ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wild #สัตว์ป่ากุกมิน l Kookmin BTS

    ลำดับตอนที่ #2 : Campbell

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 61









           



              การโดนแสงแดดในยามเช้าทักทาย เป็นสิ่งที่สองรองจากปลาทูที่ทำให้เจ้าลูกแมวขนฟูอย่างผมมีความสุข ผมชอบที่จะดูบรรยากาศของการเริ่มต้นวันใหม่ ชอบแสงแดดอุ่นๆที่ผ่านผ้าม่านมาโดนตัวชอบเจ้านกตัวน้อยที่บินโฉบผ่านหน้าต่างมาทักทายผมทุกวัน ชอบคุณผีเสื้อที่บินว่อนรอบแปลงกุหลาบของคุณโอนเนอร์  และที่ผมมากชอบที่สุดก็คือ การดูชีวิตประจำวันของเจ้าเพื่อนกระรอก เพื่อนวัยเด็กเพียงตัวเดียวของผม






    เมื่อก่อนตอนเรายังเด็ก เราเคยสนิทกันมากครับ





    อ่ะ..





    แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้เราทะเลาะกันหรือสนิทกันน้อยลงหรอกนะ  ผมแค่โตขึ้นก็เลยโดนคุณโอนเนอร์สั่งห้ามไม่ให้กลับร่างเดิมได้ตามใจชอบเหมือนเมื่อก่อน ผมกับเพื่อนตัวน้อยเราก็เลยห่างกัน… เจ้าเพื่อนของผมไม่ได้เป็นไวลด์หรือเพ็ทอย่างพวกเราหรอกครับ เขาเป็นแค่สัตว์ธรรมดาที่จำผมได้แค่ตอนผมอยู่ในร่างเมนคูน





    คุณจินตนาการไม่ออกหรอกว่ามันเศร้าแค่ไหนตอนผมกลับร่างคนแล้วโดนมันวิ่งหนีใส่ หรือแม้กระทั่งตอนมันมีคู่แล้วผมเป็นตัวสุดท้ายที่รู้เรื่อง





         ไม่คิดจะเอาแฟนมาแนะนำเพื่อนเลยรึไงนะเจ้ากระรอกบ้า!






         “แมวน้อย หน้าหงิกอะไรใส่หน้าต่างแต่เช้าหืม” เป็นคุณโอนเนอร์ที่เข้ามาในห้องของผมพร้อมกับถือเจ้าชุดยูนิฟอร์มสีขาวตัดลายน้ำเงินลงบนเตียง กลิ่นผ้าที่หอมฟุ้งกับความเนี้ยบของตัวผ้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอตั้งใจซักและรีดมันเพื่อผมขนาดไหน






    เฮ้อ.. แต่ผมไม่อยากใส่มันเลยครับ








    วันนี้ผมต้องเข้าแคมเบลล์วันแรก  และมันคือชุดยูนิฟอร์มตัวแรกที่บ่งบอกการเป็นเพ็ทไทป์เอของผม











    แกล้งป่วยตอนนี้ทันมั๊ยนะ











    “อ่าว มาทำหน้าหงิกใส่ฉันซะแล้ว” หญิงสาวหลุดขำออกมาทันทีเมื่อเห็นเจ้าลูกแมวตัวน้อยเบนปากยื่นๆมาที่เธอแทนสิ่งนอกหน้าต่าง เจ้าแมวของเธอคงจะอารมณ์ไม่ดีอยู่แน่ๆ




         “จีมินไม่อยากไปเลยคุณโอนเนอร์” มือเล็กขีดเขี่ยชุดยูนิฟอร์มตัวสวยที่หญิงสาวตรงหน้าวางไว้บนเตียงใกล้ตัว จีมินช้อนสายตาอ้อนๆมองอีกฝ่ายพร้อมกับเบะปากเขี่ยชายเสื้อตัวนั้นเล่นไปมาให้อีกฝ่ายรับรู้ว่า เขาไม่ชอบเจ้าชุดตัวนี้เลย  :(




         “ไม่ไปไม่ได้หรอกนะ หนูโตแล้ว บางสิ่งบางอย่างไม่อยากทำแค่ไหนก็ต้องอดทนนะรู้มั๊ย” เธอพูดขึ้นพร้อมลูบกลุ่มผมนิ่มของคนตรงหน้าเบาๆ




         “จีมินไม่ชอบไวลด์ จีมินกลัว...”  ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมรั้งเอวบางของคุณโอนเนอร์มากอด กลุ่มผมนุ่มนิ่มของผมถูออดอ้อนเธอไปมาจนเธอต้องดันหัวของผมออกเบาๆด้วยความจั๊กจี๊




         “แทฮยองก็เป็นไวลด์นี่ หนูยังเข้ากันได้เลย”





         “แทฮยองไม่เหมือนไวลด์พวกนั้นซะหน่อย แทฮยองไม่ดุ”  





         “จีมินไม่ได้อยู่กับเขาตอนออกล่า แล้วรู้ได้ไงหืมว่าเขาไม่ดุ”






         อ่ะ!





         “หนูจะไม่ชอบไวลด์เพียงเพราะเขาดุร้ายฉันว่ามันเป็นความคิดที่ไม่น่ารักซะเท่าไหร่นะ จริงอยู่ที่สัญชาตญาณของสัตว์บอกว่าเขาเป็นพวกดุร้าย แต่คงไม่มีใครที่ไหนจะทำร้ายเพื่อนของตัวเองได้หรอกถูกมั๊ย”





         “.......”







         “เพราะงั้นหนูถึงต้องพยายามปรับตัวเป็นเพื่อนกับพวกเขาให้ได้ แต่หนูต้องไม่อคติกับไวลด์ทุกตัวบนโลกว่าเขาไม่ดี เข้าใจที่คุณโอนเนอร์พูดมั๊ยคะ”  




         “....เข้าใจแล้วครับ” โอนเนอร์คนสวยย่อหัวเข่ามนลงมานั่งกับพื้นเสมอกับเจ้าเมนคูนที่นั่งซึมอยู่ปลายเตียงเพื่อที่เธอจะได้มองหน้าหงึๆของเจ้าเพ็ทเอาแต่ใจได้ชัดๆ มือเรียวกุมปรางแก้มใสแล้วยิ้มให้อย่างที่เจ้าตัวชอบแต่ก็ยังไม่ได้รับรอยยิ้มกลับมาจากเด็กเอาแต่ใจ






         “เก่งมากค่ะ เอาล่ะ ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วคนเก่ง”  คุณโอนเนอร์ลุกออกจากห้องผมไปโดยเธอไม่ลืมที่จะฝังจมูกหอมบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มอย่างเร็วๆ เธอคงจะรีบไปทำอาหารเช้าให้ผม แล้วผมก็หวังว่า ข้าวเช้าของผมจะเป็นปลาทูนึ่งนะ…







    ใช้เวลาเพียงไม่นานผมก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จครับ ถึงใจจริงผมจะยังอยากเล่นน้ำต่ออีกซะหน่อย เพราะผมเป็นเมนคูน แมวผู้รักน้ำเป็นชีวิตจิตใจ แต่ถ้าทำแบบนั้นคุณโอนเนอร์คงขึ้นมาดุผมแน่ๆ ผมก็เลยตัดใจรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปหาเธอแทน   


          



    หลังจากที่เราทานอาหารกันเสร็จตอนนี้ผมก็นั่งอยู่บนรถของคุณโอนเนอร์เรียบร้อย ผมแอบผิดหวังนิดหน่อยที่เมนูในวันนี้ไม่ใช่ปลาทูนึ่ง แต่จริงๆแล้วทูน่าต้มสุกกับข้าวโพดนึ่งคลุกข้าวก็ไม่ได้แย่ ถึงมันจะแข็งไปหน่อยก็เถอะ

      




    อ่ะ




    แต่ที่ผมทำหน้าหงิกอยู่บนรถของเธอตอนนี้ไม่ใช่เพราะทูน่าข้าวโพดหรอกนะครับ เป็นเพราะเจ้าปลอกคออันใหม่ที่แสนน่ารำคาญของผมต่างหาก อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่าผมเข้ามาอยู่แคมเบลล์ในฐานะคนของตระกูลไวท์ซีล เพราะงั้นผมเลยจำเป็นต้องถอดปลอกคอเก่าของผมที่เป็นของตระกูลฮิลเวอร์ตันออก


    เอาจริงๆผมไม่ได้ติดใจหรอกว่ามันจะเป็นคนของตระกูลอะไร แต่เจ้าปลอกคออันใหม่นี้มันดันไม่ใช่แบบโซ่เหมือนที่ผมเคยใส่ มันกลับเป็นผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มพร้อมจี้รูปฉลามที่พอดีกับคอของผมมากๆจนน่าอึดอัด อืม.. ถ้าผมจำไม่ผิดพวกมนุษย์เรียกมันว่า โชคเกอร์ ล่ะมั้ง ช่างเถอะ จะเรียกว่าอะไรก็ช่างแต่ผมไม่ชอบมันเลย




    Campbell





    “ถึงแล้ว ตั้งใจเรียนนะคะคนเก่งของโอนเนอร์” หญิงสาวกดจมูกลงบนหัวมนอย่างเอ็นดู ก่อนจะคอยจับปรามมือเล็กที่กำลังดึงรั้งปลอกคออันใหม่จนคอขาวขึ้นรอยแดง




    “หงึ คุณโอนเนอร์มันรัดคอจีมิน” มือเรียวพยายามดึงปลอกคอให้มันยืดมากยิ่งขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ไม่อึดอัดกับการรัดตึงของมัน ทำเอาโอนเนอร์สาวอดไม่ได้ที่จะกุมแก้มอวบปลอบเจ้าลูกแมว



    “ไม่ดึงนะคะเดี๋ยวหนูก็ชิน หนูลงไปเรียนได้แล้วค่ะ ไว้คุณโอนเนอร์บอกคุณอาร์เอ็มให้เค้าเปลี่ยนเส้นใหม่ให้นะ” เธอกล่าว



    “ครับ.. คุณโอนเนอร์ขับรถดีๆนะ”  




    ผมก้าวตัวลงจากรถโดยไม่ลืมที่จะโบกมือลารถคันหรูจนมันสุดลูกตา ก่อนจะพาขาเรียวภายใต้กางเกงสีน้ำเงินเข้มเข้าไปในตัวอาคาร เอาล่ะ ตอนนี้เธอคงไม่เห็นผมแล้วมั้ง




    กึก




    ทันทีที่ผมแน่ใจว่าคุณโอนเนอร์กลับไปแล้ว  ผมก็รีบดึงเจ้าปลอกคอที่แสนเกะกะออกอย่างไม่ลังเล เพราะผมทนกับการรัดตึงของมันไม่ไหว นี้เพราะมันเส้นเล็กไปหรือเพราะผมอ้วนขึ้นกันแน่นะ ถ้าเป็นอย่างหลังล่ะก็ต้องโทษเจ้าปลาทูน่าเมื่อเช้าเลย!



    ผมเดินต่อไปเรื่อยๆจนเริ่มเข้าเขตของแคมเบลล์แล้วครับ สถานที่นี้เป็นที่ที่ใหญ่โตมากๆเพราะต้องรองรับประชากรทั้งเพ็ทและไวลด์หลายชาติพันธุ์ ในนี้มีทั้งสนามหญ้าเตี้ยๆให้พวกฟาร์ม ทั้งเขตป่าสนทึบสำหรับพวกหมาป่า ทุ่งหญ้าสะวันนาให้พวกสัตว์เขตร้อน นี้ยังไม่รวมแม่น้ำกับมหาสมุทรให้พวกสัตว์จำพวกปลาอีกนะ เพราะงั้นมันไม่แปลกเลยที่ผมจะหลง  





    “ต้องไปทางไหนนะ”





         ผมลองเดินไปเรื่อยๆเผื่อจะเจอมาสเตอร์สักคนเพื่อถามทาง เพราะตอนนี้รอบตัวผมมีแต่พวกไวลด์เต็มไปหมด ผมเลยไม่กล้าที่จะสบตากับใครเลยเพราะกลัวจะเห็นร่างแฝงของพวกเขา ผมจึงได้แต่ก้มหน้าแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆให้ถึงตัวอาคารสักหลังจะได้เข้าไปถามมาสเตอร์ข้างใน แต่ก็นะ…..





         ทำไมยิ่งเดินเสียงผู้คนถึงได้เงียบเข้าไปเรื่อยๆอย่างนี้ละเนี่ย







         กรรรรรรรรซ์







         อ๊ะ!





    ผมรีบเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆนั้น ก่อนจะพบว่า ตอนนี้รอบตัวผมไม่มีใครเลย มือเรียวนั้นเริ่มเกร็งขึ้นจากสัญชาตญาณความกลัวที่กดดัน






         กรรรรรรซ์!







    เสียงขู่มันเริ่มดังขึ้นแต่ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหาเสียงของมัน เพราะถ้าเราสบตากับนักล่าตัวนั้นเมื่อไหร่ มันจะรีบจู่โจมเราทันทีเมื่อรู้ว่าเราคิดจะหนี ผมเลยหยุดยืนนิ่งๆรอให้เขาออกมา



    กรรซ์




    กึก





    “เธอเป็นใคร”





         เสียงทุ้มแหบต่ำดังออกมาจากข้างหลังของผม รังษีนักล่าที่แผ่ออกมาจากตัวเขามันเยอะมากจนทำผมขาสั่น เสียงลมหายใจเข้าออกของเขาดังขึ้นทำให้ผมยิ่งตัวเกร็งเข้าไปอีก เพราะนักล่าตรงหน้าผมนั้น









         กำลังสำรวจ เหยื่อ









         “ผะ…ผม”






         กรรรซ์







         เหมี๊ยว!





         ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกจนเผลอปลดปล่อยร่างแฝงของตัวเองออกมาด้วยความกลัว ใบหูสีขาวนวลที่โผล่ออกมาแนบลู่ลงไปกับกลุ่มผม นี้ยังไม่น่าอายเท่าหางที่ยื่นโผล่ออกมาเหนือสะโพกแต่ยังดีที่มีกางเกงสีเข้มซ่อนเอาไว้




         “เมนคูนสินะ” ผมทรุดตัวลงกับพื้นทันทีตามสัญชาตญาณสัตว์ที่บ่งบอกว่ายอมจำนน ก่อนจะก้มหน้างุดลงไม่สบตากับคนตรงหน้า แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นขาแกร่งของอีกคนที่ตอนนี้ มายืนอยู่ตรงหน้าของผมแล้ว!





         “เงยหน้าขึ้นมา”






         “…” แมวตัวน้อยตัวสั่นเทาด้วยความกลัวหลังจากได้ยินเสียงของนักล่าตรงหน้า







         “ฉันบอกให้เงยหน้าขึ้นมา! กรรรรซ์”







         เฮือกกกก!!!






         สายตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำใสรีบเงยหน้าขึ้นสบตากับนักล่าตรงหน้า ดวงตาคมกริบสีดำสนิทแสนดุร้ายบ่งบอกนิสัย รับกับสันจมูกโด่งของเจ้าของได้อย่างพอดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนตรงหน้าเขานั้นมีใบหน้าที่เพอร์เฟคแค่ไหน ถ้าไม่ติดตรง ริมฝีปากที่เคยเป็นริมฝีปากมนุษย์จู่ๆก็ปรากฎเป็นเขี้ยวเรียวยาวโผล่ขึ้นมาทันทีที่สบตา





         นี้มัน………















         ข  เขี้ยวเสือ!!







         “หึ แมวเร่ร่อนหรอกหรอ” สายตาคมลอบมอง เหยื่อ ตัวน้อยที่เนื้อตัวสั่นเทาพร้อมกับลำคอเปลือยเปล่าบ่งบอกว่าเจ้าลูกแมวตรงหน้าของเขานี้ ไร้เจ้าของ ทันทีที่เห็นอย่างนั้น ลิ้นร้อนก็ออกมาไล้เลียเขี้ยวเรียวยาวที่ปลิดชีพเหยื่อนับร้อยอย่างสนุก




         “ผ…ผมเปล่า ฮึก ผมมีเจ้าของครับ”  มือสั่นเทาของผมรีบขุดคุ้ยกระเป๋าข้างตัว ก่อนจะหยิบปลอกคอที่เพิ่งถอดออกไปให้คนตรงหน้าดู แล้วรีบใส่มันลงบนคอของตัวเองทันที







    “ไวท์ซีล... หึ คนของฉลาม”  






    คนตรงหน้าของผมย่อตัวลงมาสำรวจใบหน้าของผมด้วยท่าทีที่สนุก ใบหน้าคมกำลังยื่นเข้ามาใกล้ๆจนผมเห็นเขี้ยวเรียวยาวอย่างชัดเจน มันทั้งแหลมและดูคมกริบราวกับใบมีด สัญชาตญาณสัตว์ของผมจึงยอมจำนนต่อนักล่าตรงหน้าด้วยการหลับตาลงรอรับชะตาชีวิต




         “อ๊ะ… อื้อออออ”




         แทนที่จะเป็นความเจ็บปวดนั้นกลับกลายเป็นความเสียวซ่านและเปียกชื้นจากปลายลิ้นร้อนที่ไล้เลียลงมาบนต้นคอขาวของผมเบาๆเป็นทางยาว อุ้งมือเล็กของผมจึงเผลอตะปบเข้าที่หน้าอกแกร่งของเขาทันทีก่อนจะจิกเล็บลงไปด้วยความไม่รู้ตัว





         “ถ้าอยากอยู่ที่นี่ในฐานะคนของฉลาม อย่าถอดปลอกคออีก”




         “…” ผมพยักหน้าลงรัวๆด้วยความกลัวก่อนจะหลับตาปี๋อีกรอบเมื่อคราวนี้เขาย้ายลิ้นร้อนมาไล้เลียซอกคออีกฝั่ง





         “ไม่อย่างนั้นล่ะก็”







         ฉึก









         อ๊ะ!!!










    “ฉันจะทำให้เธอเป็นคนของจากัวร์ด้วยรอยเขี้ยวของฉันแทน”










    WILD TYPE
    JEON JUNGKOOK - BLACK JAGUAR




    ...............................................

     คุณจากัวร์ออกมาแล้วววววววว 
    ออกมาตอนแรกก็ชิมน้องเหมียวของเราเลย ยอมไม่ได้แล้วค่ะ  มาปกป้องน้องเหมียวของเรากัน !
    เราดีใจมากเลยที่มีคนบอกว่าพล็อตของเราแปลก5555555 คือเพิ่งแต่งแนวนี้เป็นแนวแรกก็อยากให้มัน
    แฟนตาซีหลุดโลกไปเล้ยย 
    ยังไงก็อย่าลืมติดตามคุณจากัวร์กับน้องเมนคูณด้วยนะคะ 
    ยังมีตัวละครอีกหลายตัวเลย 
    มาเดากันค่ะ ว่าคนต่อไปจะเป็นอะไร เหลือพี่จิน ยุนกิแล้วก็เจโฮป
    มาเดากันๆๆๆๆๆๆๆ





     
    CR.SQW



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×