลปที่มีคนเรียนเป็นร้อยอาจารย์ไม่สนใจหรอกว่าใครเป็นใคร เด็กคณะไหน ได้ลงเรียนวิชานี้รึเปล่า มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมอย่างเซฮุนจะมานั่งจับมือลู่หาน เท้าคางมองเพื่อนเขา เอาไหล่กระแซะกัน แอบเขียนหลังกัน

     

    ใช่มันไม่ยากแต่ช่วยเห็นใจกันบ้างได้ป่ะละ เขาโสดนะโว้ย เห็นใจคนโสดบ้าง ฮือออออ จุนมยอนคนเหงาไม่ได้อิจฉาเขาแต่ว่าหมั่นไส้ ถ้าอี้ชิงมันลงเรียนวิชานี้ก็ดีสิ เขาจะได้พอมีทีพึ่งพาบ้าง แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้มันไปนั่งเฝ้าแฟนที่ชมรมนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากจีนนี่หว่า เหอะ

     

    หลังจากเรียนคาบเช้าเสร็จ ลู่หานก็กว้านเอาทั้งเพื่อนตัวขาวและแฟนหนุ่มอย่างเซฮุนออกไปหาอะไรกินที่ห้างแถวๆมหาลัยโดยมีเจ้ามือใหญ่อย่างจื่อเทาเลี้ยงสาเหตุก็เพราะอยากฉลองที่อี้ชิงยอมย้ายเข้าไปอยู่คอนโดด้วยกัน ลู่หานกับจุนมยอนถึงกับลอบหันหน้ามาเบะปากใส่กันด้วยความหมั่นไส้

     

    อี้ชิงมันเอ๋อก็จริงแต่มันร้าย หน้ามันใสแต่ใจมันไม่ได้ซื่อ มันได้จื่อเทามาด้วยเล่ห์ด้วยกล มันคบจื่อเทาด้วยมนต์ดำ เพื่อนเขาไม่ได้เล่นของหรือพึ่งสาริกาลิ้นทองวัดไหน สิ่งเดียวที่อี้ชิงใช้คือมารยา อย่าว่าแต่ร้อยเล่มเกวียนเลย โคทั้งเกาหลีก็ไม่รู้จะพอเทียมเกวียนที่อี้ชิงมันมีรึเปล่า

    แรกๆมันทำเป็นอิดออดอ้างโน้น ยกนี่ตอนที่จื่อเทาชวนไปอยู่ด้วยกัน บอกว่ายังไม่พร้อมไม่เหมาะสมสารพัด ต่อหน้าจื่อเทาน่ะนะแต่พอเอามาเล่าให้พวกเขาฟังนี่สิ

     

    “มึงเอ๊ยยยยย จับแขนกูสิเนื้อกูเต้นตุบๆ นี่เรียนเสร็จพากูไปซื้อกระเป๋าเลยนะ  มันไม่พอเก็บของ กูว่าจะไม่เอาเสื้อผ้าไปเยอะหรอกมันจะดูเหมือนพร้อมเกินไปเดี๋ยวจื่อเทาจะมองกูไม่ดี กูกะจะเอาแต่พร็อบใสๆตุ๊กตาเอย ชุดนอนเอยให้เขาเห็นว่ากูอิโนเซ็นท์”

    แต่ก็ช่างเถอะถึงยังไงจื่อเทาก็ดูรักอี้ชิงดี พวกมันมีความสุขดี เขาก็เบาใจแต่ถ้าเพื่อนเขาแอ๊บแตกขึ้นมาเมื่อไรจื่อเทาก็แค่ต้องรับให้ได้กับอีกด้านของอี้ชิงแค่นั้นเอง หลังจากอิ่มกับมื้อเที่ยงพวกเขาก็แยกย้าย จื่อเทาไม่มีเรียนก็ไปธุระกับที่บ้าน เซฮุนก็กลับไปปั่นงานต่อ ส่วนพวกเขาก็กลับมาเรียนคาบบ่าย แต่ตอนนี้ว่างแล้วเพราะอาจารย์แค่เข้ามาให้งานแจกหัวข้อแล้วก็ไป อาจารย์มหาลัยหากินง่ายแบบนี้แหละ

    “เฮ้อออออ” เสียงถอนหายใจจากจุนมยอนเรียกความสนใจจากเพื่อนอีกสองคนได้เสมอ

    “เป็นไรอีกล่ะ”

    “เบื่อ เซ็ง เหงา”

    “คัน” อี้ชิงต่อให้อีกคำที่จัดว่าเจ็บ

    “ถูก” แต่จุนมยอนก็ไม่ได้สะทกสะท้านยื่นหน้าไปตอบรับอย่างชัดถ้อยชัดคำ ลู่หานเลยเอาเอกสารที่เพิ่งซีร๊อกซ์มาหมาดๆฟาดหัวเพื่อนไปคนล่ะที

    “อายปากบ้างเหอะพวกมึง”

    “แหมมึงอย่ามาทำหน้าบางลู่หาน ผู้ชายไม่ได้อยู่ด้วย”

    “อย่าเอาตัวเองเป็นมาตรฐานว่ะอี้ชิง ว่าแต่มึงยังไม่โอเคอีกเหรอจุนมยอน กูนึกว่าแผลใจมึงหายแล้ว”

    “ก็โอเคแต่แบบ คือกูก็เหงาอ่ะมึง เคยมีคนไลน์หา โทรหามารับมาส่งแล้วอยู่ๆมันไม่มีกูก็โหวงๆอ่ะ”

    “มันจะไปยากอะไรมึงก็หาใหม่ซะสิ” อี้ชิงโยนขนมเข้าปากเคี้ยวหนุบหนับพร้อมยักไหล่และยิ้มกว้างๆให้เพื่อนตัวขาวที่ทำหน้าหงอย ถึงจะชอบจิกชอบกัดมันแต่บอกตรงๆโคตรไม่ชอบเวลามันเศร้า เขากับลู่หานมีแฟนก็ใช่ว่าจะไม่ห่วงมัน ทุกวันนี้ก็จัดสรรเวลามาให้มันชนิดที่เรียกว่าตารางร้างผัวได้เลยนะ จื่อเทาครึ่งจุนมยอนครึ่ง ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียว

    “แฟนนะไม่ใช่รถขายลูกชิ้นจะได้เดินเขาไปเลือกๆแล้วหยิบมาสามสี่ไม้ มึงก็พูดง่าย อี้ชิงลู่หานกูไม่ดีตรงไหนวะ ทำไมไม่มีใครเอา คือดั้งกูแหมบรึเปล่า”

    “ก็ไม่นิ กูชอบจมูกมึงนะดูรั้นๆดี” ลู่หานตอบ

    “แล้วตากูล่ะเขหรือว่าเหล่”

    “เปล่า ตามึงสวยดีออก กลมๆใสๆเหมือนกระต่ายถึงหนังตามึงจะไปทำสองชั้นมาก็เถอะแต่ในตามึงสวย”

    “แล้วปากกูล่ะ แหว่งไหม”

    “ไม่แหว่งหรอกเป็นสีชมพูธรรมชาติเชียวล่ะแต่อีกไม่นานอาจจะแตกและเป็นสีแดงเพราะกำปั้นกู”

    “มึงจะต่อยกูหรออี้ชิง”

    “ตอนกำลังรำคาญกูได้หมดล่ะทั้งตบทั้งต่อย จิกหัวนี่ถนัด ตอนปีหนึ่งกูเคยโชว์ให้มึงดูแล้วไงที่ไฟ้ท์กับเด็กบริหารเรื่องจื่อเทา”

    “อี้ชิง”

    “อือ”

    “แล้วถ้ากูดีขนาดนี้ทำไมกูถึงไม่มีแฟนสักที”

    “เพราะมึงเลือกไง”

    “กูเปล่า”

    “แล้วทำไมไม่ยอมเดทกับพี่มินโฮนิเทศน์ล่ะ”

    “เขาบ้าพลังเกินไป”

    “พี่ซองกยูศิลปกรรม”

    “กูว่าพี่เขาแปลกๆ อยู่ๆก็หัวเราะกูกลัว”

    “แล้วฮิมชานวารสาร”

    “กูไม่แน่ใจ กูดูไม่ออกเกิดกระโดดขึ้นเตียงแล้วหันหลังชนกันเหมือนตอนพี่ฮีชอลอีกล่ะ กูจะทำยังไง กูว่าเขาอาจมีผัวแล้ว ไม่อยากเสี่ยง”

    “แต่เขาทำเหมือนจีบมึง”

    “เขาอาจจะแค่อยากลองเล่นเลส บอกแล้วว่ากูไม่เสี่ยง”

    “สุดท้ายพี่คยูฮยอนกูว่าคนนี้เด็ดสุดล่ะ”

    “อืมกูก็ว่างั้นล่ะทำไมกูไม่เอาเขาวะ แต่พี่เขาดูแปลกๆเขาเหมือนจะปกติแต่ก็ไม่ใช่อาจจะดีกว่าพี่ซองกยูหน่อย กูอธิบายไม่ถูก”

    “จุนมยอน”

    “อื้ม”

    “แล้วไหนมึงบอกไม่ได้เลือกไง ที่พูดมาน่ะมันไม่มีข้อดีสักข้อเลยนะ” ลู่หานวางปากกาตั้งหน้าตั้งตาถามเพื่อน ผู้ชายแต่ละคนที่ผ่านเข้ามาให้จุนมยอนได้คัดสรรโดยไม่ต้องใช้หมวกเหมือนที่แฮรี่ทำ ทุกคนโปรไฟล์ดีๆทั้งนั้น แต่จุนมยอนก็ไม่เอาใครเลยสักคน นั่นยังไม่น่าโมโหเท่ากับมันบอกว่าไม่มีใครเอามัน มึงน่ะไม่เอาเขาเองจุนมยอน

    “กูไม่รู้แต่กูไม่อยากโสดแล้วมึงเข้าใจไหม อ่ะ หรือจะเอาจื่อเทาดีล่ะ”

    “กูไม่เคยฆ่าคนแต่กูรู้นะว่าการเอามีดจ้วงท้องใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องยาก” จุนมยอนยู่ปากและถอนหายใจอีกครั้งก็แค่แกล้งแหย่เล่นแต่สายตาอี้ชิงเหมือนบอกว่า อย่านะกูพกมีดไว้ในกระเป๋านะ โอเคเปลี่ยนเรื่อง

    “งั้นมึงก็หยุดตามหาดีไหมปล่อยให้มันเป็นไปเอง ความรักน่ะถ้าถึงเวลาที่ใช่มันก็มาเองแหละ ยิ่งมึงวิ่งตามไขว่คว้ามันจะยิ่งยากยิ่งเหนื่อยนะ”

    “ส่งใบสมัครกองบรรณาธิการใยไหมไหมลู่หาน มึงอย่ามานางเอกแถวนี้ มันหมดยุคพี่ชายยยยยแล้ว เลิกเพ้อฝันโลกสวยไปได้เลย” ลู่หานงับปากฉับจนจุนมยอนขำคิก โดนอี้ชิงจัดให้ไปคนละชุดสองชุดจุกไปตามๆกัน

    “เอางี้เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง”

    “มึงจะมารุกให้กูเหรอ”

    “บิทชี่ อ้วกเหอะจุนมยอน กูจะหาคนดีๆให้มึงเอง”

    “ให้มึงหากูว่าคงไม่ได้ดีหรอกอี้ชิง”

    “ไฟ้ท์ไหมลู่หาน กลางลานนี่แหละมาเลย มา” ลู่หานกับอี้ชิงเปิดศึกปากระดาษแต่คนที่นั่งตรงกลางอย่างจุนมยอนนี่รับไปเต็มๆ “มึงเชื่อกูจุนมยอน ขาวๆตัวเล็ก หน้าเด็กอย่างมึง ตลาดต้องการ”

     

    เขาจะลองเชื่ออี้ชิงสักครั้งดีไหม

     

    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่สามแสบยังเกาะกลุ่มกันหนึบ คาบบ่ายว่างเลยมาปั่นงานกันไกลถึงคณะวิศวะ เอาจริงๆคืองานน่ะทำที่คณะตัวเองก็ได้แต่ที่ต้องถ่อมาไกลถึงวิศวะเพราะอี้ชิงพาจุนมยอนมาลาเหยื่อ พูดง่ายๆคือมาอ่อยนั่นแหละแต่เหมือนจุนมยอนจะปอดแหกไม่กล้าเลยหอบของหนีออกมาซะงั้น

     

    ใครจะไปกล้าผู้ชายเป็นฝูงแถบยังถึกๆเถื่อนๆ มันไม่ใช่แนวอ่ะ ไม่ใช่สเป็คจุนมยอน สุดท้ายเลยมานั่งซังกะตายอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆคณะสถาปัต เหตุเพราะร่มรื่นเหรอ? เปล่าเพราะลู่หานอยากมารอแฟน

     

    “มึงมันห่วยแค่นี้ก็ป๊อด เมื่อกี้มีคนมองๆเล็งๆมึงด้วยเหอะดันหน้าบางวิ่งออกมาก่อน”

     

    “มึงไม่ต้องไปว่ามันเลยอี้ชิง พาพวกกูเข้าไปในดงขนาดนั้นเกิดมีคนหน้ามืดจับเราฆ่าข่มขืนทำไง”

     

    “นี่ก็มั่นหน้าไปนะ ผู้ชายที่ไหนมันจะบ้ามาข่มขืนผู้ชายด้วยกันกูบอกแล้วว่าอย่าอ่านนิยายวายเยอะไงลู่หาน”

     

    “มึงเงียบก่อนลู่หานกูขอเคลียร์กับมันเอง อี้ชิงแม่งมึงก็รู้สเป็คกูเป็นยังไง เด็กวิศวะมันไม่ใช่แนวเข้าใจป่ะ”



    “นี่ก็เลือกเยอะไปอีกกกก ถ้ามึงจะหาใหม่ให้ได้อย่างพี่อูบินเดือนบริหารคงต้องตายแล้วไปถวายสังฆทานกันสักเก้าวัด อธิฐานจิตแล้วค่อยไปเกิดใหม่นะ มึงน่ารักก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่ามึงจะหาแฟนหล่อๆหุ่นนายแบบในฝันได้เสมอไปนะจุนมยอน มึงดูอย่างลู่หานสิหน้ามันอย่างกับตุ๊กตาแล้วมึงดูแฟนมันดิ”

     

    “อ้าววว เซฮุนทำไมแฟนกูทำไม”

     

    “เปล่ากูไม่มีไรจะเปรียบกูหันไปเจอหน้ามึงพอดี คือกูแค่อยากให้มึงอยู่กับความเป็นจริงนะจุนมยอน คบกันที่หน้าตาอายุเท่าเรามันไม่ใช่แล้วป่ะ นิสัยใจคอน่ะสำคัญกว่านะจุนมยอน” อี้ชิงพูดจบจุนมยอนก็หงอยลงถนัดตา

     

    “กูก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องหล่ออย่างเทพบุตร แค่พอดูได้พาไปหาพ่อหาแม่อย่างไม่อาย แต่ถ้า ถ้ามันจะหายากเย็นขนาดนี้ กูว่ากูยอมแพ้ดีกว่าว่ะ กูไม่มีใครก็ได้ กูยอมเป็นโสดก็ได้ กูอยู่กับพวกมึงก็ได้ กูไม่มีแฟนก็ได้โว้ยยยยยยยยยยยย”

     

    “เอ่อ น้องๆ ขอโทษนะครับว่างรึเปล่า ช่วยทำแบบสอบถามให้พี่หน่อยได้ไหม”

     

    เฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เอื้อออออออออออออ

    ฝากพ่อแม่ข้าด้วยยยยยยยย

     

    จุนมยอนหยุดหายใจไปสามวิเขาถูกสตั้นให้อยู่ในท่าเงยหน้ามองผู้ชายคนนั้นจนตาค้าง ปากก็น่าจะค้าง เป็นไปได้ก็อยากจะชวนพี่เขาไปค้างด้วยสักคืน หืมมมมม

     

    ชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ในชุดนักศึกษาที่ผิดระเบียบแต่สำหรับจุนมยอนตอนนี้พี่เขาถูกเสมอ ผมสีบรอนด์นั่นมันดูเข้ากันดีกับเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบและหุ่นที่เพอร์เฟค จุนมยอนหูอื้อตาลายได้ยินเสียงวิงๆในหู บอกได้คำเดียวว่าหล่อ หล่อมาก หล่อเหี้ย โคตรหล่อ หล่อโคตรๆ หล่อเหี้ยๆ หล่อให้ชีวิตลำบาก หล่อทรมานจิตวิญญาณ หล่อกระชากประตูหลัง หล่อสติพัง หล่อโคตรพ่อโคตรแม่ หล่ออยากเสียตัว หล่อทำร้ายมวลมหาประชากรโลก

    นี่มัน นี่มัน

    ชาย ใน ฝัน

    คน ใน นิยาย

    ขุ่นพระ!!!!!!

    และเราก็หากันจนเจอออ เพลงมา






    จุนมยอนมองหน้าคนที่ยืนยิ้มจางๆมาให้ กระพริบตาถี่ๆคนคนนี้ก็ยังไม่หายไป แอบเอามือไปหยิกมือลู่หานที่ใต้โต๊ะ แอบหัน
    หลังไปกัดฟัน กัดเสื้อทำท่ากรีดร้อง ให้ถายเถอะโรบินสัน (ผิด) ให้ตายเถอะโรบิ้น





                 “มึง” เขากัดฟันพูดพอให้ได้ยินกันสามคน

    “อือออ” อี้ชิงกับลู่หานก็ตอบรับแบบเพ้อๆเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็นเทพบุตร วันนี้ได้เห็นเป็นบุญตาซะที

    “กูขอกลืนน้ำลายตัวเองแปบ”



    “เป็คมึงเลย”


    “โดนล่ะสิ”


    “ได้โดนก็ดี”


    “บิทชี่/บิทชี่”

     






     

    อิอิอิอิอิ ฟิคชั่ววูบ เข้าใจคำว่าชั่ววูบไหมคะ มีน้องคนหนึ่งส่งคลิปคลิปหนึ่งมา ดูจบอินี่ฟินค้างง เลยจัดซะเลย


    ฮอลลลลลลลลลลลลลล หวังว่าจะชอบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×