ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wild #สัตว์ป่ากุกมิน l Kookmin BTS

    ลำดับตอนที่ #4 : Maul

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.09K
      329
      22 ส.ค. 64


     

    “เสียงดังหน่าอาร์เอ็ม เดี๋ยวเหมียวน้อยของฉันก็ตกใจกันพอดี :)”









     

         ค คุณจากัวร์….










     

    น้ำเสียงฟังดูสบายไม่สะทกสะท้านอะไร จากการกระทำที่แสนจะไร้มารยาทของเสือเจ้าป่าเอ่ยดังขึ้นกลิ่นกายที่แสดง      ถึงพลังอำนาจในความเป็นจ่าฝูงของเจ้าตัวยังคงปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นของความอันตรายคาวคละคลุ้ง











     

    ใครๆในที่นี่ต่างก็รู้ดีว่า การปล่อยกลิ่นทับที่กันเป็นการกระทำที่จัดเป็นสิ่งต้องห้ามในแคมเบลล์ เพราะนั้นหมายถึงการไม่เคารพและการไม่เกียรติกันในฐานะเพื่อนสัตว์ร่วมไทป์ พอคิดได้อย่างนั้นผมก็อดขมวดคิ้วเพราะรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของคุณเสือเสียไม่ได้ ถึงสัญชาตญาณของผมที่รับรู้ถึงกลิ่นนั้น จะทำให้ผมกลัวจนไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้แต่สาบานเลยว่า ถ้าคุณเสือใจร้ายตรงหน้าเป็นเพ็ทในตระกูลฮิลเวอตันละก็ ขาของเขาจะต้องช้ำเพราะโดนไม้เรียวของคุณโอนเนอร์แน่ๆ







     

    “จะทำตัวสถุนก็ควรเก็บไปทำที่ป่า ไม่ใช่ที่นี่”  น้ำเสียงที่เคยอ่อนโยนของคุณอาร์เอ็มตอนนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็นสมกับจ่าฝูงแห่งน่านน้ำในแบบที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน แผ่นหลังกว้างที่ดูอบอุ่นเสมอเอาตัวเองมาบังผมกับเพื่อนรักเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัว จนกลิ่นกายของคุณจากัวร์ที่คละคลุ้งเต็มจมูกของผม ถูกบดบังไปด้วยกลิ่นทะเลของเขาแทน







     

    “โทษที สงสัยฉันจะปล่อยกลิ่นเรียกคู่เพลินไปหน่อย”








     

    “ยังไม่ถึงฤดูผสมพันธุ์ ก็ติดสัดเรียกคู่ไปทั่วแล้วหรอจากัวร์”  คุณอาร์เอ็มพูดพลางดุนลิ้นตัวเองในปากอย่างใช้ความคิด ก่อนจะจ้องสายตากลับใส่คุณเสือใจร้ายตรงหน้าไม่วางตา


     


     


     


     



     

    สัตว์น้ำอย่างฉลามที่ปกติจะมีความใจเย็นและดูเชิงเหยื่อก่อน จะแสดงตัวแตกต่างกับพวกสัตว์บกที่มักจะใจร้อนและเน้นการจู่โจม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณอาร์เอ็มกำลังแสดงการกระทำที่ตรงกันข้าม สายตาคมกริบนั่นเริ่มจะจดจ้องอีกฝ่ายราวกับนักล่าที่กำลังดูเชิงเหยื่อและเตรียมพร้อมจะจู่โจมออกมาอย่างเห็นได้ชัด เหมือนเพื่อนหน้าสวยข้างๆของผมที่ตอนนี้ปลดปล่อยร่างแฝงออกมาขู่ฟ่อๆใส่บุคคลตรงหน้าเรียบร้อย ถึงแม้ว่าเรียวขาบางจะสั่นไม่ต่างจากผมเลยก็ตาม






     

    “ก็นะ คนข้างๆนายเล่นปล่อยกลิ่นของฉันไม่หยุด เลยจะมาหาให้หายคิดถึงซะหน่อย” คุณจากัวร์พูดพลางลอบมองใบหน้าของผมด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ จนผมต้องก้มหน้างุดลงบนแผ่นหลังแกร่งเพื่อหลบสายตาดุร้ายนั่น

    ปลายลิ้นหนาที่เคยสัมผัสต้อคอของผมตอนนี้กำลังไล้เลียปลายเขี้ยวของตัวเองให้ผมดูเชิงยั่วโมโหคุณอาร์เอ็ม ที่กำหมัดแน่นจนข้อมือขาวขึ้นเส้นเลือดปูด




     

    “อย่ามาพูดพล่อยๆกับเพื่อนฉันนะไอ่เสือบ้ากาม กรรรซ์” เป็นแทฮยองที่โกรธจนเนื้อตัวสั่น เจ้าเพื่อนตัวเล็กแต่แสนดุของผมตอนนี้เริ่มปลดปล่อยกลิ่นของสุนัขจิ้งจอกเข้ามาสู้กลิ่นของจ่าฝูงทั้งสองตัวอย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้ว่ากลิ่นของเจ้าตัวจะกลบกลิ่นที่น่าเกรงขามของพวกเขาไม่ได้เลย กรงเล็บแหลมคมกางออกมาเล็กน้อยพร้อมจะจู่โจม ทำให้ผมต้องคอยปรามจับข้อมือขาวนั่นไว้







     

    ยังไงผมก็ไม่ให้เพื่อนของผมไปเสี่ยงอันตรายกับคนตรงหน้าแน่ๆ







     

    “แอบปล่อยกลิ่นของตัวเองใส่คนของอื่น นี้คือวิถีจ่าฝูงเจ้าป่าเขาทำกันงั้นหรอ”






     

    “คนของมึงมาให้กูปล่อยกลิ่นใส่ถึงที่ ใครจะอดใจไหวล่ะ”







     

    “สัส!”






     

         สิ้นเสียงความท้าทายของคิงจากัวร์ ร่างสูงข้างๆเจ้าแมวตัวน้อย ก็พุ่งตัวไปกระโจนใส่บุคคลที่กล่าวถึงคนในปกครองของเขาทันที ใบหน้าคมที่มักจะมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่เสมอ กลับกลายเป็นใบหน้าดุดันที่มีฟันฉลามเรียงคับแน่นเต็มริมฝีปาก แผ่นหลังกว้างที่ดูอบอุ่นภายใต้ยูนิฟอร์มสีดำสนิท ก็กลับกลายเป็นแผ่นหลังสีเทาเข้มสาก เหมือนผิวของฉลามไม่มีผิด










     

         นี่สินะ ร่างแฝงของคุณอาร์เอ็ม










     

    มือหนาคว้าคอเสื้อของจากัวร์จ่าฝูงขึ้นมาอย่างไม่ยำเกรงต่อกลิ่นที่ทรงพลังอำนาจ จากัวร์หนุ่มจึงตอบโต้ด้วยการตะปบมือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บแหลมคมลงบนมัดกล้ามของอีกฝ่ายทันทีที่ถูกจู่โจม




     

    “ใจร้อนไม่สมกับเป็นมึงเลยนะ”




     

    แรงกระชากบนต้นคอแรงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงยิ้มเยาะจากจองกุก  แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเกรงกลัวต่อการกระทำแต่อย่างใด จากัวร์จ่าฝูงกลับรู้สึกสะใจซะมากกว่า ที่อย่างน้อยคนอย่างเขาก็ทำให้ไอ้ปลาตายด้านตรงหน้าเลือดร้อนขึ้นมาได้








     

    ไม่ยักรู้ ว่าสัตว์ที่ปกติจะดูเชิงเหยื่อก่อนอย่างฉลาม จะรีบจู่โจมใส่เขาทันทีเพราะหวงคนในปกครองขนาดนี้








     

    ชักสนุกแล้วสิ









     

    “ถ้ามึงยังไม่อยากตาย ก็อย่ามายุ่งกับคนของฉลาม




     

     



     

    เมื่อจบคำพูด แรงกระแทกจากลำตัวแข็งแรงก็ปะทะเสือหนุ่มทันที อาร์เอ็มใช้สัญชาตญาณฉลามจู่โจมเขาจากบริเวณข้างลำตัวเข้าอย่างจัง โดยที่จองกุกไม่ทันได้ตั้งตัวจนเขาเสียหลักล้มลงไป






       
     

    แต่แล้ว










     

    กรรรซ์










     

    ฉึก!






     

    ความเร็วในการจู่โจมบนบกของอาร์เอ็มไม่อาจเทียบความว่องไวของสัตว์บกอย่างคิงจากัวร์ได้ จองกุกจึงใช้จังหวะนี้ตะปบรอยเล็บลงบนซีกหน้าของอีกฝ่ายที่กำลังจะแว้งมากัดเขาเข้าอย่างจังทันที  จนปรากฎรอยแผลเป็นทางยาว




     

    “ถ้าฉลาดมากก็ควรจะรู้ ว่าสัตว์น้ำอย่างมึงไม่ควรจู่โจมใครบนบก โดยเฉพาะเจ้าป่าอย่างกู”  







     

        เหมี๊ยว!






     

       “คุณอาร์เอ็ม!”






     

    ผมรีบกระโจนเข้าหาร่างสองร่างที่กำลังฟัดเหวี่ยงกันบนพื้นด้วยกำลังขาอันน้อยนิดทันทีที่เห็นกรงเล็บอันแหลมคมของคุณจากัวร์ กำลังจะตะปบลงบนแผงอกแกร่งของคุณอาร์เอ็ม ผมจึงรวบรวมกำลังดึงต้นแขนของคุณจากัวร์ออก ทำให้เขาเสียจังหวะทันทีเมื่อเขาละความสนใจมามองที่ผมแทน






     

      “ย อย่าทำ”     










     

      ผลั่ก


         






     

    ร่างของผมลอยไปตามแรงทันทีที่คุณจากัวร์สะบัดต้นแขนแล้วผลักผมออกจากบริเวณนั้นอย่างจัง จนความเจ็บแปลบวิ่งเข้ามาในหัวทันทีเมื่อศีรษะของผมปะทะเข้ากับตัวเสาของอาคาร กลิ่นเลือดคาวคลุ้งของเลือดเริ่มแตะเข้าที่จมูกของผมความหนืดของของเหลวสีแดงสดเริ่มเข้ามาบดบังทัศนียภาพรวมไปถึงอาการตาพร่ามัว ทำให้ผมเริ่มรับรู้ว่าวันนี้ผมคงได้แผลให้คุณโอนเนอร์ดุแล้ว











     

    อ่าา.. ทำไมภาพมันมืดจัง









     

    “จีมิน!”













     

    กรรรรซ์   โฮ่งงง










     

    ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนสติจะดับวูบปรากฏเป็นร่างของสุนัขจิ้งจอกสีแดงขนาดกลางกระโจนเข้าไปกัดเข้าที่ต้นคอของคิงจากัวร์ด้วยร่างไวลด์แบบเต็มตัว จนเลือดสีสดทไหลทะลักออกมาส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งปนกับกลิ่นเลือดในตัวของผม














     

    ใครก็ได้บอกผมที..














     

    ว่านั้นไม่ใช่แทฮยอง…













     

    บอกผมทีว่าไม่ใช่เขา…..













     

    ตุบ!










     


     

     

     


     


     


     




     

    กลิ่นฉุนกึกของแอลกอฮอลที่ใครหลายคนเกลียด รวมถึงเจ้าตัวตีขึ้นมาใส่จมูกเล็กจนปลายจมูกรั้นขยับฟุดฟิดๆไปมาเพื่อหลีกหนีจากกลิ่นที่รบกวนการนอนของเขา  หัวคิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดเข้าหาจนแทบจะผูกกันถ้าไม่ติดสัมผัสนุ่มหยุ่นที่แตะลงบนระหว่างหัวคิ้วของเขาเบาๆ ก่อนจะนวดคลึงมันช้าๆหวังจะให้คนตรงหน้าผ่อนคลาย









     

    อ๊ะ










     

    ก...​กลิ่นของไวลด์









     

     


     

    “เฮือก!”






     

    ผมปัดป่ายฝ่ามือนั้นออกจากตัวพร้อมกับสะดุ้งขึ้นมาจากบนเตียงอย่างแรงเมื่อรับรู้ถึงกลิ่นของความเป็นนักล่าของคนตรงหน้า ดวงตาที่พร่ามัวเล็กน้อยจากอาการหน้ามืดทำให้ผมต้องคอยกระพริบตาแรงขึ้นสองสามครั้งเพื่อให้ภาพตรงหน้าโฟกัส แต่ไม่ทันที่ผมจะเห็นใบหน้าของอีกคนดีนิ้วนุ่มหยุ่นนั้นก็แตะเข้าที่แก้มอวบของผมทันทีเมื่อเห็นผมสะบัดใบหน้าไปมาอย่างแรงเพื่อไล่อาการหน้ามืด





     

    “ใจเย็นๆ ส่ายหน้าแรงแบบนั้นจะทำให้เธอหน้ามืดกว่าเดิมนะเด็กน้อย”  เขาพูดพลางประคองใบหน้าของผมทั้งสองมือ ทำให้ผมหยุดการเคลื่อนไหวแล้วค่อยๆเพ่งสายตามามองที่เขาช้าๆ แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาผมเกือบจะเข่าอ่อนลงไปอีกรอบ








     

    เขาคือฉลาม..










     

    ที่มีกลิ่นเหมือนคุณอาร์เอ็มไม่มีผิด












     

    “ไม่ต้องกลัว ฉันเป็นคนของไวท์ซีล เธอไว้ใจฉันได้”






     

    “ค คุณฉลาม…ทำไมจีมินถึงอยู่ที่นี่หรอครับ แล้ว..​แทฮยองอยู่ไหน คุณพาจีมินไปหาแทหน่อยได้มั๊ยครับ..” ผมค่อยๆยื่นมือที่สั่นเทาเพราะความกลัวไปคว้าหมับเข้าที่ฝ่ามือหนาของคนตรงหน้า ก่อนจะกุมปลายนิ้วโป้งของอีกคนไว้เพื่อให้เขารับฟังคำขอ อันที่จริงวิธีนี้จีมินมักจะใช้กับคุณโอนเนอร์และแทฮยองบ่อยๆเวลาอ้อน  แต่กับคนแปลกหน้า….. ก็คงจะใช้ได้เหมือนกันล่ะมั้ง




     

    “อ่า.. อย่าคิดจะทำแบบนี้กับฉันต่อหน้าอาร์เอ็มเชียว ฉันยังไม่อยากโดนเจ้านายตัวเองฆ่าตายเพราะโดนแมวอ้อนหรอกนะ” คุณคนนั้นใช้อีกมือยกขึ้นมาขยี้กลุ่มผมของผมเบาๆ ก่อนจะส่งรอยยิ้มกลับมาให้





     

    ใจดี ..











     

    คนๆนี้มีรอยยิ้มใจดีเหมือนคุณโอนเนอร์เลย













     

    ฉันพาเธอไปหาเด็กคนนั้นตอนนี้ไม่ได้หรอก











     

    เอาใหม่











     

    จีมินขอเปลี่ยนคำพูด :(









     

    “ท ทำไมละครับ.. แทอยู่ไหน”  ลูกแมวตัวน้อยตรงหน้าเริ่มเบะปากงอแงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงภาพสุดท้ายก่อนที่สติของเขาจะดับวูบ เขายังจำภาพที่แสนจะน่ากลัวที่นั่นได้ดี ภาพที่เพื่อนของเขากระโจนกัดคิงจากัวร์คนนั้นด้วยร่างสัตว์เต็มตัว กับกลิ่นเลือดที่คาวคละคลุ้งเต็มจมูก เขาไม่รู้เลยว่าป่านนี้แทฮยองจะเป็นยังไงบ้าง คุณจากัวร์คนนั้นจะใช้ร่างไวลด์กับเพื่อนของเขามั๊ย แล้วถ้าเป็นแบบนั้น แทจะยังปลอดภัยดีรึเปล่า เขาคงไม่เลิกร้องไห้แน่ๆถ้ายังไม่เห็นกับตาว่าเพื่อนของเขาปลอดภัยดี




     

    “เพื่อนของเธอปลอดภัยดี ไม่ต้องกังวลหรอก”




     

     

    “งั้น.. คุณฉลามก็พาจีมินไปหาแทสิครับ นะ พาจีมินไป”  อุ้งมือเล็กของแมวตัวน้อยยกขึ้นมาบีบลงบนนิ้วโป้งของฉลามหนุ่มตรงหน้าอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไม่มีท่าทีที่จะใจอ่อนกับเขาเลย คุณฉลามตรงหน้ายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแต่ก็ยังใจดีคอยเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้นเบาๆ ดวงตาคู่คมลอบมองริมฝีปากบางของเมนคูนตรงหน้าที่กลั้นเบะเอาไว้จนมันขยับมุบมิบๆทุกครั้งที่เขาปาดปลายนิ้วลงบนปรางแก้มใส จนเขาเกือบจะอดใจไม่ไหวเผลอขยับไปจะชกชิงความหอมหวานจากริมฝีปากสีชมพูนั่น ถ้าไม่ติดกลิ่นเสือที่ไอ้จ่าฝูงคนนั้นทิ้งไว้ส่งกลิ่นเตือนสติเขาพอดี










     

    เกือบไปแล้ว










     

    แข็งใจไว้ อิม แจบอม







     

    “ฉันพาเธอไปหาเขาไม่ได้หรอก ตอนนี้เพื่อนของเธออยู่ในความดูแลของวูฟ” แจบอมเท้าแขนลงบนเตียงของคนป่วยอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาพิจารณาใบหน้าของลูกแมวหน้าหวานใกล้ๆ









     

    ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาร์เอ็มถึงได้หวงแมวตัวนี้นัก









     

    น่ารัก









     

    แถมยังไร้เดียงสาจนน่าย่ำยี







     

    “วูฟ?..  ทำไมแทถึงต้องไปอยู่กับหมาป่าล่ะครับ” จีมินขยับตัวออกจากคุณฉลามตรงหน้าเล็กน้อยเมื่อเพิ่งสังเกตุว่าตนเองอยู่ใกล้กับอีกฝ่ายจนเผลอได้กลิ่นทะเลลอยมาจางๆ กลิ่นที่ดูเหมือนกับคุณอาร์เอ็ม แต่ก็ไม่ได้ดูปลอดภัยเท่ากลิ่นของคุณอาร์เอ็ม..




     

    “ฝูงที่เพื่อนของเธออยู่คือเวสต์ เป็นเขตของวูฟตระกูลอีวาน ลำพังแค่ฝูงสุนัขจิ้งจอกน่ะไปต่อรองกับฝูงจากัวร์ไม่ได้หรอก”




     

    “แล้ว แทจะเป็นอะไรมั๊ยครับ คุณวูฟจะช่วยแทใช่มั๊ย” จีมินถามขึ้นอย่างนึกเป็นห่วงจนเผลอจะเบะใส่คนตรงหน้าอีกรอบ แต่ก็ต้องคอยฮึบไว้จนริมฝีปากเล็กนั่นขยับมุบมิบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จนเจ้าตัวต้องยกหลังมือขึ้นมาปิดไว้ไม่ให้กลีบปากบางสั่นเกร็งไปมากกว่านี้




     

    “อืม… อันนี้พี่ก็คงตอบเธอไม่ได้เหมือนกัน เพื่อนเธอเล่นไปกัดจ่าฝูงด้วยร่างไวลด์อย่างนั้น มันเหนือขอบเขตการควบคุมของที่นี่”




     

    “เหนือขอบเขต?”





     

    “ใช่ ตอนนี้ทั้งฝูงของวอลเลอร์กำลังไล่ล่าคนที่มาทำร้ายจ่าฝูงของเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจะตายยังไงเรื่องนี้คนของแคมเบลล์ก็เข้ามายุ่งไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่ฝูงของเพื่อนเธอขึ้นกับฝูงวูฟ อาจจะมีโอกาสมากขึ้นหน่อยถ้าจากัวร์ยอมฟัง”




     

    พอได้ยินอย่างนั้นน้ำตาที่เจ้าตัวกลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมาอย่างอดไม่ได้ ถ้าสิ่งที่เขาได้ยินจากปากฉลามตรงหน้าเป็นเรื่องจริงนั่นก็เท่ากับว่า ถ้าฝูงจากัวร์จะเอาแทฮยองถึงตาย แคมเบลล์ก็ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แล้วแบบนี้ความปลอดภัยของเพื่อนเขาอยู่ที่ไหนกันละ แทฮยองต้องมาเสี่ยงอันตรายก็เพราะเขา ถ้าเขาควบคุมกลิ่นของตัวเองได้ดีกว่านี้ เสือใจร้ายคนนั้นก็คงจะตามตัวเขาไม่เจอ ถ้าเขาไม่เข้าไปห้ามคุณจากัวร์จนได้แผล แทฮยองก็คงจะไม่ทำแบบนั้น






     

    แทฮยองต้องมาเดือดร้อนก็เพราะเขา











     

    เพราะเขาคนเดียว








     

    “ล.. แล้ว อึก ถ้าคุณวูฟช่วยไม่ได้ล่ะครับ เราจะทำยังไงได้บ้างมั๊ย” จีมินช้อนสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสวาววับราวกับแก้วเคลือบมองอีกฝ่าย จมูกแดงรั้นคอยสูดน้ำมูกที่ไหลออกมาเข้าออกอย่างน่าเอ็นดู จนคนที่เห็นลำบากใจที่จะบอกความจริงกับเจ้าตัวว่าจริงๆแล้วมันยากมากแค่ไหนที่ฝูงจากัวร์อย่างตระกูลวอลเลอร์จะยอม ยิ่งคนอย่างจองกุกที่เขาเคยได้ยินชื่อเสียงมา ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย








     

    “ ก็คงต้องภาวนา ให้จ่าฝูงเขาเมตตาเพื่อนเธอละมั้ง”



















     

    ได้ จีมินจะเป็นคนไปต่อรองกับคุณจากัวร์เอง!












     



    WILD TYPE

     

    KIM TAEHYUNG - RED FOX

     






     

    กรรรรรซ์










     

    ฮรึ่มมมม กรรรรซ์


     


     


     







     

     

    “ปล่อยผม! กรรรซ์ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้”


     


     


     


     




     

    แรงบีบที่ต้นแขนทั้งสองข้างแรงขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยขยับตัว ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บจนต้นแขนขาวจัดขึ้นรอยแดง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดขืนตัวเองจากการจับกุมจากหมาป่าสองตัวนี้ได้ ถ้าเลือกให้เขามาอยู่กับหมาป่าบ้าอำนาจพวกนี้ สู้เอาเสือทั้งฝูงมารุมกัดเขาให้ตายเลยจะดีกว่า







     

    “จะตายแล้วยังไม่หยุดดื้ออีกหรอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยดังขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมกับกลิ่นความน่าเกรงขามของจ่าฝูง ลอยขึ้นมาเตะปลายจมูกรั้นทันที และถึงแม้ว่าเขาจะไม่หันไปมองก็พอจะรู้ว่าคนด้านหลังของเขาเป็นใคร







     

    ไอ่หมาป่าบ้าอำนาจ คิม ซอกจิน!







     

    “บอกลูกน้องของคุณให้ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ ผมจะไม่อยู่ที่นี่ ปล่อย!” แทฮยองลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของจ่าฝูงของเขตเวสต์ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเจ้าตัวเดินอ้อมมาทางข้างหน้าเพื่อมามองเจ้าลูกสุนัขจิ้งจอกแสนรั้นอย่างเต็มตา จากขนาดตัวแล้วเขาไม่คิดเลยว่าสุนัขจิ้งจอกตัวแค่นี้จะบ้าบิ่นเข้าไปกัดจ่าฝูงอย่างจากัวร์ได้













     

    ใจเด็ดแบบนี้สิดี เขาชอบ











     

    “ไหนลองบอกเหตุผลมาสักสองข้อสิ ว่าทำไมฉันจะต้องฟังเธอ” จ่าฝูงหมาป่ากอดอกมองใบหน้าดื้อรั้นของบุคคลตรงหน้าอย่างนึกขำในความอวดดี แทฮยองยังคงดีดดิ้นไปมาจนต้นแขนขาวเนียนเริ่มขึ้นรอยแดงจนเกือบจะม่วงอย่างน่ากลัว


     


     




     

    “คนที่จะสั่งผมได้มีแค่เจย์ จ่าฝูงของผมเท่านั้น! ปล่อย!”






     

    หรอ งั้นแล้วตอนนี้เจย์ของเธออยู่ไหนซะละ”  ร่างสูงพูดพลางใช้สายตายียวนคาดคั้นคำตอบจากคนอวดดีที่ดูเหมือนจะชะงักไปชั่วครู่เมื่อได้ยินประโยคตรงหน้า มีเพียงแค่แวบนึงเท่านั้นที่เขาเผลอเห็นดวงตาคู่สวยกลมโตนั่นวูบไหวก่อนจะกลับมาแข็งกร้าวอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอเผยความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น






     

    “ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ปล่อยเดี๋ยวนี้!”


     




     

    ซอกจินใช้สายตากับคนในปกครองทั้งสองที่ขึงสุนัขจิ้งจอกตัวดื้อไว้ก่อนจะเบนหน้าไปที่ประตู พอทั้งสองคนรับรู้ถึงความหมายที่จ่าฝูงสื่อ พวกเขาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องไปทันทีโดยปล่อยเหยื่อตัวน้อยไว้กับหมาป่าตัวใหญ่แต่เพียงลำพัง


     


     




     

    ทันทีที่แทฮยองหลุดจากการจับกุมเจ้าตัวก็ใช้แรงที่มีลากตัวเองออกจากบริเวณนั่นทันทีด้วยความเร่งรีบ แต่แล้วยิ่งเขาขยับขามากขึ้นเท่าไหร่ กลิ่นกายของความเป็นจ่าฝูงก็ลอยขึ้นมายังจมูกเชิดรั้นแรงขึ้นเท่านั้น จนต้นขาเรียวสวยภายในยูนิฟอร์มสีทองสวยตัดดำสนิทเริ่มสั่นไหวและไม่สามารถขยับได้เมื่อจ่าฝูงอย่างซอกจินเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆอย่างถือวิสาสะ






     

    ไอ่หมาบ้าอำนาจมันจงใจจะแกล้งเขาชัดๆ!






     

    “ฉันปล่อยแล้วไม่ไปหรอ คิม แทฮยอง”


     


     


     




     

    ซอกจินจงใจปล่อยกลิ่นออกมากำราบสุนัขจิ้งจอกตรงหน้าจนอีกฝ่ายทนต่อกลิ่นของความน่าเกรงกลัวไม่ไหวจนอีกฝ่ายเข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้น แทฮยองจะได้รับรู้ซักทีว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ เขาไม่ชอบคนอวดดี และที่สำคัญเขาไม่ได้ใจดีขนาดที่จะให้สัตว์ในปกครองกว่ามาทำตัวไร้ความยำเกรงใส่เขาขนาดนี้











     

    เด็กคนนี้คงรู้จักเขาน้อยไป








     

    หมับ!







     

    “อ๊ะ อึกก”





     

    ร่างสูงคว้าซอกคอขาวเนียนที่โผล่พ้นปกเสื้อของแทฮยองขึ้นมาอย่างเต็มมือ กรงเล็บแหลมคมที่เป็นดั่งอาวุธนักล่าประจำตัวถูกกางออกมาจ่อเข้าที่คอหอยของอีกฝ่าย ปลายเล็บแหลมคมครูดเข้าที่เนื้อนิ่มเป็นทางยาวจนเลือดสีแดงสดไหลออกมาตามรอยเล็บที่ลากยาวจนเกือบจะถึงไหปลาร้า แทฮยองที่กลั้นความเจ็บเอาไว้ยังคงมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างอวดดี ถึงแม้ในใจจจะเจ็บปวดเจียนตาย แต่เขาจะไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้คนอย่างซอกจินเห็นเด็ดขาด





     

    “อย่ามาอวดดีกับฉันอีก”








     

    “อึก ป ปล่อย”







     

    “แล้วก็จำเอาไว้ดีๆ ว่ารอยเขี้ยวบนคอของเธอ...”







     

    กรรซ์








     

    “อ๊าาาาาาา”
















     

    “เป็นของคิม ซอกจิน





     

     









    .......................................................


     

    สกรีมฟิค #สัตว์ป่ากุกมิน

    โห  เปิดตัวมาก็กัดไม่น้อยหน้าคุณจากัวร์เค้าเลยน้าคุณหมาป่า


     

    ขอโทษรีดเดอร์ทุกคนเลยนะคะที่มาช้า ไรท์เพิ่งผ่าสมรภูมิการสอบมา ช่วงนั้นไม่มีเวลาก็เลยไม่ได้แจ้งไว้ในนี้ 

    แล้วก็ขอบคุณทุกกำลังใจทั้งในคอมเมนต์แล้วก็ในทวิตเลยนะคะ อ่านหมดเลย   TT เราไม่คิดว่าจะมีคนรออ่านฟิคเราขนาดนี้ ดีใจมากๆเลยค่ะ ฮืออ สัญญาจะมาอัพบ่อยๆเลยนะคะ ไม่ทิ้งเรื่องนี้ไปไหนแน่นอน ติดตามกันด้วยน้าา ขอบคุณที่เอ็นดูน้องเมนคูนนะคะ

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×