ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (yaoi) Virulent Coma ปากหมานัก เจอรุกหนักจะรู้สึก!

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 เปิดม่าน!

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 58


       

                   “ทำเหี้ยไรเอาเคินมา!” เสียงยานคางออกมาจากปากคนที่จะฟุบแหล่ไม่ฟุบแหล่ น้ำเสียงโถมความรำคาญมาไม่ยั้ง มือคว้าสะเปะสะปะจะเอาแก้วที่มีน้ำเหลืองๆอยู่คืนมาจากเขาให้ได้ ทำเอาคู่สนทนาแทบจะเสยหน้ากวนตีนนี่ให้ฟุบไปซะ คออ่อนแล้วแดกเยอะมันใช่ไหม!

     

                   พอ พอเลยมึง พอ หยุด คนเป็นเพื่อนรีบเอาแก้วเหล้าส่งคืนพนักงานที่เดินผ่านมา แต่คิดว่าคนดื้อรั้นแบบมันจะยอมง่ายๆเหรอ

     

                   น้องเอามา2เลย สั่งเพิ่อุ

     

                   “ปิ่น ไม่ต้อง กลับไปทำงานไป พอลูกเจ้าของร้านอย่างเขาเอ่ยปากสั่ง พนักงานสาวจึงทำได้แต่เดินเงอะๆงะๆกลับไปทำงานของเธอต่อ  เพลิงหันไปมองเพื่อนเวรที่ฟุบไปแล้วอย่างเซ็งๆ หยิบบีบีสีแสบจี๊ดๆ(ที่มันเผลอวางแหมะอยู่บนโต๊ะ)ขึ้นมากดดูเบอร์โทรล่าสุด

     

                   ‘เด็กเวร

     

                   “ใครสอนมึงเมมเบอร์โทรศัพท์วะไอสัสเพลิงเปรยขึ้น มองเพื่อนที่ไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้วก็นึกขำ

     

                   ‘ก็คงจะเบอร์นี้มั้ง’

     

                    ว่าแล้วก็โทรเลยละกัน

     

                    [ไรพี่]

     

                    ปลายสายรับเร็วจนน่าตกใจ เพลิงรีบเรียบเรียงคำพูดทันที

     

                    “เอ้อ กูเพลิงนะ…”

     

                     [อ้าวพี่เพลิง มีอะไรวะ ทำไมพี่เอสไม่โทรอ่ะ ให้พี่โทรมาแทนทำไม!]

     

                    “เห้ย ใจเย็นๆ แม่งเมา หลับไปแล้ว มารับมันได้หรือเปล่า กูไม่สะดวกไปส่งมัน

     

                    [ที่เดิม?]

     

                    “เยส

     

                 เสียงปลายสายเงียบไปสักพัก แล้วพอเริ่มพูดอีกรอบดูเหมือนน้ำเสียงจะเบาลง

     

                     [ได้ เดี๋ยวผมไป ไม่เกินสิบห้านาที]

     

     

     

     

    ต้นกล้า

     

     

                   “ขอบคุณนะพี่ หวัดดีครับผมขอบคุณพี่เพลิง ก่อนจะรับตัวต้นเหตุที่ยังหลับไม่รู้เรื่องยัดเข้ารถฝั่งข้างๆคนขับ ถึงจะหลับ แต่ปากเหมือนจะก่นด่าใครสักคนอยู่เบาๆ ขอไม่ฟังดีกว่ามั้ง

     

                    ผมขับรถไปเรื่อยๆบนถนนที่รถเริ่มน้อยลง มุ่งเข้าสู่ตัวคอนโดที่คุ้นเคย เห้ย ใบขับขี่อะไรนั่นไม่มีหรอก เรื่องแบบนี้ผมไม่สน

     

                    ผมวนรถเข้าจอด ดับเครื่องแล้วเอื้อมมือไปจับไหล่คนข้างตัวแล้วเขย่าๆ

     

                   พี่เอสดันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างมึนๆ มือขยี้ผมสีดำจนยุ่ง ปรือตามองผมก่อนจะเอื้อมมือมาตบหัวทรงรองทรงของผม

     

                   “เจ็บ! พอได้ละ ลุกๆ ถึงบ้านละ

     

                   “กูจะนอนนน

     

                    ผมถอนหายใจเบาๆ ลงจากฝั่งคนขับแล้วอ้อมมาประคองคนเรื่องมากน่าถีบให้ลุกขึ้น ครั้งนี้เหมือนจะว่าง่าย เมื่อพี่เอสยอมให้ผมพาดแขนเขาเข้ากับหลังของผม พวกเราเดินแบบไม่ค่อยจะเหมือนการเดินแบบคนธรรมดานักเข้าไปในลิฟท์ เมื่อลิฟท์จอดชั้นหก แล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้อง อาบน้ำนอน

     

                   ถุยแบบนั้นก็เสียโอกาลำบากแย่สิครับ

     

                   ผมประคองพี่เอสให้เดินผ่านห้องของพี่เขาแล้วมาหยุดอยู่หน้าห้องของผมแทน ทำไมน่ะหรือ ก็จะได้เอาจะได้ดูแลกันสะดวกๆไงครับ อีกอย่างคีย์การ์ดพี่เขาอยู่ไหนผมเองก็ไม่รู้ มาอยู่ห้องผมนี่แหละเนอะไม่ยุ่งยากดี

     

    -------------------------------------------

     

                    เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนเรียบร้อย ผมก็จัดการทุ่มพี่เอสลงกับเตียงทันที(ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ) คนใต้ร่างด่าพ่อผมก่อนจะถีบให้ผมออกไปไกลๆ พร้อมกับตะโกนว่า อย่าให้กูมีแรงนะสัส!’ ผมยิ้มเย็น ก่อนจะจัดการปลดเข็มขัดและกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนที่ยังดิ้นพยศอยู่แบบไม่ยอมง่ายๆ

        

                    “ปล่อยกู!!”

     

                    “ไปอาบน้ำ

     

                     “ไม่! กูจะนอน! ปล่อยดิสัส!!”

     

                     “นี่ห้องผมนะพี่ เตียงก็เตียงผม ไปอาบน้ำ

     

                     “แล้วจะเอากูมาอยู่ห้องมึงทำห่าอะไรวะ!! อุ้มกูกลับห้องดิ! กูเดินไม่ไหวแล้วเนี่ย!”

     

                     และเหมือนพี่เอสจะเริ่มสร่างเมาเพราะเสียงโวยวายของตัวเอง เพราะดูจากการที่พยายามจะลุกขึ้นมาต่อยผม แต่ก็หันไปด่าโคมไฟหัวเตียงแทน ผมถอนหายใจแรง ก่อนจะเดินไปประคอง(อีกแล้ว)คนที่ดิ้นไปดิ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลอยู่บนเตียง เดินพาร่างอุ่นๆแต่เหม็นเหล้าเข้าไปในห้องน้ำ แล้วจัดการเปิดฝักบัวให้น้ำเย็นๆสาดลงผิวกายของพี่เอสจนเปียก หวังให้คนคออ่อนแต่เสือกแดกเยอะสร่างเมาเต็มตา พี่เอสสบถคำหยาบดังๆ และผล็อยหลับไปอีกครั้งทั้งๆอย่างนั้น

     

                   ผมไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ต้องใช้วิธีนี้แหละพี่แม่งถึงจะหาย ไม่งั้นก็พยศยันเช้า

     

                   พอผมจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พี่เอสเรียบร้อย ก็ส่งเข้านอนพร้อมห่มผ้าให้อย่างดีเสมือนลูกในไส้ ผมยิ้ม เมื่อใบหน้าที่ปกติจะทำหน้ากวนตีนหาเรื่องอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สีหน้าดูมีความสุขเหมือนเด็กที่ฝันว่าได้เจอนางฟ้าฟันน้ำนม

     

                    เมื่อแน่ใจว่าอีกคนหลับไปแล้ว ผมจึงเดินไปที่โต๊ะหนังสือและหยิบกล่องปฐมพยาบาลใต้โต๊ะขึ้นมา จัดการทำแผลบนหางคิ้วข้างซ้ายของตัวเอง แผลที่ได้มาสดๆร้อนๆเมื่อวาน ผลจากการไปกวนตีนใครบางคนเข้า ก็คนมันร้อน ขี้เกียจลงไปเซเว่นซื้อไอติมนี่หว่าครับ

     

                     กว่าจะทำแผลและนั่งทำการบ้านของโรงเรียนนิดๆหน่อยๆเสร็จเรียบร้อยก็ปาไปห้าทุ่มยี่สิบ เป็นเวลาที่ตาผมพร้อมที่จะปิดได้ตลอดเวลา ฝืนไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมานอกจากความง่วง ผมเลยโดดขึ้นเตียงทันที มองคนที่หลับสนิทสบายตลอดคืนแล้วก็หมั่นเขี้ยวขึ้นมา จัดการรวบเอวที่ก็ไม่ได้บางมากนักของพี่เอสเข้ามากอด คนโดนกอดส่งเสียงในลำคออย่างรำคาญ ตีนถีบเข้าที่ล่างท้องน้อยผมโดยอัตโนมัติ ผมที่หลบทันทำให้จุดยุทธศาสตร์อยู่รอดไปได้อย่างเฉียดฉิว

                     ในขณะเดียวกัน ฝ่ายทำร้ายร่างกายก็หันหลังใส่ ตัดเยื่อใยอย่างไม่ใยดี

     

                      เล่นตัว

                       เมื่อผมพูดประโยคนั้นจบ ก็รู้สึกถึงแรงหยิกที่น่องตัวเองอย่างแรง

     

                       ใครเล่นตัวกับมึง! กูไม่เสียซิงให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างมึงหรอกนะ!”

     

                        ผมยิ้มให้คนที่กำลังหันหลังให้ผมอยู่ ตัดสินใจลองเสี่ยงที่จะกอดอีกที และพูดประโยคที่ชาตินี้ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าจะได้พูดกับใคร

     

                         ก็ไม่ได้จะเอาซิง

     

                          “……….”

     

                         จะเอาหัวใจ

     

     

     
     

     

     

                          เอ่า ปากมึงไปโดนห่าอะไรมาอีกวะ คิ้วมึงก็ยังไม่หาย ฮ่าๆๆๆ!” คงกลายเป็นคำที่มันใช้ทักผมไปแล้วมั้งครับ ไม่เคยจะทักกูดีๆเลยใช่ไหม

                          เสือกน่ะไอ้ไป๋ แล้วผมก็สามารถทักมันด้วยคำเพราะๆแบบนี้ด้วย

     

                          อ้าว ไอ้ห่า นี่กูเป็นห่วงมึงนะ นิสัยมันเดินออกมาด้วยเมื่อรู้ว่าผมกำลังจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร พวกผมเดินคุยกันตลอดทางจนถึงที่หมาย ถอดรองเท้าวางจองที่นั่งไว้แล้วแยกย้ายกันไปซื้อกับข้าวตามปกติ ผมซื้อข้าวเสร็จก่อนมัน(ที่ยังโปรยคำหวานใส่ป้าร้านข้าวหมกไก่ให้เพิ่มข้าวให้เยอะๆ) ผมเลยหยิบไอโฟนรุ่นล่าสุดขึ้นมากดเข้าโปรแกรมแชทที่เป็นที่นิยม กดส่งข้อความไปให้คนบางคนที่ป่านนี้คงถึงมหาลัยแล้ว

     

                                                                                                            (คิดถึงจัง)

     

                         สักพัก คำว่าReadตัวเล็กๆก็โผล่ขึ้นมา พร้อมๆกับเสียงตื๊อดึ่งที่ดังขึ้น

     

                          ( olo )

                          (แดกข้าวแล้วเข้าแถวได้ละ)

             

                                                                                                          (เพลงเด็กดียังไม่ขึ้นเลยอ่ะ)

     

                          (เรื่องของมึง อย่างมึงต้องเพลงเด็กเปรตถึงจะถูก)

                          (ตั้งใจเรียน เด็กเหี้ย)

     
     

                           แค่นี้ก็ทำให้ผมมีความสุขไปทั้งวันแล้วล่ะครับ



                -----------------------------------------------------------------

     

     

     

                            “เอาบีบีกูไปเล่นหาพ่อง! ไอโฟนมึงไม่มีไลน์ให้เล่นรึไง!” ท่ามกลางสนามบาสในมหาลัย เสียงหงุดหงิดของใครบางคนก็ดังขึ้นข้างๆหูอาร์ต พร้อมๆกับแรงหวดลงมาที่หัว คนแอบเอาบีบีเพื่อนมาเล่นถึงกับสะดุ้งกับเสียงแปดล้านเดซิเบลของเจ้าของเครื่อง   

     

                             “ดูห่าอะไรของมึงหือคนหงุดหงิดรู้สึกจะลุกเป็นไฟเมื่อเห็นหน้าจอแสดงการสนทนาเมื่อกี๊โชว์หราอยู่ตรงหน้า

     

                              โอ้ยยยย!! เชี่ย! มึงทำแบบนี้กับกูทำไมวะเหี้ยอาร์ต! มึงก็รู้ว่าแม่งเกาะกูอย่างกับปลิง! มึงไปตอบมันอย่างนั้นทำไม! ‘ตั้งใจเรียนห่าอะไรวะ! แม่งเอ๊ย!” คนอารมณ์ร้อนเริ่มอยากเขวี้ยงบีบีทิ้ง ติดที่ว่ายังผ่อนไม่หมด

     

                              โว้ว มึงใจเย็นๆนะ กูขอโทษละกัน นึกว่าเป็นแค่รุ่นน้องร่วมคอนโดธรรมดา สงสัยจะมากกว่านั้นคนชอบแกล้งดันแว่นสายตากรอบหนาขึ้น จัดทรงผมที่เพิ่งโดนตบจนชี้โด่เด่ให้เข้าทรง มองเพื่อนอีกคนอย่างนึกตลกในท่าทีของมัน ใช่สิ ไอ้เอสเวลาตื่นตูมน่ะน่าดูอย่าบอกใคร     

     

                              “ถุย! กูเคยเล่าให้มึงฟังไปแล้วสัส! เสียใจด้วย ไม่ได้เป็นเชี่ยไรทั้งนั้นแหละว่ะ!”เอสรีบยัดบีบีใส่กระเป๋ากางเกงอย่างเร็ว บอกตัวเองว่าควรจะเลิกเอาไอ้เด็กเห็บเหานี่มารังควาญความคิดตัวเองได้แล้ว

     

                              “แล้วถ้ามึงมาเอาของกูไปตอบมันอีกนะ กูซัดมึงแน่ แม่งน่ารำคาญจะตาย!”

     

                              จริงเหรอวะ แต่ดูมันดีใจมากเลยนะโว้ย มึงแม่งจะใจร้ายเกินไปละน้ำเสียงอาร์ตดูอ่อยๆแบบปิดไม่มิด ลึกสุดใจเขาก็สงสารไอ้เด็กต้นกล้านั่นเหมือนกัน

     

                               “ช่างแม่งตอบพร้อมๆกับเดินไปหยิบลูกบาสมาหมุนควงบนนิ้ว

     

                               เออ แล้วไอ้โครงงานของภาวิดานี่เอาไง ให้ไอ้เซ้งกับไอเต้อทำเนื้อหา มึงมาชวยกูทำ โยนๆข้อมูลมาก็ได้ ก๊อปวางแปปเดียวเอง

        

                                อาร์ตแอบเบะปาก พลางคิดในใจว่ามึงสรุปเอาเองแบบนี้จะถามกูทำไม คนตัวขาวพยักหน้าเออๆออๆไปตามน้ำ เพราะยังไงเขาก็ขี้เกียจเถียงกับไอ้เพื่อนใจร้อนนี่อยู่แล้ว เผลอๆโดนมันต่อยปากแตกนี่ไม่น่าจะคุ้ม

     

    --------------------------------------------------------------

     



     

    ครบร้อยเปอร์เซ็นจ้าาา 
    เป็นยังไงกันบ้าง รับรู้ความสัมพันธ์ของอิคู่นี้หรือยังเอ่ย
    ยังคงงงๆกันอยู่ใช่เปล่า(รวมทั้งอีฟ้าด้วย)แต่ยังไม่เฉลยหรอกจ้าา
    ลองเดาๆกันไปก่อน ฟ้าว่าหลายคนคงทายถูกแบบโป๊ะเช๊ะ
    แน่นอนว่าอีคู่นี้นี่ความหยาบความเถื่อนมันจัดเต็มแน่นอน
    (โดนแบนแบบจัดเต็ม555555) พี่เอสของเรามีสำนวนที่ตรงกับนิสัยมากค่ะ
    ประมาณว่ากินปูนร้อนท้อง ตีตนไปก่อนไข้ หมาหวงก้าง แต่ละสำนวนดีๆทั้งนั้น
    และถึงจะเป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิด ชอบใช้กำลัง แต่ที่จริงแล้วน่ะ
    จริงใจและเกลียดการโกหกเป็นที่สุดนะเออ ส่วนอีต้นกล้านี่ก็น่าจะ
    หาเหาใส่หัวหรือแกว่งตีนหามีด คือเลือกไม่ถูกเลยจริงๆจ้าาา

    ป.ล.สำหรับคนที่อ่านผ่านแอพเด็กดี หรืออ่านในมือถือจ้า
    การเว้นบรรทัดอาจจะดูงงๆ เพราะบางทีก็อยากให้ดูสมจริงไม่น่าเบื่อ
    ถ้าอยากอ่านแบบไม่งง ฟ้าแนะนำให้อ่านในคอมฯ โน๊ตบุ๊ค ไอแพด แท็บเล็ต
    หรืออื่นๆที่หน้าจอใหญ่ๆหน่อยจ้า555555 ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ

    วันนี้ฟ้าไปแล้วเด้อ ยังไงก็เม้นให้เค้าหน่อยเต๊อะ

    รักเด้อ





     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×