คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Seem Sweet - 3
Chapter 3
เช้านี้ชานยอลช่วยคริสแต่งตัวเหมือนเคย มันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วหากอีกฝ่ายต้องเข้าออฟฟิตหรือออกงานอย่างวันนี้ มือบางขยับผูกเนคไทให้อย่างประณีตจัดปกเสื้อและเช็คความเรียบร้อยของชุดสูทสีดำที่สวมทับลงบนเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดี ทั้งคู่ทำราวกับเมื่อคืนไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างกัน อันที่จริงพวกเขาก็ไม่เคยโกรธกันจริงจังอยู่แล้ว แม้จะมีบ้างที่ต่างฝ่ายจะทำให้ไม่พอใจแต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่เก็บสิ่ง เหล่านั้นมาทำให้ผิดใจกัน
“คริส…พอ”
ชานยอลท้วงห้ามเพราะจากมอร์นิ่งคิสในตอนเช้าเหมือนทุกทีมันเริ่มจะเลยเถิด เมื่อกลีบปากหยักบดเคล้าอย่างอ้อยอิ่งซ้ำยังเข้ามากวาดชิมความหวานจากโพรงปากอุ่นจนแข้งขาเริ่มอ่อนแรงต้องจับไหล่หนาไว้พยุงกาย
“ก็มันหวาน…”
นอกจากชานยอลแล้วคงไม่เคยมีใครได้เห็นมุมขี้อ้อนแบบนี้ของนายใหญ่ คริสก้มลงมอบความอ่อนละมุนอีกครั้งบนกลีบปากสีสด ค่อยๆ ลิ้มรสซึมซับความนุ่มนิ่มภายในนั้นหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่พยายามถอยหนีจนสุดท้ายก็ถูกไล่ต้อนเกี่ยวพันกันจนแยกไม่ออก
ท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวคอดไว้ทั้งสองข้าง ใช้ปลายจมูกถูไถไปมาบนปลายจมูกรั้นนั้น ชานยอลเป็นคนสวย…สวยที่สุดในสายตาคริส ไม่ว่าดวงตากลมโตคู่นี้จะเย็นชาขนาดไหนหรือริมฝีปากนี้จะเผยยิ้มร้ายอย่างไร ก็ไม่เคยทำให้ความรู้สึกที่คริสมีต่อชานยอลเปลี่ยนไปได้เลย
บางครั้งเมื่อคริสมองชานยอลมันมีคำพูดมากมายร้อยพันที่อัดอั้นอยู่ภายใน ใจ มันอึดอัดเสียจนลูกผู้ชายอย่างเขาอยากจะหลั่งน้ำตา แต่หากคำพูดเหล่านั้นมันจะทำให้อีกฝ่ายต้องทุกข์ใจเขาก็เลือกที่จะยอมเก็บ มันไว้…ให้มันตายไปพร้อมกับหัวใจอันบอบช้ำของเขา
“เมื่อคืนขอโทษ ที่ใส่อารมณ์แบบนั้น”คริสบอกอย่างรู้สึกผิด มันเป็นครั้งแรกที่เขาเกรี้ยวกราดใส่ชานยอล
“อืม”ชานยอลรับคำในลำคอราวอย่างไม่ใส่ใจนัก
จะทำตัวไร้ความรู้สึกแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน!
“จะอยู่กันแบบนี้จริงๆน่ะหรือชานยอล”เสียงทุ้มที่พยายามกดให้ราบเรียบข่มกลั้นโทสะของตัวเองเอ่ยถาม
คนถูกถามเงยหน้าชึ้นสบกับแววตาคมคุกรุ่นด้วยความโมโห ชานยอลรู้ว่าคริสเป็นคนอารมณ์ร้ายเพียงใด และรู้ว่าอีกฝ่ายต้องบังคับตัวขนาดไหนที่จะไม่ตะคอกหรือทำรุนแรงกับเขา
“หมายถึงแบบไหนละ”
คริสสูดหายใจเข้าลึกพยายามระงับเพลิงอารมณ์ภายในใจ เขารู้ว่าชานยอลกำลังจงใจยั่วให้เขาโมโห แต่ไม่มีทางหรอกที่เขาจะเดินตามเกมส์ของอีกฝ่าย มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่เขาจะไม่ยอมตามใจชานยอล
“ก็ได้ชานยอล ถ้าการทรมานฉันให้ตายทั้งเป็นมันเป็นความสุขของเธอ ฉันก็จะไม่ขัดเหมือนกัน”
ร่างสูงใหญ่เดินผ่านออกไปด้วยไม่อยากจะอยู่ต่อให้ทะเลาะกันเสียเปล่าๆ คริสไม่ใช่คนที่จะยอมใครแต่คนเดียวที่เขายอมก็คือชานยอล ยอมแม้แต่ให้คนๆ นั้นควบคุมหัวใจของเขา
ดวงตากลมสวยมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไป ชานยอลรู้ว่าคริสต้องทนเจ็บปวดกับการกระทำของเขามาตลอด แต่จะให้ทำอย่างไรชานยอลเองก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ เขาไม่เคยอยากให้คริสต้องเจ็บ
แม้คริสจะทำเรื่องที่ชานยอลไม่อาจให้อภัยได้ แต่เขาก็ไม่เคยเกลียดผู้ชายคนนั้นเลย
•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•
สถานที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้คือคฤหาสน์สไตล์เกาหลีโบราณของผู้ร่วมก่อตั้งแก๊ง มังกรอีกคนที่เสียชีวิตไปนานแล้ว หลังจากเคารพสิ่งศักดิ์และแนะนำหัวหน้าสาขาตะวันออกคนใหม่เรียบร้อยก็เข้าสู่บรรยากาศแห่งการสังสรรค์
คนในแก๊งต่างรู้ว่าชานยอลเป็นคนสนิทที่นายใหญ่ไว้วางใจจนถึงขนาดที่คำสั่งของชานยอลเทียบเท่ากับคำสั่งของนายใหญ่ เพราะฉะนั้นต่อหน้าเขาทุกคนจึงทำทีเคารพเกรงใจหนักหนา หากแต่เบื้องหลังรอยยิ้มพวกนั้นคือยาพิษดีๆ นี่เอง เพราะต่างก็หวังจะมายืนในตำแหน่งของเขากันทั้งนั้น
“ฉันละอยากรู้จริงๆ ว่านางบำเรออย่างนายทำท่าไหนนายใหญ่ถึงยังหลงนักหนาเลี้ยงไว้บำรุงบำเรอถึงป่านนี้”
“คงจะทุกท่าละมั้ง”
คำพูดเสียดสีของหญิงสาวที่จงใจเดินมายังมุมอับที่ชานยอลอุตส่าห์หลบมาอยู่เงียบๆ ทำให้เขาอยากจะเบือนหน้าหนี หลี่หลิงและจิงเฟยพวกเธอเป็นลูกสาวของคนสำคัญที่หลงใหลไปกับรูปลักษณ์และ ทรัพย์สมบัติของคริสต่างก็อยากเสนอตัวพลีกายให้นายใหญ่แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่าง ไม่ไยดี
พวกเธอคอยเฝ้ามองและสังเกตได้ว่านายใหญ่ให้ความสำคัญกับชานยอลมากเกินกว่าจะเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้องธรรมดาจึงคิดว่าทั้งสองคงแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เรื่องนี้คนภายในแก๊งต่างพูดกันปากต่อปากแต่ไม่มีใครกล้าพอที่จะเอ่ยถามออกมา
“แต่พวกเธอไม่ว่าจะท่าไหนคงไม่มีใครเอา ถ้าปากร้ายขนาดนี้”เซฮุนที่ยืนมองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนทนไม่ไหวที่เห็นคนโดนรุมเอาแต่นิ่งเงียบแทรกขึ้น
“หัวหน้าโอก็คงโดนยั่วยวนด้วยสินะ แหม หาที่เกาะใหม่เพราะใกล้จะโดนนายใหญ่เขี่ยทิ้งหรือไง ฉันจะรอวันนั้นนะ”ทิ้งคำพูดอย่างเจ็บแสบไว้ก่อนที่สองสาวจะเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง
ชานยอลปลายตามองผู้มาใหม่เพียงนิดก่อนจะหันหน้ากลับไปมองบรรยากาศของสวนดอกไม้เบื้องหน้า สะพานโค้งทอดข้ามลำธารสายเล็กนั้นตอนเด็กเขากับคริสมักจะหนีพวกผู้ใหญ่มาวิ่งเล่นไม่เคยคิดว่าสักวันจะต้องมายืนเป็นตัวสำคัญภายในงานไม่มีโอกาสเล่น สนุกอย่างเมื่อก่อน
“ที่ไม่ตอบโต้นี่เพราะมันไม่จริงหรือเพราะไม่ปฏิเสธ”
ชานยอลเหยียดยิ้มกับคำถามของเซฮุน นั่นสินะ เขาเองก็ไม่แน่ใจ ตั้งแต่พ่อเสียไปตอนเขาอายุสิบหก หลังจากนั้นเขาก็อยู่ภายในการดูแลของคริสซึ่งอายุเท่ากัน เด็กหนุ่มวัยสิบหกประกาศว่าจะรับผิดชอบชีวิตเขาและคริสก็ทำได้อย่างที่พูดได้จริงๆ
คริสและชานยอลใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาโดยไม่มีสถานะถึงแปดปีแล้ว เหมือนเป็นสิ่งต้องห้ามที่ต่างไม่คิดจะปริปากเอ่ยออกมาเหมือนตะกอนใต้ก้นแก้วที่พวกเขาไม่อยากจะกระทบให้มันลอยขึ้นมาขุ่นมัว สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นความผูกพันอันยาวนานหากแต่ก็บางเบาเสียเหลือเกิน
ไม่ใช่คนรัก
ไม่เคยเป็น…และไม่มีวันจะเป็นได้
“ขอโทษ ผมไม่ควรถามแบบนั้น”เซฮุนที่เห็นอีกฝ่ายเงียบไปเอ่ยขึ้น เป็นเพราะเมื่อกี้เขาโมโหที่ชานยอลไม่ปกป้องตัวเองบ้างถึงพลั้งปากพูดแบบนั้นออกไป
“ทำไมไม่อยู่ฉลองกับตำแหน่งที่นายอยากได้ข้างในละ”ชานยอลเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ จนคนถูกถามแทบตามไม่ทันแต่ก็คิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงยอมรับคำขอโทษจากเขา
“ผมไม่ได้สนใจตำแหน่งนี้เลยสักนิด”เซฮุนไม่ได้กลับมาเกาหลีเพราะความมักใหญ่ใฝ่สูงหรือละโมบในธุรกิจของแก๊งมังกร
“แล้วนายกลับมาทำไม”ชานยอลหันไปสบตากับหัวหน้าสาขาตะวันออกคนใหม่อย่างจริงจังและถามคำถามที่ตรงไปตรงมาที่สุดเป็นครั้งแรกนับจากที่พบกัน
“ผมกลับมาเพื่อมอบความทรมานยิ่งกว่าตายให้กับคนที่ฆ่าพ่อผมยังไงละ”
คนในแก๊งต่างสรุปว่าคนจากแก๊งเสือขาวเป็นคนลอบสังหารหัวหน้าโอคนก่อนและเซฮุนเองก็ถูกปลูกฝังให้'เชื่อ'แบบนั้น แต่ไม่หรอก เซฮุนไม่คิดแบบนั้น ในเมื่อไม่นานมานี้มีคนยืนยันสิ่งที่เขาสงสัย ทำให้เขาตัดสินใจรับข้อเสนอของนายท่านยอมกลับมารับตำแหน่งนี้เพื่อ พิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาสงสัยมันถูกต้องหรือไม่
“ตัวคุณเองทำไมยอมให้ปิดคดีหัวหน้าปาร์คด้วยอุบัติเหตุละ”
หลังจากให้จงอินไปสืบเซฮุนถึงได้รู้ว่าคดีเพลิงไหม้บ้านตระกูลปาร์คเมื่อแปดปีก่อนมันมีเรื่องน่าสงสัยว่าจะเป็นการอำพรางคดีมากกว่า แต่เพราะชานยอลต้องการให้เรื่องจบลงเงียบๆ จึงไม่ได้แจ้งความให้สืบสวนต่อ เซฮุนไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรถึงยอมปล่อยให้เรื่องจบลงง่ายๆ แต่เมื่อถามไปแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าคริสสั่งไม่ให้พูดเรื่องนี้
“ได้ตัวคนร้ายมาแล้วพ่อฉันจะฟื้นเหรอ”น้ำเสียงที่ตอบราบเรียบ ไม่ได้กวนโทสะ ไม่ได้โกรธเคืองที่ถูกถามในเรื่องที่เหมือนเป็นสิ่งต้องห้ามไม่มีใครกล้าพูดถึง
“หมายความว่าคุณให้อภัยคนร้ายงั้นสิ” ได้ฟังคำตอบยิ่งทำให้เซฮุนไม่เข้าใจคนตรงหน้า
“เปล่า ฉันไม่ได้ให้อภัย แต่ฉันคิดว่าพ่อคงไม่อยากให้ฉันจมอยู่กับความโกรธแค้นที่มันอาจจะย้อนมาทำร้ายตัวเองเข้าสักวัน และฉันเชื่อว่าพ่อนายก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ใช่ว่าชานยอลจะไม่โกรธคนที่ทำร้ายพ่อตัวเอง เพียงแต่เขาเลือกที่จะปล่อยวางอดีตและอยู่กับปัจจุบันมากกว่า “พวกท่านคงอยากให้นายกับพี่ชายใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ออกไปจากวงการนี้เถอะ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”
“ถ้าคุณคิดแบบนั้น ทำไมยังอยู่ตรงจุดนี้ล่ะ”เป็นครั้งที่สองแล้วที่ชานยอลพูดแบบนี้ เซฮุนพยายามข่มกลั้นน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่อารมณ์กำลังเริ่มคุกรุ่น เคยคิดว่าชานยอลอาจจะเย็นชาแค่เปลือกนอก แต่พอได้ฟังคำตอบที่เหมือนไม่ใส่ใจคนที่ทำร้ายพ่อตัวเองแล้ว เขาถึงรู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีหัวใจ
“บางทีคนเรามันก็มีทางให้เลือกเดินได้ไม่เท่ากันหรอกนะ นายยังมีโอกาสเลือกทางที่ดีกว่านี้”ถ้าเลือกได้ชานยอลเองก็ไม่อยากเดินบนเส้นทางนี้นักหรอก
“คุณจะบอกให้ผมให้อภัยคนที่ทำร้ายพ่อตัวเองงั้นเหรอ ผมไม่ได้ไร้ความรู้สึก ไร้หัวใจแบบคุณนะ พ่อทั้งคนยังนิ่งเฉยอยู่ได้”เซฮุนพูดอย่างมีโทสะ และหันหลังเดินไปโดยไม่สนใจคนข้างหลัง
ชานยอลเหยียดยิ้มให้ตัวเองอีกครั้ง ถ้าเขาไม่มีหัวใจจริงๆ ก็คงจะดี มันจะได้ไม่ต้องรู้สึกอะไร ไม่ต้องเจ็บอย่างทุกวันนี้
.
..
เซฮุนเดินจากมาแต่ในใจกลับรู้สึกผิดที่พูดจาไม่ดีแบบนั้นกับชานยอลออกไป เขาจึงตัดสินใจเดินกลับไปทางที่จากมาอีกครั้งแต่สายตากลับเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง บริกรคนหนึ่งที่ยืนหลบมุมกำลังล้วงของบางอย่างที่ไม่น่าจะนำเข้ามาในงานนี้ได้ออกจากกระเป๋า เล็งเป้าหมายไปทางร่างโปร่งที่ยืนอยู่ไกลจากสายตาผู้คน เมื่อเห็นดังนั้นร่างกายของเขามันขยับไปก่อนที่สมองจะทันได้คิดไตร่ตรอง พุ่งตัวกระชากร่างนั้นให้พ้นจากวิถีกระสุน
“ชานยอล!”
ปัง!
ช้าไปหนึ่งก้าวจากที่จะดึงให้ชานยอลหลบพ้นกระสุนปืนได้ กลายเป็นกระสุนยิงโดนต้นแขนซ้ายเซฮุน ร่างสูงผอมล้มลงทับอยู่บนร่างโปร่งที่มีสีหน้าตกใจ
“เป็นอะไรมั้ย”เซฮุนถามอย่างกังวล แต่ชานยอลยังคงมองเขาด้วยอารมณ์หลากหลาย
“งี่เง่า”ชานยอลมองคนที่ทาบทับตัวเองอยู่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แขนเรียวโอบเอวอีกฝ่ายไว้ ใช้ผ้าเช็ดหน้ากดปิดปากแผลเพื่อห้ามเลือด
เซฮุนแทบหลุดขำกับคำพูดของคนที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตไว้ งี่เง่าจริงๆ นั่นแหละ ใบหน้าหล่อขมวดมุ่นรู้สึกเจ็บบริเวณแผลเพราะเลือดยังไหลไม่หยุด
ร่างโปร่งโอบคนที่ใกล้จะหมดสติไว้ในอ้อมกอดใบหน้าหล่อเอียงซบจนผิวหน้าสัมผัสกัน ดวงตาคู่สวยมองภาพความวุ่นวายภายในงาน มือปืนแฝงตัวมาในคราบบริกรทั้งหมดเจ็ดคน หลังจากกระสุนนัดแรกดังขึ้นเพียงไม่นาน หวงจือเทาและแบคฮยอนก็พาพวกที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วประมาณยี่สิบกว่าคนบุกเข้ามาประกบตัวมือปืนเหล่านั้นไม่เปิดโอกาสให้ได้ลั่นกระสุนอีกแม้แต่นัดเดียว
“ชานยอลปลอดภัยมั้ย”คริสถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงแม้จะรู้ดีว่ากระสุนเมื่อสักครู่ไม่ได้จะทำร้ายชานยอลจริงๆ
“ฉันไม่เป็นอะไร แต่เซฮุน”...”ชานยอลก้มมองชายในอ้อมกอด
คริสดึงร่างที่ทับอยู่บนตัวร่างโปร่งออกมาพยุงไว้เสียเองก่อนจะเรียกแบคฮยอนให้เข้ามาพาเซฮุนไปโรงพยาบาล ชานยอลมองตามหลังคนที่ถูกประคองออกจากห้องไป เขาอยากจะตามไปด้วยเพื่อดูอาการเซฮุนจนกว่าจะถึงโรงพยาบาลเผื่ออีกฝ่ายเป็นอะไรขึ้นกลางทาง แต่เรื่องที่อยู่ตรงหน้ามันก็สำคัญเสียจนชานยอลทิ้งไปไม่ได้
“ล็อคประตูให้หมด”นายใหญ่สั่งเสียงกร้าว ขณะเดินกุมมือชานยอลกลับเข้ามากลางงานที่มีมือปืนทั้งหมดนั่งคุกเข่าอยู่
“ใครเป็นคนส่งพวกนี้มากัน”สมาชิกแก๊งคนหนึ่งพูดขึ้นท่ามกลางสีหน้างุนงงของทุกคน
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ต้องมีคนในรู้เห็นไม่งั้นพวกนี้จะพกปืนเข้ามาได้ยังไง ก่อนที่จะหาตัวคนบงการได้ทุกคนห้ามออกจากห้องนี้”หลังจากคำประกาศของนายใหญ่ก็เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างหน้าซีดเพราะรู้จักความร้ายกาจของนายใหญ่ดี ยิ่งวันนี้คนที่ถูกปองร้ายเป็นปาร์คชานยอล คริสไม่มีวันปล่อยคนร้ายไปอย่างแน่นอน
ใครกันที่กล้าแตะต้องคนของนายใหญ่
“พวกนี้คงเป็นคนที่จางอี้ชิงส่งมา”หัวหน้าลีสาขาเหนือพูดขึ้น ซึ่งทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
“หึ จื่อเทา”นายใหญ่ส่งเสียงเรียกลูกน้องคนสนิทที่กลับเข้ามาภายในงานอีกครั้งพร้อมชายวัยกลางคน
“คนนี้คือเจ้าของภัตตาคารที่จัดอาหารมาเลี้ยงในงานนี้ ไหนเล่ามาสิ”จื่อเทาบอกทุกคนก่อนจะหันไปถามเจ้าของภัตตาคารที่กลัวจนตัวสั่น
“คะ คือเมื่อวานมีผู้ชายคนนึงไปที่ร้าน และบอกว่าจะให้คนของเขามาเป็นคนเสิร์ฟอาหารแทนพนักงานของผม”พูดอย่างติดขัดเพราะความหวาดกลัว
“ผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องนี้หรือเปล่า”ชานยอลถาม เจ้าของภัตตาคารกวาดมองผู้คนรอบห้องและชี้ไปทางลูกน้องคนสนิทของหัวหน้าลี
“ว่าไงละหัวหน้าลี”
คริสชี้ปรายกระบอกปืนไปทางหัวหน้าสาขาเหนือที่หน้าซีดลงทุกที
“บังเอิญว่าฉันให้จื่อเทาไปเช็ครายการอาหารพอดีเลยเจอคนของนายเข้า”คริสส่งจื่อเทาให้ไปทำงานบางอย่างที่จีนและบังเอิญไปรู้แผนการนี้เข้า พอจื่อเทากลับมาจึงให้คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของหัวหน้าลีไว้
“นายใหญ่ผมผิดไปแล้ว ผม ผม...”หัวหน้าลีทรุดตัวลงขอร้อง หวังว่าอีกฝ่ายจะไว้ชีวิต
“ทำไมถึงคิดกำจัดฉันล่ะ หรือนายเป็นพวกเดียวกับจางอี้ชิง”ชานยอลถามนำทางให้อีกฝ่าย
“ใช่ๆ ผมเข้าร่วมกับแก๊งเสือขาว”หัวหน้าลีนิ่งคิดชั่วครู่ก็ละล่ำละลักตอบ
ชานยอลกับคริสสบตากันอย่างรู้ความหมาย ปลาใหญ่งับเหยื่อที่เขาหย่อนลงไปหลอกล่อ
“นายเป็นคนใกล้ชิดของนายท่าน งั้นฉันว่าให้ท่านเป็นคนตัดสินเองดีกว่า ฉันจะส่งตัวนายไปจีน”
คำตัดสินโทษอย่างใจดีของนายใหญ่ทำให้สมาชิกคนอื่นถึงกับแปลกใจ คริสเดินกุมมือชานยอลออกไปอย่างอารมณ์ดีท่ามกลางความสงสัยของทุกคน เพราะทุกคนเชื่อว่าแม้จะเป็นนายท่านหากแตะต้องปาร์คชานยอลนายใหญ่ก็คงไม่ไว้หน้าเหมือนกัน แล้ววันนี้มันคืออะไร หรือความความสำคัญของชานยอลจะถูกลดลงแล้ว
.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•
“เกิดอะไรขึ้น แล้วเซฮุนเป็นยังไงบ้าง”
ลู่หานและจงอินรีบมาโรงพยาบาลทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากแบคฮยอน คนตัวเล็กที่ขอบตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาเขย่าแขนหนุ่มหน้าหวานอย่างต้องการคำตอบ แบคฮยอนจึงเล่าเรื่องที่เซฮุนรับกระสุนแทนชานยอลให้ฟัง
“กระสุนฝังใน ตอนนี้หมอกำลังผ่าตัดเอาออกอยู่”แบคฮยอนบอก
ลู่หานนิ่งเงียบไปเมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมด อารมณ์ความเป็นห่วงในทีแรกถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอื่นเพียงเพราะต้องการช่วยชานยอลน้องชายของเขาถึงกับเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเชียวหรือ
“คุณลู่หาน...”เมื่อเห็นคนตัวเล็กเงียบไปจงอินจึงเรียกอย่างไม่แน่ใจ มือใหญ่แตะไหล่บางเบาๆ อย่างเป็นห่วง หากแต่เขาก็ทำได้เพียงเท่านั้นไม่กล้าแตะต้องไปมากกว่านี้
ไม่นานเซฮุนก็ถูกนำตัวออกจากห้องผ่าตัดไปพักฟื้นลู่หานนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง ใบหน้าหล่อเหลายังคงซีดเซียวดวงตาพริ้มหลับสนิท มือเล็กกุมมือคนเป็นน้องไว้อยู่ตลอดเวลาราวกับอยากจะมอบพลังชีวิตส่งผ่านไป
“คืนนี้ฉันจะนอนเฝ้าเซฮุน นายกลับบ้านไปก่อนก็ได้”ลู่หานบอกจงอินที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหลัง
“งั้นผมจะอยู่เป็นเพื่อน คุณหิวมั้ยเดี๋ยวผมออกไปซื้ออะไรมาให้นะ”จงอินออกจากห้องไป จึงเหลือเพียงลู่หานกับเซฮุนเท่านั้น
“เซฮุนเมื่อไหร่จะฟื้นสักที”ลู่หานไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายนักแม้จะเศร้าเพียงไหนเขาก็เก็บน้ำตาได้เสมอ แต่ตอนนี้หยดน้ำกำลังเอ่อล้นดวงตาคู่สวย ใบหน้าหวานซบหน้าลงบนอกน้องชายจนเมื่อฝ่ามือหนาลูบเส้นผมเบาๆ จึงเงยหน้ามอง
“พี่ลู่หาน ผมขอโทษนะ” มือหนายกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มเนียน รู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายต้องเป็นห่วง “อย่าร้องนะคนดี”
“เซฮุนใจร้าย เธอเป็นของพี่นะ ไปรับกระสุนแทนคนอื่นทำไม เขาสำคัญกว่าฉันเหรอ”ดวงตาบวมแดงมองน้องชายอย่างตัดพ้อ
“สำหรับผม ไม่มีใครสำคัญไปกว่าเสี่ยวลู่หรอกนะ”เรื่องที่ช่วยชานยอลมันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น แขนแข็งแรงดึงพี่ชายให้เอนซบลงบนอก
“จริงนะ อย่าลืม ว่าเธอเป็นของฉัน เป็นของลู่หานคนเดียว”เสียงอู้อี้ถามอย่างต้องการความมั่นใจ
“อื้ม ผมเป็นของลู่หานคนเดียว”
จงอินปิดประตูลงอย่างเบามือหลังจากมองภาพคู่พี่น้องภายในห้อง เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกหมายความว่ายังไง ทำไมหัวใจมันปวดหนึบเวลาเห็นพี่น้องคู่นี้แสดงความสนิทสนมกัน เจ็บเมื่อเห็นสายตาของลู่หานมองเพียงแต่เซฮุนเท่านั้น สายตาคู่นั้นไม่เคยมองมาทางเขา...ไม่เคย
•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•
สำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรคือศูนย์รวมของสาขาต่างๆ ที่จะต้องส่งรายงานเข้ามา คนที่ทำงานในสำนักงานนี้จะขึ้นตรงต่อนายใหญ่เท่านั้น ภายในห้องทำงานคริส ชานยอลและจื่อเทากำลังหารือกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงเมื่อวานเป็นการส่วนตัว
“สาขาเหนือจะให้ใครรับผิดชอบแทนหัวหน้าลีล่ะ”
คริสเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงาน ตำแหน่งหัวหน้าสาขาไม่ใช่จะยกให้ใครได้ง่ายๆ เพราะคนที่อยู่ตำแหน่งนี้เท่ากับกุมอำนาจภายในเขตพื้นที่นั้นๆ เขาอุตส่าห์ลงทุนเสี่ยงกว่าจะกำจัดเสี้ยนหนามอย่างหัวหน้าลีออกไปสำเร็จเพื่อที่หัวหน้าสาขาต่างๆ ภายในเกาหลีจะได้ขึ้นตรงต่อเขาคนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็ควรจะต้องให้คนที่เขามั่นใจว่าจะควบคุมได้รับตำแหน่งนี้ไป
“ฉันจะให้เซฮุนมารับช่วงต่อ นายท่านก็คงคิดแบบนี้”เพราะเซฮุนเป็นคนที่นายท่านส่งมาหากให้รับตำแหน่งนี้คงไม่คัดค้านอะไร แต่ถ้าให้จื่อเทาซึ่งเป็นคนของเขาคงไม่ยอมแน่
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ไว้ใจเซฮุน นายยังจะยกสาขาเหนือให้เค้ารับผิดชอบอีกเหรอ”ชานยอลทนไม่ได้ในที่สุดจึงพูดออกมา
“ถ้าเขาเป็นคนของนายท่านจริงคงไม่ขัดขวางแผนการเมื่อวานหรอก”เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันเป็นไปตามแผนการของพวกเขาทุกอย่าง มือปืนของหัวหน้าลีนั้นถูกเขาซื้อตัวไว้หมดแล้ว กระสุนที่ยิงใส่ชานยอลในตอนนั้นก็ไม่ได้มีเจตนาจะให้โดนเพียงแค่ยิงไปตามแผนการแต่แรกของหัวหน้าลีเพื่อที่เขาจะได้เปิดโปงต่อหน้าทุกคนเท่านั้น
ชานยอลเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง ไม่รู้จะอธิบายให้คนตรงหน้าเข้าใจอย่างไรหรือพูดให้ถูก เขาไม่ต้องการให้คริสรู้ต่างหากว่าที่ไม่ไว้ใจเซฮุนไม่ใช่เพราะคิดว่าฝ่ายนั้นเป็นคนของนายท่าน แต่เป็นเพราะเรื่องอื่นต่างหาก
“ส่งตัวหัวหน้าลีไปให้นายท่านเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”คริสหันไปถามจื่อเทา
“เรียบร้อยแล้วครับ”จื่อเทาตอบแต่ใบหน้ายังคงสงสัย เป็นเพราะนายใหญ่สั่งให้เขาไปรวบรวมหัวหน้าสาขาในจีนที่พร้อมจะเลือกอยู่ฝ่ายนายใหญ่ เขาจึงบังเอิญเห็นหัวหน้าลีเข้าไปพบนายท่านบ่อยๆ ทำให้นายใหญ่สงสัยและให้คอยสังเกตหัวหน้าลีเอาไว้ถึงได้รู้แผนการลอบยิงชานยอล
คนที่น่าสงสัยก็น่าจะเป็น....
“บางเรื่องมันก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย คนฉลาดมากไปบางทีก็มักจะตายเร็ว สู้เราทำตัวเป็นคนโง่ไปอีกสักพักดีกว่า”ชานยอลที่สังเกตเห็นสีหน้าคนอายุน้อยกว่าตอบให้
“ตอนนี้หัวหน้าสาขาต่างๆเกือบทั้งหมดขึ้นตรงต่อนายแล้ว จะเอายังไงต่อ”
ชานยอลเดินมานั่งลงบนขอบโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของคริสหลังจากที่จื่อเทาออกจากห้องไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาเพียรพยายามมาหลายปีคือแผ่อำนาจของคริสภายในแก๊งอย่างเงียบๆ ชักจูงให้คนที่เคยอยู่ฝ่ายนายท่านมาเข้าฝ่ายตัวเองหรือถ้าเห็นว่าคนไหนเป็นไม้แก่เกินกว่าจะยอมทำให้อ่อนได้ก็กำจัดทิ้งเสีย
“คงใช้วิธีเดียวกับที่นายท่านทำให้ตัวเองได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าใหญ่ได้ไงละ”วิธีที่ว่าคริสกับชานยอลต่างก็รู้ว่าคืออะไร
“แต่เขาเป็นพ่อนาย”ชานยอลพูดย้ำความสัมพันธ์นั้นเสียงอ่อน
“ไม่ว่าใครที่คิดจะทำร้ายเธอ ฉันก็ฆ่าได้ทั้งนั้น”ดวงตาคมไม่มีแววลังเลเลยสักนิดแม้ว่าคนที่พูดถึงจะได้ชื่อว่าเป็นบิดาตนเอง
“ถ้าถึงวันนั้น ให้ฉันเป็นคนลงมือเองได้มั้ย ให้ฉันทำ”ชานยอลไม่อยากให้คริสต้องรู้สึกบาปไปตลอดชีวิต
มือหนากุมมือเล็กของชานยอลไว้ ประทับจูบลงบนหลังมือนิ่มแผ่วเบาก่อนจะเงยมองดวงหน้าหวาน คริสรู้ว่าชานยอลกังวลเรื่องอะไร ใบหน้าคมจุดยิ้มอ่อนโยนรับความห่วงใยที่อีกคนมอบให้
“มือคู่นี้มีไว้ช่วยชีวิตคน ไม่ควรต้องแปดเปื้อน ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ฉันเถอะ”ถึงแม้คริสจะเลือกเส้นทางที่จมดิ่งสู่ความมืดมิดเพียงใดแต่ชานยอลของเขาจะต้องบริสุทธิ์และสว่างไสวเท่านั้น
ชานยอลลูบกลุ่มผมสีสว่างของคนที่กอดเอวเขาและซบใบหน้าหล่อจัดลงบนหน้าท้องแบนราบ ที่ชานยอลเลือกเรียนสายแพทย์ก็เพราะคริสแม้เหตุผลในตอนแรกกับตอนนี้มันจะต่างก็เถอะ
หากคริสฆ่าหนึ่งคน ชานยอลจะช่วยชีวิตให้ได้สิบคน
TBC
TALK
บอกช้าไปมั้ย เรื่องนี้แท็ก #seemsweet คะ แฮ่ ฝากทิ้งคอมเม้นไว้ที่นี่หรือช่วยสกรีมในแท็กนั้นเป็นกำลังไตให้ด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น