คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เจน เมสเตรย์ - ผู้ร่วมงานคนใหม่
“ได้ ฉันจะเข้าออฟฟิศอยู่แล้วแหละน่า” เจน เมสเตรย์พูดอย่างรำคาญผ่านโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่เครื่องหรูของเธอกับลูกน้องที่ต้องการความช่วยเหลือ หญิงสาวลุกจากโซฟาหรูที่ห้องนั่งเล่นโดยมีลอเรนนั่งอ่านนวนิยายและแอนน์ที่กำลังทานขนมขบเคี้ยวอยู่
“งานอีกแล้วหรอคะ” ลอเรนถามอย่างเบื่อหน่าย เพราะตัวเองแทบจะไม่ได้ใช้เวลาส่วนตัวกับพี่สาวตั้งแต่เธอเริ่มทำงานเลย
“ใช่” เจนตอบอย่างไม่สนใจนัก ก่อนจะคว้าเสื้อโค้ทจากราวแขวนและหยิบแอ็ปเปิ้ลเขียวออกไปหนึ่งลูก “บอกแม่ก็ดีนะว่าฉันอาจจะไม่กลับมาทานข้าว”
“ก็ได้ค่ะ” ลอเรนพูดด้วยท่าทีไม่เห็นด้วยนักที่พี่สาวตัวเองเข้าขั้นคำว่า ‘บ้างาน’ แม้แต่วันอาทิตย์ที่ควรจะพักผ่อน เจนก็ยังออกไปทำงานอีกจนได้
ลูกสาวคนกลางวางหนังสือลงไปกับโต๊ะ ก่อนจะลุกไปที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรทานในตอนสาย เธอเห็นลิลี่ เมสเตรย์ และอีธาน เมสเตรย์ บิดามารดาของเธอกำลังทำอาหารอยู่ในครัว
“ว้าว...” ลอเรนอุทานเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ชิดกับผู้ปกครองเธอทั้งสอง “วันนี้พ่อกับแม่ไม่ไปไหนกันหรือคะ”
“ไม่หรอกจ้ะ” ลิลี่พูดกับเธอด้วยท่าทางอ่อนโยน “แม่กับพ่อกะว่าจะให้เวลาพักผ่อนตัวเองสัปดาห์ละวัน และนี่เป็นครั้งแรกที่เราจะทำแบบนี้กัน ลูกลองชิมนี่สิจ๊ะว่าโอเคไหม” หญิงสาววัยกลางคนใช้ช้อนไม้ทำอาหารตักน้ำซุปร้อนๆ จากหม้อ ก่อนจะเป่าแล้วให้ลูกสาวชิม
ลอเรนค่อยๆ ซดอย่างช้าๆ ก่อนจะพิจารณา “ก็อร่อยดีนะคะ” เธอยิ้ม ก่อนจะมองหาขวดเกลือ “แต่ใส่นี่เพิ่มก็ดีค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ” ลิลี่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเหยาะเข้าไปในหม้อร้อน “แค่นี้ได้ไหม”
ลอเรนชกมืออีกข้างของตัวเอง “ใช่เลยค่ะ!”
ผู้เป็นมารดาหัวเราะอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ลอเรนจะไปหาพ่อของเธอที่อยู่ตรงเขียงไม้
“พ่อทำอะไรน่ะคะ” ลอเรนชะโงกหน้ามองดูสิ่งที่บิดากำลังกระทำ
“พาสต้าสลัดน่ะ” อีธานยิ้มให้ลูกสาวใบหน้าหวานหยด “ลูกจะดูให้พ่อหน่อยได้ไหมว่าในตู้เส้นพาสต้าเกลียวเหลือเยอะแค่ไหน”
“ได้สิคะ” ลอเรนรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินไปเปิดตู้ไม้สีน้ำตาลเข้ม และหยิบถุงพาสต้าออกมา “เหลือพอควรเลยค่ะพ่อ”
“โอเค ขอบใจมาก” อีธานยิ้มให้คนเดิมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะยกโทรศัพท์บ้านเคลื่อนที่มากดหมายเลขคนรับใช้ของบ้าน “ฮัลโหล อังเดร ไม่ต้องซื้อเส้นพาสต้าเกลียวเพิ่มนะ แค่นี้”
“พ่อกับแม่จะทำอะไรทานเพิ่มไหมคะ” ลอเรนถาม มองเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ที่มากมายก่ายกองบนโต๊ะเตรียมอาหาร
“แม่กะว่าจะทำวอลดอร์ฟสลัดให้เจนหน่อยน่ะจ้ะ ลูกช่วยล้างองุ่นให้หน่อยได้ไหม” ลิลี่วางมีดลง ก่อนจะหันไปจับขวดเครื่องปรุง
“คือเจนออกไปแล้วน่ะค่ะ” ลอเรนพูดด้วยน้ำเสียขอโทษ “หนูคิดว่าพี่คงไม่ได้มาทานด้วย”
ลิลี่และอีธานมองหน้ากันด้วยสายตาที่แสดงถึงความผิดหวังเล็กน้อย ก่อนที่ผู้เป็นชายจะพูดตัดบท
“งั้นไม่ต้องทำสลัดบ้านั่นหรอก” อีธานพูดด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเทผักผลไม้ลงถังขยะจนหมดเกลี้ยงและเดินออกจากครัวไป
ลอเรนมองหน้าลิลี่อย่างงงๆ ก่อนที่แม่ของเธอจะตั้งสติได้และหันมาคุยกับลูกสาว
“ลูกว่าเราจะทำอะไรได้อีกบ้าง” ลิลี่ยิ้มให้ด้วยสายตาที่แสดงถึงความเสียใจ
โรงแรมเมสเตรย์ แมนฮัตตัน นิวยอร์ก
เจนถอดแว่นกันแดดหรูออกก่อนจะเดินลงจากรถลิโม่และก้าวเท้าสู่โรงแรมหรูแห่งนี้ ผู้รักษาความปลอดภัยเปิดประตูให้เธอและแสดงถึงท่าทีเคารพ
“อรุณสวัสดิ์ครับ เจ้านาย” โรเบิร์ต แลงก์ ยามรักษาความปลอดภัยพูดกับเธอด้วยท่าทีแจ่มใส
แต่หญิงสาวไม่แสดงกริยาใดๆ ตอบ และก้าวเดินต่อไปอย่างไม่สนใจใคร เธอกดลิฟท์ไปที่ชั้นสำนักงานทันที
ร่างงามระหงของเจนเดินด้วยท่าทีว่องไวและปราดเปรียว พนักงานในบริษัทที่หยอกล้อเล่นหัวกันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาต้องเปลี่ยนท่าทีเป็นเครียดทันที เพราะเจ้านายอายุน้อยคนนี้ไม่ชอบให้ใครมานอกเรื่องในเวลางาน
“ลิซ” เธอเรียกชื่อของพนักงานสาวคนหนึ่ง ก่อนจะมองไปที่โต๊ะของลิซ เชนนิ่งส์ พนักงานวัยยี่สิบแปดของเธอ
หญิงสาวผมสีดำเข้มลุกขึ้นทันที “คะ เจ้านาย”
“เธอโทรมามีอะไร” เจนถามกับลูกน้องด้วยท่าทีที่ไร้ความเป็นมิตร
“คือ...” หญิงสาววัยแก่กว่ายกโทรศัพท์ขึ้นประกอบ “มีคนขอสมัครงานในตำแหน่งผู้ช่วยท่านประธานน่ะค่ะ”
“ใคร...?” เจนขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะคีห์ ลิงกินส์ ผู้ช่วยคนเก่าของเธอเพิ่งโดนเธอไล่ออกไปไม่ถึงสัปดาห์ จึงเป็นไปได้ยากที่คนจะรู้ข่าวไว
ลิซนั่งลง ก่อนจะกดคีย์บอร์ดหาข้อมูล “เขาบอกว่าชื่อซามูเอล นิกก์สค่ะ”
“อายุเท่าไหร่ จบมาจากไหน เคยทำงานอะไรบ้าง” เจนกอดอก รัวคำถามใส่อย่างไม่หยุดหายใจ
ลิซพยายามจับคำที่มาไวยิ่งกว่าพายุแคทเธอรีน่า ก่อนจะจัดระเบียบคำตอบให้ตรงกับที่เจ้านายต้องการ “อายุยี่สิบสองปี... จบจากอ็อกซ์ฟอร์ด แล้วก็เคยทำงานให้โรงแรมในเครือของทาเล็นท์อินดัสตรี้ค่ะ”
ทาเล็นท์อินดันสตรี้... คู่แข่งตัวฉกาจของธุรกิจตระกูลเมสเตรย์ เพราะทาเล็นท์เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องที่พักไม่แพ้กันกับเมสเตรย์ แถมยังยากเสียด้วยที่จะตัดสินว่าใครชนะในเกมธุรกิจระหว่างสองแห่งนี้
“เขามีใบรับรองจริงไหม” เจนถามอย่างสนใจ เพราะคนที่ทำงานให้กับทาเล็นท์ถือว่าเป็นหัวกะทิตัวจริง
“มีค่ะ” ลิซยิ้มมั่นใจ ก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้
ซามูเอล เจสัน นิกก์ส ได้รับการบรรจุเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดเมื่อวันที่...
การตลาดของทาเล็นท์... ทำให้เจนสนใจในตัวว่าที่ผู้ช่วยของเธอเข้าไปอีกสองเท่า เพราะทาเล็นท์เข้มงวดกับด้านการตลาดที่สุด
“งั้นก็ดี...” เจนยิ้มอย่างมีแววตาเป็นประกาย ก่อนจะวางกระดาษแผ่นหนานั้นลงบนโต๊ะของลูกน้องหญิง “บอกให้เขาเริ่มงานได้... พรุ่งนี้”
คำพูดของเจนสร้างความประหลาดใจให้กับคนได้ยินอย่างมาก เพราะโดยปกติแล้ว เจนจะมีวิธีการคัดเลือกพนักงานอย่างเข้มงวด ยิ่งกับคนที่ใกล้ชิดเธอแล้ว เธอก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก แต่กับบุรุษผู้นี้ เธอกลับใช้เวลาในการตัดสินใจที่สั้นจนน่าประหลาดใจ แม้ว่าจะถือว่าสร้างความประหลาดใจให้กับลิซไม่ใช่น้อย แต่เธอก็ไม่ปริปากถามเจ้านายแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่าเจน เมสเตรย์เป็นผู้หญิงที่มีสายตาคมกริบในการมองคน และถ้าหากมีใครถามเจนเรื่องการตัดสินใจของเธอแล้วล่ะก็ หญิงสาวผู้นี้จะรำคาญเป็นอย่างมาก
“ได้ค่ะ...” ลิซรับคำโดยดี ก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้น “สวัสดีค่ะคุณซามูเอล ฉันลิซ เชนนิ่งส์ จากบริษัท...”
เจนยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
ความคิดเห็น