คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Hide&seek
“แล้วบอกมันซะว่าต่อจากนี้ เธอคือคนจากัวร์ทั้งในการฝึกพาร์ทเนอร์ และในฐานะเพ็ทของ เจเค วอลเลอร์”
คำพูดที่แสนเอาแต่ใจเหล่านั้นยังคงวนเวียนเข้ามาในหัวของผมไม่หยุด มันถึงได้เป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมหัวคิ้วน้อยๆของผม มันถึงผูกติดกันไม่เลิก ส่วนคุณเสือใจร้ายคนนั้นก็ยังทำหน้าที่กดดันผมด้วยสายตาที่ดุดันแบบนั้น จนผมเองที่ทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ถูนิ้วสั้นๆเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ฮื่อ จีมินๆไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย
“ค คุณจากัวร์ … คือผม ไม่สามารถเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ได้ตามใจชอบครับ..”
“ฉันไม่ได้รอฟังคำปฏิเสธ เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้มาต่อรองขอความเห็นใจจากฉัน” น้ำเสียงดุดันเอ่ยขึ้นทันทีที่ได้ยินคำปฏิเสธแสนงี่เง่าของเจ้าแมวตัวน้อย ไอ่เด็กคนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้ามาปฏิเสธจ่าฝูงอย่างเขา
“คุณจากัวร์ฟังจีมินก่อนนะครับ… ต ตามกฎของแคมเบลล์แล้ว ถ้าเพ็ทตัวไหนอยู่ใต้การปกครองของไวลด์ ยังไงก็ต้องเป็นพาร์ทเนอร์ของไวลด์ตระกูลนั้นอย่างไม่มีเงื่อนไข.. จีมินเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ตามใจชอบไม่ได้ นอกจากคุณอาร์เอ็มจะยกเลิกสัญญาการดูแล..”
ผมพยายามช้อนสายตาสู้สายตาดุดันให้คุณเขาเห็นใจถึงแม้ว่าความหวังแทบจะริบหรี่เลยก็ตาม แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้เขาเห็นถึงความพยายามของผมบ้าง ว่าถ้าอะไรที่มันสามารถทำได้ ผมก็พร้อมจะทำเพื่อแลกกับชีวิตเพื่อนของผม
“หึ งั้นก็ทำสิ”
“ทำทุกอย่างให้มันยอมปล่อยเธอมาหาฉัน”
“คุณจากัวร์…”
“เธอไม่ได้มีทางเลือกมากขนาดนั้น ปาร์ค จีมิน”
“แล้วผม ... ต้องทำยังไงครับ”
“แค่เชื่อฟังฉัน ทำตามคำสั่งของฉันทุกอย่างแม้กระทั่งยอมหักหลังมัน”
“เธอทำได้มั๊ยละ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไสหัวออกจากที่นี่แล้วรอดูศพเพื่อนของเธอซะ”
คมเขี้ยวคมกริบที่โผล่ออกมาในยามที่ริมฝีปากเผยรอยยิ้มแห่งความเป็นต่อใส่เหยื่อตัวน้อยปรากฎขึ้น มันช่างเป็นโชคดีอะไรของเขา ที่แทบจะไม่ต้องใช้วิธีหาสืบข้อมูลในตัวคู่แข่งซะให้เหนื่อย ถ้าเหยื่อแสนตัวหอมตรงหน้ายอมฟังคำสั่ง เพื่อที่เขาจะได้หาวิธีกำจัดอาร์เอ็มในศึกประลอง โอกาสที่จองกุกจะได้เป็นราชาแห่งจ่าฝูงก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“.. ครับ ผมจะทำ”
“อย่างนั้นแหละ เด็กดี :)”
แกร๊ก แกร๊ก
เสียงปลายช้อนโลหะกระทบลงบนจานข้าวที่โปะไปด้วยเนื้อปลาสีส้มสดชั้นดีกับข้าวสวยร้อนๆส่งกลิ่นหอมฉุย แต่น่าเสียดายที่มันกลับไม่พร่องลงเลยสักนิดเพราะเจ้าตัวหอมเอาแต่เขี่ยมันไปมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบมันหรอกนะ แต่เพราะเรื่องเมื่อตอนกลางวันทำเอาเขารู้สึกว้าวุ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร
เป็นใครกันนะคุณจากัวร์ ทำไมถึงทำให้จีมินไม่เจริญอาหารได้ขนาดนี้ :(
“จีมิน หนูเป็นอะไรรึเปล่าคะ วันนี้อาหารไม่ถูกปากหรอ หรือว่าปลามันไม่สด” คุณโอนเนอร์เอื้อมมือสวยๆมาจิ้มเจ้าปลาแซลม่อนในจานของเขา ตาคมสวยพยายามมองหาความผิดปกติของชิ้นปลาให้เจ้าแมวเด็ก เพราะเขามั่นใจว่า ปาร์ค จีมินไม่มีทางปฏิเสธของอร่อยๆแบบนี้แน่ๆ ถ้าหากไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้น
หรือมันจะผิดปกติเพราะเจ้าตัวเองนะ
“หนู คุยกับโอนเนอร์หน่อยค่ะ”
“ค ครับ.. ปลาไม่ได้คาวครับคุณโอนเนอร์” ผมสะดุ้งตัวขึ้นมาหน่อยๆเมื่อเริ่มหลุดจากภวังค์ความคิดเมื่อตอนเย็น
ผมลืมบอกทุกคนไปเลยว่าหลังจากที่ผมออกมาจากป่าแห่งนั้น มันก็ถึงเวลาเลิกเทรนพอดี กว่าผมจะรู้ตัวว่าเดินออกมาจากป่าด้วยความช่วยเหลือจากคุณนกจ่าฝูงคนเดิมคนนั้น เพื่อนๆที่เพิ่งเทรนกันเสร็จ ก็ต่างวิ่งกรูเข้ามาหาผมด้วยความเป็นห่วง จนผมเกือบจะลืมขอบคุณคุณนกจ่าฝูงคนนั้นเสียแล้ว สรุปว่าบทเรียนวันแรกของผมในแคมป์เบลล์ ผมไม่ได้อะไรกลับบ้านมาเลยนอกจากปัญหาหนักใจ ผมจึงต้องจับใจกลับบ้านโดยรถโดยสารของทางที่นั่นโดยที่ยังไม่ได้เริ่มฝึกอะไรทั้งนั้น แถมยังไร้วี่แววของเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีแดงเพื่อนรักของผมด้วย…
“แล้วหนูเป็นอะไรคะ เราดูเงียบๆตั้งแต่กลับมาแล้วนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“เปล่าครับ.. จีมินไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่เหนื่อยๆนิดหน่อย” จีมินช้อนตาขึ้นพลางตอบคุณโอนเนอร์ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จะบอกว่าเขาเป็นเด็กไม่ดีที่โกหกผู้ใหญ่อยู่ก็ได้นะ แต่จีมินน่ะ.. ไม่ยอมให้คุณโอนเนอร์มาคิดมากด้วยอีกคนหรอก
“เดินทางมาเหนื่อยเลยสิเรา งั้นหนูอยากดื่มนมอุ่นสักแก้วมั๊ย” ซอนมีเอื้อมฝ่ามือสวยมาลูบปรางแก้มใสของเจ้าแมวเด็กอย่างเอ็นดู เด็กน้อยของเธอก็คงจะเหนื่อยจริงๆนั่นแหละ เห็นทีว่าเขาจะต้องรีบตอบตกลงข้อเสนอของคุณฉลามซะแล้วสิ
“ไม่เป็นไรครับคุณโอนเนอร์ สงสัยวันนี้จีมินวิ่งเล่นกับเพื่อนๆเยอะไปหน่อย .. ผมขออนุญาติทานข้าวเหลือได้มั๊ย”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวใจดีตรงหน้าพยักหน้าตอบ ปาร์คจีมินก็ไม่รอช้า ที่จะรวบช้อนซ้อมพร้อมกับพาจานอาหารวางไว้บนซิงค์ และยังไม่ทันที่คุณโอนเนอร์จะได้พูดอะไร จากมนุษย์ผิวขาวร่างบางตรงหน้าก็กลายร่างเป็นเจ้าแมวอ้วนผิวขาวจัดนัยน์ตาสีฟ้า วิ่งจุ๊ดๆไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
จีมิน ขอโทษนะเจ้าปลาส้ม ...
W I L D
รัตติกาลมาเยือนบวกกับอากาศเย็นๆและกลิ่นดิบชื้นของป่าสน อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการพักผ่อนสำหรับใครหลายๆคน หากแต่ไม่ใช่สำหรับพวกเขา เพราะสัตว์ป่าอย่างพวกเรา มักจะออกหากินในเวลา กลางคืน
กรรรรซ์
“ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่าส่งเสียงดัง” เสียงติดตลกช่างน่ารำคาญที่ได้ยินเมื่อกี้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ ไอ่เหยี่ยวเวรเพื่อนยากเพียงหนึ่งเดียวของเขา จอง โฮซอก
เจ้าตัวในร่างนกเหยี่ยวตัวใหญ่ที่สอดส่องสายตาจากบนกิ่งไม้ กำลังจ้องมองเขาอย่างยิ้มเยาะ นั่นไง จอง โฮซอกทายผิดที่ไหน ว่ากฎเพียงหนึ่งเดียวของแคมป์เบลล์ที่เขียนไว้ว่า “ห้ามล่า” มันจะทำให้เพื่อนเขาลงแดงเข้าซักวัน
“ถ้านายยังไม่อยากถูกถอดออกจากตำแหน่งจ่าฝูง ก็ไม่ควรจะออกมาในเวลานี้นะ ไอ้เพื่อนยาก” โฮซอกบินโฉบลงตรงหน้าเสือจากัวร์หนุ่ม ที่ปกคลุมไปด้วยเส้นขนสีดำขลับรูปร่างกำยำ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเกรงกลัวแต่อย่างใด
กรรรรซ์
“เฮ้ ฉันเตือนด้วยความหวังดี กลับร่างซะ”
ครืดด ครืดดด
กรงเล็บแหลมคมเขี่ยดินข่มขู่บุคคลตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ คมเขี้ยวแหลมราวกับปลายมืดส่องแวววาวราวกับพร้อมปลิดชีพทุกคนที่ขวางหน้า คนอย่าง จอน จองกุกน่ะ เกลียดการถูกสั่งที่สุด และวันนี้ถ้าเขาไม่ได้ล่าอย่างที่หวัง สัญชาตญาณเสือที่มีคงได้กลายเป็นแมวเฝ้าบ้านอย่างเป็นแน่
“พ่อหนุ่มเลือดร้อน เผื่อนายลืมว่าตอนนี้นายเป็นซีเนียร์แล้ว และนายก็คงไม่อยากถูกลดตำแหน่งไปเป็นพวกโกลด์หรอกจริงมั๊ย” โฮซอกพยายามเกลี้ยกล่อมไอ่เสือสุดรั้นที่ไม่ว่าจะยังไงก็แทบจะไม่ยอมเขาเลย “ถ้าพ่อนายรู้ละก็...”
กรรรซ์
“อย่าพูดถึงตาแก่นั้น!”
ได้ผลแฮะ
ถึงจะโตแค่ไหน แต่ก็อย่างว่า ฝูงยังไงก็ต้องเป็นฝูง ชื่อของคุณ “ ฮัน ซึงอู” ยังไงก็มีอิทธิพลกับจอน จองกุกเสมอ :)
เฮ้อ นี่แหละนะ ข้อเสียของสัตว์ที่ล่าเป็นฝูง
“อย่ารีบร้อนเลย เดี๋ยวในศึกการประลองนายก็ได้ล่าจ่าฝูงทุกตัวสมใจแน่” โฮซอกว่าพลางดุนลิ้นในปากอย่างนึกสนุก แทบจะรอช่วงเวลานั้นไม่ไหว ตัวเขาน่ะ ไม่จำเป็นต้องลงแข่งอะไรกับจ่าฝูงพวกนี้หรอก เพราะนกอย่างเขาเป็นพวก ออกหากินด้วยตัวคนเดียว คนอย่างเขาน่ะ แค่บินชมไอ่พวกกระหายชัยชนะฆ่ากันตายแล้วค่อยกำจัดซากของพวกมันทีละตัว ทีละตัว แบบนั้นสนุกกว่าเยอะ :)
“ฉันเป็นเสือ แล้วไอ่กฎบ้านี้แม่งโคตรจะไม่แฟร์กับสัตว์กลางคืนเลยสักนิด” เจเควอลเลอร์สบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ แคมป์เบลล์อะไรนี้ออกกฎมาเหมือนลืมไปเลยว่าตัวเองก็เป็นเจ้าป่า ให้ตายเถอะ กฎห้ามออกล่าอะไรกัน โง่เง่าสิ้นดี
“มันจะมีปัญหาเอาน่ะสิ ถ้านายเผลอไปล่าพวกไวลด์เข้า เราแยกไม่ออกหรอกนะ ว่าใครเป็นสัตว์หรือใครเป็นไวลด์”
“ถ้าเป็นไวลด์ ก็คงไม่โง่ให้ฉันล่าแต่แรก” ยังคงจะเถียงคำไม่ตกฟาก เอาละ เขาขอสาบานตรงนี้ว่าถ้าเขาได้เป็นคิงในบรรดาจ่าฝูงเมื่อไหร่ เขาจะเปลี่ยนกฎนี้ก่อนเลยเป็นอย่างแรก
“ฉันได้ยินมาว่านายจะติดใจ แมว ของไวท์ซีล”
“หึ ทำไมถึงใช้คำว่า ติดใจ?”
“ไม่รู้รึไง ว่ากลิ่นแมวมันเต็มตัวนายไปหมดน่ะ เจเค”
“ก็ ฟัด แมวมา จะไม่ให้ติดได้ยังไง” จอง โฮซฮกผิวปากแซวทันทีที่ไอ่เสือหนุ่มยกยิ้มร้ายกาจให้เขา ก็อย่างว่าแหละ คนหูตาดีอย่างเขาก็ใช่จะไม่รับรู้เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้จะอยู่ในถ้ำเสือ ก็ไม่สามารถเล็ดรอดสายตาคนอย่างเขาไปได้หรอก
“คิดจะใช้จุดอ่อนของศัตรูเล่นงานศัตรูหรอ ไม่ค่อยจะแฟร์เลยว่ามั๊ย”
“ฉันจะทำทุกอย่าง เพื่อตำแหน่งคิงของจ่าฝูง….
ฉันจะทำทุกอย่างให้พ่อยอมรับและปล่อยฉันออกมาจากฝูงนั้นสักที”
“นายทำได้แน่นอน จากัวร์”
.
.
.
“ถ้านายไม่เผลอ ตกหลุมพลางเหยื่อซะเองนะ”
“อืม....”
กรอดด
เสียงพูดคุยเริ่มแผ่วลง เมื่อรับรู้ถึงกลิ่น อุณหภูมิเย็นเยือกที่แน่ชัดแล้วว่า พวกเขาไม่ได้อยู่กับแต่เพียงลำพัง และเสียงแปลกๆที่เหมือนการแตกหักของอะไรสักอย่าง เพียงแต่ว่า สายตาอันแหลมคมของเหยี่ยวหนุ่มและจมูกที่แยกกลิ่นได้เป็นเลิศของจากัวร์ ไม่สามารถแยกแยะมันได้ ว่าสิ่งแปลกที่มองไม่เห็น มันมาจากที่ไหน
“หึ พวกสอดรู้มันเยอะนัก”
“ไปเถอะ”
เมื่อสิ้นเสียงและการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ที่อีกฝากนึงของพุ่มไม้ใกล้ๆ ปรากฎเป็นรูปเกร็ดสีดำชวนพิศวงที่แทบจะกลมกลืนไปกับสีของรัติกาล แรงขยับเขยื้อนจากการเกร็งตัวบีบ เหยื่อ ที่สิ้นลมหายใจไปแล้วค่อยๆคลายออกมา เหยื่อตรงหน้าเริ่มจะกลายร่างจากหมาป่าไฮยีนาเป็นชายหนุ่มที่เขาเหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากที่ไหน ร่างที่ไร้ลมหายใจนี้ผิดรูปผิดทรงเสียงจนจำไม่ได้ ราวกับว่า กระดูกจากทุกส่วนในร่างกายแตกหักจนไม่เหลือเค้ารูปเดิม อ่า .. เห็นทีเค้าเพิ่งจะฆ่าไวลด์นอร์มอลไปเสียแล้ว ขอโทษนะเพื่อน และขอบคุณจริงๆที่หลอกล่อให้เขามาตรงนี้ ไม่อย่างนั้นละก็ คงได้พลาดข้อมูลดีๆไปเป็นแน่
แมว ของไวท์ซีลน่ะหรอ
หึ น่าสนุกดีจัง :)
เข้ามาเอ็นดูน้องกันได้ที่ #สัตว์ป่ากุกมิน
กลับมาแล้วค่ะ หายไปเป็นปีเลย
ความคิดเห็น