คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Seem Sweet - 2
คนป่วยกำลังถูกดวงตาสุกใสราวลูกกวางน้อย จ้องเขม็ง เซฮุนได้แต่ส่งยิ้มจนตาหยีแต่ดูเหมือนครั้งนี้รอยยิ้มของเขาจะใช้ไม่ได้ผล กับพี่ชายต่างพ่อคนนี้ เมื่ออีกฝ่ายยังคงหันหน้าหนีอย่างไม่พอใจเขาจึงสอดมือสวมกอดเอวเล็กนั้นไว้ ใช้ศีรษะที่มีผ้าพันแผลถูไถเหมือนลูกแมวน้อย
"เสี่ยว ลู่อ่าา...ผมต้องไปทำงานนะ ทำงานวันแรกจะให้เบี้ยวได้ไง"เซฮุนพยายามอ้อน หลังจากโดนดุไปยกใหญ่ที่เมื่อวานกลับบ้านมาแบบสะบักสะบอมวันนี้ลู่หานพี่ชาย สุดที่รักก็เลยไม่ยอมให้เขาไปทำงาน
เซ ฮุนกับลู่หานเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากด้วยความที่ลู่หานตัวเล็กทำให้เซฮุน ที่ตัวโตกว่าดูแลและปกป้องลู่หานมาตั้งแต่เด็ก จนบางครั้งเกือบเผลอคิดว่าลู่หานเป็นน้องชายมากเขาเสียมากกว่า ยิ่งเมื่อเสียพ่อแม่ไปเซฮุนก็ยิ่งมอบความรักและใส่ใจพี่ชายคนนี้มากขึ้น
"ถ้า รู้ว่างานนี้จะทำให้ต้องเจ็บตัวฉันไม่ยอมให้เธอทำหรอก นอนลงไปเลย ถ้าแผลยังไม่หายห้ามออกไปไหน"ลู่หานยื่นคำขาด มือเล็กตักข้าวต้มขึ้นเป่าและส่งให้คนป่วยที่ยอมอ้าปากรับอย่างว่าง่าย
"นายน้อยครับ คุณชานยอลมา อยู่ที่ห้องทำงาน"จงอินเปิดประตูเข้ามารายงาน
คราว นี้ลู่หานต้องจำยอมให้เซฮุนลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ร่างเล็กช่วยพยุงน้องชายไปทางห้องทำงานที่อยู่ชั้นล่าง เซฮุนผลักบานประตูเข้าไปเพียงลำพัง
ปาร์ คชานยอลนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ใบหน้าสวยไม่มีท่าทียินดี ยินร้ายเมื่อเห็นเขา สายตายังคงอ่านแฟ้มเอกสารในมืออย่างตั้งใจ น่าแปลกที่วันนี้ไม่เห็นพยอนแบคฮยอนเท่าที่ได้ฟังจากจงอิน แบคฮยอนมักจะตามติดชานยอลราวกับเงาตามตัวแล้วทำไมวันนี้ถึงปล่อยเจ้านายตัว เองอยู่คนเดียวได้
“สวัสดีครับ คุณชานยอล”เซฮุนทักอย่างสุภาพคนที่เพ่งสมาธิอยู่กับเอกสารในมือจึงเงยหน้าขึ้นมอง
มองเพียงแค่นั้นและก้มลงสนใจกระดาษตรงหน้าต่อ
“มีธุระอะไรเปล่าครับ”
“ไม่มี”
คำ ตอบสั้นๆ ของชานยอลทำเอาเซฮุนแทบสะอึก เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนที่สุขุมเยือกเย็นในระดับหนึ่งแต่พอมาเจอคนที่นิ่ง สงบกว่าแบบชานยอลจึงรู้สึกเหมือนตัวเองถูกอีกฝ่ายเล่นตลกด้วย ร่างโปร่งลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาวเอนหลังพิงด้วยท่วงท่า สบายๆ จงอินเคาะประตูและเปิดเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟส่งให้ชานยอล
เซ ฮุนเดินอ้อมไปนั่งที่โต๊ะทำงานรอว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร หรือมาไม้ไหน สายตามองนิ้วมือเรียวยกหูถ้วยกาแฟขึ้นเป่าเบาๆก่อนจิบ ในความรู้สึกของเซฮุนเหมือนอีกคนกำลังทดสอบความอดทนกันอยู่
“รู้จักจางอี้ชิงมั้ย”ในที่สุดชานยอลก็วางแก้วในมือลงและเงยหน้าถาม
“ผม เพิ่งกลับมาเกาหลีสองวัน คนที่รู้จักก็มีแต่พวกคุณ”เซฮุนตอบโดยไม่หลบสายตา พลางลอบสังเกตแววตาคนถามแต่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาจับอารมณ์ใดๆ ไม่ได้เลยจากคนๆ นี้
“จางอี้ชิงเดินทางไปอเมริกาบ่อย”สีหน้ายังคงเรียบเฉยตอนที่พูดมา
“คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่” เขาเริ่มเสียงเข้ม
“เขาเป็นนายใหญ่แก๊งเสือขาว”
“ทำไม ถึงคิดว่าผมจะรู้จักกับหัวหน้าแก๊งศัตรูล่ะ”แก๊งเสือขาวเป็นคู่อริทั้งใน เรื่องธุรกิจและอิทธิพลมืดของแก๊งมังกร ชานยอลถามแบบนี้แสดงว่าสงสัยในตัวเขางั้นสิ
“ถ้าไม่รู้จักก็ดี”พูดจบร่างโปร่งก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะออกจากห้องไป แต่เซฮุนเรียกไว้เสียก่อน
“วันนี้แบคฮยอนไม่ได้มาด้วยเหรอ”
“แบคฮยอนไม่สบาย”เซฮุนฟังผิดไปหรือเปล่า น้ำเสียงที่เคยราบเรียบของชานยอลเมื่อกี้มันแปลกไปเล็กน้อย
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง”เซฮุนลุกจากเก้าอี้และเดินมาทางร่างโปร่งที่มีสีหน้างุนงง ปาร์คชานยอลก็ทำหน้าแบบนี้เป็นด้วยงั้นหรือ
“ทำไมต้องไปส่ง”
“ก็ แบคฮยอนไม่มา...” ตำแหน่งคนสนิทของนายใหญ่อย่างปาร์คชานยอลมีเหตุผลเพียงพอที่จะถูกศัตรูรอบทำ ร้ายจึงต้องมีลูกน้องคอยคุ้มกันอยู่ตลอดเซฮุนเข้าใจแบบนั้น เพราะดูจากรูปร่างท่าทางชานยอลไม่เหมือนพวกที่มาทางสายการต่อสู้ และนั้นก็เป็นคำถามหนึ่งที่ติดอยู่ในใจเขาว่าปาร์คชานยอลมีฐานะอะไรอยู่ภาย ในแก๊งกันแน่
“คิดว่าฉันจะถูกลอบทำร้ายหรือไง”ริมฝีปากสีสดเหยียดออกเล็กน้อย เซฮุนจะเรียกมันว่ารอยยิ้มได้มั้ยนะ
“คุณเป็นคนสนิทของนายใหญ่ ถ้าหากออกจากบ้านผมไปแล้วเกิดอันตราย ผมจะไปอธิบายกับนายใหญ่ว่ายังไง”
“นั่นสิ เซฮุนพูดถูก”ประตูถูกเปิดออกอีกครั้งโดยร่างสูงใหญ่ของคริสที่ก้าวเข้ามาในห้อง
“นายใหญ่” เซฮุนโค้งกายทัก ใบหน้าหล่อจัดยิ้มรับต่างจากอีกคนที่สีหน้าเริ่มกลับมาเรียบเฉย
“ทำไมออกมาข้างนอกไม่บอก หื้ม?”คนตัวสูงกว่าก้มลงถาม คนหน้าสวยจึงหันกลับไปเลิกคิ้วมอง
“แล้วจะ ให้ฉันไปบอกที่ไหนล่ะ”รอยยิ้มเย็นจากริมฝีปากสีสดทำให้คนถามชะงัก เมื่อร่างโปร่งหมุนตัวเดินออกจากห้องไปแล้วใบหน้าหล่อคมจึงเปลี่ยนเป็นรอย ยิ้ม บทสนทนาและท่าทางของคนทั้งสองทำให้เซฮุนมองดูอย่างไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ ของคนทั้งคู่
“ชานยอลเขาก็เป็นแบบนี้ล่ะ แล้วแผลยังเจ็บอยู่มั้ย”คริสหันกลับมายิ้มให้คนที่ทำหน้างงใบหน้าหล่อจัดดูเป็นมิตรผิดกับชานยอลลิบลับ
“ไม่ครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง”
“พูด กับฉันไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ความจริงรุ่นพ่อของพวกเราสนิทกัน พวกเราก็เหมือนเป็นเพื่อนกันนั่นล่ะ”คริสเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาที่ชานยอ ลเพิ่งลุกออกไป “หัวหน้าโอกับหัวหน้าปาร์ค พ่อของชานยอลน่ะ ทำงานกับนายท่านมานาน เป็นคนที่ท่านไว้ใจทั้งคู่ เหมือนที่ฉันไว้ใจชานยอลและจะไว้ใจนาย”
เซ ฮุนยิ้มรับกับคำพูดแฝงนัยของนายใหญ่ เขาเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวใกล้ๆ ไม่นานจงอินก็ยกกาแฟอีกถ้วยมาส่งให้คริส เซฮุนนั่งสังเกตุนายใหญ่ของตัวเองเงียบๆ คริสมีบุคลิกเหมือนเด็กหนุ่มเพลย์บอยเจ้าสำราญ ส่วนชานยอลสุขุมเยือกเย็นถึงจะนิสัยต่างกัน แต่สองคนนี้กลับเหมือนเข้ากันได้อย่างลงตัวในสายตาของเซฮุน
“แล้วหัวหน้าปาร์ครับผิดชอบสาขาไหนเหรอครับ เหมือนผมจะไม่เคยได้ยิน” เซฮุนลองถามทั้งที่รู้วว่าพ่อของชานยอลตายไปแล้ว
“หัว หน้าปาร์คเสียไปนานแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าชานยอลล่ะ”แววตาขี้เล่นของคริสไหววูบเพียงเสี้ยว วินาที แต่กลับไม่พ้นสายตาของเซฮุนไปได้
“นายใหญ่กับคุณชานยอลคงสนิทกันมาก” เซฮุนพยายามสะกดน้ำเสียงให้เหมือนเป็นการถามไถ่ตามปกติ แต่สายตายังคงลอบชำเลืองอีกคน
“ใครๆ ก็พูดแบบนั้น”คริสยิ้มอย่างขมขื่นให้ตัวเอง "ไว้นายหายดีเราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าสาขาตะวันออกคนใหม่กัน ตอนนี้ก็พักผ่อนมากๆ ละ"
คริสตบไหล่ลูกน้องคนใหม่สองสามทีก่อนจะเดินออกไปทางโถงรับแขกที่มีชานยอลรออยู่ ลู่หานรีบลุกขึ้นมาช่วยพยุงน้องชายไว้อย่างเป็นห่วง
“นี่ลู่หานพี่ชายผมครับ”เซฮุนแนะนำลู่หานให้คริสและชานยอลรู้จัก
“ดีจังนะ มีคนคอยใส่ใจแบบนี้”
คริ สพูดพลางหันไปมองชานยอลแต่อีกฝ่ายหาได้สนใจ ร่างโปร่งลุกขึ้นจากโซฟาเดินนำไปที่รถจึงไม่เห็นเลยว่าคริสหันไปสบตากับเจ้า ของบ้านอีกคนด้วยสายตาแบบไหน
และเซฮุนที่มัวแต่มองตามร่างโปร่งของบางคนจึงไม่รับรู้ว่ารอยยิ้มของคนข้างกายมันเปลี่ยนไปจากเดิม
•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•
บน เตียงกว้างร่างเล็กกำลังนอนนิ่งแม้จะลืมตาอยู่แต่ร่างกายกลับขยับไม่ได้ เพราะเพียงแค่พลิกตัวอาการเจ็บร้าวบริเวณสะโพกก็จะแล่นริ้วขึ้นมาจนน้ำตา เล็ด ดวงตาเล็กหยีมองคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกผิดปนอับอาย
“คุณชานยอล ผมขอโทษ”คำพูดที่ได้ยินจนนับครั้งไม่ถ้วนทำให้ชานยอลถอนหายใจ นิ้วเรียวยาวยกขึ้นปิดปากห้ามไม่ให้พูดต่อ
“บอก กี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องขอโทษ ฉันเสียอีกที่ควรเป็นฝ่ายพูดคำนั้น” เพราะที่แบคฮยอนต้องมารองรับอารมณ์ของคริสต้นเหตุมันมาจากเขา ถึงแม้มันจะเป็นความเต็มใจของเจ้าตัว แต่แบคฮยอนคงไม่รู้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีวันได้หัวใจของคริสไป
แบ คฮยอนละอายเต็มทน ทำไมกันนะ ทำไมชานยอลไม่ต่อว่าหรือตบตีเขาก็ได้เผื่อจะบรรเทาความรู้สึกผิดในใจลงได้ บ้าง ทั้งที่ชานยอลดีกับเขามากมายแต่เขากับทอดกายให้นายใหญ่ แม้จะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของสองคนนั้นแต่แบคฮยอนก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำ มันเป็นการทรยศชานยอล แต่เขาห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ เขาหลงรักซาตานในคราบเทพบุตรคนนั้นไปแล้ว
“นาย ไม่ผิด เขาเองก็ไม่ผิด”ชานยอลยิ้มให้อย่างใจดี แบคฮยอนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชานยอลถึงได้ปกป้องผู้ชายคนนั้นขนาดนี้ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะกล่าวโทษหรือต่อว่า ทุกครั้งชานยอลจะยอมรับความผิดนั้นไว้เอง
ชาน ยอลปิดประตูห้องนอนลงรอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าสวยหมดแล้ว ร่างโปร่งยกชาที่เตรียมไว้เดินตรงไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นล่างของคฤหาสน์ เคยชินกับการเปิดเข้าไปโดยไม่เคาะประตู ร่างสูงเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารยิ้มทักคนที่เพิ่งเข้ามา
“นึกว่าจะหมกตัวอยู่ในห้องเจ้านั่นจนไม่ออกมาซะแล้ว”
“ฉันเคยละเลยนายเหรอ”ชานยอลวางชุดชาและของหวานลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่
“ไม่เคยละเลย แต่เย็นชา”คริสรั้งเอวบางให้ล้มลงมานั่งบนตักพลางยกชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์
“อยากให้แสนดีแบบลู่หานเหรอ”ทำไมชานยอลจะไม่รู้ว่าคริสพูดเหน็บแนมเขาตอนอยู่ที่บ้านของเซฮุน
“หึๆ ทำได้มั้ยล่ะ”แค่คิดว่าชานยอลจะทำท่าออดอ้อนเอาใจแบบนั้นใบหน้าคมก็เผลอยิ้มออกมาแล้ว
ใบ หน้าสวยหันมา แววตา สีหน้า รอยยิ้มทุกการกระทำของคนๆ นี้ ถึงคนอื่นจะรู้สึกว่าชานยอลลึกลับ แต่สำหรับคริสไม่ใช่ ทุกอย่างที่เป็นชานยอลเขารู้จักดี เขาใช้หลังมือไล้แก้มเนียนเบาๆก่อนจะโน้มให้ลงมาใกล้
“ฉัน ไม่ใช่ลูกแมวน้อย แต่เป็นงูพิษ ที่อาจจะแว้งกัดเจ้าของได้ทุกเมื่อ” ริมฝีปากสีสดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ใครอาจมองว่าน่ากลัว แต่มันเป็นรอยยิ้มที่เชิญชวนให้คริสอยากปราบพยศให้คนๆ นี้อยู่ในกำมือ
“งูพิษตัวอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับเธอ ฉันรู้ว่าจะไม่มีวันนั้น”
ใบ หน้าสวยถูกโน้มจนริมฝีปากสัมผัสกัน เอียงศีรษะเล็กน้อยให้มุมพอดีแลกเปลี่ยนความคุ้นเคยของกัน มือหยาบกร้านแทรกผ่านชายเสื้อลูบไล้แผ่นหลังเนียนจนชานยอลต้องผละตัวออกก่อน จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“คริส เลิกทำแบบนั้นกับแบคฮยอนสักทีได้มั้ย”ชานยอลไม่อยากให้เด็กคนนั้นเสียใจไปมากกว่านี้ ชีวิตแบคฮยอนน่าสงสารพอแล้ว
“หึงหรือ”มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อจัดมีแววพอใจอย่างปิดไม่มิด
“อย่าทำร้ายคนอื่นไปมากกว่านี้เลย”พวกเขาผ่านชีวิตมาโดยทำร้ายผู้อื่นมาเยอะแล้ว ถ้าเลือกได้ชานยอลอยากจะให้มันจบเสียที
“เป็นคำสั่งหรือ”คำตอบที่ไม่ได้ดั่งใจหวังทำให้ความรื่นรมย์ของคริสหายวับไป
“เป็นการขอร้อง”
“มีอะไรมาแลกเปลี่ยนละ”มือหนาไล้ไปตามโครงหน้าสวย ลำคอระหง นิ้วมือยาวเกี่ยวไปตามรังดุม คิ้วเข้มเลิกขึ้นรอคอยคำตอบ
ชาน ยอลผลักร่างสูงใหญ่พิงพนักเก้าอี้ ขยับชันเข่าลงบนเบาะคร่อมร่างนั้นไว้ก่อนจะก้มลงไปบดจูบยั่วแล้วผละออกมา นิ้วมือเรียวค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกทีละเม็ดเชื่องช้าเสียจนคนมองอยากจะกระชากมันออก เสียให้ทันใจ
..............คัท.............
•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•
ภาพ ชายหนุ่มใบหน้าหล่อคมนั่งสูบบุหรี่ถูกขนาบข้างด้วยหญิงสาวแต่งหน้าจัดสวมใส่ เพียงกระโปร่งสั้นแค่คืบเสื้อเว้าคอลึกหรือบางทีเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหมดจด นั้น เซฮุนเห็นจนเป็นเรื่องปกติ คริสมานั่งดื่มที่ไนต์คลับเดอะวันที่อยู่ภายใต้การดูแลของสาขาตะวันออกแทบ ทุกคืน จากสถานะเจ้านายลูกน้องเริ่มเปลี่ยนเป็นเพื่อนที่คุยกันถูกคอ คริสไม่ชอบให้ลูกน้องตามติดเป็นพรวนเวลาไปไหนมาไหนจึงมีแค่ชานยอล แบคฮยอนและลูกน้องคนสนิทอีกคนที่ตอนนี้ถูกส่งไปทำธุระต่างประเทศเท่านั้น
ช่วง หลังมานี้เซฮุนกับคริสแทบจะตัวติดกัน คริสพาเขาไปตามสถานที่ต่างๆ เขาได้รู้ได้เห็นแวดวงมาเฟียของจริง สองคนกอดคอกันกิน เที่ยว ดื่ม ทั้งหมดนี่เขารู้ว่าคริสกำลังสอนให้เขาเอาตัวรอดในสังคมนี้ให้ได้ ครั้นพอถามว่าทำไมถึงมาขลุกอยู่กับเขา เจ้าตัวก็บอกเพียงว่า ‘ถูกชะตา’
“พรุ่ง นี้มีงานเลี้ยงวันก่อตั้งแก๊ง คืนนี้ยังจะดื่มหนักอีกเหรอ”การพูดจาอย่างเป็นทางการถูกตัดออกไป เมื่อพวกเขาเริ่มสนิทกัน ปกติคริสดื่มหนักแต่ก็ไม่เคยถึงขนาดมีอาการมึนเมาแบบวันนี้ เวลาคริสมาหาเขาพาไปที่นู้นนี่จะมาเพียงคนเดียว ชานยอลไม่ได้มาด้วย เซฮุนรู้ว่าชานยอลดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่
“หึๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย”นายใหญ่ตอบด้วยใบหน้าแดงเรื่อเพราะพิษแอลกอฮอร์ ใบหน้าฝังอยู่ตามซอกคอขาวของหญิงสาวข้างๆ ส่วนมือก็ลูบไล้ไปตามต้นขาที่โผล่พ้นกระโปรงตัวสั้น เซฮุนส่ายหน้ากับความเจ้าชู้ของเพื่อนใหม่
จน ถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของคริสกับชานยอล ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูดบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าปาร์คชานยอลไม่มีความ เกรงกลัวนายใหญ่เลยแม้แต่น้อยซึ่งคริสเองก็ไม่เคยว่าอะไร ถ้าไม่ใช่คนสำคัญจริงนายใหญ่ของแก๊งมาเฟียที่มีอำนาจมากมายทุกคนต่างยำเกรง จะยอมให้ชานยอลลอยหน้าลอยตาอยู่มาได้อย่างทุกวันนี้เหรอ แต่ถ้าสองคนนั้นเป็นคนรักกันจริง คริสเที่ยวไปนอนกับใครต่อใครแบบนี้ชานยอลไม่ว่าอะไรบ้างหรือ
แล้ว เขาจะเก็บมาสงสัยทำไม ไม่ลองพิสูจน์ไปเสียเลยล่ะ ริมฝีปากบางได้รูปยกโค้งขึ้นเล็กน้อย ดวงตารีหรี่ลงอย่างนึกสนุก อยากจะเห็นใบหน้าเย็นชานั่นเสียจริงว่าจะแสดงอารมณ์อะไรออกมาบ้าง ถ้าเห็นคริสกับผู้หญิงพวกนี้ เซฮุนก้มลงกดหารายชื่อเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาจากคริสในขณะที่คนตัวสูงเมามาย แทบไร้สติกำลังถูกสาวสวยสองคนพยุงขึ้นไปสานต่อกิจกรรมรักในห้องคาราโอเกะ ชั้นสอง
ถือสายรอไม่นาน ปลายสายก็กดรับ ถึงแม้จะเป็นเวลาตีสองแล้วแต่น้ำเสียงของอีกฝ่ายกลับไม่มีแววง่วงงุนอยู่เลย
[นั่นใคร]
“โอเซฮุน โทรมารบกวนเวลานอนหรือเปล่า”ลองถามดูตามมารยาททั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้กำลังหลับอยู่
[ฉันยังไม่นอน คริสล่ะ]
ทำไมถึงพูดจาได้ห้วนขนาดนี้นะ เขาโทรไปแต่กลับไม่มีอาการแปลกใจ หรือสงสัยที่จะถามว่ามีธุระอะไรสักนิด
“คืนนี้นายใหญ่เมามาก สงสัยจะขับรถกลับไม่ไหว”เซฮุนกรอกเสียงกลับไปในโทรศัพท์ ชานยอลเงียบไปสักครู่ก่อนจะตอบกลับมา
[เดี๋ยวฉันออกไปรับ]
ไม่ พูดอะไรอีกเจ้าตัวก็ตัดสายไป เซฮุนทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวที่คริสเพิ่งลุกออกไปอย่างสบายอารมณ์ไนต์คลับปิด แล้วทั้งร้านเหลือเพียงพนักงานกำลังเก็บของอยู่ไม่กี่คน ไม่นานเกินรอร่างโปร่งก็ผลักประตูเข้ามา ดวงตากลมกวาดหาคนที่ต้องการก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เซฮุน เลิกคิ้วมองอย่างตั้งคำถาม
“คริ สล่ะ”ไม่คิดจะทักทายกันเลยใช่มั้ยเขานั่งหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน เซฮุนได้แต่บ่นในใจและชี้นิ้วไปทางชั้นบน ชานยอลหมุนตัวจะเดินไปแต่เขาก็เรียกไว้ก่อน
“ผม ว่า...อย่าเพิ่งขึ้นไปตอนนี้จะดีกว่า”เซฮุนก็ยังไม่ใจร้ายพอที่จะให้อีกฝ่าย ไปเห็นคริสกำลังบรรเลงฉากรักกับสองสาวหรอกนะ รอให้ทำอะไรเสร็จก่อนค่อยเจอก็ได้มั้ง
“ทำไม”คิ้ว เรียวขมวดเล็กน้อย ปาร์คชานยอลมองผ่านๆ ก็เหมือนผู้ชายธรรดาทั่วไป แต่ทำไมนะ ยิ่งได้มอง ได้เห็น กลับยิ่งดึงดูด ให้เข้าใกล้ ให้ค้นหา เหมือนมีเสน่ห์บางอย่างแฝงอยู่
“คิดว่าคุณไม่สมควรจะเห็น”
ใบ หน้าสวยเหยียดมุมปากเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมหรี่ลงเหมือนมีแววสนุกเจืออยู่ เซฮุนเกลียดจริงๆใบหน้าที่เหมือนจะรู้ทัน อ่านใจคนอื่นออกของชานยอล
“ถ้าคิดว่าไม่ควรจะเห็น แล้วนายโทรเรียกฉันมาทำไมล่ะ”
เซ ฮุนมองตามหลังร่างโปร่งบางที่เดินขึ้นบันไดไป ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกับตัวเอง ปาร์คชานยอลไม่ธรรมดาจริงๆ เขาลุกเดินขึ้นบันไดตามไปอีกคน
“นาย ใหญ่อยู่ข้างในใช่มั้ย”เสียงนุ่มเอ่ยถามพนักงานสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง คาราโอเกะ เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นสองคนนั้นกำลังหน้าซีดตัวสั่น
“คะ…ครับ”หนึ่งในนั้นตอบ
“ถอยไป” น้ำเสียงก็ปกติ แต่พนักงานที่เฝ้ายามอยู่ทำหน้าเหมือนได้ยินชานยอลไล่ไปตายยังไงยังงั้น
“ตะ...แต่ ว่านายใหญ่...” พนักงานที่โชคไม่ดีสองคนชำเลืองมองไปทางประตูจนชานยอลหมดความอดทนผลักสองคน นั้นเบาๆ ให้พ้นทางก่อนจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน
เซ ฮุนเดินมาหยุดหน้าห้องที่ชานยอลเพิ่งเข้าไป โบกมือไล่พนักงานสองคน รออยู่สักครู่แต่ก็ไม่มีเสียงหรือเกิดอะไรขึ้นข้างในจนเขาสงสัยผลักบานประตู เข้าไป ภาพที่เห็นหยุดความนึกคิดของเขาไปชั่วขณะ
บน โซฟาตัวยาวคริสอยู่ในท่านั่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยผู้หญิงที่ควบขึ้นมาด้วยหนึ่ง ในสองคร่อมอยู่ด้านบน ส่วนอีกคนรีบหยิบเสื้อผ้ามาปกปิดร่างกายทั้งสองคนมองชานยอลอย่างตกใจ ส่วนเจ้าตัวเหมือนจะไม่ทุกข์ร้อนเดินอ้อมไปทางเบาะด้านหลังโน้มหน้าลงข้างหู คนตัวสูงที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือ เซฮุนรีบหันหน้ากลับทันทีแต่หูยังได้ยินเสียงกระซิบที่เหมือนจงใจพูดให้เขา ได้ยิน
“จะเสร็จหรือยัง ฉันง่วงแล้วนะ”น้ำเสียงนุ่มราบเรียบเป็นปกติของชานยอลกระซิบถาม
“บอกแล้วว่าให้นอนไปก่อนไม่ต้องรอ”เสียงที่เหมือนลิ้นพันกันดังขึ้น
หญิง สาวสองคนนั้นวิ่งผ่านเซฮุนออกจากห้องไป เขาจึงหันไปทางอีกสองคนที่เหลือ คริสใส่กางเกงเรียบร้อยแล้ว ชานยอลกำลังช่วยติดกระดุมเสื้อให้
“อยาก ให้นอนก่อนจริงเหรอ” ใบหน้าสวยถามหลังจากติดกระดุมเสร็จจัดปกเสื้อให้เข้าที่ก็จับท่อนแขนใหญ่ คล้องคอตัวเอง ใบหน้าหล่อคมหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเอียงซบบนไหล่บางและพริ้มตาหลับ
นี่มันอะไรกัน สองคนไม่มีใครมีท่าทางแปลกใจที่ตกอยู่ในสถาณการณ์แบบนี้ คริสอู๋ ปาร์คชานยอล ตกลงพวกนายมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่
เซ ฮุนก้าวเข้าไปช่วยประคองคริสไว้คล้องแขนอีกข้างพาดบ่าตัวเองช่วยพยุงร่างสูง ใหญ่อย่างลำบาก เหลือบมองใบหน้าสวยที่หันมายิ้มให้แต่นั่นไม่ใช่รอยยิ้มเพราะความเบิกบาน มันเหมือนเป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ
เขาบอกหรือยังนะ ว่าเกลียดใบหน้าแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้ของปาร์คชานยอลที่สุด
พวก เขาพยุงคริสมาถึงรถของชานยอลได้อย่างทุลักทุเล เพราะชานยอลไม่ยอมเรียกให้เด็กในร้านมาช่วย พอส่งร่างสูงใหญ่เข้าเบาะหลังของรถได้แล้วเซฮุนก็หันซ้ายหันขวาหาคนที่คิด ว่าน่าจะมาด้วย จนร่างโปร่งที่ยืนถือกุญแจรถมองอย่างตั้งคำถาม
“มาคนเดียวเหรอ”เป็นอีกครั้งสินะที่เขาถามคำถามนี้กับชานยอล
“อืม ดึกขนาดนี้คนอื่นเข้านอนกันหมดแล้ว”มือเรียวเปิดประตูรถฝั่งคนขับ
“งั้น เดี๋ยวฉันขับไปส่ง”และเป็นอีกครั้งที่เซฮุนเสนอตัวไปส่งชานยอล เจ้าตัวไม่ตอบอะไรโยนกุญแจรถให้และเปลี่ยนไปนั่งเบาะหลังกับคริสแทน
เห็นเขาเป็นคนขับรถหรือไง
เซ ฮุนเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับเหลือบตามองผ่านกระจกเห็นชานยอลจัดศีรษะคริสให้ หนุนที่ตักตัวเอง ใช้นิ้วมือเขี่ยปอยผมที่ปรกหน้าออกให้อีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
มันก็ดูเหมือนภาพคนรักกันนิ
“นอนดึกแบบนี้ประจำเหรอ”เซฮุนขับรถไปตามถนน ตลอดทางก็ลอบชำเลืองมองเบาะหลังเป็นระยะ
“คริสยังไม่กลับถึงบ้าน ฉันก็ไม่หลับ”เสียงนุ่มตอบ
ชานยอลที่ดูเย็นชา ความจริงเป็นห่วงคริสขนาดนี้เลยหรือ
ภาย ในรถตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เซฮุนตอบไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงอยากชวนคนข้างหลังคุยนัก อยากทำความรู้จักให้มากกว่านี้ อาจเป็นเพราะอยากจะอ่านคนอย่างปาร์คชานยอลให้ออกก็ได้มั้ง
รถ มาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เซฮุนลงจากรถเข้าไปช่วยพยุงร่างไร้สติพาตรงขึ้นไปยังห้องนอนบนชั้นสองวาง ร่างสูงใหญ่ลงบนเตียงแล้วจึงหันมองรอบห้อง
พลัน สายตาก็สะดุดเข้ากับกรอบรูปสี่เหลี่ยมข้างหัวเตียง ในนั้นมีเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบสี่สิบห้าสองคนคนด้านซ้ายที่ตัวสูงกว่าพาด ท่อนแขนไว้บนบ่าเด็กอีกคนทั้งสองส่งยิ้มใสซื่อให้แก่กัน รอยยิ้มของเด็กตัวสูงด้านซ้ายเขาเคยเห็นเพราะเด็กคนนั้นคือคริส แต่เด็กทางขวา....เขาหันมองอีกคนที่ยุ่งอยู่กับการปลดกระดุมเสื้อคนเมาเพื่อ เช็ดตัว
รอยยิ้มอย่างมีความสุขของปาร์คชานยอล เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เหมือน รู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องอยู่ใบหน้าสวยจึงเงยขึ้นสบตากัน เซฮุนจึงรีบเบือนสายตาหลบไปทางอื่นแต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าชานยอลกำลังเดินเข้า มาใกล้
“ดึกมากแล้วจะค้างที่นี่มั้ย พรุ่งนี้เช้าก็ออกไปงานเลี้ยงด้วยกัน”
เซ ฮุนหันกลับมามองเจ้าของประโยคนั้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง จะว่าไปมันก็ดึกมากแล้วจริงๆ แต่อีกใจก็เป็นห่วงพี่ชายขี้งอน ร่างสูงผอมยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากตอบ
“ก็ ได้”และไม่รู้อะไรดลใจให้ตอบไปแบบนั้น เซฮุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาคนตัวเล็กว่าจะไม่กลับ ป่านนี้คงหลับแล้วตื่นมาตอนเช้าเห็นข้อความของเขาคงโวยวายลั่นบ้านแน่ๆ
.
.
“นอนห้องฉันแล้วกันดึกแล้วฉันไม่อยากปลุกเด็กๆมาจัดห้อง”ชานยอลพาเซฮุนมาอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกับห้องนอนของคริส
“แล้วคุณจะนอนที่ไหน”
“ถ้า นายนอนนี่ ฉันจะไปนอนกับคริส”เจ้าตัวตอบและเดินไปทางตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนกับชุดสูทสีดำออกมาทาบกับตัวเซฮุน “น่าจะใส่ชุดของฉันได้นะ”
ร่าง โปร่งวางชุดลงบนโต๊ะ บอกให้เซฮุนใช้ข้าวของในห้องได้ไม่ต้องเกรงใจ หันมาถามอีกครั้งว่าเซฮุนจะนอนห้องไหน แน่นอนเขาต้องตอบว่านอนห้องนี้ ขืนไปนอนกับคริสแล้วฝ่ายนั้นละเมอปล้ำเขาขึ้นมาจะทำยังไง
“งั้น ฉันไม่กวนล่ะ ราตรีสวัสดิ์”ชานยอลหมุนตัวจะเดินจากไป แต่เซฮุนคว้าท่อนแขนเรียวไว้เสียก่อนใบหน้าสวยมองอย่างรอคอยว่าเขาต้องการจะ พูดอะไร ตัวเขาเองยังไม่รู้ว่าจะพูดหรือถามยังไงถึงเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ในใจ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ชานยอลไม่มีอาการหึงหวงอะไรสักนิด แต่ถ้าไม่ได้เป็นคนรักกัน แล้วสิ่งที่ทั้งสองแสดงต่อกันมันคืออะไร
“เรื่อง วันนี้....”เซฮุนหาคำพูดให้ตัวเองไม่ได้จึงปล่อยมือออกจากแขนเรียว แต่กลับเป็นชานยอลที่ใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบต้นคอเขาไว้ ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจเป่ารดกัน ดวงตาคู่สวยพลุบต่ำก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบา
เซ ฮุนได้แต่ยืนอึ้งมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ จนเมื่อสัมผัสอ่อนนุ่มบริเวณริมฝีปากเริ่มบดเคล้าเบาๆ อย่างเชิญชวน เขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาจะทนการยั่วยวนได้ยังไง เมื่อแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าอยู่เหนือเหตุผลร่างสูงผอมโอบรอบเอวบาง ส่วนมืออีกข้างประคองท้ายทอยอีกฝ่ายไว้ก่อนจะตอบรับบดขยี้ริมฝีปากสีสด
จาก ความอ่อนโยนเริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นตามแรงปรารถนา เซฮุนกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนสะโพกบดเบียดกัน ท่อนขาเรียวของอีกฝ่ายจงใจเสียดสีส่วนกลางลำตัวที่อยู่ใต้ผืนผ้า แต่ก่อนที่จะผลักร่างโปร่งบางให้นอนราบไปกับเตียงเพื่อสานต่อแรงอารมณ์ที่ ถูกปลุกเร้า ชานยอลก็ผละตัวออกไปเสียก่อน เซฮุนมองใบหน้าสวยที่มีรอยยิ้มร้ายอย่างไม่เข้าใจ
“เห็นมั้ย sex...จะมีกับใครก็มีได้ ถึงจะไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย”
ก่อน ที่เซฮุนจะทำความเข้าใจคำพูดของชานยอลได้ เจ้าตัวก็เปิดประตูออกไปจากห้องเสียแล้ว เซฮุนทรุดตัวลงบนเตียง ยกมือขึ้นทาบอกด้านซ้ายที่ยังเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
ปาร์คชานยอล คนร้ายกาจ หมายความว่าถึงคริสจะไปนอนกับใคร แต่เธอก็มั่นใจว่าเขารักเธอสินะ หรือที่พูดออกมานั่นหมายถึงตัวเองกันแน่
•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•
เสื้อ เชิ้ตสีขาวถูกกำแน่นก่อนจะถูกทิ้งลงในถังขยะโดยไม่ไยดีต่อราคาของมัน ชานยอลใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดไปตามแผ่นอกกว้างที่เปื้อนรอยลิปสติกสีจัด ดวงตาคู่สวยเย็นชาเสียจนน่ากลัวหากแต่คนที่เมามายกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวสัก นิด
"ถ้าไม่ชอบก็ห้ามฉันสิ ชานยอล"สายตาฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ไม่ปกปิดความขมขื่นภายในใจ
"ฉันไม่ชอบบังคับใคร ถ้ามันเป็นความสุขของนาย ฉันก็ไม่ขัด"ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
ดวง ตาคมวาวโรจน์ขึ้นด้วยความโกรธ ยันตัวขึ้นจับร่างโปร่งบางกดลงกับเตียงแล้วคร่อมทับอย่างรวดเร็ว ก้มหน้าลงหมายจะช่วงชิงริมฝีปากที่พ่นแต่คำทำร้ายจิตใจของเขา แต่ชานยอลกลับหันหน้าหลบไปอีกทาง
"ไหนบอกว่าอะไรที่เป็นความสุขของฉันเธอจะไม่ขัดไง"
"อย่ากอดฉัน ถ้าบนตัวนายยังมีกลิ่นน้ำหอมของคนอื่น"
ชานยอลผลักร่างด้านบนออกและเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียง สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มนอนหันหลังให้เจ้าของห้องที่ยังคงนั่งมองเขาอยู่เงียบๆ
ฝืนใจมากหรือชานยอล
แต่อีกไม่นานแล้วนะ อีกไม่นานแล้ว
ทุกอย่างมันใกล้จะจบลงแล้ว
Tbc
talk
วิธีอ่านคัทซีนอยู่ในบทอินโทรคะ
ความคิดเห็น