คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
WILDVERSE I
Wild Type
KIM RM - White Shark
วิวัฒนาการกับสิ่งมีชีวิต ย่อมเป็นของคู่กันเสมอ..
โลกของเรานั้นมักจะมีการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตสามารถดำรงชีวิตและสืบเผ่าพันธุ์ต่อไปได้
เช่นเดียวกับโลกของผมในตอนนี้…
โลกของเราตอนนี้ไม่ได้มีแค่มนุษย์ พืช หรือสัตว์อะไรทำนองนั้นอีกต่อไปแล้วครับ เนื่องจากจำนวนประชากรมนุษย์ของโลกลดลง ทำให้สัตว์อย่างเราๆ สามารถวิวัฒนาการได้เหมือนมนุษย์ทุกประการ แถมบางเผ่าพันธุ์ยังวิวัฒนาการได้ดีกว่ามนุษย์อีกด้วย อย่างเช่น เพื่อนรักของผม “ คิม แทฮยอง” อ่า.. เจ้าตัวแสบเพื่อนของผมเขาเป็น ไวลด์ ( wild ) ล่ะ แทฮยองเป็นไวลด์ตระกูล เมอร์ริส ใช่แล้วครับ เขาเป็น Fox
เจ้าสุนัขจิ้งจอกสีแดงตัวเล็กที่มีความเจ้าเล่ห์กว่าใคร นอกจากนี้ยังมีสายตาที่มองเห็นในที่มืดเป็นเลิศ นั่นทำให้เจ้าเพื่อนของผมเป็นพวกออก “ล่า” ในตอนกลางคืน ซึ่งนั้นก็ทำให้พวกไวลด์อย่างเขามีพละกำลังเหนือกว่าพวกมนุษย์ที่เป็นโอนเนอร์ให้เพ็ท (pet) อย่างพวกผม
อ่ะ!
แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทิ้งความเป็นสัตว์ได้หรอกนะครับ เราก็แค่ซ่อนมันไว้ เป็นสัญชาติญาณแฝง ซึ่งหากโดนกระตุ้นพวกเราก็จะกลายเป็นสัตว์ได้ทุกเมื่ออย่างผมตอนนี้
เหมียว….
อืม…. กลิ่นปลาทู
วันนี้โอนเนอร์ของผมทำปลาทูมาให้ผมแน่ๆ!
สวัสดีครับ ผม “ปาร์ค จีมิน” เป็นแมวเมนคูนของตระกูล ฮิลเวอร์ตันครับ โอนเนอร์ของผมรับเลี้ยงเพ็ทอย่างพวกเรามาหลายชั่วอายุคนแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิดก็คงจะตั้งแต่รุ่นคุณย่าทวดของผมเลย นานมากใช่มั๊ยล่ะครับ โอนเนอร์ของผมพวกเขาใจดีมาก ซึ่งนั้นก็นับว่าเป็นโชคดีของผมนะ ที่ไม่เจอโอนเนอร์ที่ขายเพ็ทของตัวเองอะไรทำนองนั้น
ใช่ครับ พวกเขามีสิทธิพิเศษในการเป็นเจ้าของเพ็ทอย่างพวกผมทุกอย่าง เป็นเจ้าของชีวิต เจ้าของอิสระภาพ และเป็นเจ้าของลมหายใจของพวกเราด้วย หากพวกเขาบอกให้เราตาย เราก็พร้อมจะตายให้พวกเขาทันที แต่ก็นะ ไม่มีใครจะฆ่าเพ็ทของตัวเองได้ลงคอหรอก
เพราะพวกผมน่ะ
เป็นผู้สืบตระกูลให้พวกเขาน่ะสิ…
นั่นแหละครับ ประโยชน์ของพวกเพ็ท
อย่างที่รู้กันว่าในโลกใบนี้บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดคือพวกไวลด์ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะสืบพันธุ์กับพวกที่เป็นมนุษย์อย่างโอนเนอร์ของเราได้ครับ หากพวกโอนเนอร์ต้องการให้ตระกูลของพวกเขาปลอดภัย และมีไวลด์คุ้มกะลาหัว พวกเขาจะต้องยอมให้ตระกูลของเค้าอยู่ในความดูแลของไวลด์ หรือไม่ก็ส่งเพ็ทของตัวเองให้เป็นคนของไวลด์ไว้สืบสกุล
และนั่นก็คือประโยชน์เพียงข้อเดียวของสัตว์จำพวกเพ็ทอย่างผม
สืบพันธุ์…
“จีมิน วันนี้มีปลาทูนึ่งของโปรดเราด้วยนะ” ซอนมี คุณโอนเนอร์คนสวยหันมายิ้มให้ผมที่กำลังสวดกอดเธออย่างออดอ้อน จนผมต้องยิ้มตามกับแววตาที่แสนใจดีนั่น แม้เธอจะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยที่มีลดลงไปเลย
“ขอบคุณครับโอนเนอร์” ผมหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ตามฉบับแมวขี้อ้อนแบบที่เธอชอบ ถ้าตอนนี้ผมอยู่ในร่างเมนคูนล่ะก็ แก้มเธอคงเปียกไปด้วยน้ำลายของผมแน่ๆ
“อ้อ จีมินวันนี้เธอกลับร่างไม่ได้นะ”
!!!
“ทำไมละครับ” คิ้วเล็กขมวดเป็นปมด้วยความขัดใจ ผมน่ะไม่ชอบมากๆกับการกินอาหารในร่างมนุษย์ มันทำให้รสชาติของอาหารอร่อยน้อยลงเยอะ และทำให้พวกเราเลือกกินมากขึ้นด้วย ทำไมลิ้นมนุษย์มันแย่อย่างนี้ก็ไม่รู้ แต่แทนที่โอนเนอร์ของผมจะโกรธกับกิริยาที่ไม่น่ารักนั้น เธอกลับหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความชอบใจ ลืมไป ว่าเธอชอบผมตอนทำตัวดื้อๆเธอบอกว่ามันรู้สึกน่าหมั่นเขี้ยวดีตอนผมกำลังทำหน้ายุ่งๆ เป็นมนุษย์ที่แปลกจริงๆเลยคุณโอนเนอร์ :(
“วันนี้ตระกูล ไวท์ซีล จะมาร่วมโต๊ะกับเราด้วย จะแปลงร่างเป็นแมวให้คุณฉลามเขาดูไม่ได้นะจีมิน”
ทันทีที่ผมได้ยินว่าใครจะมาร่วมทานข้าวกับเราด้วยนั้น ทำเอาความอยากอาหารเมื่อตะกี้หายไปหมด อาการหวาดกลัวบวกกับน้ำใสๆที่เริ่มจะคลอเบ้าตาของผมทำเอาคุณโอนเนอร์ถึงกับวางมีดที่บรรจงหั่นเนื้อเกรดดีลงแล้วดึงผมเข้ามากอดทันที
“จีมินไม่อยากกินแล้ว...” ผมซุกศีรษะบางลงบนไหล่ของเธอ ถูศีรษะไปมาเผื่อเธอจะเมตตาให้ผมไม่ต้องไปร่วมโต๊ะกับพวกเขา ถึงรู้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ
“อย่าดื้อสิคนดี ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย คุณอาร์เอ็มเค้าไม่ดุซะหน่อย” อาร์เอ็ม คือชื่อของผู้สืบสกุลไวท์ซีลผู้ที่คุ้มครองตระกูลฮิลเวอร์ตันของเรา อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าทุกตระกูลของพวกโอนเนอร์จะมีไวลด์คุ้มครอง และเราจำเป็นจะต้องดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีเป็นการตอบแทน
ไม่ใช่ว่าลึกๆผมจะไม่รู้นะว่าโอนเนอร์อยากให้ผมไปเป็นคนของตระกูลนี้แค่ไหน แต่ก็นะ เค้าเป็นฉลาม… white shark ที่แสนดุร้าย แถมยังเป็นนักล่าอันดับหนึ่งของมหาสมุทรซะอีก จะไม่ให้แมวอย่างผมกลัวเขาก็ใช่เรื่อง แต่ต้องขอบคุณตัวผมนะที่ยังเด็กเกินไป ผมเลยไม่ได้เป็นคนของฉลามในตอนนี้
“ไม่ดื้อนะเด็กน้อย อีกหน่อยเธอก็จะเข้าพรีซีเนียร์แล้ว เราจำเป็นต้องสนิทกับพี่เค้าไว้ จะได้ไม่เดือดร้อน เข้าใจมั๊ยหืม” มือเรียวบรรจงลูบกลุ่มผมนิ่มของผมเบาๆอย่างปลอบประโลม ถึงผมจะไม่อยากสนิทกับเขาก็เถอะ แต่การเข้าพรีซีเนียร์ของเพ็ทอย่างเราๆ มันไม่ง่ายเลยครับหากไม่มีไวลด์คุ้มครอง
“ครับ...”
การร่วมโต๊ะของผมกับตระกูลไวท์ซีลเป็นอะไรที่เต็มไปด้วยความน่าอึดอัด ปลาทูแสนอร่อยที่ผมชื่นชอบกลายเป็นซากปลาจืดๆในปากของผมทันทีที่ถูกจ้องมองด้วยสายตานักล่าของฝั่งตรงข้าม ถึงแม้คุณริคกี้และคุณนายเทอร่าผู้เป็นพ่อและแม่ของคุณอาร์เอ็มจะมีอายุแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวและความเป็นนักล่าของพวกเขาดูน้อยลงไปเลย
“เพ็ทของเธอยิ่งโตยิ่งน่ารักนะซอนมี” คุณนายเทอร่าพูดถึงผมโดยที่เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยซ้ำ เธอแค่ชำเลืองสายตามามองเล็กน้อยก่อนจะจัดการกับเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมที่โอนเนอร์ของผมตั้งใจอย่างสุดฝีมือเพื่อพวกเขา “ตักเนื้อให้น้องบ้างสิอาร์เอ็ม”
“ขอบคุณในความกรุณาค่ะคุณเทอร่า แต่เมนคูนย่อยสัตว์จำพวกเนื้อไม่ค่อยดี ให้คุณอาร์เอ็มเขากินไปเถอะค่ะ” โอนเนอร์ของผมกล่าวอย่างนอบน้อม เพราะผมไม่ค่อยถูกกับอาหารที่เป็นสัตว์ใหญ่ๆสักเท่าไหร่ ซึ่งข้อนี้โอนเนอร์ของผมรู้ดี ต้องขอบคุณเธอที่คอยห้ามปรามพวกเขาไว้ ไม่อย่างนั้นผมคงปฏิเสธพวกเขาไม่ได้แน่ๆ
“อ่า อย่างนั้นหรอกหรอ” เธอตักชิ้นเนื้อใส่ปากแล้วเงยหน้ามายิ้มให้ผม ผมจึงยิ้มตอบด้วยความเกรงใจแต่พอสบตาที่แผ่รังสีความเป็นนักล่าของเธอออกมา สายตาหวานสวยที่เคยเป็นดวงตาของมนุษย์ธรรมดาก็ปรากฏเป็นดวงตาของนักล่าอย่างฉลามทันทีทำเอาผมต้องรีบหลุบตาลงด้วยความหวาดกลัวจนเผลอร้องเสียงหลง
เหมี๊ยว!!
“แม่ทำน้องกลัวนะครับ” เสียงทุ้มต่ำของอาร์เอ็มเอ่ยปรามผู้เป็นมารดาก่อนจะละความสนใจจากอาหารตรงหน้ามาเป็นร่างเล็กตรงข้ามเขาแทน ร่างเล็กที่เอาอุ้งมือน้อยๆปิดริมฝีปากเอาไว้เพราะเผลอร้องเสียงหลงเมื่อกี้ ทำเอาเขาหลุดขำออกมาอย่างไม่ได้
“ตายแล้ว ดิฉันขอโทษแทนจีมินด้วยนะคะคุณเทอร่า” เป็นซอนมีที่ออกตัวขอโทษแทนเจ้าเหมียวของเธอ จีมินเองก็รีบขอโทษขอโพยยกใหญ่ที่ทำให้โอนเนอร์ของเขาต้องรับหน้าแทน
“ฉันสิที่ต้องขอโทษ ขอโทษทีนะจีมินที่ร่างแฝงของฉันเป็นตาฉลามซะนี่” เธอพูดออกมายิ้มๆพร้อมกับพยายามเบนสายตาไม่ให้จ้องเจ้าเหมียวตรงหน้าเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายกลัว เพราะในตัวของไวลด์ทุกตัว จะมีร่างแฝงเพื่อบ่งบอกว่าตัวเองนั้นเป็นไวลด์ บ้างก็เป็นตา บางตัวเป็นหู บางตัวเป็นหาง ซึ่งมันจะออกมาตามสัญชาติญาณโดยที่เราไม่สามารถคุมมันได้ ต่างจากพวกเพ็ทที่จะแสดงออกมาก็ต่อเมื่อมีอันตรายหรือฮีทเท่านั้น
“ปีนี้ขึ้นพรีซีเนียร์แล้วใช่มั๊ย” ร่างน่าเกรงขามของคุณอาร์เอ็มเอ่ยถามขึ้น ผมจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นสบสายตาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทแต่ตาเจ้ากรรมก็รีบหลุบอย่างไวเมื่อสบกับสายตาคมกริบด้วยความวูบโหวงในท้องเพราะกลัวจะเจอกับสายตานักล่าแบบนั้นอีก
“เอ่อ ...ครับ”
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้มีร่างแฝงเป็นตาฉลามแบบแม่”
ร่างสูงตรงหน้าผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ถึงแม้ว่าเราจะร่วมทานอาหารกันไม่บ่อยครั้งนัก แต่เท่าที่ผมจำได้ โทนน้ำเสียงของเขาจะเยือกเย็นเหมือนมหาสมุทรที่นิ่งสงบมาโดยตลอด ต่างจากคราวนี้ที่ดูจะติดตลกเล็กน้อยทำให้ผมกล้าที่จะสบตาเขาตรงๆ
คุณอาร์เอ็มไม่มีร่างแฝงเหมือนคุณเทอร่าจริงด้วยแฮะ
แล้วเค้ามีร่างแฝงเป็นฉลามตรงไหนกันนะ
“เธอกำลังสงสัยอะไรในตัวฉันงั้นหรอแมวน้อย” ฉลามหนุ่มลอบมองใบหน้าของเจ้าแมวขี้สงสัยที่แสดงความสงสัยออกมาโดยการจ้องมองเขาอย่างลืมตัว อีกทั้งยังขมวดปมคิ้วยุ่งๆนั่นทำเอาคนตรงหน้าน่ารักไม่หยอก
“ อ่ะ!” ตาของผมเบิกโพลงที่เผลอทำตัวไม่มีมารยาทใส่คนตรงหน้าอีกแล้ว “ ผ.. ผมขอโทษครับคุณอาร์เอ็ม ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ ฉันไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อยนี่” คุณอาร์เอ็มหลุดขำนั่นทำให้ผมเบนสายตาไปมองคุณซอนมีเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอโกรธที่ทำเธอต้องเสียหน้าหลายครั้ง ซึ่งการเห็นสีหน้าลำบากใจของโอนเนอร์นั้นทำเอาผมอยากจะร้องไห้ออกมาซะตอนนี้เลย
“เอาล่ะ เรามาพูดถึงธุระของเราเลยดีกว่านะซอนมี ถ้าฉันอยู่นานกว่านี้แมวของเธอคงงอแงแย่”
เสียงของคุณริคกี้เอ่ยดังขึ้นหลังจากลอบสังเกตุบรรยากาศข้างหน้ามาเนิ่นนานทำเอาเมนคูนตัวน้อยรีบงับริมฝีปากตัวเองลงเพราะเกรงว่าจะเบะใส่คนตรงหน้าขึ้นมาจริงๆ ซอนมีเห็นดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือที่จีมินชอบนักชอบหนาเวลาเกาคางน้อยๆมาลูบศีรษะเล็กเบาๆเชิงปลอบใจ เพราะเธอรู้ดีว่าสัญชาติญาณความกลัวของสัตว์นั้นมันห้ามกันไม่ได้ ขนาดเธอเองที่เป็นมนุษย์ธรรมดายังกลัวรังสีความเป็นนักล่าของตระกูลไวท์ซีลนี้เลย นับประสาอะไรกับแมวน้อยของเธอ
“ค่ะ ท่านมีธุระอะไรกับฉันหรอคะ” ซอนมีเอ่ยถาม
“ฉันจะให้จีมินอยู่ในการดูแลของอาร์เอ็มในแคมเบลล์”
แคมเบลล์ คือค่ายฝึกศักยภาพในตัวสัตว์ป่าอย่างพวกเรา ซึ่งเปรียบเสมือนไฮสคูลของมนุษย์ เพียงแต่ว่าไม่ได้มีแค่วิชาการเท่านั้นที่เราจะต้องเรียนรู้ พวกเขาฝึกพวกเราทุกด้านตั้งแต่คุมสัญชาติญาณไปจนถึงการใช้สัญชาติญาณสัตว์ในตัวเพื่อให้อยู่รอด และเข้ากันได้กับสัตว์ต่างไทป์ ซึ่งสามปีแรกที่ผมได้ถูกเข้าฝึกนั้น จะมีการแยกพวกไวลด์ออกจากเพ็ทอย่างเข้มงวด เนื่องจากตอนเรายังเด็กเราจะไม่สามารถควบคุมสัญชาตญาณได้เท่าที่ควร โดยเฉพาะพวกไวลด์
พอผมขึ้นพรีซีเนียร์นั้นก็คือ ช่วงเวลาแห่งการแบ่งเกรดในห่วงโซอาหาร ซึ่งแน่นอนว่านักล่าสูงสุดอย่างพวกไวลด์ก็จะมีการจัดเกรดเหมือนกันคือ คิง ที่จัดเป็นจ่าฝูงและมีอำนาจสูงสุดและแน่นอนว่าตระกูลไวท์ซีลคือหนึ่งในคนพวกนั้น
โกลด์ นักล่าอันดับรองลงมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักล่าที่อยู่กันเป็นฝูง ซึ่งผมเชื่อว่าแทฮยองเพื่อนรักของผมจะอยู่ในไทป์นี้
และสุดท้ายคือ นอร์มอล นักล่าธรรมดาที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนของจ่าฝูง แต่มีความดุร้ายน้อยกว่าสองอันดับที่เหลือเลยอีกทั้งยังคุมสัญชาติญาณได้ไม่ดีเท่าคิงกับโกลด์อีกด้วย และนั่นก็เป็นไทป์ที่ผมเกลียดที่สุด
และแน่นอนว่าเพ็ทก็มีการจัดอันดับเช่นเดียวกันกับไวลด์ ซึ่งแบ่งเป็นไทป์ เอ บี และ ซี เหอะๆ แค่ชื่อประเภทดูก็รู้แล้วว่าไม่ได้เท่าเทียมกับพวกไวลด์เลย เหมือนแบ่งเกรดอาหารซะมากกว่า
ซึ่งจะมีแค่เพ็ทไทป์เอเท่านั้นที่จะฝึกร่วมกับพวกไวลด์ในขณะที่เพ็ทไทป์บีและซี จะจัดเป็นไทป์ธรรมดาที่ไม่ได้เลี้ยงไว้สืบสกุล แต่เลี้ยงไว้เพื่อรับใช้โอนเนอร์และไวลด์ จึงไม่ได้รับอนุญาติให้ฝึกร่วมกัน ซึ่งผมภาวนาตัวเองอยู่ทุกวันว่าชาตินี้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับไวลด์ตัวใดในโลกยกเว้น คิมแทฮยอง ผมจึงอยากอยู่ไทป์บีหรือซีที่สุด
“ขอบคุณมากๆนะคะคุณริคกี้ที่เมตตาจีมิน ได้ยินแบบนี้ฉันค่อยโล่งใจไปหน่อย” คุณโอนเนอร์ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีพลางลูบกลุ่มผมนิ่มของผมเบาๆจนผมเผลอเคลิ้มหลับตาแล้วถูปลายมืออุ่นนั้นอย่างลืมตัว
“แต่จีมินจะต้องเข้าไปในฐานะ เพ็ทเกรดเอ”
เอ๊ะ...
เมื่อกี้คุณริคกี้บอกว่าผมจะไปอยู่ไทป์ไหนนะ
อ…. เอ ?
นี่ผมต้องอยู่ในแคมเบลล์ที่เต็มไปด้วยพวก นักล่า หรอ !!!!!!!
ความคิดเห็น