คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - STEP LOVE :: นายแบบจำเป็น
:: นายแบบจำเป็น ::
เงาในกระจกสะท้องภาพนายแบบหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์สีขาวในลุคสุดชิคที่อาจทำให้หนุ่มสาวค่อนเมืองเหลียวมองกันเป็นแถว มือน้อยเซ็ตผมสีคาราเมลในแบบที่คิดว่าตัวเองหล่อสุดๆ ก่อนจะฉีดน้ำหอมกลิ่นประจำและคว้ากระเป๋าสะพายใบเก่งออกจากห้องตรงไปยังห้องนอนฝั่งตรงข้ามเพื่อทำภารกิจสำคัญตอนเช้า
มอร์นิ่งคิสน้องฟ่านฟ่าน
ประตูสีขาวไม่เคยถูกล็อคเพราะรู้ดีว่าในตอนเช้าจะมีคนเข้ามาเป็นประจำ ชานยอลเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบเพราะเจ้าของห้องยังไม่ตื่น ร่างโปร่งบางย่อตัวลงนั่งข้างเตียงให้ใบหน้าเสมอกันกับคนที่พริ้มตาหลับสนิท กลีบปากสดยกยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้าไร้เดียงสายามหลับของหลานชาย ดวงตาคมปิดสนิทจมูกโด่งเป็นสันหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ริมฝีปากหยักได้รูปเชิ่ดขึ้นเล็กน้อย
น้องฟ่านฟ่านตอนนอนน่ารักจัง ><
มือเล็กล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแอบเก็บรูปน่ารักของหลานไปหลายแชะ แต่ดูเหมือนจะยังไม่พอใจขอถ่ายรูปคู่ด้วยเลยแล้วกัน คิก ใบหน้าน่ารักยื่นไปแอ็คท่ามอร์นิ่งคิสเตรียมกดถ่ายแต่เจ้าหลานชายดันขยับตัวเสียก่อน
จุ๊บ~
O.O
“หือ!!!”
คนเพิ่งตื่นตกใจเบิ่งตาแทบถลนออกมาจากเบ้าเพราะพอขยับหน้าและลืมตาขึ้นก็พบใบหน้าสวยๆ ของคุณอาที่รักอยู่ใกล้เสียเหลือเกินเท่านั้นยังไม่พอกลีบปากนิ่มยังประทับลงมาบนริมฝีปากของเขาอีกด้วย แม้จะแค่เสี้ยววินาทีก็เถอะเพราะคุณอารีบเด้งตัวออกไปเมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว
“โอ๊ะ น้องฟ่านฟ่านขยับหน้าอาเล็งพลาดเลย กลายเป็นสเปเชียลมอร์นิ่งคิสเลย ดูสิๆ ถ่ายไว้ได้ด้วย น่ารักจัง”เมื่อเห็นว่าหลานตื่นแล้วคุณอาคนสวยจึงพุ่งตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงด้วยเสียเลยพลางยื่นโทรศัพท์ที่จะเก็บภาพตอนหอมแก้มน้องฟ่านฟ่านเมื่อกี้ให้ดู
แต่มันกลายเป็นรูปสเปเชี่ยลมอร์นิ่งคิสไปแล้วเพราะวันนี้คิสที่ปาก^^
คริสรู้สึกว่าเลือดในกายสูบฉีดมารวมกันอยู่ที่หน้ายังไงไม่รู้เมื่อดูภาพที่ปากของเขากับคุณอาสัมผัสกัน แต่เหมือนคนช่างยั่วจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยดูรูปแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมยังใช้แอพฯตกแต่งรูปอีก แล้วนี่เขาควรจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติด้วยใช่มั้ยที่อาหลานจะคิสที่ปากกันแบบนี้...
“มาแอบลักหลับผมตอนหลับเหรอครับ อาเป็นโจรโรคจิตใช่มั้ย”คริสว่าพลางยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองคนที่กำลังแต่งรูปอย่างสนุก
“เดี๋ยวนี้ทำเป็นหวงตัวกับอาเหรอออ ต้องถูกลงโทษ”คนถูกกล่าวหาพุ่งจู่โจมทันที โถมกายลงทับเด็กตัวโตพร้อมกับจี้ไปที่เอวจนอีกฝ่ายตัวงอ เสียงหัวเราะออกมาจากปากคนแกล้งและคนถูกแกล้งดังลั่นไปทั่วห้อง
“ฮ่าๆ อา ไม่หยุดใช่มั้ย”
ปล่อยให้คุณอาตัวแสบแกล้งได้ไม่นานคุณหลานเลยจัดการพลิกร่างแบบบางลงกับเตียงย้ายตัวเองขึ้นไปคร่อมทับไว้แทน มือหนารวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้พร้อมกับจี้เอวคอดจนคุณอาขี้แกล้งดิ้นไปมา ใบหน้าสวยหัวเราะจนตาหยีพยายามขอร้องให้หยุดแต่คนตัวโตกลับไม่ยอมรามือง่ายๆ จนเมื่อเห็นว่าริมฝีปากสีสดเผยอขึ้นกอบโกยอากาศเพราะหายใจไม่ทันถึงยอมหยุดมือ
“น้อง...ฟ่านฟ่านใจร้าย”ชานยอลพูดไปหอบไปเพราะเหนื่อยจากการดิ้นเมื่อครู่
ภาพของคุณอาที่นอนหายใจหอบด้วยใบหน้าที่เหมือนยั่วยวนอย่างไม่ตั้งใจภายใต้ร่างของเขานั้นทำเอาคริสจิตนาการไปไกล ยิ่งเมื่อเขาทาบทับร่างเล็กไปทั้งตัวยิ่งยากเกินกว่าจะหักห้ามความรู้สึกภายใน มือใหญ่ซับเหงื่อตามไรผมสีอ่อนให้อย่างอ่อนโยน เขาสบกับดวงตากลมโตที่กระพริบปริบๆ มองเขาอย่างแสนซื่อก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงต่ำและแนบริมฝีปากลงบนแก้มนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบา
“มอร์นิ่งคิสครับ”
“ชานยอล คริส ตื่นหรือยัง กดกริ่งตั้งนานไม่มีใครไปเปิดเลย”
เสียงของแขกผู้มาเยือนเรียกให้คริสรีบเด้งตัวออกจากร่างของคุณอาทันที ก่อนที่ประตูจะเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กแสนคุ้นเคยสองคนที่มาเยี่ยมคอนโดแห่งนี้ประจำจนรู้รหัสเข้าห้องถึงได้เข้ามากันโดยไม่รอให้เจ้าของไปเปิดแบบนี้
.
.
“โน!! ไม่ โนเวย์ ได้ยินมั้ย”
ลู่หานประธานกรรมการสูงสุดของบริษัท LH Entertainment ต้นสังกัดของนายแบบหนุ่มปาร์คชานยอลอยากจะซัดหน้าเพื่อนรักที่จิกปากจิกคำปฏิเสธทำขอของเขาสักที นี่ก็เป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้งที่เขาอ้อนวอนชานยอลให้ยอมอนุญาตให้คริสมาถ่ายแบบให้ แต่เจ้าคนหวงหลานนี่ก็ไม่ยอมท่าเดียว
“มันไม่ค่อยเห็นหน้าหรอก ชานยอลแค่ครั้งเดียวนะ ฉันหานายแบบใหม่ไม่ทันแล้ว แกอยากให้ฉันโดนสำนักพิมพ์นั้นปรับหรือไง”
ถ้าไม่เพราะนายแบบคนเก่าที่วางตัวคู่กับชานยอลเอาไว้เกิดป่วยกระทันหัน ลู่หานคงไม่ลากสังขารมาถึงคอนโดเพื่อนเพื่อข้อร้องแบบนี้หรอก ประธานหนุ่มแสร้งส่งสายตาน่าสงสารไปทางคนที่นั่งกอดอกเชิ่ดหน้าอยู่บนโซฟาตัวกลางที หันไปทางร่างสูงของเด็กหนุ่มหัวข้อสนทนาที ก่อนจะหันไปส่งสายตาให้พยอนแบคฮยอนเพื่อนรักอีกหนึ่งคนที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของชานยอลให้ช่วยกันเกลี่ยกล่อม
“บริษัทนายมีทั้งดารา นายแบบ นักร้องตั้งหลายคนก็ไปเลือกมาสักคนสิ”ชานยอลเถียงกลับ ใช่ว่าลู่หานจะหาคนไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย เจ้าเพื่อนเตี้ยนี่แค่หาเหตุผลมาอ้างเพราะอยากได้ตัวน้องฟ่านฟ่านของเขาต่างหาก
“แต่งานครั้งนี้มันต้องถึงเนื้อถึงตัวแกมาก ถ้าให้คนอื่นมาถ่ายคู่ด้วยฉันเป็นห่วงแกนะเว้ย”
แบคฮยอนพูดจบก็ถูกนายแบบหนุ่มถลึงตาใส่ทันที เพราะงานถ่ายแบบครั้งนี้เป็นคอนเซปฮอตบอยจะออกแนวอิโรติกนิดหน่อย ซึ่งชานยอลที่เป็นมืออาชีพรับงานมาโดยไม่เกี่ยงเพราะคิดว่ามันคืองานศิลปะเท่านั้น แต่เจ้าหลานชายที่ไม่เข้าใจนี่สิหันมามองตาขวางทันที
“แบบอะไรครับทำไมต้องถึงเนื้อถึงตัวด้วย”
“มันเป็นคอนเซปของนิตยสารเล่มนี้น่ะ ต้องมีนัวกันบ้าง”ลู่หานรีบเติมเชื้อเพลิงเข้าไปตามที่แบคฮยอนได้สุมไฟเอาไว้ สองเพื่อนรักตัวเล็กหันมาขยิบตาให้กันเพราะดูเหมือนคริสจะเริ่มตกหลุมพรางพวกเขาแล้ว
พวกเขาน่ะเป็นห่วงเพื่อน แต่เด็กตัวโตนี่น่ะหวงอา
“นัวอะไร ใช้คำน่าเกลียดวะลู่หาน”ชานยอลหันมาแหวใส่
“ก็ที่ฉันบอกแกตอนแรกไง มันมีกอด มีถอด มีนัว...”แบคฮยอนทวนรายละเอียดงานอย่างไม่เกรงใจหลานเจ้าของห้องที่ใบหน้าเริ่มบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ
“อาครับ ผมบอกว่าอย่ารับงานแบบนี้ไง”คริสกอดอกหันไปเล่นงานคนที่เริ่มร้อนตัวอยู่บนโซฟา ใบหน้าสวยยิ้มแหยส่งกลับมาให้อย่างเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้
“ก็...รับครั้งเดียวเอง”
เพราะเป็นสำนักพิมพ์ระดับแนวหน้าของเอเชียชานยอลจึงไม่อยากจะพลาดงานนี้ถึงแม้จะต้องถ่ายคู่กับนายแบบอีกคนแต่ตัวเด่นคือเขา อุตส่าห์ปิดปากเงียบไว้กะว่ารอโดนเชือดทีเดียวตอนหนังสือออกวางแผงแล้วดูไอ้เพื่อนสองตัวมันเอามาแฉเสียหมด น่าเตะให้เตี้ยลงจริงๆ
“คริสก็ลองตัดสินใจดูนะว่าจะยอมช่วยหรือเปล่า อากลับก่อนละ เห้อ หรือว่าต้องเรียกคิมจงอินให้มาถ่ายให้นะ”
วางระเบิดเสร็จลู่หานก็ชวนแบคฮยอนออกจากคอนโดสองอาหลานทันที คิมจงอินเป็นนักร้องในสังกัดเขาที่เคยมีข่าวซุบซิบกับชานยอลเพราะเจ้าตัวมักจะพูดออกสื่อตลอดว่าปลื้มชานยอลนักหนา ถ้าคริสไม่ยอมตกลงหรือชานยอลไม่ยอมอนุญาตจริงๆเขาก็คงต้องลากเจ้านั่นมาถ่ายแทน แต่จริงๆลู่หานก็อยากได้คริสมาเป็นนายแบบให้มากกว่า ด้วยรูปร่างหน้าตาอย่างคริสอนาคตบนเส้นทางนี้จะต้องไปได้ไกลแน่ เขาเองก็ชักชวนอยู่หลายครั้งเพราะเสียดายใบหน้าหล่อๆของหลาน แต่ชานยอลนี่สิไม่ยอมให้คริสเข้าวงการเพราะกลัวจะเสียการเรียน
ไม่รู้เป็นแค่ข้ออ้างของคุณอาติดหลานรึเปล่า
...
เป็นภาพชินตาสำหรับทีมงานและสต๊าฟที่จะเห็นความเป็นมืออาชีพของชานยอลในการทำงาน แต่ออกจะทำให้คริสประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นคุณอาจอมแสบที่ชอบงอแงเป็นเด็กดูจริงจังและตั้งใจขนาดนี้ ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมจนขับเน้นให้สวยสง่าตามคอนเซป เรือนร่างโปร่งบางเคลื่อนไหวอย่างมีเสน่ห์อยู่หลังเลนส์กล้องอย่างเป็นธรรมชาติ ท่วงท่าเซ็กซี่ยั่วยวนดึงดูดของทุกคนในที่นี้ไว้ที่ตนเพียงคนเดียว
“คริสพร้อมรึยัง เดี๋ยวเก็บภาพเดี่ยวชานยอลเสร็จก็ถึงคิวแล้วนะ”
นายแบบจำเป็นพยักหน้าให้ผู้จัดการมือทองอย่างแบคฮยอน เมื่อวานหลังจากลู่หานและแบคฮยอนกลับไปเขาก็เอาเรื่องกับคุณอาตัวแสบทันทีเถียงกันไปแปดตลบกว่าชานยอลจะยอมอนุญาตให้เขารับงาน ความจริงคริสไม่อยากรับปากมาถ่ายแบบให้นักหรอกเพราะเขาค่อยข้างขี้อายคงไม่เหมาะกับงานแบบนี้ แต่พอคิดว่าเจ้านักร้องที่ชอบมาขายขนมจีบชานยอลจะได้ถ่ายคู่เขาก็ยอมทิ้งความอายไว้ข้างหลังทันที คิมจงอินอะไรนั่นมักจะชอบฝากขนมกับพวกตุ๊กตามาให้เขาประจำ อยากจะเอาไปอัดใส่หน้ามันนักคงคิดว่าเขาเป็นเด็กน้อยเลยหวังจะเข้าทางหลานเพื่อจีบอาสินะ
แต่เสียใจ เขารู้ทันหรอก
หลังจากชานยอลเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมถ่ายเซ็ตต่อไป คริสก็ถูกเรียกให้เข้าไปเตรียมพร้อมในห้องนั่งเล่นของบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ถูกใช้เป็นสตูดิโอสำหรับวันนี้ เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟากลางห้องที่ทีมงานจัดเตรียมไว้เป็นฉาก พี่สต๊าฟและช่างแต่งหน้ามารุมล้อมจัดแต่งทรงผมและเช็คความเรียบร้อยให้อย่างใจดี
“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ แค่ไหลไปตามชานยอลก็พอ”แบคฮยอนตบบ่าเด็กหนุ่มอย่างให้กำลังใจก่อนจะถอยออกไปยืนด้านข้าง ให้ช่างกล้องได้ลองเทสถ่ายนายแบบใหม่ดู
รอไม่นานชานยอลก็ออกมาด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัวโคร่ง โชว์ท่อนขาเรียวขาวด้วยกางเกงขาสั้นที่แทบมองไม่เห็นเพราะถูกเสื้อตัวใหญ่ปิดบังเอาไว้ คนที่สวมบทนายแบบมือโปรเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะแอบยู่ปากใส่โดยไม่ให้คนอื่นเห็น เพราะเจ้าตัวไม่ได้บอกใครว่าเขาคือ ‘น้องฟ่านฟ่าน’ ที่ทุกคนอยากรู้จัก เขามาในฐานะ ‘คริส’ นายแบบรุ่นน้องในสังกัดของชานยอลเท่านั้น
“เอนตัวพิงพนักไป”
“ครับ ‘รุ่นพี่’”คริสแกล้งเน้นคำที่ต้องใช้เรียกชานยอลตอนอยู่ต่อหน้าทีมงาน ทำเอาเจ้าตัวหันมาถลึงตาทำปากขมุบขมิบใส่ทันที
เมื่อช่างกล้องสั่งให้เริ่มถ่ายชานยอลก็เข้ามาใกล้มากขึ้น ใช้เข่าข้างหนึ่งเท้าลงบนเบาะโซฟาระหว่างขาของคริส ชานยอลปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสามเม็ดบนออกเผยช่วงไหล่ขาวเนียนและหันไปหากล้องที่อยู่ด้านหลังเป็นการเก็บภาพในช็อตแรก คริสรู้สึกลมหายใจสะดุดกับใบหน้าและท่าทางมีเสน่ห์ของคนตรงหน้า
มุมนี้ของชานยอลเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
หลังจากนั้นกล้องก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนเข้ามาใกล้ ชานยอลเปลี่ยนท่าทางเป็นใช้เข่าทั้งสองข้างคร่อมช่วงขาของคริสเอาไว้ เขาได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อทั้งอึ้งทั้งตกใจจนหัวใจเต้นรัวกับความยั่วยวนที่ชานยอลดึงออกมาถ่ายทอดสู่เลนส์กล้อง มือเรียวเล็กเชยคางเขาขึ้นและโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ใกล้เสียจนริมฝีปากแทบจะสัมผัสกันอยู่แล้ว คริสบอกไม่ถูกเลยว่าตอนนี้หัวใจเขาเต้นรัวขนาดไหนจนกลัวว่าคนที่คร่อมตัวเองอยู่จะได้ยิน
ริมฝีปากสีสดหยุดเอาไว้เพียงเท่านั้นแต่ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดอยู่บนปลายจมูกก็ทำให้คริสไม่สามารถรวบรวมสติให้กลับมาได้ ดวงตากลมโตของคนเป็นอาปรือลงประสานกับดวงตาที่มีแววตื่นตระหนกของคนอายุน้อยกว่า ในแววตาคู่นั้นหวานเชื่อมเสียจนชั่วแวบหนึ่งคริสลืมไปว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ หากใครได้ลองถูกชานยอลมองด้วยสายตาแบบนี้และเจ้าตัวก็อยู่ในสภาพนี้คริสเชื่อว่าคงได้ละลายตายคาอกแน่ๆ
แชะ!
เสียงรัวชัตเตอร์หยุดลงชานยอลจึงยืดกายขึ้น คริสหายใจอย่างโล่งออกเพราะหากใกล้ชิดกันต่ออีกเพียงนิดหัวใจของเขาคงออกมาเต้นนอกอกแน่ๆ แต่ทำไมคุณอาจอมแสบของเขานี่ถึงได้เชี่ยวนักนะ ไม่มีท่าทีเก้อเขินเลยแม้แต่นิดเดียว หรือว่าแอบรับงานแบบนี้บ่อย
“พักก่อนมั้ย”ชานยอลถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นอาการแปลกๆของหลานรัก
“ผมโอเคครับ”แต่หัวใจผมไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
คริสตอบกลับไปเพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้งานของคุณอาล่าช้า แต่แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดเสียเหลือเกินเพราะฉากต่อไปที่ต้องถ่ายนั้นสมควรให้เวลาเขาไปทำใจสักสิบยี่สิบนาที เพราะครั้งนี้ชานยอลเป็นฝ่ายนอนราบไปกับความยาวของโซฟาโดยให้เขาทาบทับลงไปแทน
อยากจะจับมาตีให้เข็ดนัก ทำไมถึงรับงานเปลืองตัวขนาดนี้ ถ้าคนที่มาถ่ายคู่ด้วยไม่ใช่เขาจะเป็นยังไง งานนี้ต้องมีเคลียร์กันยาวแน่ ปาร์คชานยอล
“น้องคริสน่ารักจังเลย ดูสิตื่นเต้นจนหน้าแดงแล้ว”พวกพี่ๆทีมงานพากันแซวใหญ่เมื่อเห็นท่าทีเงอะงะของเด็กหนุ่มที่ไม่ยอมทิ้งตัวลงไปบนร่างของนายแบบคนสวยที่นอนรออยู่แล้ว
“มานี่”
ข้อมือแกร่งถูกมือนิ่มฉุดทีเดียวก็เซล้มลงไปบนแผ่นอกบางทันที คริสกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่ออยู่ในท่วงท่าที่ล่อแหลมเช่นนี้แต่ก็ต้องกลั้นใจเลื่อนใบหน้าขึ้นไปซบที่ซอกคอขาวตามท่าที่ช่างภาพได้บอกเอาไว้ แรงกระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจของคนใต้ร่างกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆสร้างความปั่นป่วนให้กับความรู้สึกภายในของคริสไม่น้อย ใช่ว่าจะไม่เคยกอดไม่เคยใกล้ชิดแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ชานยอลตรงหน้าเหมือนเป็นอีกคนที่คริสไม่เคยรู้จัก
เป็นปาร์คชานยอลที่แสนมีเสน่ห์ยั่วยวนให้ชายหนุ่มต่างลุ่มหลง
มือเล็กที่ขยุ้มเส้นผมสีทองยิ่งเหมือนกระตุ้นอารมณ์ที่คริสพยายามเก็บกักเอาไว้จนต้องพยายามผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆเพื่อควบคุมอารมณ์ไม่ให้กระเจิดกระเจิงจน ‘เจ้าตัวไม่เล็ก’ ตื่นขึ้นมาทักทายบรรดาทีมงานกว่าสิบชีวิตในที่นี้
“เอาละ ต่อไปถ่ายในห้องครัวนะ”
พอได้ยินเสียงช่างกล้องบอกแบบนั้นคริสจึงรีบเด้งตัวขึ้นจากร่างคุณอาทันทีโดยไม่กล้าหันไปมองหน้าอีกฝ่ายเลย ให้ตายเหอะ ใช่ว่าคริสจะไร้ประสบการณ์กับเรื่องพวกนี้หรอกนะ แต่พอต้องมาทำอะไรแบบนี้กับชานยอลมันอดที่จะรู้สึกประหม่าและ...เขิน ไม่ได้จริงๆ
“ไม่สบายหรือเปล่า เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”ชานยอลกระซิบถามเบาๆ ลมหายใจที่เป่ารดข้างหูเหมือนยิ่งแกล้งให้อารมณ์ที่กำลังเริ่มสงบกลับมาปั่นป่วนอีกครั้ง คุณอาตัวร้ายเอ้ย
การถ่ายฉากที่ค่อนข้างต้องสัมผัสแนบชิดกันยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ บางฉากคริสต้องถอดเสื้อแล้วกอดชานยอลจากด้านหลังยังต้องใช้มือเลื่อนเสื้อคนตัวบางให้เปิดเผยผิวขาวเนียนภายใต้เสื้อด้วย ซึ่งขัดใจเขาสุดๆ เพราะไม่อยากให้ใครได้เห็น และบางฉากยังเพิ่มดีกรีความหวาบหวามขึ้นมาอีกอย่างเช่นชานยอลจะต้องใช้ท่อนขาเปลือยเปล่านั่นเกี่ยวรอบเอวเขาไว้(ท่านี้อันตรายต่ออารมณ์ของเขามากจริงๆ) และมันยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเมื่อฉากสุดท้ายที่เหมือนท้าทายความรู้สึกของเขาสุดๆ
“พร้อมนะ”
ชานยอลที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเค้าเตอร์ครัวโดยมีคริสยืนแทรกกลางอยู่ระหว่างขาเรียวถามก่อนจะได้รับการพยักหน้าตอบรับจากเด็กหนุ่ม คริสแทบจะร่ำร้องอยู่ในใจว่าเขาไม่พร้อมเอาเสียเลย ข้ามไปได้มั้ยฉากนี้ ตัดจบเถอะ ขณะที่กำลังอ้อนวอนโดยไร้เสียงท่อนแขนเล็กก็เลื้อยโอบรอบต้นคอเขาเอาไว้แล้ว คริสถูกสะกดไว้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์แสนเซ็กซี่ ใบหน้าสวยเลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้นก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะงับลงบนกลีบปากล่างของเขาเบาๆและดึงออกมาอยากเชิญชวน คริสแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าฝ่ามือที่จับเอวคอดไว้ทั้งสองข้างเลื่อนลงต่ำและเผลอขยับตัวไปประชิดร่างเล็กมากขึ้นขนาดไหน
ราวกับทุกสิ่งหยุดเคลื่อนไหว ราวกับที่แห่งนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคนเมื่อสายตาสองคู่มองสบกันเนิ่นนานต่างสะกดกักขังกันไว้ภายใต้แววตาของอีกคน จวบจนได้ยินเสียงดังแว่วของช่างภาพและเสียงตบมือของทีมงานที่ทำงานกันเสร็จเสียที ชานยอลจึงปล่อยริมฝีปาอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ
“เสร็จงานกันสักที ยินดีที่ได้ร่วมงานกับมืออาชีพอย่างคุณนะชานยอล และก็น้องคริสด้วยหวังว่าคงได้ร่วมงานกันอีก”ทีมงานและช่างกล้องต่างมาขอบคุณและเริ่มทยอยเก็บของกัน
หลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อยคริสก็เข้าไปรอในรถระหว่างที่ชานยอลกำลังร่ำลากับบรรดาทีมงานอยู่ ฝ่ามือใหญ่ถูกยกขึ้นมาทาบลงบนอกด้านซ้ายวัดอัตราการเต้นของหัวใจว่ากลับมาปกติหรือยัง ภาพใบหน้า การกระทำ และสายตาของชานยอลยังเด่นชัดอยู่ในความทรงจำเมื่อนึกถึงทีไรหัวใจก็พลันเต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ทำอย่างกับแป็นสาวน้อยแรกรักไปได้ไอ้คริสเอ้ย
ก่นด่าตัวเองในใจไม่เท่าไหร่ประตูรถก็ถูกเปิดออกตามด้วยร่างโปร่งบางของคนที่ทำให้เขาฟุ้งซ่านแทรกตัวเข้ามา ชานยอลยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนคริสผงะติดประตูฝั่งตัวเอง คุณอาครับอย่าเพิ่งรุกผมตอนนี้ ไม่งั้นไม่รับรองความปลอดภัยจริงๆ ด้วย
“น้องฟ่านฟ่านไม่สบายแน่เลย งั้นตรงกลับบ้านกันเลยแล้วกัน เดี๋ยวอาทำอะไรร้อนๆให้กิน”
พอลบเครื่องสำอางค์และอยู่กันตามลำพังก็กลับมาเป็นคุณอาชานยอลกับน้องฟ่านฟ่านเหมือนเดิมแล้ว คริสถอนหายใจออกมาน้อยๆ ไม่รู้ว่าควรจะโล่งใจหรือเสียใจดีที่ยังไงชานยอลก็ยังเห็นเขาเป็นน้องฟ่านฟ่าอยู่วันยังค่ำ
“ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ”คริสตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบางให้คุณอาคลายกังวล
“ไม่จริงหรอก อาเห็นหน้าแดงๆอย่างกับมีไข้”ไม่พูดเปล่ามือน้อยก็ยื่นไปวัดอุณหภูมิของหลานรักทันที “ตัวก็ไม่ร้อนนี่น่า”
คริสอยากจะบอกเหลือเกิน ว่าไอ้ที่หน้าแดงนี่ก็เพราะใครละแต่ก็ได้ต้องเก็บคำพูดลงคอไปเพราะพูดไปคุณอาจอมยั่วของเขาก็คงไม่เข้าใจหรอก...มั้ง
บางทีคริสก็สงสัยว่าในหัวสวยๆ นี่คิดอะไรอยู่บ้างกันแน่ เคยคิดเหมือนที่เขาคิดบ้างมั้ย
.
.
ห้องนอนของคุณอาที่คริสไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยนักถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้าไป เจ้าของห้องที่นั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์อยู่บนเตียงเงยหน้ายิ้มรับพลางเลิกคิ้วถามถึงธุระ คนเป็นหลานทรุดกายลงนั่งตรงขอบเตียงก่อนจะหยิบซองสีขาวที่ได้รับมาจากแบคฮยอนส่งให้คุณอาที่มองอย่างสงสัย
“ผมให้อาครับ เงินก้อนแรกที่ผมหาได้”คริสตั้งใจเอาไว้เสมอว่าเมื่อทำงานได้เขาจะเอาเงินเดือนให้ชานยอลเก็บไว้ทั้งหมดเพื่อเป็นการตอบแทนที่อีกฝ่ายต้องลำบากทำงานหาเลี้ยงเขามาหลายปี
“น้องฟ่านฟ่านเก็บไว้เถอะ เอาไว้ซื้อของที่อยากได้ไง”ชานยอลยิ้มหวานส่งให้แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ รู้สึกซาบซึ้งใจกับความกตัญญูของหลานที่เขารักสุดใจ แต่เขาไม่ต้องการอะไรตอบแทนจากคริสเลยจริงๆ เขาทำให้ทั้งหมดด้วยหัวใจจริงๆ
“ผมไม่มีของที่อยากได้หรอก เพราะของที่ผมอยากได้อาก็ให้ผมหมดแล้ว อารับไว้เถอะนะครับ ต่อไปพอเรียนจบทำงานผมจะให้อาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องออกไปทำงานอีกแล้ว”
คำพูดของหลานสุดที่รักเรียกน้ำตาของคนเป็นอาออกมาในที่สุด น้องฟ่านฟ่านทำตัวน่ารักเกินไปแล้ว
“ฮืออออ”
“อา ร้องไห้ทำไม”
คริสถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่ดีๆ คุณอาก็ปล่อยโฮออกมาอย่างกับเด็กน้อย ร้องไห้ตัวโยนจนเขาต้องรวบร่างโปร่งนั้นเข้ามากอดปลอบ มือใหญ่ลูบหัวลูบหลังอยู่สักพักกว่าที่จะได้ยินเสียงอู้อี้ของคนในอ้อมกอดตอบกลับมา
“อาดีใจ ฮึก น้องฟ่านฟ่านเป็นเด็กดีทำตัวน่ารัก ฮือออ”
เป็นคำตอบที่เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ได้จากคนฟัง คริสดันร่างของคุณอาขี้แยออกและช่วยเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มเนียนให้อย่างเบามือ นี่ใช่ปาร์คชานยอลที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อตอนกลางจริงหรือเปล่าน้อ
“ก็เพราะอยากให้อารักยังไงละครับ”
“รักสิ อารักน้องฟ่านฟ่านที่สุดในโลกเลยไม่รู้เหรอ”ดวงตาแดงช้ำช้อนมองอย่างตัดพ้อที่หลานไม่รู้ว่าเขารักมากขนาดไหน
“รู้ครับๆ ผมก็รักอาที่สุดในโลกเลยเหมือนกัน”
ใช่ คริสรู้ว่าชานยอลรักเขาที่สุด และเขาเองก็รักชานยอลมากเช่นกัน เพียงแต่ ‘รัก’ ของพวกเขามันคนละรูปแบบเท่านั้น
นิ้วยาวเกลี่ยข้างแก้มคุณอาขี้แยที่ถูกเขากอดปลอบจนหลับไปแล้วเล่นอย่างเอ็นดู กระชับผ้าห่มผืนหนาคลุมร่างคนขี้หนาวเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเตรียมจะกลับห้องตัวเองบ้าง แต่ฝีเท้ายาวก็ชะงักลงและหันกลับไปมองร่างแบบบางบนเตียงอีกครั้งก่อนจะคลี่ยิ้มบางและเดินเข้าไปโน้มใบหน้าลงใกล้ ประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบางแผ่วเบา
“ไนท์คิสครับ...ชานยอล”
TBC
คุณอานี่ชอบยั่วคุรหลานจริงจริ๊งงง
รวมกันสกรีมในแท็ก #ฟิคน้องฟ่าน ด้วยน้า
ความคิดเห็น