คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ลอเรน เมสเตรย์ - นักกวนประสาท
หลังจากผู้เป็นพ่อของเธออารมณ์เสีย ลอเรนก็ตัดสินใจจะช่วยแม่ของเธอทำอาหาร แม้ว่าหญิงหวานอย่างเธอจะไม่มีความสามารถด้านนี้เลยก็ตามที
“ขอบใจมากนะจ๊ะ” ลิลี่พูดกับเธอด้วยท่าทีปลาบปลื้ม “ลูกเป็นลูกที่พ่อกับแม่ภูมิใจกับทุกกริยาของหนูเสมอ... ไม่ว่าลูกจะทำอะไร ก็สร้างแต่ความนิยมในตัวลูกเสมอ ถ้าลูกไม่อยู่ แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแอนน์กับแม่จะทานอะไร เพราะวันนี้อังเดรกับลีน่าก็ออกไปซื้อของทั้งวัน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ลอเรนหัวเราะคิกคักเบาๆ “อีกอย่าง... ที่แม่พูดก็ดูจะเกินความจริงไปหน่อยนะคะ”
“ไม่หรอกจ้ะ” ลิลี่ยิ้มจนตาหยี ก่อนจะทำสลัดต่อไป
โทรศัพท์ของลอเรนดังขึ้นด้วยเสียงเพลงคลาสสิคที่เธอเลือกเป็นเสียงเรียกเข้า เธอวางอุปกรณ์ทำครัวลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องสีทองหรูขึ้นมา “ขอโทษนะคะ คือมิทซี่โทรมา คงจะมีธุระน่ะค่ะ” เธอพูดกับลิลี่
หญิงวัยกลางคนผมสีน้ำผึ้งพยักหน้า ก่อนจะยิ้มให้อีกครั้ง “เอาสิจ๊ะ”
ลอเรนพยักหน้าขอบคุณ ก่อนจะผละออกไปจากครัว “ฮัลโหล”
“ลอเรน คือฉันจะทำรายงานเรื่องกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์...” มิทซี่พูดด้วยท่าทีขอร้อง “ฉันเห็นเธอมีบัญญัติเรื่องนั้นแบบลึกซึ้งเลย ช่วยฉันหน่อยสิ”
“ได้สิ” ลอเรนรับคำ “งั้นรอแป๊บนะ”
“ขอบใจจ้ะ!” เสียงปลายสายอารมณ์ดีทันที
ลอเรนขึ้นบันไดเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานของเธอ
“ตายจริง!” เธออุทาน “ฉันลืมมันไว้ที่มหา’ลัยน่ะ”
“ไม่นะ...” มิทซี่พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อโลก
“ฉันคิดว่าฉันไปได้นะ...” ลอเรนพูดเพราะไม่อยากให้เพื่อนรักต้องผิดหวัง “เดี๋ยวฉันจะโทรไปบอกเธอให้อีกที”
“ขอบใจจริงๆ จ้ะ ฉันเป็นหนี้บุญคุณเธอหนึ่งทศวรรษ” มิทซี่เปลี่ยนน้ำเสียงทันที
ลอเรนหยิบกุญแจรถจากลิ้นชักอีกที่ ก่อนจะวิ่งลงไปข้างล่าง และตะโกนไปหาลิลี่ผ่านประตู
“แม่คะ เดี๋ยวหนูจะมานะคะ” พูดเสร็จเธอก็รีบออกไปเปลี่ยนรองเท้าก่อนจะสตาร์ทรถทันที ทิ้งให้แอนน์และลิลี่มองรถหรูที่แล่นออกไปอย่างงงวย
มหาวิทยาลัยเยล
ลอเรนจอดรถคันหรูไว้ ก่อนจะเดินมาที่คณะของเธอและเปิดล็อคเกอร์ เธอเห็นเพื่อนชายร่างสูงหน้าตาดีอยู่ข้างๆ ซึ่งเป็นตู้ที่ติดกับเธอ.. คริส รอสส์
“ไงจ๊ะน้องสาว” คริสพูดกับเธอด้วยท่าทีมีอารมณ์ขัน
ลอเรนหันมามองตาขวาง “อะไร ใครน้องนายไม่ทราบ”
“ลืมของล่ะสิ ถึงต้องระหกระเหินจากแมนฮัตตันมาคอนเน็คติคัตในวันอาทิตย์” คริสพูดกับเธอด้วยท่าทีสมเพช
ลอเรนพยายามจะโต้เถียงกลับ แต่ต้องนิ่งไว้เพราะทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง “แล้วนายล่ะ เคยเป็นเหมือนกันใช่มั้ยถึงมาเดาสุ่มแบบนี้”
“ผมไม่ได้เดาสุ่ม” คริสหาของในตู้ของเขา “ก็ท่าทางคุณมันดูง่ายอยู่แล้ว”
“บอกมาตรงๆ เหอะน่าว่านายก็ลืมของเหมือนกัน” ลอเรนพยายามให้คริสเสียหน้าด้วย
“ไม่ใช่ซักหน่อย” คริสเบ้ปาก “แค่น้องสาวผมแอบเอาผลคะแนนมาใส่ไว้ในล็อคเกอร์ผม ก็เลยต้องเอาไปให้บุพการีดูซะหน่อย”
ลอเรนอ้าปากค้างเพราะหาคำเถียงไม่ได้ ก่อนจะไม่สนใจและหาของในตู้ของเธอต่อไป แต่หนังสือเล่มหนานั้นอยู่ลึกเหลือเกิน เพราะหญิงสาวไม่ได้หยิบใช้มานานแล้ว เธอพยายามดึงออกมาสุดแรง แต่ก็ทำไม่ได้
“ขอโทษนะครับ ให้ผมช่วยไหม” เสียงนุ่มของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น ลอเรนหันไปมองช้าๆ เธอแทบหงายหลังตึงเพราะทุกอย่างของชายหนุ่มตรงหน้าตรงสเป๊คของเธอหมด ทั้งใบหน้าที่ดูเท่ไม่หยอก ร่างกายที่ดูเหมือนออกกำลังกายประจำ และท่าทางที่ดูเป็นสุภาพบุรุษมีน้ำใจ
“อะ... เอ่อ...” ลอเรนยิ้มโดยไม่รู้ตัว เธอพูดแทบไม่เป็นภาษา
ชายลึกลับรอคำตอบของเธอ “ว่ายังไงครับ”
“ดีเลยค่ะ!” เธอพูดเสียงดังจนหลายคนในตึกใหญ่หันมามอง สติกลับคืนมาสู่หัวของเธอ เธอเดินออกจากตู้ ก่อนจะผายมือไปที่ฝาล็อคเกอร์ “เชิญเลยค่ะ”
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบหนังสือให้เธออย่างง่ายดาย
ลอเรนยื่นมือรับโดยดี “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ” เขายิ้มตอบ ทำให้หญิงสาวหน้าหวานละลายไปกับที่ “แต่คุณพอจะบอกทางไปห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ได้ไหมครับ เผอิญแฟนของผมเรียนที่นั่น เธอลืมของไว้ที่ห้องผมน่ะครับ”
ลอเรนที่ได้ฟังถึงกับหงายหลังตึงทันที เธอพยายามหาหลักพยุง ก่อนจะค่อยๆ ลุก และชี้ไปด้านหลังอย่างมึนๆ “น่ะ... ทางนั้นค่ะ”
“ขอบคุณครับ” ชายในฝันของเธอยิ้มให้ ก่อนจะเดินออกไป
ลอเรนเอาศีรษะของเธอทุบกับฝาล็อคเกอร์ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะของคริส
“ขำอะไร” เธอหันไปมองเขาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะปิดล็อคเกอร์ดังปัง
“น่าสงสารจริง สาวน้อยที่พบพานชายในฝันอันมีเจ้าของ” คริสร้องเป็นเพลง
ลอเรนใช้มือเล็กๆ ของเธอผลักคริสไป ชายหนุ่มจับมือของหญิงสาวยั้งไว้ “เดี๋ยวสิคุณ...”
“ถ้าไม่บอกว่า ‘ผมขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว’ ฉันจะผลักนายออกไปจากตึกนี้ให้โดนรถชนเลย” ลอเรนทำหน้าบึ้งใส่
คริสหัวเราะเบาๆ ก่อนจะดึงมือหญิงสาวออกอย่างง่ายดาย “เห็นมั้ยว่าแรงของคุณทำอะไรผมไม่ได้”
ลอเรนหน้าบึ้งกว่าเดิม ก่อนจะมองมือขาวนวลของตัวเองที่มีมือหนาประคองไว้อยู่ คริสปล่อยมือลงอย่างช้าๆ ตาของทั้งคู่ประสานกันนานพอควร
ลอเรนจ้องคริสด้วยสายตาเอาเป็นเอาตาย เพราะเธอไม่ได้จ้องเขาด้วยความพิศวาส หากแต่อยากรู้ว่าชายหนุ่มจะจ้องเธอนานกว่าแปดวินาทีหรือไม่ เพราะจากหนังสือที่เธอเคยอ่าน จิตวิทยากล่าวว่าถ้าเกิดการปิ๊งขึ้นมา จะมีการมองตากันเกินแปดวินาที
เมื่อถึงวินาทีที่เจ็ด ชายหนุ่มก็หลบสายตาเธอ ทำให้ลอเรนถอนหายใจ
“ไหนล่ะ แรงที่คุณจะผลักผมไป” คริสยิ้มร้าย
ลอเรนใช้หนังสือเล่มหนาผลักเขาสุดแรงทันที “ถ้าไม่พูดก็อย่าหวังเลยว่าจะรอดไปได้ ฉันนี่แหละจะฆ่านายให้ดู”
แม้ว่าร่างกายของคริสจะต้านทานแรงของร่างเล็กได้อย่างสบายๆ แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะหัวเราะและปล่อยให้หญิงสาวดันตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อมาถึงสุดประตู คริสจึงหมุนตัวให้ลอเรนไปอยู่ในทิศของเขาแทน
ชายหนุ่มเขยิบหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้น “เห็นชัดหรือยังว่าใครชนะ”
ลอเรนได้แต่หัวเสียสุดๆ กับชายหนุ่มสุดป็อปปูล่าในชั้นเรียนที่เธอมองเป็นแค่นักกวนประสาทเท่านั้น
ความคิดเห็น