คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : EAST
กลิ่นไอแดดและเสียงร้องของเหล่าบรรดาฝูงนกตัวเล็กเคยเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุดในการปลุกเจ้าแมวตัวหอมในทุกๆเช้า เพราะมันทำให้เขานึกถึงตัวเองในร่างแฝงที่แสนจะปราดเปรียว วิ่งไล่ตะปบเจ้านกตัวจ้อยด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว ถึงพวกมันจะเอาเยาะเย้ยด้วยความสะใจในยามที่อุ้งเท้าป้อมๆของเขาคว้าได้เพียงอากาศก็ตาม แต่ต่อไปนี้ในทุกๆเช้า เขาก็คงไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้แล้วสินะ…….
เพราะเสียงร้องเรียกของพวกนกที่แสนจะที่ไพเราะเหล่านั้น กลับเป็นเสียงที่จีมินไม่อยากได้ยินเอาเสียเลย
เช้าอีกแล้วสินะ
ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก
คุณโอนเนอร์สาวแสนสวยเปิดประตูเข้ามามองเจ้าเมนคูนในร่างมนุษย์ตัวจ้อยด้วยความเอ็นดู เจ้าแมวเด็กเหมือนจะตื่นขึ้นมาสักพักแล้ว สังเกตจากนัยตาใสแป๋วที่จ้องมองกลับเมื่อตัวเขาเองส่งยิ้มให้ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ แมวของเธอจะไม่ค่อยร่าเริงสักเท่าไหร่แฮะ
“ตื่นแล้วหรอคะคนเก่ง” มือสวยพูดพลางเปิดประตูตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเอาชุดยูนิฟอร์มตัวเก่งที่เขาบรรจงซักรีดให้เจ้าตัวจ้อยเป็นอย่างดี มาแขวนไว้ด้านนอกเพื่อความสะดวกในการสวมใส่ให้แมวเด็กของเขาเหมือนอย่างทุกวัน แต่ทว่า แทนที่ประตูตู้เสื้อผ้าจะถูกปิดลงตามด้วยมอนิ่งคิสกันอย่างเคย มือเรียวสวยกลับเอื้อมไปหยิบชุดเสื้อผ้าที่เหลือของเขาลงมาทั้งหมดจนมันกองออกมาล้นหน้าตู้
“คุณโอนเนอร์.. จะเอาเสื้อผ้าจีมินไปไหนหรอครับ” เสียงสั่นเครือเอ่ยถามด้วยความตกใจ ซอนมีค่อยๆบรรจงพับเสื้อผ้าให้เขาทีละชิ้นด้วยความปรานีต ก่อนจะพับมันเก็บใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ปลายเตียง
“เก็บเสื้อผ้าให้หนูไงคะ”
“เก็บทำไม.. คุณโอนเนอร์จะให้จีมินไปไหน” เจ้าตัวจ้อยลุกขึ้นจากเตียงนอนทันที ก่อนสาวเท้าสั้นๆเดินหยิบเอาเสื้อผ้าที่ถูกพับเก็บอย่างเรียบร้อยเหล่านั้นมากอดแนบอก ไม่เอานะ ไม่ไป คุณโอนเนอร์จะให้จีมินไปไหน จีมินไม่อยากไป
“จีมิน.. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หนูจะต้องอยู่ในความดูแลของตระกูลไวท์ซีล”
“........”
“ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกหนูก่อน เพราะทางไวท์ซีลเค้ากลัวว่าหนูจะเหนื่อยที่ต้องเดินทางไปๆกลับๆ อีกอย่างหนูจะได้อยู่ในความดูแลของคุณอาร์เอ็มเต็มตัวด้วย อยู่ที่นั่นจะได้ไม่มีใครมารังแกหนู” คุณโอนเนอร์ลูบหัวของผมเบาๆ ผมชอบมากทุกครั้งที่มือนุ่มๆนั่นสัมผัสผมด้วยความรักแต่ตอนนี้ แม้แต่มือที่ผมชอบมากๆก็ไม่สามารถทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้เลย
“ไม่เอา...ฮึก” ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป ผมไม่เคยอยากจากคุณโอนเนอร์ไปไหน ผมอยากไปอยู่ที่นั่น ผมไม่อยากไปเจอใครที่นั่น ไม่ได้อยากเป็นคนในตระกูลไวท์ซีล ผมอยากเป็นแค่แมวธรรมดาที่ได้อยู่กับเจ้าของของผม เจ้าของคนเดียวเพียงของผม คุณโอนเนอร์
“จีมิน ทั้งหมดที่โอนเนอร์ทำ ก็เพื่อให้หนูมีชีวิตที่ปลอดภัย ถึงบางทีโลกนี้มันจะไม่ยุติธรรมกับหนูแต่หนูเชื่อฉันนะ ว่าทุกอย่างที่ฉันเลือกให้ก็เพื่อตัวหนูเองทั้งนั้น”
“......”
“ฉันไม่สามารถดูแลความปลอดภัยของหนูได้ ไม่สามารถปกป้องหนูจากความโหดร้ายข้างนอกได้”
“...ฮึก...”
“เพราะโอนเนอร์เป็นมนุษย์…
ฉันจะคอยเฝ้าดูความเติบโตของจีมินอยู่ตรงนี้ จงเติบโตไปเป็นจีมินที่แข็งแกร่ง สง่างาม เคียงข้างตระกูลไวท์ซีลนะ ปาร์ค จีมิน...”
หลังจากที่ผมจัดการความรู้สึกของตัวเองและเก็บข้าวของลงในกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย คุณโอนเนอร์ก็จัดการพาผมไปที่รถหรูคันใหญ่ที่ผมไม่คุ้นเคย ดูเหมือนว่ารถคันนี้จะจอดอยู่ที่หน้าบ้านของผมสักพักแล้วเพราะทันทีที่บุคคลแปลกหน้าในรถเห็นพวกผม เขาก็รีบกุลีกุจอมาแย่งกระเป๋าใบโตที่เก็บเสื้อผ้าของผมรวมถึงขนมขบเคี้ยว นมแพะ และขนมแมวเลียสุดโปรดของผมไปถืออย่างถือวิสาสะ จากนั้นก็รีบยัดมันลงหลังรถทันทีด้วยความเร่งรีบ นี่ผมต้องรีบไปแล้วใช่มั้ย
ผมสวมกอดคุณโอนเนอร์แน่นเมื่อชายแปลกหน้าคนนั้นเดินมาเปิดประตูรถเพื่อส่งสัญญาณว่าผมจะต้องออกจากบ้านหลังนี้ไปแล้ว คุณโอนเนอร์กอดตอบผมโดยไม่ลืมที่จะลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างอ่อนโยนเหมือนที่เจ้าตัวชอบทำ ยังดีที่มันไม่ใช่การจากลาแบบถาวร เพราะในทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ คุณโอนเนอร์บอกว่าจะรับผมมาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมถ้าหากไม่มีการฝึกฝนพิเศษในช่วงวันหยุด นั้นก็ทำให้ผมหายงอแงไปได้เยอะเลย
คิดว่าจะไม่ได้เจอคุณโอนเนอร์อีกแล้ว..
ประตูรถถูกปิดลงเมื่อผมก้าวเท้ามานั่งที่เบาะด้านหลัง คุณคนแปลกหน้าส่งยิ้มทางกระจกด้านหน้ามาให้ผมเล็กน้อยก่อนที่ตัวรถหรูจะขับเคลื่อนออกจากที่แห่งนี้ไป ผมเพิ่งรู้รายละเอียดจากคุณโอนเนอร์ว่าที่ที่ผมจะต้องไปอยู่เป็นบ้านพักที่แยกเฉพาะพวกเพ็ทเกรดเอที่อยู่ในความดูแลของพวกไวลด์ ในแคมเบลล์นั้นนอกจากจะมีสถานที่ที่เป็นแหล่งฝึก ตัวอาคารเรียนแล้ว ก็ยังจะมีที่พักอาศัยรองรับสำหรับพวกเพ็ทที่อยู่ต่างพื้นที่อีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วพวกไวลด์จะมีอาณาเขตสำหรับตัวเองอยู่แล้วอย่างที่ผมเคยได้ยินมา แต่พวกสำหรับเพ็ทอย่างพวกเรานั้น จะมีโซนพักอาศัยเป็นหอพักทั้งแบบรวมและแยกไว้เพื่อป้องกันความอันตรายจากพวกไวลด์ เพราะงั้นผมจึงเข้าใจคุณโอนเนอร์มากๆว่าทำไมถึงอยากให้ผมมาอยู่ที่นั่นแทนที่จะให้ผมอยู่ที่บ้าน
เพราะในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ในบ้านก็สามารถเป็นฝันร้ายของผมได้ ถ้าผมเจอกับพวก นอกฝูง เข้า
สองข้างทางจากที่เคยเป็นเมืองหลวงที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนและการสัญจรที่หนาแน่น เริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นพรรณไม้แปลกตาและแนวป่าเขาที่นานๆทีจะเจอบ้านผู้คนอย่างประปราย เหมือนว่าผมจะเข้าใกล้เขตของแคมเบลล์แล้วล่ะครับ แคมเบลล์ถือเป็นสถานที่ที่ใหญ่มาก กินเนื้อที่ไปเกือบ 60% ของเมือง เพราะต้องรองรับประชากรไวลด์วัยรุ่นเกือบ 100% และพวกเพ็ทที่มีตระกูลดูแล
พวกเราอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนและคุมสัญชาติณาณตัวเองให้ได้ ก่อนจะเข้าไปอยู่ร่วมกันกับมนุษย์เสมือนว่าเป็นคนปกติ แต่ในแต่ละรุ่นของไวลด์ที่จบไป จะต้องมีหนึ่งคนที่จะขึ้นไปเป็นจ้าวแห่งจ่าฝูง เพื่อเพิ่มอำนาจและเกียรติยศแก่ฝูงของตน คิงของแต่ละฝูงจะต้องผ่านการคัดเลือกและสู้กันจนกว่าจะได้ตำแหน่งจ้าวแห่งจ่าฝูง พวกเขาต้องแข่งขันกันในตลอดสองปีที่อยู่ที่นั่น และจะต้องมีความโดดเด่นในทุกๆด้านทั้งการเรียน พละกำลัง รวมถึงชนะการประลองด้วย ดูเหมือนว่าคุณอาร์เอ็มก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งของการแข่งขันด้วยแหละ
“ถึงแล้วครับคุณหนู” เสียงของคุณคนแปลกหน้าเรียกผมจากภวังค์ เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณครับ”
“คุณหนูลงไปได้เลยครับ จะมีมาสเตอร์รอคุณหนูอยู่ที่ด้านใน ส่วนข้าวของที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”
ผมส่งยิ้มให้กับคุณคนแปลกหน้าโดยไม่ลืมที่จะก้มหัวให้เป็นการขอบคุณกลายๆ อ่า ตอนนี้ผมเดินเข้ามาด้านในที่พักแล้ว หญิงวัยกลางคนที่มีร่างแฝงเป็นปลาโลมาคนนั้น ใช่มาสเตอร์ของผมมั้ยนะ…..
“สวัสดีจ้ะ ปาร์ค จีมินใช่มั้ยคะ” มาสเตอร์สาวยิ้มให้ผมจนนัยน์ตากลมโตไร้เปลือกตาในแบบฉบับของโลมาโผล่มาให้ผมเห็น เธอกล่าวทักทายผมด้วยความเป็นมิตร ผมชอบเธอจัง รวมถึงเสียงแหลมๆแสบแก้วหูที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์จำพวกโลมานั้นด้วย ดูเป็นมิตรดีจังเลย
“สวัสดีครับ ผมปาร์ค จีมินฮะ”
“เดินตามมาสเตอร์มาทางนี้เลยจ่ะ เดี๋ยวฉันจะอธิบายกฎและรายละเอียดของการอยู่ที่นี่ให้ฟังคร่าวๆนะ ที่นี่เป็นหอพักเขตอีสต์ คงจะลำบากเธอน่าดูที่มาอยู่ในเขตนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ทะเลกับน้ำ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นแมวสายพันธุ์เมนคูน เอ่อ ผมเป็นแมวที่ไม่ได้เกลียดน้ำนะฮะ” ผมเดินตามหลังคุณโลมาสาวต้อยๆพลางสอดส่องสายตาไปมาเพื่อสำรวจบริเวณไปมา เฮ้อ ที่นี่หรูจังเลย แถมกระเบื้องที่ปะพื้นพรมสีน้ำทะเลเต็มทางเดินนี่ก็น่าหมั่นเขี้ยวชะมัด จนอยากจะกลับร่างแล้วฝนเล็บให้ขาดกระจุยไปเลย อะ … ไม่ได้ๆ ถ้าทำแบบนั้นผมคงโดนลงโทษแหง
“‘งั้นก็ดีแล้วล่ะจ่ะ อ้อ ที่นี่เราไม่อนุญาติให้ออกจากหอพักในยามวิกาลนะจ้ะ นอกซะจากผู้ดูแลของเธอจะมาขออนุญาติเท่านั้น ส่วนในห้องของหนูจะไม่มีใครสามารถเข้าไปได้นอกจากผู้ดูแลเช่นกัน เพราะงั้นเธอไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยนะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ที่นี่มีโถงสำหรับนั่งเล่นอยู่ทางด้านซ้าย ห้องอาหารเปิด 24 ชม.อยู่ทางด้านข้าง หรือถ้าเราไม่อยากกินรวมกับเพื่อนคนอื่นก็สามารถสั่งขึ้นไปกินได้เลย” เธอพูดพลางกดปิดลิฟต์ที่กำลังเลื่อนพาเราทั้งสองคนขึ้นไปยังห้องพักช้าๆ ที่นี่ทั้งใหญ่โตแล้วก็หรูหราอย่างกับโรงแรมไม่มีผิด ผมไม่คิดเลยว่าหอพักของเพ็ทจะหรูขนาดนี้ นี่ถ้าคุณโอนเนอร์มาพักด้วยกันก็คงจะดี เธอคนนั้นคงสั่งให้ผมถ่ายรูปลงโซเชียลทุกมุมของที่พักแหงๆเลย
ชั้น 16
“ที่นี่มี 25 ชั้น แต่ละชั้นมี 4 ห้อง ไม่ต้องห่วงว่าห้องจะแคบนะจ๊ะ อ้อ นี่ห้องของเธอ 161 ริมสุดของทางเดินเลย ห้องจะกว้างเป็นพิเศษ มีอะไรโทรเรียกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับคุณมาสเตอร์..”
“ตายจริง ฉันลืมไปเลย ฉันยูริจ่ะ เรียกว่ามาสเตอร์ยูก็ได้ เชิญเธอตามสบายเลยแล้วเจอกันที่โถงด้านล่างตอน 10 โมงนะ จะมีรถมารอรับไปที่แหล่งฝึกกลางพร้อมกัน”
“ครับ เอ่อ คุณมาสเตอร์ยู ผมสามารถกลับร่างตอนที่อยู่ที่นี่ได้มั้ยครับ” ผมเอ่ยถามโลมาสาวที่กำลังจะออกจากห้องไป เธอชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหันมาตอบผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแตกต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง
“ได้สิ … แต่นอกเหนือจากที่นี่และนอกเหนือชั่วโมงฝึก ห้ามเธอกลับร่างเด็ดขาด”
“ครับคุณมาสเตอร์ยู….”
ปึง
คุณโลมาสาวออกไปแล้ว ดูเหมือนว่าห้องจะกว้างอย่างที่คุณเขาว่าจริงๆแหละครับ เพราะทันทีที่เขาออกไป ความเหงาและเงียบเชียบก็เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนผมทันที ในห้องโทนสีขาวครีม กับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อน ตัดให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นขัดจากวิวทิวทัศน์ภายนอกที่มีแต่แม่น้ำ และมหาสมุทรอันกว้างใหญ่
เขตอีสต์ที่ผมอยู่เป็นเขตที่มีบริเวณป่าน้อยที่สุดแล้วเพราะเป็นเขตของสัตว์น้ำและพวกสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำซะเป็นส่วนใหญ่ อากาศที่นี่จึงค่อนข้างจะชื้นและเย็นสบายอยู่ตลอดเวลา แต่มันก็ยิ่งเพิ่มความเงียบเหงาขึ้นมาอีกเท่าทวีคูณ เฮ้อ ผมคิดถึงแทฮยองจังเลย คิดถึงคุณโอนเนอร์ด้วย ทุกคนจะเป็นยังไงบ้างนะ
“อ่ะ คอนโดแมว!!” ผมหลุดอุทานขึ้นมาเสียงดังเมื่อภายในห้องมีของใช้ ของเล่นสำหรับแมวเหมียวอย่างผมเต็มไปหมด
อ๊ะ
เหมือนจะมีกระดาษอะไรสักอย่างติดอยู่ที่พวกเครื่องเล่นเหล่านั้นด้วย
“ To. Jimin Park
พี่ไม่รู้ว่าของเล่นแมวต้องมีอะไรบ้าง ก็เลยสั่งมาทั้งหมดเท่าที่เธอเคยมีในบ้าน ขาดเหลืออะไร หรืออยากได้อะไรเพิ่มสั่งไว้กับมาสเตอร์ยูได้เลย พี่จะจัดการให้ ขอโทษที่ไม่ได้ไปรับด้วยตัวเอง
RM”
รอยยิ้มแรกของวันเผยออกมาทันทีที่เห็นข้อความเหล่านั้น เขาเพิ่งสังเกตว่าในห้องนี้ สไตล์การตกแต่งไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของคอนโดแมว น้ำพุแมว และของเล่นสารพัดอย่างที่มีถูกจัดวางไว้เหมือนที่บ้านของผมไม่มีผิด อย่างน้อยในความเหงาของที่นี่ ก็ยังมีคุณอาร์เอ็มที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจอยู่บ้าง ขอบคุณนะครับคุณอาร์เอ็ม
เสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นทั่วบริเวณกว้างของแหล่งฝึก เมื่อเหล่าบรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งไวลด์และเพ็ทจากทั่วเขตมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ รวมถึงร่างน้อยของเจ้าแมวเมนคูนตัวจ้อย ดวงโตกลมโตสอดส่องไปมาเพื่อสำรวจพื้นที่ต่างๆตามแบบฉบับแมวขี้สงสัย ถ้ายังอยู่ในร่างแมวละก็ เขาคงจะหูลู่หางตกด้วยความตื่นคนน่าดู
“นี่แค่คลาสเดียวเองหรอ ทำไมคนมันเยอะแบบนี้นะ” เสียงบ่นจากเพื่อนที่ร่วมหอเดียวขึ้นดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา ดูเหมือนว่าเพื่อนคนนี้จะไม่ถูกกับเสียงสักเท่าไหร่ เอ เพื่อนของเขาเป็นสัตว์จำพวกไหนกันนะ กลิ่นเหมือนสาหร่ายเลย
“สวัสดี เราชื่อจีมินนะ ที่นั่งด้วยกันเมื่อกี้” ร่างเล็กเอ่ยทักทายด้วยความเป็นมิตร
“อื้ม แมว หรอ” คนตรงหน้ากวาดสายตามองผมเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปทำหน้าเบื่อโลกอีกรอบ
“ช….ใช่ จีมินเป็นเมนคูนครับ แล้วเอ่อ คุณ...”
“ยองแจ ตระกูลคริปส์ฉันเป็นนาก นายล่ะ มาจากตระกูลไหนหรอ” อ่า ถึงว่าเขาได้กลิ่นของสัตว์น้ำจากเจ้าเพื่อนตัวเล็กคนนี้ ที่แท้ก็เป็นนากน้อยนี่เอง แถมยังเป็นคุณนากขี้หงุดหงิดอีกด้วย...
“เอ่อ ไวท์ซีล...”
“ไวท์ซีล!!!” ทันทีที่ผมพูดจบ เพื่อนคนข้างๆก็โพล่งขึ้นมาอย่างตกใจ แถมยังใช้มือเล็กๆจับปลอกคอของผมมาดูอย่างไม่เชื่อสายตา ทำไมเขาต้องเสียงดังด้วยนะ
“ค คือ”
“นายเป็นคนของอาร์เอ็มหรอ!! ขอโทษที่เสียมารยาทนะจีมิน ฉันน่าจะทักนายตั้งแต่อยู่บนรถ” เพื่อนนากตัวน้อยก้มหัวขอโทษขอโพยผมใหญ่ราวกับว่าเขาไปทำผิดอะไรมา จนผมต้องรีบโบกมือเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าไม่เป็นไรซะยกใหญ่
“ไม่เป็นไรๆครับ ยองแจไม่เห็นจะต้องขอโทษจีมินเลย” นั่นสิ จริงๆเขาไม่จำเป็นจะต้องขอโทษผมเลยด้วยซ้ำ ผมก็เข้าใจว่าเจ้าเพื่อนนากตัวน้อยจะง่วงนอนเพราะ ตอนนั่งมาด้วยกันเห็นเจ้าตัวรีบเอาหูฟังมาใส่หูแล้วหลับตาลงทันทีที่หัวถึงเบาะ ตัวผมเองก็เลยไม่กล้าที่จะทักทายเพื่อนร่วมชั้น
“ได้ไงกัน จีมินน่ะมาจากตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเขตหอพักของเราเลยนะ”
“ตระกูลใหญ่แล้วทำไมหรอ” ผมถามเพื่อนข้างตัวด้วยความไม่เข้าใจ
“ก็ ก็..จีมินจะเอาไปบอกคุณอาร์เอ็มรึเปล่า”
“บอกทำไมหรอครับ”
“จริงหรอ จะไม่เอาฟ้องคุณอาร์เอ็มใช่มั้ย”
ผมส่ายหน้าพลางยิ้มให้เป็นคำตอบ ถึงลึกๆแล้วจะไม่เข้าใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้กลัวคุณอาร์เอ็มขนาดนั้น แต่ก็เอาเถอะ จีมินไม่ใช่คนขี้ฟ้องอะไรซะหน่อย แล้วอีกอย่าง
แค่คุยกับคุณอาร์เอ็มจีมินยังไม่กล้าเลย… จะให้ไปฟ้องอะไรกันเล่า ….
“ขอบคุณนะ คือไม่ได้จะกล่าวหาว่าจีมินขี้ฟ้องหรอกนะ แต่ส่วนใหญ่เพ็ทที่มาจากตระกูลใหญ่ๆ ก็ชอบรังแกพวกที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว ฉันก็เลยไม่อยากมีปัญหาน่ะ”
“จีมินไม่ได้เป็นคนแบบนั้นหรอกครับ ยองแจไม่ต้องคิดมากนะ”
“อื้ม ขอบคุณนะจีมิน”
“ยองแจ เรามาเป็นเพื่อนกันมั้ย” ผมเอ่ยถามด้วยความประหม่า ผมไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าจะอยากเป็นเพื่อนกับผมมั้ย แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้ผมตัดสินใจเอ่ยถามคนตรงหน้าไป
“อื้ม… เอาสิ เป็นเพื่อนกันนะจีมิน”
ทุกคนครับ ผมมีเพื่อนเพ็ทคนแรกในแคมเบลล์แล้วนะ !!!
แมวเด็กตรงหน้าดีใจจนออกนอกหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะเอ็นจอยกับการหาเพื่อนใหม่ๆเพื่อให้ชีวิตในแคมเบลล์แห่งนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป จนไม่ทันได้สังเกตเลยว่า ทุกกริยาและการกระทำทุกอย่างถูกจับจ้องด้วยสายตาคู่นึงอยู่ตลอดเวลา
“จีมิน นั่น คุณอาร์เอ็มรึเปล่า”
“ไหน”
ผมรีบหันตามตำแหน่งที่นิ้วป้อมๆของเพื่อนนากตัวน้อยชี้ตาม แล้วก็ใช่อย่างที่คนข้างๆว่า เป็นคุณอาร์เอ็มในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินเข้ม ตัดด้วยเนคไทสีดำ และเข็มกลัดรูปฉลามสีทองที่เหมือนกับจี้บนปลอกคอของผมไม่มีผิด คุณอาร์เอ็มดูดีมากๆในชุดที่เข้ารูปตัวนั้น ร่องรอยต่อสู้เมื่อวันก่อนยังคงปรากฎที่ลำคอโดยไม่มีการปกปิดหรือรักษาแต่อย่างใด รอยกรงเล็บเสือไล่เป็นทางยาวตั้งแต่ลำคอตรงกกหูลากยาวจนถึงปกเสื้อด้านบน แต่ก็ไม่มีท่าทีที่ร่างสูงจะแสดงความเจ็บปวดออกมาเลยสักนิด
ดูเหมือนว่าพวกไวลด์จะทะยอยกันเข้ามาบ้างแล้ว พวกเขาเข้าไปนั่งบนอัฒจรรย์ที่ล้อมรอบลานฝึกเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ อ้อ ผมลืมบอกไปเลยว่าที่แห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งฝึกกลางแล้ว ยังจะเป็นที่จัดสนามประลองอีกด้วย ไม่แปลกหรอกที่มันจะใหญ่และกว้างขวางจนสามารถจุคนทั้งแคมเบลล์ไว้ได้ ส่วนที่นั่งบนอัฒจรรย์ก็แบ่งทิศไว้อย่างชัดเจนด้วยสีและยูนิฟอร์มของแต่ละเขต
ฝั่งอีสต์ที่ผมอยู่คือสีน้ำเงิน ฝั่งนอร์ทสีดำ เวสต์สีขาว และเซาท์สีแดง
“รอยน่ากลัวชะมัดเลย คงจะจริงสินะที่เขาลือกันว่า จ่าฝูงของฉันทะเลาะกับจ่าฝูงเขตนอร์ท” ยองแจมองดูรอยบนคอของจ้าวแห่งสมุทรด้วยความหวาดกลัว คิดภาพไม่ออกเลยถ้าเป็นเขาที่โดนกรงเล็บนั่นขย้ำ คงจะไม่มีทางมายืนอย่างสง่างามได้แบบนี้แน่ๆ
“นอร์ท?”
“จากัวร์ไง จ่าฝูงเขตนอร์ท”
“คนๆนั้น อยู่เขตนอร์ทหรอ” ผมหันไปถามด้วยความตกใจ
“ใช่ เขตป่าดิบเขาทั้งหมดฝั่งนอร์ทเป็นเขตของตระกูลวอลเลอร์ ตระกูลที่เพ็ทอย่างพวกเราไม่ควรไปยุ่งด้วยที่สุด”
“ทำไมหรอ”
“เพราะตระกูลนั้นน่ะ…..”
“เกลียดเพ็ทเข้าไส้เลยล่ะ”
ร่วมกันหวีดความน่ารักของน้องแมวได้ที่ #สัตว์ป่ากุกมิน
……………………
กลับมาแล้วค่ะ คิดถึงทุกๆคนมากเลย ดีใจที่เห็นหลายคนยังรอนิยายเรื่องนี้นะคะ
จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนเลย ขอบคุณที่เอ็นดูน้องเมนคูนค่ะ
สามารถติดตามให้กำลังไรเตอร์หรือร่วมโดเนทค่ายาหม่องได้ที่ readawrite ได้นะคะ 555555
ความคิดเห็น