ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Seem sweet [ Krisyeol + Sehun x Luhan ]

    ลำดับตอนที่ #7 : Seem Sweet - 6 { past sweet}

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 57


                                                                 

                                                                                     Chapter 6



                 



               ‘โอ๋ อย่าร้องไห้นะ

     

    เด็กชายตัวเล็กวัยหกขวบกอดปลอบเด็กชายตัวสูงที่มีอายุเท่ากัน มือน้อยลูบหลังเพื่อนเบาๆ แต่ก็ไม่ทำให้เด็กชายในอ้อมกอดหยุดร้องไห้ได้เลย

     

    คุณแม่ไม่อยู่แล้ว คุณแม่ทิ้งฉันไปแล้ว...

     

    เด็กชายตัวสูงที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาพึมพำด้วยน้ำเสียงสะอื้นฟังแล้วอดสงสารไม่ได้ เด็กตัวเล็กจึงเช็ดน้ำตาให้และชี้มือไปบนท้องฟ้า

     

    คุณน้าไม่ได้ทิ้งนายไปสักหน่อย ท่านอยู่บนสวรรค์ กำลังมองดูนายอยู่นะ

     

    เด็กชายตัวสูงมองตามมือของเพื่อนตัวเล็ก คุณแม่ของเขาอยู่บนนั้นเหรอ?

     

    แล้วทำไมท่านไม่พาฉันไปด้วยละ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว ฉัน...ไม่เหลือใครอีกแล้ว

     

    ไม่เหลือใครอะไรกัน นายยังมีฉันนะ ฉันจะอยู่ข้างๆ นายเสมอ

     

    เด็กตัวเล็กบอกอย่างหนักแน่นพร้อมรอยยิ้มกว้างเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นออกมาจากใจจริง

     

    จริงนะ เธอจะไม่ทิ้งฉันไปเหมือนคุณแม่ใช่มั้ย

     

    อื้ม ฉันจะไม่มีวันทิ้งนาย

     

    สัญญานะชานยอล ว่านายจะอยู่กับฉันตลอดไป

     

    ฉันสัญญา อี้ฟ่าน

     

     

     

    ดูคาติกสีดำกำลังบิดเครื่องข่มขวัญคู่แข่งจนเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณถนนสายยาวที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นเนรมิตให้มันกลายเป็นสนามแข่งรถวัดชั้นเชิงความเร็วกัน เสียงโห่ร้องของกองเชียร์ยิ่งเพิ่มความคึกคะนองให้ร่างสูงบนบิ๊กไบค์คันโปรดมากขึ้น หญิงสาวในชุดสุดเซ็กซี่กำลังเต้นส่งกำลังใจให้นักแข่งทั้งสองและหากใครเป็นผู้ชนะพวกเธอเหล่านั้นก็ไม่ลังเลที่จะยอมซ้อนท้ายพระเอกของวันไปมอบรางวัลสุดพิเศษให้...ตามทฤษฎีที่ว่าผู้กล้าย่อมคู่กับหญิงงาม

     

    “ไอ้คริส วันนี้อย่าแพ้นะเว้ย ฉันลงพนันข้างแกหมดกระเป๋าเลยเนี่ย”

     

    เด็กหนุ่มวัยสิบหกเปิดหมวกกันน็อคยักคิ้วให้เพื่อนสนิทอย่างจางอี้ชิงหายห่วง ขึ้นชื่อว่าคริสอู๋แข่งสิบครั้งจะแพ้สักหนึ่งเท่านั้นแต่บางครั้งก็อยากจะแกล้งแพ้ให้ไอ้คนที่ชอบหากินกับเพื่อนกระเป๋าฉีกสักที อันที่จริงคริสไม่ได้สนใจเงินรางวัลหรือผู้หญิงเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำเขาแค่มาแข่งด้วยความสนุกเฉยๆ ส่วนเงินรางวัลที่ได้มาก็เอาไปเลี้ยงเพื่อนฝูงกับลูกน้องที่ชอบตามติดพวกเขาเท่านั้น

     

    คือเขาก็ไม่ได้อยากมีลูกน้องนักหรอก แต่ไอ้พวกรุ่นน้องที่โรงเรียนมันตื้อไม่เลิกจนต้องยอมเป็นลูกพี่ให้พวกมัน

     

    ก่อนที่คริสจะปิดหมวกลงเพื่อเตรียมตัวแข่งก็เหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทตัวเล็กอีกสองคนวิ่งมาด้วยท่าทีตื่นๆ เสียก่อน หนึ่งในสองทำให้เขาแปลกใจไม่น้อยที่ได้เห็นเพราะโดคยองซูไม่เคยมายังสนามแข่งนี้

     

    “ไอ้คริส งานเข้าแล้ว”คิมจงแดลากคยองซูมาถึงก็ตะโกนผ่านเสียงกองเชียร์ขึ้นมา

     

    “อะไรวะ แล้วคยองซูแกมาได้ไง”คริสมองสองเพื่อนสลับกันไปมายิ่งสีหน้าคยองซูเจือนลงก็รู้สึกตากระตุกแปลกๆ

     

    “ไม่ใช่แค่ฉันหรอกที่มา ชาน....”

     

    ยังไม่ทันที่คยองซูจะไขความกระจ่างให้เสียงโห่ร้องที่เงียบลงก็เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดหันไปมองยังลานด้านหน้า เจ้ามือเดิมพันผายมือเชิญเด็กสาวคนหนึ่ง ไม่สิ เด็กผู้ชายที่มีใบหน้าน่ารักราวกับเด็กผู้หญิงต่างหากมาตรงกลางลานด้วย คริสขมวดคิ้วแน่นถอดหมวกกันน็อคออกทันที ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นอี้ชิงเองก็มีอาการไม่ต่างกันมีเพียงแค่สองเพื่อนตัวเล็กที่เอามือตบหน้าผากตัวเองพลางถอนหายใจเสียงดัง

     

    “เห้ย”

     

    “ชิบหายแล้วไง”

     

    “ค่ำคืนนี้เรามีรางวัลพิเศษสำหรับผู้ชนะ คนที่เข้าเส้นชัยก่อนจะได้สาวน้อยคนนี้ไปเชยชมนะคร้าบบ แหม ฉันลงแข่งตอนนี้คงไม่ทันแล้วสินะ”

     

    สิ้นเสียงประกาศเหล่ากองเชียร์โห่ร้องกันอย่างสนุกสนานอีกครั้ง แต่คริสไม่สนุกด้วยเลยสักนิดท่อนขายาวตวัดตัวลงจากดูคาติกคู่ใจเดินดุ่มๆ ตรงไปยังคนตัวเล็กที่มองเขาอย่างท้าทายเบื้องหน้า

     

    “ชานยอล ทำไมมาอยู่ที่นี่”คริสถามเสียงดุแต่ปาร์คชานยอลหาได้กลัวแม้แต่น้อย ด้วยความสูงเพียงแค่ปลายคางทำให้ใบหน้าน่ารักเชิ่ดขึ้นมองเขาตาขวาง

     

    “ก็เห็นนายชอบมา ฉันเลยมาบ้าง”

     

    ไม่รู้ว่ากี่ครั้งกี่หนที่ชานยอลทั้งขอร้องทั้งสั่งไม่ให้คริสมาแข่งรถที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้ แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยเชื่อแอบออกมาตลอด ดังนั้นคืนนี้เขาเลยแอบออกจากบ้านขอให้คยองซูพามาอยากจะรู้นักว่าที่นี่มันมีอะไรดีถึงชอบมากัน แต่มาธรรมดาก็ไม่ใช่ปาร์คชานยอลสิเขาอยากจะดัดนิสัยคริสเลยเสนอตัวเป็นของรางวัลเสียเลย

     

    อยากแข่งอยากได้สาวๆ นักใช่มั้ย จัดให้!

     

    “ฉันไม่แข่งแล้ว ชานยอลกลับบ้านกัน”ประโยคแรกตะโกนบอกทุกคน ส่วนปลายประโยคบอกคนตัวเล็กตรงหน้าเสียงอ่อน จะกล้าดุได้อย่างไรตัวเขาเองที่ผิดแอบมาแข่งทั้งที่รับปากไปแล้วหลายครั้ง แต่เล่นกันแบบนี้เลยเหรอตัวแสบ

     

    “ว้าวๆ ดูเหมือนว่าคริสอู๋สุดหล่อของเราจะถูกใจน้องชานยอลคนงามอย่างแรงเลยนะครับ แต่ต้องชนะแข่งในคืนนี้เสียก่อนนะถึงจะได้คนสวยไป”เจ้ามือเดิมพันประกาศแซวเรียกเสียงครื้นได้จากหนุ่มๆ รอบสนามส่วนสาวๆกลับส่งเสียงอย่างไม่พอใจกันออกมาเพราะพวกเธอต่างก็หวังจะได้รับความสนใจจากคริสอู๋คนนี้

     

    “ชานยอลไม่ใช่ของเดิมพัน”คริสพูดเสียงเย็นใส่จนเกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง

     

    “กฎก็ต้องเป็นกฎสิ ถ้านายไม่แข่งงั้นน้องคนสวยนี่ก็เป็นของฉัน”

     

    อคแทคยอนคู่แข่งของคริสในคืนนี้เดินมาทางพวกเขาพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มมองชานยอล มันยื่นมือมาหมายจะคว้าคนตัวเล็กไปแต่คริสไวกว่าดึงชานยอลให้หลบด้านหลังตัวเองป้องกันสายตาเจ้าชู้ไม่ให้แทะโลมคนตัวเล็กได้อีก

     

    “ใช่แล้ว อย่าให้เสียชื่อคริสอู๋สิครับพี่น้อง”เจ้ามือเดิมพันย้ำ

     

    คริสเหลือบมองใบหน้าน่ารักเบื้องหลังตัวเองอย่างกังวล ชานยอลคงไม่รู้สินะว่าที่นี่ถือว่ากฎกติกาสำคัญสุด เจ้าตัวแสบมองเขาตาปริบๆ มือน้อยก็กอดแขนเขาไว้แน่นคิดว่าแค่เขาล้มเลิกการแข่งทุกอย่างก็จบกลับบ้านได้อย่างสบาย

     

    “ฉันต้องชนะแน่นอน เธอรอตรงนี้นะ แล้วฉันจะกลับมารับ”บอกคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยน้ำเสียงราวกับปลอบเด็กน้อย ก่อนหันไปส่งสายตาให้เพื่อนทั้งสามเข้ามาดูชานยอลแทนระหว่างที่เขาออกไปแข่ง

     

    “ยังจะไปแข่งอีก ดี ถ้าแพ้ขึ้นมาฉันจะไปซ้อนท้ายพี่คนหล่อนั่นเลย”คนตัวเล็กส่งค้อนตาขวาง

     

    ดูพูดเข้า อยากจะจับมาตีนักเชียว

     

    คริสเดินถอยไปประจำที่รถอีกครั้ง การแข่งที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกกังวลเพราะของรางวัลมันไม่สำคัญต่อเขาเลยสักนิด แต่ในคืนนี้เขายอมรับว่ารู้สึกกดดันไม่น้อยไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจฝีมือตัวเองหรือกลัวคู่แข่งหากแต่สิ่งเดิมพันวันนี้คือ คนสำคัญ ถึงต่อให้แพ้ก็ไม่ยอมยกชานยอลไปให้ใครเด็ดขาด แต่เขาก็อยากเอาชนะอย่างสมศักดิ์ศรีมากกว่า

     

     ชานยอลถูกพามาด้านข้างแม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องแข่งกันอีกแต่เขาก็เชื่อในสายตาคู่นั้นที่เหมือนจะบอกให้มั่นใจว่าจะไม่ยอมปล่อยให้เขาไปกับคนอื่นแน่นอน เมื่อเห็นว่าผู้แข่งทั้งสองพร้อมแล้วชานยอลจึงยกธงในมือขึ้นตวัดเป็นสัญญานของการเริ่มแข่ง

     

    ความเร็วในการออกตัวทำให้ชานยอลกังวลไม่น้อย กลัวว่าคริสจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลัวไปต่างๆนาๆ จนอี้ชิงต้องตบบ่าเป็นการปลอบใจเพื่อนหน้าหวาน

     

    “คริสมันไม่เป็นอะไรหรอก หมอนั่นเก่งจะตาย”

     

    “แต่อคแทคยอนฝีมือไม่เบาเหมือนกันนะ”เสียงขัดของคิมจงแดเรียกสายตาค้อนควับของอี้ชิงและคยองซูได้ทันที มันจะขัดเพื่ออะไร

     

    “แต่แค่จะมาตามสามีกลับบ้านก็ไม่เห็นต้องเล่นไม้แข็งขนาดนี้ ฉันจะโดนคริสมันกระทืบไปด้วย”คนที่ถูกลากมาบ่นงึมงำจนได้ดวงตากลมของคนถูกนินทามองตาขวาง

     

    ชินเสียแล้วที่มักจะถูกเพื่อนๆล้อถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคริส

     

                ชานยอลไม่ได้สนใจเสียงพูดคุยที่ส่วนมากจะเป็นการแซวเขาของเพื่อนทั้งสาม ตอนนี้จิตใจกำลังจดจ่ออยู่กับคนที่แข่งกับความเร็วบนท้องถนนมากกว่า มันเป็นเวลาไม่นานที่คริสออกตัวไปแต่ในความรู้สึกของชานยอลมันนานเสียเหลือเกิน ใบหน้าที่ฉายรอยกังวลชะเง้อมองเส้นชัยตลอดเวลา

     

                “คอจะหลุดแล้วนั่น เดี๋ยวมันก็มา”

     

                สิ้นเสียงของอี้ชิงรถบิ๊กไบค์สองคันก็สูสีเบียดกันมาให้เห็น เสียงร้องเชียร์ดังขึ้นอีกครั้งแต่ชานยอลกลับยืนนิ่งลุ้นใจระทึกถึงแม้จะพูดกับคริสไปแบบนั้นแต่เอาเข้าจริงเขาก็อยากให้คริสเป็นฝ่ายชนะมากกว่า ชานยอลยืนนิ่งกลั้นหายใจเมื่อล้อหน้าของทั้งสองคันกำลังจะเข้าเส้นชัย

     

                “อย่าบอกนะว่าจะเสมอ”คยองซูก็ลุ้นไม่ต่างกัน

     

                “ขอแค่อย่าแพ้ก็พอ”แม้แต่จงแดเองก็นิ่งจับจ้องที่เส้นชัยตาไม่กระพริบ

     

                “ต้องชนะเท่านั้นดิวะ ฉันจองร้านเลี้ยงหมูย่างไว้แล้วเนี่ย”อี้ชิงเองก็ใจตุ่มๆต่อมๆ ห่วงเพื่อนนะ แต่ห่วงเงินพนันด้วย

     

                เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นพร้อมกับดูคาติกสีดำบิดเลยเส้นชัยมาคว้ามือเล็กที่ถือธงให้ขึ้นซ้อนหลังตัวเองก่อนจะเร่งเครื่องออกไปจากบริเวณนี้ท่ามกลางเสียงเชียร์และสายตาของทุกคน อ้อมแขนน้อยโอบรอบเอวคนขับไว้แน่นใบหน้าน่ารักซบกับหลังกว้างแอบยิ้มโดยที่อีกคนมองไม่เห็น

     

                ความเร็วที่คริสใช้ในตอนนี้เทียบไม่ได้เลยกับตอนที่ลงแข่งเพราะเวลานี้ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ฝากไว้กับเขาแรงกอดที่ช่วงเอวย้ำเตือนให้ไม่กล้าประมาท ถ้าชีวิตของเขาเปรียบเหมือนรถแข่งที่บิดเร่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วโดยไม่เกรงกลัวต่ออันตรายที่อาจคร่าชีวิต ชานยอลก็เปรียบดั่งสายเบรกที่คอยฉุดรั้งเขาไว้

     

                “พามาทำอะไรที่นี่ ดึกแล้วอยากกลับบ้าน”

     

    ชานยอลถามทันทีที่รถมาจอดริมแม่น้ำฮัน ร่างเล็กเดินตามคนตัวโตกว่าที่นำไปนั่งลงบนพื้นหญ้าใกล้แม่น้ำที่ไร้ผู้คน พวกเขาชอบมาเดินเล่นกันแถวนี้เพราะมันเงียบสงบและหากเดินเลยจากตรงนี้ไปไม่ไกลจะพบลานกว้างที่เด็กวัยรุ่นชอบมาทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬากัน คริสเองก็ชอบมาเล่นบาสกับพวกเพื่อนที่นี่บ่อยๆ


                “มาเปิดของรางวัลไง”

     

    คนตัวเล็กถูกฉุดให้ทรุดลงนั่งลงข้างกัน ใบหน้าหล่อจัดกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะแกล้งเลื่อนหน้าไปใกล้จนอีกคนต้องเอนตัวหลบหลังแทบจะแนบไปกับพื้นหญ้า สองแขนแกร่งเท้าลงกับพื้นกักขังร่างเล็กที่วันนี้ก่อเรื่องให้เขาหัวปั่นเอาไว้ ก็แค่อยากจะขู่ให้กลัวทีหลังจะได้ไม่กล้าห้าวทำเรื่องแบบนี้อีก

     

    “ทะลึ่ง ถอยไปเลย”

     

    “โอ้ยย เจ็บนะ”

     

    ชานยอลดีดเข้าที่หน้าผากกว้างแรงๆ จนคนขี้แกล้งถึงกับผงะถอยยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเองไว้ ดวงตาคมมองมาอย่างเข่นเคี้ยวแต่ก็ไม่กล้าลงมือกลับ

     

    “สมน้ำน่า”

     

    “ก็อยากไปเป็นของรางวัลทำไม ไม่รู้เหรอถ้าแทคยอนชนะไปมันจะทำอะไรกับเธอบ้าง รู้มั้ยตอนแข่งฉันกลัวขนาดไหน กลัวว่าจะแพ้”คริสหันมาพูดอย่างจริงจัง

     

    “แล้วนายไม่คิดว่าเวลานายออกไปแข่งรถฉันจะกลัวบ้างหรือไง ฉันนอนไม่หลับทุกครั้งถ้ายังไม่มั่นใจว่านายกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย”ชานยอลเองก็ใส่กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ทุกครั้งที่รู้ว่าคริสออกไปแข่งรถหรือออกไปเที่ยวตอนกลางคืนเขามักจะเป็นกังวล เป็นห่วงว่าอีกคนจะเป็นอันตรายมั้ย จะไปมีเรื่องกับใครจนบาดเจ็บหรือเปล่าแต่เจ้าคนตัวโตนี่กลับไม่เคยเข้าใจ มันน่าโมโหนัก

     

    “ชานยอล...”คริสได้แต่เรียกเสียงอ่อน รู้สึกผิดจับใจ เขารู้ว่าชานยอลเป็นห่วงกันแค่ไหนแต่ก็ยังทำให้คนตัวเล็กนี่เป็นกังวลตลอด

     

    “ทำไมนายต้องทำอะไรเสี่ยงๆด้วย หรือว่าอยากได้ผู้หญิงพวกนั้น อยากได้ก็ไปจีบดีๆสิ”ชานยอลนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเหตุผลอะไรที่คริสต้องไปแข่งรถเพราะฐานะทางบ้านไม่ใช่ว่าขัดสนขนาดต้องไปชิงเงินรางวัล

     

    “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันไม่ได้สนใจพวกนั้นเลย”คนถูกกล่าวหารีบปฏิเสธเป็นพัลวัล ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องแก้ตัวขนาดนี้ เพียงแค่ไม่อยากให้ชานยอลเข้าใจผิดเท่านั้น

     

    “....”

     

    แต่เหมือนว่าจะถูกคนตัวเล็กงอนเข้าให้แล้วเมื่อใบหน้าหวานสะบัดไปอีกทางไม่ยอมหันมามองกัน จนคนตัวโตต้องเขย่าแขนเรียวเบาๆ อย่างเรียกร้องความสนใจ

     

    “งอนเหรอ ดูดิแก้มป่องเป็นยัยหมูอ้วนเลย”

     

    “ไม่อ้วน ผอมแล้ว หล่อมากด้วย มีคนมาตามจีบเต็มไปหมด”ยัยหมูอ้วนหันหน้ากลับมาค้อนคนล้อตาขวาง ตอนเด็กเขาอ้วนกลมจนถูกคริสล้อบ่อยๆแต่พอโตมามีแต่คนทักว่าผอมแห้งจะมีก็แต่เจ้าหมอนี่ที่ยังเรียกเขาหมูอ้วนไม่เลิก มันน่างับคอให้ขาดเลย

     

    “ใครจีบ”น้ำเสียงขี้เล่นเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาแล้วมีคนมาจีบชานยอลตอนไหนทำไมเขาไม่รู้เรื่อง

     

    “ก็บอกว่าเยอะไง จำได้ไม่หมดหรอก”ยักคิ้วเชิ่ดหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างอวดๆ ตั้งแต่เข้าชมรมดนตรีก็มีคนเรียงหน้าเข้ามาจีบไม่ขาดสายจนชานยอลก็งงอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้สานต่อความสัมพันธ์กับใครสักคน

     

    “แล้วชอบรึเปล่า”คริสถามเสียงเครียด เขาหวงไม่อยากให้ชานยอลสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง

     

    “ก็.....”

     

    ยิ่งคนตัวเล็กลากเสียงยาวแกล้งทำสีหน้าคิดหนัก ใบหน้าหล่อจัดก็ยิ่งบูดบึ้งจนชานยอลอดจะหัวเราะคิกออกมาไม่ได้ อยากจะแกล้งต่ออีกสักหน่อยแต่พอเห็นอีกฝ่ายแล้วก็สงสารจนยอมเปิดปากพูดออกมา

     

    “ไม่มีเวลาไปชอบใครหรอก วันๆมัวแต่เป็นห่วงใครก็ไม่รู้ ชอบหาเรื่องเจ็บตัว ชอบทำให้เป็นห่วง เดี๋ยวจะเลิกสนใจแล้วเอาเวลาไปหาแฟนดีกว่า”

     

                คำตอบที่ได้รับทำให้มุมปากหยักเผยยิ้มกว้าง คนขี้หวงซบหน้าลงบนไหล่บางอย่างอ้อนๆ ส่งเสียงง้องแง้งไม่เข้ากับขนาดตัวอย่างเอาแต่ใจ

     

                “ไม่เอา ไม่ให้หา ห้ามมีแฟนนะ”

     

                “งั้นแลกกัน ห้ามไปแข่งรถอีก”

     

                “โถ่...ก็ได้”พอได้ยินเสียงจิ๊ปากในลำคอของคนตัวเล็กคริสเลยรีบรับปากเสียงอ่อย

     

                “ไม่เต็มใจ?”ชานยอลถามเสียงสูง

     

                “เปล่าสักหน่อย”

     

    เสียงพึมพำบ่นเบาๆของคนตัวโตเรียกรอยยิ้มขันบนกลีบปากอิ่มได้เป็นอย่างดี ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันเป็นสิ่งที่คนนอกไม่อาจเข้าใจ แม้ไม่เคยบอกกันว่า รัก แต่ในใจลึกๆ ต่างก็รู้ว่ารู้สึกต่อกันอย่างไร แม้คำที่ใช้เรียกหากันคือ เพื่อนสนิทแต่ก็รู้ดีว่าในวันข้างหน้ามันอาจจะพัฒนาไปมากกว่านั้น

     

    พวกเขาปล่อยความรู้สึกให้มันเป็นไปตามวันเวลาอย่างไม่เร่งรีบเพราะคิดว่ามีเวลาให้กันทั้งชีวิต

     










    TBC







    TALK

    ย้อนอดีดยังไม่จบน้า อีกหลายตอน

    ใส่เพลงตามคำแนะนำแล้ว แฮ่ เป็นเพลงที่แทนความรู้สึกของพระเอกเราจริงๆ

    รออีกสักสองสามจะเข้าใจว่าทำไมตรง คิคิ

    ช่วยคอมเม้นหรือร่วมสกรีมเรื่องนี้ใส่แท็ก #Seemsweet ด้วยนะคะ~~














    Matesoul my
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×